ตลกร้ายใต้สะดือ

9.7

เขียนโดย Jalando

วันที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 15.03 น.

  45 ตอน
  9 วิจารณ์
  52.54K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 8 มกราคม พ.ศ. 2562 15.17 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

39) การแก้ไขที่แสนวิตถาร

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
ตอนที่ 39 การแก้ไขที่แสนวิตถาร
       ท่อนแขนแกร่งของ ร.ป.ภ.หนุ่มยังคงสีไปมาอย่างไม่ขาดสาย บางครั้งก็บังอาจเลื่อนต่ำมาสัมผัสโคนขาอ่อนที่เนียนใส 
 
“ อึ้ย…..”  
           
 
       ทันทีที่ท่อนแขนสัมผัสถูกเนื้อนวลที่แน่นเนียน สาวแพรก็สะดุ้งเล็กน้อย ด้วยจุดที่ถูกกระทบนั้นเป็นจุดที่ไวต่ออารมณ์สยิวของหญิงสาว 
            
 
       บุญกอบรู้สึกเริงร่าถึงขีดสุด เพราะนวลเนื้อที่ได้สัมผัส ล้วนเต่งตึงและนุ่มนิ่มเอามากๆ แถมยังเรียบเนียนราวกับผิวของเด็กอ่อน 
 
“ อื้อหือ……สมบูรณ์ไปทุกอย่างเลยนะ แม่น้องสาว ” บุญกอบนึกคะนองอยู่ในใจ มโนทวารได้วาดฝันไปแล้วว่ากำลังใช้ลิ้นโลมเลียเนื้ออ่อนของสาวสวย 
            
 
         ความอึดอัดของสาวแพรเริ่มจะมากขึ้นเป็นลำดับ แต่ในความกระอักกระอ่วน เธอกลับเกิดความรู้สึกบางอย่าง มันดูเคลิบเคลิ้มและสุขแบบแปลกๆจนเธอไม่อยากจะขยับจากจุดที่นั่งคุกเข่า 
 
“ อื้อ….ทำไมมันรู้สึกซาบซ่านอย่างนี้ แม้เราจะรู้สึกรังเกียจสัมผัสของนายคนนี้ แต่เราก็ไม่อยากให้เขาหยุด นี่มันคือความรู้สึกแบบไหนกันนะ ” สาวแพรแอบคิด สมาธิของเธอแตกซ่านจนไม่สนใจมองหากรรไกรที่สูญหาย 
          
 
        บุญกอบลอบสังเกตอากัปกิริยาของเด็กสาวเป็นระยะ เขาจึงพบว่าเด็กสาวร่างอวบนั้นดูจะเกร็งกายแข็งขืนอยู่เล็กน้อย แต่กระนั้นก็ยังไม่ยอมถอยห่าง แถมใบหน้าขาวเนียนของเจ้าหล่อนยังดูเคลิบเคลิ้มอย่างประหลาด อันบ่งบอกว่าเธอน่าจะมีอารมณ์ร่วมอยู่ไม่น้อย 
 
“ หึ หึ หึ ท่าทางการหยั่งเชิงของกูจะได้ผลแฮะ เห็นทีต้องเพิ่มระดับซักหน่อยแล้ว ” 
           
 
        เมื่อคิดได้ดังนั้น บุญกอบก็เริ่มขยับเข้าหาเด็กสาวอย่างช้าๆ ท่วงท่าของพ่อหนุ่มนักรักดูสุขุมลุ่มลึก คล้ายว่าเขาเป็นนักล่าสวาทชั้นดีจากพงไพร 
 
“ หึ หึ หึ ต้องค่อยเป็นค่อยไป ใจเย็นๆ ” 
           
 
         บุญกอบยอมรับว่าก่อนหน้านั้น ตนเป็นเพียงแค่หนุ่มบ้านนอกที่ไร้ประสบการณ์ พอได้ผ่านศึกรักมาหลายวาระ มันจึงทำให้เขานิ่งและมีแผนการมากขึ้นจนสามารถตะล่อมสาวน้อยนางนี้ได้อยู่หมัด กระนั้นเขาก็ยังไม่คิดประมาท 
 
“ ต้องช้าและเนียนที่สุด ไม่งั้น ไก่อาจจะตื่น ” 
            
 
         บุญกอบค่อยๆคืบคลานเข้าไปอย่างช้าๆ ส่วนท่อนแขนก็ยังคงถูไถสะโพกผายของเด็กสาวอยู่ตลอด เพื่อปลุกเร้าอารมณ์ให้เตลิดหนัก เพียงไม่ถึงอึดใจ สองกายของหนุ่มสาวก็มาแนบชิดกัน 
 
“ อื้อ……” เสียงครางแปลกๆดังลอดริมฝีปากอวบอิ่มของเด็กสาว ใบหน้าขาวก็แปรเปลี่ยนเป็นแดงซ่าน ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังแสร้งทำเป็นคร่ำเคร่งอยู่กับการหากรรไกรอย่างต่อเนื่อง 
 
“ ถึงแบบนี้ยังแกล้งเฉยได้อีก เก็บอาการได้ไม่เลวนะ น้องสาว แต่ถ้าเจอดอกนี้เข้าไปรับรองว่าต้องอ่อนระทวยอย่างแน่นอน ” ร.ป.ภ.หนุ่มคิดเสร็จ เขาก็เดินเกมต่อด้วยการก้มหน้าลงไปกระซิบที่ข้างหูของเด็กสาว 
 
“ ใกล้จะหาเจอรึยังจ๊ะ น้องแพรจ๋า….” 
         
 
        เสียงกระซิบของ ร.ป.ภ.หนุ่มดูกระเส่าแบบสุดๆ มันทำให้สาวแพรรู้สึกสยิวและรังเกียจในเวลาเดียวกัน ทว่าเธอก็ยังไม่คิดขืนกายหนี แถมยังตอบกลับด้วยเสียงที่สั่นพิกล 
 
“ มะ….ไม่เจอละ…เลยค่ะ พะ…พี่ ” 
          
 
        บุญกอบจ้องมองใบหน้าขาวเนียนของเด็กสาวอย่างจริงจัง ทันทีที่เขาประเมินสถานการณ์เสร็จ เขาก็บอกกับตัวเองว่า…… 
 
“ หึ หึ หึ สงสัยว่ากูจะได้สนุกกับน้องแพรแน่ๆแล้ว ” 
          
 
         เมื่อทุกอย่างล่วงเลยมาถึงขั้นนี้ บุญกอบก็ไม่ปล่อยให้โอกาสดีลอยผ่าน เขาเอื้อมแขนขวาขึ้นสูง เพื่อทำการโอบรั้งร่างอวบขาวของเด็กสาวแบบหลวมๆ ส่วนกายก็พยายามแนบชิดเข้าไปมากขึ้นจนแก้มของทั้งสองเกือบจะชนกัน  
 
“ อื้อ……” 
          
 
        ปฏิกิริยาเดียวที่ออกมาจากสาวแพรก็คือ…..เสียงครางในลำคอที่แผ่วเบา ใบหน้าขาวเนียนเริ่มปรือลอย ดวงตาเล็กตี่ก็หรี่ต่ำ ทุกสิ่งที่เกิด มันกระตุ้นเร้าให้บุญกอบกระซิบต่อ 
 
“ ทำไมน้องแพรถึงดูสั่นๆแบบนั้นล่ะครับ เป็นอะไรไปหรือครับ ” 
         
 
         เสียงกระซิบแผ่วต่ำและลมหายใจที่กระทบใบหู ล้วนทำให้สติของสาวแพรเตลิดแตก มันเป็นความรู้สึกแปลกใหม่ที่เธอไม่เคยได้เจอมาก่อน จะว่าทุกข์ทรมานก็ไม่แน่ว่าจะใช่ จะว่าสุขสันต์หรรษาก็ไม่เชิงว่าจะเป็น มันเหมือนความรู้สึกทั้งสองจะผสมปนเปกันอย่างแนบเนียน 
 
“ อ้า…..มะ…ไม่รู้เหมือนกันค่ะ มันคล้ายๆว่าหนูกำลังจะป่วย ” 
          
 
         บุญกอบซ่อนยิ้มอยู่ภายใน เพราะรู้แน่ชัดแล้วว่าเด็กสาวร่างอวบเริ่มมีอารมณ์ร่วมกับบทเล้าโลมที่เขามอบให้ และด้วยความที่สาวเจ้ายังไร้เดียงสา จึงไม่รู้เลยซักนิดว่าความรู้สึกพลุ่งพล่านที่สุมในทรวงของตนนั้นคือ….อะไร 
 
“ หึ หึ หึ คงยังไม่เคยร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะเจ้าหล่อนไม่รู้เลยว่าตนกำลังมีวาสนาได้ตะกายขึ้นสู่สรวงสวรรค์ เห็นทีต้องสอนบทเรียนรักให้คนสวยได้รู้ซักหน่อยแล้ว ” 
         
 
        เมื่อคิดได้ดังนั้น บุญกอบจึงโอบสาวน้อยร่างอวบด้วยน้ำหนักมือที่มากขึ้น พร้อมร้องบอกด้วยกระแสเสียงที่เร่งร้อน 
 
“ ถ้าเป็นแบบนี้ น้องแพรคงต้องพักแล้วล่ะครับ ลุกขึ้นก่อนเถอะ ” 
         
 
         เด็กสาวยอมลุกขึ้นแต่โดยดี แต่เรียวขาทั้งสองกลับสั่นจนแทบยืนไม่อยู่ ลำบากให้บุญกอบต้องประคองเรือนกายขาวอวบให้นั่งบนโต๊ะไม้ขนาดเล็ก 
 
“ เป็นยังไงบ้างครับ ดีขึ้นบ้างมั้ย ” ร.ป.ภ.หนุ่มแสร้งตีสีหน้ากลัดกลุ้ม ปากก็ถามไถ่อย่างต่อเนื่อง 
           
 
         เด็กสาวยอมรับว่าในยามที่ท่อนแขนของ ร.ป.ภ.หนุ่มห่างกาย เธอก็พลันรู้สึกดีขึ้นมาพอสมควร ความเร่าร้อนที่สุมทรวงก็เริ่มผ่อนคลาย เธอจึงตอบกลับตามจริงว่า…… 
 
“ รู้สึกค่อยยังชั่วแล้วค่ะ หนูว่าอาการของหนู มันน่าจะเกิดมาจาก……”  
           
 
         ถึงคำสุดท้าย เด็กสาวร่างอวบรู้สึกจะพูดไม่ออก เธอยอมรับว่าตนเองอายเกินกว่าจะบอกว่า….ที่หนูเป็นเช่นนี้ เพราะท่อนแขนพี่มาถูสะโพกกับโคนขาอ่อนของหนู ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ ร.ป.ภ.หนุ่มสงสัย 
 
“ เป็นเพราะอะไรหรือครับ ทำไมไม่พูดต่อให้จบ ” 
           
 
         กระนั้นเด็กสาวร่างอวบก็ยังไม่ตอบ เธอเอียงหน้าหลบ ใบหน้าขาวใสแปรเปลี่ยนเป็นแดงก่ำราวตำลึงสุก 
           
 
         บุญกอบมองเด็กสาวผู้ไร้ประสบการณ์ด้วยความพึงพอใจ เขายอมรับว่าทั้งรูปร่าง หน้าตาและท่วงท่าเขินอายของเจ้าหล่อนโดนใจเสียเหลือเกิน มันเย้ายวนจนเขานึกอยากจะกระหน่ำทิ่มแทงสาวนักศึกษานางนี้ด้วยท่อนทวนให้หนำใจ แต่เขาจะใจร้อนไม่ได้ มันยังมีอีกหลายวิธีที่จะใช้ตะล่อมเด็กสาว หนุ่มอีสานร่างล่ำใช้เวลาไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะคิดแผนการได้สำเร็จ 
 
“ ดีล่ะ ใช้วิธีนี้ดีกว่า มันเป็นวิธีที่เราเคยเห็นในหนังติดเรท น่าจะได้ผล ” 
         
 
         เมื่อได้ความคิด บุญกอบก็แสร้งตีหน้าเครียด พร้อมกล่าววินิจฉัย 
 
“ รู้แล้วว่าน้องเป็นอะไร ”   
 
“ หนูเป็นอะไรหรือคะ ” สาวแพรร้องถาม  
            
 
         บุญกอบแกล้งทำเป็นครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนตอบกลับด้วยท่าทางที่ดูจริงจังจนเด็กสาวนึกกลัว 
 
“ แถวบ้านพี่เขาเรียกว่าโรคร้อนข้างใน มันเกิดขึ้นจากการที่อุณหภูมิภายในสูงขึ้นอย่างฉับพลัน ถ้าไม่รีบแก้ไขโดยด่วน อาจเกิดอาการหัวใจวายเฉียบพลัน ” 
 
“ หา…..หัวใจวายเฉียบพลัน นั่นก็แปลว่า…ตาย ใช่มั้ยคะ ” เด็กสาวร้องถามเสียงหลง ใบหน้าขาวผ่องเกิดร่องรอยตระหนกจนหยุดไม่อยู่ 
         
 
          บุญกอบเห็นอากัปกิริยาของสาวแพร เขาก็ลอบดีใจ หัวสมองขบคิดคำพูดที่จะใช้หลอกล่อในลำดับต่อไป 
 
“ หึ หึ หึ ได้ผลแฮะ น้องแพรนี่ซื่อกว่าที่คิด ท่าทางเราจะได้รับประทานอาหารมื้อใหญ่ในวันนี้แน่ ” 
        
 
         บุญกอบทิ้งระยะอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนออกอุบายต่อ 
 
“ ก็มีโอกาสที่จะเป็นเช่นนั้น แต่ทว่า มันก็พอมีทางแก้ไข ” 
 
“ แก้ไขยังไงคะ บอกหนูมาเถอะ ” สาวแพรเร่งเร้า ด้วยเกิดความกลัวต่อมรณะภัยที่กำลังรุมล้อม (น้องเขาคิดไปเอง) 
         
 
        บุญกอบกอดอก พร้อมแสร้งทำหน้ายุ่งๆอยู่หลายอึดใจ การเล่นตัวของ ร.ป.ภ.หนุ่ม ทำให้สาวเจ้าเกิดอาการร้อนรนจนต้องรุดเข้าไปกระชากแขนเสื้อของหนุ่มอีสานจอมลีลา 
 
“ บอกหนูมาเถอะค่ะ หนูยังไม่อยากตาย บอกหนูเถอะ ” 
         
 
          บุญกอบปล่อยให้เด็กสาวร่างอวบเขย่าอยู่หลายที หางตาก็เหลือบแลฟักแฟงคู่โตที่กำลังสั่นสะเทือนอยู่ในอกเสื้อนักศึกษาฟิตรัด เขารู้สึกเพลิดเพลินเอามากๆ แต่สุดท้ายเขาก็ตัดใจจากภาพกีฬามันๆ เพื่อสานต่อแผนการในลำดับถัดไป 
 
“ บอกก็ได้ บอกก็ได้ ทางแก้ก็คือ….ต้องให้ผู้ติดโรคได้มีโอกาสระบายความร้อนภายในด้วยการถอดเสื้อออกมา ”
 
 
สามารถติดตามงานเขียน ณ.ปัจจุบันและในอนาคตของผมได้ที่เพจJalandoนักเขียนดาร์คไซด์ได้ที่ลิงค์ด้านล่างครับ
https://www.facebook.com/Jalando.darksidewriter

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณชอบนิยายเรื่องนี้แค่ไหน

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา