บุหลันกระจ่างใจ
-
3) คุณศรันย์
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความภาพติดตาเมื่อคืนวานยังคงไม่ลบลืมไปได้ง่ายๆ บุหลันมองเหตุการณ์ยื้อยุดฉุดกันไปมาระหว่างชายทั้งสองแล้วเมินหน้าหนี ตั้งท่าจะเดินไปทางอื่นถ้าอรอุมาจะไม่เรียกไว้ซะก่อน
“ บุหลัน ดูสิตานั่นผลักลุงคนนั้นล้มลงแล้วจะกำลังเดินหนีไป ’’
หญิงสาวหันตามกลับไปทันมองเห็นผู้ชายคนนั้นกำลังผละหนีออกไปอย่างหัวเสีย ส่วนชายสูงอายุก็กำลังพยุงตัวลุกขึ้นจากพื้นถนน เขาคงถูกผลักแรงเอาการเลยทีเดียว สองสาวมองหน้ากันเห็นฝรั่งหลายคนเดินผ่านไปมาแต่ไม่มีใครช่วยจึงตัดสินใจเดินเข้าไปดูอาการ แต่ยังไม่ทันจะถามอะไรเขาก็โบกมือแสดงอาการว่าตนไม่เป็นไรและลุกขึ้นด้วยตัวเอง อรอุมาจึงว่า
“ อ้าวนึกว่าจะเป็นอะไรมาก ถ้างั้นเราไปกันเถอะ ’’ ชายคนนั้นได้ยินภาษาไทยจึงพูดขึ้นว่า
“ คนไทยหรือครับ ขอบคุณนะที่คิดจะช่วยแต่ลุงไม่เป็นอะไรแล้ว ’’
เขามองหญิงสาวทั้งสองเต็มตา ก็เห็นว่าคนหนึ่งมีท่าทางทันสมัยใบหน้าแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางค์เล็กน้อย ส่วนอีกคนนั้นดูเรียบร้อยแต่ผิวพรรณผุดผ่องสมกับอยู่เมืองหนาว ที่สำคัญดวงตาของเธอกลมโตใสแจ๋วจนเขานึกเอ็นดูไม่ได้
“ ลุงจะแจ้งความมั๊ยคะ โดนทำร้ายตรงไหนรึเปล่า ’’ อรอุมาถามอีก
“ ไม่ครับ เป็นเรื่องเข้าใจผิดกันนิดหน่อยแต่ขอบใจหนูสองคนมากที่อุตส่าห์เป็นห่วง ลุงไปละนะครับ ’’ ว่าแล้วขึ้นรถขับออกไป
อรอุมามองตามแล้วหันมาถามเพื่อนรัก
“ ตัวว่านายเพี้ยนนั่นเป็นใครกัน นักเรียนหรือเปล่าทำไมอันธพาลขนาดนี้ แหมถ้ามีตำรวจอยู่แถวนี้จะเรียกให้จับไปเลย คนอะไร ’’ บุหลันส่ายหน้ากับความวุ่นวายของเพื่อนแล้วเดินออกไปจากตรงนั้น หล่อนไม่อยากให้เพื่อนสงสัยอะไรเกี่ยวกับนายนั่นอีกแล้ว
“ กลับกันดีกว่าอร เหนื่อยแล้ว หนาวมากแล้วด้วย ’’ บุหลันว่า
“ กลับก็กลับ เดินจนเมื่อยไปหมดแล้วเหมือนกัน ’’
เทศกาลหยุดยาวใกล้จะหมดลงแล้ว ทศพลกลับมาจากทริปสุดท้ายกับแฟนหนุ่มเพื่อเตรียมตัวเก็บข้าวของรอแพ็คส่งลงเรือกลับประเทศไทย บุหลันและอรอุมาใช้เวลาว่างในวันหยุดช่วยเพื่อนเก็บของ
“ นี่สองสาว เฟอร์นิเจอร์พวกนั้นถ้าหล่อนอยากได้ก็มาขนไปนะ ฉันไม่เอากลับล่ะ ’’ ทศพลชี้ไปที่เครื่องใช้ชิ้นใหญ่ๆที่ตนเองไม่ต้องการเสียค่าส่งกลับบ้านพลางบุ้ยใบ้ให้ดูว่าชิ้นไหนควรจะเอาไป
“ เจ๊คะ กลับไปแล้วจะไปทำงานอะไรที่ไหน วางแผนไว้แล้วรึยัง ’’ บุหลันเอ่ยปากถามขณะที่ก้มลงตรวจดูสภาพเครื่องใช้บางชิ้นว่าจะเอาไปใช้ประโยชน์อะไรได้บ้าง
“ ยังไม่รู้เลย ถ้าไม่กลับสงสัยพ่อแม่ฉันจะตัดฉันออกจากกองมรดกแล้วล่ะ ’’
ครอบครัวของทศพลทำธุรกิจเกี่ยวกับวงการบันเทิง มีดารานักร้องในสังกัดมากมาย การที่ทศพลเป็นชายแต่มีใจเป็นหญิงเช่นนี้ไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับพ่อและแม่ของเขาเลย ทั้งคู่รับได้ที่ลูกชายคนเดียวจะเลือกทางชีวิตของตัวเอง
“ ฉันกลับไปแล้วหล่อนสองคนต้องรีบเรียนให้จบเร็วๆนะ จะได้กลับไปเจอกัน อย่าปล่อยให้ฉันเหี่ยวแห้งอยู่คนเดียว ’’
ทศพลรักสองสาวเหมือนเป็นน้องสาวแท้ๆของตนเอง เวลามีปัญหาก็หันหน้าปรึกษากันสามคน การกลับเมืองไทยครั้งนี้เป็นการกลับแบบถาวร ทศพลจึงรู้สึกใจหายไม่ใช่เล่น
“ ทำเหมือนเราจากกันแล้วจะจากเลย อรกับบุหลันเรียนอีกแค่ปีเดียวก็จบแล้ว กลับไปก็ต้องไปหางานทำอีก ถึงคราวนั้นถ้าหางานไม่ได้จะไปสมัครทำงานกับเจ๊นะ ’’ อรอุมาแซวยิ้มๆ
“ แหม พ่อแม่หล่อนสองคนจะยอมปล่อยให้มาหางานทำที่กรุงเทพหรือยะ กิจการที่บ้านก็มีกันทั้งสองคน ’’ ทศพลว่าพลางมองค้อน
“ หนูจะไปหางานทำที่กรุงเทพค่ะ บอกแม่แล้วแต่ยังไม่ได้บอกพ่อ เรื่องทำสวนคงต้องปล่อยให้พี่ตะวันทำไปค่ะ หนูไม่มีความรู้เลยแล้วอีกอย่างอุตส่าห์เรียนมาแทบตายขอใช้วิชาความรู้พึ่งตัวเองก่อน ’’
“ ส่วนอรก็อยากไปหางานทำก่อน อยู่บ้านทำงานกับป๋ามีหวังทะเลาะกันตาย ’’ อรอุมาว่าแล้วทำปากเบ้
“ เอาล่ะๆ เรื่องนั้นว่ากันทีหลัง รู้กันแล้วใช่มั้ยว่าคืนนี้มีลูกค้าคนไทยเหมาปิดร้านทั้งคืนเลย ฉลองการเปิดสาขาบริษัทอะไรสักอย่างที่นี่แหละ ’’
“ รู้แล้วค่ะพี่เก๋บอกแล้ว ปิดร้านแบบนี้ดีจังดูแลกันง่ายหน่อย ’’ อรอุมาว่า
“ ก็ขอให้อย่ามีเรื่องอะไรแบบคืนนั้นเลย ฉันรู้เรื่องที่เกิดขึ้นแล้วพวกที่ร้านบอก ฟังไม่ค่อยได้ศัพท์เพราะมัวแต่แย่งกันเล่าว่าหนุ่มไทยคนนั้นหล่อมาก เสียดายฉันไม่ได้อยู่เห็นด้วยอยากจะดูซิว่าจะหล่อน่ากินขนาดไหน ’’
ระหว่างที่ทศพลพูดอยู่นั้น บุหลันทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกจึงหลบออกมานอกห้องปล่อยให้เพื่อนทั้งสองคุยกันถึงเรื่องคืนนั้น อรอุมาคงจะเล่าถึงตอนที่มีเรื่องราวผลักกันกลางท้องถนนให้ทศพลฟังด้วย บุหลันไม่อยากจะได้ยินใครพูดถึงนายนั่นอีก
เย็นนั้นที่ร้าน พนักงานทุกคนเตรียมตัวสำหรับงานปาร์ตี้ที่กำลังจะมีขึ้น สถานที่พร้อมแล้วเหลือแต่อาหารที่รอไว้ให้แขกเข้ามาก่อนจึงจะเริ่มทยอยทำออกมา บุหลันใช้เวลาว่างเล็กน้อยออกไปสูดอากาศนอกร้าน เธอเดินไปนั่งที่ม้านั่งในสวนหย่อมฝั่งตรงข้ามร้าน อากาศเย็นแต่แดดบ่ายก็ช่วยให้อุ่นขึ้นนิดหน่อย ระหว่างที่กำลังจะเดินข้ามถนนกลับเข้าร้าน สายตาก็เหลือบไปเห็นรถยุโรปคันหรูจอดเปิดไฟกระพริบเยื้องออกไปหน่อยและไม่มีทีท่าว่าจะขับออกมา หลังจากมองซ้ายมองขวาดีแล้ว หญิงสาวก้าวข้ามถนนจะกลับร้าน ทันใดนั้นรถหรูคันนั้นก็เคลื่อนที่มาด้วยความเร็วที่ไม่มากนักแต่มันก็ทำให้บุหลันตกใจจนนึกว่าจะโดนชนเข้าแน่ๆ โชคยังดีที่คนขับเบรกรถได้ทันก่อนที่จะมาถึงตัว ผู้คนแถวนั้นร้องตะโกนถามว่าเธอเป็นอะไรรึเปล่า เมื่อเห็นว่าหญิงสาวไม่ได้ถูกรถชนก็เดินผ่านไป บุหลันไม่คิดจะเอาเรื่องอะไร จึงจะเดินข้ามถนนไปแต่ประตูรถเปิดออกอย่างรีบร้อน ผู้ชายคนหนึ่งออกมาจากรถเดินเข้ามาหาหล่อน
“ คุณเป็นอะไรมั๊ยครับ ผมขอโทษจริงๆผมผิดเอง มัวแต่ดูโทรศัพท์มือถือหาร้านที่กำลังจะไปเลยไม่ทันเห็นคุณ พอเห็นร้านอยู่ตรงข้ามเท้ามันก็เหยียบคันเร่งไปไม่รู้ตัวเลย ’’ ชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่หน้าตาท่าทางสุภาพเรียบร้อย ใส่สูทสีเทาเข้าชุดกันกับกางเกง เครื่องประดับในตัวราคาแพงสมกับท่าทางของเขา
“ ฉันไม่เป็นอะไรค่ะ ยังไม่โดนรถคุณเลยด้วยซ้ำ ว่าแต่คุณรู้ได้อย่างไรคะว่าฉันเป็นคนไทย ’’ บุหลันก้มสำรวจตัวเองแล้วเงยหน้าขึ้นมองเขาพร้อมคำถาม แต่เมื่อไม่ได้คำตอบก็แปลกใจที่เห็นเขาจ้องมองหน้าหล่อนอยู่อย่างนั้น
“ คุณคะ คุณเป็นอะไรหรือเปล่า ’’ เมื่อถามออกไปอีกครั้งเขาจึงรู้สึกตัวมองเธอแล้วพูดเก้อๆว่า
“ ผมไม่ทันเห็นคุณเพราะมัวแต่ดูโทรศัพท์เลยเผลอเหยียบคันเร่งไป ขอโทษนะครับ ’’ เขายิ้มกว้างแล้วพูดประโยคเดิม
“ ฉันรู้แล้วค่ะแล้วก็บอกไปแล้วว่าไม่เป็นอะไร เพียงแต่สงสัยว่าคุณรู้ได้อย่างไรว่าฉันเป็นคนไทย’’ เมื่อต้องถามคำถามเดิมหล่อนก็สังเกตุท่าทางของเขาที่ดูแล้วแปลกๆ จะพูดก็ไม่พูดได้แต่จ้องหน้าเธออยู่ได้
“ งั้นถ้าคุณไม่เป็นอะไร รถคุณก็ไม่บุบตรงไหน ฉันก็ขอลาล่ะค่ะ’’ หล่อนเบี่ยงตัวออกมาจากเขาที่ยืนบังถนนฝั่งตรงข้ามมิด ขณะที่กำลังจะข้ามถนนก็ได้ยินเขาพูดว่า
“ ผมรู้ว่าคุณเป็นคนไทยเพราะเครื่องแบบที่คุณใส่อยู่มันปักชื่อร้านเป็นภาษาไทย แล้วมันก็บังเอิญเป็นร้านอาหารที่ผมกำลังหาอยู่ ผมมางานปาร์ตี้ครับ ’’ เขายิ้มกว้างให้หล่อนอีกครั้ง
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ