เถื่อนร้ายบัญชารัก

10.0

เขียนโดย Phaky

วันที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2561 เวลา 14.31 น.

  37 ตอน
  0 วิจารณ์
  39.02K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2561 08.47 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

23) ตัวจริงไม่ใช่เรา

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก

 
 
 
กว่าสิบนาทีแล้วที่แอสตันมาร์ตินสีขาวซึ่งมีคุณหนูตระกูลเทรย์ซาร์ลเป็นเจ้าของขับเคลื่อนออกจากสนามบินมิลานสู่ถนนสายหลักมุ่งหน้ากลับคฤหาสน์ของคุณหนูแสนสวย
  แล้วก็เป็นสิบนาทีเดียวกันที่หัวคิ้วเรียวตกแต่งสวยงามของอลิซาเบธขมวดมุ่นเหมือนผูกด้วยโบว์ชิ้นโต เพราะไม่ต้องขับรถด้วยตัวเอง หญิงสาวจึงมีเวลาครุ่นคิดเกี่ยวกับความผิดปกติของฟรานซิสโก้ได้เต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงเอเชียหน้าตาจิ้มลิ้มคนนั้น หรือแม้แต่ท่าทางอ่อนโยนที่ฟรานซิสโก้โอบกอดร่างเล็กไว้ในวงแขนมันบ่งบอกว่าเจ้าพ่อแห่งวงการอัญมณีเปลี่ยนแปลงไปไม่ใช่บุรุษเฉยชาต่อสรรพสิ่งรอบข้างคนเก่า มันเกิดขึ้นได้อย่างไรกัน ท่าทางของอลิซาเบธแสดงออกว่ากำลังคิดหนัก และนั่นก็หาได้รอดพ้นสายตาเรียบนิ่งของเฮ็นริคที่ลอบมองผ่านกระจกไม่
 
“เฮ็นริค ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร”
 
เป็นธรรมชาติของสตรีที่มีความอดทนต่อเรื่องที่อยากรู้ไม่ค่อยจะได้นาน ส่งผลให้อลิซาเบธจำต้องเอ่ยปากถามบอดี้การ์ดควบตำแหน่งมือขวาที่ฟรานซิสโก้ให้ความสนิทสนมด้วยมากที่สุด ว่ากันว่าเพราะความซื่อสัตย์ที่เฮ็นริคมอบให้เจ้านายสุดหล่อนั้นมากเกินพรรณนา ทำให้ฟรานซิสโก้ไว้ใจถึงขนาดให้มือขวาหน้านิ่งบริหารงานโรงแรมซึ่งเป็นมรดกจากฝั่งครอบครัวมารดาและแบ่งหุ้นให้ครอบครองถึงสามสิบเปอร์เซ็น เฮ็นริคตามติดฟรานซิสโก้เป็นเงาตามตัวขนาดนั้น หมอนี่ต้องรู้อยู่แล้วว่าผู้หญิงเอเชียหน้าหวานคนนั้นเป็นใคร
 
“คุณอลิซาเบธหมายถึงใครเหรอครับ?”
 
บอดี้การ์ดหนุ่มเหลือบดวงตาคมราบเรียบแต่ลึกล้ำเหมือนทะเลสาบยามค่ำคืนขึ้นมองสบตากับคุณหนูตระกูลเทรย์ซาร์ลในกระจก ก่อนเอ่ยน้ำเสียงที่ราบเรียบไม่แพ้ดวงตาเอ่ยถาม น้ำเสียงโทนเดียวที่กระทบโสตประสาททำเอาอลิซาเบธแอบค่อนขอดในใจว่าผู้ชายคนนี้เป็นคนหรือซากผีดิบกันแน่ ไร้ชีวิตชีวาซะเหลือเกิน
 
“ก็ผู้หญิงที่มากับฟรานไง”
 
“คุณพิ้งค์ครับ”
 
“ฉันรู้แล้วว่าแม่นั่นชื่อพิ้งค์ แต่ที่ฉันอยากรู้คือหล่อนเป็นใคร ทำอะไรที่ไหน แล้วมากับฟรานได้ยังไง”
 
อลิซาเบธขว้างค้อนโตๆใส่สารถีจำเป็นด้วยความขัดเคือง มีหรือที่คนฉลาดอย่างเฮ็นริคจะไม่เข้าใจว่าคนที่เธอถามถึงคือแม่พิ้งค์อะไรนั่น แต่ที่แกล้งทำเป็นไม่เข้าใจก็คงเพราะต้องการป่วนประสาทเธอล่ะสิ แล้วดูนั่น ถ้าเมื่อครู่ตาเธอไม่ฝาด เธอคิดว่าเธอเห็นดวงตาที่เคยราบเรียบของเฮ็นริคเหมือนจะกร้าวกระด้างขึ้นมาวูบหนึ่งตอนที่เธอเรียกผู้หญิงคนนั้นว่าแม่นั่นด้วย
 
“ไม่มีคำตอบครับ”
 
“ทำไม!”
 
“เป็นเรื่องส่วนตัวของเจ้านายครับ”
 
“นี่คุณด่าว่าฉันสาระแนเหรอ”
 
เงียบ! ไม่มีคำตอบด้วยน้ำเสียงไร้ความรู้สึกใดๆผ่านพ้นริมฝีปากหยักสวยของเฮ็นริคสักคำเพื่อตอบคำถามเกรี้ยวกราดของเธอ แต่นั่นไม่ได้ทำให้อลิซาเบธรู้สึกดีขึ้นมาเลย เพราะบอดี้การ์ดมาดนิ่งกลับใช้ดวงตาคมกริบของเขาเหลือบมองเธอผ่านกระจกมองหลัง มันไม่ราบเรียบไร้ความรู้สึกเหมือนที่เคยเป็น แต่มันมีคำตอบว่า ‘ใช่!’ ส่งผ่านมา มือบางตามประสาลูกคุณหนูไม่เคยทำงานหนักกำเข้าหากันแน่น เจ็บ! เจ็บยิ่งกว่าโดนด่าเสียอีก
 
“ฉันว่าผู้หญิงคนนั้นก็เป็นได้แค่นางบำเรอของฟรานคนหนึ่งเท่านั้นแหละ คุณว่าไหม?”
 
นั่งสงบอารมณ์และครุ่นคิดอะไรเงียบๆคนเดียวอยู่นานหลายนาที อลิซาเบธถึงยอมเปิดปากรูปกระจับพูดจากับบอดี้การ์ดหนุ่มอีกครั้ง แม้จะโกรธแสนโกรธกับท่าทีเย็นชาที่ผู้ชายคนนี้บังอาจแสดงออกกับคุณหนูแสนสวยของตระกูลเทรย์ซาร์ลที่แสนร่ำรวย แต่เพื่ออะไรบางอย่างที่อยากรู้และมันอาจต่อยอดให้เธอประสบผลสำเร็จกับสิ่งที่เธอคาดหวังในอนาคต เธอต้องยอมละทิ้งโทสะไว้ด้านหลัง
 
“ด้วยมารยาท ไม่ว่าจะอยู่ต่อหน้าหรือลับหลัง รบกวนคุณอลิซาเบธกรุณาให้เกียรติคุณพิ้งค์ด้วยครับ”
 
เป็นอีกครั้งที่คำถามของเธอไม่ได้รับคำตอบจากเฮ็นริค นอกจากจะเสียแรงเสียอารมณ์ไปเปล่าๆ เธอยังถูกบอดี้การ์ดหนุ่มใช้สายตาตำหนิและถ้อยคำตักเตือนราบเรียบแต่เจ็บลึกตีแสกหน้ากลับมาจนรู้สึกว่าใบหน้าที่อุตส่าห์เสียเวลาตกแต่งด้วยเครื่องสำอางชั้นดีเห่อร้อนไปหมด ดวงตาสองคู่จ้องกันไม่มีใครยอมหลบ จนสุดท้ายก็เป็นอลิซาเบธที่ทนมองแววตาเฉยชาแต่แฝงคำด่าของเฮ็นริคไม่ไหว ใบหน้าสวยสะบัดส่งค้อนจนตาคว่ำก่อนหันมองไปนอกหน้าต่าง พลางนั่งกอดอกครุ่นคิดอะไรในใจแต่เพียงผู้เดียว
 
‘ฮึ! หมั่นไส้ ปกป้องกันดีนักใช่ไหม ได้! คอยดูฝีมือลิซ่าคนนี้แล้วกัน’
 
..................................................................................................................................................................
 
“ฮื้อ!...”
 
แพรชมพูห่อปากด้วยความเสียวสะท้านที่ตีวนในร่างกายดังสายธารลาวาร้อนระอุด้วยแรงพิสวาศที่ฟรานซิสโก้บรรจงป้อนเข้าใส่ไม่หยุดหย่อน ปากว่าจะรีบกลับมาอาบน้ำแต่งตัวที่บ้านแล้วออกไปหาอลิซาเบธข้างนอก แต่พอเอาเข้าจริงชายหนุ่มกลับชวนแพรชมพูเข้ามาอาบน้ำพร้อมกัน ด้วยรู้เท่าทันเล่ห์คนหื่น คนถูกชวนจึงส่ายหน้าดะ แต่แล้วยังไง ต่อให้แพรชมพูพยายามดิ้นรนหนีแต่มีหรือที่จะหลุดพ้นจากอ้อมกอดคนห่ามหื่น ฟรานซิสโก้รวบร่างเล็กขึ้นพาดบ่าพากันเข้ามายังห้องน้ำที่กว้างพอๆกับห้องพักของแพรชมพูทั้งห้อง จากนั้นมือปลาหมึกก็ปล้ำถอดเสื้อผ้าของคนตัวเล็ก ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าพริบตาเดียวร่างเปลือยเปล่าอมชมพูก็ปรากฏแก่สายตา จากนั้นชายหนุ่มก็อุ้มพาร่างบางมายืนใต้ฝักบัวพร้อมหมุนก๊อกจนสายน้ำเย็นเฉียบรินรดสองร่างที่ยืนเบียดเสียดกันจนชุ่มฉ่ำ
 
“ฟราน ฟราน อ๊ะ!”
 
แต่ความเย็นของสายน้ำกลับไม่เพียงพอที่จะลดระดับความร้อนที่แผ่กระจายออกมาจากสองร่าง ลิ้นสัมผัสลิ้น เรียวปากสองคู่ประกบจูบร้อนแรง เนื้อตัวเปลือยเปล่าทั้งสองโอบกอดเบียดเสียดจนแทบหลอมรวมเป็นเนื้อเดียวกัน เมื่อสัมผัสแนบชิดก่อให้ความวาบหวามล้นทะลัก พลันคนตัวบางก็ถูกมือหนาช้อนเข้าที่ใต้บั้นท้ายแล้วโอบอุ้มขึ้นสูงก่อนดันแผ่นหลังบางแนบผนังห้องน้ำเปียกชุ่ม จากนั้นก็สอดร่างกายใหญ่โตพุ่งพรวดตามอารมณ์ดิบจนแพรชมพูเบิกตากว้าง ดวงตากลมรื้นน้ำตากับความคับแน่นที่ทรมานจนต้องอาศัยไหล่กว้างเป็นที่ซุกซบใบหน้าซ่อนความเจ็บแปลบ ร่างบางสั่นระริกในอ้อมแขนทำให้ฟรานซิสโก้ยืนกัดฟันนิ่งเพื่อปล่อยให้ร่างกายทั้งสองค่อยๆปรับตัว สองแขนเรียวโอบรอบลำคอแกร่งพลางคิดว่าน้ำตัวเกือบสี่สิบห้ากิโลกรัมไม่เคยสร้างความเดือดร้อนให้ฟรานซิสโก้เลยสินะ ชายหนุ่มถึงได้ขยันอุ้มเธอไม่ปล่อย เวลาที่เลยผ่านและสายน้ำเย็นเฉียบช่วยให้ความทรมานเริ่มน้อยลง เมื่อเห็นสัดส่วนอ่อนหวานปรับตัวได้เป็นอย่างดี จากนั้นก็ไม่มีคำว่าปรานีจากฟรานซิสโก้อีกเลย
 
“อา...ดีจริง”
 
ไม่ใช่แค่แพรชมพูคนเดียวซะแล้วที่ทรมานจากการสอดประสานเป็นหนึ่ง แต่ชายหนุ่มที่ตะบี้ตะบันสะโพกสีแทนเข้าหาความคับแน่นไม่หยุดยั้งก็ทรมานปนซ่านสุขไม่ต่างกันนัก เสียงร้องคำรามยามถูกบีบรัดจึงดังผ่านลำคอที่แข็งเกร็งจนเส้นเอ็นปูดโปนขึ้นมาเป็นระยะแข่งขันกับเสียงกรีดร้องรัญจวนหวานหู นานเท่านานที่ทั้งสองต่างปล่อยตัวปล่อยใจไปกับบทรักร้อนระอุ จวบจนกระทั่งใกล้ถึงดินแดนลึกลับที่รอคอย ฟรานซิสโก้จึงขยำสะโพกอวบอิ่มที่ส่ายไหวสู้มือพร้อมกระโจนความอลังการเข้าหารัวเร็วจนแทบลืมหายใจ ไม่นานเสียงครางลึกด้วยความสุขสมจากทั้งสองก็ดังประสานออกมาจนดังก้องห้องน้ำพร้อมๆกัน
 
“พิ้งค์จ๋า”
 
เสียงหอบหายใจด้วยความเหนื่อยอ่อนของร่างเล็กที่ทิ้งหน้าซุกซบซอกคอเปียกชื้นยังไม่ทันจางหาย เสียงเรียกออดอ้อนหวานหูจากเรียวปากร้ายกาจของฟรานซิสโก้ก็กระซิบข้างหู เรียกอย่างเดียวยังไม่พอ คนเจ้าเล่ห์ยังแกล้งขบเม้มใบหูของเธอเล่นเหมือนเด็กซุกซน แต่จากประสบการณ์ที่ถูกชายหนุ่มเคี่ยวกรำมานับครั้งไม่ถ้วนก็บอกว่าเขาไม่ได้ต้องการเล่น แต่ฟรานซิสโก้กำลังโอ้โลมและชักชวนเธอก่อบทรักร้อนระอุครั้งใหม่ต่างหาก
 
“ไม่ต้องมาจ๊ะจ๋าเลย คนเจ้าเล่ห์ ไหนชวนมาอาบน้ำ”
 
“ก็อาบจริง แต่อาบหลังออกแรงสักยกสองยกก่อนไง”
 
“คนหื่น”
 
“ยอมให้ทุบ ยอมให้ด่า แต่ด่าเสร็จแล้วต้องยอมให้ผมกินต่อนะ”
 
“แต่ฉันเหนื่อยแล้วนะ”
 
“ก็เห็นบ่นเหนื่อย แต่ก็ร้องกรี๊ดๆลั่นห้อง ฟราน! ฟราน! ฟราน! แบบนี้ทุกที”
 
“ฟราน คนบ้า! ฉันโกรธคุณแล้วนะ”
 
“โอ๋ๆ ไม่แกล้งแล้วก็ได้ อาบน้ำแล้วนอนกันพักกันเนอะ”
 
ฟรานซิสโก้หัวเราะร่วนกับใบหน้างอง้ำแต่ดูน่ารักนักของแพรชมพู มือใหญ่กดท้ายทอยของสตรีแก้มป่องในอ้อมแขนเข้ามาชิดก่อนจรดริมฝีปากจูบหน้าผากเนียนหนักๆพลางโยกตัวไปมาอย่างง้องอน ความอ่อนโยนในดวงตาคู่คมที่ทอดมองมาพาให้แพรชมพูยอมพยักใบหน้าแดงก่ำรับคำชวนของคนทรงพลังช่างแกล้ง แต่พอจะดิ้นรนลงจากอ้อมแขนแกร่งเพื่ออาบน้ำตามคำชวนชายหนุ่มกลับส่ายหน้า พลันนาทีต่อมาก็ยิ่งขัดเขินหนักเมื่อฟรานซิสโก้อาสาเป็นคนอาบน้ำให้เธอด้วยตัวเอง ไม่มีสักครั้งที่เธอจะต่อต้านความเอาแต่ใจของเขาได้ สุดท้ายก็จำต้องยอมให้คนเจ้าเล่ห์ลูบไล้ฝ่ามือเปื้อนครีมอาบน้ำละเลงไปทั่วผิวกาย แต่ก็อย่างว่า...เมื่อคนยังไม่อิ่มรสสวาทไม่ได้รับอนุมัติให้หื่นรอบสอง ฟรานซิสโก้จึงอาศัยช่วงเวลาชำระล้างคราบเหงื่อไคลนี่แหละตอดเล็กตอดน้อยกับอกอิ่ม บ้างก็วกฝ่ามือซุกซนขยี้ขยำที่จุดอ่อนไหว ทั้งลูบทั้งนวดบีบเคล้นจนแพรชมพูต้องกัดริมฝีปากฉุดรั้งสติไม่ให้หลงระเริงกับความเจ้าเล่ห์ของนักอาบน้ำมือทอง กว่าการอาบน้ำที่สุดแสนล่อแหลมจะเสร็จสิ้นลง มือหนาก็ถูกแพรชมพูทั้งตีทั้งหยิกไปหลายครั้งจนเป็นรอยแดงเถือก
 
“ได้เวลานอนแล้ว หลับตาซะนะคนดี”
 
กลัดกระดุมชุดนอนสีหวานให้แพรชมพูเรียบร้อย มือใหญ่ก็ช้อนร่างอรชรขึ้นอุ้มจากห้องแต่งตัวพามาวางแผ่วเบาลงบนเตียงนอน จากนั้นร่างใหญ่ก็ทิ้งตัวลงมานอนเคียงข้างก่อนตะแคงตัวหันเข้าหาแพรชมพู ดวงตาหวานเยิ้มที่มองมาพาให้หัวใจดวงน้อยขัดเขินจนต้องหลับตาหนี เปิดโอกาสให้ฟรานซิสโก้ก้มหน้าลงจูบขมับบางแล้วกระชับเอวเล็กเข้ามากอดชิดอกอุ่น น้ำหนักมือที่ลูบไล้แผ่วๆอยู่กับแผ่นหลังเนียนทำให้คนเหนื่อยล้าจากการเดินทางและบทรักร้อนแรงหลับลงในไม่กี่วินาทีต่อมา กระทั่งแน่ใจว่าแพรชมพูนอนหลับสนิท ร่างสูงจึงค่อยๆขยับตัวลงมาจากเตียงแล้วดึงผ้าห่มปลายเตียงคลี่คลุมร่างบาง
 
“ฝันดีนะครับคนสวย เดี๋ยวผมกลับมานอนเป็นเพื่อน”
 
ก้มหน้าลงจูบหน้าผากเนียนอีกครั้งเป็นการร่ำลา จากนั้นร่างสูงจึงเดินหายเข้าไปในห้องแต่งตัว ไม่ถึงห้านาทีฟรานซิสโก้ก็ออกมาอีกครั้งด้วยชุดเสื้อยืดแขนยาวสีเทากับกางเกงสแล็คสีดำแล้วก้าวยาวๆออกไปจากห้องนอนพร้อมเสียงผิวปากอารมณ์ดี
 
“สุดท้ายฟรานก็ออกไปหาคุณลิซ่า”
 
ทันทีที่ร่างสูงพ้นออกไปจากห้องนอน ดวงตากลมที่ฟรานซิสโก้เข้าใจว่าหลับสนิทก็พลันลืมขึ้นในความมืด แพรชมพูขยับตัวขึ้นนั่งพิงพนักหัวเตียงแล้วเหลือบสายตาหม่นหมองมองที่นอนด้านข้างตรงที่เคยมีร่างสูงนอนแนบชิดด้วยหัวใจที่สั่นไหว จริงอยู่ว่าเธออ่อนเพลียและง่วงงุนพร้อมจมสู่นิทราได้ทันทีที่ศีรษะแตะหมอน แต่พอความอบอุ่นจากอกแกร่งที่ได้รับลุกหายไป ความเหน็บหนาวก็เข้ามาแทนที่จนทำให้เธอนอนไม่หลับ ยิ่งรู้ว่าฟรานซิสโก้แต่งตัวออกไปข้างนอก ก้อนเนื้อที่อกด้านซ้ายของเธอก็หวิวโหวงเกินกว่าจะข่มตาลงนอน เขาคงไปตามสัญญาที่ให้ไว้กับอลิซาเบธสินะ
 
ยอมรับว่าแอบหวังว่าเขาจะกกกอดเธอไว้ในอ้อมแขนแล้วนอนหลับไปพร้อมกันเหมือนทุกครั้งหลังจบภารกิจรัก แต่น่าน้อยใจชะมัดที่เขาเลือกจะทิ้งเธอให้นอนเดียวดาย เสียงรถยนต์ที่ดังจากด้านล่างทำให้แพรชมพูรีบตวัดปลายเท้าลงจากเตียง ร่างเล็กแอบอยู่ตรงผ้าม่านหน้าต่างแล้วลอบมองลงไปข้างล่าง ทันเห็นร่างสูงใหญ่ของฟรานซิสโก้ผลุบหายเข้าไปในรถที่เธอกับเขานั่งกลับมาจากสนามบิน สองมือนุ่มนิ่มก็กำผ้าม่านเนื้อหนาไว้แน่นเพื่อประคองตัวไม่ให้ทรุดลงไปกองกับพื้นเมื่อเห็นรถยนต์คันหรูค่อยๆเคลื่อนออกไป ฟรานซิสโก้กำลังห่างจากเธอไปเรื่อยๆเพื่อใกล้ชิดอลิซาเบธ
 
‘ตกลงเราเป็นอะไรกัน?’
 
คำถามเดิมที่ยังติดค้างในใจและยังไม่ได้รับคำตอบวนกลับมาถามซ้ำอีกครั้ง ความอ่อนโยนที่เขามอบให้มันทำให้เธอหลงคิดเพ้อไปไกล ความใกล้ชิดทุกนาทีที่เขาหนีบเธอไว้ข้างกายมันทำให้เธอเคยตัวและแหนหวงไม่อยากให้ผู้หญิงคนไหนเข้าใกล้เขา แต่เธอเพิ่งรู้ว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้ก็ตอนที่ได้เจออลิซาเบธ เหมือนผู้หญิงสวยจัดคนนั้นมาเป็นคนปลุกให้เธอตื่นจากความฝันแสนหวานที่ไม่มีวันเป็นไปได้ในโลกแห่งความเป็นจริง
 
‘แพรชมพู เธอมันคนไม่มีสิทธิ์!’
 
ความอ่อนเดียงสาต่อเพศตรงข้ามทำให้เธอไม่เข้าใจความรู้สึกของตัวเองก่อนหน้าที่มีต่อผู้ชายใจร้ายที่ชื่อฟรานซิสโก้ ฮอร์นสัน ไม่รู้ว่าทำไมหัวใจจึงเต้นแรงจนเลือดในกายสูบฉีดนักเมื่อได้เห็นใบหน้าหล่อเหลา ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงรู้สึกอบอุ่นทุกครั้งที่เขาโอบกอดทั้งที่เขานั้นร้ายแสนร้าย แต่พอได้รู้...ก็เหมือนมันจะไร้ประโยชน์อยู่ดี ยังไงซะเธอไม่มีสิทธิ์ได้ครอบครอง ไม่ว่าจะเป็นหัวใจหรือร่างกายของเขา นั่นก็เพราะเขามีเจ้าของถือกรรมสิทธิ์นั้นอยู่แล้ว สมองน้อยๆจำต้องเตือนตัวเองว่าสถานะของเธอก็แค่นางบำเรอชั่วคราว เมื่อไรที่เขาหมดสนุกกับเรือนร่างของเธอไม่แคล้วก็คงส่งกลับไปอยู่ที่เดิม ความจริงที่แสนโหดร้ายบั่นทอนพลังกายไปจนไม่เหลือหลอ แพรชมพูบังคับร่างโผเผฝืนเดินกลับไปทิ้งตัวลงบนเตียงกว้างใช้มันที่รองรับหยดน้ำตาของความน้อยเนื้อต่ำใจ ไม่นานคนที่เหนื่อยล้าทั้งกายและใจก็ผล็อยหลับสนิท
 
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*
สุดท้ายอีฟรานก็ออกไปหายายขายาวจนได้ ฮีจะรู้ไหมเนี่ยว่าเมียแอบนอนร้องไห้อยู่ มันน่านัก! เดี๋ยวส่งแม่ยกขาโหดของเราไปดีดมะกอกเลย หรือเราจะรวมตัวกันไปฟ้องพ่อกำนันดี
 
ปล.สถานะหนังสือตอนนี้ โรงพิมพ์ไลน์มาบอกว่าวันนี้ส่งหนังสือมาให้ภัคแล้วนะคะ ทีนี้ก็เอาใจช่วยกันภาวนาให้มาถึงทันพรุ่งนี้ ภัคเกียมซองเกียมกล่องพร้อมละ หนังสือมาเพ่จะลุยทันที สู้โว๊ย!
 
ปล.2 โอกาสสุดท้ายของนักอ่านที่อยากได้รับหนังสือพร้อมกับรอบแรก พร้อมค่าสินสอดราคาโปรฯ 299 บาท ส่งฟรีลงทะเบียน ให้โอกาสโอนได้ถึงคืนนี้ค่ะ ทั้งที่เคยจองไว้และยังไม่เคยจอง ตามไปที่เพจที่แปะลิ้งค์ไว้หน้าหลักนิยายได้เลย โอนหลังจากนี้ ราคา 359 บาท เท่านั้นนะคะ

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา