Zone D Hunter
7.7
เขียนโดย จูเนียร์เคะ
วันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2561 เวลา 15.18 น.
20 chapter
3 วิจารณ์
21.22K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 12 มกราคม พ.ศ. 2562 18.27 น. โดย เจ้าของนิยาย
14) พื้นที่ปริศนา
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความตอนที่ 4
พื้นที่ปริศนา
--------------------
เวลายามเย็นใกล้พบค่ำตะวันสีส้มกำลังตกลงยอกเนินเขาครึ่ง
เนินที่เต็มไปด้วยดินและต้นหญ้า กลุ่มเมืองแม็กซิโกขันลุยฝุ่นกันเป็นกลุ่ม
ใหญ่ๆ ไอฝุ่นลอยฟุ้งบดบังเหลือเพียงดวงไฟหน้าของตัวรถเมืองที่ส่องสว่าง
อาลิซ คูเปอร์และเพื่อนคนอื่นๆกำลังนั่งกินข้าวและขนมอยู่ในร้านอาหาร
เก่าๆที่ต่อทำจากไม้รูปร่างดูโซม "กินให้อร่อยนะทุกคน" เจ้าของเมืองยืน
กุมมืออยู่หน้าประตูไม่สีน้ำตาลเข้มส่งยิ้มให้ก่อนจะหันเดินออกไป
"หือ~? นี่มันคืออะไรนะ?" อาลิซถือส้อมที่จิ้มเนื่อบางอย่างขึ้นมาดู
เนื้อรูปร่างสีดำและดูเหมือนจะโดนลอกหนังหรืออะไรสักอย่างออก เธอเลย
หันถามลี "มันคืออะไรเหรอ?" เธอยิ่งดูอย่ากรู้เข้าไปใหญ่ ในสายตาขางลี
แต่มองดูแว็บเดียวก็รู้ได้ทันที่ว่านั่นคือ
"...เนื้องู" ลีบอกกับเธอ อาลิซก็ชะงักหน้านิ่งค่อยๆหันไปทองช้าๆ
ก่อนจะโยนส้อมนั้นออกขากมือด้วยความแขยงอย่างยิ่ง
"โอ่ว~ อยู่ยากขึ้นทุกวัน..." คูเปอร์นั่งพิงเก้าอี้เงิยหน้าเอามือทั้งสองปิด
ตาพร้อมกับบ่น
"อย่างน้อยก็ยังดีที่มีของดีหน่อย" โทมัสพูดเอาใจคูเปอร์กับอาลิซ
เข้านั่งกินต่อไป ตั๊กแตนทอด เนื้องูย่าง หรือแม่แต่สัตว์นาๆชนิด อาจารย์
โทมัสกินได้ทุกอย่างๆจนทั้งคู่ตกใจนั่งมองดูโทมัสหม่ำอยู่คนเดียว
"ผมกินไม่ลงแล้ว" คูเปอร์เอามือทั้งสองดันจากออกห่างจากตัวและ
กลับไปนั่งกอดอก ลีมองเขาและแอบยิ้มเล็กเพราะอาลิซกับคูเปอร์มองดู
โทมัสกินอย่างน่าตกใจ แต่ผ่านไปไม่นานจู่ๆพวกเข้าทั้งสี่ก็รู้สึกว่ารถเมือง
ดูเหมือนกำลังชะลอความเร็วลง "เกิดอะไรขึ้น?" อาลิซลุกขึ้นมองซ้ายขวา
คูเปอร์กับโทมัสก็พร้อมใจกันหันมองดูริบๆด้วยความสงสัย จนกระทั่ง
รถเมืองได้หยุดลง เสียงเหล็กเสียดสีกันเบาๆ
"ถึงแล้ว..." ลีพูดพร้อมกับลุกขึ้นจากเก้าอี้และหันเดินเปิดประตูออก
ไป "ตามมา..." เธอเรียก พวกเข้าหันมองจ้องหน้ากันและต่างๆคนต่างลุก
และเดินตามๆกันไป
แสงสีส้มจากตะวันยามเย็นส่องลงมาทั่วมุมเมือง ลีเดินออกมา
ตามด้านข้างของเมืองเกาะราวเหล็กสีดำเก่าๆเดินไป ฉากหลังเป็นปล่องควัน
เหล็กที่ขึ้นสนิมขนาดใหญ่ อาลิซและเพื่อนพวกเขาวิ่งตามกันมา "คอย
ด้วยสิ!" เธอตะโกนเรียก
ลีมองออกไปข้างหน้าเพราะเห็นบางสิ่งเข้า และสิ่งนั้นในสายตา
ของอาลิซก็โดนลีเดินผ่านมาบังก่อนจะได้เห็น "คุณจะไปใหน!?!" อาลิซ
มองดูลีที่กำลังค่อยๆปีนบรรไดเหล็กลงมายังพื้นดิน เธอก้างลงไม่สนใจ
คำพฟุดของเธอเลย "ตามมาเถอะน่า" ลีบอกไปลอยๆ
อาลิซทำสีฟน้าสงสัยกับคำพูดของเธอ แต่เธอเองก็ไม่ได้คิดอะไร
เธอจึงหันไปปีนลงบรรไดแต่ใยระยะสายตาของเธอก็ได้เหลือบไปเห็น
ยานบินสามลำปริศนาที่จอดอยู่ตรงหน้าบนพื้นดิน ยานรูปทรงปกติทั่วไป
แต่ไอพ่นในการขับเคลื่อนทั้งสิ้น (พวกนั้นใครกัน?) อาลิซสงสัยก่อนจะ
หันลงบรรไดเหล็กลงไปบนผิวดินมองดูลีเดินไปหาพวกคนปริศนาเฟล่านั้น
ท่าทางของลีดูจะจริงจังกับการเข้าหามาเลยทีเดียว พวกเขาอาจจะรู้จักกัน
ก็เป็นได้ไม่งั้นเธอคงไม่เข้าไปตรงๆแบบนี้แน่นอน
"ไง..." ลียิ้มให้กับกลุ่มคนปริศนา
"ไง...ลี เป็นอย่างไงบ้าง?" ผู้ชายคนหนึ่งถามกลับพร้อมยิ้มส่ง
เธอพยักหน้าและยิ้มส่งกลับ "อืม...ดี ช่วงนี้ผจญภัยมาเยอะ"
"555 อย่างงั้นเหรอ?" ชายอีกคนหัวเราะ แต่ชายคนที่ทักลีคนแรกก็ได้
เหลืิงไปเห็นอาลิซยืนอยู่ด้านหลังและผองเพื่อนก็เดินแทรกออกมา
"พวกเขาเป็นใครกันเหรอ?"
"พวกเขาคือคนสำคัญของพวกเรา พวกเขามาจากต่างที่ต่างถิ่นอยู่
ไกลออกไปในเขตเมืองนักล่า โชคดีที่ฉันช่วยมาได้" เธอพยักหน้าอีกรอบ
"พาพวกเขาไปย่างกุ้งกันเถอะ"
ย่างกุ้งคือเมืองขยสดใหญ่ขิงคนจีนและมีประชากรที่เยอะมากมาย
เป็นจำนวนคนติดอันดับสองรองจากรัซเซีย พวกเขาใช้ชีวิตหลบอยู่อย่าง
ลับๆและก็มีความสุขมากกว่าที่จะอยู่บนพื้นดินอีกด้วย
"ทุกคน ขึ้นมาเลย" ลีกวักมือเรียกตาม อาลิซค่อยๆเดินเข้าตามเธอพร้อมกับ
แอบหันมอายปริศนาสามคนเล็กน้อยด้วยคงามระแวง (พวกเขาจะคิดอะไร
กับฉันมั้ยนะ?"
"ไม่ต้องห่วง พวกเขาเป็นเพื่อนฉัน" ลีพูดบอกจากห้องโดยสารยาน
"มาเร็วๆ" ลีกวักมือเรียก
"ไปกันเถอะ" คูเปอร์จับมืออาลิซจูงเธอไปที่ยานบิน ใบหน้าของเธอ
เขินอายเขาจนไม่กล้าสบตาได้แต่ก้มหน้า
ยานบินสตาร์ทเครื่องและลอยลำบินออกไป "โชคดีนะ~!" คนขับ
รถเมืองโบกมือลา อาลิซก้มมองดูชายนั้นจากบานหน้าต่างกระจกสี่เหลี่ยม
เล็กๆของยานพร้อมกับยิ้มให้
"เราไปไดลแค่ใหน" คูเปอร์ถาม
"อีกไม่ไกลแล้ว" ลีมองพลางยิ้มให้
"เมืองย่างกุ้งตือเมืองลอยฟ้าขนาดใหญ่ ไม่สิ...เรียกว่าเยอะดีกว่า ที่นั่น
ทุกคนจะเจอร้านอาหาร โรงแรม บ้าน บ้านส่วนตัว และ...ความสุข" ลีอธิบาย
ลักษณะเมืองให้พวกเขาฟัง แต่ก็ดูจะไม่มีใครเช้าใจเลยสักคน
"คือ...ผมไม่รู้ว่ามันจะดีขนาดนั้น" โทมัสค่อยพูดอย่างอ่อนโยนกับเธอ
"เดี๋ยวเราก็จะได้เห็นกันแล้วละ"
ยานบินมุ่งตรงเข้าสู่กลุ่มเมฆหน้าทึบ ความมืดค่อยๆเข้าครอบคลุม
ตัวยานและแสงสว่างปลายทางก็ค่อยส่องกลับคืนมาจนกระทั่งยานออก
นอกกลุ่มเมฆ แสงและเงาสะท้อนจากสิ่งขนาดใหญ่ที่อยู่ตรงหน้าก็ส่องเข้ามา
"แม้เจ้า....!" คูเปอร์มองดูสิ่งนั้นอย่างตกตะลึก ภาพนั้นดูงามตาและ
ดูมีชีวิตชีวามาก
"นั่นนะเหรอ...ย่างกุ้ง" อาลิซก็จ้องมองไม่แพ้กับคูเปอร์
เมืองย่างกุ้ง เมืองชุมชนขนาดใหญ่และพื้นที่กว้างขวาง ตึกแต่ละ
ตึกสร้างเป็นปล้องวงกลมๆลอยอยู่ทั่วทุกสาระทิศและยังเชื่อมทางเดินข้าม
ฝั่งด้วยสะพานเชือกไม้แผ่นหนา ถุงลมขนาดใหญ่ขึงไว้กับฐานตัวเมือง
แสงไฟสีส้มและเหลืองส่องสว่างราวกับอยู่บนสวงสวรรค์ ยานบินต่างๆนาๆ
ร่อนไปมาอยู่เต็มไปหมด บางเมืองมีลิฟท์ไม่แพ้กับเมืองลอนดอนที่อยู่
บนพื้นดิน เมืองพวกนี้ลอยอยู่เหนือก้อนเมฆทั้งปวง ภายใต้ก้อมลนเมฆที่อยู่
ใต้ตึกเมืองนั้นมีประกายแสงสีฟ้าขาวจากไฟฟ้าที่กำลังช็อตและส่งเสียง
ร้องครื่นคร่างอยู่ "ข้างล่างนั้นอะไรเหรอครับ?" คูเปอร์มองดูกลุ่มเมฆ
ที่กำลังกระพริบแสงไฟฟ้าพร้อมกับเสียงฟ้าร้องอยู่นั้น
"พื้นที่ต้องห้าม น้อยคนที่จะได้ลงไปดู ใต้เมฆนั้นคืออดีตของบ่างกุ้ง"
"อดีต...?"
"จะเล่าให้ฟังสั้นๆก็ได้ เมืองย่างกุ้งแต่ก่อนเคยออกรบเพื่อช่วยเหลือ
ผู้คนที่ถูกขับไปเป็นทาส หลายร้อยหลายพันชีวิตบนนี้คือคนที่ได้ถู่วยไว้
ทั้งนั้น ข้างใต้นั้นคือเศษซากที่เป็นอดีตและเตือนใจพวกอย่างมาก"
********************
พื้นที่ปริศนา
--------------------
เวลายามเย็นใกล้พบค่ำตะวันสีส้มกำลังตกลงยอกเนินเขาครึ่ง
เนินที่เต็มไปด้วยดินและต้นหญ้า กลุ่มเมืองแม็กซิโกขันลุยฝุ่นกันเป็นกลุ่ม
ใหญ่ๆ ไอฝุ่นลอยฟุ้งบดบังเหลือเพียงดวงไฟหน้าของตัวรถเมืองที่ส่องสว่าง
อาลิซ คูเปอร์และเพื่อนคนอื่นๆกำลังนั่งกินข้าวและขนมอยู่ในร้านอาหาร
เก่าๆที่ต่อทำจากไม้รูปร่างดูโซม "กินให้อร่อยนะทุกคน" เจ้าของเมืองยืน
กุมมืออยู่หน้าประตูไม่สีน้ำตาลเข้มส่งยิ้มให้ก่อนจะหันเดินออกไป
"หือ~? นี่มันคืออะไรนะ?" อาลิซถือส้อมที่จิ้มเนื่อบางอย่างขึ้นมาดู
เนื้อรูปร่างสีดำและดูเหมือนจะโดนลอกหนังหรืออะไรสักอย่างออก เธอเลย
หันถามลี "มันคืออะไรเหรอ?" เธอยิ่งดูอย่ากรู้เข้าไปใหญ่ ในสายตาขางลี
แต่มองดูแว็บเดียวก็รู้ได้ทันที่ว่านั่นคือ
"...เนื้องู" ลีบอกกับเธอ อาลิซก็ชะงักหน้านิ่งค่อยๆหันไปทองช้าๆ
ก่อนจะโยนส้อมนั้นออกขากมือด้วยความแขยงอย่างยิ่ง
"โอ่ว~ อยู่ยากขึ้นทุกวัน..." คูเปอร์นั่งพิงเก้าอี้เงิยหน้าเอามือทั้งสองปิด
ตาพร้อมกับบ่น
"อย่างน้อยก็ยังดีที่มีของดีหน่อย" โทมัสพูดเอาใจคูเปอร์กับอาลิซ
เข้านั่งกินต่อไป ตั๊กแตนทอด เนื้องูย่าง หรือแม่แต่สัตว์นาๆชนิด อาจารย์
โทมัสกินได้ทุกอย่างๆจนทั้งคู่ตกใจนั่งมองดูโทมัสหม่ำอยู่คนเดียว
"ผมกินไม่ลงแล้ว" คูเปอร์เอามือทั้งสองดันจากออกห่างจากตัวและ
กลับไปนั่งกอดอก ลีมองเขาและแอบยิ้มเล็กเพราะอาลิซกับคูเปอร์มองดู
โทมัสกินอย่างน่าตกใจ แต่ผ่านไปไม่นานจู่ๆพวกเข้าทั้งสี่ก็รู้สึกว่ารถเมือง
ดูเหมือนกำลังชะลอความเร็วลง "เกิดอะไรขึ้น?" อาลิซลุกขึ้นมองซ้ายขวา
คูเปอร์กับโทมัสก็พร้อมใจกันหันมองดูริบๆด้วยความสงสัย จนกระทั่ง
รถเมืองได้หยุดลง เสียงเหล็กเสียดสีกันเบาๆ
"ถึงแล้ว..." ลีพูดพร้อมกับลุกขึ้นจากเก้าอี้และหันเดินเปิดประตูออก
ไป "ตามมา..." เธอเรียก พวกเข้าหันมองจ้องหน้ากันและต่างๆคนต่างลุก
และเดินตามๆกันไป
แสงสีส้มจากตะวันยามเย็นส่องลงมาทั่วมุมเมือง ลีเดินออกมา
ตามด้านข้างของเมืองเกาะราวเหล็กสีดำเก่าๆเดินไป ฉากหลังเป็นปล่องควัน
เหล็กที่ขึ้นสนิมขนาดใหญ่ อาลิซและเพื่อนพวกเขาวิ่งตามกันมา "คอย
ด้วยสิ!" เธอตะโกนเรียก
ลีมองออกไปข้างหน้าเพราะเห็นบางสิ่งเข้า และสิ่งนั้นในสายตา
ของอาลิซก็โดนลีเดินผ่านมาบังก่อนจะได้เห็น "คุณจะไปใหน!?!" อาลิซ
มองดูลีที่กำลังค่อยๆปีนบรรไดเหล็กลงมายังพื้นดิน เธอก้างลงไม่สนใจ
คำพฟุดของเธอเลย "ตามมาเถอะน่า" ลีบอกไปลอยๆ
อาลิซทำสีฟน้าสงสัยกับคำพูดของเธอ แต่เธอเองก็ไม่ได้คิดอะไร
เธอจึงหันไปปีนลงบรรไดแต่ใยระยะสายตาของเธอก็ได้เหลือบไปเห็น
ยานบินสามลำปริศนาที่จอดอยู่ตรงหน้าบนพื้นดิน ยานรูปทรงปกติทั่วไป
แต่ไอพ่นในการขับเคลื่อนทั้งสิ้น (พวกนั้นใครกัน?) อาลิซสงสัยก่อนจะ
หันลงบรรไดเหล็กลงไปบนผิวดินมองดูลีเดินไปหาพวกคนปริศนาเฟล่านั้น
ท่าทางของลีดูจะจริงจังกับการเข้าหามาเลยทีเดียว พวกเขาอาจจะรู้จักกัน
ก็เป็นได้ไม่งั้นเธอคงไม่เข้าไปตรงๆแบบนี้แน่นอน
"ไง..." ลียิ้มให้กับกลุ่มคนปริศนา
"ไง...ลี เป็นอย่างไงบ้าง?" ผู้ชายคนหนึ่งถามกลับพร้อมยิ้มส่ง
เธอพยักหน้าและยิ้มส่งกลับ "อืม...ดี ช่วงนี้ผจญภัยมาเยอะ"
"555 อย่างงั้นเหรอ?" ชายอีกคนหัวเราะ แต่ชายคนที่ทักลีคนแรกก็ได้
เหลืิงไปเห็นอาลิซยืนอยู่ด้านหลังและผองเพื่อนก็เดินแทรกออกมา
"พวกเขาเป็นใครกันเหรอ?"
"พวกเขาคือคนสำคัญของพวกเรา พวกเขามาจากต่างที่ต่างถิ่นอยู่
ไกลออกไปในเขตเมืองนักล่า โชคดีที่ฉันช่วยมาได้" เธอพยักหน้าอีกรอบ
"พาพวกเขาไปย่างกุ้งกันเถอะ"
ย่างกุ้งคือเมืองขยสดใหญ่ขิงคนจีนและมีประชากรที่เยอะมากมาย
เป็นจำนวนคนติดอันดับสองรองจากรัซเซีย พวกเขาใช้ชีวิตหลบอยู่อย่าง
ลับๆและก็มีความสุขมากกว่าที่จะอยู่บนพื้นดินอีกด้วย
"ทุกคน ขึ้นมาเลย" ลีกวักมือเรียกตาม อาลิซค่อยๆเดินเข้าตามเธอพร้อมกับ
แอบหันมอายปริศนาสามคนเล็กน้อยด้วยคงามระแวง (พวกเขาจะคิดอะไร
กับฉันมั้ยนะ?"
"ไม่ต้องห่วง พวกเขาเป็นเพื่อนฉัน" ลีพูดบอกจากห้องโดยสารยาน
"มาเร็วๆ" ลีกวักมือเรียก
"ไปกันเถอะ" คูเปอร์จับมืออาลิซจูงเธอไปที่ยานบิน ใบหน้าของเธอ
เขินอายเขาจนไม่กล้าสบตาได้แต่ก้มหน้า
ยานบินสตาร์ทเครื่องและลอยลำบินออกไป "โชคดีนะ~!" คนขับ
รถเมืองโบกมือลา อาลิซก้มมองดูชายนั้นจากบานหน้าต่างกระจกสี่เหลี่ยม
เล็กๆของยานพร้อมกับยิ้มให้
"เราไปไดลแค่ใหน" คูเปอร์ถาม
"อีกไม่ไกลแล้ว" ลีมองพลางยิ้มให้
"เมืองย่างกุ้งตือเมืองลอยฟ้าขนาดใหญ่ ไม่สิ...เรียกว่าเยอะดีกว่า ที่นั่น
ทุกคนจะเจอร้านอาหาร โรงแรม บ้าน บ้านส่วนตัว และ...ความสุข" ลีอธิบาย
ลักษณะเมืองให้พวกเขาฟัง แต่ก็ดูจะไม่มีใครเช้าใจเลยสักคน
"คือ...ผมไม่รู้ว่ามันจะดีขนาดนั้น" โทมัสค่อยพูดอย่างอ่อนโยนกับเธอ
"เดี๋ยวเราก็จะได้เห็นกันแล้วละ"
ยานบินมุ่งตรงเข้าสู่กลุ่มเมฆหน้าทึบ ความมืดค่อยๆเข้าครอบคลุม
ตัวยานและแสงสว่างปลายทางก็ค่อยส่องกลับคืนมาจนกระทั่งยานออก
นอกกลุ่มเมฆ แสงและเงาสะท้อนจากสิ่งขนาดใหญ่ที่อยู่ตรงหน้าก็ส่องเข้ามา
"แม้เจ้า....!" คูเปอร์มองดูสิ่งนั้นอย่างตกตะลึก ภาพนั้นดูงามตาและ
ดูมีชีวิตชีวามาก
"นั่นนะเหรอ...ย่างกุ้ง" อาลิซก็จ้องมองไม่แพ้กับคูเปอร์
เมืองย่างกุ้ง เมืองชุมชนขนาดใหญ่และพื้นที่กว้างขวาง ตึกแต่ละ
ตึกสร้างเป็นปล้องวงกลมๆลอยอยู่ทั่วทุกสาระทิศและยังเชื่อมทางเดินข้าม
ฝั่งด้วยสะพานเชือกไม้แผ่นหนา ถุงลมขนาดใหญ่ขึงไว้กับฐานตัวเมือง
แสงไฟสีส้มและเหลืองส่องสว่างราวกับอยู่บนสวงสวรรค์ ยานบินต่างๆนาๆ
ร่อนไปมาอยู่เต็มไปหมด บางเมืองมีลิฟท์ไม่แพ้กับเมืองลอนดอนที่อยู่
บนพื้นดิน เมืองพวกนี้ลอยอยู่เหนือก้อนเมฆทั้งปวง ภายใต้ก้อมลนเมฆที่อยู่
ใต้ตึกเมืองนั้นมีประกายแสงสีฟ้าขาวจากไฟฟ้าที่กำลังช็อตและส่งเสียง
ร้องครื่นคร่างอยู่ "ข้างล่างนั้นอะไรเหรอครับ?" คูเปอร์มองดูกลุ่มเมฆ
ที่กำลังกระพริบแสงไฟฟ้าพร้อมกับเสียงฟ้าร้องอยู่นั้น
"พื้นที่ต้องห้าม น้อยคนที่จะได้ลงไปดู ใต้เมฆนั้นคืออดีตของบ่างกุ้ง"
"อดีต...?"
"จะเล่าให้ฟังสั้นๆก็ได้ เมืองย่างกุ้งแต่ก่อนเคยออกรบเพื่อช่วยเหลือ
ผู้คนที่ถูกขับไปเป็นทาส หลายร้อยหลายพันชีวิตบนนี้คือคนที่ได้ถู่วยไว้
ทั้งนั้น ข้างใต้นั้นคือเศษซากที่เป็นอดีตและเตือนใจพวกอย่างมาก"
********************
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ