บุหลันกระจ่างใจ

-

เขียนโดย สุดเชย

วันที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2561 เวลา 02.26 น.

  12 ตอน
  3 วิจารณ์
  12.86K อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) แสงจันทร์คืนนี้

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

     

        เนื่องจากคืนนี้เป็นวันหยุดเทศกาลของที่นี่ สองสาวจึงมีเวลาหยุดพักจากการเรียนแต่ก็ยังต้องไปทำงานพิเศษ เพราะช่วงเทศกาลเป็นเวลาที่ร้านอาหารจะยุ่งมาก ผู้คนพาครอบครัวออกมารับประทานอาหารนอกบ้าน นอกจากนั้นที่ร้านยังขาดพนักงาน เนื่องจากเพื่อนรุ่นพี่ของทั้งสองได้ลาพักเพื่อไปเที่ยวต่างรัฐ เจ๊นิดหน่อยเพื่อนชายแต่ใจเป็นหญิงของบุหลันและอรอุมาเป็นรุ่นพี่ที่สนิทกับทั้งสองมาก เจ๊นิดหน่อยมีชื่อจริงว่า ทศพล โดยชื่อนิดหน่อยนี้นำมาจากคำพูดติดปากของทศพลเวลามีปัญหาอะไรก็มักจะพูดว่า ‘ แหมๆ นิดหน่อยเท่านั้นเอง ’

       ทศพลถือโอกาสช่วงวันหยุดเทศกาลนี้ออกเดินทางท่องเที่ยวไปกับแฟนหนุ่มชาวอเมริกันของเขา และตั้งใจจะให้เป็นทริปลาจาก เพราะอีกไม่ถึงหนึ่งเดือนทศพลก็จะกลับประเทศไทยหลังจบการศึกษา ส่วนแฟนหนุ่มก็กำลังจะย้ายไปรับตำแหน่งใหม่ที่ยุโรป นัยว่าจบทริปนี้ก็ทางใครทางมัน
        “ ถ้าเจ๊กลับไปแล้ว คงเหงาน่าดูเลยเนอะ ’’  อรอุมาเปรยกับเพื่อนรัก
        “ แหมอร ให้เจ๊กลับบ้านสักทีเถิด กว่าจะยอมเรียนจบป่านนี้พ่อแม่แกคิดถึงแย่แล้ว ถึงเวลาเรากลับไปค่อยไปเจอกันอีกก็ได้ ’’  
       บุหลันตอบเพื่อนพร้อมกับควานหากุญแจรถในกระเป๋าถือ ถึงแม้วันนี้จะเป็นวันหยุดยาวแต่ที่ร้านก็ไม่ยุ่งอย่างที่คาดกันเอาไว้ เจ้าของร้านใจดีอนุญาติให้ปิดร้านเร็วกว่าปกติ  สองสาวจึงมีเวลาเหลือพอจะไปเดินเล่นในตัวเมืองก่อนจะกลับอพาร์ตเมนต์ คืนนี้หิมะไม่ตกแล้วแต่อากาศก็เย็นเฉียบเลยทีเดียว แต่ถึงกระนั้นบุหลันและอรอุมาก็แต่งตัวเตรียมพร้อมรับกับสภาพอากาศเป็นอย่างดี 
       ระหว่างที่เดินผ่านช่วงตึกที่เป็นร้านอาหารและบาร์ในย่านธุรกิจซึ่งคลาคล่ำไปด้วยหนุ่มสาวที่ออกมาฉลองกัน อากาศแสนเย็นไม่เป็นอุปสรรคใดๆเลย เพียงแค่เห็นผู้คนยิ้มแย้มพูดคุยหัวเราะกัน เท่านี้บุหลันก็มีความสุขร่วมไปกับพวกเค้าได้แล้ว ถ้าไม่บังเอิญเหลือบไปเห็นใบหน้าหนึ่งที่จำได้ติดตา แถมยังเป็นใบหน้าที่ตามมารบกวนจนทำให้เธอนอนไม่หลับเกือบจะทั้งคืน เจ้าของดวงตาเรียวสวยคู่นั้นกำลังโต้เถียงกับคนขับรถสีดำคันใหญ่ที่จอดแอบอยู่ข้างทาง คนขับรถที่เป็นชายชาวเอเชียคนนั้นพยายามดึงตัวนายคนนั้นให้ขึ้นรถไปกับเขา แต่กิริยาอาการไม่ใช่ว่าจะเป็นการบังคับขู่เข็ญแต่อย่างใด ส่วนนายนั่นก็เริ่มส่งเสียงโวยวายปัดไม้ปัดมือไปทั่ว ดูจากสภาพแล้วน่าจะกำลังเมาอยู่แน่ๆ เสียงของเขาดังขึ้นเรื่อยๆจนคนที่เดินผ่านไปมาเริ่มจะสังเกตุเห็นรวมไปถึงอรอุมาด้วย
       “ เดี๋ยวนะ นั่นมันนายเพี้ยนเมื่อคืนนั้นนี่ อะไรกันไปอาละวาดที่ร้านเราไม่พอคืนนี้เอาอีกแล้ว แล้วนี่อะไรมาทะเลาะกับคนขับรถ สงสัยจะเมาแล้วไปเดินผิดท่าไปทำรถเค้าเป็นรอยแน่เลย ’’ บุหลันไม่ตอบว่าอะไรเพียงแต่มองชายสองคนนั้นนิ่งอยู่ 
       “ เมื่อคืนที่มาดื่มจนเมาไม่ได้สติที่ร้านเกือบจะโดนฝรั่งทุบเอานั่นดูท่าจะไม่เข็ด ’’ อรอุมายังคงพึมพำต่อไปแต่เมื่อไม่เห็นเพื่อนรักตอบว่าอะไรจึงหันไปถาม  
       “ ตอนที่ตัววิ่งเอากระเป๋าสตางค์ไปคืนลูกค้าน่ะ นายนี่เกือบจะมีเรื่องกับฝรั่ง 3-4 คนที่นั่งโต๊ะใกล้ๆบาร์ ตัวคนเดียวแถมเมาไม่รู้เรื่อง ฝรั่งเค้าคุยอะไรก็ไม่รู้ดันไปตะโกนแทรกเค้าแล้วพูดจาเหน็บแนมจนเค้าจะเอาเรื่อง พี่เก๋ต้องเข้าไปเคลียร์ขอร้องให้นายนี่ออกไปซะ พอเดินออกไปนอกร้านเท่านั้นล่ะ ฝรั่งโต๊ะนั้นลุกตามออกไปทันที แล้วยังไงไม่รู้เห็นชุลมุนกันหน้าร้านสักพักก็หายไปกันทั้งหมด เสียดายพี่เก๋ไม่ให้พวกเราออกไปดูไม่งั้นคงได้เห็นคนไทยโดนฝรั่งอัดหรือไม่ก็ได้เห็นฝรั่งโดนแม่ไม่มวยไทยเข้าบ้าง ’’ 
        บุหลันรับฟังเรื่องราวจากอรอุมาแล้วคิดไปถึงเมื่อคืนวานนี้ที่กำลังทำงานกันอยู่ ขณะที่ทุกคนกำลังยุ่งอยู่นั้น ผู้ชายไทยคนนี้ก็เดินเข้าไปนั่งที่บาร์ สั่งเครื่องดื่มแรงๆดื่มไปหลายแก้ว ที่จริงการที่มีลูกค้าคนไทยเข้าร้านถือเป็นเรื่องปกติ แต่สำหรับเขาแล้วด้วยรูปร่างหน้าตา รวมถึงการแต่งตัวที่ใช้เสื้อผ้าเครื่องประดับราคาแพง ทำให้พนักงานสาวๆในร้านหลายคนมองเขาเป็นตาเดียว มีเพียงแค่บุหลันและอรอุมาเท่านั้นที่มัวแต่สนใจให้บริการลูกค้าที่ตนเองต้องรับผิดชอบ เมื่อเพื่อนคนอื่นมาสะกิดให้ดูหนุ่มหล่อ สองสาวก็เพียงแต่มองผ่านๆแล้วไม่ได้สนใจอะไรอีก จนกระทั่งเวลาผ่านไปพักใหญ่ก็ได้ยินเสียงผู้ชายคนนี้พูดจาดังขึ้นเรื่อยๆ และเขาเริ่มที่จะเกะกะระรานลูกค้าคนอื่น ซึ่งก็เป็นช่วงเดียวกันกับที่บุหลันพบว่าลูกค้าของเธอลืมกระเป๋าสตางค์เอาไว้ เธอรีบขออนุญาติผู้จัดการร้านวิ่งเอาไปคืน แล้วระหว่างที่เดินกลับร้านหลังจากคืนกระเป๋าให้เจ้าของแล้วก็ได้พบเขาอีกครั้ง แต่ภาพที่เห็นคือเขากำลังวิ่งหนีอะไรมาสักอย่าง แม้จะรู้ว่าเขาค่อนข้างจะเมาแล้วแต่บุหลันก็ไม่คิดว่าเขาจะเมามายจนไม่ได้สติจึงวิ่งได้เร็วขนาดนี้ ในขณะที่หญิงสาวไม่ทันตั้งตัว อุ้งมือใหญ่แข็งแรงก็คว้าหมับเข้าที่ข้อมือของหล่อน เพียงแค่เขาออกแรงดึงนิดเดียวบุหลันก็หน้าคะมำวิ่งตามเขาไปไม่รู้ตัว  
       ชายหนุ่มลากบุหลันเข้าไปในตรอกเล็กๆระหว่างช่องตึกซึ่งมีเพียงแสงไฟสลัวๆข้างถนนสาดมาเท่านั้น แม้จะมองอะไรไม่ชัดแต่บุหลันก็ได้ยินเสียงฝีเท้าคนไม่ต่ำกว่า 2 คนวิ่งตามมาพร้อมคำสบถเป็นภาษาอังกฤษ หญิงสาวตกใจกลัวจนตัวสั่น ส่วนเขาคนนั้นไม่ได้พูดอะไรกับเธอเลยสักคำ ได้ยินแค่เสียงหายใจหอบเหนื่อยที่เจ้าตัวพยายามให้เบาที่สุด เขายังคงกำข้อมือเธอไว้แน่นไม่ยอมปล่อย บุหลันพยายามจะดึงมือตัวเองกลับมาแต่เขาก็ยังยึดไว้แน่นแถมยังเอานิ้วชี้มาปิดที่ปากตัวเองเพื่อให้เธอเงียบเสียง ฝรั่งพวกนั้นคงจะตามเขามาแน่นอน บุหลันหมดความอดทนกับเรื่องที่หล่อนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยเลย  ขณะที่อ้าปากจะถามเขาเสียงฝีเท้าก็ใกล้เข้ามาจนเห็นเงาคน 3-4 คนได้จากระยะไม่ถึง 10 เมตร
       “ นี่ คุ...”  ยังไม่ทันที่บุหลันจะพูดจบประโยค ปากของหล่อนก็ถูกปิดด้วยริมฝีปากอุ่นจนเกือบจะร้อนของเขา หญิงสาวตกใจสุดขีด กำมือขึ้นหมายจะทุบเข้าให้แต่กลับถูกยึดมือไว้ทั้งสองข้างแล้วก็โดนรวบตัวเข้าไปแนบอกกว้าง ใบหน้าที่อยู่ใกล้กันขนาดนี้ทำให้บุหลันทำอะไรไม่ถูก ความสูงของเขาทำให้ตัวเล็กลงไปอีก ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยมีครั้งไหนเลยที่หล่อนจะตกใจจนหัวใจแทบจะหยุดเต้นเหมือนครั้งนี้ สัมผัสได้ถึงกลิ่นแอลกอฮอล์จากลมหายใจอุ่นของเขายิ่งทำให้หัวหมุนไปหมด พ่อกับพี่ตะวันไม่เคยยอมให้ผู้ชายคนไหนเข้าใกล้บุหลันได้เลย แล้วเขาเป็นใครกล้าดียังไงมาทำกับเธอแบบนี้
       เมื่อเสียงฝีเท้าคนเหล่านั้นห่างออกไปจนแน่ใจว่าไม่มีใครเหลืออยู่ตรงนั้นแล้ว เขาจึงค่อยๆคลายอ้อมกอดปล่อยให้หญิงสาวเป็นอิสระ บุหลันโกรธจนตัวสั่นพูดได้เพียงแค่คำว่า  ‘ คนเลว ’ แล้วก็ได้แต่จ้องหน้าเขาเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ แต่กลับไม่มีคำพูดใดออกมาจากปากเขาเลยแม้แต่คำขอโทษ เขาเพียงแค่ยืนนิ่งๆไม่เหลือสภาพคนเมาอีก ดวงตาเรียวยาวของเขาจ้องมองที่ใบหน้าหญิงสาว หล่อนเกลียดสายตาแบบนี้ที่สุด มันแฝงไว้ด้วยอาการเยาะเย้ย แสงไฟข้างถนนกับแสงจันทร์รางๆเท่านั้นที่พอจะทำให้คนทั้งสองมองเห็นกันได้ บุหลันไม่พูดอะไรอีก หันหลังกลับจะเดินออกไปสู่ถนนใหญ่ เธอโกรธและละอายจนพูดอะไรไม่ออก ในขณะที่กำลังจะก้าวเท้าออกไปนั้นเขาก็พูดขึ้นมาว่า 
      ‘ ตัวเธอมีแต่กลิ่นอาหารติดอยู่ รู้หรอกว่าทำงานร้านอาหารแต่หัดแต่งหน้าแต่งตัวฉีดน้ำหอมซะบ้าง เรื่องแค่นี้ไม่เคยมีใครบอกเลยหรือไง ’
      จบประโยคเพียงเท่านั้น บุหลันหันขวับมาก้มลงคว้าลังกระดาษที่ถูกทิ้งระเกะระกะข้างทางแล้วขว้างเข้าใส่ เขาไม่ตอบโต้อะไรเลยได้แต่หัวเราะแล้วก็หันหลังวิ่งออกไปสู่ถนนอีกฝั่งหนึ่งของตรอกนั้น 
       บุหลันเดินปากสั่นมือสั่นออกมาสงบสติอารมณ์ อากาศเย็นทำให้อารมณ์เย็นลงได้บ้าง เมื่อเดินกลับเข้าร้านก็เห็นลูกค้าบางตาลงมาก เพื่อนพนักงานรวมทั้งอรอุมากำลังเก็บทำความสะอาดกันแล้วจึงไม่มีใครสนใจจะถามว่าหล่อนหายไปนานแค่ไหน และหญิงสาวก็เก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับไม่ยอมเล่าให้ใครฟัง
       
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา