ตลกร้ายใต้สะดือ

9.7

เขียนโดย Jalando

วันที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 15.03 น.

  45 ตอน
  9 วิจารณ์
  53.25K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 8 มกราคม พ.ศ. 2562 15.17 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

38) ใกล้เข้ามาอีกนิด ชิดเข้ามาอีกหน่อย

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ตอนที่ 38 ใกล้เข้ามาอีกนิด ชิดเข้ามาอีกหน่อย

       บุญกอบเพลิดเพลินกับอาหารตาเบื้องหน้าอยู่ครู่ใหญ่ แต่แล้วเขาก็ได้คิด…… 

 

“ อ้าว….แล้วสาวๆพวกนี้ไม่เข้างานหรือ นี่ก็ใกล้จะแปดโมงแล้วนะ ” 

          

 

        เมื่อคิดได้ดังนั้น เขาก็ดึงสติกลับมา เพื่อจะไถ่ถามสองสาว แต่ไม่ทันที่คำถามจะหลุดออกจากปาก สาวแจ๋วก็พูดแทรกขึ้นมาว่า…… 

 

“ พี่บุญกอบคะ พอดีหนูนึกขึ้นมาได้ว่า….หนูลืมของบางอย่างที่ล็อกเกอร์ หนูขอตัวไปหาหน่อยนะคะ ” 

 

“ อะ…เอ่อ…ได้ครับ ” บุญกอบตอบตะกุกตะกัก เพราะไม่ทันคิดว่าสาวแจ๋วจะโพล่งมาแบบนี้ 

          

 

         สิ้นคำกล่าว สาวแจ๋วก็เตรียมจรลา โดยมีสาวแพรคอยติดตาม แต่ก่อนที่สองสาวจะก้าวพ้นประตู สาวน้อยร่างเล็กก็หันกลับมาพูดกับสาวรุ่นน้องผู้ขาวอวบ 

 

“ น้องแพรอยู่ที่นี่เถอะ ไม่ต้องตามพี่ไปหรอก ” 

 

“ อ้าว…ทำไมล่ะคะ ” สาวแพรทำหน้าเหลอหลา 

 

“ เพราะพี่อยากให้น้องแพรช่วยหาของที่นี่ต่อ ขืนน้องแพรตามพี่ไปอีกคน มันก็จะเสียเวลาซะเปล่าๆ แยกกันหาดีกว่า อย่าลืมนะจ๊ะ สิ่งที่น้องแพรมองหาก็คือ….พวงกุญแจรูปแมว ” 

 

“ อ่อ….ค่ะ ” เด็กสาวรุ่นน้องรับคำ แต่สีหน้าดูไม่เต็มใจเลยซักนิด 

            

 

        เมื่อเคลียร์กับรุ่นน้องเรียบร้อย สาวแจ๋วก็หันกลับมากล่าวกับบุญกอบ 

 

“ หนูฝากดูแลน้องแพรด้วยนะคะ หนูไปหาของแพล็บเดียว เดี๋ยวหนูมา ” 

            

 

        สาวแจ๋วกล่าวฝากฝัง โดยไม่ได้พิจารณาเลยซักนิดว่าการปล่อยเด็กสาวไว้กับไอ้หื่นอย่างบุญกอบ มันเสี่ยงประดุจฝากปลาย่างไว้กับแมว 

           

 

        เมื่อทุกอย่างพร้อมสรรพ เด็กสาวร่างเล็กก็เตรียมลาชั่วคราว ก่อนออกจากห้อง เธอหันกลับมายิ้มให้บุญกอบแวบนึง มันเป็นรอยยิ้มที่ดูแปลกประหลาดจนทำให้หนุ่มอีสานร่างล่ำรู้สึกขนลุก 

 

“ เฮ้ย! ทำไมน้องแจ๋วถึงยิ้มแบบนั้นฟะ ” 

           

 

        แต่ไม่ทันที่บุญกอบจะได้คำตอบ สาวแจ๋วก็ออกจากห้องแคบไปซะแล้ว 

 

“ แอ๊ด…..” 

 

“ ปัง ” 

           

 

         หลังจากประตูห้องปิดเป็นที่เรียบร้อย ภายในป้อมยามก็หลงเหลือเพียงแค่สองชีวิต นั่นก็คือบุญกอบและสาวแพรผู้ขาวผ่องปานหยวก แน่นอนว่าทั้งสองล้วนกระอักกระอ่วนจนทำตัวไม่ถูก เพราะการได้อยู่สองต่อสองกับเพศตรงข้ามในพื้นที่แคบ มันเป็นอะไรที่ชวนอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก 

          

 

         ทั้งสองนิ่งเงียบอยู่หลายอึดใจ ในที่สุดก็เป็นฝ่ายบุญกอบที่ตั้งหลักได้ก่อน 

 

“เอ่อ….น้องแพรไม่หาพวงกุญแจต่อหรือครับ ” 

 

“ อ่อ….ค่ะ ค่ะ หาต่อค่ะ ” สาวแพรรับคำเสียงหลง พร้อมขยับกายอวบอัดไปค้นหาของตามลิ้นชักต่อ 

            

 

         บุญกอบรู้สึกสับสนในตัวเองอย่างรุนแรง ใจหนึ่งเขาก็อยากให้สาวแพรหาของเจอโดยไว จะได้ออกไปจากห้องเสียที เพราะเขาเขินอายจนทำตัวไม่ถูกแล้ว แต่อีกใจเขาก็อยากให้สาวแพรอยู่ในห้องนี้ตลอดไป เพราะเขากำลังเพลิดเพลินกับการมองเรือนร่างที่ชวนน้ำลายหกของเด็กสาววัยใส 

 

“ อื้อหือ…..แม้หน้าตาของน้องแพรจะธรรมดาไปหน่อย แต่ทรวดทรงองค์เอวของเธอก็น่ารับประทานแบบสุดๆ ทั้งสะโพกผาย โคนขาอวบอัด ล้วนน่าสัมผัส โดยเฉพาะบั้นท้ายกลมงอนนั่น ดูจะโดดเด่นกว่าทุกสัดส่วน มันชวนให้ของขึ้นเสียเหลือเกิน ” บุญกอบยลส่วนสัดอวบใหญ่ที่ซุกซ่อนในกระโปรงทรงเอแบบไม่วางตา มือขวาก็ลอบเคล้นคลึงเบาๆที่กลางเป้า เพื่อบรรเทาความอึดอัดที่หนักหน่วง 

         

 

        สาวแพรยังคงค้นหาพวงกุญแจรูปแมวอย่างจริงจัง ด้วยเธออยากหาให้เจอโดยพลัน จะได้พ้นจากความอึดอัดที่กำลังเกาะกินหัวใจ เพราะเหตุนี้เอง เธอจึงไม่ทันรู้สึกตัวว่ากำลังมีสายตาชั่วๆโลมเลียเรือนกายของเธอ 

 

“ โอ้ว….สุดยอดไปเลย ทำยังไงนา เราถึงจะได้กระแทกใส่บั้นท้ายงอนๆนั่นซักที ” บุญกอบมองบั้นท้ายอวบใหญ่ที่สะบัดไปมาไม่วางวาย ในใจนึกมโนไปว่ากำลังร่วมสุขีสโมสรกับเด็กสาวทางประตูหลัง    

          

 

         เหมือนเบื้องบนจะรับรู้ถึงความต้องการอันแรงกล้าของบุญกอบ เลยบันดาลให้สาวแพรทำกรรไกรตก และในทันทีที่เครื่องตัดขนาดเล็กกระทบพื้น มันก็กลิ้งไปยังใต้โต๊ะที่มืดทึบ 

 

“ เคล้ง ” 

 

“ ว้าย!......” 

         

 

         เด็กสาวอุทานดังด้วยความตกใจ พร้อมถอยกายอวบอัดออกมาเล็กน้อย หลังจากที่เธอตั้งสติได้ เธอก็หันกลับมาบอกบุญกอบด้วยท่าทางที่ดูขวยเขิน 

 

“ เอ่อ….ขอโทษค่ะ หนูทำกรรไกรหล่น หนูเก็บให้นะคะ ”       

          

 

        บุญกอบสะอึกเล็กน้อย จากนั้นเขาก็เอามือขวาออกจากเป้าที่เกาะกุม พร้อมตอบกลับเสียงสั่น 

 

“ อะ….เอ่อ….ชะ…เชิญนะ…น้องแพรเก็บได้ครับ ” 

           

 

         ทันทีที่ได้ฟังคำตอบ สาวแพรก็รู้สึกฉุนนิดๆ เพราะเธอต้องการให้บุญกอบแสดงความเป็นสุภาพบุรุษด้วยการก้มลงไปเก็บกรรไกรให้ แต่หนุ่มอีสานร่างล่ำกลับปล่อยให้เธอจัดการแก้ไขความผิดพลาดของตนเอง มันเป็นการกระทำที่ไม่แมนในสายตาของสาวแพรอย่างรุนแรง 

 

“ เอ๊ะ! อะไรกัน เราพูดถึงขนาดนี้ ยังไม่ยอมมาเก็บกรรไกรให้เราอีก ทำไมนายคนนี้ถึงได้ไร้ความเป็นสุภาพบุรุษขนาดนี้ เชอะ…..เราเก็บเองก็ได้ ไม่ง้อหรอก ” 

          

 

        เด็กสาวก้มกายลงด้วยอากัปกิริยาที่ดูสะบัดนิดๆ เพื่อระบายอารมณ์ขัดเคืองที่คุกรุ่นอยู่ภายใน แต่ภาพการสะบัดสะบิ้งของสาวขาวอวบกลับทำให้บุญกอบรู้สึกหื่นกระหายมากกว่าสำนึกผิด 

 

“ โอ้ว…..ขนาดท่าตอนงอน ยังดูน่า…..เลย โดยเฉพาะเวลาสะบัดบั้นท้ายอวบใหญ่นั่น มันน่าโดนอาวุธร้ายทิ่มกระแทกเสียจริงๆ ” บุญกอบแลบลิ้นเลียปาก ส่วนสองตายังจ้องมองเรือนร่างขาวอวบอยู่ตลอด 

          

 

        เด็กสาวก้มๆเงยๆอยู่ใต้โต๊ะอยู่ครู่หนึ่ง เพื่อค้นหากรรไกรที่ร่วงหล่น แต่ก็เป็นไปอย่างยากลำบาก เพราะใต้โต๊ะนั้นค่อนข้างมืดทึบจนทำให้สาวแพรมองไม่เห็นสิ่งใด เธอจึงได้แต่เอื้อมมือเข้าไปควานหาอย่างสะเปะสะปะ แน่นอนว่าการเดาสุ่มแบบนั้น ไม่ช่วยให้เธอสมประสงค์ 

 

“ ทำไมมันหายากหาเย็นแบบนี้ ไอ้กรรไกรบ้า มันหลบไปอยู่ไหนกันนะ ” เด็กสาวสบถบ่น ในใจนึกอยากได้แสงสว่างจากกระบอกไฟฉายเป็นที่สุด 

         

 

        เหมือนสวรรค์จะเมตตา เพียงแค่คิด แสงสว่างแรงกล้าก็สาดส่องไปยังมุมมืดที่ใต้โต๊ะ 

 

“ เอ๊ะ! อะไรกัน แสงสว่างนั่นมาได้ยังไง ” เด็กสาวนึกสงสัย แต่ไม่นานเธอก็ได้คำตอบ เพราะเธอรู้สึกถึงไออุ่นจากเรือนกายล่ำสันที่มาแนบชิด  

 

“ อุ้ย….ใครมานั่งอยู่ข้างๆเรา ดูจากรูปร่างแล้วน่าจะเป็นผู้ชาย ” เด็กสาวผวาเฮือก เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ได้ใกล้ชิดกับเพศตรงข้าม จึงเป็นธรรมดาที่ต้องสั่นสะเทิ้นด้วยความเขินอาย และในทันทีที่ดวงตาเล็กหรี่โฟกัสมายังชายที่นั่งเคียง เธอก็พบว่าบุรุษผู้นั้นก็คือ……บุญกอบ ร.ป.ภ.หนุ่มหน้าซื่อ 

 

“ อ้าว…นั่น พี่บุญกอบนี่นา มาฉายไฟให้หนูหรือคะ ” เด็กสาวร้องถามเบาๆ แต่ใบหน้าขาวผ่องยังคงเค้าของความเขินอาย ด้วยเธออยู่ใกล้ชิดกับชายหนุ่มจนรู้สึกถึงไออุ่นที่แผ่ออกมาจากร่างกาย 

 

“ อ่อ…คะ…ครับ พะ….พอดีผะ…เห็นนะ..น้องแพรกำลังลำบาก ผะ….ผมเลยมาช่วยฉายไฟให้น่ะ ” บุญกอบตอบตะกุกตะกัก ใบหน้าเหลี่ยมที่กร้านแดดก็ดูจะแดงน้อยๆเช่นกัน เพราะหนุ่มอีสานร่างล่ำรู้สึกขัดเขินอยู่หน่อยๆ 

          

 

        ในใจของสาวแพร เธอรู้สึกอายจนอยากแทรกแผ่นดินหนี เพราะตั้งแต่เกิดมา เธอไม่เคยได้ใกล้ชิดกับชายหนุ่มเลยซักครั้ง แถมบุญกอบยังหล่อไม่ถูกสเปค มันจึงทำให้เธอนึกเดียดฉันท์อยู่หน่อยๆ  

 

“ เฮ้อ….นี่ถ้าไม่ติดว่าจะเอากรรไกรที่ซุกอยู่ใต้โต๊ะ เราคงรีบเผ่นหนีไปแล้ว ” 

           

 

        เมื่อความจำเป็นบังคับ มันเลยทำให้เด็กสาวขาวอวบต้องทนอยู่กับสภาวะอึดอัด เธอถอนหายใจแรงอีกสองสามรอบ ก่อนจะสอดส่ายสายตาไปยังใต้โต๊ะ เพื่อควานหาวัตถุที่พึงประสงค์ 

 

“ เอ…..กรรไกรอยู่ไหนนะ ” 

            

 

        ขณะที่เด็กสาวขาวอวบกำลังควานหากรรไกรอย่างเอาเป็นเอาตาย ร.ป.ภ.หนุ่มก็พยายามฉายไฟช่วย แต่ดูเหมือนว่าหนุ่มอีสานร่างล่ำจะไม่ค่อยมีสมาธิมากนัก เพราะหางตามักจะแอบชำเลืองมองไปที่เรือนกายอวบอัดของเด็กสาว 

 

“ อื้อหือ….พอได้มองในระยะใกล้ ดูจะฟินกว่ามองไกลๆมากเลย ทำไมน้องแพรถึงได้ขาวจั๋วน่าเจี๊ยะแบบนี้ ฮืม…..” บุญกอบนึกชมเชย เมื่อโฟกัสไปที่โคนขาอ่อนอวบๆที่โผล่พ้นชายกระโปรงสั้นรัดรูป 

           

 

        ความขาวระดับโอโม่และกลิ่นหอมจากเรือนกายของเด็กสาว ได้กระตุ้นเร้าให้บุญกอบรู้สึกเร่าร้อน หนุ่มอีสานร่างล่ำอยากล้วงอาวุธร้ายออกมารูด เพื่อระบายความเครียด แต่เขารู้อยู่เต็มทรวงว่าถ้าทำเช่นนั้น เขาอาจซวยหนักถึงขั้นติดคุกติดตะรางก็เป็นได้ ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะหยั่งเชิงแทน 

 

“ เอ๊ะ!....อะไรน่ะ ” เด็กสาวอุทานในใจ เพราะเธอรู้สึกถึงบางสิ่งที่กำลังกระทบถูกสะโพกดินระเบิดของตนเอง มันทำให้เธอนึกระแวงจนต้องเหล่มองด้วยหางตา เธอจึงพบว่าเจ้าสิ่งนั้นก็คือ….ท่อนแขนของ ร.ป.ภ.หนุ่มร่างล่ำ 

 

“ แขนพี่บุญกอบมาชนกับสะโพกเรา แต่ตอนนี้ถอยห่างออกไปแล้ว มันคงเป็นอุบัติเหตุล่ะมั้ง เอาล่ะ หาต่อดีกว่า ” เด็กสาวรู้สึกคลายใจ ก่อนหันไปหาของต่อ แต่ในขณะที่เธอกำลังเพียรพยายามอยู่นั้นเอง ท่อนแขนเจ้ากรรมก็กระทบถูกกายเธออีกครั้ง คราวนี้มันเตร่มาถูเข้ากับสีข้างของเด็กสาว 

 

“ อุ้ย โดนตัวเราอีกแล้ว ถอยห่างออกไปหน่อยซิ ” เด็กสาวเบ้หน้า เธอรู้สึกขัดเคือง แต่ก็ไม่กล้าจะออกปากต่อว่า เนื่องจากเธอเป็นเด็กสาวที่ค่อนข้างจะเรียบร้อย 

          

 

       เด็กสาวรู้สึกอึดอัด เพราะเจ้าท่อนแขนที่น่ารำคาญยังคงถูไปถูมาตรงบริเวณสีข้างและสะโพกของเธออย่างต่อเนื่อง เธออยากจะเผ่นหนีให้พ้นรัศมีวงแขน แต่เธอก็ทำเช่นนั้นไม่ได้ เพราะเธอกำลังติดอยู่กับภารกิจตามหากรรไกรที่หายไป 

 

“ เฮ้อ….เมื่อไหร่ เราจะหากรรไกรเจอนะ ”

 

 

สามารถติดตามงานเขียน ณ.ปัจจุบันและในอนาคตของผมได้ที่เพจJalandoนักเขียนดาร์คไซด์ได้ที่ลิงค์ด้านล่างครับ

https://www.facebook.com/Jalando.darksidewriter

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณชอบนิยายเรื่องนี้แค่ไหน

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา