เถื่อนร้ายบัญชารัก

10.0

เขียนโดย Phaky

วันที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2561 เวลา 14.31 น.

  37 ตอน
  0 วิจารณ์
  38.83K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2561 08.47 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

37) ตัวอย่างบทที่ 12

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก

 
“แม่มึง ไปตามลูกมากินข้าวไป ของโปรดน้องพิ้งค์ทุกอย่าง กำลังร้อนๆเลย จะได้กินอร่อยๆ”
 
หลนเต้าเจี้ยวเนื้อปูพร้อมผักสดแกล้มจานโตถูกวางลงสมทบบนโต๊ะไม้สักเป็นอย่างสุดท้ายด้วยฝีมือกำนันสุนทรที่นานทีปีหนจะโชว์ฝีมือปรุงอาหารรสชาติระดับมิชลินสองดาวให้ได้ลิ้มลอง ร่างองอาจยืนกอดอกมองอาหารอีกสี่ห้าอย่างบนโต๊ะ ไม่ว่าจะเป็นแกงส้มชะอมกุ้ง คะน้าฮ่องกงผัดน้ำมันหอย ต้มยำทะเลน้ำใส ปลากะพงตัวโตทอดน้ำปลา และกุ้งอบวุ้นเส้นซึ่งทุกอย่างล้วนเป็นของโปรดของบุตรสาวคนสวยด้วยสายตาภาคภูมิใจ นานนับเดือนที่สามคนพ่อแม่ลูกไม่ได้ล้อมวงนั่งทานข้าวด้วยกัน วันนี้ดีใจจนไม่ยอมหุบยิ้มที่ลูกสาวสุดที่รักกลับมาบ้าน พ่อกำนันจึงจัดให้ชุดใหญ่
 
“ยายมณีนี่ยังไงน๊า ให้มาตามลูก ดันหายจ๋อมไปอีกคน เอ้า! แม่มึง นั่งดูอะไรอยู่ล่ะนั่น”
 
เพราะภรรยาที่ถูกวานให้เข้าไปตามลูกสาวในห้องนอนหายไปนานผิดปกติ กำนันสุนทรที่ยืนรออวดอาหารบนโต๊ะจึงชะเง้อชะแง้ตื่นเต้นเป็นเด็กหนุ่มชักรอไม่ไหว กำนันจึงเดินเข้าไปในห้องบุตรสาวอีกคน อยากรู้ว่าสองแม่ลูกนั่งคุยอะไรกันเพลินจนลืมอาหารของตัวเองหรือเปล่า แต่พอเห็นภรรยาคู่ชีวิตนั่งทำหน้าจืดเจื่อนอยู่ตรงปลายเตียงนอนสีชมพูอ่อนของบุตรสาว ลางสังหรณ์บางอย่างก็ดึงแขนให้กำนันสุนทรเลือกเดินเข้าไปใกล้แล้วก้มมองสิ่งที่อยู่ในมือของคุณนายมณี สิ่งที่เห็นพาให้หมดแรง ร่างองอาจเสียศูนย์จนต้องทรุดตัวลงนั่งเคียงข้างภรรยา
 
“คุณแม่! คุณป๋า!”
 
มือที่กำลังยกผ้าขนหนูเนื้อนิ่มสีขาวขึ้นซับใบหน้าชะงัก เมื่อหางตาเห็นว่ามีร่างของบุพการีทั้งสองนั่งอยู่ที่ปลายเตียง คราแรกแพรชมพูอมยิ้มขำเพราะรู้ว่าท่านทั้งสองคงมาตามให้เธอรีบออกไปทานข้าว แต่พอเงยหน้าขึ้นมองตรงๆ ริมฝีปากยังไม่ทันเอ่ยคำพูดเย้าหยอกก็มีเหตุให้แพรชมพูยืนตัวแข็งเป็นหุ่นขี้ผึ้ง หัวใจตกไปอยู่ที่ปลายเท้า นาทีนี้เนื้อตัวมันชาดิก ปลายลิ้นมันแข็งจนแทบพูดอะไรไม่ออก ทำได้เพียงเอ่ยเรียกท่านทั้งสองด้วยน้ำเสียงกังวานเศร้าระคนสำนึกผิด
 
“คุณแม่ คุณป๋า พิ้งค์ขอโทษ”
 
หยดน้ำตาใสๆของคนเป็นแม่และดวงตาแดงก่ำของคนเป็นพ่อมันช่างบีบหัวใจของคนเป็นลูกอย่างแพรชมพูให้รู้สึกผิดเหลือเกินที่ทำให้พ่อแม่ต้องเสียใจ ดั่งคำที่พระท่านเคยสอนไว้ว่าลูกหลานคนใดทำให้บิดามารดาผู้มีพระคุณต้องหลั่งน้ำตา คนๆนั้นช่างเป็นลูกอกตัญญูยิ่งนัก ร่างบางตรงเข้าไปทรุดตัวนั่งพับเพียบอยู่ตรงหน้าของคุณมณีกับกำนันสุนทร แพรชมพูยกมือสั่นๆขึ้นพนมก่อนก้มลงกราบแทบเท้าท่านทั้งสองด้วยน้ำตาท่วมใบหน้า
 
“ป๋าทำผิดตรงไหนเหรอลูก ป๋าเลี้ยงหนูไม่ดีตรงไหน ทำไม...ทำไมหนูถึงทำ... ทำแบบนี้”
 
กำนันสุนทรตัดพ้อลูกสาวปากคอสั่น โลกทั้งใบของคนเป็นพ่อมันถล่มทลายตั้งแต่รู้ว่าลูกสาวที่ประคบประหงมเลี้ยงดูด้วยความรักมาตั้งแต่วินาทีแรกที่ลืมตาจนกลายเป็นสาวสวยสะพรั่งเติบใหญ่ตั้งครรภ์ มันไม่ใช่เรื่องผิดปกติเมื่อแพรชมพูอยู่ในวัยเจริญพันธุ์พร้อมมีบุตร แต่มันไม่ถูกต้องเมื่อลูกสาวเขายังไม่ผ่านพิธีแต่งงานที่ถูกต้องตามประเพณี หนำซ้ำแม้แต่ใบหน้าค่าตาของผู้ชายที่ลูกสาวคบหาเป็นคนรัก สักครั้งเขากับภรรยาก็ยังไม่เคยเห็น ไม่อยากเชื่อว่าลูกสาวที่เขาเฝ้าฟูมฟักจะประพฤติตัวเหลวแหลกไม่นึกถึงหัวอกพ่อแม่ได้ถึงเพียงนี้ ความผิดหวังรุนแรงที่พุ่งเข้าใส่กะทันหันมันทำให้กำนันสุนทรไม่อาจรับได้ น้ำตาลูกผู้ชายที่ไหลครั้งสุดท้ายตอนได้ยินเสียงร้องจ้าของทารกน้อยที่ลืมตาขึ้นดูโลกเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อนไหลบ่าเป็นทางกับความเจ็บปวดที่เกาะกินหัวใจ
 
“พิ้งค์ขอโทษค่ะคุณป๋า พิ้งค์ขอโทษ”
 
ใบหน้านองน้ำตาของแพรชมพูยังซบนิ่งอยู่กับหลังเท้าของกำนันสุนทร หยดน้ำตาที่หลั่งไหลไม่ขาดสายจึงเปียกเลอะหลังเท้าของท่าน น้ำตาอุ่นๆของลูกสาวเปรียบดั่งลาวาร้อนที่แผดเผาหัวใจของคนเป็นพ่อให้ยิ่งเจ็บปวด กำนันสุนทรจึงพยายามชักเท้าหนีแต่แพรชมพูกลับใช้สองแขนโอบกอดไว้แน่น
 
“คุณป๋าขา ตีพิ้งค์เถอะค่ะ ตีให้สมกับความผิดของพิ้งค์ ตีเลยค่ะ ตีเลย”
 
แพรชมพูเงยหน้าขึ้นจากหลังเท้าเพื่อสบตากับกำนันสุนทร มือบางปาดน้ำตาที่ทำให้การมองเห็นพร่าเลือนเจือจาง ร่างบางที่สะอึกสะอื้นเพราะร้องไห้อย่างรุนแรงตรงหน้าทำให้กำนันสุนทรต้องเบือนใบหน้าแดงก่ำหันหนีไปอีกทาง
 
“แกอย่ามาท้า นึกว่าป๋าไม่กล้าตีรึไง!”
 
“พี่ทร ใจเย็นก่อนนะพี่ ค่อยๆคุยกันนะ”
 
ใบหน้าถมึงทึงของสามียามได้ฟังคำพูดของบุตรสาวเดือดร้อนให้คุณมณีที่นั่งร้องไห้กระซิกต้องปาดน้ำตาออกจากใบหน้าแล้วรีบเข้ามาห้ามปราม ในยามปกติแพรชมพูคือแก้วตาดวงใจที่กำนันสุนทรดูแลใกล้ชิด ยุงอย่าหวังได้ไต่ ไรอย่าคิดได้ตอมผิวกายอ่อนละมุนของบุตรสาวยอดรักเป็นอันขาด แต่ในเวลานี้ทุกอย่างมันกลับตาลปัตร ความผิดหวังเกินทนรับมันอาจส่งผลให้พ่อกำนันโกรธจนขาดสติ ยิ่งรักมากก็ยิ่งเกรี้ยวกราดมากทบทวีคูณ คนกำลังจิตใจเสียศูนย์อาจเผลอลงมือลงไม้กับแพรชมพูอย่างปากที่ตะคอกใส่ก็เป็นได้
 
“ให้คุณป๋าตีพิ้งค์เถอะค่ะแม่ ตีให้เจ็บเหมือนที่พิ้งค์ทำให้คุณป๋าเจ็บ”
 
ถ้อยคำนี้ไม่ได้เกิดจากการประชดประชัน แต่เป็นเพราะแพรชมพูถูกความรู้สึกผิดถาโถมเข้าใส่จนมิอาจอยู่เฉย ยิ่งเห็นน้ำตาของท่านทั้งสองความรู้สึกย่ำแย่มันก็พุ่งเข้าหา มันอัดแน่นในใจจนเหมือนจะหายใจเข้าออกไม่ไหว เธออยากให้ท่านลงโทษ จะหนักจะเบาไม่ขอเกี่ยง ขอเพียงให้ท่านได้ระบายอารมณ์โกรธที่มีเธอเป็นต้นเหตุออกมาบ้าง แม้เพียงน้อยนิดก็ดีกว่าได้แต่พร่ำขอโทษเพียงลมปาก
 
ขาดคำมือกร้านเพราะทำงานกลางไร่กลางสวนของกำนันสุนทรก็กระชากแขนเรียวเล็กของแพรชมพูที่ยังไม่หยุดร้องไห้ให้ลุกขึ้นยืนประจันหน้า ดวงตาของสองพ่อลูกที่รักกันสุดชีวิตสบกัน คนหนึ่งเสียใจในการกระทำของตัวเองสุดซึ้งพร้อมส่งคำขอโทษผ่านดวงตา คนหนึ่งเจ็บปวดเจียนคลั่งจนกระบอกตาร้อนผ่าว น้ำตาลูกผู้ชายรินไหลอีกระลอก ฝ่ามือหนาปาดน้ำตาบนแก้มก่อนเงื้อขึ้นสูงในอากาศแล้วฟาดลงมาเสียงดังเผี๊ยะ
 
“พี่ทร อย่าทำแบบนี้ พี่ทร หยุด”
 
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*
เรียกน้ำตากันสักนิดกับฉากนี้ สงสารหนูพิ้งค์เนอะ
ปล.หนังสือเหลือ 5 เล่มสุดท้ายนะคะ ใครอยากได้ไปสั่งที่เฟซบุ๊ก 'พิจักขณา พิชามญชุ์ นักเขียน' โลด
https://www.mebmarket.com/web/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTY5MzI2MSI7czo3OiJib29rX2lkIjtzOjU6IjgzMzQxIjt9

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา