ตลกร้ายใต้สะดือ
9.7
เขียนโดย Jalando
วันที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 15.03 น.
45 ตอน
9 วิจารณ์
52.46K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 8 มกราคม พ.ศ. 2562 15.17 น. โดย เจ้าของนิยาย
23) สรวงสวรรค์บนรถเมล์
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความตอนที่ 23 สรวงสวรรค์บนรถเมล์
บุญกอบยืนประกบที่ด้านหลังของสาวขิมได้ระยะหนึ่ง โสตประสาทก็แว่วกลิ่นหอมจากเส้นผม แม้จะเพียงแผ่วบาง แต่ก็ชัดเจนพอที่จะทำให้รู้ว่าสาวเจ้าใช้แชมพูยี่ห้ออะไร
“ อืม…..กลิ่นหอมดีจริงๆ ”
เพียงแค่นี้ บุญกอบก็เริ่มรู้สึกเคลิบเคลิ้มบ้างแล้ว ดวงตาเหลือบมองไปที่ต้นคอขาวผ่องอยู่ไม่ขาด ความขาวระดับโอโม่เบื้องหน้า กระตุ้นเร้าให้หนุ่มอีสานร่างล่ำนึกอยากเอื้อมมือไปลูบไล้เป็นอย่างยิ่ง แต่เขาจะรีบร้อนกระทำการไม่ได้ เพราะในยามนี้เขาและสาวขิมกำลังยืนอยู่บนรถเมล์ที่เนืองแน่นไปด้วยผู้คน
“ ใจเย็นๆ ไอ้บุญกอบ เอ็งอย่ารีบร้อน เดี๋ยวไก่มันจะตื่น ช้าๆได้พร้าหลายเล่มงามโว้ย ”
หลังจากที่หนุ่มอีสานร่างล่ำเตือนใจตนเอง เขาจึงสะกดกลั้นความพลุ่งพล่านทางจิตใจ และเหลือบมองไปรอบๆ เพื่อดูท่าทีของผู้คน
“ ฮืม…..ถึงแม้จะมีคนลงจากรถไปหลายคน แต่คนใหม่ๆที่ขึ้นมาก็มีจำนวนไม่แพ้กัน คนเยอะแบบนี้ เราคงหาโอกาสสัมผัสน้องขิมได้ยาก ” บุญกอบขบคิด สายตาแฝงแววขุ่นเคือง
ขณะที่บุญกอบกำลังเค้นสมองขบคิดอย่างหนักหน่วง หนุ่มอีสานร่างล่ำก็พลันนึกอะไรขึ้นมาได้
“ เอ๊ะ! เดี๋ยวนะ แล้วทำไม เราไม่พลิกวิกฤติให้เป็นโอกาสล่ะ ”
เหตุที่หนุ่มอีสานร่างล่ำคิดแบบนั้น เพราะเขารู้สึกว่าผู้คนที่อัดแน่นกันในรถเมล์ น่าจะช่วยอำพรางสายตาในช่วงที่เขาคิดจะเอื้อมมือไปสัมผัสเนื้อเนียนๆ และเขาค่อนข้างมั่นใจว่า…..สาวขิมคงจะไม่กล้าโวยวาย เพราะเธอดูเป็นคนขี้อาย
“ หึ หึ หึ ดีล่ะ ลงมือเลยดีกว่า ”
เมื่อคิดได้ดังนั้น บุญกอบก็เอื้อมมือขวาไปแตะที่ต้นขาของสาวขิมอย่างแผ่วเบา โดยจงใจให้โดนแค่หลังมือหยาบใหญ่ สิ่งที่ตอบกลับมาก็คือ…..ท่าทีที่นิ่งเฉยของหญิงสาว
“ หึ หึ หึ…..ยังเฉยอยู่ได้ สงสัยน้องขิมจะคิดว่านี่คือความบังเอิญล่ะซิ ” บุญกอบซ่อนยิ้มไว้ภายใน
บุญกอบเริ่มขยับหลังมือไปสัมผัสต้นขาของสาวขิมอีกครั้ง คราวนี้การสัมผัสดูจะหนักหน่วงกว่าครั้งก่อนๆ มันมากพอที่จะทำให้กายเพรียวได้ส่วนของสาวเจ้ากระตุกแผ่วๆ
บุญกอบเริ่มเปลี่ยนลีลามาเป็นการใช้หลังมือลากเลื้อยไปมาที่ต้นขาของหญิงสาวอย่างจงใจ ทว่าสาวขิมก็ยังนิ่งเฉย เขาจึงเลื่อนหลังมือให้ลากสูง จากต้นขาเดินทางมาถึงโคนขา และสถานีต่อไปก็คือ……บั้นท้ายงอนงาม
“ อึ้ก…..”
ทันทีที่นวลเนื้อถูกสัมผัส สาวขิมก็สะอึกเล็กน้อย แต่เธอยังคงยืนนิ่งตามที่บุญกอบคาด นั่นทำให้หนุ่มอีสานร่างล่ำย่ามใจจนถึงขั้นพลิกฝ่ามือมาขย้ำบั้นท้ายแน่นๆเต็มแรง
“ ฮือ…..”
กายเพรียวได้ส่วนของหญิงสาวสั่นสะท้านเล็กน้อย พร้อมบังเกิดเสียงครางในลำคอแผ่วเบา แต่เธอก็ไม่กล้าที่จะหันกลับมาดู เธอจึงไม่รู้เลยว่าใครคือเจ้าของมือมารที่กำลังขย้ำบั้นท้ายของตนเอง
บุญกอบรู้สึกมันมือเป็นอย่างยิ่ง เพราะมันให้รสสัมผัสที่นิ่มแน่นเป็นที่สุด แถมเจ้าของเนื้อเนียนก็ยังไม่ได้แสดงอาการขัดขืนแต่ประการใด เลยยิ่งทำให้หนุ่มอีสานร่างล่ำย่ามใจขึ้นไปอีกระดับ
“ หึ หึ หึ น้องขิมไม่ขืนกาย แถมยังแอ่นบั้นท้ายงอนๆให้เราบีบเคล้นแบบนี้ สงสัยจะทะยานอยากมิใช่น้อย ”
เมื่อคิดได้ดังนั้น หนุ่มอีสานร่างล่ำก็ยกระดับการลวนลามเป็นการเลื่อนมือไปลูบไล้ที่เอวเว้าคอดของหญิงสาวร่างสวย
“ อื้อ….”
เสียงครวญเบาๆดังออกมาจากปากของสาวขิม กายเพรียวบางก็ส่ายเล็กน้อยเป็นนัยว่าอยากจะขยับหนีจากการเกาะกุม
บุญกอบรู้สึกสนุกมือเอามากๆ ใจลึกๆเขาอยากจะใช้สองมือเกาะเอวบาง จากนั้นก็จัดการถลุงบั้นท้ายโด่งงอนด้วยบาซูก้าที่กำลังพองตัวในเป้ากางเกงเสียเหลือเกิน แต่จะกระทำแบบนั้น มันก็ดูจะโหมหักและเร่งร้อนจนเกินควร เขาจึงเดินเกมขั้นต่อไปด้วยการเลื่อนมือมารขึ้นสูงไปสัมผัสที่หน้าท้องของหญิงสาว
สัมผัสแรกที่มือขวาได้รับก็คือ…..ความราบเรียบและตึงแน่น บ่งบอกได้ว่าสาวจืดนางนี้แทบจะไม่มีไขมันส่วนเกิน อันที่จริงเธอดูจะผอมไปหน่อยเสียด้วยซ้ำ เพราะในบางครั้ง ปลายนิ้วของหนุ่มอีสานร่างล่ำก็สัมผัสถูกกระดูกซี่โครงที่แกร่งเกร็ง
บุญกอบลูบไล้หน้าท้องของหญิงสาวอยู่ครู่ใหญ่ เขาดำเนินเกมกามาอย่างเชื่องช้าและแนบเนียนจนทุกคนในรถไม่รู้สึกระแคะระคาย และก็จริงดังที่เขาคาด แม้โดนลวนลามขนาดนี้ แต่สาวขิมก็หาได้แสดงอาการขัดขืนเลยซักนิด เขาจึงเลื่อนขั้นไปที่การ…..แตะเบาๆที่ทรวงอกเต่งตึง
“ อื้อ…..”
บังเกิดเสียงครางเบาๆกับอาการกระตุกกายแรง บ่งบอกได้ว่าหมากเกมนี้ของหนุ่มอีสานร่างล่ำ น่าจะกระตุ้นต่อมสยิวของสาวขิมได้อย่างมากมาย
แม้จะมีเสื้อยืดหนาๆขวางกั้นกายา แต่บุญกอบก็รับรู้ได้ถึงความเต่งตึงของทรวงอกขนาดกลางที่กำลังสัมผัสได้เป็นอย่างดี ถึงจะไม่เต็มไม้เต็มมือเหมือนกับสาวแหวว แต่ก็แน่นกว่ามาก นับว่าเป็นสัมผัสที่เขาเฝ้ารอคอยมาเป็นเวลานาน
“ เหอ เหอ เหอ หลายปีแล้วที่ไม่ได้ขย้ำอะไรที่แน่นนิ่มมือแบบนี้ ยอดเยี่ยมสมกับเป็นของมือหนึ่งจริงๆ ”
อารมณ์หื่นกระหายของหนุ่มอีสานร่างล่ำทะยานถึงขีดสุด เขานึกอยากจะถอดกางเกงยีนส์ฟิตรัดของหญิงสาว แล้วจัดการเอาอาวุธร้ายของตนเองสอดใส่ให้สมอยาก แต่ถ้าเขาฝืนกระทำเช่นนั้นจริงๆ เขาก็คงไม่แคล้วที่จะโดนรุมประชาทัณฑ์ ด้วยยามนี้เขาและสาวขิมยังคงยืนอยู่กลางผู้คนบนรถเมล์
บุญกอบลูบคลำทรวงอกเต่งตึงอย่างแผ่วเบา เขาไม่กล้าแม้แต่ขย้ำแรงอย่างที่ตั้งใจ เพราะต้องคอยระมัดระวังสายตาของคนรอบข้าง แม้มันจะเป็นเกมกามาที่ไม่อาจไปถึงจุดสิ้นสุด แต่ก็เป็นความระทึกใจที่น่าหลงใหลไปอีกแบบ
“ อื้อหือ ตื่นเต้นดีจริงๆ รู้งี้ทำแบบนี้ไปตั้งนานแล้ว ”
บุญกอบนึกชั่ว เขาตั้งปณิธานเอาไว้ว่าต่อจากนี้เขาจะแอบลวนลามสาวบนรถเมล์อย่างน้อยอาทิตย์ละหนึ่งครั้ง แน่นอนว่าเขาไม่สำเหนียกเลยซักนิดว่าสิ่งที่เขากระทำ มันเฉียดคุกเฉียดตารางแค่ไหน เพราะคงมีสาวเพียงไม่กี่คนที่ขี้อายพอจนยอมให้บุญกอบลูบคลำกายแบบนี้
บุญกอบรู้สึกตึงแน่นที่เป้ากางเกงอย่างรุนแรง เขานึกอยากจะปลดซิปลง เพื่อปลดปล่อยอาวุธร้ายอวบใหญ่ออกมา ดังนั้นเขาจึงเหลียวมองไปรอบๆ เพื่อสำรวจดูว่าเขาเป็นจุดสนใจของใครหรือเปล่า
“ ใครแอบมองเราอยู่มั่งนะ ”
เมื่อมั่นใจว่าเขาและสาวขิมไม่ได้ถูกใครลอบมอง เขาจึงปล่อยมือที่โหนราวอย่างช้าๆ เพื่อล้วงต่ำลงไปจับที่ซิปกางเกง ขณะที่เขากำลังจะรูดมันลงมา รถเมล์คันเขื่องก็ถึงป้ายโดยพลัน
“ เอี๊ยด……”
เหมือนว่ารถเมล์จะเบรกแรงเกินไปยังไงไม่ทราบได้ แต่มันก็ส่งผลให้บุญกอบถึงกลับถลำไปข้างหน้า เพราะเขาดันปล่อยมือที่โหนราว เลยทำให้ไม่มีที่ยึดจับ แต่ยังโชคดีที่มือขวายังคงเกาะกุมทรวงอกเต่งตึงของหญิงสาวอยู่ เลยไม่ถึงขั้นต้องลงไปนอนวัดพื้น
“ ฟู่….เกือบไป ” บุญกอบเป่าลมหายใจแรงด้วยความโล่งอก แต่ในขณะที่เขากำลังสบายใจอยู่นั้นเอง สายตาของเขาก็สบกับดวงตาเล็กเรียวของสาวขิม
“ นั่นคือ….คุณบุญกอบ ใช่มั้ย ” สาวขิมเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงโทนเดียวที่ดูเยือกเย็น สีหน้าที่ฉายออกมาก็เย็นชาจนเข้าขั้นไร้ความรู้สึก ซึ่งก็นับว่าผิดปกติ โดยธรรมชาติเธอควรจะตื่นตกใจกับเหตุกามาที่เพิ่งประสบมากกว่านี้
วินาทีแรก บุญกอบพูดไม่ออก เพราะเขาไม่นึกว่าตนเองจะต้องมาเจอสถานการณ์แบบนี้ แต่พอเขาปรับอารมณ์ได้ เขาก็กล่าวทักทายสาวจืดพร้อมรอยยิ้มที่ดูแหยๆ
“ ฮะ ฮะ ฮะ สวัสดีครับ น้องขิม มาทำงานหรือครับ ”
สาวขิมไม่ตอบคำใด เธอเพียงก้มหน้าลงไปมองที่ทรวงอกเต่งตึงของตนเอง ซึ่งนั่นก็ทำให้บุญกอบมองตาม เลยทำให้หนุ่มอีสานร่างล่ำรู้ว่ามือขวาหยาบใหญ่ของตนกำลังเกาะกุมอยู่ที่ดอกบัวคู่งามอยู่
“ เอ๊ะ! ขอโทษครับ พอดี รถมันเบรกกะทันหัน ผมเลยเอื้อมมือไปหาที่จับ แต่รู้สึกว่ามันจะจับผิดไปหน่อย ” บุญกอบกล่าวแก้ตัวน้ำขุ่นๆ แน่นอนว่าแม้แต่เด็กก็ยังดูออกว่าเขาโกหก นับว่าไม่เนียนเอาซะเลย ถึงกระนั้นสาวจืดก็ยังตีหน้าเฉย พร้อมตอบกลับมาคำหนึ่งว่า….
“ ค่ะ ”
เวลาต่อมาสองหนุ่มสาวก็กลับสู่ความสงบดังเดิม ไม่มีใครพูดอะไรกับใคร ต่างฝ่ายต่างนิ่งเงียบ สาวขิมยังคงตีหน้าเฉยชา ส่วนหนุ่มอีสานร่างล่ำที่ยืนอยู่ด้านหลังดูกระสับกระส่าย เขานึกกลัวว่าสาวขิมจะเอาผิดเขามั้ย เพราะถ้าสาวเจ้านึกอยากฟ้องร้องขึ้นมา เขาคงไม่แคล้วที่จะต้องติดตะราง
“ จะทำไงดีนะ ลองเรียบๆเคียงๆดูก่อนดีกว่า ดูซิว่าน้องขิมจะโกรธเรามั้ย ”
เมื่อตัดสินใจได้ดังนั้น เขาจึงอ้าปากเพื่อจะเอ่ยถาม แต่ไม่ทันที่น้ำคำจะหลุดออกมา รถเจ้ากรรมก็ดันเบรกแรงอีกครั้งหนึ่ง
“ เอี๊ยด…..”
สามารถติดตามงานเขียน ณ.ปัจจุบันและในอนาคตของผมได้ที่เพจJalandoนักเขียนดาร์คไซด์ได้ที่ลิงค์ด้านล่างครับ
https://www.facebook.com/Jalando.darksidewriter
บุญกอบยืนประกบที่ด้านหลังของสาวขิมได้ระยะหนึ่ง โสตประสาทก็แว่วกลิ่นหอมจากเส้นผม แม้จะเพียงแผ่วบาง แต่ก็ชัดเจนพอที่จะทำให้รู้ว่าสาวเจ้าใช้แชมพูยี่ห้ออะไร
“ อืม…..กลิ่นหอมดีจริงๆ ”
เพียงแค่นี้ บุญกอบก็เริ่มรู้สึกเคลิบเคลิ้มบ้างแล้ว ดวงตาเหลือบมองไปที่ต้นคอขาวผ่องอยู่ไม่ขาด ความขาวระดับโอโม่เบื้องหน้า กระตุ้นเร้าให้หนุ่มอีสานร่างล่ำนึกอยากเอื้อมมือไปลูบไล้เป็นอย่างยิ่ง แต่เขาจะรีบร้อนกระทำการไม่ได้ เพราะในยามนี้เขาและสาวขิมกำลังยืนอยู่บนรถเมล์ที่เนืองแน่นไปด้วยผู้คน
“ ใจเย็นๆ ไอ้บุญกอบ เอ็งอย่ารีบร้อน เดี๋ยวไก่มันจะตื่น ช้าๆได้พร้าหลายเล่มงามโว้ย ”
หลังจากที่หนุ่มอีสานร่างล่ำเตือนใจตนเอง เขาจึงสะกดกลั้นความพลุ่งพล่านทางจิตใจ และเหลือบมองไปรอบๆ เพื่อดูท่าทีของผู้คน
“ ฮืม…..ถึงแม้จะมีคนลงจากรถไปหลายคน แต่คนใหม่ๆที่ขึ้นมาก็มีจำนวนไม่แพ้กัน คนเยอะแบบนี้ เราคงหาโอกาสสัมผัสน้องขิมได้ยาก ” บุญกอบขบคิด สายตาแฝงแววขุ่นเคือง
ขณะที่บุญกอบกำลังเค้นสมองขบคิดอย่างหนักหน่วง หนุ่มอีสานร่างล่ำก็พลันนึกอะไรขึ้นมาได้
“ เอ๊ะ! เดี๋ยวนะ แล้วทำไม เราไม่พลิกวิกฤติให้เป็นโอกาสล่ะ ”
เหตุที่หนุ่มอีสานร่างล่ำคิดแบบนั้น เพราะเขารู้สึกว่าผู้คนที่อัดแน่นกันในรถเมล์ น่าจะช่วยอำพรางสายตาในช่วงที่เขาคิดจะเอื้อมมือไปสัมผัสเนื้อเนียนๆ และเขาค่อนข้างมั่นใจว่า…..สาวขิมคงจะไม่กล้าโวยวาย เพราะเธอดูเป็นคนขี้อาย
“ หึ หึ หึ ดีล่ะ ลงมือเลยดีกว่า ”
เมื่อคิดได้ดังนั้น บุญกอบก็เอื้อมมือขวาไปแตะที่ต้นขาของสาวขิมอย่างแผ่วเบา โดยจงใจให้โดนแค่หลังมือหยาบใหญ่ สิ่งที่ตอบกลับมาก็คือ…..ท่าทีที่นิ่งเฉยของหญิงสาว
“ หึ หึ หึ…..ยังเฉยอยู่ได้ สงสัยน้องขิมจะคิดว่านี่คือความบังเอิญล่ะซิ ” บุญกอบซ่อนยิ้มไว้ภายใน
บุญกอบเริ่มขยับหลังมือไปสัมผัสต้นขาของสาวขิมอีกครั้ง คราวนี้การสัมผัสดูจะหนักหน่วงกว่าครั้งก่อนๆ มันมากพอที่จะทำให้กายเพรียวได้ส่วนของสาวเจ้ากระตุกแผ่วๆ
บุญกอบเริ่มเปลี่ยนลีลามาเป็นการใช้หลังมือลากเลื้อยไปมาที่ต้นขาของหญิงสาวอย่างจงใจ ทว่าสาวขิมก็ยังนิ่งเฉย เขาจึงเลื่อนหลังมือให้ลากสูง จากต้นขาเดินทางมาถึงโคนขา และสถานีต่อไปก็คือ……บั้นท้ายงอนงาม
“ อึ้ก…..”
ทันทีที่นวลเนื้อถูกสัมผัส สาวขิมก็สะอึกเล็กน้อย แต่เธอยังคงยืนนิ่งตามที่บุญกอบคาด นั่นทำให้หนุ่มอีสานร่างล่ำย่ามใจจนถึงขั้นพลิกฝ่ามือมาขย้ำบั้นท้ายแน่นๆเต็มแรง
“ ฮือ…..”
กายเพรียวได้ส่วนของหญิงสาวสั่นสะท้านเล็กน้อย พร้อมบังเกิดเสียงครางในลำคอแผ่วเบา แต่เธอก็ไม่กล้าที่จะหันกลับมาดู เธอจึงไม่รู้เลยว่าใครคือเจ้าของมือมารที่กำลังขย้ำบั้นท้ายของตนเอง
บุญกอบรู้สึกมันมือเป็นอย่างยิ่ง เพราะมันให้รสสัมผัสที่นิ่มแน่นเป็นที่สุด แถมเจ้าของเนื้อเนียนก็ยังไม่ได้แสดงอาการขัดขืนแต่ประการใด เลยยิ่งทำให้หนุ่มอีสานร่างล่ำย่ามใจขึ้นไปอีกระดับ
“ หึ หึ หึ น้องขิมไม่ขืนกาย แถมยังแอ่นบั้นท้ายงอนๆให้เราบีบเคล้นแบบนี้ สงสัยจะทะยานอยากมิใช่น้อย ”
เมื่อคิดได้ดังนั้น หนุ่มอีสานร่างล่ำก็ยกระดับการลวนลามเป็นการเลื่อนมือไปลูบไล้ที่เอวเว้าคอดของหญิงสาวร่างสวย
“ อื้อ….”
เสียงครวญเบาๆดังออกมาจากปากของสาวขิม กายเพรียวบางก็ส่ายเล็กน้อยเป็นนัยว่าอยากจะขยับหนีจากการเกาะกุม
บุญกอบรู้สึกสนุกมือเอามากๆ ใจลึกๆเขาอยากจะใช้สองมือเกาะเอวบาง จากนั้นก็จัดการถลุงบั้นท้ายโด่งงอนด้วยบาซูก้าที่กำลังพองตัวในเป้ากางเกงเสียเหลือเกิน แต่จะกระทำแบบนั้น มันก็ดูจะโหมหักและเร่งร้อนจนเกินควร เขาจึงเดินเกมขั้นต่อไปด้วยการเลื่อนมือมารขึ้นสูงไปสัมผัสที่หน้าท้องของหญิงสาว
สัมผัสแรกที่มือขวาได้รับก็คือ…..ความราบเรียบและตึงแน่น บ่งบอกได้ว่าสาวจืดนางนี้แทบจะไม่มีไขมันส่วนเกิน อันที่จริงเธอดูจะผอมไปหน่อยเสียด้วยซ้ำ เพราะในบางครั้ง ปลายนิ้วของหนุ่มอีสานร่างล่ำก็สัมผัสถูกกระดูกซี่โครงที่แกร่งเกร็ง
บุญกอบลูบไล้หน้าท้องของหญิงสาวอยู่ครู่ใหญ่ เขาดำเนินเกมกามาอย่างเชื่องช้าและแนบเนียนจนทุกคนในรถไม่รู้สึกระแคะระคาย และก็จริงดังที่เขาคาด แม้โดนลวนลามขนาดนี้ แต่สาวขิมก็หาได้แสดงอาการขัดขืนเลยซักนิด เขาจึงเลื่อนขั้นไปที่การ…..แตะเบาๆที่ทรวงอกเต่งตึง
“ อื้อ…..”
บังเกิดเสียงครางเบาๆกับอาการกระตุกกายแรง บ่งบอกได้ว่าหมากเกมนี้ของหนุ่มอีสานร่างล่ำ น่าจะกระตุ้นต่อมสยิวของสาวขิมได้อย่างมากมาย
แม้จะมีเสื้อยืดหนาๆขวางกั้นกายา แต่บุญกอบก็รับรู้ได้ถึงความเต่งตึงของทรวงอกขนาดกลางที่กำลังสัมผัสได้เป็นอย่างดี ถึงจะไม่เต็มไม้เต็มมือเหมือนกับสาวแหวว แต่ก็แน่นกว่ามาก นับว่าเป็นสัมผัสที่เขาเฝ้ารอคอยมาเป็นเวลานาน
“ เหอ เหอ เหอ หลายปีแล้วที่ไม่ได้ขย้ำอะไรที่แน่นนิ่มมือแบบนี้ ยอดเยี่ยมสมกับเป็นของมือหนึ่งจริงๆ ”
อารมณ์หื่นกระหายของหนุ่มอีสานร่างล่ำทะยานถึงขีดสุด เขานึกอยากจะถอดกางเกงยีนส์ฟิตรัดของหญิงสาว แล้วจัดการเอาอาวุธร้ายของตนเองสอดใส่ให้สมอยาก แต่ถ้าเขาฝืนกระทำเช่นนั้นจริงๆ เขาก็คงไม่แคล้วที่จะโดนรุมประชาทัณฑ์ ด้วยยามนี้เขาและสาวขิมยังคงยืนอยู่กลางผู้คนบนรถเมล์
บุญกอบลูบคลำทรวงอกเต่งตึงอย่างแผ่วเบา เขาไม่กล้าแม้แต่ขย้ำแรงอย่างที่ตั้งใจ เพราะต้องคอยระมัดระวังสายตาของคนรอบข้าง แม้มันจะเป็นเกมกามาที่ไม่อาจไปถึงจุดสิ้นสุด แต่ก็เป็นความระทึกใจที่น่าหลงใหลไปอีกแบบ
“ อื้อหือ ตื่นเต้นดีจริงๆ รู้งี้ทำแบบนี้ไปตั้งนานแล้ว ”
บุญกอบนึกชั่ว เขาตั้งปณิธานเอาไว้ว่าต่อจากนี้เขาจะแอบลวนลามสาวบนรถเมล์อย่างน้อยอาทิตย์ละหนึ่งครั้ง แน่นอนว่าเขาไม่สำเหนียกเลยซักนิดว่าสิ่งที่เขากระทำ มันเฉียดคุกเฉียดตารางแค่ไหน เพราะคงมีสาวเพียงไม่กี่คนที่ขี้อายพอจนยอมให้บุญกอบลูบคลำกายแบบนี้
บุญกอบรู้สึกตึงแน่นที่เป้ากางเกงอย่างรุนแรง เขานึกอยากจะปลดซิปลง เพื่อปลดปล่อยอาวุธร้ายอวบใหญ่ออกมา ดังนั้นเขาจึงเหลียวมองไปรอบๆ เพื่อสำรวจดูว่าเขาเป็นจุดสนใจของใครหรือเปล่า
“ ใครแอบมองเราอยู่มั่งนะ ”
เมื่อมั่นใจว่าเขาและสาวขิมไม่ได้ถูกใครลอบมอง เขาจึงปล่อยมือที่โหนราวอย่างช้าๆ เพื่อล้วงต่ำลงไปจับที่ซิปกางเกง ขณะที่เขากำลังจะรูดมันลงมา รถเมล์คันเขื่องก็ถึงป้ายโดยพลัน
“ เอี๊ยด……”
เหมือนว่ารถเมล์จะเบรกแรงเกินไปยังไงไม่ทราบได้ แต่มันก็ส่งผลให้บุญกอบถึงกลับถลำไปข้างหน้า เพราะเขาดันปล่อยมือที่โหนราว เลยทำให้ไม่มีที่ยึดจับ แต่ยังโชคดีที่มือขวายังคงเกาะกุมทรวงอกเต่งตึงของหญิงสาวอยู่ เลยไม่ถึงขั้นต้องลงไปนอนวัดพื้น
“ ฟู่….เกือบไป ” บุญกอบเป่าลมหายใจแรงด้วยความโล่งอก แต่ในขณะที่เขากำลังสบายใจอยู่นั้นเอง สายตาของเขาก็สบกับดวงตาเล็กเรียวของสาวขิม
“ นั่นคือ….คุณบุญกอบ ใช่มั้ย ” สาวขิมเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงโทนเดียวที่ดูเยือกเย็น สีหน้าที่ฉายออกมาก็เย็นชาจนเข้าขั้นไร้ความรู้สึก ซึ่งก็นับว่าผิดปกติ โดยธรรมชาติเธอควรจะตื่นตกใจกับเหตุกามาที่เพิ่งประสบมากกว่านี้
วินาทีแรก บุญกอบพูดไม่ออก เพราะเขาไม่นึกว่าตนเองจะต้องมาเจอสถานการณ์แบบนี้ แต่พอเขาปรับอารมณ์ได้ เขาก็กล่าวทักทายสาวจืดพร้อมรอยยิ้มที่ดูแหยๆ
“ ฮะ ฮะ ฮะ สวัสดีครับ น้องขิม มาทำงานหรือครับ ”
สาวขิมไม่ตอบคำใด เธอเพียงก้มหน้าลงไปมองที่ทรวงอกเต่งตึงของตนเอง ซึ่งนั่นก็ทำให้บุญกอบมองตาม เลยทำให้หนุ่มอีสานร่างล่ำรู้ว่ามือขวาหยาบใหญ่ของตนกำลังเกาะกุมอยู่ที่ดอกบัวคู่งามอยู่
“ เอ๊ะ! ขอโทษครับ พอดี รถมันเบรกกะทันหัน ผมเลยเอื้อมมือไปหาที่จับ แต่รู้สึกว่ามันจะจับผิดไปหน่อย ” บุญกอบกล่าวแก้ตัวน้ำขุ่นๆ แน่นอนว่าแม้แต่เด็กก็ยังดูออกว่าเขาโกหก นับว่าไม่เนียนเอาซะเลย ถึงกระนั้นสาวจืดก็ยังตีหน้าเฉย พร้อมตอบกลับมาคำหนึ่งว่า….
“ ค่ะ ”
เวลาต่อมาสองหนุ่มสาวก็กลับสู่ความสงบดังเดิม ไม่มีใครพูดอะไรกับใคร ต่างฝ่ายต่างนิ่งเงียบ สาวขิมยังคงตีหน้าเฉยชา ส่วนหนุ่มอีสานร่างล่ำที่ยืนอยู่ด้านหลังดูกระสับกระส่าย เขานึกกลัวว่าสาวขิมจะเอาผิดเขามั้ย เพราะถ้าสาวเจ้านึกอยากฟ้องร้องขึ้นมา เขาคงไม่แคล้วที่จะต้องติดตะราง
“ จะทำไงดีนะ ลองเรียบๆเคียงๆดูก่อนดีกว่า ดูซิว่าน้องขิมจะโกรธเรามั้ย ”
เมื่อตัดสินใจได้ดังนั้น เขาจึงอ้าปากเพื่อจะเอ่ยถาม แต่ไม่ทันที่น้ำคำจะหลุดออกมา รถเจ้ากรรมก็ดันเบรกแรงอีกครั้งหนึ่ง
“ เอี๊ยด…..”
สามารถติดตามงานเขียน ณ.ปัจจุบันและในอนาคตของผมได้ที่เพจJalandoนักเขียนดาร์คไซด์ได้ที่ลิงค์ด้านล่างครับ
https://www.facebook.com/Jalando.darksidewriter
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ