Dear Smorn จดหมายถึงสมร จากโรงละคร ณ 40,000 ฟุต

-

เขียนโดย PAAll

วันที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2561 เวลา 08.31 น.

  14 ตอน
  2 วิจารณ์
  14.05K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2561 13.06 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

3) ฉบับที่สอง บรัซเซล; เบลเยี่ยม

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

ถึงสมร

 

              จนถึงตอนนี้ฉันก็บินได้เกือบ  3 เดือนแล้วนะ ทุกอย่างตื่นตาตื่นใจมากย่ะ ฉันได้บินไปเกือบทุกที่ทั่วโลก ยกเว้นอเมริกา เพราะต้องใช้วีซ่าแยกต่างหากและสายการบินจะทำวีซ่าให้หลังจากบินไปแล้ว  1 ปี แต่ก็ไม่ได้เป็นปัญหาอะไรสำหรับฉันนะ ฉันชอบยุโรปกับแอฟริกามากกว่า

 

              พูดถึงไฟล์ทยุโรป ฉันต้องเขียนมาเม้าท์มอยกับแกเลย ฉันเพิ่งทำไฟล์ทไปบรัซเซล ประเทศเบลเยี่ยม สด ๆ ร้อน ๆ เนื่องจากสายการบินฉันไม่ค่อยมีคนไทยใช้บริการเท่าไหร่ พอเจอคนไทยทีฉันเลยตื่นเต้นเป็นพิเศษ ไฟล์ทนี้ก็เช่นกัน

 

              หลังจากเสิร์ฟอาหารเสร็จ ฉันก็เก็บของอยู่ในครัว พอดีมีน้องผู้หญิงวัยรุ่น อายุไม่น่าเกิน 20 เดินมาหาฉัน แล้วพูดว่า

 

              “แคน ไอ แฮ๊ป ชิคเก้น?” (//ขอไก่หน่อยค่ะ) สำเนียงไทยจ๋ามาเลย ด้วยความดีใจ ฉันเลยหันไปหยิบไก่ในเตาอบมาให้ พร้อมชวนนางพูดคุยด้วยภาษาไทย

 

              “สวัสดีค่ะ มาเที่ยวเหรอคะ”

 

นางมองหน้าฉันแบบงง ๆ

              “เยส” น้องตอบเป็นภาษาอังกฤษแบบสั้น ๆ แล้วไม่ได้คุยอะไรต่อ พอฉันเห็นว่าเขาไม่อยากคุยฉันเลยไม่ได้ต่อบทสนทนา พอได้ไก่แล้วนางก็ไม่ได้จากไปทันทีนะยะ นางยืนหันซ้ายหันขวาเหมือนรอใครอยู่ สักพักก็มีน้องผู้ชาย (น่าจะเป็นแฟนกัน) อายุรุ่นราวคราวเดียวกันเดินมาหา

 

              “ได้ยัง” น้องผู้ชายถาม น้องผู้หญิงพยักหน้า

 

              “สวัสดีค่ะ” ฉันยิ้มให้น้องผู้ชาย น้องเขายิ้มตอบแบบงง ๆ น้องผู้หญิงรีบกระตุกเสื้อแฟนด้วยความตื่นเต้น พร้อมกับพูดกันเองเป็นภาษาไทยอย่างกระตือรือร้น

 

              “แกดูดิ อีนี่สำเนียงไทยดีมากอ่ะ!”

 

.....

..........

 

              ฉันอึ้งไปเลย ไม่เคยโดนเม้าท์ต่อหน้าแบบนี้มาก่อน นางคงคิดว่าฉันไม่ใช่คนไทยเหรอ? คิดว่าไม่มีคนไทยทำงานสายการบินตะวันออกกลางเหรอยะ? พอตั้งตัวได้ฉันเลยบอกนาง

 

              “พอดีเป็นคนไทยค่ะ” ยิ้มเย็น ๆ ให้ด้วย

 

อยากให้แกเห็นสีหน้าของทั้งสองคนเวลานั้นมาก เลิ่กลั่กแบบทำอะไรไม่ถูก ความกระอักกระอ่วนใจระหว่างเรามันช่างมหาศาลเหลือเกิน 555555 นางยิ้มเจื่อน ๆ แล้วรีบดึงมือแฟนกลับไปนั่งที่โดยที่ไม่ได้พูดอะไรเลย ฉันแอบหัวเสียนิดนึงที่โดนเรียกว่า “อีนี่” ต่อหน้าต่อตา รอให้ไปพ้นฉันก่อนค่อยนินทาก็ไม่ได้!

 

พอแลนด์ที่บรัซเซลฉันก็ลืมความขุ่นมัวบนไฟล์ทไปแล้ว ฉันออกไปกินข้าวเที่ยงในเมืองกับเหล่าเพื่อนร่วมงาน ในระหว่างที่กินข้าวกันอยู่นั้นฉันก็สังเกตว่าอิผู้ช่วยกัปตันคนอินเดียมันชอบหลีฉันแบบแปลก ๆ เนื่องจากฉันเป็นเด็กใหม่ ไม่มีปากมีเสียง ก็เลยโดนแซว โดนแกล้งแบบขำ ๆ กันตามประสา ผู้ช่วยคนขับก็มาร่วมแกล้งด้วย แต่ที่ไม่เหมือนคนอื่น ๆ คือมันมีประกายแปลก ๆ ในสายตา ฉันไม่ได้เด็กอายุ 14-15 นะยะ ถึงจะแอ๊บใสไม่รู้เรื่องรู้ราว แหมมมมม

 

กินข้าวเสร็จก็เดินเล่น ถ่ายรูปกันในตัวเมือง จนค่ำจึงชวนกันกลับมาโรงแรม ฉันจัดแจงนัดกับน้องฝรั่งที่สนิทกันตั้งแต่อยู่บนไฟล์ทลงไปกินข้าวเย็น ส่วนคนอื่น ๆ แยกย้ายกันไปห้องใครห้องมัน เมื่อนัดเวลากันเรียบร้อยฉันจึงกลับขึ้นห้องตัวเอง ถึงห้องไม่ถึง 10 นาทีเสียงโทรศัพท์ในห้องก็ดังขึ้น สงสัยน้องฝรั่งโทรมาเปลี่ยนแผน

 

“สวัสดี” ฉันยกหูโทรศัพท์ขึ้นพร้อมกล่าวทักทาย

 

“สวัสดี เธอง่วงรึยัง” ปลายสายเป็นเสียงผู้ชาย จากสำเนียงแล้วฉันว่าเป็นผู้ช่วยคนขับ รู้ได้ไงว่าฉันอยู่ห้องเบอร์อะไร

 

“ยังเลย น่าจะอีกสักพัก มีอะไรรึเปล่า” ฉันถาม

 

“ฉันหิวข้าวอีกแล้ว กินข้าวเย็นกันมั๊ย” ฮีชวน ฉันคิดในใจ แหม..หม้อฉันล่ะสิ (สวยไปอีก 5555555) แต่ตอนนั้นฉันก็หิวเหมือนกัน แล้วก็นัดน้องฝรั่งไปแล้วด้วย ฉันเลยตอบไปว่า

 

“ไปสิ เจอกันที่ร้านอาหารข้างล่างนะ”

 

“โน ๆ เอางี้ เธอมาที่ห้องฉันแล้วเราสั่งอาหารมากินที่ห้อง” ฮีตอบ

 

แอร๊ยยย คิดว่าฉันเป็นเด็กวัยรุ่น แบ๊ว ๆ ใส ๆ เหรอยะ ที่จะไม่รู้ทันการหวังเคลมโง่ ๆ แบบนี้ แล้วห้องฉันไม่มีโทรศัพท์เหรอ ฉันถึงต้องไปสั่ง room service จากห้องคนอื่น ไม่เนียนเลยย่ะ! แต่ตอนนั้นฉันคิดว่าเดี๋ยวขากลับก็ต้องทำงานด้วยกันอีก เลยบอกฮีไปอย่างสุภาพว่าฉันนัดกับลูกเรือคนอื่นไว้แล้ว บลา ๆ ๆ ปฏิเสธอย่างสุภาพไม่สมกับเป็นฉันเลยย่ะ

 

อ่านมาจนถึงตรงนี้แกก็ไม่ต้องคิดว่าเพื่อนแก hot หรืออะไรนะยะ ตอนแรก ๆ ฉันก็แอบยักไหล่ในความสวยของตัวเองที่มีคนมาหลีบ่อย ๆ จนผ่านไปสามเดือนฉันก็รู้ละว่าการโดนแอ๊วไม่ได้เกี่ยวกับหนังหน้าฉันแต่อย่างใด แต่เป็นเพราะฉันใหม่ย่ะ ผู้ชายมากหน้าหลายตาในบริษัท ทั้งลูกเรือและนักบิน (ที่หวังฟันอย่างเดียว) จะมุ่งเป้าไปที่เด็กใหม่ก่อน เพราะคิดว่าพวกนี้ซื่อ ยังโลกสวยอยู่ จัดการง่าย ซึ่งฉันก็ไม่ตัดสินใครนะ ถ้าพอใจทั้งสองฝ่ายฉันก็ว่า win-win ดี

 

              แต่! สังคมลูกเรือเป็นสังคมแห่งการนินทา ฉันไม่แน่ใจว่าที่อื่นเป็นเหมือนกันมั๊ย แต่ที่นี่เรื่องราวฉาวโฉ่ไปไวมากย่ะ อย่างเช่นไฟล์ทบรัซเซลของฉันนี่เลย ขากลับฉันได้ยินพวกลูกเรือชั้นบิสสิเนสเม้าท์กันว่า นางออกไปดื่มที่บาร์แล้วกลับห้องตอนตีหนึ่ง พอดีต้องเดินผ่านห้องผู้ช่วยกัปตัน ดันไปแอบเจอลูกเรือผู้หญิงชาติเดียวกันออกมาจากห้องของฮี ลูกเรือทุกคนก็เลยแอบดูพฤติกรรมตอนขากลับของทั้งคู่ ซึ่งพอพูดแบบนั้นฉันก็แอบเห็นด้วย คือเหมือนทั้งสองคนจะคุยภาษาบ้านเดียวกันแต่เป็นแบบประหลักประเหลื่อ รักษาระยะห่าง บอกไม่ถูก ดีนะที่ฉันไม่ได้เล่าให้ใครฟังเรื่องฮีชวนฉันไปห้อง ไม่งั้นวันนั้นก็ไม่ต้องทำงงทำงานกันละ นินทากันทั้งไฟล์ท แต่พอจบไฟล์ทนั้นฮีก็ไม่ได้ตามมาวอแวฉันนะ ซึ่งเป็นอันยืนยันได้ว่า ทำเพื่อหวังฟันเท่านั้นจริง ๆ

 

อ่านมาจนถึงตอนนี้ก็ไม่ต้องเชื่ออะไรฉันมากนะยะ ฉันบอกแล้วว่าเราชอบใส่ไข่ 55555 อ่านเพื่อความบันเทิงพอนะยะ ส่วนวันนี้ฉันขอจบความบันเทิงไว้แค่นี้ แล้วจะเขียนมาใหม่

คิดถึงย่ะ

สา

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา