เชียงใหม่ ในความทรงจำ
-
เขียนโดย SeanUeang
วันที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2561 เวลา 10.35 น.
4 ตอน
1 วิจารณ์
5,659 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 3 กันยายน พ.ศ. 2561 11.43 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) หอมกลิ่นความหลัง
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ ดอกทองกวาวสีแสดเบ่งบานอวดโฉมต้อนรับลมร้อน แข่งขันกับเอื้องผึ้งเอื้องคำเหลืองอร่าม ที่ก็เบ่งบานในช่วงเวลาเดียวกัน พวงดอกไม้เหล่านั้นโบกพลิ้วอ่อนไสวไปตามลมร้อนพัดผ่าน ราวกับกำลังฟ้อนรำต้อนรับลมสงกรานต์ได้เดินทางลอยมาถึง
ลมสงกรานต์เริ่มพัดโบกเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ อบอวลเมืองเชียงใหม่ไปจนสิ้นเดือนเมษายน เมืองเหนือเป็นเช่นนี้ทุกปี จนกลายเป็นเอกลักษณ์แห่งเมืองเหนือ ถิ่นเอื้องงาม นามว่า “เชียงใหม่” เมืองนี้เขาว่างามหนักหนา ทั้งบ้านเมือง ธรรมชาติ วัฒนธรรม และผู้คน ราชธานีแห่งอาณาจักรโบราณลานนา ดินแดนศักดิ์สิทธิ์มีมนต์ รอคอยผู้คนต่างถิ่นต่างแดนได้มาเยือน และต้องติดตรึงมนต์เสน่ห์ของเมืองแห่งนี้ไปตราบชั่วกาลนาน ไม่ว่ากี่รายได้มาสัมผัส คนผู้นั้นไม่สามารถรอดพ้นมนต์ขลังอันตราตรึงจากนครพิงค์เชียงใหม่ได้เลย
สะพานนวรัฐขนาดเขื่องใหญ่ ประกอบด้วยเหล็กหลายร้อยหลายพันชิ้นประกอบร้อยเรียงขึ้นเป็นโครงข่ายกรงขนาดยักษ์ ทอดยาวเชื่อมสองฝั่งน้ำปิงเข้าหากัน ให้ผู้คนได้สัญจรไปมาสองฟากฝั่ง เป็นสถานที่สำคัญแห่งหนึ่งของเมืองเชียงใหม่เลยก็ว่าได้ สะพานแห่งนี้รับใช้ผู้คนมาหลายปีแล้ว ตั้งแต่แรกสร้างเมื่อปีพ.ศ. ๒๔๖๖ ตั้งตระหง่านอยู่เหนือลำน้ำแม่ระมิงค์ หรือน้ำแม่ปิงอันกว้างใหญ่และใสเย็น ประดุจน้ำใจของชาวเมืองพิงค์เชียงใหม่แห่งนี้
หากมองจากหัวสะพานนวรัฐ ณ บริเวณถนนเส้นเจริญเมือง มองไปให้ไกลสุดสายตา จะเห็นภูเขาลูกหนึ่งทอดตัวยาวเป็นฉากหลังดูเข้มทะมึนอย่างน่าเกรงขาม ตัดกับสีฟ้าแจ่มแจ้งสดใส เหมือนฉากโรงละครที่เสริมให้ตัวเอกอย่างสะพานนวรัฐและเมืองเชียงใหม่ดูเด่นขึ้นมา
นั่นคือดอยสุเทพ อันเป็นสถานที่ประดิษฐานพระบรมธาตุดอยสุเทพ สีทองขององค์พระธาตุตัดกับสีเขียวของป่าไม้บนดอยและสีครามของท้องฟ้า ทำให้สามารถเห็นได้ไกลสุดสายตา พระธาตุดอยสุเทพคือศูนย์รวมศรัทธาของชาวเมืองเชียงใหม่ สถิตย์ไว้ ณ เบื้องบนสูงสุด
ขณะนี้ สะพานกรงเหล็กขนาดยักษ์ เนืองแน่นไปด้วยผู้คนนับร้อยนับพัน จนต้องปิดถนนห้ามรถสัญจรผ่าน
เหลียวมองทางใด เห็นแต่ผู้คนพร้อมใจกันใส่เสื้อหม้อห้อม ผู้หญิงนุ่งซิ่นหรือผ้าถุง ออกมาเล่นน้ำจนแน่นขนัด บ้างเดินเล่นไปตามท้องถนน รดน้ำให้กับทุกๆคนที่พบเจอ บ้างเดินชมบรรยากาศพลางสาดน้ำกันอยู่บนสะพานนวรัฐ บ้างยืนเล่นอยู่หน้าบ้านของตัวเอง บ้างขึ้นเล่นบนรถกระบะ รถบรรทุก เอาถังน้ำใส่ท้ายรถ แล้วให้รถพาขับไปเรื่อยๆ ส่วนคนใดอยากเปียกให้เต็มที่ ก็ลงไปเล่นในแม่น้ำปิง
ทั้งถนนเจริญเมือง ถนนท่าแพ ถนนเลียบแม่น้ำปิง ตลอดจนในแม่น้ำปิงและบนสะพานนวรัฐ คลาคล่ำไปด้วยผู้คนออกมาเล่นน้ำสงกรานต์ปีใหม่ ประเมินด้วยสายตา รวมกันคงไม่ต่ำกว่าสองหรือสามหมื่นคน แน่นอนว่า คงมิใช่เพียงแค่คนเชียงใหม่เท่านั้น คนจากต่างถิ่นผู้หมายใจอยากจะมาพบ มาสัมผัสกับบรรยากาศสงกรานต์เชียงใหม่สักครั้ง ก็มีจำนวนไม่น้อยเช่นกัน
แต่ในความแออัดของผู้คนที่ออกมาเล่นน้ำ จะสัมผัสได้ถึงความสุข ได้มารื่นเริงสุขสันต์ร่วมกับเพื่อน กับครอบครัว กับคนรัก ผ่อนคลายกับสายน้ำยามสงกรานต์ปีใหม่ เพราะนี่อาจเป็นช่วงเวลาเดียวในรอบปี ที่คนในครอบครัวจะได้กลับมาพร้อมหน้าพร้อมตากัน หลังจากแยกย้ายกันไปทำงาน ปฏิบัติหน้าที่ของตนเอง คู่หนุ่มสาวคู่ใดกำลังคบหาดูใจกันอยู่ ก็ถือโอกาสนี้ออกมาเล่นน้ำ พากันไปทำบุญ สร้างความสัมพันธ์แก่กันและกัน
สงกรานต์เชียงใหม่ เป็นสิ่งน่าหลงใหล ชวนใฝ่ฝัน ดึงดูดให้คนจากต่างถิ่นเข้ามา“แอ่ว” มาเยี่ยมเยือนเชียงใหม่เสมอ ในช่วงสงกรานต์นี้ เชียงใหม่จึงดูคึกคัก มีสีสัน และเนืองแน่นไปด้วยผู้คน
“มาแล้วๆ” เสียงคนผู้มารอสรงน้ำพระพุทธรูปสำคัญ เห็นขบวนแห่กำลังเคลื่อนออกจากเมืองเชียงใหม่ มายังพุทธสถาน ซึ่งตั้งอยู่ ณ บริเวณเชิงสะพานนวรัฐฝั่งตะวันตก
เสียงกลองร้องกระหึ่มพร้อมเพรียงดังแว่วมาแต่ไกล เหล่าพ่อเฒ่าพ่อหนานต่างประโคมดนตรีอันศักดิ์สิทธิ์นี้นำหน้าบวนพระพุทธรูปเสตังคมณี และพระพุทธสิหิงค์ พระพุทธรูปสำคัญประจำเมืองเชียงใหม่มาตั้งแต่โบราณกาล
พระพุทธรูปสำคัญประดิษฐานอยู่เหนือราชรถขนาดใหญ่สีทองอร่ามดูอลังการ สามารถเห็นได้แต่ไกล ติดตามมาด้วยเครื่องสูง เสวตฉัตร และเครื่องศาสตราวุธ ให้ดูเสมือนว่า พระปฏิมาฯองค์นั้นคือพระสัมมาพุทธเจ้าครั้งยังมีพระชนม์ชีพอยู่จริงๆ นั่นเป็นเพราะชาวลานนาเชียงใหม่มีความเชื่อว่า พระพุทธเจ้าคือกษัตริย์ การจะกระทำการอันใดซึ่งเกี่ยวกับพระพุทธรูป ก็ต้องกระทำเช่นเดียวกับกษัตริย์เช่นนั้น แม้ว่าเมืองเชียงใหม่จะไม่มีกษัตริย์หรือเจ้าหลวงปกครองแล้วก็ตาม
กลิ่นน้ำขมิ้นส้มป่อยประสมน้ำอบ ซึ่งผู้คนมากมายตระเตรียมมาสรงน้ำพระพุทธรูป ลอยหอมฟุ้งอบอวลไปทั่วบริเวณ เปลี่ยนบรรยากาศของเมืองเชียงใหม่จากบนพื้นพิภพให้กลายเป็นสวรรค์ สวรรค์แห่งเมืองเหนือลานนาไทย
เสียงปี่พื้นเมืองประโคมดังขึ้นอึกทึก เข้าจังหวะวงกลองที่ประกอบไปด้วยกลอง ฆ้อง ฉาบ บรรเลงเพลงให้จังหวะกับหมู่ช่างฟ้อนนั้นร่ายรำยุรยาทเยื่องย้ายอย่างอรชรไปตามจังหวะเพลง พวกเธอเหมือนนางฟ้ารำฟ้อนลงมาจากสวรรค์
ทุกสายตาจับจ้องเหล่าช่างฟ้อนคนงามกำลังรำฟ้อนนำขบวนพระพุทธรูป พวกเธอเป็นเทพีแสนงาม เทพีแห่งเมืองเหนือ เทพีแห่งสงกรานต์เชียงใหม่ ความงามของเหล่าช่างฟ้อนสะกดทุกสายตาให้จับจ้องราวกับต้องมนต์อันสำแดงออกมาผ่านท่วงท่าฟ้อนรำ
เล็บปลอมประดิษฐ์จากทองเหลืองยาวเพียงคืบนั้นกรีดกราย เสื้อผ้าไหมแขนกระบอกสีไข่มุก ห่มสไบผ้าแพรอัดจีบสีชมพู ดูแวววาวยามต้องแสงอาทิตย์งามจับตา นุ่งซิ่นลายขวางแบบฉบับเมืองเหนือ ต่อเชิงตีนผ้าซิ่นด้วยลวดลายอันวิจิตร เปี่ยมด้วยฝีมือเชิงช่างเลอล้ำค่า เกล้าผมมวย ทัดเอื้องคำ เธอช่างเชิดฉาย สง่างาม สาวเมืองเชียงใหม่นี้คงงามยิ่งสาวถิ่นอื่นใดในโลกหล้า ใบหน้าของเธอเอิบอิ่ม ดูมีความสุขยิ่ง แววตาสดใส และส่งรอยยิ้มส่งให้ทุกๆคน รอยยิ้มนั้นเป็นมิตร รอยยิ้มแสนพิมพ์ใจ และจะฝังลึกลงไปในหัวใจของผู้ชมทุกๆคน ใครมีกล้องถ่ายภาพ เป็นต้องยกกล้องขึ้นมาลั่นชัตเตอร์
กล้องถ่ายรูปไม่ใช่ของที่ใครจะมีในครอบครองง่ายๆ นับว่าเป็นของมีราคา หรือจะว่ามันเป็นของใช้สำหรับคนมีฐานะดีเลยก็ว่าได้ กล้องคุณภาพดีๆสักตัวหนึ่งราคาหลักหมื่นถึงหลักแสน อาจจะมีราคาสูงกว่ารถมอเตอร์ไซด์ รถยนต์ หรือทองรูปพรรณด้วยซ้ำไป ฟิล์มถ่ายรูปแต่ละม้วนก็มีค่าใช้จ่ายทั้งค่าฟิล์ม ค่าล้าง ค่าอัด ใครที่ถูกถ่ายภาพแบบไม่เสียเงินในช่วงสงกรานต์นี้ ถือว่าเป็นเรื่องที่โชคดีเอาเสียจริงๆ
ช่างฟ้อนเหล่าฟ้อนรำเยื่องย้ายเข้าสู่พุทธสถาน แล้วจึงตามมาด้วยขบวนแห่พระพุทธรูปสำคัญ บรรยากาศในห้วงเวลานั้นเต็มไปด้วยความสุข ความปีติ ความหอมอบอวลของมนต์เสน่ห์ และกลิ่นไอแห่งปีใหม่เมืองเชียงใหม่
**********
เรื่องราววันนั้น ล่วงผ่านเกือบ ๑๙ ปีผ่านมา
อีกเดือนกว่าๆ ลมสงกรานต์จะมาเยือน ครบรอบ ๑๙ ปี
“พ่อ!” เสียงเรียกดังจากหน้าบ้านพร้อมกับร่างของสาวน้อยในชุดนักเรียนม.ปลาย วิ่งปรี่เข้ามาหาพ่อของเธออย่างดีอกดีใจ
พ่อของเธอนั่งดีดไวโอลินเบาๆ คลอไปกับเสียงเพลงจากแผ่นครั่งเว้าวอนอยู่ในห้องนั่งเล่น ผนังรอบห้องเต็มไปด้วยรูปถ่าย โดยเฉพาะภาพถ่ายเก่าๆ ณ เมืองเชียงใหม่ อารมณ์ของผู้พ่อเต็มไปด้วยสุนทรียะ ชอบถ่ายรูป บ้ากล้อง ท่องเที่ยว และเป็นนักกวีมาตั้งสมัยยังเป็นหนุ่ม แม้ว่าทั้งชีวิตต้องประสบพบแต่ความอาภัพรัก ตราบถึงปัจจุบันก็เป็นพ่อหม้าย แต่ความเป็นศิลปินในตัวเขาไม่เคยจางหายไป เช่นเดียวกับความทรงจำของเขา
“หนูเอ็นทรานซ์ติดมหาลัยเชียงใหม่แล้วนะ” เมื่อไม่มีเสียงตอบรับจากผู้เป็นพ่อ เธอจึงส่งเสียงไปอีกรอบ
“มหาวิทยาลัยเชียงใหม่” ลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนสอบติดมหาวิทยาลัยมีชื่อแห่งลุ่มน้ำระมิงค์ คำว่าเชียงใหม่ สะกิดใจของชายวัยสี่สิบปลาย กระตุ้นให้ภาพวันเก่าๆ ย้อนกลับมาอย่างพรั่งพรู หยุดเล่นไวโอลินแล้ววางมันลงบนโต๊ะทำงาน เหม่อมองรูปถ่ายบนข้างฝาที่เขาเป็นคนถ่าย และนำมาแขวนไว้เรียงรายเต็มฝาผนังรอบห้องให้เป็นวังวนแห่งความหลัง
ความหลังอันแสนสุขใจ ยากนักจะลืมเลือน
ลูกสาวมาถึงตัวพ่อบนเก้าอี้นวมก็โผเข้ากอดอย่างแน่น
“หนูจะไปเรียนที่เชียงใหม่แล้วนะคะ หนูจะไปตามรอยพ่อที่เชียงใหม่”
“สุดยอดไปเลยลูกพ่อ” ชื่นชมในความสามารถของตัวลูก แม้จะมิใช่ลูกในสายเลือดก็ตาม
“พ่อพาหนูเที่ยวเชียงใหม่ด้วย”
“พ่อไม่ได้ไปเชียงใหม่มาสิบปีแล้วนะ เชียงใหม่คงเปลี่ยนไปมาก และพ่อคงจำอะไรไม่ได้มากนัก”
“แหม... พ่อ... มันต้องมีที่จำได้บ้างแหละ ตอนหนูเป็นเด็กพ่อเล่าเรื่องเก่าๆที่เชียงใหม่ได้สนุกกว่าเรื่องที่พ่อไปสงครามเกาหลีกับเวียดนามเสียอีก”
ลูกสาวรบเร้า ดูเหมือนว่าการได้ขึ้นไปเชียงใหม่ของเธอเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นและแปลกใหม่
“แต่เรื่องเล่านั้นมันเป็นเชียงใหม่เมื่อสิบกว่าปีก่อนเลยนะลูก” แต่ไม่ใช่สำหรับชายผู้พ่อ พ่อโอบกอดลูกเหมือนที่ลูกโอบกอดตน แต่สายตาของผู้เป็นพ่อจดจ่อ จ้องไปยังภาพถ่ายในกรอบทองห้อยแขวนไว้ข้างฝาดูหรูหรา เป็นภาพของสาวช่างฟ้อนคนหนึ่งกำลังรำฟ้อนอย่างงดงาม ท่ามกลางบรรยากาศของสงกรานต์เชียงใหม่ นั่นคือสาวเมืองเหนือผู้เหนี่ยวรั้งหัวใจของเขาเอาไว้ ณ แผ่นดินเชียงใหม่
ปีนี้ พ.ศ.๒๕๑๗ ผ่านมาเกือบ ๑๙ ปีแล้ว สำหรับรูปถ่ายใบนั้น ๑๙ ปีแสนยาวนาน แม้เรื่องราวในวันนั้นจะล่วงเลยมาหลายปี แต่วันเวลาไม่อาจลบเลือนเรื่องราวอันหวานซึ้งไปจากความทรงจำของเขาได้เลย กลิ่นรักความหลังยังคงหอมหวน อบอวลไปด้วยรักฝังใจ ภาพรักความหลังจะมั่นคงในใจดวงนี้เรื่อยไป
“หลายปีล่วงเลยแล้ว คิดถึงน้องแก้ว สาวงามทรามสงวน
กลิ่นความหลังยังหอมอวล ภาพนวลเจ้ารำฟ้อน ภาพของน้อง ยังคงงดงามเสมอ”
เรื่องราววันวาน จำติดตรึงใจ
ยังสนุกสนาน เมื่อได้พูดถึงอีกครั้ง
ยังสวยงาม ทุกชั่วยามคิดถึง
ภาพจำความหลัง จะงดงามเช่นนี้เสมอ
กลิ่นหอมของวันวาน จะหอมหวนอบอวลเรื่อยไป ตราบลมหาใจยังมี
แม้ในวันนี้ เชียงใหม่และสายน้ำระมิงค์เปลี่ยนไป มิเป็นเช่นวันเก่า
แต่เรื่องราวที่ผ่านมา ยังมั่นคงงดงาม “ในหัวใจ” และ “ในความทรงจำ”
“เชียงใหม่ ในความทรงจำ”
**********
คำแปล คำเฉพาะภาษาเหนือ
พ่อหนาน – ชายที่เคยบวชเป็นพระ ถ้าเคยบวชเป็นเณรจะเรียกว่า “พ่อน้อย”
ส้มป่อย – ผลของต้นไม้ชนิดหนึ่ง ชาวเหนือเชื่อว่าเป็นของมงคลตามธรรมชาติ มักนำมาใส่น้ำทำเป็นน้ำมนต์ล้างอาถรรพ์
ลมสงกรานต์เริ่มพัดโบกเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ อบอวลเมืองเชียงใหม่ไปจนสิ้นเดือนเมษายน เมืองเหนือเป็นเช่นนี้ทุกปี จนกลายเป็นเอกลักษณ์แห่งเมืองเหนือ ถิ่นเอื้องงาม นามว่า “เชียงใหม่” เมืองนี้เขาว่างามหนักหนา ทั้งบ้านเมือง ธรรมชาติ วัฒนธรรม และผู้คน ราชธานีแห่งอาณาจักรโบราณลานนา ดินแดนศักดิ์สิทธิ์มีมนต์ รอคอยผู้คนต่างถิ่นต่างแดนได้มาเยือน และต้องติดตรึงมนต์เสน่ห์ของเมืองแห่งนี้ไปตราบชั่วกาลนาน ไม่ว่ากี่รายได้มาสัมผัส คนผู้นั้นไม่สามารถรอดพ้นมนต์ขลังอันตราตรึงจากนครพิงค์เชียงใหม่ได้เลย
สะพานนวรัฐขนาดเขื่องใหญ่ ประกอบด้วยเหล็กหลายร้อยหลายพันชิ้นประกอบร้อยเรียงขึ้นเป็นโครงข่ายกรงขนาดยักษ์ ทอดยาวเชื่อมสองฝั่งน้ำปิงเข้าหากัน ให้ผู้คนได้สัญจรไปมาสองฟากฝั่ง เป็นสถานที่สำคัญแห่งหนึ่งของเมืองเชียงใหม่เลยก็ว่าได้ สะพานแห่งนี้รับใช้ผู้คนมาหลายปีแล้ว ตั้งแต่แรกสร้างเมื่อปีพ.ศ. ๒๔๖๖ ตั้งตระหง่านอยู่เหนือลำน้ำแม่ระมิงค์ หรือน้ำแม่ปิงอันกว้างใหญ่และใสเย็น ประดุจน้ำใจของชาวเมืองพิงค์เชียงใหม่แห่งนี้
หากมองจากหัวสะพานนวรัฐ ณ บริเวณถนนเส้นเจริญเมือง มองไปให้ไกลสุดสายตา จะเห็นภูเขาลูกหนึ่งทอดตัวยาวเป็นฉากหลังดูเข้มทะมึนอย่างน่าเกรงขาม ตัดกับสีฟ้าแจ่มแจ้งสดใส เหมือนฉากโรงละครที่เสริมให้ตัวเอกอย่างสะพานนวรัฐและเมืองเชียงใหม่ดูเด่นขึ้นมา
นั่นคือดอยสุเทพ อันเป็นสถานที่ประดิษฐานพระบรมธาตุดอยสุเทพ สีทองขององค์พระธาตุตัดกับสีเขียวของป่าไม้บนดอยและสีครามของท้องฟ้า ทำให้สามารถเห็นได้ไกลสุดสายตา พระธาตุดอยสุเทพคือศูนย์รวมศรัทธาของชาวเมืองเชียงใหม่ สถิตย์ไว้ ณ เบื้องบนสูงสุด
ขณะนี้ สะพานกรงเหล็กขนาดยักษ์ เนืองแน่นไปด้วยผู้คนนับร้อยนับพัน จนต้องปิดถนนห้ามรถสัญจรผ่าน
เหลียวมองทางใด เห็นแต่ผู้คนพร้อมใจกันใส่เสื้อหม้อห้อม ผู้หญิงนุ่งซิ่นหรือผ้าถุง ออกมาเล่นน้ำจนแน่นขนัด บ้างเดินเล่นไปตามท้องถนน รดน้ำให้กับทุกๆคนที่พบเจอ บ้างเดินชมบรรยากาศพลางสาดน้ำกันอยู่บนสะพานนวรัฐ บ้างยืนเล่นอยู่หน้าบ้านของตัวเอง บ้างขึ้นเล่นบนรถกระบะ รถบรรทุก เอาถังน้ำใส่ท้ายรถ แล้วให้รถพาขับไปเรื่อยๆ ส่วนคนใดอยากเปียกให้เต็มที่ ก็ลงไปเล่นในแม่น้ำปิง
ทั้งถนนเจริญเมือง ถนนท่าแพ ถนนเลียบแม่น้ำปิง ตลอดจนในแม่น้ำปิงและบนสะพานนวรัฐ คลาคล่ำไปด้วยผู้คนออกมาเล่นน้ำสงกรานต์ปีใหม่ ประเมินด้วยสายตา รวมกันคงไม่ต่ำกว่าสองหรือสามหมื่นคน แน่นอนว่า คงมิใช่เพียงแค่คนเชียงใหม่เท่านั้น คนจากต่างถิ่นผู้หมายใจอยากจะมาพบ มาสัมผัสกับบรรยากาศสงกรานต์เชียงใหม่สักครั้ง ก็มีจำนวนไม่น้อยเช่นกัน
แต่ในความแออัดของผู้คนที่ออกมาเล่นน้ำ จะสัมผัสได้ถึงความสุข ได้มารื่นเริงสุขสันต์ร่วมกับเพื่อน กับครอบครัว กับคนรัก ผ่อนคลายกับสายน้ำยามสงกรานต์ปีใหม่ เพราะนี่อาจเป็นช่วงเวลาเดียวในรอบปี ที่คนในครอบครัวจะได้กลับมาพร้อมหน้าพร้อมตากัน หลังจากแยกย้ายกันไปทำงาน ปฏิบัติหน้าที่ของตนเอง คู่หนุ่มสาวคู่ใดกำลังคบหาดูใจกันอยู่ ก็ถือโอกาสนี้ออกมาเล่นน้ำ พากันไปทำบุญ สร้างความสัมพันธ์แก่กันและกัน
สงกรานต์เชียงใหม่ เป็นสิ่งน่าหลงใหล ชวนใฝ่ฝัน ดึงดูดให้คนจากต่างถิ่นเข้ามา“แอ่ว” มาเยี่ยมเยือนเชียงใหม่เสมอ ในช่วงสงกรานต์นี้ เชียงใหม่จึงดูคึกคัก มีสีสัน และเนืองแน่นไปด้วยผู้คน
“มาแล้วๆ” เสียงคนผู้มารอสรงน้ำพระพุทธรูปสำคัญ เห็นขบวนแห่กำลังเคลื่อนออกจากเมืองเชียงใหม่ มายังพุทธสถาน ซึ่งตั้งอยู่ ณ บริเวณเชิงสะพานนวรัฐฝั่งตะวันตก
เสียงกลองร้องกระหึ่มพร้อมเพรียงดังแว่วมาแต่ไกล เหล่าพ่อเฒ่าพ่อหนานต่างประโคมดนตรีอันศักดิ์สิทธิ์นี้นำหน้าบวนพระพุทธรูปเสตังคมณี และพระพุทธสิหิงค์ พระพุทธรูปสำคัญประจำเมืองเชียงใหม่มาตั้งแต่โบราณกาล
พระพุทธรูปสำคัญประดิษฐานอยู่เหนือราชรถขนาดใหญ่สีทองอร่ามดูอลังการ สามารถเห็นได้แต่ไกล ติดตามมาด้วยเครื่องสูง เสวตฉัตร และเครื่องศาสตราวุธ ให้ดูเสมือนว่า พระปฏิมาฯองค์นั้นคือพระสัมมาพุทธเจ้าครั้งยังมีพระชนม์ชีพอยู่จริงๆ นั่นเป็นเพราะชาวลานนาเชียงใหม่มีความเชื่อว่า พระพุทธเจ้าคือกษัตริย์ การจะกระทำการอันใดซึ่งเกี่ยวกับพระพุทธรูป ก็ต้องกระทำเช่นเดียวกับกษัตริย์เช่นนั้น แม้ว่าเมืองเชียงใหม่จะไม่มีกษัตริย์หรือเจ้าหลวงปกครองแล้วก็ตาม
กลิ่นน้ำขมิ้นส้มป่อยประสมน้ำอบ ซึ่งผู้คนมากมายตระเตรียมมาสรงน้ำพระพุทธรูป ลอยหอมฟุ้งอบอวลไปทั่วบริเวณ เปลี่ยนบรรยากาศของเมืองเชียงใหม่จากบนพื้นพิภพให้กลายเป็นสวรรค์ สวรรค์แห่งเมืองเหนือลานนาไทย
เสียงปี่พื้นเมืองประโคมดังขึ้นอึกทึก เข้าจังหวะวงกลองที่ประกอบไปด้วยกลอง ฆ้อง ฉาบ บรรเลงเพลงให้จังหวะกับหมู่ช่างฟ้อนนั้นร่ายรำยุรยาทเยื่องย้ายอย่างอรชรไปตามจังหวะเพลง พวกเธอเหมือนนางฟ้ารำฟ้อนลงมาจากสวรรค์
ทุกสายตาจับจ้องเหล่าช่างฟ้อนคนงามกำลังรำฟ้อนนำขบวนพระพุทธรูป พวกเธอเป็นเทพีแสนงาม เทพีแห่งเมืองเหนือ เทพีแห่งสงกรานต์เชียงใหม่ ความงามของเหล่าช่างฟ้อนสะกดทุกสายตาให้จับจ้องราวกับต้องมนต์อันสำแดงออกมาผ่านท่วงท่าฟ้อนรำ
เล็บปลอมประดิษฐ์จากทองเหลืองยาวเพียงคืบนั้นกรีดกราย เสื้อผ้าไหมแขนกระบอกสีไข่มุก ห่มสไบผ้าแพรอัดจีบสีชมพู ดูแวววาวยามต้องแสงอาทิตย์งามจับตา นุ่งซิ่นลายขวางแบบฉบับเมืองเหนือ ต่อเชิงตีนผ้าซิ่นด้วยลวดลายอันวิจิตร เปี่ยมด้วยฝีมือเชิงช่างเลอล้ำค่า เกล้าผมมวย ทัดเอื้องคำ เธอช่างเชิดฉาย สง่างาม สาวเมืองเชียงใหม่นี้คงงามยิ่งสาวถิ่นอื่นใดในโลกหล้า ใบหน้าของเธอเอิบอิ่ม ดูมีความสุขยิ่ง แววตาสดใส และส่งรอยยิ้มส่งให้ทุกๆคน รอยยิ้มนั้นเป็นมิตร รอยยิ้มแสนพิมพ์ใจ และจะฝังลึกลงไปในหัวใจของผู้ชมทุกๆคน ใครมีกล้องถ่ายภาพ เป็นต้องยกกล้องขึ้นมาลั่นชัตเตอร์
กล้องถ่ายรูปไม่ใช่ของที่ใครจะมีในครอบครองง่ายๆ นับว่าเป็นของมีราคา หรือจะว่ามันเป็นของใช้สำหรับคนมีฐานะดีเลยก็ว่าได้ กล้องคุณภาพดีๆสักตัวหนึ่งราคาหลักหมื่นถึงหลักแสน อาจจะมีราคาสูงกว่ารถมอเตอร์ไซด์ รถยนต์ หรือทองรูปพรรณด้วยซ้ำไป ฟิล์มถ่ายรูปแต่ละม้วนก็มีค่าใช้จ่ายทั้งค่าฟิล์ม ค่าล้าง ค่าอัด ใครที่ถูกถ่ายภาพแบบไม่เสียเงินในช่วงสงกรานต์นี้ ถือว่าเป็นเรื่องที่โชคดีเอาเสียจริงๆ
ช่างฟ้อนเหล่าฟ้อนรำเยื่องย้ายเข้าสู่พุทธสถาน แล้วจึงตามมาด้วยขบวนแห่พระพุทธรูปสำคัญ บรรยากาศในห้วงเวลานั้นเต็มไปด้วยความสุข ความปีติ ความหอมอบอวลของมนต์เสน่ห์ และกลิ่นไอแห่งปีใหม่เมืองเชียงใหม่
**********
เรื่องราววันนั้น ล่วงผ่านเกือบ ๑๙ ปีผ่านมา
อีกเดือนกว่าๆ ลมสงกรานต์จะมาเยือน ครบรอบ ๑๙ ปี
“พ่อ!” เสียงเรียกดังจากหน้าบ้านพร้อมกับร่างของสาวน้อยในชุดนักเรียนม.ปลาย วิ่งปรี่เข้ามาหาพ่อของเธออย่างดีอกดีใจ
พ่อของเธอนั่งดีดไวโอลินเบาๆ คลอไปกับเสียงเพลงจากแผ่นครั่งเว้าวอนอยู่ในห้องนั่งเล่น ผนังรอบห้องเต็มไปด้วยรูปถ่าย โดยเฉพาะภาพถ่ายเก่าๆ ณ เมืองเชียงใหม่ อารมณ์ของผู้พ่อเต็มไปด้วยสุนทรียะ ชอบถ่ายรูป บ้ากล้อง ท่องเที่ยว และเป็นนักกวีมาตั้งสมัยยังเป็นหนุ่ม แม้ว่าทั้งชีวิตต้องประสบพบแต่ความอาภัพรัก ตราบถึงปัจจุบันก็เป็นพ่อหม้าย แต่ความเป็นศิลปินในตัวเขาไม่เคยจางหายไป เช่นเดียวกับความทรงจำของเขา
“หนูเอ็นทรานซ์ติดมหาลัยเชียงใหม่แล้วนะ” เมื่อไม่มีเสียงตอบรับจากผู้เป็นพ่อ เธอจึงส่งเสียงไปอีกรอบ
“มหาวิทยาลัยเชียงใหม่” ลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนสอบติดมหาวิทยาลัยมีชื่อแห่งลุ่มน้ำระมิงค์ คำว่าเชียงใหม่ สะกิดใจของชายวัยสี่สิบปลาย กระตุ้นให้ภาพวันเก่าๆ ย้อนกลับมาอย่างพรั่งพรู หยุดเล่นไวโอลินแล้ววางมันลงบนโต๊ะทำงาน เหม่อมองรูปถ่ายบนข้างฝาที่เขาเป็นคนถ่าย และนำมาแขวนไว้เรียงรายเต็มฝาผนังรอบห้องให้เป็นวังวนแห่งความหลัง
ความหลังอันแสนสุขใจ ยากนักจะลืมเลือน
ลูกสาวมาถึงตัวพ่อบนเก้าอี้นวมก็โผเข้ากอดอย่างแน่น
“หนูจะไปเรียนที่เชียงใหม่แล้วนะคะ หนูจะไปตามรอยพ่อที่เชียงใหม่”
“สุดยอดไปเลยลูกพ่อ” ชื่นชมในความสามารถของตัวลูก แม้จะมิใช่ลูกในสายเลือดก็ตาม
“พ่อพาหนูเที่ยวเชียงใหม่ด้วย”
“พ่อไม่ได้ไปเชียงใหม่มาสิบปีแล้วนะ เชียงใหม่คงเปลี่ยนไปมาก และพ่อคงจำอะไรไม่ได้มากนัก”
“แหม... พ่อ... มันต้องมีที่จำได้บ้างแหละ ตอนหนูเป็นเด็กพ่อเล่าเรื่องเก่าๆที่เชียงใหม่ได้สนุกกว่าเรื่องที่พ่อไปสงครามเกาหลีกับเวียดนามเสียอีก”
ลูกสาวรบเร้า ดูเหมือนว่าการได้ขึ้นไปเชียงใหม่ของเธอเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นและแปลกใหม่
“แต่เรื่องเล่านั้นมันเป็นเชียงใหม่เมื่อสิบกว่าปีก่อนเลยนะลูก” แต่ไม่ใช่สำหรับชายผู้พ่อ พ่อโอบกอดลูกเหมือนที่ลูกโอบกอดตน แต่สายตาของผู้เป็นพ่อจดจ่อ จ้องไปยังภาพถ่ายในกรอบทองห้อยแขวนไว้ข้างฝาดูหรูหรา เป็นภาพของสาวช่างฟ้อนคนหนึ่งกำลังรำฟ้อนอย่างงดงาม ท่ามกลางบรรยากาศของสงกรานต์เชียงใหม่ นั่นคือสาวเมืองเหนือผู้เหนี่ยวรั้งหัวใจของเขาเอาไว้ ณ แผ่นดินเชียงใหม่
ปีนี้ พ.ศ.๒๕๑๗ ผ่านมาเกือบ ๑๙ ปีแล้ว สำหรับรูปถ่ายใบนั้น ๑๙ ปีแสนยาวนาน แม้เรื่องราวในวันนั้นจะล่วงเลยมาหลายปี แต่วันเวลาไม่อาจลบเลือนเรื่องราวอันหวานซึ้งไปจากความทรงจำของเขาได้เลย กลิ่นรักความหลังยังคงหอมหวน อบอวลไปด้วยรักฝังใจ ภาพรักความหลังจะมั่นคงในใจดวงนี้เรื่อยไป
“หลายปีล่วงเลยแล้ว คิดถึงน้องแก้ว สาวงามทรามสงวน
กลิ่นความหลังยังหอมอวล ภาพนวลเจ้ารำฟ้อน ภาพของน้อง ยังคงงดงามเสมอ”
เรื่องราววันวาน จำติดตรึงใจ
ยังสนุกสนาน เมื่อได้พูดถึงอีกครั้ง
ยังสวยงาม ทุกชั่วยามคิดถึง
ภาพจำความหลัง จะงดงามเช่นนี้เสมอ
กลิ่นหอมของวันวาน จะหอมหวนอบอวลเรื่อยไป ตราบลมหาใจยังมี
แม้ในวันนี้ เชียงใหม่และสายน้ำระมิงค์เปลี่ยนไป มิเป็นเช่นวันเก่า
แต่เรื่องราวที่ผ่านมา ยังมั่นคงงดงาม “ในหัวใจ” และ “ในความทรงจำ”
“เชียงใหม่ ในความทรงจำ”
**********
คำแปล คำเฉพาะภาษาเหนือ
พ่อหนาน – ชายที่เคยบวชเป็นพระ ถ้าเคยบวชเป็นเณรจะเรียกว่า “พ่อน้อย”
ส้มป่อย – ผลของต้นไม้ชนิดหนึ่ง ชาวเหนือเชื่อว่าเป็นของมงคลตามธรรมชาติ มักนำมาใส่น้ำทำเป็นน้ำมนต์ล้างอาถรรพ์
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ