ตลกร้ายใต้สะดือ
9.7
เขียนโดย Jalando
วันที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 15.03 น.
45 ตอน
9 วิจารณ์
52.40K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 8 มกราคม พ.ศ. 2562 15.17 น. โดย เจ้าของนิยาย
37) ขาวจนเห็นเส้นเลือด
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความตอนที่ 37 ขาวจนเห็นเส้นเลือด
หลังจากวันนั้น บุญกอบก็อิ่มเอมเปรมปรีดิ์มากกว่าเดิม ด้วยเจ้านายสาวสุดเซ็กซี่และน้องแหววคนสวยล้วนตอบรับเกมรักที่บุญกอบประเคนให้เป็นอย่างดี แถมทุกครั้งที่เสร็จกิจกับนายสาวลูกครึ่ง บุญกอบก็จะได้พ็อกเก็ตมันนี่มาเป็นของแถมเป็นประจำ ทำให้หนุ่มอีสานร่างล่ำลืมเลือนแฟนสาวที่บ้านเกิดไปโดยปริยาย
กระนั้นบุญกอบก็ยังแอบเหม่อลอยเป็นบางครั้ง เนื่องจากยังมีอีกสามสาวที่เขาลอบหมายปอง ไม่ว่าจะเป็นน้องขิม สาวขรึมที่ผิวขาวปานหยวก น้องเฟิร์น สาววัยกำดัดที่สวยระดับพรีเมียม แต่รายที่เขาอยากจะร่วมนอนสามัคคีมากที่สุดเห็นจะไม่พ้น……น้องแจ๋ว สาวน้อยร่างเล็กที่สดใสร่าเริงจนน่าลิ้มลอง
“ เฮ้อ….อยากเจอน้องแจ๋วจังเลย ” บุญกอบนั่งเท้าคางในป้อมยามแคบๆ ดวงตาเหม่อมองปุยเมฆที่ล่องลอยบนท้องฟ้า ในใจคิดคำนึงถึงช่วงเวลาที่เกือบจะได้สอยสาวแจ๋ว
ขณะที่เขากำลังกลัดกลุ้มอยู่นั้นเอง หูของเขาก็แว่วเสียงเรียกของเด็กสาวที่ดูสดใส
“ พี่บุญกอบ พี่บุญกอบ พี่บุญกอบ……”
“ เอ๊ะ! ใครเรียกข้อย ” บุญกอบเริ่มเหลียวซ้ายแลขวา เพื่อมองหาเจ้าของเสียง แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่เห็นแม้แต่เงา มันเลยทำให้บุญกอบนึกกลัว
“ เฮ้ย! หรือว่านี่จะเป็นเสียงของอดีตมนุษย์ที่ไม่มีตัวตนกันนะ ไม่เอาน่า ข้อยไม่ถูกกับผีเด้อ ไปไกลเถอะ อย่ามาหลอกมาหลอนกันเลย ” บุญกอบพูดจบ เขาก็ยกมือไหว้ปลกๆ ดวงตาเหลือกหลานด้วยความหวาดกลัว
“ หึ หึ หึ……”
บุญกอบได้เสียงสาวปริศนาอีกครั้ง คราวนี้มันเป็นเสียงหัวเราะที่ส่อสำเนียงขบขันออกมาอย่างชัดเจน ทว่าเสียงนั้นยิ่งทำให้หนุ่มอีสานร่างล่ำหลอนหนักเดิมจนเผลอตอบเป็นภาษาบ้านเกิด
“ ข้อยย่านแล้ว อย่าหลอกหลอนข้อยอีกเลย ”
“ ฮะ ฮะ ฮะ……กลัวหนูเหรอ พี่บุญกอบ ” เสียงสาวปริศนาหัวเราะร่าออกมาอีกครั้ง มันค่อนข้างชัดถ้อยชัดคำจนบุญกอบชักไม่แน่ใจว่านี่คือผีหรือคน แต่ด้วยความที่ไม่เห็นรูปกายเจ้าของเสียง เขาจึงตีให้เป็นผีไปก่อน
“ จ้ะ จ้ะ จ้ะ ข้อยกลัวเเล้ว เจ้าอย่าทำอะไรข้อยเลย นะ นะนะ ” บุญกอบยกมือไหว้ค้างอยู่อย่างนั้น ปากก็กล่าวขอร้องอ้อนวอนอย่างต่อเนื่อง พร้อมเหลียวซ้ายแลขวาด้วยอาการหวาดระแวง
“ ฮะ ฮะ ฮะ ถ้าพี่บุญกอบกลัวหนูจริงๆ พี่ช่วยเห่าหอนเป็นภาษาสุนัขให้หนูฟังหน่อย ” เสียงสาวปริศนายื่นข้อเสนอ
ข้อเสนอของอดีตมนุษย์ มันช่างประหลาดจนบุญกอบนึกแปลก ด้วยในคราวแรกเขาคิดว่าวิญญาณสาวนางนี้น่าจะขอให้เขาทำบุญหรือไม่ก็ขอเครื่องเซ่นไหว้ ที่ไหนได้วิญญาณสาวกลับขอให้เขาเห่าหอนแบบหมา นี่มันเรียกว่าผิดคาดจนแทบไม่น่าเชื่อ และเมื่อเห็นบุญกอบนิ่งอึ้ง เสียงสาวปริศนาก็พลันกระตุ้นเร้า
“ เอ้า….ว่าไง ไม่เห่าให้ดูซักทีล่ะ หนูรอฟังอยู่นะ ”
“ อะ…อ้อ..ครับ ” บุญกอบสะดุ้ง พร้อมรับคำล่กๆ
บุญกอบกลั้นใจข่มความอายอยู่หลายวินาที ก่อนจะแหงนหน้าตะเบ็งคอ เพื่อส่งเสียงเห่าหอนตามประสงค์ผีสาว
“ โฮ่ง โฮ่ง โฮ่ง บรู๊ว…….”
แม้บุญกอบจะไม่เคยเป็นสุนัขมาก่อน แต่ท่วงทำนองที่เปล่งออกมา ช่างคลับคล้ายคลับคลากับสัตว์สี่เท้าปากยาวอย่างไม่มีผิดเพี้ยน แถมท่าทางที่แสดงออกมาก็ดูใกล้เคียงประดุจดังถูกวิญญาณเจ้าสี่ขาเข้าสิง และในทันทีที่บุญกอบหอนจบ เสียงสาวปริศนาก็หัวเราะขึ้นมาอีกครั้ง
“ ฮ่า ฮ่า ฮ่า…..”
“ คิก คิก คิก…..”
เสียงหัวเราะของสาวไร้ร่างสร้างความพิศวงงงงวยให้กับบุญกอบอย่างมากมาย เพราะคราวนี้มันไม่ได้มีเพียงเสียงเดียว แต่กลับมีเสียงหัวเราะของอีกสาวดังแทรกเข้ามาอย่างแผ่วเบา ถึงกระนั้นบุญกอบก็สามารถแยกแยะได้อย่างชัดเจน เพราะเสียงสาวคนที่สองค่อนข้างใหญ่กว่าสาวคนแรกเอามากๆ
“ เอ๋…..ทำไมถึงมีเสียงสาวเพิ่มมาอีกหนึ่ง หรือจะมีผีสาวสองตน ” บุญกอบคิดไปก็หลอนไป แค่เจอผีตนเดียว มันก็หนักเกินกว่าจิตใจจะรับไหวแล้ว ทว่าตอนนี้กลับเพิ่มอดีตมนุษย์ขึ้นมาอีกหนึ่ง มันทำให้เขากลัดกลุ้มจนแทบจะฉีกทึ้งตัวเองให้ตายไปซะเดี๋ยวนั้น แต่ก่อนบุญกอบจะได้ทำอะไร โสตประสาทก็แว่วเสียงเคาะประตู
“ ก๊อก ก๊อก ก๊อก……”
“ เหวอ…..” บุญกอบกระโดดตัวลอย พร้อมอุทานดัง
“ ฮ่า ฮ่า ฮ่า……คิก คิก คิก…..”
เสียงหัวเราะของสองสาวที่หน้าประตูยังคงดังอย่างต่อเนื่อง มันเป็นเสียงที่แสดงออกถึงความขบขันอย่างชัดเจนจนบุญกอบไม่ต้องตีความให้วุ่นวาย กระนั้นมันก็ไม่ทำให้บุญกอบกล้าก้าวไปเปิดประตู
“ ถึงตายก็ไม่เปิดประตูให้หรอก พวกเธอไปที่ชอบที่ชอบเถอะ ข้อยจะทำบุญไปให้ ” บุญกอบตะโกนบอก พร้อมแทรกกายล่ำสันไปหลบที่มุมห้อง
สองสาวปริศนาเงียบไปอึดใจ ก่อนร้องบอกเสียงใสว่า…..
“ นี่แจ๋วเอง หนูรอพี่อยู่ที่หน้าประตู หนูเป็นคน ไม่ได้เป็นผี เลิกกลัวได้แล้ว พี่บุญกอบ ”
บุญกอบพยายามตรึกตรองความหมายอยู่หลายอึดใจ เวลาผ่านไปครู่หนึ่ง เขาก็คลายความตระหนกและเริ่มจดจำเจ้าของเสียงได้ นั่นทำให้เขาดีใจจนรีบแล่นมาเปิดประตู
“ แอ๊ด…..”
“ ไงจ๊ะ น้องแจ๋ว หนูมาหาพี่เหรอ ” หนุ่มอีสานร่างล่ำกล่าวทักทายสาวผู้มาใหม่ เขาคาดว่าน้องนางร่างเล็กคนนี้น่าจะเป็นอีกคนที่ติดใจรสสวาทจนหวนกลับมาร่วมเกษมสันต์กับเขา แต่ในทันทีที่ประตูเปิดกว้าง ความฝันนั้นก็พังทลายในพริบตา ด้วยสาววัยใสที่น่ารักไม่ได้อยู่เพียงลำพัง
คนที่ยืนเคียงข้างสาวแจ๋วเป็นเด็กสาววัยใกล้เคียงกัน เธอมีรูปร่างที่ค่อนข้างอวบ ใบหน้ากลมประดับด้วยผมยาวสีโค้กที่ไว้หน้าม้าตามสมัยนิยม ดวงตาเล็กหรี่ จมูกโด่งเป็นสันกำลังพองาม ริมฝีปากอวบอิ่มจนน่าจูบ เมื่อนำมาประกอบกับผิวที่ขาวละเอียดปานหยวก ยิ่งทำให้ไฟในอารมณ์ของบุญกอบลุกโชนจนเกิดความรู้สึกรุ่มร้อนไปทั่วทั้งกาย
“ ว้า….น้องแจ๋วมากับเพื่อน อีแบบนี้เราคงอดสนุกสนานกับน้องแจ๋วอีกตามเคย แต่จะว่าไป น้องสาวคนที่มากับน้องแจ๋วนี่ก็น่า…รับประทานมิใช่น้อย ” หลังคิดชั่วช้า บุญกอบก็เริ่มรู้สึกแข็งเกร็งตรงบริเวณเป้ากางเกง
อาการแข็งเกร็งของบุญกอบ ส่งผลให้หนุ่มอีสานร่างล่ำต้องงอตัวลงเล็กน้อย ความเปลี่ยนแปลงดังกล่าวไม่รอดพ้นสายตาของสาวแจ๋ว ทว่าเธอก็เพียงแต่ยิ้มรับเล็กน้อยเป็นเชิงรู้ทัน พร้อมกล่าวแนะนำเพื่อนสาวขาวอวบให้บุญกอบรู้จัก
“ น้องผู้หญิงที่มากับหนู เธอชื่อว่า….น้องแพร เธอเป็นรุ่นน้องของหนูที่มหาลัย เธอมาทำงานพาร์ทไทม์ตอนปิดเทอมค่ะ ”
สิ้นคำแนะนำ เด็กสาวขาวอวบและบุญกอบก็ยกมือไหว้กันตามธรรมเนียม แต่ในจังหวะที่เด็กสาวก้มกายลง ก็เผยให้เห็นร่องอกขาวผ่องที่ลอดออกมาจากคอเสื้อนักศึกษาอันแสนฟิตรัด
“ อึ้ก….นั่นมัน….” บุญกอบถึงกลับสะอึก แม้ภาพกีฬามันๆจะบังเกิดเพียงแค่วินาทีเดียว แต่มันก็ทำให้เขารู้ว่า…….เนื้อในของเด็กสาวนางนี้น่าจะยอดเยี่ยมไม่ผิดจากภายนอก
อาการชีกอของบุญกอบปรากฏออกมาอย่างชัดเจน เพราะบุญกอบเป็นคนตรงๆที่ไม่ค่อยจะเนียน เลยทำให้สาวแจ๋วรับรู้ได้ทุกอนู ผิดกลับสาวขาวอวบผู้มีนามว่า “แพร” เธอดูไม่ระแคะระคายเลยซักนิด กระนั้นสาวแจ๋วก็เพียงแค่ยิ้มและบอกความประสงค์ที่มาแวะเวียนในวันนี้
“ ที่หนูมาในวันนี้ เพราะหนูคิดว่าลืมของในป้อมยาม ขอหนูเข้าไปเช็คหน่อยได้มั้ยคะ พี่บุญกอบขา…..” สาวแจ๋วอ้อนวอนเสียงหวาน แถมยิงตาซึ้งใส่อีกหลายดอก ส่งผลให้บุญกอบตอบรับแต่โดยดี เพราะคงไม่มีชายชาตรีหน้าไหนกล้าบอกปัดคำขอร้องของสาวหวาน
“ ชะ….เชิญเลยครับ ” บุญกอบกล่าวจบ เขาก็หลีกทางให้สองสาวเดินผ่าน
จังหวะที่สองสาวเดินผ่าน บุญกอบก็ได้กลิ่นหอมจากเรือนกายของพวกหล่อน ส่งผลให้ความแข็งเกร็งเพิ่มทวีขึ้นไปอีกระดับ และไม่รู้ว่าบุญกอบคิดไปเองหรือเปล่า เพราะในช่วงที่สาวแจ๋วเดินผ่าน มือบางของสาวเจ้าดันผ่าไปกระทบเข้ากับอาวุธร้ายที่อัดแน่นตรงกลางเป้า
“ อู้ย…..เอามือมาโดนทำไมเนี่ย แค่นี้มันก็แข็งจนแทบจะระเบิดอยู่แล้ว ” บุญกอบบ่นในใจ แต่ในมโนทวารกลับนึกเป็นสุขที่ได้กระทบถูก
ทันทีที่สองสาวเข้ามาในป้อมยามแคบๆ พวกหล่อนก็กรูกันรื้อค้นตามลิ้นชัก โดยมีสาวแจ๋วเป็นผู้นำทีม
“ วี้ด…ว้าย…ไม่เคยเข้ามาในป้อมยามเลย นี่เป็นครั้งแรกที่เข้ามา…..”
สองสาวดูวี้ดว้ายกระตู้วู้เอามากๆ การค้นหาจึงเป็นไปในรูปแบบที่ไม่จริงจังนัก ราวกับว่าของที่สูญหายเป็นสิ่งที่ไม่ค่อยสำคัญ แต่บุญกอบก็ไม่คิดจะตำหนิหรือขัดเคืองแต่ประการใด ด้วยสองดวงตามัวแต่เหม่อมองเรือนร่างของสองสาว
“ เฮ้อ…..น่ากินไปคนละแบบ น้องแจ๋วนั้นขาวเนียน แถมยังดูใสๆคล้ายเด็กสาวแรกรุ่น ยิ่งมาอยู่ในชุดนักศึกษากระโปรงทรงพรีทแบบนี้ ยิ่งดูคล้ายเด็กมัธยมที่เพิ่งแตกเนื้อสาวอย่างไม่มีผิดเพี้ยน แต่กับน้องแพรนั้น เธอดูเต็มไม้เต็มมือดีเหลือเกิน ทุกสัดส่วนดูอวบอิ่มไปหมด ไม่ว่าจะเป็นทรวงอกอวบๆที่อัดแน่นในเสื้อนักศึกษาฟิตรัด แถมกระโปรงที่สวมใส่ก็แสนจะสั้นจนทำให้เห็นขาอ่อนที่ขาวละเอียดแบบสุดๆ เพ่งดูให้ดี รู้สึกจะเห็นยันเส้นเลือดเลยนะเนี่ย คนอะไรขาวได้ใจถึงขนาดนี้ ”
สามารถติดตามงานเขียน ณ.ปัจจุบันและในอนาคตของผมได้ที่เพจJalandoนักเขียนดาร์คไซด์ได้ที่ลิงค์ด้านล่างครับ
https://www.facebook.com/Jalando.darksidewriter
หลังจากวันนั้น บุญกอบก็อิ่มเอมเปรมปรีดิ์มากกว่าเดิม ด้วยเจ้านายสาวสุดเซ็กซี่และน้องแหววคนสวยล้วนตอบรับเกมรักที่บุญกอบประเคนให้เป็นอย่างดี แถมทุกครั้งที่เสร็จกิจกับนายสาวลูกครึ่ง บุญกอบก็จะได้พ็อกเก็ตมันนี่มาเป็นของแถมเป็นประจำ ทำให้หนุ่มอีสานร่างล่ำลืมเลือนแฟนสาวที่บ้านเกิดไปโดยปริยาย
กระนั้นบุญกอบก็ยังแอบเหม่อลอยเป็นบางครั้ง เนื่องจากยังมีอีกสามสาวที่เขาลอบหมายปอง ไม่ว่าจะเป็นน้องขิม สาวขรึมที่ผิวขาวปานหยวก น้องเฟิร์น สาววัยกำดัดที่สวยระดับพรีเมียม แต่รายที่เขาอยากจะร่วมนอนสามัคคีมากที่สุดเห็นจะไม่พ้น……น้องแจ๋ว สาวน้อยร่างเล็กที่สดใสร่าเริงจนน่าลิ้มลอง
“ เฮ้อ….อยากเจอน้องแจ๋วจังเลย ” บุญกอบนั่งเท้าคางในป้อมยามแคบๆ ดวงตาเหม่อมองปุยเมฆที่ล่องลอยบนท้องฟ้า ในใจคิดคำนึงถึงช่วงเวลาที่เกือบจะได้สอยสาวแจ๋ว
ขณะที่เขากำลังกลัดกลุ้มอยู่นั้นเอง หูของเขาก็แว่วเสียงเรียกของเด็กสาวที่ดูสดใส
“ พี่บุญกอบ พี่บุญกอบ พี่บุญกอบ……”
“ เอ๊ะ! ใครเรียกข้อย ” บุญกอบเริ่มเหลียวซ้ายแลขวา เพื่อมองหาเจ้าของเสียง แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่เห็นแม้แต่เงา มันเลยทำให้บุญกอบนึกกลัว
“ เฮ้ย! หรือว่านี่จะเป็นเสียงของอดีตมนุษย์ที่ไม่มีตัวตนกันนะ ไม่เอาน่า ข้อยไม่ถูกกับผีเด้อ ไปไกลเถอะ อย่ามาหลอกมาหลอนกันเลย ” บุญกอบพูดจบ เขาก็ยกมือไหว้ปลกๆ ดวงตาเหลือกหลานด้วยความหวาดกลัว
“ หึ หึ หึ……”
บุญกอบได้เสียงสาวปริศนาอีกครั้ง คราวนี้มันเป็นเสียงหัวเราะที่ส่อสำเนียงขบขันออกมาอย่างชัดเจน ทว่าเสียงนั้นยิ่งทำให้หนุ่มอีสานร่างล่ำหลอนหนักเดิมจนเผลอตอบเป็นภาษาบ้านเกิด
“ ข้อยย่านแล้ว อย่าหลอกหลอนข้อยอีกเลย ”
“ ฮะ ฮะ ฮะ……กลัวหนูเหรอ พี่บุญกอบ ” เสียงสาวปริศนาหัวเราะร่าออกมาอีกครั้ง มันค่อนข้างชัดถ้อยชัดคำจนบุญกอบชักไม่แน่ใจว่านี่คือผีหรือคน แต่ด้วยความที่ไม่เห็นรูปกายเจ้าของเสียง เขาจึงตีให้เป็นผีไปก่อน
“ จ้ะ จ้ะ จ้ะ ข้อยกลัวเเล้ว เจ้าอย่าทำอะไรข้อยเลย นะ นะนะ ” บุญกอบยกมือไหว้ค้างอยู่อย่างนั้น ปากก็กล่าวขอร้องอ้อนวอนอย่างต่อเนื่อง พร้อมเหลียวซ้ายแลขวาด้วยอาการหวาดระแวง
“ ฮะ ฮะ ฮะ ถ้าพี่บุญกอบกลัวหนูจริงๆ พี่ช่วยเห่าหอนเป็นภาษาสุนัขให้หนูฟังหน่อย ” เสียงสาวปริศนายื่นข้อเสนอ
ข้อเสนอของอดีตมนุษย์ มันช่างประหลาดจนบุญกอบนึกแปลก ด้วยในคราวแรกเขาคิดว่าวิญญาณสาวนางนี้น่าจะขอให้เขาทำบุญหรือไม่ก็ขอเครื่องเซ่นไหว้ ที่ไหนได้วิญญาณสาวกลับขอให้เขาเห่าหอนแบบหมา นี่มันเรียกว่าผิดคาดจนแทบไม่น่าเชื่อ และเมื่อเห็นบุญกอบนิ่งอึ้ง เสียงสาวปริศนาก็พลันกระตุ้นเร้า
“ เอ้า….ว่าไง ไม่เห่าให้ดูซักทีล่ะ หนูรอฟังอยู่นะ ”
“ อะ…อ้อ..ครับ ” บุญกอบสะดุ้ง พร้อมรับคำล่กๆ
บุญกอบกลั้นใจข่มความอายอยู่หลายวินาที ก่อนจะแหงนหน้าตะเบ็งคอ เพื่อส่งเสียงเห่าหอนตามประสงค์ผีสาว
“ โฮ่ง โฮ่ง โฮ่ง บรู๊ว…….”
แม้บุญกอบจะไม่เคยเป็นสุนัขมาก่อน แต่ท่วงทำนองที่เปล่งออกมา ช่างคลับคล้ายคลับคลากับสัตว์สี่เท้าปากยาวอย่างไม่มีผิดเพี้ยน แถมท่าทางที่แสดงออกมาก็ดูใกล้เคียงประดุจดังถูกวิญญาณเจ้าสี่ขาเข้าสิง และในทันทีที่บุญกอบหอนจบ เสียงสาวปริศนาก็หัวเราะขึ้นมาอีกครั้ง
“ ฮ่า ฮ่า ฮ่า…..”
“ คิก คิก คิก…..”
เสียงหัวเราะของสาวไร้ร่างสร้างความพิศวงงงงวยให้กับบุญกอบอย่างมากมาย เพราะคราวนี้มันไม่ได้มีเพียงเสียงเดียว แต่กลับมีเสียงหัวเราะของอีกสาวดังแทรกเข้ามาอย่างแผ่วเบา ถึงกระนั้นบุญกอบก็สามารถแยกแยะได้อย่างชัดเจน เพราะเสียงสาวคนที่สองค่อนข้างใหญ่กว่าสาวคนแรกเอามากๆ
“ เอ๋…..ทำไมถึงมีเสียงสาวเพิ่มมาอีกหนึ่ง หรือจะมีผีสาวสองตน ” บุญกอบคิดไปก็หลอนไป แค่เจอผีตนเดียว มันก็หนักเกินกว่าจิตใจจะรับไหวแล้ว ทว่าตอนนี้กลับเพิ่มอดีตมนุษย์ขึ้นมาอีกหนึ่ง มันทำให้เขากลัดกลุ้มจนแทบจะฉีกทึ้งตัวเองให้ตายไปซะเดี๋ยวนั้น แต่ก่อนบุญกอบจะได้ทำอะไร โสตประสาทก็แว่วเสียงเคาะประตู
“ ก๊อก ก๊อก ก๊อก……”
“ เหวอ…..” บุญกอบกระโดดตัวลอย พร้อมอุทานดัง
“ ฮ่า ฮ่า ฮ่า……คิก คิก คิก…..”
เสียงหัวเราะของสองสาวที่หน้าประตูยังคงดังอย่างต่อเนื่อง มันเป็นเสียงที่แสดงออกถึงความขบขันอย่างชัดเจนจนบุญกอบไม่ต้องตีความให้วุ่นวาย กระนั้นมันก็ไม่ทำให้บุญกอบกล้าก้าวไปเปิดประตู
“ ถึงตายก็ไม่เปิดประตูให้หรอก พวกเธอไปที่ชอบที่ชอบเถอะ ข้อยจะทำบุญไปให้ ” บุญกอบตะโกนบอก พร้อมแทรกกายล่ำสันไปหลบที่มุมห้อง
สองสาวปริศนาเงียบไปอึดใจ ก่อนร้องบอกเสียงใสว่า…..
“ นี่แจ๋วเอง หนูรอพี่อยู่ที่หน้าประตู หนูเป็นคน ไม่ได้เป็นผี เลิกกลัวได้แล้ว พี่บุญกอบ ”
บุญกอบพยายามตรึกตรองความหมายอยู่หลายอึดใจ เวลาผ่านไปครู่หนึ่ง เขาก็คลายความตระหนกและเริ่มจดจำเจ้าของเสียงได้ นั่นทำให้เขาดีใจจนรีบแล่นมาเปิดประตู
“ แอ๊ด…..”
“ ไงจ๊ะ น้องแจ๋ว หนูมาหาพี่เหรอ ” หนุ่มอีสานร่างล่ำกล่าวทักทายสาวผู้มาใหม่ เขาคาดว่าน้องนางร่างเล็กคนนี้น่าจะเป็นอีกคนที่ติดใจรสสวาทจนหวนกลับมาร่วมเกษมสันต์กับเขา แต่ในทันทีที่ประตูเปิดกว้าง ความฝันนั้นก็พังทลายในพริบตา ด้วยสาววัยใสที่น่ารักไม่ได้อยู่เพียงลำพัง
คนที่ยืนเคียงข้างสาวแจ๋วเป็นเด็กสาววัยใกล้เคียงกัน เธอมีรูปร่างที่ค่อนข้างอวบ ใบหน้ากลมประดับด้วยผมยาวสีโค้กที่ไว้หน้าม้าตามสมัยนิยม ดวงตาเล็กหรี่ จมูกโด่งเป็นสันกำลังพองาม ริมฝีปากอวบอิ่มจนน่าจูบ เมื่อนำมาประกอบกับผิวที่ขาวละเอียดปานหยวก ยิ่งทำให้ไฟในอารมณ์ของบุญกอบลุกโชนจนเกิดความรู้สึกรุ่มร้อนไปทั่วทั้งกาย
“ ว้า….น้องแจ๋วมากับเพื่อน อีแบบนี้เราคงอดสนุกสนานกับน้องแจ๋วอีกตามเคย แต่จะว่าไป น้องสาวคนที่มากับน้องแจ๋วนี่ก็น่า…รับประทานมิใช่น้อย ” หลังคิดชั่วช้า บุญกอบก็เริ่มรู้สึกแข็งเกร็งตรงบริเวณเป้ากางเกง
อาการแข็งเกร็งของบุญกอบ ส่งผลให้หนุ่มอีสานร่างล่ำต้องงอตัวลงเล็กน้อย ความเปลี่ยนแปลงดังกล่าวไม่รอดพ้นสายตาของสาวแจ๋ว ทว่าเธอก็เพียงแต่ยิ้มรับเล็กน้อยเป็นเชิงรู้ทัน พร้อมกล่าวแนะนำเพื่อนสาวขาวอวบให้บุญกอบรู้จัก
“ น้องผู้หญิงที่มากับหนู เธอชื่อว่า….น้องแพร เธอเป็นรุ่นน้องของหนูที่มหาลัย เธอมาทำงานพาร์ทไทม์ตอนปิดเทอมค่ะ ”
สิ้นคำแนะนำ เด็กสาวขาวอวบและบุญกอบก็ยกมือไหว้กันตามธรรมเนียม แต่ในจังหวะที่เด็กสาวก้มกายลง ก็เผยให้เห็นร่องอกขาวผ่องที่ลอดออกมาจากคอเสื้อนักศึกษาอันแสนฟิตรัด
“ อึ้ก….นั่นมัน….” บุญกอบถึงกลับสะอึก แม้ภาพกีฬามันๆจะบังเกิดเพียงแค่วินาทีเดียว แต่มันก็ทำให้เขารู้ว่า…….เนื้อในของเด็กสาวนางนี้น่าจะยอดเยี่ยมไม่ผิดจากภายนอก
อาการชีกอของบุญกอบปรากฏออกมาอย่างชัดเจน เพราะบุญกอบเป็นคนตรงๆที่ไม่ค่อยจะเนียน เลยทำให้สาวแจ๋วรับรู้ได้ทุกอนู ผิดกลับสาวขาวอวบผู้มีนามว่า “แพร” เธอดูไม่ระแคะระคายเลยซักนิด กระนั้นสาวแจ๋วก็เพียงแค่ยิ้มและบอกความประสงค์ที่มาแวะเวียนในวันนี้
“ ที่หนูมาในวันนี้ เพราะหนูคิดว่าลืมของในป้อมยาม ขอหนูเข้าไปเช็คหน่อยได้มั้ยคะ พี่บุญกอบขา…..” สาวแจ๋วอ้อนวอนเสียงหวาน แถมยิงตาซึ้งใส่อีกหลายดอก ส่งผลให้บุญกอบตอบรับแต่โดยดี เพราะคงไม่มีชายชาตรีหน้าไหนกล้าบอกปัดคำขอร้องของสาวหวาน
“ ชะ….เชิญเลยครับ ” บุญกอบกล่าวจบ เขาก็หลีกทางให้สองสาวเดินผ่าน
จังหวะที่สองสาวเดินผ่าน บุญกอบก็ได้กลิ่นหอมจากเรือนกายของพวกหล่อน ส่งผลให้ความแข็งเกร็งเพิ่มทวีขึ้นไปอีกระดับ และไม่รู้ว่าบุญกอบคิดไปเองหรือเปล่า เพราะในช่วงที่สาวแจ๋วเดินผ่าน มือบางของสาวเจ้าดันผ่าไปกระทบเข้ากับอาวุธร้ายที่อัดแน่นตรงกลางเป้า
“ อู้ย…..เอามือมาโดนทำไมเนี่ย แค่นี้มันก็แข็งจนแทบจะระเบิดอยู่แล้ว ” บุญกอบบ่นในใจ แต่ในมโนทวารกลับนึกเป็นสุขที่ได้กระทบถูก
ทันทีที่สองสาวเข้ามาในป้อมยามแคบๆ พวกหล่อนก็กรูกันรื้อค้นตามลิ้นชัก โดยมีสาวแจ๋วเป็นผู้นำทีม
“ วี้ด…ว้าย…ไม่เคยเข้ามาในป้อมยามเลย นี่เป็นครั้งแรกที่เข้ามา…..”
สองสาวดูวี้ดว้ายกระตู้วู้เอามากๆ การค้นหาจึงเป็นไปในรูปแบบที่ไม่จริงจังนัก ราวกับว่าของที่สูญหายเป็นสิ่งที่ไม่ค่อยสำคัญ แต่บุญกอบก็ไม่คิดจะตำหนิหรือขัดเคืองแต่ประการใด ด้วยสองดวงตามัวแต่เหม่อมองเรือนร่างของสองสาว
“ เฮ้อ…..น่ากินไปคนละแบบ น้องแจ๋วนั้นขาวเนียน แถมยังดูใสๆคล้ายเด็กสาวแรกรุ่น ยิ่งมาอยู่ในชุดนักศึกษากระโปรงทรงพรีทแบบนี้ ยิ่งดูคล้ายเด็กมัธยมที่เพิ่งแตกเนื้อสาวอย่างไม่มีผิดเพี้ยน แต่กับน้องแพรนั้น เธอดูเต็มไม้เต็มมือดีเหลือเกิน ทุกสัดส่วนดูอวบอิ่มไปหมด ไม่ว่าจะเป็นทรวงอกอวบๆที่อัดแน่นในเสื้อนักศึกษาฟิตรัด แถมกระโปรงที่สวมใส่ก็แสนจะสั้นจนทำให้เห็นขาอ่อนที่ขาวละเอียดแบบสุดๆ เพ่งดูให้ดี รู้สึกจะเห็นยันเส้นเลือดเลยนะเนี่ย คนอะไรขาวได้ใจถึงขนาดนี้ ”
สามารถติดตามงานเขียน ณ.ปัจจุบันและในอนาคตของผมได้ที่เพจJalandoนักเขียนดาร์คไซด์ได้ที่ลิงค์ด้านล่างครับ
https://www.facebook.com/Jalando.darksidewriter
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ