ตลกร้ายใต้สะดือ
เขียนโดย Jalando
วันที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 15.03 น.
แก้ไขเมื่อ 8 มกราคม พ.ศ. 2562 15.17 น. โดย เจ้าของนิยาย
17) อุ่นไอรักในห้องร้อน
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความตอนที่ 17 อุ่นไอรักในห้องร้อน
“ ปัง ”
เสียงเนื้อกระทบผนังดังกังวาน แต่ถ้าพิจารณากันให้ดีๆ กระแสเสียงเสียงนั้นดูจะไม่ค่อยดังเท่าใดนัก จึงเป็นที่มั่นใจได้ว่ามันน่าจะไม่แว่วไปกระทบโสตประสาทของเพื่อนซี้ผิวหมึกที่รออยู่ข้างนอก ทว่าความแรงของมันก็มากพอที่จะทำให้หญิงสาวร่างเพรียวรู้สึกสะอึก
“ อึ้ก ”
สาวขิมตกใจเป็นอันมาก ด้วยนี่เป็นครั้งแรกที่มีชายหนุ่มเข้าประชิดกาย ซึ่งมันก็ใกล้มากพอที่จะทำให้เธอได้กลิ่นเหงื่อของชายผู้อุกอาจไปแบบเต็มทรวง และในจังหวะที่สาวเจ้ากำลังอ้าปาก เธอก็ถูกบุญกอบขัดขวางด้วยการเข้าประกบจูบอย่างรวดเร็ว
“ อื้อ…..”
สาวจืดอุทานด้วยกระแสที่ไม่ต่างอะไรจากเสียงกระซิบ และในขณะที่เธอตั้งตัวไม่ถูกอยู่นั้นเอง เจ้าอนาคอนด้าอวบใหญ่ก็พุ่งเสยขึ้นมาชนกับของสงวนใต้ร่มผ้าเข้าอย่างจัง
“ อ้า…..”
สาวจืดครางเบาๆ ดวงตาเล็กหรี่พองโตจนสุดขอบเขตที่มันจะกระทำได้ กายเพรียวบางสั่นสะท้าน แต่หนุ่มร่างล่ำยังไม่หยุดยั้งการรุกรานแต่เพียงเท่านี้ เขายังระดมสร้างความเสียวสยิวให้กับหญิงสาวต่อไปด้วยการเอื้อมมือไปขย้ำทรวงอกคู่งามที่ใหญ่เกินตัว
“ ฮืม….” สาวขิมฮัมเบาๆด้วยอาการที่คล้ายพึงพอใจ สองมือบางยกขึ้นมาจับหัวไหล่แกร่งทั้งสองข้างของหนุ่มภูธรร่างล่ำ
บุญกอบยังคงระดมเพลงจูบที่เร่าร้อนใส่สาวขิมอย่างต่อเนื่อง สองมือหยาบกร้านแบบชนชั้นแรงงานก็เคล้นคลึงหนองโพตูมที่เต่งตึงอยู่ตลอด ส่วนช่วงเอวก็ส่ายสลับโยกไปมา เพื่อขับส่งให้อนาคอนด้าอวบใหญ่ได้เสียดสีกับเนินเนื้อใต้ร่มผ้าที่อวบอูมอย่างเต็มที่
สาวขิมยอมรับว่าตั้งแต่เกิดมา เธอไม่เคยพบพานอะไรที่ลุ้นระทึกถึงเพียงนี้ มันเป็นความตื่นเต้นที่ผสมผสานกับความสุขสมอันยากจะบรรยาย ความหรรษานั้นช่างเย้ายวนจนทำให้เธอลืมเลือนไปว่าที่นอกห้องลองเสื้อผ้ามี ร.ป.ภ.ผิวหมึกนั่งรออยู่
บุญกอบรู้สึกหื่นจับจนหยุดไม่อยู่ แม้ว่าเขาเพิ่งจะผ่านเกมรักกับนายสาวสุดเซ็กซี่มาหมาดๆ แต่เขากลับอารมณ์ขึ้นอย่างรุนแรง เมื่อได้พบเจอกับเรือนร่างที่สมบูรณ์และสดใหม่ของหญิงสาวเบื้องหน้า
“ อืม…..ดูจากอาการของเจ้าหล่อน ท่าทางจะยังไม่เคยลองลิ้มลองรักกับใคร แถมเธอยังดูสดใหม่และเนียนแน่น ไม่ว่าจะเป็นความเต่งตึงของทรวงอก ความแน่นกระชับของผิวหนัง ไม่รู้ว่ากูทำบุญมาด้วยอะไร ถึงได้พบไม้งามถึงสองต้นในวันเดียวกันแบบนี้ ”
ระหว่างที่บุญกอบนึกขอบคุณต่อฟ้าดิน ดวงตาของเขาก็เหลือบแลไปยังเสื้อกี่เพ้าอันรัดเข้ารูปของหญิงสาว เพื่อหาทางปลดกระดุม แต่จนแล้วจนรอด เขาก็หากระดุมไม่เจอ
“ เอ๋!....กระดุมมันอยู่ตรงไหนวะ ถ้าหาไม่เจอ แล้วกูจะถอดเสื้อ เพื่อดูเนื้อในของเจ้าหล่อนยังไงกันนะ ”
บุญกอบเริ่มร้อนรน ในขณะที่เขากำลังงมหาทางออกอยู่นั้นเอง เสียงของนายโมทย์ก็ดังขึ้น
“ เฮ้ย เสร็จยังวะ ไอ้บุญกอบ เดี๋ยวไปประจำตำแหน่งสาย พวกเราจะซวยไม่ใช่น้อย ”
บุญกอบตื่นตกใจจนเหงื่อไหลโทรมกาย แต่เพื่อไม่ให้เพื่อนซี้นึกสงสัย เขาจึงรีบตอบกลับไปด้วยเสียงที่พยายามบังคับไม่ให้สั่น
“ ใกล้แล้ว อีกห้านาที ”
ข้างนอกเงียบไปประมาณอึดใจ จากนั้นเสียงของนายโมทย์ก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง
“ เออ…..รีบๆเข้าล่ะ ไอ้บุญกอบ ”
คำตอบของเพื่อนซี้ผิวหมึก ทำให้บุญกอบตระหนักได้ว่า…..ในยามนี้ เขาไม่เหลือเวลาที่จะลิ้มลองอาหารจานเด็ดซึ่งอยู่ตรงหน้าอย่างละเมียดละไมอีกต่อไป ครั้นจะหักหาญ เพื่อปิดเกมแบบรวดเร็ว เขาก็น่าจะกระทำการไม่สำเร็จ เพราะเวลาที่มีอยู่มันจำกัดเกินไป
“ เอาไงดีนะ ดูจากเวลา เราน่าจะจัดการน้องขิมแบบเด็ดขาดไม่ได้ แต่จะปล่อยไปทั้งอย่างนี้ มันก็ชวนให้รู้สึกแน่นอกเสียเปล่าๆ ทำไงดี ”
ในภาวะที่ต้องแข่งกับเวลา สองหนุ่มสาวมองตากันแน่วนิ่งอย่างมีนัยยะ ใบหน้าเล็กแหลมที่ขาวซีดของสาวขิมพลันดูสดสวยขึ้นมาทันตาเห็น ด้วยมีสีเลือดฝาดตามวัยสาวแผดไปทั่วเรียวหน้า ดวงตาเล็กหรี่ก็กลับกลายเป็นหยาดเยิ้ม เปล่งประกายอย่างประหลาดจนชวนให้ค้นหา ส่วนปากหนาๆที่อวบอิ่มก็เผยอออกมาเล็กน้อย เป็นอาการที่คล้ายจะพูด แต่ก็ไม่พูด
บุญกอบอยากจะเขกหัวตัวเองซักล้านที โทษฐานที่บุญมี แต่กลับมีกรรมมาบัง และในระหว่างที่เขากำลังจะยกมือขึ้น เพื่อลงโทษตัวเองให้สาสมกับความหงุดหงิดงุ่นง่านที่อัดแน่นอยู่ในจิตใจ เขาก็พลันหาทางออกของเรื่องได้สำเร็จ
“ เออ…..นึกออกแล้ว ”
บุญกอบอุทานออกมาเบาๆ แต่ก็ดังพอที่จะสร้างความประหลาดใจแก่สาวขิมซึ่งยืนหอบถี่อยู่ในวงแขนล่ำสัน เธอส่งสายตาที่อุดมไปด้วยคำถามให้หนุ่มภูธรร่างล่ำ แต่ชายหนุ่มกลับเลือกที่จะตอบคำถามนั้นด้วยการ…..กดกายเพรียวบางของสาวขิมให้ก้มลงนั่งโดยเร็ว
“ เอ๊ะ! ”
แม้สาวขิมจะไม่พูดอะไร แต่สีหน้า ท่าทาง ประกอบกับเสียงอุทานเมื่อครู่ บ่งบอกให้รู้ว่าเธอกำลังรู้สึกงุนงงกับการกระทำของบุญกอบอย่างมากมาย ทว่านาทีต่อมา เธอก็เงียบงันไปโดยปริยาย เมื่อต้องประจันหน้าเข้ากับอนาคอนด้าอวบใหญ่ที่ดุร้ายโดยไม่ทันตั้งตัว
สาวขิมผงะถอยหลังเล็กน้อย เพราะเจ้าสัตว์ร้ายตัวนั้นดูจะน่ากลัวมากกว่าที่คิด และในจังหวะที่เธอกำลังจะอ้าปากถาม เจ้าอนาคอนด้าอวบใหญ่ก็ขยับเขยื้อนเข้ามาใกล้ใบหน้ามากกว่าเดิมจนกระทบเข้ากับปากอวบอิ่มของเธอเเบบเต็มๆ
“ อื้อ…..”
สัมผัสแรกที่เธอรู้สึกก็คือ….ความหยาบกร้านและลื่นไหลบนผิวหนังของสัตว์ร้าย นอกจากนี้ยังมีความหยาดเยิ้มจากยางเหนียวที่ชุ่มโชกไปทั่วลำเรือ แถมยังผสมผสานด้วยกลิ่นอับชื้นที่ชวนเหียน กระนั้นเธอก็ยังไม่คิดจะขัดขืน เธอเพียงแค่ส่ายหัวหลบเบาๆ ส่วนดวงตาเล็กหรี่ก็เหลือบมองอนาคอนด้าที่สอดส่ายไปมาแบบไม่วางตา
บุญกอบบังคับอนาคอนด้าอวบใหญ่ให้จรดจ่อไปที่ปากอวบอิ่มของสาวขิม พร้อมกล่าวเว้าวอนสาวจืดด้วยสีหน้า ท่าทางที่ชวนน่าสงสาร
“ ช่วยผมทีเถอะ ผมจะทนไม่ไหวแล้ว ”
สาวจืดมองหน้าของบุญกอบนิ่งๆ แววตาของเธอสั่นไหวด้วยประกายแห่งความหวาดระแวง เธอรวบรวมกำลังใจอยู่หลายอึดใจ ก่อนจะเอ่ยถามด้วยเสียงที่แผ่วเบา
“ จะให้ทำยังไง ”
สิ้นคำตอบ บุญกอบก็เริ่มยิ้มออกมาน้อยๆด้วยท่าทางที่ดูพึงพอใจ ปากก็กล่าวกับสาวจืดเบื้องหน้าด้วยเสียงกระซิบ
“ ไม่มีอะไรมาก ก็แค่อ้าปากออกมากว้างๆเท่านั้นเอง ”
สาวขิมไม่เคยมีประสบการณ์ทางด้านนี้มาก่อน เธอจึงไม่รู้ว่าหนุ่มภูธรร่างล่ำนายนี้ต้องการอะไร แต่ด้วยความอยากรู้อยากเห็นและความกระหายที่คุกรุ่นอยู่ในจิตใจ เธอจึงตัดสินใจที่จะอ้าปากขึ้นมาช้าๆ
บุญกอบหยุดนิ่งอยู่กับที่ เขารอคอยให้ปากนั้นอ้าจนสุด และเมื่อมันกว้างมากพอ เขาก็บรรจงยัดอนาคอนด้าอวบใหญ่ให้ทะลวงเข้าไปในโพรงปากอันอุ่นร้อนในทันที
“ อื้อ….”
สาวขิมรู้สึกตกใจเป็นที่สุด แต่สิ่งที่แย่ไปกว่านั้นก็คือ…เธอรู้สึกอึดอัดตรงช่วงปากอย่างรุนแรง มันเหมือนกับว่าปากของเธอกำลังจะฉีกออกจากกัน เพราะท่อนลำที่ทิ่มทะลวงเข้ามา นั้นมีขนาดใหญ่ยักษ์จนผิดมนุษย์ และไม่ทันที่เธอจะได้ตั้งตัว สัตว์ร้ายใหญ่ยักษ์ตัวนั้นก็เริ่มขยอกปากเธออย่างรวดเร็ว
“ อะไรกัน เขาจะทำอะไร ” สาวขิมนึกสงสัยอยู่ในใจ วินาทีต่อมา สองมือของบุญกอบก็เลื่อนมากุมศีรษะซึ่งดกหนาด้วยเส้นผมดำสลวยแน่นจนเธอแทบจะขยับใบหน้าหนีไม่ได้
“ อู้วๆ…..ดีจริง ช่างอุ่นร้อนเสียเหลือเกิน ” บุญกอบครางดัง ดวงตาเริ่มปรือลอย ช่วงเอวก็ขยับโยกไปมา เพื่อขับส่งสัตว์ร้ายอวบใหญ่ให้ขยอกปากหนาๆของหญิงสาวอย่างเมามัน
สาวขิมตื่นตกใจจนพูดไม่ออก (อันที่จริง เธอก็ไม่ค่อยจะพูดอยู่แล้ว) การรุกเร้าของหนุ่มภูธรร่างล่ำในคราวนี้ ไม่ได้สร้างความเกษมสันต์ให้แก่เธอเลยซักนิด แต่ด้วยความอยากรู้อยากเห็นที่อัดแน่นอยู่เต็มทรวง เธอจึงฝืนทนความแสบร้อนที่บริเวณริมฝีปาก เพื่อจะได้ล่วงรู้ผลลัพธ์แห่งการกระทำ
จังหวะการขยับโยกของบุญกอบเริ่มทวีความเร็วมากขึ้นเรื่อยๆ ในตอนท้าย ได้บังเกิดเสียงเนื้อกระทบเนื้ออย่างแผ่วเบา นับว่าเป็นการกระแทกกระทั้นที่หนักพอดูจนทำให้สาวไร้อารมณ์อย่างน้องขิมถึงกลับเบ้หน้าได้ และในขณะที่สาวจืดหน้าขาวกำลังจะทานทนความเจ็บแสบนั้นไม่ไหว บุญกอบก็ครางดังพร้อมกระตุกกายแรง
“ อ้ากๆ……สุดๆไปเลย ”
“ ว้าย….”
สาวขิมเผลออุทานแบบสาวๆในใจอีกครั้ง เหตุเพราะมีกระแสธาราคลื่นโตพุ่งทะลักเข้าสู่โพรงปากอันอุ่นร้อน มันเป็นกระแสธารที่รุนแรงจนทำให้เรือนกายเพรียวบางของสาวเจ้าสะดุ้งเป็นระยะตามจังหวะการหลั่งทะลัก และในช่วงที่เธอกำลังพะว้าพะวังกับสิ่งที่เกิดกับปากอวบอิ่ม ฝ่ามืออันหยาบกร้านของบุญกอบก็เอื้อมมาบีบเคล้นทรวงอกอวบใหญ่ที่แสนเต่งตึงของเธอ
“ อื้อ…..”
สาวขิมครางเบาๆในลำคอ พร้อมเหลือบตาขึ้นมองหน้าบุญกอบ แต่เธอก็เห็นเพียงดวงตาที่ปรือลอยของหนุ่มภูธรร่างล่ำเท่านั้น เธอจึงทำได้เพียงแค่แอ่นกายให้ภูเขาไฟคู่โตได้รับสัมผัสจากมือขวาไปแบบเต็มทรวง
“ อาๆ…….”
สามารถติดตามงานเขียน ณ.ปัจจุบันและในอนาคตของผมได้ที่เพจJalandoนักเขียนดาร์คไซด์ได้ที่ลิงค์ด้านล่างครับ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ