มรสุมรักร้าย
เขียนโดย ดาวจรัด
วันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2561 เวลา 03.00 น.
แก้ไขเมื่อ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2561 03.27 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) ความจริงที่น่าละอาย (1)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความบทที่๑
ความจริงที่น่าละอาย
ปัญรินทร์นั่งอ่านข่าวสารของเว็บไซต์หางานชื่อดังจากโทรศัพท์มือถือรุ่นล้าสมัย บนม้าหินอ่อนหน้าคณะ เพราะอีกไม่กี่เดือนเธอก็จบแล้วเลยต้องขยันหาที่ดีๆตั้งแต่เนิ่นๆเผื่อไว้
“อ้าวเฟื่อง นี้ยังไม่กลับอีกเหรอ”
คนโดนทักเงยหน้าขึ้นไปมอง เห็นกันต์เดินมาพอดี เพื่อนชายแสนสนิทของเธอ
“อ่อ..พอดีแจนมันชวนไปกินข้าวน่ะ เราเลยนั่งรอมัน”
กันต์พยักหน้า ก่อนจะนั่งลงตรงข้ามกัน ชายหนุ่มจ้องมองหญิงสาวหน้าหวานแสดงแววตาตัดพ้อ จนปัญรินทร์หลุดขำด้วยความสงสัย
“เป็นอะไร”
“แค่นอยท์เพื่อน ที่ไม่รู้จักชวน”
“ก็วันนี้กันต์บอกไม่ว่างเราก็เลยไม่ได้ชวนไง” พูดไปเพื่อนชายก็ยังมิวายทำหน้างอนเข้าไปอีก
“เดี๋ยวเราพาไปหาผู้ชายหล่อๆเอาไหม”
ปัญรินทร์งัดไม้เด็ดขึ้นมาง้อคนหน้างอเพราะมันใช้ได้ผลทุกครั้งและครั้งนี้ก็เหมือนกันเพื่อนชายหน้าหล่อหันมายิ้มแฉ่งจนหน้าบาน เพราะกันต์มีรสนิยมชอบผู้ชายถึงแม้จะแมนทั้งแท่งทั้งรูปหล่อพ่อรวย เดินไปไหนสาวกรี๊ดลั่นแต่มิวายผิดหวังไปตามๆกันเพราะมารู้ทีหลังว่าชายหนุ่มเป็น เกย์
“จะไปหาผู้ชายที่ไหนกันจ้ะ แจนคนสวยขอไปด้วยคนสิ” เสียงสาวสุดมั่นเดินทอดน่องมาแต่ไกล
“จะอ้วก”
“ไอ้กันต์ แกนะแก” แขวะเพื่อนเสียงเขียวที่มักทำลายความมั่นใจหล่อนเสมอ
“เฟื่องป้ะ เราเรียนเสร็จแล้วไปกันเถอะเหม็นคนแถวนี้”
คนโดนเหม็นลุกพรวดขึ้นมาเกาะแขนปัญรินทร์แทรกแจนทันที คนกลางได้แต่ยืมขำสองคนนี้ที่ชอบกัดกันทุกทีที่เจอ สำหรับเธอแล้วการมีเพื่อนสองคนนี้ทำให้ชีวิตนอกบ้านสดใสขึ้นทำให้ลืมเรื่องแย่ๆได้บ้าง
“นี้แกมาแทรกฉันทำไมนิ”
“ฉันจะไปด้วย”
“ฉันไม่ได้ชวนแก” เดินไปดึงแขนอีกข้างหนึ่งของปัญรินทร์เดิน ทว่ากันต์กลับฉุดดึงไว้กลายเป็นว่าปัญรินทร์ในตอนนี้ไม่ต่างจากหุ่นถูกดึงซ้ายทีขวาทีจนเวียนหัวไปหมด
“พอ เฟื่องชวนกันต์เอง ไปด้วยกันนี้แหละ”
ทุกอย่างจบลงที่ร้านหมูกระทะข้างทางเจ้าประจำของทั้งสามก่อนจะแยกย้ายกันกลับบ้านโดยมีกันต์เป็นผู้รับส่งทุกคน ปัญรินทร์ยืนโบกมือให้เพื่อนทั้งสองหน้าห้องพัก เธอไม่เคยอายที่อยู่ในที่จนตรอก ทั้งยังมีแม่เป็นผู้หญิงกลางคืน เพื่อนทั้งสองรู้ดีแต่เรียกที่จะไม่ซักถาม ไม่คิดรังเกียจเธอเหมือนเพื่อนคนอื่นๆ
กันต์กับเธอเป็นเพื่อนสนิทในคณะคบกันมาจะตั้งแต่ปีหนึ่ง ส่วนแจนเป็นเพื่อนสมัยมัธยมปรายแต่ด้วยความชอบด้านสายเรียนที่ไม่เหมือนกันปัญรินทร์เลือกเรียนออกแบบส่วนแจนเลือกเรียนบัญชีถึงจะอยู่คนละคณะแต่ก็ไม่ได้ทำให้ความสนิทที่มีลดลง
ยังไม่ทันที่จะหันหลังตาก็เหลือบไปเห็นรถเบนซ์คันหรูเคลื่อนมาหยุดลงหน้าห้องเช่า ก่อนจะเห็นร่างระหงส์ของมารดาก้าวออกมาในสภาพผมเพล้ายุ่งเหยิง เสื้อผ้าตัวน้อยเปิดนิดโชว์หน่อยไม่เรียบร้อยนัก ทั้งแปลกใจเพราะแต่ไหนแต่ไรมารดาไม่เคยให้ใครมาส่งถึงรูนอน
“คุณจะไม่ให้ผมขึ้นไปหน่อยเหรอ”
“อย่าเลยค่ะ มันร้อนทั้งยังคับแคบภากลัวคุณอึดอัด” ประภาวีปฏิเสธส่งยิ้มหวานให้ชายในรถอย่างหวานเชื่อม
“ก็ได้ พรุ่งนี้นะครับ อย่าลืม”
“ค่ะ ขอบคุณมากนะคะ” ประภาวีชะโงกหน้าเข้าไปจูบแก้มคนในรถก่อนจะปิดประตูถอยออกมาโบกมือให้รถที่ขับเคลื่อนออกไปจนรับตาหารู้ไม่ว่าการกระทำเมื่อครู่มันน่าเกียจแค่ไหนของคนวัยรุ่นนี้
“แกมายืนทำอะไรอยู่ตรงนี้”
“เฟื่องพึ่งถึงค่ะ”
“วันนี้ไม่ได้ไปทำงานหรือไง”
“วันนี้ร้านปิดค่ะ” ปัญรินทร์ให้เหตุผลมารดาทั้งพยายามเดินเข้าห้อง ยังไม่ทันจะได้เดินเข้าห้องนอนตนด้วยซ้ำแม่ก็พูดขึ้น
“ต่อไปนี้ไม่ต้องออกไปทำงานแล้วนะ”
คนถูกสั่งหันขวับมามองผู้เป็นแม่กี่ครั้งต่อกี่ครั้งแล้วที่ท่านสั่งห้ามไม่ให้เธอออกไปทำงานพิเศษ แต่ก็ยังสั่งไม่เลิกทั้งที่น่าจะรู้ว่าเธอไม่ฟัง
“แล้วถ้าหนูขอแม่ว่าต่อไปนี้แม่ก็เลิกออกไปทำงานบ้างละคะ” ประชดประชันแต่ก็ต้องแปลกใจกลับคำตอบที่ไม่คิดว่าจะได้ยิน
“ได้ ต่อไปนี้ฉันจะเลิกไปทำงานแบบนั้น”ตอบสีหน้าอารมณ์ดี ตาพิศมองแหวนเพชรเม็ดโตบนนิ้วเรียวปากก็ฉีกยิ้มแล้วยิ้มอีก
ปัญรินทร์แปลกใจแต่ในความแปลกใจก็ยังมีความดีใจจนยิ้มแทบฉีดเดินไปกอดเอวแม่อย่างขอบคุณ
“จริงๆนะคะแม่ แม่จะเลิกมันจริงๆนะคะ”
“จ้ะ ต่อไปนี้แม่จะเลิกและไม่กลับไปทำมันอีก” มือก็ลูบหัวลูกสาวตาก็มิวายจดจ้องเพชรเม็ดโต
“ต่อไปนี้แม่ไม่ต้องห่วงนะคะ หนูใกล้จะเรียนจบแล้วอีกไม่นานก็จะมีงานทำ หนูจะเลี้ยงแม่เองคะ” น้ำเสียงมาดมั่นแสดงให้เห็นว่าเธอจะทำมันให้ได้
ตอนนี้ก็มีสองบริษัทที่เข้ามาจ้องตัวเธอไว้ คงเป็นเพราะการเรียนเธออยู่ในเกณฑ์ดีทั้งยังได้เกรียติ์นิยมอันดับหนึ่งของมหาลัยชื่อดังที่เธอได้ทุนเรียน
ประภาวีรั้งลูกสาวเข้ามากอดบ้าง เพราะไม่รู้ว่าต่อไปลูกจะให้เธอกอดแบบนี้อีกไหม หล่อนจำต้องหาที่ยึดเหนี่ยวที่แข็งแรงให้ตนเองและลูกสาว คนผ่านโลกมามากรู้ดีว่าความจนมันน่ากลัวและอยู่ในสังคมยาก แล้วมันจะผิดอะไรถ้าเธออยากจะมอบสิ่งดีให้ลูกถึงแม้ครั้งนี้ ปัญรินทร์จะโกรธมากก็ตาม ที่สำคัญชีวิตของตนและลูกต้องปลอดภัย
เข้ามาอ่านกันเยอะๆนร๊า คอมเม้นกันหน่อยยย
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ