ตลกร้ายใต้สะดือ
เขียนโดย Jalando
วันที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 15.03 น.
แก้ไขเมื่อ 8 มกราคม พ.ศ. 2562 15.17 น. โดย เจ้าของนิยาย
4) ศึกรักข้างกำแพง
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความระหว่างที่บุญกอบคิดหาคำตอบ สาวแหววก็ชิงตวาดเสียงแหลม ท่าทางโกรธเกรี้ยว
“ หนูรู้นะว่าพี่ทำอะไร โรคจิตเป็นบ้าเลย ”
“ ปะ…เปล่านะ พะ…พี่มะ..ไม่ได้โรคจิต พะ…พี่คะ..แค่หยิบมันขึ้นมาดม เฮ้ย ดูเฉยๆ ” บุญกอบแก้ตัวตะกุกตะกัก แต่ด้วยความตื่นเต้น เลยให้การผูกมัดตัวเอง
ในสภาวะที่แสนกระอักกระอ่วน ส่งผลให้บุญกอบเข้าใจว่าตนน่าจะโดนเพลงตบชุดใหญ่ ทว่าหญิงสาวร่างเล็กกลับเลิกคุกคาม มิหนำซ้ำ ยังแย้มยิ้มน้อยๆที่มุมปากเป็นเชิงเย้ายวน พร้อมเอนกายพิงขอบประตูด้วยท่วงท่าที่ดูแช่มช้อย
“ เอ๊ะ! นี่มันอะไรกัน ทำไมน้องแหววถึงทำท่าแบบนั้น ” บุญกอบถึงกับสะอึก เพราะไม่คิดว่าจะเจอแบบนี้
“ แล้วพี่คิดว่าหนูทำท่าแบบนี้ทำไมล่ะจ๊ะ ” สาวแหววตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่หวานใส
“ อะ…เอ่อ มะ…ไม่รู้มะ..เหมือนกัน ” บุญกอบยกมือขวาปาดเหงื่อที่หลั่งไหลบริเวณใบหน้า เขารู้สึกร้อนรุ่ม ดวงตาเรียวสอดส่ายไปทั่วกายเล็กบาง ทำให้พบว่าน้องแหววอยู่ในชุดผ้าถุงสีส้มแบบกระโจมอกที่แนบเนื้อ อันเผยให้เห็นทรวดทรงอย่างชัดเจน
เหมือนบุญกอบจะต้องเปลี่ยนชื่อเป็นบุญหล่นทับ เพราะในเวลาต่อมา สาวร่างเล็กก็เริ่มก้าวเข้ามาหา ในที่สุด เธอก็หยุดยืนอยู่ในระยะประชิด ส่งผลให้กลิ่นหอมจากเรือนกายขาวเนียนปลิวเข้ามาเตะจมูกของชายหนุ่มเข้าอย่างจัง
“ อืม..... หอมจังเลย มิหนำซ้ำยังดู…..บะลึมมะฮึ่มมาก ” สีหน้าของชายหนุ่มดูเคลิบเคลิ้ม สายตาจับจ้องไปยังเนินถันขาวผ่อง ซึ่งโผล่พ้นชายผ้าถุงผืนบางที่รัดอยู่อย่างหมิ่นเหม่
“ ตายแล้ว พี่บุญกอบมองอะไรน่ะ ” เสียงร้องอุทานที่ดูเสแสร้งของหญิงสาวดังขึ้น ทำให้ชายหนุ่มละสายตาจากเนินเนื้อไปชั่วขณะ
“ เอ๊ะ! เปล่า เอ่อ….พี่มะ…ไม่ได้มอง….หน้าอกของน้องแหววเลย ” หนุ่มอีสานรีบปล่อยข้อแก้ตัวที่ดูโง่เง่าสุดๆ (ใครจะไปเชื่อ) แต่สิ่งที่ประหลาดกว่านั้นก็คือ…..หญิงสาวยังคงยิ้มมุมปาก รอยแดงซ่านด้วยเลือดสาวประดับทั่วสองแก้ม อันเป็นนัยว่าเธอไม่นึกโกรธเคือง มิหนำซ้ำ ยังยื่นมือน้อยๆมากุมมือหยาบกร้านของบุญกอบอย่างนิ่มนวล
“ เอ๊ะ! ” บุญกอบสะดุ้งโหยง แต่ในวินาทีต่อมา เขาก็ต้องตกใจยิ่งกว่าเดิม เมื่อหญิงสาวได้นำมือหยาบกร้านไปแตะที่……..ทรวงอกอวบอิ่ม
หัวใจของบุญกอบถึงกับหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม แต่เอาเข้าจริงๆ คาดว่าน่าจะไปไม่ถึง คงหยุดอยู่แค่กึ่งกลางกายแกร่งเกร็ง สังเกตได้จากท่อนทวนซึ่งผุดผงาดอย่างรุนแรงจนอัดแน่นอยู่ในกางเกงยีนส์
“ โอ้ว.... ว้าว.... ดูไปแล้ว พี่บุญกอบก็ดุเอาเรื่องเหมือนกันแฮะ ” หญิงสาวอุทานดัง เพราะได้ประสบกับอาวุธร้ายที่ค่อนข้างใหญ่
บุญกอบไม่ตอบคำ เขาสอดส่ายสายตาไปทั่วเรือนกายขาวเนียน มือที่จับทรวงอกอวบอิ่มก็เริ่มออกแรงขย้ำสลับเคล้นคลึงด้วยความลืมตัว
“ อู้ว... ซี้ด... เบาๆดิ พี่บุญกอบ อ้า... ” แหววร้องครางสลับซู้ดปาก ใบหน้าขาวนวลเริ่มบิดเบี้ยวเหยเก พร้อมกับแอ่นทรวงอกขึ้นสูง เพื่อเปิดโอกาสให้หนุ่มอีสานได้บีบเคล้น ซึ่งบุญกอบไม่ขัดศรัทธา เขาดันหญิงสาวติดผนัง แล้วลูบคลำหนองโพด้วยสองมือ
“ อู้ว.... อย่าๆ พี่บุญกอบ เบาๆ อ้า..... ” หญิงสาวร้องห้ามสลับครวญครางอย่างต่อเนื่อง กายบางบิดส่ายไปมาด้วยความรัญจวน
ถึงนาทีนี้ ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีได้เลือนหายไปจากอนุสติของบุญกอบอย่างถาวร ไม่มีคำว่า….เมียเพื่อน หรือ ชู้รัก ถ้าจะหลงเหลือคำใด ก็มีเพียง…..ขาว….ใหญ่…..อวบ……มัน
เหมือนผีร้ายเข้าสิงสู่จิตใจ ชายหนุ่มจึงผวาเข้าไปกกกอด พร้อมประกบปากจูบอย่างดุเดือด ซึ่งหญิงสาวหน้าใสก็จูบตอบด้วยท่วงท่าที่เร่าร้อนไม่แพ้กัน เกมรักในครั้งนี้มีทั้งการบดบี้ขยี้ถูไถสลับเกี่ยวกวัดด้วยชิวหา บางครั้งก็ชอนไชถึงตับไตไส้พุง
แม้หญิงสาวจะเพิ่งเริ่มเร่าร้อน แต่หนุ่มอีสานหน้ามนนั้นสติแตกเป็นที่เรียบร้อย เขาจึงรุกคืบใส่คู่สวาทอย่างรวดเร็ว ด้วยการยกท่อนขาขาวผ่องขึ้นสูง เพื่อเปิดช่องว่างให้กว้างพอจะทิ่มแท่งทวนเข้าไป
“ ว้าย!.....จู่ๆจะใส่กันเลยเหรอ….ไม่เล้าโลมก่อนรึไง ” หญิงสาวผวาเฮือกใหญ่ เพราะรับรู้ถึงความคับแน่นที่ชายหนุ่มยัดเยียดให้
ทว่าหนุ่มอีสานหน้ามนไม่ตอบคำให้มากความ เขาเร่งกระแทกบั้นเอวจนหญิงสาวตั้งตัวไม่ติด เธอรู้สึกจุกเสียว เพราะถูกอีกฝ่ายโถมเข้าใส่อย่างบ้าคลั่ง
“ ปั้บ ปั้บ ปั้บ..... ”
“ อ้า... โอ้ว.... อู้ว... ซี้ด.... เบาๆก่อน อย่า อ้า.... ” เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังสลับเสียงครวญ ใบหน้างามเชิดสูง สองมือกดหัวไหล่ล่ำสัน พร้อมจิกเล็บคมลงไป อันเป็นการระบายอารมณ์
บุญกอบใช้มือขวาประคองท่อนขาขาวผ่อง มือซ้ายลูบคลำไปทั่วเรือนกายช่วงบน ไม่ว่าจะเป็นทรวงอก หน้าท้อง หัวไหล่กลมมน ล้วนไม่พ้นการสัมผัส บั้นเอวเร่งกระแทกอย่างต่อเนื่อง เพื่อสนองอารมณ์ร้อน
“ อ้า…..จะๆ….ไม่ไหวแล้ว….อ้า.... ” หญิงสาวเริ่มสั่นเทา เธอตะโกนดังสลับครางกระเส่าแบบไร้ยางอาย
ถึงบุญกอบไม่ค่อยฉลาด แต่ก็ดูออกว่าเกมกามยกนี้ใกล้ถึงโค้งสุดท้าย จึงเร่งโยกเอว เพื่อส่งหญิงสาวสู่สวรรค์ชั้นฟ้า และในที่สุด มันก็ถึงจุดจบ
“ อ้า…….ไม่ไหวแล้ว ” หญิงสาวกระตุกแรงหลายที ใบหน้าขาวใสเชิดสูง ทันใดนั้นเอง บุญกอบก็รับรู้ถึงน้ำอุ่นร้อนที่ทะลักมาชโลมท่อนลำอวบใหญ่ซึ่งฝังตัวอยู่ภายใน จึงเร่งกระแทกบั้นเอวถี่รัว หวังติดตามคู่สวาทให้ถึงฝั่งฝันโดยไว
“ ปั้บ ปั้บ ปั้บ ”
เรือนกายเล็กบางที่มหึมาเป็นบางส่วนสั่นสะท้านตามแรงกระแทก แม้บุญกอบจะทรหดปานใด ก็หนีไม่พ้นจุดจบแห่งอารมณ์ จึงอัดแก่นกายใส่หญิงสาวสุดกำลัง พร้อมกกกอดเอาไว้แน่น เพื่อปล่อยความสุขสมให้เต็มที่
“ อู้ว....... ” บุญกอบแหงนหน้านิดหนึ่ง พร้อมครางเบาๆ นับว่าเป็นการเสร็จสมที่ไม่สมจริง อาจเป็นเพราะเส้นอารมณ์ที่อยู่ค่อนข้างลึก เลยทำให้แสดงออกเพียงเท่านี้
………………………
“ อุ้บ...... ” บุญกอบครางกระเส่า เขาพยายามลดระดับเสียงให้มากที่สุด ถึงกระนั้น ก็ไม่อาจหยุดยั้งการหลั่งทะลักของธาราสีขาวขุ่น เป็นผลให้คราบคาวกระทบกำแพงห้องเช่า
แรกเริ่ม บุญกอบไม่รู้สึกรู้สา เพราะยังอยู่ในจินตนาการที่แสนบรรเจิด ส่วนมือซ้ายกำบราเซียร์คัพ D พร้อมยกขึ้นมาสูดดม แต่เมื่อความหรรษาทางอารมณ์เริ่มเจือจาง สำนึกผิดชอบชั่วดีก็กลับคืนสู่จิตใจ
“ เฮ้อ……เราไม่น่าทำแบบนี้เลย แม่งดูเหมือนพวกโรคจิตชนิดเต็มขั้น (ก็โรคจิตจริงๆนั่นแหละ) แถมยังคิดไม่ซื่อกับเมียเพื่อน ” บุญกอบนึกละอายที่แอบหยิบชั้นในของแหววขึ้นมาดอมดม พร้อมจินตนาการถึงฉากรักที่เร่าร้อน เพื่อสำเร็จความใคร่ แต่ไม่ทันได้ทำอะไร ดวงตาก็เหลือกโปนจนแทบหลุดจากเบ้า ด้วยประสบกับ…คราบคาวที่เกาะตัวอยู่บนกำแพงห้องสีกระดำกระด่าง
“ เฮ้ย! ซวยแล้ว คราบแม่งติด ทำไงดีวะ ” สีหน้าของบุญกอบดูตื่นตระหนก ปากก็สบถดังด้วยความลืมตัว
ขณะที่บุญกอบตกใจอยู่นั้นเอง เขาก็ยิ่งหลอนหนักกว่าเดิมเป็นเท่าทวี เพราะได้ยินเสียงใสๆของสาวแหวว กระแสนั้นดังแว่วจากภายในห้อง
“ พี่บุญกอบพูดว่าอะไร! มีใครมาหรือคะ ”
สามารถติดตามงานเขียน ณ.ปัจจุบันและในอนาคตของผมได้ที่เพจ Jalando นักเขียนดาร์คไซด์ได้ที่ลิงค์ด้านล่างครับ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ