คิไมระ
6.3
เขียนโดย หนึ่งตัวตน
วันที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2561 เวลา 03.15 น.
30 ตอน
1 วิจารณ์
26.32K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2561 03.18 น. โดย เจ้าของนิยาย
30) สะดุ้ง
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความตัวผมที่สะดุ้งตื่นขึ้นมาเพราะปวดห้องน้ำ จึงรีบเข้าไปเพื่อจัดการกับธุระของตัวเองให้เสร็จสิ้น พอเปิดประตูเข้าไปในห้องก็พบกับ!.....
" เอาอีกแล้วรึเนี่ย " ผมสบถ
เบื้องหน้าของผมเป็นทุ่งหญ้ากว้างที่มีต้นไม้ล้อมรอบเป็นวงกลม ผมก้าวออกมาก้าวหนึ่งและกำลังจะหันไปทางประตู แต่เจ้าประตูดันหายไปเสียแล้ว
เวรกรรมของผมจริงๆ
ตัวผมที่กำลังจะหันกลับไปเผชิญหน้ากับสิ่งที่เกิดขึ้น ทันใดนั้นก็ได้มีหินย้อยพุ่งโจมตีใส่ผมเป็นแนวยาว
สัญชาตญาณของผมทำงานแบบจะในทันที ผมกระโดดหลบโดยที่มือของผมจับเจ้าแท่นหินย้อยไว้จนขาผมชี้บนฟ้า
จากนั้นผมก็ขึ้นเหยียบเจ้าแท่นหินย้อยไว้เพื่อทรงตัว
" จะทรงตัวหรือจะล้มก็ไม่รู้เนี่ย "
ผมใช้ทักษะมังกรเพื่อบินขึ้นไปบนฟ้า คิดว่ามันจะหมดแค่นั้นแต่เปล่าเลย หินย้อยยังคงงอกทุกรอบด้านจนมันไม่มีทางที่จะมีที่ยืน ผมเลยคิดว่าน่าจะบินอย่างเดียวไปเลยดีกว่า
แต่สิ่งที่ผมคิดกลับผิดมหันต์ ตัวผมได้โดนแรงโน้มถ่วงดึงลงมาจนผมถูกเจ้าหินย้อยบาดตรงไหล่ซ้าย
อั่ก! เจ็บชะมัด
เมื่อไล่ผมบาดเจ็บ ปีกข้างซ้ายก็หยุดทำงานไปด้วย ผมจึงไม่สามารถที่จะบินต่อไปได้อีกเพราะถ้าฝืนมันจะทำให้ผมบาดเจ็บมากยิ่งขึ้น
ผมจึงต้องหาวิธีอื่น ในขณะที่ตนเองได้ยื่นอยู่ในช่องแคบๆ ที่หินย้อยยังไม่งอก
พอยืนได้ค่อนข้างมั่นคง ผมก็เรียกคิเรียออกมาและให้เธอเปลื่ยนเป็นอาวุธรูปแบบหอก
อย่าเพิ่งงงว่าทำไมผมถึงเรียกสไลม์คิเรียว่าเธอ เพราะผมก็เพิ่งรู้เหมือนกันว่า ถ้าถึงระดับสอง เจ้าสไลม์พวกนี้จะแบ่งเพศออกมาด้วย ช่างเป็นปรากฏการณ์ที่น่าจดจำซะจริง
จากนั้นก็แทงทะลุพื้นดิน จนบริเวญใกล้เคียงทั้งหมดถูกแช่แข็งราวกับอยู่ในเมืองน้ำแข็ง คิดว่าคงจะได้ผล แต่เปล่าเลย พื้นดินก็ยังสั่นสะเทือนและยังคงมีหินย้อยออกมาไม่หยุดหย่อน
พอแผนแรกไม่ผ่าน ตัวผมก็เลือดขึ้นหน้า
" เอาอย่างนี้ใช่มั้ย! "
ไม่อยากจะใช้หรอกพลังนี้ เพราะยังไม่สามารถควบคุมได้อย่างถาวร ทำได้แค่ชั่วคราวเท่านั้น
ผมเปิดใช้ดวงตาแห่งความตาย จนไฟที่ดวงตาเปลี่ยนเป็นเพลิงทมิฬสามลูกวิ่งวนเป็นวงกลม ผมผสานมันเข้ากับหอกของคิเรียจนมันแทรกซึมเข้าไปสู่ผืนดิน
จนพลังชีวิตถูกกลืนกินกลายเป็นดินแห้งๆ ที่ถูกเผา ต้นไม้ทุกต้นกลายเป็นถ่านคาต้น
หลังจากใช้พลังนี้ตัวผมก็รู้สึกหนักหัวขึ้นมาอย่างไม่รู้สาเหตุ
" นี่คือผลของการใช้พลังที่ยังควบคุมไม่เต็มร้อยสินะ "
หลังจากทุ่งหญ้าและต้นไม้มอดไหม้หมด ภาพทั้งหมดก็ขาวโพลนและไปรวมตัวเป็นจุดเดียวตรงหน้าผม
สิ่งที่ปรากฏคือ อัญมณีสีน้ำตาล และนั้น! ก็เป็นหน้าที่ของหนังสือเวทย์ที่ต้องทำการผนึกไว้
เมื่อผนึกสำเร็จ อัญมณีก็แตกเป็นเศษกระจกและรวมตัวใหม่กลายเป็นรูปข้าวหลามตัด และมีชื่อกำกับไว้ด้านล่างว่า " เอิร์ต สเปีย "
" เอาอีกแล้วรึเนี่ย " ผมสบถ
เบื้องหน้าของผมเป็นทุ่งหญ้ากว้างที่มีต้นไม้ล้อมรอบเป็นวงกลม ผมก้าวออกมาก้าวหนึ่งและกำลังจะหันไปทางประตู แต่เจ้าประตูดันหายไปเสียแล้ว
เวรกรรมของผมจริงๆ
ตัวผมที่กำลังจะหันกลับไปเผชิญหน้ากับสิ่งที่เกิดขึ้น ทันใดนั้นก็ได้มีหินย้อยพุ่งโจมตีใส่ผมเป็นแนวยาว
สัญชาตญาณของผมทำงานแบบจะในทันที ผมกระโดดหลบโดยที่มือของผมจับเจ้าแท่นหินย้อยไว้จนขาผมชี้บนฟ้า
จากนั้นผมก็ขึ้นเหยียบเจ้าแท่นหินย้อยไว้เพื่อทรงตัว
" จะทรงตัวหรือจะล้มก็ไม่รู้เนี่ย "
ผมใช้ทักษะมังกรเพื่อบินขึ้นไปบนฟ้า คิดว่ามันจะหมดแค่นั้นแต่เปล่าเลย หินย้อยยังคงงอกทุกรอบด้านจนมันไม่มีทางที่จะมีที่ยืน ผมเลยคิดว่าน่าจะบินอย่างเดียวไปเลยดีกว่า
แต่สิ่งที่ผมคิดกลับผิดมหันต์ ตัวผมได้โดนแรงโน้มถ่วงดึงลงมาจนผมถูกเจ้าหินย้อยบาดตรงไหล่ซ้าย
อั่ก! เจ็บชะมัด
เมื่อไล่ผมบาดเจ็บ ปีกข้างซ้ายก็หยุดทำงานไปด้วย ผมจึงไม่สามารถที่จะบินต่อไปได้อีกเพราะถ้าฝืนมันจะทำให้ผมบาดเจ็บมากยิ่งขึ้น
ผมจึงต้องหาวิธีอื่น ในขณะที่ตนเองได้ยื่นอยู่ในช่องแคบๆ ที่หินย้อยยังไม่งอก
พอยืนได้ค่อนข้างมั่นคง ผมก็เรียกคิเรียออกมาและให้เธอเปลื่ยนเป็นอาวุธรูปแบบหอก
อย่าเพิ่งงงว่าทำไมผมถึงเรียกสไลม์คิเรียว่าเธอ เพราะผมก็เพิ่งรู้เหมือนกันว่า ถ้าถึงระดับสอง เจ้าสไลม์พวกนี้จะแบ่งเพศออกมาด้วย ช่างเป็นปรากฏการณ์ที่น่าจดจำซะจริง
จากนั้นก็แทงทะลุพื้นดิน จนบริเวญใกล้เคียงทั้งหมดถูกแช่แข็งราวกับอยู่ในเมืองน้ำแข็ง คิดว่าคงจะได้ผล แต่เปล่าเลย พื้นดินก็ยังสั่นสะเทือนและยังคงมีหินย้อยออกมาไม่หยุดหย่อน
พอแผนแรกไม่ผ่าน ตัวผมก็เลือดขึ้นหน้า
" เอาอย่างนี้ใช่มั้ย! "
ไม่อยากจะใช้หรอกพลังนี้ เพราะยังไม่สามารถควบคุมได้อย่างถาวร ทำได้แค่ชั่วคราวเท่านั้น
ผมเปิดใช้ดวงตาแห่งความตาย จนไฟที่ดวงตาเปลี่ยนเป็นเพลิงทมิฬสามลูกวิ่งวนเป็นวงกลม ผมผสานมันเข้ากับหอกของคิเรียจนมันแทรกซึมเข้าไปสู่ผืนดิน
จนพลังชีวิตถูกกลืนกินกลายเป็นดินแห้งๆ ที่ถูกเผา ต้นไม้ทุกต้นกลายเป็นถ่านคาต้น
หลังจากใช้พลังนี้ตัวผมก็รู้สึกหนักหัวขึ้นมาอย่างไม่รู้สาเหตุ
" นี่คือผลของการใช้พลังที่ยังควบคุมไม่เต็มร้อยสินะ "
หลังจากทุ่งหญ้าและต้นไม้มอดไหม้หมด ภาพทั้งหมดก็ขาวโพลนและไปรวมตัวเป็นจุดเดียวตรงหน้าผม
สิ่งที่ปรากฏคือ อัญมณีสีน้ำตาล และนั้น! ก็เป็นหน้าที่ของหนังสือเวทย์ที่ต้องทำการผนึกไว้
เมื่อผนึกสำเร็จ อัญมณีก็แตกเป็นเศษกระจกและรวมตัวใหม่กลายเป็นรูปข้าวหลามตัด และมีชื่อกำกับไว้ด้านล่างว่า " เอิร์ต สเปีย "
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
6 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
5 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ