ตลกร้ายใต้สะดือ

9.7

เขียนโดย Jalando

วันที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 15.03 น.

  45 ตอน
  9 วิจารณ์
  53.24K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 8 มกราคม พ.ศ. 2562 15.17 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

22) จัดหนักให้สาวแหวว

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ตอนที่ 22 จัดหนักให้สาวแหวว

 

      เสียงครางของสาวน้อยดังขึ้นเรื่อยๆ กายบางก็ขยับโยกเบาๆตามจังหวะการทิ่มแทง ทุกอาการล้วนเป็นปฏิกิริยาตอบสนองต่อการรุกราน อันสร้างความเพลิดเพลินให้แก่ผู้กระทำกามกิจได้เป็นอย่างดี 

 

“ อู้วๆ…..เยี่ยมจริงๆ ขนาดสลบ เอวยังพลิ้วได้ขนาดนี้ สุดยอดไปเลย นังแหวว ” 

        

 

       ขณะที่บุญกอบกำลังบดบี้ที่ช่วงล่าง สายตาก็เหลือบไปเห็นภูเขาไฟคู่งามที่ส่ายไปมาตามจังหวะการเคลื่อนกาย 

 

“ หึ หึ หึ….ล่อตาล่อใจเสียเหลือเกิน ”   

        

 

        บุญกอบพูดจบ เขาก็เอื้อมมือไปเคล้นคลึงทรวงอกอวบใหญ่คู่นั้นเบาๆ มันให้สัมผัสนิ่มแน่นและหยุ่นยวบในตัวเอง 

 

“ ดีมาก ยังเข้ารูปเข้ารอย ไม่เหลวและหย่อนคล้อยเท่าใดนัก ” 

       

 

       บุญกอบใช้สองมือเคล้นคลึงเนินเนื้องามด้วยความเมามัน ส่วนช่วงล่างก็ยังบดบี้ขยี้ถูไถไปเรื่อยๆ บางครั้งก็ค้างคาแล้วหมุนเอวไปมา เพื่อบังคับท่อนลำอวบใหญ่ให้คว้านลึก 

 

“ อา…..ซี้ดๆ…..ฮ้า……” สาวแหววเชิดหน้าสูง ปากห่อสลับซู้ดปากราวกินของเผ็ด เรือนกายบิดส่าย บั้นเอวโยกขยับไปมา เพื่อให้สอดประสานกับการสอดใส่ของบุญกอบ 

        

 

         สิ่งที่ปรากฏต่อหน้าบุญกอบทำให้อารมณ์แทบเตลิด เพราะมันเอ๊กซ์แตกซะจนชวนกระเส่า เมื่อมันเร่งเร้าขนาดนี้ จึงเลี่ยงไม่ได้ที่เขาจะโยกบั้นเอวให้ถี่ขึ้น 

 

“ อ้า…ขอเร็วอีกนิดนะ น้องแหวว ” 

         

 

         แม้จะโดนรุกเร้าในจังหวะที่หนักขึ้น สาวแหววก็ไม่ได้ตอบคำใด เพราะเธอยังคงสิ้นสติ สิ่งเดียวที่ตอบสนองต่อการกระทำก็คือ…..เสียงครวญดังในลำคอ 

 

“ ฮ้า….ซี้ด….”  

         

 

        บุญกอบเริ่มโยกบั้นเอวให้หนักขึ้น และดูเหมือนว่ามันจะหนักขึ้นตามอารมณ์ที่เร่าร้อน เมื่อใกล้ถึงจุดแตกหัก เขาก็กระชากปมผ้าขนหนูออกมาอย่างรุนแรง ส่งผลให้อาภรณ์ผืนบางหลุดจากกายขาวผ่องในทันที 

 

“ ว้าว…...นั่น…..มัน ”  

         

 

        บุญกอบอ้าปากกว้าง ตาค้าง เมื่อได้พบกับหนองโพคู่งามที่เต่งตึง มันเป็นภูเขาไฟที่มีขนาดใหญ่เกินตัว แถมยังขาวผ่องและเนียนใสจนเห็นเส้นเลือดฝอยปรากฏอยู่จางๆ ถ้าตั้งใจเพ่งมองให้ดีๆ 

        

 

        บุญกอบสั่นอยู่นาน แต่พอเขาเริ่มตั้งสติได้ เขาก็ค่อยๆเอื้อมมือไปแตะที่หนองโพอวบใหญ่เบาๆ 

 

“ โห…..นี่มันคือความจริงหรือความฝันกันนะ ทำไมเราถึงโชคดีขนาดนี้ ” 

        

 

         ขณะที่บุญกอบนึกขอบคุณฟ้าดินอยู่นั้นเอง เขาก็พลันรู้สึกตัวและสำเหนียกถึงสิ่งที่ควรกระทำต่อไป 

 

“ เอ๊ะ เดี๋ยวนะ เวลานี้มันไม่ใช่เวลามานั่งเอ๋อแบบนี้ มันต้องเผด็จศึกซิ ” 

         

 

          เมื่อคิดได้ดังนั้น บุญกอบจึงก้มหน้าลงไปซุกไซ้ที่เนินถันคัพ D สองมือหยาบกร้านก็เคล้นคลึงไปมา ปากก็ตะโบมดูดเลียสลับขบกัดที่ปลายติ่งเต้าอันปูดโปน 

 

“ อื้อ…..” 

         

 

         สาวน้อยร่างเล็กดูจะครางดังขึ้น คราวนี้กระแสที่เปล่งออกมาค่อนข้างที่จะเต็มเสียง แถมกายเพรียวบางยังกระตุกแรง คาดเดาได้อย่างไม่ยากเย็นว่ามันน่าจะเกิดขึ้นเพราะ…..ฤทธิ์ปากของบุญกอบ 

         

 

        บุญกอบรู้สึกเมามันในอารมณ์เป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะจังหวะที่ห่อปากดูด มันให้ความรู้สึกที่คล้ายว่าเขาจะกลับกลายเป็นเด็กทารกอีกครั้ง แต่ไม่ว่าโลกจะผันแปรไปเช่นไร เขาก็ยังไม่ลืมเลือนขยับแก่นกายที่ค้างคา 

 

“ ฮ้า….สุดยอดจริงๆ น้องแหวว ” 

         

 

         บุญกอบกล่าวชมไม่ขาดปาก ปากลิ้นก็ระดมจู่โจมไปทั่วซอกคอเนียน พวงแก้มนิ่มๆ บางครั้งก็หันมาประกบปากจูบอย่างดูดดื่ม ทุกท่วงท่าและลีลาที่โหมกระหน่ำ ล้วนทำให้ความหื่นดันตัวถึงขีดสุด  

 

“ โอ้….โอ้ โอ้ กูใกล้จะทนไม่ไหวแล้ว ” 

          

 

         บุญกอบอยากจะยื้อเกมรักให้ยาวนานไปมากกว่านี้ แต่ด้วยความเอ๊กส์แตกของสาวสวย เลยทำให้ทำนบทางอารมณ์ของหนุ่มอีสานร่างล่ำพังทลาย สุดท้ายเขาก็จำต้องปิดท้ายด้วยการระเบิดความคลุ้มคลั่งออกมาอย่างรุนแรง 

 

“ โอ๊ย…..สุดแล้วโว้ย ” 

          

 

         บั้นเอวของบุญกอบโยกหนัก มันรัวเร็วซะจนทำให้ร่างบางของหญิงสาวสั่นสะเทือน และเมื่อถึงจุดสุดท้ายของความอดกลั้น บุญกอบก็กระตุกกายแรง 

 

“ อ้า อ้า…..โอ้ว…..” 

          

 

         บุญกอบคำรามดัง เขากดแก่นกายแนบแน่น เพื่อให้อาวุธร้ายประจำกายได้ระเบิดอารมณ์ถึงขีดสุด เขาปลดปล่อยอยู่เกือบสิบครั้ง ก็ถึงวาระที่ต้องปล่อยวาง 

 

“ ฮ้า…..สาแก่ใจที่สุดเลย ” 

 

“ แฮ่กๆ…..”  

          

 

          บุญกอบหอบเหนื่อยอยู่นานพอดู เพราะเขาเสร็จสมถึงสองครั้งในเวลาที่ใกล้เคียง แถมยังเป็นการตะกายสู่สวรรค์ในยามที่กำลังมึนเมาสุรา เลยยิ่งทำให้กินพลังกายมากขึ้นอีกหลายเท่าตัว      

         

 

         บุญกอบถอนแก่นกายออกมา พร้อมหยัดยืนอย่างยากลำบาก พอตั้งหลักได้ เขาก็เหลือบมองไปที่ร่างเล็กบางของหญิงสาวที่นอนทอดกายอยู่เบื้องหลัง มันเป็นอาหารตาที่ยั่วเย้าจนเขานึกอยากจะทรุดตัวลงไปกระหน่ำอัดอีกซักครั้งสองครั้ง ด้วยร่างนั้นทั้งขาวผ่องและสมส่วน แถมซาลาเปาคู่โตก็ยังตั้งตระหง่านท้าทายสายตาอยู่รำไร 

 

“ อืม….เห็นแล้ว อยากต่อรอบสองเลย น่าเสียดายที่เราหมดแรงแล้ว ” 

          

 

       เมื่อคิดได้ดังนั้น บุญกอบก็ถึงวาระที่ต้องจรลา เขาเดินโซซัดโซเซออกจากห้อง พร้อมปล่อยให้ร่างเปลือยที่ขาวผ่องของสาวเจ้านอนแผ่หลาอยู่กลางพื้นห้องต่อไป 

 

………………..

           

        บุญกอบหลับลึกอย่างสบายอารมณ์ในห้องแคบๆ แต่พอเขาลืมตาขึ้นมา สัมผัสแรกที่พบเจอก็คือ….อาการปวดหัวอย่างรุนแรง ซึ่งเป็นแบบนี้ทุกครั้งในยามที่เขาร่ำสุรา 

 

“ อู้ย…..ปวดหัวเหลือเกิน ” 

            

 

         หนุ่มอีสานร่างล่ำยกมือขึ้นกุมขยับ พร้อมเคล้นคลึงเบาๆ เพื่อหวังบรรเทาอาการปวด แต่มันก็ไม่ดีขึ้นเลยซักนิด เขาจึงเเลไปรอบๆ ไม่นานนักเขาก็พบกับขวดเหล้าที่วางอยู่ข้างตัว 

 

“ โอ้….เจอแล้ว แบบนี้มันต้องถอนให้หายปวดหัว ” 

           

 

        เมื่อคิดได้ดังนั้น หนุ่มอีสานร่างล่ำก็ยกขวดเหล้าที่เหลือน้ำเมาอยู่เล็กน้อยขึ้นกระดกดื่ม ทันทีที่น้ำขาวหลั่งไหลลงลำคอ เขาก็รู้สึกร้อนวูบวาบไปทั่วทั้งกาย กำลังวังชาและสติเริ่มคืนกลับมา พร้อมอาการปวดหัวที่สลายไปโดยสิ้นเชิง 

 

“ ฟู่….ค่อยยังชั่ว ค่อยหายปวดหัวหน่อย ” 

          

 

        พอบุญกอบเริ่มฟื้นตัว เขาก็ค่อยๆยันกายลุกขึ้นยืน ทันทีที่ยืนเต็มสองเท้า เขาก็เกิดอาการเวียนศีรษะอย่างรุนแรง คล้ายโลกทั้งใบกำลังหมุนรอบตัว มันทำให้หนุ่มอีสานร่างล่ำต้องปรับโฟกัสอยู่นานพอดู กว่าจะกลับคืนสู่สมดุลของตนเอง 

 

“ เฮ้อ…..เป็นแบบนี้ทุกทีเลย ” 

          

 

       บุญกอบรู้สึกเหนื่อยใจที่ต้องตกอยู่ในสภาวะแบบนี้ทุกเช้า แต่จะทำไงได้ ในเมื่อน้ำทองสีอำพัน มันสรรค์สร้างความสุขสันต์ให้แก่เขาอย่างมากมาย เขาจึงไม่อาจตัดใจจากมันไปได้ง่ายๆ สุดท้ายเขาก็จำใจที่จะย่างเข้าสู่ห้องน้ำ เพื่อชำระล้างร่างกายและเตรียมไปทำงานที่ภัตตาคารหรูย่านกลางกรุง 

 

………………..

          

        บุญกอบทำกิจทุกอย่างเสร็จสรรพ เขาก็เดินไปปากซอย เพื่อไปสถานที่ทำงานด้วยรถเมล์ เขานึกอยากมีมอเตอร์ไซด์ซักคัน แต่คงจะเกินกำลัง ถ้าเขายังเมาทุกวันแบบนี้ 

 

“ เฮ้อ….อยากได้มอเตอร์ไซด์มาขี่ซักคัน แต่ไม่มีทรัพย์ เพราะทำงานไปเท่าไหร่ เงินก็ลงขวดเหล้าซะหมด ” 

          

 

        เมื่อขาดปัจจัยสำคัญ บุญกอบจึงต้องทำใจโหนรถเมล์ที่มีผู้คนหนาแน่นต่อไป และในขณะที่เขากำลังยืนปล่อยใจให้ล่องลอยไปตามสายลม สายตาก็เหลือบไปเห็นสาวนางหนึ่งซึ่งยืนอยู่ไม่ห่างจากจุดที่เขาประจำ 

 

“ เอ๊ะ!.....นั่นมัน…..น้องขิมนี่นา ” 

          

 

         สาวนางที่บุญกอบประสบเป็นสาวร่างสูงเพรียวได้สัดส่วน เธอซ่อนตัวตนอยู่ในชุดเสื้อยืดหลวมๆสีขาวและกางเกงยีนส์สีเทา รองเท้าผ้าใบสีแดง โดยรวมเป็นการแต่งตัวที่ดูธรรมดาเอามากๆ แถมใบหน้าของเธอก็ยังคงความจืดสนิทอย่างเหนียวแน่นจนไม่มีอะไรสะดุดตา ทว่ากางเกงยีนส์ที่เธอสวมใส่กลับสุดแสนที่จะฟิตรัดจนเผยให้เห็นทรวดทรงที่สมบูรณ์และสวยงาม 

 

“ ว้าว…..แม้น้องขิมจะไม่สวยเท่าไหร่ แต่เชฟช่วงล่างของเธอ……ช่างน่าฟัดเสียเหลือเกิน ” บุญกอบนึกหื่นอยู่ในใจ สายตาจับจ้องไปที่สะโพกผายและบั้นท้ายงอนๆของหญิงสาวไม่วางตา 

          

 

         บุญกอบแอบจับจ้องอยู่ระยะหนึ่ง ดูเหมือนว่าเธอจะไม่รู้สึกตัวเลยซักนิดว่าตนเองกำลังตกเป็นเป้าสายตา และเมื่อรถเมล์คันเขื่องจอดสนิท ผู้คนก็พากันทยอยลงไปบางส่วน ส่งผลให้บุญกอบสามารถเขยิบเข้ามาใกล้สาวน้อยหน้าจืดที่ยืนใจลอยอยู่ไม่ห่าง 

 

“ เยี่ยมมาก เราเข้าประชิดตัวน้องขิมได้แล้ว ต่อจากนี้ เราจะทำยังไงต่อดีนะ ” บุญกอบนึกกระหยิ้มยิ้มย่องในใจ สายตาจับจ้องไปทั่วเรือนกายที่ทรงสัดส่วนสมบูรณ์

 

 

สามารถติดตามงานเขียน ณ.ปัจจุบันและในอนาคตของผมได้ที่เพจJalandoนักเขียนดาร์คไซด์ได้ที่ลิงค์ด้านล่างครับ

https://www.facebook.com/Jalando.darksidewriter

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณชอบนิยายเรื่องนี้แค่ไหน

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา