เถื่อนร้ายบัญชารัก

10.0

เขียนโดย Phaky

วันที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2561 เวลา 14.31 น.

  37 ตอน
  0 วิจารณ์
  39.03K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2561 08.47 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

19) สับสน

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
 
 
 
“คุณฟรานชอบที่นี่หรือเปล่าครับ”
“อืม”
เพียงแค่คำสั้นๆของชายหนุ่มที่ลุกขึ้นมายืนล้วงกระเป๋าทอดสายตามองลงไปยังแม่น้ำเจ้าพระยาหลังนั่งหมกมุ่นอยู่บนโต๊ะสเก๊ตช์ภาพมานานนับชั่วโมงพ้นริมฝีปากก็ส่งผลให้เฮ็นริคที่ยืนอยู่ด้านหลังของฟรานซิสโก้ลอบถอนหายใจอย่างโล่งอก ทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กันมานานจนรู้ดีว่ามันหมายถึงความพึงพอใจ ในฐานะมือขวาคนสนิทที่ได้รับคำสั่งจากเจ้านายเหนือหัวให้จัดหาเพนต์เฮาส์ขณะที่พักอยู่ในประเทศไทย มันอาจไม่ใช่เรื่องยากเกินกำลัง แต่หากทุกคำสั่งที่ทำเพื่อผู้เป็นนายนั้นเฮ็นริคจะต้องตบท้ายด้วยคำว่า ‘ดีที่สุด’ เสมอ มันจึงไม่ใช่เรื่องง่ายนัก
นอกจากดีที่สุด ในกรณีนี้ยังจำเป็นต้องพ่วงคำว่า ‘ด่วนที่สุด’ เข้ามาเป็นปัจจัยสำคัญด้วย เนื่องจากก่อนหน้านี้การเดินทางมายังประเทศไทยไม่รวมอยู่ในตารางงานแน่นเอี้ยดของฟรานซิสโก้มาก่อน งานทุกอย่างหมดความสำคัญเพียงแค่มีรายงานว่าแพรชมพูถูกทำร้าย วันแรกที่เท้าแตะแผ่นดินไทยฟรานซิสโก้ก็มุ่งหน้าสู่ที่พักของหญิงสาว โดยการ์ดอย่างพวกเขาอาศัยห้องพักของการ์ดที่เฝ้าแพรชมพูในชั้นเดียวกันเป็นที่พักผ่อน ส่วนฟรานซิสโก้นั้นถือวิสาสะอาศัยอยู่กับตัวต้นเหตุที่ทำให้เจ้าตัวต้องบินด่วน
และเพราะวันแรกฟรานซิสโก้ใช้เวลาทุกนาทีกับแพรชมพูในห้องพักจึงไม่มีปัญหาอะไร แต่พอเข้าสู่วันที่สองก็มีคำสั่งให้เขาหาเพนต์เฮาส์ด่วนจี๋ นั่นเพราะเจ้าตัวเล่นทิ้งงานออกแบบเครื่องประดับของอลิซาเบธคู่ค้าคนสำคัญซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์เสื้อผ้าระดับโอกูร์ตูในอิตาลีที่กำลังจะจัดแฟชั่นโชว์ในอีกสามเดือนข้างหน้า ขั้นตอนของงานยังอยู่ระหว่างออกแบบที่ต้องใช้สมาธิและสถานที่ที่เป็นส่วนตัว แต่การอยู่ในห้องเดียวกับแพรชมพูกลับทำให้สมาธิของฟรานซิสโก้ติดลบ เจ้านายเหนือหัวจึงต้องหาเพนต์เฮาส์ส่วนตัวสำหรับนั่งทำงานให้ทันตามกำหนด
สุดท้ายเขาจึงตัดสินใจเลือกเพนต์เฮาส์ที่อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เพราะตรงนี้นอกจากมีแม่น้ำสายหลักให้มองยามเหนื่อยล้า ในละแวกยังมีสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นพระราชวัง วัดวาอารามหลวง และพิพิธภัณฑ์ คิดไปล่วงหน้าว่าความล้ำค่าของสถาปัตยกรรมโดยรอบอาจเป็นหนึ่งในแรงบันดาลใจให้ฟรานซิสโก้ขีดเขียนออกมาเป็นชิ้นงานที่สวยงาม
“ต้องการอะไรเพิ่มไหมครับ”
“พิ้งค์ทำอะไรอยู่”
‘คนละเรื่องเดียวกัน!’
เห็นยืนมองออกไปนอกหน้าต่างนิ่งเหมือนกำลังใช้สมาธิ เฮ็นริคก็เข้าใจไปว่าฟรานซิสโก้กำลังขบคิดเรื่องงานจึงเอ่ยถามเผื่อเจ้านายหนุ่มต้องการให้เพิ่มอุปกรณ์สำหรับทำงานเพิ่มเติม แต่เปล่าเลย ฟังจากที่เจ้านายเหนือหัวถามกลับมา นอกจากคำถามของเขาจะไม่ได้รับความสนใจ ก็ดูเหมือนว่าทุกห้วงคำนึงของฟรานซิสโก้จะถูกสตรีร่างเล็กหน้าหวานที่ถูกสั่งให้อยู่แต่ในห้องพักคนนั้นจับจองไว้ทั้งหมด
“คุณพิ้งค์หลับอยู่ครับ”
และนี่ก็เป็นผลจากการตามรับใช้ฟรานซิสโก้มานานจนรู้ใจ เฮ็นริคจึงคอยสั่งให้ลูกน้องรายงานความเคลื่อนไหวของแพรชมพูให้ทราบทุกครึ่งชั่วโมง เขาจึงสามารถตอบคำถามได้รวดเร็วทันใจผู้เป็นนาย ฉลาดขนาดนี้ รู้ใจขนาดนี้ โบนัสห้าเท่าปลายปีจะหนีไปไหนเสีย
“เตรียมรถ”
“คุณฟรานจะไปไหนเหรอครับ”
“กลับ”
พูดแค่นั้นฟรานซิสโก้ก็ออกเดินไปยังประตูแล้วปล่อยให้มือขวาคนสนิทยืนงงอยู่กับที่ เฮ็นริคก้มมองนาฬิกาที่ข้อมือซ้ายเพื่อความแน่ใจแล้วหมุนสายตามองตามเจ้านายเหนือหัว พลางคิดว่าเป็นไปได้อย่างไรที่ฟรานซิสโก้เลิกงานก่อนเวลา ก็ตอนนี้เป็นเวลาบ่ายสามกว่าเท่านั้น หากเป็นฟรานซิสโก้คนปกติที่เขาร่วมงานมาสิบกว่าปีคงยังไม่หยุดใช้มันสมองปราดเปรื่องสร้างสรรค์ผลงาน อย่าว่าแต่เลิกก่อนเวลาเลย จำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเจ้านายสุดหล่อเคยออกจากออฟฟิศก่อนตะวันตกดินครั้งสุดท้ายเมื่อไร แล้วอยู่ๆวันนี้มันเกิดอาเพศอะไรขึ้นหรือ ที่สำคัญเพนต์เฮาส์แห่งนี้มีที่พักหรูหราพร้อมสรรพ หากเหนื่อยจะพักที่นี่ก็สามารถทำได้เลย แต่ไม่มีเวลาให้วิเคราะห์หาคำตอบเมื่อลูกน้องรายงานผ่านบลูทูธว่าฟรานซิสโก้ไปรอที่รถแล้ว เฮ็นริคจึงต้องรีบก้าวยาวๆตามไปอีกคน
‘คุณฟรานดูรีบ’
กิริยาพลิกข้อมือดูนาฬิกาทุกๆห้านาทีของเจ้านายที่นั่งอยู่เบาะหลังไม่พ้นสายตาของเฮ็นริคที่ลอบสังเกตผ่านกระจกมองหลัง สำหรับเขาเวลาสี่สิบห้านาทีในการเดินทางจากเพนต์เฮาส์สู่คอนโดฯของแพรชมพูถือว่าไม่ได้นานเลย แต่สำหรับฟรานซิสโก้ เขาชักไม่แน่ใจว่าชายหนุ่มจะคิดเหมือนกันหรือเปล่า
“ระวังครับ!”
เป็นเฮ็นริคนั่นเองที่ตะโกนเตือนเจ้านายหนุ่มเสียงดัง ก็ขณะที่รถยนต์ขับเคลื่อนมาถึงหน้าคอนโดฯแต่ยังไม่ทันจอดสนิท ฟรานซิสโก้ก็เปิดประตูรถแล้วก้าวออกไปอย่างไม่กลัวอันตราย สองขาแข็งแรงภายใต้กางเกงสแล็คสีดำสนิทก้าวยาวๆไม่รอการ์ดเหมือนที่เคย ส่งผลให้เฮ็นริคกับลูกน้องต้องรีบเปิดประตูตามไปอารักขาเจ้านายอีกคน ระหว่างที่วิ่งตาม เฮ็นริคก็ย้อนคิดถึงพฤติกรรมหลายๆอย่างที่แปลกไปของผู้เป็นนาย เขาไม่มีสิทธิ์โทษฟรานซิสโก้ แต่เป็นเขากับลูกน้องที่ต่อจากนี้คงต้องตื่นตัวและใส่ใจทุกรายละเอียดให้มากกว่าเดิม มือขวาหนุ่มหยุดวิ่งเมื่อทันเห็นหลังไวๆของเจ้านายผลุบหายเข้าไปในห้องพักของแพรชมพู ก่อนหันไปมองหน้าลูกน้องที่ยืนหอบข้างๆและเข้าใจตรงกันด้วยสัญชาตญาณว่า ต่อจากนี้นอกจากฟรานซิสโก้ สตรีหน้าหวานหยดในห้องพักก็กลายเป็นอีกคนที่พวกเขาต้องให้ความสำคัญ
‘คุณแพรชมพูคือแมวกวักชัดๆ กวักเรียกคุณฟรานกลับคอนโดฯแต่หัววันเลยเชียว’
ทันทีที่ประตูห้องพักของแพรชมพูเปิดกว้างด้วยมือของการ์ดที่ยืนเฝ้าอยู่หน้าห้อง ฟรานซิสโก้ก็แทรกตัวเข้ามาแล้วตรงดิ่งไปยังห้องนอนสีชมพูหวาน ร่างสูงทรุดนั่งลงบนเตียงเคียงข้างร่างเล็กที่นอนหลับตาพริ้ม พลางทาบหลังมือกับหน้าผากเกลี้ยงเกลาอย่างเป็นกังวล ลมหายใจของความโล่งอกถูกปล่อยผ่านช้าๆ ตอนเฮ็นริครายงานว่าแพรชมพูนอนหลับอยู่เขาเครียดแทบแย่ กลัวว่าหญิงสาวจะล้มป่วยอีกครั้งด้วยถูกพิศวาสเร่าร้อนยันหัวรุ่งเล่นงาน แต่พอได้สัมผัสผิวกายนวลเนียนแล้วก็อุ่นใจที่แพรชมพูไม่มีไข้อย่างที่กังวล
“ชู้ว์ นอนต่อเถอะ ผมแค่อยากนอนเป็นเพื่อน”
ร่างบางบนเตียงดิ้นรนพลางส่งเสียงฮือฮาขัดใจเล็กน้อยเมื่อรู้สึกอึดอัด เป็นฟรานซิสโก้นั่นเองที่สลัดเสื้อสูททิ้งแล้วทอดกายลงนอนเคียงข้างพร้อมทั้งดึงร่างแพรชมพูเข้ามากอดรัดแนบอก มือหนาลูบแผ่นหลังบางช้าๆแล้วก้มหน้ากระซิบชิดใบหูเล็ก รู้สึกผิดน้อยๆที่รบกวนคนหลับ แต่เวลาผ่านไปเพียงอึดใจฟรานซิสโก้ก็ยิ้มกริ่มเมื่อร่างเล็กที่เคยผลักไสเป็นฝ่ายเบียดเนื้อตัวเข้าหาเสียเอง แขนเรียวตวัดกอดรัดเอวหนา พร้อมใบหน้าสวยหวานที่ซุกหาความอบอุ่นตรงอกกว้าง กิริยาออดอ้อนของคนหลับช่างน่ารักถูกใจเจ้าพ่อวงการอัญมณียิ่งนัก แล้วเวลาดีๆอย่างนี้จะมีอะไรดีไปกว่าซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่มผืนเดียวกับแพรชมพูอีกหรือ ไม่มีน่ะสิ! คิดได้อย่างนั้นฟรานซิสโก้จึงหลับตาเข้าสู่นิทราตามร่างนุ่มในวงแขนไปอีกคน
..................................................................................................................................................................
 
“อ๊ะ...ฟราน ฟราน!”
เรียวหน้าหวานแหงนเงยส่ายสะบัด มือบางสองข้างจิกพนักโซฟาเพื่อพยุงตัวเองไม่ให้ทรุดลงไปกองกับพื้นเพราะแรงเบียดกระแทกที่คนด้านหลังบรรจงโถมเข้าใส่ กลายเป็นเรื่องปกติไปแล้วที่ทุกเช้าหลังตื่นนอนเธอจะต้องถูกฟรานซิสโก้เขมือบลงท้อง ไม่รู้เลยว่าเขาไปเอาเรี่ยวแรงมหาศาลมาจากไหน กลางคืนกว่าเขาจะปล่อยให้เธอได้นอนเวลาก็ล่วงเข้าสู่วันใหม่ ทิ้งช่วงให้ได้นอนพักเอาแรงไม่กี่ชั่วโมงพอตอนเช้าเขาก็ทำเหมือนคนตายอดตายอยากจับเธอฟาดอย่างมูมมาม ที่สำคัญคือเธอนี่แหละที่ไม่เคยต่อต้านเขาจริงจัง จะมีบ้างที่เริ่มแรกปัดป้องด้วยความเขินอาย แต่พอถูกเขาเล้าโลมด้วยประสบการณ์ช่ำชองเข้าหน่อยเนื้อตัวก็พลันอ่อนปวกเปียก ยินยอมให้คนหื่นกามพาเธอโบยบินสู่ความสุขหฤหรรษ์ครั้งแล้วครั้งเล่า จนบางครั้งยังนึกว่าเธอกับเขาตกลงใครหื่นกว่ากัน
“ร้องดังๆคนสวย ฉันชอบฟังเสียงเธอ”
รู้ดีว่าทำตัวเหมือนคนโรคจิตเสพติดเซ็กส์ขึ้นสมองเข้าไปทุกวันแต่ฟรานซิสโก้ก็หาได้สนใจ ฝ่ามือหนากอบกุมอกนุ่มที่สั่นไหวตามแรงถาโถมบีบเคล้นกระตุ้นพลังรัก ส่วนท่อนแขนสีแทนอีกข้างโอบเอวเล็กเข้ามาแนบชิดแล้วตะบันสะโพกสอบเข้าหาความงามเย้ายวนของร่างสวยรุนแรงเมื่อรับรู้อาการตอดรัดหนึบหนับของร่างบางในอ้อมแขน
“ฟราน ได้โปรด... ฟราน กรี๊ดดดด”
เสียงกรีดร้องหวานหูจากริมฝีปากสีเรื่อมาจากความรู้สึกล้วนๆหาใช่ทำตามคำสั่ง แพรชมพูหลับตาลงเปลี่ยนจากจิกเล็บกับพนักโซฟาเป็นท่อนแขนแข็งแกร่งระไรขนของฟรานซิสโก้บรรเทาความทรมาน สะโพกเต่งตึงแอ่นหยัดเข้าหาตามสัญชาตญาณเมื่อความรู้สึกบอกว่าใกล้เข้าไปทุกที ใกล้ถึงสวรรค์ที่สรรค์สร้างด้วยสองมือของเธอกับฟรานซิสโก้เข้าไปในทุกๆครั้งที่กายแกร่งขยับเสียดสี ไม่นานเสียงกรีดร้องลั่นห้องด้วยความสุขสมก็ดังก้องเมื่อบทรักครั้งที่สองของเช้านี้เดินทางมาถึงจุดสูงสุด รับรู้ว่าแพรชมพูเดินทางสู่เส้นชัยแล้วฟรานซิสโก้จึงผลักดันตัวตนแข็งแกร่งเข้าหาลึกสุดปลายทาง ยินยอมให้กายสาวรีดเค้นทุกหยาดหยดจากร่างสูงด้วยความเต็มใจ ก่อนทิ้งตัวกอดรัดร่างบางแนบแน่นแล้วซุกใบหน้าชื้นเหงื่อขบเม้มลำคอขาวของแพรชมพูอย่างหลงใหล
“พะ...พอแล้ว ฟราน ไม่เอาแล้วนะ”
ทันทีที่หางตาปรือปรอยเห็นเครื่องป้องกันชิ้นเก่าถูกโยนทิ้งใส่ถังขยะก็เหมือนสติขาวโพลนของแพรชมพูถูกปลุกคืนมา ร่างบางดึงตัวออกห่างจากการเกี่ยวพันพลางผลักและดันอกกว้างของคนหื่นด้วยสองมือนุ่มนิ่ม ทำเอาคนที่กำลังควานมือหาเครื่องป้องกันชิ้นใหม่ที่วางเกลื่อนบนโต๊ะทำหน้ากระเง้ากระงอดเหมือนเด็กชายตัวเล็กๆถูกขัดใจ
“พอได้ไง ยังไม่อิ่มเลย”
“หิวมากก็ไปกินข้าวสิ” พอเขาไม่ดุเหมือนเริ่มแรกที่เจอ แพรชมพูเลยกล้าต่อล้อต่อเถียง
“ก็ข้าวมันกินไม่อร่อยเหมือนนมชมพูนี่นา”
ไม่พูดเปล่าแต่สายตาซอกแซกของคนพูดยังเหลือบมองต่ำยังหน้าอกเต่งตึงสีแดงช้ำจากการถูกบีบเคล้นหนักๆของแพรชมพู ไม่ทันระวังตัวอ้อมแขนสีแทนก็ตวัดเอวบางเข้ามาชิด ซ้ำคนเสพติดความหวานยังรีวิวประกอบคำโฆษณาชวนเชื่อด้วยการก้มใบหน้าลงต่ำแล้วดูดกลืนอกอิ่มเสียงดังจ๊วบจั๊บอย่างเอร็ดอร่อยเหมือนเด็กทารกดื่มกินน้ำนมมารดา ส่วนมือหนาก็สมรู้ร่วมคิดบีบเคล้นอกอิ่มอีกข้างหวังปลุกเร้าเจ้าของนมชมพูรสหวานเพื่อเริ่มบทรักครั้งใหม่
“คนลามก!” นอกจากกล้าเถียง ความกล้าของแพรชมพูยังพัฒนาไปถึงขั้นกล้าด่าคนหื่นในบางครั้งอีกด้วย
“ยอมรับครับ”  
คนถูกว่าหาได้สะทกสะท้าน นอกจากไม่โกรธ ฟรานซิสโก้ยังยักคิ้วหน้าระรื่นพลางยิ้มรับคำครหานั้นด้วยความเต็มใจ จนคนต่อว่าอดหมั่นไส้ไม่ได้ต้องทุบมือลงบนไหล่กว้างหนักๆ แต่คงเพราะอิทธิฤทธิ์ของนมชมพูรสหวานล้ำที่กำลังดื่มกินอีกนั่นแหละที่ทำให้ฟรานซิสโก้ไม่ถือสา ยอมให้แพรชมพูทำร้ายร่างกายได้ตามชอบใจ
“นี่! หยุดเลยนะ วันนี้คุณมีนัดสรุปงานกับทีมออกแบบตอนสิบโมงเช้า เลิกหื่นแล้วรีบอาบน้ำไปทำงานได้แล้ว”
ความร้อนที่พวยพุ่งไปทั่วร่างทำให้แพรชมพูจำต้องรีบเบรกพ่อคนเอาแต่ใจก่อนที่ทุกอย่างจะเลยเถิดเหมือนบทรักสองครั้งก่อน แม้ในใจลึกๆจะโอนอ่อนตามคนหื่นกามไปแล้วเกือบครึ่งแต่เสียงของเฮ็นริคที่แอบกระซิบเมื่อวานยังก้องอยู่ในหัว  สืบเนื่องจากเดี๋ยวนี้ฟรานซิสโก้ชักเกเรเก่ง บางวันชายหนุ่มก็มัวขลุกอยู่กับเธอบนเตียงจนตะวันสายโด่งถึงจะยอมไปทำงาน บางวันขี้เกียจก็ขนของกลับบ้านเร็วก่อนเวลาเลิกงานเอาดื้อๆ ทำให้กรรมตกไปอยู่ที่เฮ็นริคที่ต้องช่วยเคลียร์งานบางส่วน แต่สำหรับประชุมกับทีมออกแบบเครื่องประดับตอนสิบโมงเช้าวันนี้มันเกินความสามารถของมือขวาคนเก่งที่จะตัดสินใจ เฮ็นริคจึงจำเป็นขอร้องให้เธอช่วยย้ำเตือนฟรานซิสโก้อีกแรง
“เมียหรือแม่ ดุชะมัด”
“ฟราน อย่าเกเรสิคะ คุณมีงานสำคัญรออยู่นะ”
เมื่อใช้ไม้แข็งไม่ได้ผล แพรชมพูจึงใช้ไม้อ่อนเข้าปราบคนตัวโตแต่เกเรเก่งไม่ต่างจากเด็กน้อยวัยห้าขวบ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความรับผิดชอบในสายเลือดหรือเพราะเสียงอ่อนๆของเธอที่ทำให้ชายหนุ่มยอมผละริมฝีปากจากอกอิ่ม แต่กระนั้นพ่อเจ้าประคุณก็ยังงอแงไม่ยอมไปอาบน้ำ ฟรานซิสโก้ยังคงกอดเอวเล็กพลางซบหน้าซุกหว่างอกของเธอแล้วบ่นงึมงำๆไม่เลิกรา ทำให้แพรชมพูต้องลูบมือบางกับแผ่นหลังกว้างเอาใจ
“ไปอาบน้ำแต่งตัวนะคะ เดี๋ยวไปประชุมไม่ทัน”
แพรชมพูกลั้นยิ้มจนแก้มตุ่ยเมื่อฟรานซิสโก้ยอมผละออกจากการกอดรัดเธอแล้วพาร่างเปล่าเปลือยด้วยมัดกล้ามตรงไปยังห้องน้ำ ท่าเดินไม่มีอะไรผิดปกติแต่ที่ทำให้เธออยากหัวเราะออกมาดังๆคือใบหน้ายับยู่ยี่ของเขาต่างหาก ฟรานซิสโก้ในความทรงจำแรกของเธอคือผู้ชายจอมโหดและป่าเถื่อน แต่ผู้ชายที่เพิ่งสะบัดหน้าใส่เธอกลับเป็นผู้ชายแสนงอนจนน่าดึงแก้มเล่นคนหนึ่ง แต่ก็คงได้แค่คิด เอาเข้าจริงเธอไม่กล้าทำตัวเหมือนคนรักหยอกกันแบบนั้นหรอก
‘ตกลงเราเป็นอะไรกัน?’
คิดมาถึงตรงนี้แพรชมพูก็ถอนหายใจยาวพลางมองประตูห้องน้ำราวกับจะมองให้ทะลุถึงหัวใจของคนตัวโตที่อยู่ข้างใน บอกตรงๆว่าเธอยังไม่มั่นใจว่าระดับความสัมพันธ์ของเขากับเธอมันอยู่ที่ตรงไหน ปากเขาเรียกเธอว่าเมียให้ได้ยินเสมอ แล้วสมองเขาคิดแบบนั้นจริงหรือมันแค่หมายถึงนางบำเรอคอยอุ่นเตียง  เขาอ่อนโยนไม่ตะคอกตวาดเสียงดังให้เธอตกใจ มันหมายความว่าเขากำลังเอาใจเธอหรือแค่เขาอารมณ์ดีเลยพลอยทำดีด้วย ที่เขาคลอเคลียเหมือนหลงใหลหนักหนาเป็นเพราะถือว่าได้เปรียบเรื่องเม็มโมรี่การ์ดเลยต้องการตักตวงผลประโยชน์ให้คุ้มหรือเพราะเป็นความรู้สึกของเขาจริงๆ คิดแล้วก็กลัวคำตอบ ไม่ใช่เพียงคำตอบของฟรานซิสโก้ แต่เป็นคำตอบที่สะท้อนจากอกข้างซ้ายของเธอด้วยที่มันช่างน่ากลัวจนต้องคอยเตือนตัวเองว่าอย่าถลำ!
“ง่วงจัง”
เรื่องที่ไม่อาจหาคำตอบได้คิดไปก็ปวดหัวเปล่าๆ แพรชมพูจึงเลิกคิดแล้วเดินไปทิ้งตัวบนเตียงนอนเมื่อจัดการให้ฟรานซิสโก้เตรียมตัวไปทำงานได้สำเร็จ เพราะความเอาแต่ใจของคนหื่นจัดส่งผลให้เธอมีเวลานอนในแต่ละคืนไม่เคยมากกว่าสี่ชั่วโมง ทำให้เธอต้องอาศัยช่วงที่เขาไปทำงานตอนกลางวันนอนหลับเอาแรง ในตอนนี้ก็เช่นกัน ดวงตาของเธอปรือปรอยจะหลับแหล่ไม่หลับแหล่ ริมฝีปากจิ้มลิ้มอ้าหาววอดๆน้ำตาคลอหน่วย ไม่ไหวแล้ว ใครจะทำอะไรก็ช่างแต่เธอจะนอน ง่วง!
“พิ้งค์ ลุกขึ้น ไปอาบน้ำแต่งตัว”
นี่ฟรานซิสโก้กำลังแก้แค้นเธอคืนหรือเปล่าหนอ พอเขาอาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยถึงเดินมาปลุกเธอไปอาบน้ำเพื่อขัดจังหวะการนอนแสนสุข แต่ในเมื่อเธอไม่ได้ไปไหน ทำไมเธอต้องรีบอาบด้วยล่ะ จะอาบเมื่อไรก็ได้นี่ จะนอนเน่าๆไปทั้งวันก็ยังได้ คิดได้ดังนั้นร่างบางจึงนอนหลับตาพริ้มพร้อมดึงหมอนมาปิดหน้า ให้คนปลุกรู้ไปเลยว่าเธอไม่อาบหรอก!
“พิ้งค์...นับหนึ่ง” ไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก
“พิ้งค์...นับสอง” ปฏิกิริยาตอบสนองเป็นศูนย์ ศูนย์ และศูนย์
“พิ้งค์...นับสาม!” เงียบกริบจนป่าช้าเหงา!
เสียงปลุกครั้งที่สามของฟรานซิสโก้เป็นจังหวะที่ชายหนุ่มผูกเนคไทเสร็จพอดี น้ำเสียงเข้มห้วนขึ้นตามภาวะอารมณ์เมื่อถูกขัดใจ ฟรานซิสโก้ยืนกัดฟันกรอดอยู่ข้างเตียงกับปฏิกิริยาหูทวนลมของแพรชมพู สองครั้งแรกยังพอทนเพราะแม้เจ้าหล่อนจะไม่หือไม่อือแต่ก็ยังนอนนิ่ง พอให้หาเหตุผลเข้าข้างได้ว่าหลับลึกจนไม่ได้ยินคำสั่ง แต่หลังจากเรียกหนที่สาม มั่นใจแล้วว่าหูของยายหน้าหวานได้ยินที่เขาพูดทุกอย่างแต่กลับตั้งใจดื้อแพ่ง เพราะแม่เจ้าประคุณเล่นกลิ้งตัวจากด้านข้างฝั่งที่เขายืนอยู่ไปอีกฟากของเตียงโดยม้วนผ้าห่มคลุมตัวไปด้วย ในตอนนี้สภาพของแพรชมพูจึงไม่ต่างจากดักแด้น้อยจอมป่วน คงคิดสินะว่าทำแบบนี้แล้วจะรอด ฝันไปเถอะ!
“ให้อาบน้ำไม่อาบ ดื้อนักก็ไปมันทั้งอย่างนี้แหละ”
“เฮ้ย! คุณจะพาฉันไปไหน วางลงนะ ฉันจะนอน ไม่ไป ไม่ไป๊ ปล่อย!”
เพราะความดื้อจึงส่งผลให้ดักแด้หน้าหวานต้องมาดิ้นกระแด่วๆอยู่บนไหล่กว้าง สองมือน้อยๆเหวี่ยงหมัด สองขาเล็กๆช่วยกันสะบัดหวังให้หลุดพ้นจากการจับกุมของคนตัวใหญ่จอมบงการ แต่ก็เป็นการต่อสู้ที่เสียแรงเปล่าเพราะมีผ้าห่มผืนหนาที่เธอใช้เป็นเกราะกำบังโง่ๆเมื่อครู่พันอยู่รอบตัวจนออกอาวุธได้ลำบาก ยิ่งพอร่างสูงแบกเธอออกมาจากห้องพัก ริมฝีปากที่ตะโกนสั่งแว๊ดๆก็หุบฉับเพราะเกรงจะเป็นการเรียกแขกออกมามุงดู ด้วยเหตุนี้จึงส่งให้ผลประโยชน์เทไปอยู่กับฟรานซิสโก้ ทำให้ชายหนุ่มสามารถแบกร่างเล็กรุงรังลงไปยัดใส่รถยนต์สีดำเงาวับที่สตาร์ทเครื่องรอหน้าคอนโดฯได้อย่างง่ายดาย
 
************************************************************************************************************

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา