บุหลันกระจ่างใจ

-

เขียนโดย สุดเชย

วันที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2561 เวลา 02.26 น.

  12 ตอน
  3 วิจารณ์
  12.51K อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

1) ห่างไกล

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
       “ พ่อจ๊ะพ่อ ลูกโทรศัพท์มาหา มาคุยกับลูกหน่อย ’’ เสียงเรียกจากแม่เพ็ญทำให้กำนันยอดวางมือจากการคุมงานลูกน้องรีบวิ่งเหยาะๆขึ้นเรือน ปากก็ตะโกนสั่งงานไม่หยุด 
       “ พวกเอ็งขุดหลุมให้เสร็จก่อนแล้วค่อยไปพักกินข้าวกินปลากัน ’’ 
       คนงานรับคำแล้วก้มหน้าก้มตาขุดหลุมต่อไป โดยหลุมนี้จะใช้หมักปุ๋ยสูตรธรรมชาติที่ตะวันได้มาจากการไปอบรมที่ศูนย์พัฒนาการเกษตร เพื่อนำไปใช้ที่แปลงทดลอง
       บ้านสวนของครอบครัวนี้มีพื้นที่นับได้เป็นร้อยไร่ กำนันยอดผู้กว้างขวางและเป็นที่นับถือของชาวบ้านได้ยกให้ลูกชายดูแลในส่วนที่เป็นสวนผลไม้ ซึ่งตะวันก็ทำได้ดีทั้งๆที่เพิ่งหันมาเป็นเกษตรกรได้เพียง 3 ปี ก่อนหน้านี้เขาทำงานเป็นโปรแกรมเมอร์ในกรุงเทพ แต่เพราะความอึดอัดบีบรัดของการอยู่ในเมืองใหญ่ ทำให้ตัดสินใจกลับบ้านเกิดมาช่วยพ่อแม่ทำงาน แล้วก็พบความสุขกับการอยู่บ้านทำสวนมากกว่าต้องต่อสู้กับความวุ่นวายในเมือง
       นอกจากสวนผลไม้นับร้อยไร่แล้ว กำนันยอดยังมีที่นาให้ชาวบ้านเช่าทำนาอีกมาก สมบัติพวกนี้มาจากการเก็บหอมรอมริบตั้งแต่สมัยพ่อของเขามาจนถึงตัวกำนันเอง และการให้เช่าที่นาก็เป็นเพียงให้ชาวบ้านมาช่วยดูแลที่นาให้เท่านั้น กำนันไม่ได้เก็บค่าเช่ามากมายอะไรเลย
     บนเรือนใหญ่สร้างด้วยไม้สักทองหลังงาม กำนันมองไปยังแม่เพ็ญผู้ซึ่งกำลังพูดคุยยิ้มแย้มให้กับโทรศัพท์ก่อนจะยื่นสายให้ตนเอง แม่เพ็ญ เมียรักผู้ที่กำนันเทิดทูนให้ทั้งความรัก ความหลงใหลตลอดระยะเวลา 30 กว่าปีที่อยู่ด้วยกันมา คำน้อยนิดจะทำให้แม่เพ็ญเคืองใจเป็นไม่หลุดออกจากปากกำนัน ความรักเผื่อแผ่ไปถึงลูกชาย ลูกสาวที่กำนันยอดภูมิใจเหลือหลาย โดยเฉพาะบุหลัน ลูกสาวคนเล็กสุดรักสุดหวง ไม่เคยมีครั้งใดที่กำนันยอดจะขัดใจสองแม่ลูกได้เลย แม้ขณะนี้บุหลันจะอยู่ไกลถึงสหรัฐอเมริกา และการโทรศัพท์กลับบ้านทุกอาทิตย์ก็เป็นสิ่งเดียวที่กำนันเรียกร้องจากลูกสาว
       “ เป็นอย่างไรบ้างลูก อากาศหนาวไหม ตอนนี้กี่โมงกี่ยามแล้ว เตรียมตัวเข้านอนหรือยัง ’’ 
       กำนันยอดป้อนคำถามแบบไม่รอคำตอบจากลูก ทำให้แม่เพ็ญอมยิ้มมอง ตะวันกับบุหลัน สองพี่น้องผู้เป็นดังดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ ส่องสว่างทั้งกลางวันและกลางคืนให้กับพ่อแม่ แม่เพ็ญสุขใจที่สุดที่มีครอบครัวแสนน่ารักและอบอุ่น สามีและลูกทั้งสองไม่เคยทำให้แม่เพ็ญช้ำใจเลยสักครั้ง
        “ สบายดีจ้ะพ่อ เพิ่งจะกลับถึงห้องยังไม่ได้อาบน้ำเลย ตอนนี้อากาศเริ่มเย็นนิดหน่อยแล้ว ว่าแต่พ่อกับแม่กับพี่ตะวันสบายดีมั้ยจ๊ะ ’’ บุหลันตอบคำถามพ่อแล้วยิ้มกับตัวเอง ดีใจที่ได้ยินเสียงพ่อกับแม่ ส่วนพี่ตะวันนั้นคงไม่ได้คุยกันแล้ว เพราะแม่บอกว่าเขาออกไปทำธุระให้พ่อที่อำเภอ  
       ทุกครั้งที่โทรศัพท์ถึงครอบครัว บุหลันจะมีความสุขแม้จะไม่ได้เห็นหน้ากันก็ตาม อากาศหนาวมากแล้วแต่ก็ไม่อยากให้พ่อเป็นห่วง เพราะถ้าเธอบ่นเรื่องการเรียน ดินฟ้าอากาศ หรือเรื่องอะไรเล็กน้อยรอบตัวให้พ่อได้ยิน พ่อจะต้องเป็นห่วงมากเกินไปแล้วจะลงท้ายด้วยการบอกให้กลับมาเรียนต่อที่ประเทศไทย  ส่วนแม่กับพี่ตะวันนั้นเข้าใจ และไม่เห็นว่าการที่บุหลันไปเรียนต่อเมืองนอกจะเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงอย่างหนักหนาเหมือนที่กำนันยอดมักจะบ่นเสมอๆ
       “ อีกปีเดียวหนูก็จะเรียนจบแล้วนะจ๊ะ พ่อกับแม่เตรียมปิดสวนเลี้ยงฉลองได้เลย ยัยอรก็จะจบพร้อมๆกันนี่แหละ ’’ บุหลันบอกพ่อให้ชื่นใจว่าเธอใกล้จะเรียนจบแล้ว แม้จะใช้เวลาอีกหนึ่งปี แต่สำหรับคนเป็นพ่อแล้วมันนานเหมือนสิบปี 
       “ ก่อนจะกลับหนูขอเที่ยวฉลองซักนิดนะพ่อจ๋า เรียนกับทำงานหนักจนไม่มีเวลาเปิดหูเปิดตาเลย แต่พ่อไม่ต้องห่วงนะ เรื่องเที่ยวเอาไว้ทีหลัง ตอนนี้กำลังตั้งหน้าตั้งเรียนให้จบตรงเวลาที่สัญญากับพ่อไว้แน่นอน ’’  
       “ ก็หนูจะไปทำงานพิเศษให้มันเหนื่อยทำไมล่ะลูก ไปเป็นเด็กเสริฟให้ฝรั่งแบบนั้นพ่อไม่ชอบเลย ถ้าเงินไม่พอก็บอกมา พ่อจะให้พี่ตะวันจัดการให้ แล้วเรื่องเที่ยวอะไรนั่น พ่อห้ามเด็ดขาดนะ ห้ามไปคนเดียวอย่างน้อยยัยหนูอรต้องไปด้วย ’’ 
       กำนันยอดหมายถึงอรอุมาเพื่อนสนิทของบุหลัน ลูกสาวเถ้าแก่ส่ง เจ้าสัวใหญ่เจ้าของธุรกิจหลายอย่างในตัวอำเภอ เพื่อนลูกสาวคนไหนก็ไม่ผ่านความเห็นชอบจากกำนันเท่า ‘ ยัยหนูอร ’ เด็กทั้งสองไม่เคยทำอะไรออกนอกลู่นอกทางหรือขัดหูขัดตากำนันเลย ส่วนเถ้าแก่ส่งก็เป็นเพื่อนเก่าเพื่อนแก่ของกำนัน สองครอบครัวสนิทสนมกลมเกลียวกันดี 
       “ หนูอยากทำงานเองจ้ะ รบกวนพ่อกับแม่กับพี่ตะวันแค่ค่าเล่าเรียนกับค่าห้องก็เกินพอแล้ว เงินพิเศษนี้หนูเก็บไว้ใช้จ่ายส่วนตัวกับเป็นทุนไว้เที่ยว พ่อไม่ต้องเป็นห่วงนะ หนูกับยัยอรตัวติดกันเป็นตังเมอยู่แล้ว เอาล่ะ พ่อจ๋า ต้องวางแล้วนะจะได้ไปอาบน้ำเตรียมเข้านอน ฝากพ่อหอมแก้มแม่ให้ด้วยนะจ๊ะ แล้วก็บอกพี่ตะวันด้วยว่าหนูคิดถึงมาก ’’ บุหลันรีบตัดบทพ่อก่อนที่จะโดนบ่นไปมากกว่านี้
       “ ถ้าอย่างนั้นก็เข้านอนได้แล้วลูก ระวังรักษาตัวดีๆ พวกเราที่นี่คิดถึงหนูนะ ’’ 
       กำนันยอดวางสาย พอดีกับที่ตะวันขับรถเข้ามาจอดที่ลานหน้าบ้าน ชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่กำยำหน้าตาคมเข้มผิวพรรณคร้ามแดด พี่ชายที่บุหลันภูมิใจนักหนาว่าเป็นพี่ชายที่เก่งที่สุดในโลก พี่ตะวันเป็นตัวแทนของพ่อกับแม่ให้บุหลันได้ในยามที่เธอต้องการคำปรึกษา ไม่มีใครตามใจหล่อนได้มากเท่าพี่ตะวันอีกแล้ว  นอกจากพ่อกำนัน
        “ น้องโทรศัพท์มาแน่เลย คราวนี้อ้อนอะไรพ่ออีกล่ะ ’’
        เมื่อเดินขึ้นเรือนมาก็เห็นพ่อยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กับโทรศัพท์ ทำให้รู้ได้ทันทีว่าไม่มีใครนอกจากน้องสาวของเขาโทรศัพท์ทางไกลมาหา ตะวันรักน้องหวงน้องพอๆกับพ่อกำนันเพียงแต่ไม่แสดงออกมากนัก ด้วยวัยที่มากกว่าเพียง 6 ปีทำให้เขารู้ว่าน้องยังต้องการเวลาส่วนตัวที่จะสนุกกับวัยของตัวเอง
       “ น้องโทรมาจ้ะลูก แม่ได้คุยด้วยนิดเดียว ให้พ่อคุยกับน้องแล้วไม่ยอมแบ่งให้ใครคุยด้วยอีกเลย ’’ แม่เพ็ญบ่นยิ้มๆ รู้อยู่หรอกว่าพ่อกำนันไม่อยากจะวางสาย แต่ลูกสาวต้องเป็นคนตัดบทเสียเอง 
       “ น้องสบายดี บอกแม่ว่าเหลืออีกปีเดียวจะจบกลับมา แล้วก็ขอแม่ว่าจะไปทำงานที่กรุงเทพ แต่ยังไม่ให้บอกพ่อเดี๋ยวจะโดนบ่นอีก ’’ ตะวันรับฟังแม่แล้วยิ้มอ่อนใจไปด้วยกันสองคนแม่ลูก
       วางสายจากที่บ้านแล้ว บุหลันเตรียมตัวอาบน้ำเข้านอนหลังจากเหน็ดเหนื่อยจากการเรียนและทำงานพิเศษ หญิงสาวมองไปนอกหน้าต่างอพาร์ตเมนต์ขนาดหนึ่งห้องนอนหนึ่งห้องน้ำ พร้อมครัวเล็กๆที่แทบไม่เคยใช้งานเลยกับพื้นที่รับแขกขนาดกะทัดรัดที่ใช้ร่วมกับอรอุมา แม้จะไม่มีเครื่องประดับตกแต่งมากมาย แต่ก็สะอาดสะอ้านด้วยนิสัยรักความสะอาดของทั้งสองสาว  
       ข้างนอกนั้นหิมะเริ่มโปรยปรายแล้ว พื้นถนนมีหิมะคลุมเห็นเป็นสีขาวรางๆ บุหลันชอบดูหิมะตกที่สุด ท้องฟ้ามืดมิดมีไฟข้างถนนสีเหลืองนวลทำให้มองเห็นเกล็ดหิมะเป็นระยิบระยับสวยงามยิ่งขึ้นไปอีก หิมะตกใหม่ๆบางเบาเหมือนปุยนุ่น แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่หิมะหยุดตกทั้งสองจะต้องรีบไปขูดหิมะออกจากรถยนต์มือสองที่เป็นเจ้าของร่วมกัน รถยนต์ที่ได้จากน้ำพักน้ำแรงจากการทำงานพิเศษของพวกหล่อน ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามากและการปล่อยให้หิมะเกาะรถจนเป็นน้ำแข็งจะยิ่งทำให้ลำบากในการขูดออก เพียงแต่ว่าคืนนี้ทั้งสองเหนื่อยเกินไป และหิมะก็ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดตกง่ายๆ บุหลันจึงได้เพียงแต่นั่งมองหิมะตกโดยไม่คิดจะชวนอรอุมาออกไปข้างนอกอีก อรอุมาอาบน้ำเสร็จออกมาเห็นเพื่อนรักนั่งเหม่อมองหิมะเงียบๆจึงร้องเรียก
       “ ตัวโทรศัพท์ไปหาที่บ้านหรือยัง ’’ 
       บุหลันสะดุ้งหันกลับมาที่เพื่อน ระหว่างนั้นอรอุมามองไปที่ใบหน้านวลเนียนกระจ่างใสอยู่ใต้เงาจันทร์ที่ลอดเข้ามา กี่ปีบุหลันก็ไม่เคยเปลี่ยนไปเลย หน้าอ่อนใสผิวเป็นยองใยสมชื่อตัวก็ยังคงเหมือนเดิม ดวงตากลมโตใสแจ๋ว ปากคิ้วคางได้รูปรับกันไปหมด เพื่อนของหล่อนเป็นคนสวยแบบที่ถ้าเพ่งพิศแล้วจะยิ่งเห็นถึงความงามที่ใครหลายๆคนอิจฉา แม้บุหลันจะไม่ยอมแต่งหน้าแต่งตัว แต่ความงามในแบบของหล่อนนั้นทำให้อรอุมาเคยแซวว่า ‘ นี่ถ้าตัวจะหัดแต่งหน้าทาปากมากกว่านี้ สงสัยพ่อยอดกับพี่ตะวันคงไม่ยอมให้ออกจากบ้านไปไหนแน่ๆเลย  เอามั๊ยเค้าแต่งให้ ’ บุหลันได้แต่ปฏิเสธเพื่อนและว่าเธอไม่ชอบการแต่งหน้าทาปาก มันไม่ใช่ตัวเธอเลยซักนิด 
       “ ทุกคนสบายดี บอกพ่อว่าอีกปีจะกลับ แต่ไม่ได้บอกว่าจะไปหางานทำที่กรุงเทพ ’’  
       บุหลันพูดถึงครอบครัวอย่างมีความสุข ระหว่างบุหลันและอรอุมาไม่เคยมีความลับต่อกัน ทั้งสองรู้เรื่องของแต่ละฝ่ายพอๆกับที่รู้เรื่องของตัวเอง ที่จริงสองสาวเพื่อนรักแทบจะเรียกได้ว่าต่างกันคนละขั้วเลยทีเดียว ทั้งนี้เพราะบุหลันนั้นเป็นเด็กสาวเรียบร้อย ช่างคิดมากกว่าพูด ฉลาด เรียนดีสม่ำเสมอ ส่วนอรอุมากลับเป็นในทางตรงกันข้าม ลูกสาวเถ้าแก่ส่งไม่เคยกลัวใคร นิสัยเปิดเผยขี้เล่นชอบโวยวาย แต่ทั้งสองก็รักกันที่สุด เมื่อบุหลันบอกอรอุมาว่าเธอต้องการจะไปเรียนต่อต่างประเทศ อรอุมาก็ตัดสินใจในนาทีนั้นว่า ‘ ฉันจะไปด้วยขอไปบอกป๋ากับแม่ก่อน ’
       และแล้วสองสาวเพื่อนซี้ก็บินลัดฟ้ามาเรียนที่สหรัฐอเมริกา แม้จะเรียนคนละสาขาแต่ทั้งสองก็อยู่อพาร์ตเมนต์เดียวกัน ใช้รถคันเดียวกันและยังทำงานพิเศษที่ร้านอาหารไทยร้านเดียวกัน แม้ฐานะทางบ้านของทั้งสองจะสามารถส่งเสียให้ไปเรียนได้โดยไม่ต้องทำงาน แต่สองสาวก็อยากจะหารายได้พิเศษเพื่อทำให้ตัวเองภูมิใจว่าสามารถหาเงินใช้เองได้ เพื่อนรักทั้งสองตัวติดกันจนแทบจะไม่มีครั้งใดเลยที่จะเห็นคนใดคนหนึ่งโดยไม่เห็นอีกคนอยู่ด้วย
       “ คืนนี้หิมะตกสวยจังเลย หนาว แต่สวยมาก ’’
       แม้จะพูดถึงหิมะ แต่ใจกลับคิดไปถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในตรอกเล็กๆข้างร้านอาหารที่ตนและอรอุมาทำงานอยู่  มันเป็นเรื่องที่บุหลันไม่เคยคิดว่าจะเกิดขึ้นกับตนเองได้เลยในชีวิตนี้ หรืออย่างน้อยถ้าจะเกิดก็ไม่น่าจะเป็นไปในสถาณการณ์เช่นนั้น โชคยังดีที่อรอุมาหรือใครๆไม่เห็นว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างเธอกับผู้ชายคนนั้น เขาคนนั้น คนที่มีดวงตาเรียวสวยบนใบหน้าหวานราวกับผู้หญิง เขาที่มีรูปร่างสูงโปร่งผิวสีน้ำตาลอ่อน ผมยาวมัดไว้ที่ท้ายทอย อุ้งมือของเขาที่กำข้อมือหล่อนเอาไว้แน่นยังคงทิ้งรอยไว้ลางๆ ที่สำคัญริมฝีปากอุ่นจัดของเขาทำให้บุหลันละอายใจตัวเองที่ไปนึกถึงมันได้ เธอไม่ต้องการนอนหลับไปพร้อมกับภาพที่ยังติดอยู่ในใจยากจะลืมเลือน แต่สงสัยคืนนี้จะเป็นคืนที่บุหลันหลับลงได้ยากซะแล้ว
       เมื่อไม่ได้ยินเสียงตอบรับจึงหันไปพบว่าอรอุมาหลับไปซะแล้ว ดีที่เพื่อนรักไม่สะกิดใจว่าระหว่างเก็บข้าวของทำความสะอาดหลังเลิกงาน บุหลันมีท่าทีแปลกไป เพียงนึกย้อนเหตุการณ์ก็ทำให้หลับตาไม่ลง ไม่อยากจำแต่ทำไมกลับลืมไม่ลงนะ ‘ คนเลว ’ คนนั้นป่านนี้จะไปมีเรื่องมีราวกับใครที่ไหนอีกหรือไม่นะ แต่แล้วบุหลันก็คิดได้ว่าแล้วมันเรื่องอะไรที่จะต้องไปห่วงใยคนแบบนั้นด้วย  มารยาทก็ทราม พูดจามะนาวไม่มีน้ำ แถมยังหยิ่งยโสอีกต่างหาก ตัวเองมีอะไรดีกันนะถึงทำท่าทางดูถูกคนอื่นเค้าขนาดนั้น และสิ่งที่ทำให้บุหลันเจ็บใจที่สุดก็เพราะสายตาเยาะเย้ยขบขันของเขาที่คู่นั้น

       ระหว่างที่หญิงสาวนึกถึงเขาคนนั้นอยู่ นาฬิกาก็ร้องบอกเวลาตี 2 แล้ว บุหลันหยุดความคิดทุกสิ่งทุกอย่าง รีบไปอาบน้ำอย่างรวดเร็วแล้วเข้านอน เพื่อพรุ่งนี้จะได้ตื่นไปเรียนได้ทัน หล่อนบอกตัวเองอยู่เรื่อยๆว่าให้เลิกคิดฟุ้งซ่านซ้ำไปซ้ำมาก่อนจะหลับลงไปด้วยความอ่อนเพลีย

       
        
        

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา