Demon สัตว์อสูรจอมราชันย์

-

เขียนโดย Dinnsor

วันที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 16.50 น.

  15 ตอน
  0 วิจารณ์
  15.05K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 6 มกราคม พ.ศ. 2562 16.55 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

1) บทที่ 1 The light in one's eyes : ดวงตาคู่นั้น

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก



บทที่ 1


 


The light in one's eyes : ดวงตาคู่นั้น


 


Natalie : ถ้าพรวิเศษมีจริง ฉันอยากจะขอให้มนุษย์ไม่เห็นแก่ตัว


 


บนดาวเคราะห์ดวงหนึ่ง


 


-!! กริ๊ง !!-


 


เสียงจากนาฬิกาปลุกดึงนาตาลีให้ตื่นจากฝันร้ายกลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริง


 


เมื่อเธอลืมตาขึ้นก็พบกับแสงอาทิตย์ยามเช้าที่ลอดผ่านกระจกหน้าต่างเข้ามายังห้องนอน นาตาลีตื่นขึ้นมาบนเตียงนอนสุดนุ่มที่มีผ้าห่มลวดลายผีเสื้อสีสดใส เสียงปลุกจากนาฬิกาดังขึ้นเป็นรอบที่สามแล้ว แต่นาตาลีกลับไม่ได้ยินเสียงปลุกของสองครั้งแรก


 


หรือเป็นเพราะฝันร้าย?


 


เธอเหลียวหน้ามองนาฬิกาปลุกทั้งสามเรือนซึ่งเตรียมมันไว้ปลุกในเช้าวันเปิดเทอมใหม่นี้โดยเฉพาะ แต่มันกลับส่งผลผิดคาดเมื่อเธอตื่นขึ้นมาจากฝันร้ายในสภาพเหงื่อโทรมกายทั้งที่เดือนนี้ยังอยู่ในช่วงฤดูหนาวแท้ๆ


 


นาตาลีมองเข็มวินาทีบนหน้าปัดที่กำลังส่งเสียงติ๊กตอกไปมาด้วยความมึนงง เธอจำเนื้อหาในความฝันไม่ได้ ทั้งที่เธอฝันร้ายจนเหงื่อซึมถึงขนาดนี้แท้ๆ นาตาลีค่อยๆ คิดทบทวนอย่างช้าๆ และแล้วเธอก็เริ่มเห็นภาพในความฝันอย่างเลือนราง

 

มันเป็นภาพของชายชุดคลุมดำคนหนึ่ง


 


………………………………………………………………


 


ปัง!


ทุกคนในชั้นเรียนต่างหันไปมองตามเสียงผลักประตูเข้ามาอย่างรุนแรง ภาพที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าคือเด็กสาวผมบลอนด์ในเครื่องแบบนักเรียน ซึ่งมีสภาพคล้ายกับวิ่งหนีฝูงช้างตกมันในป่าดงดิบมา


 


"นาตาลี นี่ขนาดเป็นวันเปิดเรียนวันแรกเยังกล้ามาสายอีกเรอะ!" เสียงเกรี้ยวกราดเสียงหนึ่งพุ่งตรงเข้ามาราวกับจะฆ่าแกงเธอดังขึ้นมาจากปากของอาจารย์ที่ปรึกษาสาวโสดวัยกลางคน อาจารย์แคธี เจ พาร์คเกอร์ นั่นเอง


 


"ขอโทษค่ะ" นาตาลีตอบกลับไปด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม เธอพูดพลางหอบหายใจไปพลาง


 


"นี่ ยังมาทำหน้าทะเล้นใส่ฉันอีกเหรอ!"


 


"อาจารย์แคธีครับ ไปอารมณ์เสียกับเด็กทำไมกันล่ะ มันไม่ได้เป็นความผิดร้ายแรงเสียหน่อย และอีกอย่าง นาตาลีก็มาทันชั่วโมงโฮมรูมของเราด้วย"


 


เอลแกน แมคแคนดี้ อาจารย์ที่ปรึกษาอีกคนหนึ่งช่วยพูดแก้ต่างให้กับนาตาลี เขาเป็นอาจารย์ชายที่ดูหล่อเหลา สุภาพ และเป็นผู้ใหญ่มากในความคิดของเธอ


 


นาตาลีแอบแลบลิ้นให้ตัวเองกับความโชคดีครั้งแรกของวันนี้


 


"อืม... วันนี้จะยกโทษให้ นี่เพราะเห็นว่ามีนักเรียนใหม่ย้ายเข้ามาในห้องหรอกนะ และก็อย่าให้มีครั้งหน้าอีกล่ะ!" อาจารย์แคธีพูดด้วยอารมณ์ที่เย็นลงมากว่าตอนแรกเล็กน้อย ริ้วรอยเหี่ยวย่นที่ปรากฏบนใบหน้าเป็นตัวบ่งบอกความเป็นคนเจ้าอารมณ์ของเธอเป็นอย่างดี


 


นาตาลีรีบเดินไปยังที่นั่งของเธอซึ่งอยู่ท้ายห้อง นึกสงสัยในใจว่าทำไมโรงเรียนถึงได้รับนักเรียนเข้ากลางเทอมอย่างนี้ ความสงสัยของเธอยังคงเป็นปริศนาต่อไปเพราะถูกขัดจังหวะด้วยเสียงแหลมปรี๊ดที่ดังแทรกมาก่อน


 


"ไงจ๊ะ แม่สาวน้อยขี้เซา นี่นาฬิกาปลุกของฉันไม่ได้ช่วยเธอตื่นเช้าขึ้นเลยสินะ"


 


จูดี้ เมก้านอสทริล เพื่อนสนิทของนาตาลีเอ่ยขึ้น เธอเป็นสาวน้อยน่ารักรูปร่างอวบเล็กน้อย ผมยาวสีดำเข้ม แววตาของเธอฉายประกายแห่งความซุกซนอยู่ทุกขณะจิต


 


"อือ" นาตาลีครางตอบ ในใจนึกไปถึงภาพของชายชุคลุมดำในฝัน


 


"ตายแล้ว อย่างนี้ฉันก็ต้องเสียเงินไปฟรีๆ น่ะสิ" จูดี้บ่นเสียงอิดออด ราวกับว่าราคาของนาฬิกาปลุกมันจะแพงกว่า ค่าเทอมของโรงเรียนมัธยมระดับแนวหน้าแห่งนี้เสียอีก


 


"เอาล่ะทุกคนเงียบเสียงกันหน่อย” อาจารย์เอลแกนพูดขึ้นด้วยใบหน้าที่เปื้อนรอยยิ้ม ผิดกับมิสแคธีที่กำลังใช้สายตาคู่พิฆาตขู่นักเรียนให้หยุดคุยกัน


 


“วันนี้ครูมีเพื่อนใหม่จะมาแนะนำให้รู้จัก…เข้ามาสิ คุณโซอา"


 


หลังอาจารย์เอลแกนพูดจบ นักเรียนชายคนหนึ่งก็เดินเข้ามา เรียกเสียงฮือฮาจากนักเรียนในห้องทันที


 


นาตาลีคิดว่าเขาหล่อเฉียบถึงขนาดที่ใครเห็นเป็นต้องหยุดชะงักทีเดียวเชียวล่ะ ผมยุ่งๆ สีดำเข้มไร้ทรงนั่น ใบหน้าที่ได้รูปนั้น และดวงตาดำขลับที่สะกดใจทุกคนที่มองมัน แต่เอ๊ะ! นั่นอะไร...รอยแผลเป็นอย่างนั้นหรือ?


 


‘ถ้าไม่ใช่เพราะรอยแผลเป็นบนใบหน้า ที่ลากยาวตั้งแต่หางคิ้วขวามาจนถึงปลายคางนั่นล่ะก็ สาวๆ ในห้องคงพากันไปรุมตอมนายคนนี้หลังหมดชั่วโมงโฮมรูมแน่นอน’ นาตาลีคิด


 


"แนะนำตัวให้เพื่อนๆ รู้จักหน่อย คุณโซอา" อาจารย์เอลแกนยิ้มให้เขาอย่างอ่อนโยน

 

"ครับ" นาตาลีเริ่มรู้สึกถึงบรรยากาศมืดหม่นแปลกประหลาดแผ่ออกมาจากดวงตาสีดำที่แฝงความลึกลับน่าค้นหาคู่นั้น นักเรียนใหม่จ้องมองมายังเธอก่อนจะเผยอปากพูดขึ้น


 


"ผม ริชาร์ด โซอา ยินดีที่ได้รู้จัก" น้ำเสียงที่เฉยชาราวกับไม่ต้องการผูกสัมพันธ์กับใครถูกเอ่ยออกมาจากปากนักเรียนใหม่ด้วยใบหน้าที่นิ่งสนิท ที่มองดูนานๆ ทำให้รู้สึกเหมือนกำลังมองภาพถ่ายขาวดำเก่าๆ ยับๆ ที่มืดหม่นจนน่ากลัว


 


ความเงียบเริ่มก่อตัวขึ้นในห้องเรียนหลังจบการแนะนำตัว นักเรียนหลายคนเริ่มอึดอัดจนทนไม่ไหว นาตาลีรู้สึกแปลกเมื่อมองนักเรียนใหม่คนนี้ มันเหมือนกับมีมนต์เสน่ห์ลี้ลับบางอย่างสะกดให้เธอไม่อาจละสายตาไปจากเขาได้


 


"เอ่อ...ครูหวังว่าพวกเธอจะเข้ากับ ริชาร์ด ได้ดีนะ" อาจารย์แคธีกล่าวทิ้งท้ายทำลายความเงียบ ทำให้นาตาลีหันเหความสนใจไปยังเธอ ก่อนที่เสียงกริ่งสัญญาณบอกหมดเวลาโฮมรูมจะดังขึ้น...และเด็กนักเรียนในห้องก็เริ่มพูดคุยกันอีกครั้ง


 


"นักเรียนใหม่นั่นดูแปลกๆ นะ"

 

อาเธอร์ จอนส์ตัน เพื่อนสนิทอีกคนหนึ่งของนาตาลี พูดขึ้นในขณะที่กำลังเดินผ่านออกจากห้องเรียน หมอนี่หน้าตาจัดว่าหล่อเชียวล่ะ แถมพอใส่แว่นแล้วก็ยิ่งดูดีเข้าไปใหญ่เลย หากไม่รู้จักกันมาก่อนมองผ่าน เพียงผิวเผินคงคิดว่าเป็นพวกเด็กเรียน แต่ที่ไหนได้นิสัยจริงๆ กลับเป็นคนขี้เกียจอย่างกับอะไรดี


 


"อืม…ฉันว่าเขาคงจะต้องใช้เวลาเพื่อปรับตัวน่ะ" นาตาลีพูด พลางชำเลืองมองไปยัง นักเรียนใหม่


 


เหล่านักเรียนต่างทยอยกันออกจากห้องเพื่อย้ายไปยังสถานที่เรียนชั่วโมงต่อไป นาตาลีเองก็เดินไปกับกลุ่มเพื่อนของเธอตามปกติ โดยที่เธอเองนั้นไม่ได้รู้สึกแต่อย่างไรเลยว่ากำลังถูกจับตามองโดยสายตาลึกลับคู่หนึ่ง


 


…………………………………………………………


 


นาตาลีรู้สึกโล่งใจเพราะว่าในที่สุด การเรียนอันแสนน่าเบื่อหน่ายในโรงเรียนก็หมดไปอีกวันหนึ่ง เด็กสาวมีความคิดว่าเธอไม่ได้เกิดมาเพื่อใช้ชีวิตแบบที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ มันต้องมีอะไรบางอย่างที่เธอต้องทำแต่เธอเองกลับคิดไม่ออกว่ามันคืออะไร


 


ตอนนี้เธอและเพื่อนๆ กำลังเดินทางไปยังบ้านของ แพทริก มูนวอล์ค เพื่อนชายอีกคนหนึ่งในกลุ่มของเธอซึ่งมีรูปร่างอ้อนแอ้นอรชรราวกับหญิงสาวและใบหน้าที่จัดว่าสวยผิดธรรมชาติของผู้ชายทั่วไป


 


นาตาลีใส่เครื่อง DC หรือ ไดเมนชันคอนเนคเตอร์รุ่นทดสอบซึ่งเป็นอุปกรณ์ลักษณะคล้ายที่คาดผมสีขาว เพื่อเชื่อมต่อกับมิติโลกวิญญาณ...ตามที่อาเธอร์ได้บอกเธอไว้ แต่ตอนนี้ก็ยังไม่เห็นอะไร


 


ขณะที่พวกเขากำลังคุยกันเพลินๆ เรื่องทดสอบเครื่อง DC นั้นสายตาของอาเธอร์ก็ได้เหลือบไปเห็น ริชาร์ดนักเรียนใหม่กำลังเดินเข้าไปในสถานที่แห่งหนึ่ง


 


"น่าสงสัยแหะ"


 


อาเธอร์เอ่ยขึ้นขณะมองสำรวจสถานที่ๆ ริชาร์ดเพิ่งเข้าไป มันเป็นตึกร้างสองชั้นขนาดใหญ่ ซึ่งมองดูจากภายนอกแล้วอาจจะเคยเปิดเป็นสถานพยาบาลมาก่อน บรรยากาศลี้ลับแผ่ออกมาจากตัวอาคารทำให้นาตาลีขนลุกเมื่อได้เมื่อมองมัน


 


"นายหมายความว่ายังไงอาร์ท" แพทริกมองตามสายตาของอาเธอร์


 


"ฉันเห็นนักเรียนใหม่เดินเข้าไปในนั้นน่ะ นี่ถ้าเป็นที่อื่นฉันจะไม่สงสัยเลย......"


 


"พวกเราลองตามเข้าไปดูสิ น่าสนใจดีออก" ความอยากรู้อยากเห็นฉายออกมาจากประกายตาของจูดี้อย่างชัดเจน


 


"ฉันว่าถ้าไม่นับรอยแผลนั่น เขาก็ดูหล่อดีนะ" จูดี้เน้นย้ำให้เพื่อนๆ รับรู้ถึงความสนใจในตัวเด็กหนุ่มลึกลับ


 


"ว่ายังไงล่ะแนต" จูดี้โยนความรับผิดชอบมาให้นาตาลีที่กำลังใช้นิ้วม้วนผมเล่น


 


"ฉันว่านะ เราต้องรีบทำโครงงานวิทยาศาสตร์ให้เสร็จทันกำหนด ไม่งั้นมีหวังโดนอาจารย์อัมเบลร่าสวดยับแน่ๆ"


 


จูดี้ สลายรอยยิ้มทำหน้าตาหมดหวังเมื่อได้ยินคำตอบของนาตาลี


 


"ฉันเห็นด้วยกับนาตาลีนะ เราไม่ควรไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวของคนอื่น"


 


แพทริกพูดเสริม อาเธอร์ผงกศีรษะเห็นด้วย ทั้งหมดเดินจากไปโดยหารู้ไม่ว่ามีแววตาคู่หนึ่งมองพวกเขาผ่านความมืดมิดภายในอาคารร้างแห่งนั้นจนกระทั่งนาตาลีและผองเพื่อนเดินลับริมถนนไป


 


…………………………………………………………


 


กว่าพวกเธอจะทำโครงงานเสร็จ ดวงอาทิตย์ก็ลับขอบฟ้าไปแล้ว นาตาลีเพิ่งรู้สึกว่าการเดินบนท้องถนนที่ไร้แสงไฟยามค่ำคืนเพียงลำพังนั้นมันน่าขวัญผวามาก ยิ่งเมื่อได้คิดว่าจะต้องเดินผ่านตึกร้างสยองขวัญนั่นด้วยแล้ว ยิ่งทำให้หัวใจเธอเต้นแทบจะไม่เป็นจังหวะ


 


โครม!


นาตาลีสะดุ้งสุดตัวเมื่อได้ยินเสียงบางอย่าง แต่เมื่อมองไปตามทิศทางของเสียงเธอก็รู้ทันทีว่ามันเกิดจากอะไร มันคือเสียงของลูกสุนัขที่วิ่งออกมาจากด้านหลังของถังขยะ นาตาลีปลุกปลอบความมั่นใจให้แก่ตัวเองแล้วเริ่มก้าวขาเดินต่อไป


 


แต่แล้วเธอก็มาหยุดยืนอยู่หน้าโรงพยาบาลร้างแห่งนั้น มันเป็นตึกเก่าๆ ที่ถูกคนปล่อยทิ้งไว้ให้ชำรุดทรุดโทรมตามกาลเวลา...นาตาลีเห็นมันแล้วก็คิดที่จะรีบเดินจากไป แต่กลับมีอะไรบางอย่างดึงดูดเท้าทั้งสองของเธอไว้ให้ขยับไม่ได้


 


“ให้ตายสิ ทำไมถึงก้าวขาไม่ออกนะ"


 


เธอพูดกับตัวเองด้วยน้ำเสียงสั่นระรัว หวังจะให้เสียงมาเป็นเพื่อนปลุกปลอบความกล้าให้กับตัวเอง


แสงไฟจากหลอดนีออนข้างทางสว่างเพียงพอที่จะทำให้เธอมองเห็นอาคารร้างได้อย่างเลือนราง


ตอนนี้เธอเข้าใจแล้วว่านางเอกในหนังสยองขวัญนั้นรู้สึกอย่างไร


 


เสียงสุนัขเห่าหอนดังระงม ทำให้บรรยากาศ ที่น่าหวาดหวั่นอยู่แล้ว เพิ่มความน่าสะพรึงกลัวยิ่งเข้าไปอีก นาตาลีรู้สึกคล้ายกับกำลังถูกจับตามอง


 


...จากบางสิ่ง...


 


และมันต้องมาจากบนอาคารนั้นแน่ๆ


 


สัญชาตญาณสั่งให้นาตาลีค่อยๆ เงยหน้ามองขึ้นไปยังชั้นสองของอาคาร และนั่นทำให้เธอถึงกับอ้าปากค้าง


 


ท่ามกลางความมืดบนชั้นสองของโรงพยาบาลร้างมีแววตาสีเขียวเรืองรองคู่หนึ่งกำลังมองตรงมาที่เธอ


 


นาตาลีจ้องมองมันดั่งถูกมนต์สะกดเท้าทั้งสองก้าวถอยหลังไปโดยไม่รู้สึกตัว ดวงตาสีเขียวเรืองรองทั้งคู่ส่ายไหวไปมาราวกับมีชีวิต


 


ทันใดนั้นอะไรบางอย่างก็พุ่งผ่านหน้าเธอไปยังประตูอาคารร้างอย่างรวดเร็ว นาตาลีกรีดร้องสุดเสียงวิ่งหลับตาจากไป โดยทิ้งให้ลูกสุนัขตัวการยืนแลบลิ้นกระดิกหางอยู่หน้าอาคารร้างด้วยความสงสัย


 


 


 


 


To be continued……….

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา