วุ่นนัก รักคุณผู้จัดการ

-

เขียนโดย Hermione001

วันที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561 เวลา 14.43 น.

  20 ตอน
  1 วิจารณ์
  19.20K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561 15.33 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

8) ฉันจะปกป้องนายเอง

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ตอนนี้เป็นเวลา 11:34 น. วและวันนี้ก็เข้าสู่วันที่6ของการถ่ายรายการบ้าๆนี่แล้วด้วย เกือบอาทิตย์ที่ผ่านมาฉันได้ใช้เวลาอยู่กับทุกคนในคอนโดหลังเลิกงานมันมีความสุขมากจริงๆ เพราะพวกเขาเริ่มเคลียร์งานกันแล้วจึงมีเวลาว่างรอทานข้าวเย็นกับเราทุกวัน และวันนี้หลังยองวอนถ่ายรายการเสร็จฉันจะได้ไปกินอาหารไทยหลังจากไม่ได้กินมาเกือบปี 5หนุ่มของคอนโดจะสลับกันเลือกร้านที่ตัวเองอยากไปทีละคนและวันนี้ก็เป็นวันที่ซารังคนน่ารักจะได้เลือกร้านด้วย เย้ๆๆ

หลายวันที่ผ่านมาฉันรู้สึกเป็นห่วงเจ้าอสูรร้ายมากๆเพราะยิ่งถ่ายก็ยิ่งรู้ว่ารากการนี้มันแย่แค่ไหน แย่ตั้งแต่ทีมงาน เสื้อผ้า เครื่องสำอาง อาหาร ยันโปรดิวเซอร์และตากล้อง 

"นายก็แค่กระโดดและตีลังกาลงมาเอง" เสียงดังเอะอะเพราะตอนนี้อยู่ระหว่างถ่ายรายการ

"ขอโทษครับ” ตามด้วยการก้มหัวขและขอโทษเป็นรอบที่100ได้ลัวมั้งของยองวอน 

"นี่เราเสียเวลามามากแล้วนะ เพราะต้องมารอนายคนเดียว" โปรดิวเซอร์รายการและตากล้องเอาแต่ตะโกนว่าเขา 

เสียงดังไปหมด ทำให้ทุกคนหันมามองยองวอนเป็นระยะๆ  

อันที่จริงยองวอนค่อนข้างกลัวความสูงแต่ถนัดการตีลังกามาก แต่การให้ตีลังกาลงมาจากที่สูงแบบนั้น มันบ้าชัดๆ แค่การตีลังกาธรรมดาก็อันตรายจนแฟนคลับแทบไม่อยากให้ยองวอนทำแต่อีตาลุงอ้วนโปรดิวเซอร์นี่กลับสั่งให้เขาตีลังกาลงมาจากที่สูง นี่อสูรร้ายนะยะ ไม่ใช่นก ถ้ารายการออนแอร์เมื่อไหร่ฉันจะไปฟ้องแฟนคลับให้มาถล่มรายการนายแน่ ตาลุงอ้วน!

"ไหนบอกว่าTrust5 ถนัดเรื่องแบบนี้ไง สิ่งที่เขาพูดมานี่ไม่เห็นจริงสักเรื่องพวกนายนี่มันหลอกลวงเก่งจริงๆ ถึงว่าดังสู้คนอื่นเขาไม่ได้สักทีนี่ถ่ายมาจะเป็นชั่วโมงละ" ฉันยืนอึ้งกับสิ่งที่อีลุงอ้วนนี่พูด ยองวอนเองก็ดูตกใจเหมือนกัน เป็นถึงโปรดิวเซอร์ทำไมใช้คำพูดแบบนี่กับศิลปินต่อหน้าทีมงานเยอะแยะมากมาย ตอนแรกแค่ไม่ชอบนะตอนนี้ฉันเกลียดรายการนี้แล้ว

ยิ่งมาที่นี่ก็ยิ่งรู้สึกแย่ เพราะยองวอนรู้อยู่แล้วว่าที่นี่มันห่วยแค่ไหนแต่กลับยอมมาถ่ายรายการเพราะ “เกลียดฉัน”

เพราะข้อเสนอดีๆที่ได้รับถึงต้องโดนดูถูกแบบนี้แต่ยองวอนก็ยังฝืนใจทำ แต่ถึงจะอย่างนั้นก็เถอะเขาไม่จำเป็นต้องยอมขนาดนี้ก็ได้นี่พูดอะไรออกไปบ้างสิ ทำไมปล่อยให้คนอื่นมาดูถูกแบบนี้ ฉันเป็นห่วงเขามากไม่ใช่ในฐานะผู้จัดการแต่ในฐานะแฟนคลับTrust5 มาตลอด5ปี ทั้งสุขภาพของเขาทั้งความรู้สึกตอนนี้ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไงบ้าง

“ขอโทษนะคะ คุณจำเป็นต้องพูดขนาดนี้เลยหรอต่อหน้าคนเยอะๆขนาดนี้ช่วยให้เกียรติศิลปินด้วย ไม่อย่างนั้นฉันจะไม่ทนให้เขาถ่ายรายการต่อแน่และถ้าบอกเรื่องนี้กับทางบริษัทพวกเขาก็คงจะเข้าใจการตัดสินใจของฉันด้วย” ความอดทนตลอดหลายวันของฉันมันหมดลงแล้วด้วยคำดูถูกของโปรดิวเซอร์ แต่ก็ต้องพยายามพูดด้วยเหตุผลและไม่ใช้อารมณ์ถึงความจริงจะอยากหักกระดูกของเขามากกว่าก็ตาม

"งั้นพักก่อนแล้วกันบ่ายๆ ค่อยถ่ายใหม่ และหวังว่านายจะทำได้ดีกว่านี้นะ" เมื่อเห็นสีหน้าที่จริงจังของฉันตาลุงอ้วนก็สั่งพักกองทันที ยองวอนก้มและกล่าวคำขอโทษอีกครั้งจากนั้นก็เดินกลับห้องพักของตัวเอง

ปึง!

"ยองวอน เปิดประตูให้ฉันหน่อย" ฉันตะโกนเข้าไปในห้องเมื่อเขาที่เดินเข้ามาในห้องก่อนล็อคประตูห้องไปเป็นที่เรียบร้อย

"ฉันขออยู่คนเดียว" เสียงของยองวอนดูนิ่งจนน่ากลัว ร่างอสูรร้ายที่มักจะออกมาแค่ตอนอยู่กับฉันดูเหมือนว่าจะเป็นตอนนี้ด้วยสินะ นายคงจะต้องอดทนมากกว่าฉันหลายเท่า

มาคิดๆดูถึงจะเข้าไปในห้องได้ฉันก็ไม่รู้ว่าจะทำหรือพูดอะไรให้เขารู้สึกดีขึ้น ตรงกันข้างถ้ายองวอนเห็นหน้าฉันจะยิ่งหงุดหงิดขึ้นมากกว่า คิดได้แบบนั้นเลยตัดสินใจที่จะปล่อยให้เขาอยู่คนเดียวสักพักระหว่างที่ฉันไปซื้ออาหารกลางวันมาให้ก็แล้วกัน 

"เสียเวลาจริงๆ นี่มาตั้งแต่เช้ายังถ่ายไม่ได้เลย" เสียงทีมงานคนหนึ่งพูดขึ้น ตอนนี้ฉันอยู่ในห้องน้ำก่อนที่จะออกไปซื้อข้าวให้ยองวอน

"นั่นดิ แต่แทยังก็ร้ายกาจจริงๆเลย รู้ทั้งรู้ว่ายองวอนกลัวความสูง แต่เขากลับขอร้องให้โปรดิวเซอร์บอกให้ยองวอนทำ เจาะจงเลยนะแก ว่าต้องมีตอนนี้ให้ได้” ทีมงานอีกคนตอบ

แทบไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง รายการบ้านี่ตั้งใจเจาะจงให้เป็นยองวอนเพื่อที่มาทำแบบนี้กับเขาหรอ แทยังหรอเป็นหมอนั่นเองสินเ แล้วทำแบบนี้กับยองวอนทำไมเพราะดังสู้เขาไม่ได้เลยตั้งใจที่จะเอาคืนยองวอนด้วยวิธีนี้หรอ 

รู้แบบนี้ฉันก็ยิ่งรู้สึกไม่ดี เพราะเขาเกลียดฉันขนาดที่ยอมมาทำรายการกับคนพวกนี้ทั้งๆที่รู้ดีอยู่แล้วว่าต้องมาเจอกับอะไร

ฉันเห็นแก่ตัวไปหรือเปล่า ฉันเป็นคนทำให้เขาต้องมาทำแบบนี้ ทั้งโดนดูถูก โดนนินทาว่าร้ายสาระพัด เครื่องสำอาง เสื้อผ้า อาหาร แต่ละสิ่งที่ยองวอนต้องเจอ ฉันในฐานะแฟนคลับและผู้จัดการ ไม่ควรทำให้คนที่ฉันชื่นชอบมาตกอยู่ในสภาพแบบนี้ ฉันขอโทษยองวอน ทุกอย่างเป็นความผิดของฉันเอง วันนี้ให้ตีลังกาลงมาจากที่สูงซึ่งเป็นสิ่งที่อันตรายมาก แล้วพรุ่งนี้และวันต่อๆไปจะหาอะไรมาแกล้งยองวอนอีกบ้างก็ไม่รู้

ไม่ว่าจะคิดยังไงถึงฉันจะไม่อยากลาออกแต่ก็ไม่สามารถจะทนดูยองวอนถ่ายรายการได้อีกแล้ว ยิ่งได้รู้เรื่องทั้งหมดที่ทีมงานคุยกันในห้องน้ำหญิงฉันยิ่งรู้สึกทั้งอึดอัดทั้งลำบากใจและรู้สึกผิดมากๆ เป็นห่วงจนจะบ้าตาย ทุกอย่างเป็นความตั้งใจของพวกเขาเพื่อจะแกล้งยองวอน 

ฉันได้รู้อะไรมากมายจากการทนนั่งเงียบๆอยู่ในห้องน้ำเกือบ10นาที และตอนนี้ก็ตัดสินใจแล้วด้วย

ก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงในห้องเงียบมาก แน่นอนอยู่แล้วโดนว่าโดนดูถูกต่อหน้าคนอื่นขนาดนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆที่จะลืมความรู้สึกแย่ๆ

“ยองวอน ยองวอน” ไม่มีเสียงของยองวอนตอบรับกลับมาเลย

และในนาทีนั้นฉันก็คิดอะไรบางอย่างออก สิ่งที่พี่ดลชอบทำตอนเราทะเลาะกันและฉันหนีไปอยู่ในห้องไม่ยอมคุยกับเขา พี่ดลมักจะทำแบบนี้เสมอและสำหรับฉันมันได้ผลแต่กับอสูรร้ายจอมโวยวายนี่ไม่รู้จะได้ผมหรือเปล่า แต่ยังไงฉันก็ควรทำอะไรสักอย่าง 

"...ฉันชื่อ พโยซารัง ฉันเป็นเด็กไทยอายุ17ปีที่วันๆเอาแต่เรียนอย่างบ้าคลั่งโดยที่ไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไรและในอนาคตต้องการอะไร 

วันหนึ่งฉันได้เห็นรายการทีวีที่กำลังฉายการเปิดตัวครั้งแรกของวงไอดอลกลุ่มหนึ่งชื่อของพวกเขาคือTrust5 จากนั้นก็เริ่มสนใจและติดตามพวกเขาตั้งแต่วันนั้น พวกเขาใช้เวลาค่อนข้างมากที่จะผ่านการทดสอบต่างๆ ทั้งการแข่งขันที่เยอะแยะมากมายจากสังคม ทั้งคำดูถูกที่ว่า พวกเขาไม่น่าจะดัง จนตอนนี้ วันที่Trust5 ประสบความสำเร็จ ฉันคอยติดตามและสนับสนุนพวกเขามาตลอด ด้วยความชื่นชอบเปลี่ยนเป็นชื่นชมและแบบอย่างของความพยายามจนตัดสินใจเรียนต่อมหาลัย ในเอกภาษา เพราะการติดตามมาตลอดหลายปีทำให้ฉันค้นพบสิ่งที่ชอบและสามารถทำได้ดี

และแน่นอนว่าแฟนคลับที่ติดตามทุกความเคลื่อนไหวของTrust5 ตั้งแต่ยังไม่เป็นที่รู้จักจนตอนนี้ทั่วโลกหลงรักดังนั้นฉันรู้ดีกว่าใครๆว่าทุกคนพยายายามมามากแค่ไหน และฉันรู้ว่าไม่มีอะไรที่พวกเขาทำไม่ได้ ทุกครั้งที่นายพูดว่าทำไม่ได้แต่พอแฟนคลับบอกว่าสู้ๆ มันก็จะผ่านไปได้ดีเสมอ พโยยองวอนสู้ๆนะ ฉันเฝ้าดูและเป็นกำลังใจให้นายมาตลอด”

นี่คือข้อความในกระดาษที่ฉันคิดและเขียนลงไปจากนั้นก็สอดมันลงไปที่ช่องประตูข้างล่าง ไม่นานเขาก็ดึงกระดาษไป

"นายไม่ควรไปสนใจสิ่งที่คนอื่นพูด มากกว่าคนที่รักนายพูด  มีคนเป็นร้อยเป็นพันที่ชมว่านายเก่งและมีนายเป็นแบบอย่าง” เมื่อเห็นว่าเขาเงียบไปนานฉันจึงพูดขึ้น ตอนนี้ไม่หวังให้ยองวอนเปิดประตูแค่คิดว่าสิ่งที่ทำอยู่จะทำให้เขารู้ดีขึ้นได้บ้าง ยองวอนอาจจะตำหนิตัวเองที่ทำสิ่งนั้นไม่ได้จนทำให้คนอื่นโดนดูถูกไปด้วย แต่นั่นไม่ใช่ความผิดของเขาเลย เพราะคนพวกนั้นต่อให้ทำดีเท่าไหร่ก็ยังจะหาเรื่องมาทำร้ายยองวอนได้เสมอและฉันจะไม่ยอมอีกต่อไปแล้ว

กึก! เสียงเปิดประตูทำให้ฉันสะดุ้งและยืนขึ้นทันที ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องพร้อมกล่องข้าวที่ซื้อมา ยังไงเขาก็ควรจะกินข้าวให้ตรงเวลาสิ สิ่งที่ฉันเห็นทำให้น้ำตาของฉันไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว อสูรร้ายที่ฉันเคยคิดว่าเป็นคนที่ร้ายการก้าวร้าวและมีสายตาที่แสนจะเย็นชา แต่ตอนนี้ไม่ปรากฏสิ่งเหล่านั้นกับยองวอนที่ยืนอยู่ตรงหน้าของฉันเลยเขายืนถือกระดาษที่ฉันเขียนและมองมาที่ฉันด้วยสายที่รู้สึกผิด เศร้าและเสียใจ

"ฉันขอโทษ นายอย่าทำมันอีกเลย เรายกเลิกข้อตกลงกันเถอะ ฉันไม่อยากให้นายทำอีกแล้ว" ฉันพูดไปร้องไห้ไป เผลอพูดทุกอย่างที่คิดออกไปจนหมดเพราะคงทนเห็นสีหน้าและสายตาแบบนี้อีกไม่ไหวแล้ว

"เธอจะขอโทษทำไม เธอทำอะไรผิด " เขาพูดพร้อมดึงฉันเข้าไปกอด

"ฉันบังคับให้นายมาที่นี่ ถ้าฉันไม่ยื่นข้อเสนอแบบนั้นนายก็คงไม่ต้องมาเจอเรื่องแบบนี้" ไม่รู้ว่ายองวอนรู้เรื่องทุกอย่างแค่ไหนแต่ฉันที่รู้ทั้งหมดรู้สึกผิดมากจริงๆ การที่บังคับให้ยองวอนมาที่นี่ก็เหมือนกับตอนนี้ฉันเป็นคนทำร้ายยองวอนด้วย

ฉันถอยออกจากอ้อมกอดของเขาถึงจะไม่อยากออกมาก็เถอะ ถึงจะเป็นอสูรร้ายก็ต้องกินข้าวกลางวัน

"กินข้าวกันเถอะ ฉันหิวแล้ว" เรากินข้าวด้วยกันมาหลายวันแล้วฉันเลยติดคำพูดแบบนี้แทนที่จะบอกให้เขากินข้าว หลังจากที่นั่งที่โต๊ะเรียบร้อยฉันก็เริ่มแกะกล่องอาหารและวางบนโต๊ะทีละกล่อง 

"ซารัง เธอคิดว่าไม่มีอะไรที่ฉันทำไม่ได้จริงๆหรอ” เขาถามในขณะนั่งเขี่ยอาหารในจาน ซื้อมาให้กินนะไม่ได้ให้เขี่ยแบบนี้

"จริงสิ! นายรู้มไหมที่ประเทศไทยแฟนคลับชอบพูดว่า พโยยองวอนผู้ชายที่ไม่มีอะไรที่เขาทำไม่ได้ ทั้งร้องทั้งแร็พทั้งเต้นทั้งตีลังกากีฬาทุกชนิดนายทำได้หมดเลย และทำได้ดีทุกอย่าง" ฉันไม่ได้โกหกให้เขาสบายใจ แต่ฉันพูดความจริงทั้งหมด “ถ้านายไม่เชื่อเดี๋ยวฉันจะเปิดวิดีโอที่แฟนคลับทำให้นาย รอกลับคอนโดก่อน มีวิดีโอมากมายที่ตัดต่อกิจกรรมต่างๆที่นายสามารถทำมันเยอะจนนายอาจจะจำไม่ได้ด้วยซ้ำ” ถ้าฉันมีโอกาสนะ เพราะฉันตั้งใจจะยกเลิกข้อตกลงของเรา ถ้าเขาไม่อยากทำต่อ ส่วนสิ่งที่จะตามมาค่อยคิดหาทางแก้ปัญหาอีกทีดีกว่ามานั่งทรมานใจและรู้สึกผิกทุกวันๆแบบนี้ 

"ฉันเชื่อเธอ เธอพูดอะไรฉันก็เชื่อทั้งนั้นแหละ"

"ยองวอน เรายกเลิกข้อตกลงกันเถอะฉันไม่อยากให้นายทำแล้ว” ฉันหยุดกินแล้วเงยขึ้นมามองหน้าเขา ตอนแรกที่พูดเขาดูเหมือนไม่สนใจอะไรเลยอยากลองพูดอีกครั้ง

"ฉันก็ไม่อยากทำแล้ว แต่เรารับงานมาแล้วจะไม่มีปัญหาหรอ"

"ไม่มีปัญหาหรอก ฉันจัดการเองรับรองพวกเขาไม่กล้าพูดว่าอะไรนายอีกแน่" เพราะฉันอัดคลิปเสียงตอนที่ยัยพวกนั้นนินทากันสนุกปากในห้องน้ำ ทั้งเรื่องที่ศิลปินคนนั้นที่ชื่อแทยังเป็นคนขอให้โปรดิวเซอร์รายการนี้แกล้งอะไรยองวอนบ้าง และยังมีอีกมากมายจนพวกเขานึกไม่ถึงรวมถึงเรื่องตั้งแต่หลายปีก่อนด้วย ถ้ามีข่าวหลุดออกไปทั้งรายการทั้งคนดับแน่ๆ

"ส่วนเรื่องที่เราตกลงกันถ้านายเกลียดฉันขนาดต้องยอมมาเจอเรื่องแบบนี้ ฉันเองก็ทนไม่ได้เหมือนกัน ถึงจะเป็นผู้จัดการแต่ฉันก็เป็นแฟนคลับของนายด้วย ฉันจะย้ายออกจากคอนโดเอง"

ประโยคนี้ฉันก็แอบเจ็บนะ ส่วนเรื่องที่พักใหม่ก็หาเอาไว้ตั้งแต่ยองวอนตกลงจะถ่ายรายการนี้แล้วนั่นก็คือห้องนอนรูหนูของฉันเอง เพราะเจ้าของอพาร์ทเม้นท์เห็นฉันมานานและรู้ว่าอยู่คนเดียวไม่มีพ่อแม่เขาเลยใจดีกับฉันมาก ให้ฉันเข้าไปอยู่ต่อได้เลย

"อื้อ งั้นฉันขอทำบางอย่างให้เสร็จก่อน แล้วเราค่อยกลับกัน" 

“ทำอะไรหรอ?”

“ก็ถ่ายตอนนั้นให้จบ” ฉันเงยหน้าจากจานข้าวและส่งยิ้มกว้างจนเห็นฟันครบทุกซี่ให้เขาทันที เพราะแสดงว่าสิ่งที่ฉันทำและพูดมันได้ผลนอกจากเจ้าอสูรของฉันจะรู้สึกดีขึ้นแล้วเขายังรู้สึกว่าตัวเองต้องทำได้แน่ แต่เดี๋ยวเจ้าอสูรของฉันอะไรละ บ้าไปแล้ว

"อื้ม ได้สิไปแสดงให้คนพวกนั้นเห็นว่านายเจ๋งแค่ไหน ตอกหน้าตาลุงอ้วนดำนั่นให้หงายไปเลย ทำเป็นมาว่าคนอื่นตัวเองแค่กระโดดยังไม่ขึ้นเลยมั้ง”

“…”

“555555+” เพราะสิ่งที่พึ่งพูดไปทำให้เราหลุดหัวเราะออกมาพร้อมกันจนเสียงดังลั่นห้องพัก เวลาเห็นยองวอนหัวเราะแบบนี้โลกมันช่างสดใสจริงๆดีจังเลยที่ทำให้เขารู้สึกดีขึ้นได้

ในที่สุดเวลาพักก็หมดลง เราสองคนเดินเข้ามาในสตูดิโอและยองวอนก็เตรียมตัวเพื่อจะถ่ายฉากตีลังกาลงมาอีกครั้ง

"เอาละ คราวนี้ขอแบบตั้งใจๆหน่อยนะ" ยองวอนไม่ได้ตอบอะไร แต่เขายืนประจำที่และท่าทางของเขาดูพร้อมมาก

" 3 2 1 เริ่มได้" เสียงตากล้องสั่งเริ่ม นาทีนั้นยองวอนมองมาทางฉันไม่กี่วินาทีเขาก็ตีลังกาและกระโดดลงมาอย่างสวยงาม เขาทำมันได้ดูดีและเท่มาก สิ่งที่ฉันคิดมันไม่ผิด ไม่มีอะไรที่เขาทำไม่ได้จริงๆ แค่ต้องมีแรงกระตุ้นนิดหน่อย

"โอเค ผ่าน" เสียงตากล้องตะโกนบอกยองวอน

หลังจากนั้นเขาก็เดินตรงมาทางฉันทันที ตึก ตึก ตึก ทำไมตอนนี้ใจฉันเต้นแรงขนาดนี้ เสียงวุ่นวายของคนรอบข้างไม่ทำให้ฉันละสายตาจากยองวอนได้เลย เขาเดินมาหยุดข้างหน้าก่อนจะพูดขึ้นมา

"ไปกันเถอะ กลับกัน" พร้อมกับจับมือของฉันและกำลังจะลากให้ออกไปจากที่นี่

"นั่นนายจะไปไหน เรายังถ่ายไม่จบนะ” โปรดิวเซอร์ตะโกนถามเมื่อเห็นว่ายองวอนกำลังจะเดินออกจากสตูดิโอทำให้ทุกสายตาหันมามองที่เรา 

"ผมทำหน้าที่ของผมจบแล้ว และคราวหน้าคราวหลังถ้าผมทำอะไรให้ไม่พอใจกรุณาตำหนิหรือดูถูกแค่ผม อย่ามากล่าวหาเพื่อนๆของผม แล้วผมก็จะไม่ขอทำงานร่วมกับพวกคุณอีก ต่อไปไม่ต้องติดต่อผมหรือผู้จัดการของผมอีก" ยองวอนพูดขณะที่ยังจับมือของฉันอยู่ คงจะโกรธที่ทำให้เพื่อนๆของตัวเองโดนดูถูกสินะ ตอนนี้เจ้าอสูรร้ายที่คอยแต่จ้องจะแกล้งคนอื่นกำลังปกป้องเพิ่อนๆของตัวเอง หมอนี่ก็มีมุมเท่ห์ๆเหมือนกัน

พอยองวอนพูดจบก็ทำท่าจะลากฉันออกไป ทุกคนที่ยืนอยู่ที่นี่อึ้งกับคำพูดของเขามาก แต่ไม่มีใครพูดอะไรออกมาเลย

"เดี๋ยว!ยองวอน ฉันต้องไปคุยกับพวกเขาให้จบ" ฉันรั้งตัวก่อนที่จะถูกเขาลากออกไป เขาไม่ได้พูดอะไรและมองมาที่ฉันด้วยสายตากังวล

"นายไม่ต้องห่วง ฉันจัดการได้จริงๆนายไปรอที่รถนะ เดี๋ยวฉันเก็บของแล้วตามไป" เขาปล่อยมือฉันและค่อยๆเดินออกไป

"ฉันกับยองวอนขอยกเลิกการร่วมงานกับพวกคุณครั้งนี้ค่ะ"  ฉันเดินเข้าไปคุยกับโปรดิวเซอร์รายการ

"ยกเลิก จะมายกเลิกกลางคันแบบนี้ได้ยังไงคุณก็รู้มันเป็นไปไม่ได้ อย่าทำตัวไม่มีความรับผิดชอบหน่อยเลย" เขาตะโกนใส่หน้าฉันด้วยอารมณ์หงุดหงิด ใช่ฉันก็หงุดหงิด อยากให้ฉันแสดงนิสัยแย่ๆแบบนี้ใส่นายไหมละ แต่ต้องอดทนและพยายามพูดดีกับตาลุงนี่

"พวกคุณก็รู้ดีว่าเชิญยองวอนมาทำไม" พูดจบฉันก็เปิดคลิปเสียงที่อัดไว้ให้เขาฟัง "ฉันหวังว่าคุณจะจบเรื่องแต่โดยดี ถ้ามีข่าวให้ร้ายยองวอนเมื่อไหร่ ฉันจะส่งคลิปเสียงนี้ให้ทางบริษัทและคุณคงจะรู้ว่าบริษัทของเราสามารถทำอะไรกับรายการของคุณได้บ้าง" พูดจบฉันก็หันหลังเดินออกไปทันที พวกเขาคงไม่กล้าทำอะไรอยู่แล้ว เพราะสิ่งที่พวกเขาทำมันแย่มากจริงๆ ถ้าบริษัทเอาเรื่องขึ้นมารายการนี้คงถูกถอดแน่ๆ

พโยยองวอน

ใช่แล้วครับทุกคนผมคือพโยยองวอนเอง แต่ทำไมผมต้องมาเจอเรื่องแบบนี้น่ะหรอ มันเป็นเพราะเมื่อหลายปีก่อนตอนที่ผมยังไม่ได้เดบเวต์เป็นTrust 5 มีเพื่อนร่วมค่ายของผมคนหนึ่งชื่อแทยัง ช่วงที่เราเป็นศิลปินฝึกหัดเราสนิทกันมากแต่แล้วก็มีเรื่องราวที่ทำให้เราต้องทะเลาะกัน 

แทยังอายุเท่าผมและเขาชอบแกล้งน้องๆที่เป็นศิลปินฝึกหัดมากๆ ซีโน่กับฮยอนจุนก็โดนเหมือนกัน แต่ที่เห็นจะโดนบ่อยก็คือซีโน่ เพราะเขาเห็นซีโน่เป็นเด็กไทยเลยอยากแกล้งเจ้านั่นมากๆ มีหลายครั้งที่เขาชวนผมทำเรื่องร้ายๆใส่ซีโน่จนวันหนึ่งแทยังเล่นแรงซะจนซีโน่หนีหายจากบริษัทไปหลายชั่วโมงมาก

พวกทีมงานก็ออกตามหาซีโน่กันทั่วแต่ที่จริงแล้วไม่ได้ไปไหนไกลเลย เพราะเขาโดนหลอกกว่าถ้าปั่นจักรยานออกไปที่แม่น้ำซึ่งห่างออกไปจากบริษัทนิดหน่อยก็จะได้เป็นคนแรกที่ได้เดบิวต์

ตอนนั้นซีโน่ยังเด็กมากเท่าที่จำได้น่าจะอายุแค่13 หรือไม่ก็14 เขาปั่นจักรยานออกไปคนเดียวแล้วก็เกิดอุบัติเหตุรถชน แต่โชคดีที่ซีโน่ไม่ได้เป็นอะไรมาก

ผู้ใหญ่ที่บริษัทโกรธมากและต้องการจะหาตัวคนผิดที่หลอกซีโน่แบบนั้น ผมเลยออกไปยอมรับว่าเป็นคนทำ เพราะผมเป็นคนไปบอกซีโน่ว่าแทยังมีเรื่องจะคุยด้วย แต่พอบอกไปแบบนั้นซีโน่กลับไม่ยอมและบอกว่าไม่ใช่ผมที่เป็นคนหลอกเขาแต่เป็นแทยัง จนแทยังโดนทำโทษหนักมากและอาจจะไม่มีสิทธิ์ได้เดบิวต์เลยก็ได้ เขาจึงลาออกจากการเป็นศิลปินฝึกหัดที่ PST และไปเข้ากับบริษัทคู่แข่งของเรา

นับแต่นั้นมาเขาก็เกลียดผมกับซีโน่มากจนพยายามหาทางเอาคืนทุกอย่าง พยายามแข่งกับพวกเราTrust5 มาตลอด และนี่ก็เป็นหนทางหนึ่งที่เขาใช้แก้แค้นผม เขากับโปรดิวเซอร์รายการนี้สนิทกันมากคงจะบอกให้โปรดิวเซอร์เอาผมมาร่วมรายการด้วย ตอนแรกคิดว่าอาจจะรับมือไหวถ้าอดทนซะหน่อย 

แต่มันไม่ใช่เลยเพราะถ้าพวกเขาต่อว่าหรือดูถูกแค่ผมก็อาจจะพออดทนร่วมงานด้วยได้ แต่นี่เขาดูถูกเพื่อนๆ Trust5 คนอื่นๆไม่เกี่ยวอะไรด้วยและพวกเขาก็ไม่ไร้ความสามารถด้วย

อีกอย่างตอนนี้ความรู้สึกก็ไม่ได้อยากให้ซารังออกจากคอนโดแล้วด้วย เธอชอบพูดว่าผมเกลียดเธอบางทีก็รู้สึกแปลกๆ อยากจะบอกเธอว่าผมไม่ได้เกลียดเธอเลยและก็อยากให้เธออยู่ที่นี่ต่อแต่ซารังก็คือซารัง บางครั้งเธอก็ซื่อบื่อจนแยกแยะไม่ออก เหมือนจะรู้ทุกอย่างที่เกี่ยวกับผม เหมือนอ่านความคิดของผมได้ แต่ทำไมเรื่องแค่นี้ถึงไม่รู้

ผมไม่รู้ว่ามันเริ่มตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เริ่มไว้ใจยัยลูกหมา อาจเป็นเพราะเธอเป็นผู้จัดการที่เป็นทั้งคนที่คอยดูแลผม ดูแลงานของผมและเป็นแฟนคลับที่คอยสนับสนุน หลายอย่างที่ได้รู้จากซารัง หลายความรู้สึกที่ได้รับจากเธอ

ทั้งความรู้สึกและความคิดของแฟนคลับ ผมชอบมากๆเวลาที่เธอเล่าเรื่องแฟนคลับให้ผมฟัง อยากให้เธอเล่ามันบ่อยๆ และตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ที่ผมเชื่อและชอบทุกอย่างที่เธอทำ ตอนนี้ยอมรับแล้วว่าซารัง เป็นผู้จัดการส่วนตัวของผม

ซารังต้องแบกรับความรับผิดชอบมากมายในฐานะผู้จัดการมันเป็นงานที่หนักมากสำหรับเด็กอายุแค่นี้ แต่เธอกลับทำมันได้ดี กลายเป็นผมซะเองที่สร้างความลำบากให้เธอ ดูอย่างวันนี้สิที่ยัยนั่นต้องรับหน้าจัดการทุกอย่าง นั่นก็เป็นเพราะผมเองที่ไม่มีความอดทนและไร้ความสามารถ

วันนี้เป็นครั้งที่2แล้วที่เธอร้องไห้ต่อหน้าผม ทุกครั้งที่ทำให้เธอต้องเจ็บตัวหรือร้องไห้ มันรู้สึกแย่และเสียใจไปด้วย อาจเป็นเพราะเธอเป็นแฟนคลับของTrust5 บางครั้งที่พวกเราไปแสดงคอนเสิร์ตแล้วมีใครในวงร้องไห้ แฟนคลับก็จะร้องไห้ตาม มันเป็นสิ่งที่บ่งบอกว่าพวกเขารักพวกเรามาก

คงเหมือนที่ผมเห็นซารังร้องไห้แล้วรู้สึกเสียใจ พี่ซองมินพูดถูกผมไม่ควรเอาคนๆเดียวมาทำร้ายคนแบบซารัง เพราะเธอเป็นผู้จัดการคนใหม่ของผมเป็นแฟนคลับเป็นคนที่รู้จักผมดีมากและเป็นครอบครัวของ Trust5

• • • • • • • • • • • • • • • • • • • • 

หลังจากที่ฉันคุยกับตาลุงพุงป่องโปรดิวเซอร์ของรายการเสร็จ ก็ตรงไปที่ห้องรับรองและเก็บของทุกอย่างทันที ฉันรีบวิ่งมาที่รถเพราะยองวอนรออยู่นานแล้ว

กึกๆ พอเปิดประตูข้างหลังที่ยองวอนนั่งอยู่ก็เห็นว่าเขากำลังนอนหลับอย่างสบายใจ ฉันขึ้นไปนั่งที่เบาะข้างๆเขาและจ้องเขาอยู่นาน ตอนนี้ยองวอนดูหล่อมากๆ หล่อกว่าที่เคยเห็นผ่านทางทีวีอีก ฉันไม่เคยคิดไม่เคยฝันว่าจะได้มานั่งมองเขาหลับแบบนี้ ดวงตาเรียวสวยจนน่าอิจฉา จมูกที่โด่งรับกับรูปหน้าของเขาเป็นอย่างดีและริมฝีปากบางสีชมพู ทุกอย่างดูเพอร์เฟคไปหมด

“ฉันขอมองนายใกล้ๆอีกหน่อยนะ ต่อไปคงไม่ได้อยู่ให้นายเกลียดแล้ว” ฉันพึมพำกับตัวเอง เพราะอาจจะรู้สึกเสียใจกับสิ่งที่พี่งทำลงไปที่มันต้องแลกกับการงานที่ฉันอดทนรอมา2ปี แต่อย่างน้อยฉันก็มีวุฒิและใบรับรองการทำงานจาก Pst บริษัทเขาใหญ่และมีชื่อเสียงขนาดนั้นฉันคงหางานใหม่ได้ไม่ยาก

@คอนโดTrust5

ยองวอนเดินลงจากรถแบบกึ่งหลับกึ่งตื่น ฉันเชื่อแล้วว่าเขาเพลียมากขนาดตอนยื่นอยู่ในลิฟยังเกือบล้มลงไปนอนกับพื้นจนต้องรีบเข้าพยุงด้วยความตกใจ

“ทุกอย่างโอเคใช่ไหม?” คงจะเป็นห่วงกลัวว่าจะมีปัญหาตามมาทีหลังสินะ เพราะดันไปยกเลิกกลางคันแบบนั้น

“โอเคสิ ไม่ต้องห่วงนายไปพักผ่อนได้แล้ว” ฉันยิ้มแล้วตอบเขา พยายามเก็บความเศร้าให้ถึงที่สุดเพราะไม่อยากให้ยองวอนไม่สบายใจกับเรื่องอะไรทั้งนั้น แค่นี้ก็เหนื่อยกับคนพวกนั้นมามากพอแล้ว

พึ่งเคยเห็นอสูรร้ายอ่อนเพลียขนาดนี้คงจะเหนื่อยมากเพราะท่าเดินขึ้นบันได้ดูเหมือนจะไม่มีแรงเต็มที ฉันเองก็เดินตามไปเพราะกลัวว่าเขาจะล้มตกลงมาซะก่อนจะถึงห้อง

“ซารัง”เขาหันมาเรียกฉัน

“ว้ายยย!” เพราะเดินตามมาติดๆและอยู่ๆยองวอนก็หันกลับมาแบบไม่ทันตั้งตัวฉันเลยเสียงหลักเซไปทางด้านหลัง เหมือนว่ากำลังจะหงายหลังตกบันไดตอนนี้คือเตรียมตัวรับความเจ็บเต็มที่พร้อมกับกับหลับตาปี๋ 

หมับ!! แต่ฉันกลับถูกดึงกลับมาอย่างแรงและเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของยองวอน เขามีสติมากและเอื้อมมือมาจับเอวของฉันพร้อมกับออกแรงกระชากให้เข้าหาตัวเขาได้ทัน

ตึกตึก ตึกตึก ตึกตึก ไม่รู้ว่าเพราะตกใจหรือเพราะอะไรแต่หัวใจของฉันเต้นแรงเอามาก และตัดสินใจเงยหน้าขึ้นไปมองยองวอนที่กำลังจ้องฉันอยู่

“ขอบคุณนะ” เขาจ้องหน้าของฉันอยู่นานก่อนจะพูดขึ้น แล้วมาขอบคุณฉันทำไมเนี้ย นั่นมันเป็นคำพูดที่ฉันควรจะพูดมากกว่าไม่ใช่หรอ ถึงจะงงแต่เพราะกำลังตกใจจนทำให้พูดอะไรไม่ออก เขาปล่อยแขนออกจากเอวของฉันและเดินขึ้นบันไดไปที่ห้องของตัวเอง ตอนนี้ก็เหลือแค่ฉันที่ยืนใจเต้นแรงอยู่ที่บันได ฟวู่ ฟวู่ หายใจเข้าลึกๆหายใจออก มีสติหน่อยซารัง เธอจะมาใจสั่นเพราะอสูรร้ายไม่ได้

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา