Wish you were here : อยู่กับผมนะที่รัก
-
เขียนโดย chivaru
วันที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2561 เวลา 07.50 น.
21 ตอน
3 วิจารณ์
19.60K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2561 11.14 น. โดย เจ้าของนิยาย
20) เหตุผลที่ 20 ทวงคืน
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเหตุผลที่ 20 ทวงคืน
= 2 สัปดาห์ต่อมา =
การมองเห็นของผมลดลงแต่ไม่มากเท่าไหร่นัก ตาขวายังคงใช้งานได้ดี ส่วนตาซ้ายเป็นของตาลซึ่งมันบอดจริงๆ ไม่มีแม้แต่แสงเล็ดลอดเข้ามาได้ อาจจะเป็นอุปสรรคในการใช้ชีวิต แต่มันคือครูที่ดีในการสอนว่าชีวิตไม่ควรประมาท
กำหนดเปิดผ้าพันแผลของลูกตาลคือวันนี้ วันที่ผมรอคอยให้ตาลมองเห็นอีกครั้ง
ร่างบางขาวซีดนั่งห้อยขาอยู่ปลายบนเตียง มือบางเรียกหาผมอย่างต้องการที่พึ่งพิง ผมกระชับมือหนาบีบคลายเบาบางให้รู้ว่าผมอยู่ตรงนี้เสมอ
“พร้อมนะตัวเล็ก หายใจเข้าลึกๆ” พี่หมอค่อยๆ ปลดผ้าพันแผลที่วนรอบศีรษะปิดดวงตาทั้งสองข้างออกอย่างเบามือ ผ้าใยตาข่ายร่วงลงพื้นช้าๆ จนหมดม้วนที่พันไว้ สำรีแผ่นหนาถูกปลดลงตามมา เผยให้เห็นใบหน้าเต็มๆ
“ค่อยๆ ลืมตานะตัวเล็ก” พี่หมอบอก พร้อมยกไฟฉายกระบอกเล็กขึ้นส่องเข้าไปตรวจเช็กความเรียบร้อยรอบดวงตา
“คือ...มันเบลอค่ะ”
“ใจเย็นนะ ตาจะค่อยๆ ปรับสภาพ ลองหลับตาสัก 10 วิ ลืมตาแล้วมองไปรอบๆ ช้าๆ นะ” เป็นน้ำเสียงที่อ่อนโยนที่สุดเท่าที่ผมเคยได้ยินจากปากพี่หมอเลย
“ค่ะ....” ตาลตอบรับเสียงสั่น
เป็น 10 วิที่ลุ้นระทึกพอสมควร ตาลลืมตาขึ้นอีกครั้งมองไปรอบๆ ห้องตาค่อยๆปรับโฟกัส ภาพค่อยๆ ชัดขึ้นจนมาหยุดอยู่ที่ผม
“ทะ เทียน...” น้ำตาเม็ดใสไหลอาบแก้มตาลอย่างไม่มีที่มา มือบางสั่นเทาลูบไล้ที่แก้มถึงรอบดวงตาด้านซ้ายของผม
“เทียนขอโทษที่ไม่ได้ เทียนรักตาลนะครับคนดี” ผมใช้มือหนาปาดน้ำตาให้ตาลเบาบาง ขอโทษกับสิ่งที่ทำลงไปโดยไม่บอก แต่ผมทำไปเพราะผมรักเธอมากจริงๆ เธอคือคนเดียวผมต้องการ ผมไม่เคยสามารถเอาใครมาเข้าในชีวิตไม่ว่าจะเป็นการแทนที่ หรือเป็นตัวจริงคนต่อไป ผมทำไม่ได้
“พักผ่อนอีกสักสองวันนะ ค่อยออกจากโรงพยาบาล ส่วนโรคหัวใจ ยังรักษาได้ตามอาการนะตัวเล็ก ไม่ต้องคิดมาก” พี่หมอเข้ามากอดตาลอย่างดีใจที่เห็นน้องสาวสามารถมองเห็นได้อีกครั้ง
“พี่หมอขอบคุณที่ดูแลตาลมาตลอด ขอบคุณที่พี่เป็นพี่ชายตาล” ตาลกอดตอบพี่หมอ เราสามคนพากันร้องไห้ระงมเหมือนเด็กๆ
“กูฝากตัวเล็กด้วย ขอบใจมึงมากทั้งหมดที่มึงทำ กูเข้าใจแล้วว่ามึงรักตัวเล็กมากแค่ไหน” มือบางปาดน้ำตาให้พี่ชายอย่างอ่อนโยน พี่หมอส่งยิ้มกว้าง ตบบ่าผมเบาๆ สองครั้งแล้วเดินออกไปจากห้องทันที
“ตาลพักผ่อนเถอะนะครับ เทียนนะอยู่ข้างๆ นี้เอง” ผมลูบสางเส้นผมสีดำสนิทของตาลอย่างปลอบประโลม
“ค่ะ....” ตาลนั่งจ้องหน้าผมอยู่พักใหญ่ ถึงค่อยๆทิ้งตัวลงนอนอีกครั้ง
..................................................
= 1 เดือนผ่านไป =
» ลูกตาล «
ฉันออกจากโรงพยาบาลมาได้พักหนึ่งแล้ว ทุกๆ อย่างเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น ฉันมองเห็นใบหน้าทุกคนเหมือนเดิม ถึงแม้จะมองเห็นด้วยตาแค่ข้างเดียว แต่ตาข้างนี้คือชีวิตใหม่ของฉัน ที่คนรักของฉันมอบให้ ฉันไม่คิดว่า ใครคนหนึ่งที่ไม่ใช่ครอบครัว ไม่ใช่ญาติพี่น้อง เขาเคยเป็นคนอื่น เคยเป็นแค่คนบ้านตรงข้าม เคยเป็นแค่คนที่ฉันแอบรัก แต่วันนี้เขาเป็นดั่งครึ่งชีวิตที่ฉันไม่เคยคิดว่าจะมีใครมอบมันให้กับคนไม่สมประกอบแบบฉัน
ชุดเดรสเปิดไหล่สีขาวยาวเหนือเข่า รองเท้าส้นสูงหัวแหลมสีขาวเข้าชุด พร้อมกระเป๋าถือใบเล็กถูกส่งมาที่บ้านพร้อมการ์ดมีข้อความบ่งบอกว่าใครเป็นผู้ส่ง
‘เย็นนี้ ไปรับนะครับ
ขนมเทียน’
“ใครส่งมาหรอลูก” แม่ถามขึ้นที่เห็นฉันนั่งยิ้มคนเดียวอยู่นานสองนาน
“เทียนค่ะ เขาบอกเย็นนี้จะมารับ สวยมั้ยคะ” ฉันส่งยิ้มกว้างให้แม่ หยิบชุดยืนทาบตัวหมุนไปมา
“ลูกแม่ใส่อะไรก็สวยอยู่แล้ว” แม่ตอบกลับยิ้มอย่างเอ็นดู
“ขอบคุณค่ะ”
﹀
เวลานัดก็มาถึง 5 โมงเย็น คือเวลาเลิกงานประจำของเทียนอยู่แล้ว เพราะร้านขนมปิด 4 โมงครึ่ง เทียนต้องอยู่เคลียร์ของในร้านก่อน ไม่นานนักเทียนมารับอย่างที่นัดหมาย เขาอยู่ในชุดเสื้อสูทสีดำ เชิ้ตด้านในสีขาวไร้เนกไท
หัวใจฉันเต้นระรัวไม่เป็นจังหวะ แม้จะเห็นเขาในลุคนี้บ่อยแค่ไหน แต่วันนี้กลับดูดีกว่าวันธรรมดา
“เชิญครับคุณคนสวย” เทียนลงจากรถเดินอ้อมมาเปิดประตูฝั่งคนนั่ง
“บ้า!” ฉันตอบกลับด้วยความเขิน จะมาชมอะไรกัน ถ้าจะสวยก็คงสวยจากชุดที่เขาให้นั่นแหละ
เทียนออกรถขับมาตามเส้นทางที่ฉันไม่รู้จัก จะรู้จักได้ยังไงชีวิต 20 กว่าปี แทบไม่ค่อยได้ไปไหนเลย นอกจากบ้านกับโรงพยาบาล
ไม่นานนักรถหรูจอดเทียบหน้าโรงแรมใหญ่ มีพนักงานรีบมาเปิดประตูรถทั้งสองฝั่ง รถถูกขับออกไปโดยพนักงานของโรงแรม
“คุณศดิธร ใช่มั้ยครับ เชิญด้านในเลยครับ บอสแจ้งไว้แล้วครับ” พนักงานที่รับเสื้อสูทของเทียนเอ่ยทักขึ้น
“เทียนคะ บอสที่ว่านี่ใครคะ” ฉันถามขึ้นระหว่างเดินตามพนักงานที่นำทางไปยังห้องอาหารของโรงแรม
“ไอแมงมุมไง เห็นเสเพลอย่างนั้นก็ทำการทำงานนะ” เทียนตอบกลับยิ้มไปด่าเพื่อนไป
“ใช่พี่น้องฝาแฝดที่เคยมาเยี่ยมที่โรงพยาบาลมั้ยคะ”
“ใช่ครับ”
“เชิญครับ ต้องการอะไรเพิ่มเติมเรียกได้เลยนะครับ” พนักงานที่เดินนำมา ผายมือบอกตำแหน่งโต๊ะที่ได้จัดไว้เฉพาะ
“ขอบคุณครับ” เทียนตอบรับอย่างสุภาพ เดินอ้อมมาดึงเก้าอี้ให้ฉันนั่งก่อนถึงจะเดินกลับไปนั่งยังเก้าอี้ฝั่งตัวเอง
“ขอบคุณค่ะ ที่นี่สวยมากเลยนะคะ” ฉันมองไปรอบๆ ห้องอาหาร เป็นหน้าต่างกระจกเกือบทั้งห้อง บรรยากาศด้านนอกเป็นสวนล้อมรอบ
“ตาลครับ ใส่คืนให้ด้วยสิครับ” แหวนวงเล็กบนฝ่ามือหนา มันคือแหวนประจำตัวของฉันเอง ฉันไม่คิดว่าเขาจะยังเก็บมันไว้
“ขอโทษค่ะ ตาลขอโทษ..”
“ไม่เป็นไรครับ เราต่างก็มีเหตุผลของตัวเอง มันผ่านมาแล้วช่างมันเถอะครับ วันนี้ พรุ่งนี้ ต่อจากนี้ เทียนรักตาล เทียนจะไม่ยอมให้ตาลทิ้งเทียนไปไหนอีก รักเทียนได้มั้ยครับ เทียนรักได้แค่ตาลจริงๆ”
“ตาลก็รักได้แค่เทียนค่ะ” น้ำตาเม็ดใสไร้เสียงสะอื้นร่วงรินถูกมือหนาปาดออกอย่างอ่อนโยน
เขาอ่อนโยนกับฉันเสมอตั้งแต่เมื่อก่อนแล้ว ฉันไม่รู้จะสรรหาคำไหน การกระทำใดมาทดแทน ชดเชย กับสิ่งที่ฉันทำลงไป มันส่งผลแย่มากทั้งฉันและเขา เราต่างก็อ่อนแอลงในวันที่ห่างกัน
“ไม่เอา ไม่ร้องครับคนดี” เทียนเอ่ยขึ้นในขณะที่ฉันสวมแหวนวงเล็กคืนไว้ที่เดิม นิ้วก้อยข้างซ้าย
อาหารคาวหลายอย่างถูกเสิร์ฟในเวลาไม่นานนัก ทุกอย่างถูกปรุงสุกพอดีน่ารับประทาน สมกับเป็นโรงแรมสี่ดาวแนวหน้า ใส่ทุกรายละเอียดตั้งแต่วัตถุดิบถึงการจัดจานที่ลงตัว
“ตามองเห็นดีมั้ยครับ” เทียนถามขึ้นทำเอาฉันใจกระตุกเล็กน้อย ด้วยความรู้สึกผิดที่ยังคงฝังอยู่ในจิตใจ
“ดีมากเลยค่ะ” ฉันรีบตอบเสียงดังฟังชัด จนโต๊ะข้างๆ หันมามอง “ตาล..ขอโทษ” เสียงฉันอ่อนลง เทียนเอื้อมมือมากุมมือฉันไว้อย่างมั่นคง
“เทียนเต็มใจครับ จำไว้นะคนดี ทุกอย่างที่ทำเพราะรักตาลเท่านั้นครับ” เทียนตอบกลับด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ขอบคุณค่ะ” ฉันส่งยิ้มกว้างให้แทนน้ำตา ฉันต้องเข้มแข็งเพื่อให้คนที่รักฉันได้สบายใจบ้าง ฉันอ่อนแอมานานเกินพอแล้ว
เราสองคนทานอาหารไปคุยเล่นกันไปเรื่อย เทียนเล่าเรื่องเพื่อนฝาแฝดของเขาให้ฉันฟัง ฉันก็เล่าเรื่องเพื่อนฝาแฝดของฉันให้เทียนฟัง เราสองคนมีความเห็นตรงกันที่อยากให้ฝาแฝดสองคู่ได้เจอกัน ถ้าโชคชะตาอำนวยคงได้เป็นคู่กันเหมือนเราสองคน
เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ ณ ตอนนี้ฉันมีความสุขมากๆ ได้อยู่กับคนที่ฉันรัก ได้เห็นใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม ได้ยินเสียงหัวเราะไร้น้ำตา ฉันสัญญากับตัวเองแล้วว่าจะรักษาคนคนนี้ รักครั้งนี้ หัวใจดวงนี้ไว้ให้ได้ เขาบอกฉันเสมอว่าฉันเป็นชีวิตของเขา และฉันก็อยากจะบอกเขาเหมือนกันว่าเขาก็เป็นชีวิตของฉันเหมือนกัน
ฉันที่กลับมาจากไปห้องน้ำต้องชะงักขาไว้เมื่อได้ยินเสียงโวยวายของใครบางคน ที่ฉันไม่ชอบเอาสะเลย เธอเคยลึกซึ้งกับเทียน ทั้งๆ ที่ฉันยังไม่เคยได้แตะต้องเลย เทียนให้เกียรติฉันเสมอ เราไม่เคยทำอะไรเกินเลยไปกว่าการกอดกัน แต่เธอ เธอได้สัมผัสนั้นไปก่อนฉัน ฉันจะไม่ยอมให้ใครมาแตะต้องเทียนของฉันอีกแล้ว
“เทียนค่ะ เชอร์รี่ขอโทษเรื่องที่ผ่านมา เชอร์รี่รักเทียนนะคะ” เสียงขอหญิงสาวนามเชอร์รี่ดังขึ้น
“ผมไม่เคยมีความรู้สึกใดๆ กับคุณ กลับไปซะ ถ้าคนของผมมาเจอเข้ามันจะไม่ดี”
“เชอร์รี่ไม่สน เชอร์รี่ต้องการเทียน”
“แต่ผมรังเกียจคุณ” เทียนตอกกลับด้วยเสียงหนักแน่น เบี่ยงตัวหลบเมื่อเชอร์รี่ทำท่าจะเข้าเกาะกุมแขนของเขา
ฉันยืนมองเหตุการณ์อยู่พักใหญ่ ดูท่าเชอร์รี่อะไรนั้นจะไม่ยอมไปง่ายๆ ฉันไม่เคยเป็นนางร้ายสะด้วยสิ นางเอกก็ไม่อยากเป็น เอาไงดีละ
“สวัสดีค่ะ มีธุระอะไรคนของฉันหรอคะ” ฉันถามอย่างใสซื่อ ทำให้เชอร์รี่ชะงักตัวไปเล็กน้อย แต่ยังไม่หยุดแสดงกิริยาต่ำทรามต่อหน้าคนมากมาย นี่มันห้องอาหารโรงแรมนะ จะไม่มียางอายหน่อยหรอ
“คนของเธอหมายความว่าไง” เชอร์รี่ถามกลับด้วยความสงสัย ชุดกระโปรงรัดรูปถลกขึ้นจนจะเห็นชั้นในอยู่แล้วจากท่าทางการยืน
“ตามนั้นค่ะ” ฉันส่งยิ้มใสซื่อตรงกลับไปอีกครั้ง เดินไปควงแขนเทียนอย่างนุ่มนวล
“อย่าไปยุ่งกับเขาเลยครับ เรากลับกันเถอะ” เหมือนเทียนจะรำคาญเชอร์รี่เอามากเลย นี้ขนาดปล่อยไปเคลียร์รอบหนึ่งแล้ว ยังไม่จบง่ายๆ สินะ
“เทียน เชอร์รี่ขอโทษ เชอร์รี่รักคุณจริงๆ นะคะ” เชอร์รี่ตรงเข้าหมายจะเกาะกุมแขนที่ว่างอีกข้างของเขา แต่ก็ไม่เป็นผล ในเมื่อเทียนเบี่ยงตัวหลบทันอีกตามเคย คนอะไรจะโง่ซ้ำๆ ได้ขนาดนี้
ฉันผละออกจากเทียนไม่อยากขยับไปตามแรงเบี่ยงหลายต่อหลายครั้ง ฉันหมดความอดทนแล้วนะ! จากยิ้มใสซื่อ ฉันเปลี่ยนให้มันเป็นยิ้มเหยียดมุมปาก สายตาข้างที่มองเห็นจิกตรงเข้าไปข้างในจิตใจของเธอ
“เก็บปาก เก็บร่างกายไว้ใช้งานอย่างอื่นดีมั้ยคะ วิ่งตามผัวคนอื่นแบบนี้หน้าไม่อายเลยนะคะ คุณจะรัก จะชอบเทียนฉันก็ไม่ว่าหรอกค่ะ แต่ช่วยกรุณา...” ฉันมองสำรวจปลายเท้าจรดปลายศีรษะช้าๆ “หยุดร่านในที่สาธารณะด้วยค่ะ” ฉันส่งยิ้มสวยตรงให้เธออย่างเต็มใจ
“กรี๊ด!! แก!!” เชอร์รี่กรี๊ดเสียงดังทั่วห้องอาหาร ทำให้คนจำนวนหนึ่งเริ่มมุงดู อีกจำนวนหนึ่งแยกย้ายออกไป
“แก!!” ฉันตอบกลับเสียงดังไม่แพ้กัน “ทำไมหรอค่ะ” ต่อด้วยเสียงสองยิ้มยกร้ายกาจอย่างไม่ปิดบัง ถึงฉันจะร่างกายอ่อนแอ แต่ไม่บอกนี้ว่าฉันปากอ่อนแรง
“ส่งเสียงดังเก่ง ตื๊อเก่ง แบบนี้สินะคะ ถึงได้มี ผัว! ไป! ทั่ว! อ๊ะ อ๊ะ! อย่าเพิ่งกรี๊ดนะคะ เดี๋ยวผีเปรต! จะตามหาเพื่อนเจอ” ฉันไม่ยอมให้ผู้หญิงแบบนี้ได้แตะต้องเทียนอีกครั้งเป็นแน่
“แก!” เชอร์รี่วาดวงมือง้างหมายจะตบฉันแต่เสียใจฉันไวกว่า
‘เพลี้ย!!’ เสียงจากแรงตบดังสนั่นพอสมควร
คนรอบข้างพากันตกใจ รวมถึงเทียนที่ดูอึ้งๆ กับการกระทำของฉัน แน่นอนสิฉันไม่เคยร้ายให้เขาเห็นสักหน่อย
“คิดว่ามีมือคนเดียวหรอค่ะ แล้วจะบอกให้นะคะ คนนี้ของฉัน อย่าได้คิดอาจเอื้อมเลยค่ะ ต่ำ!!”
‘เพลี้ย!!’ ฉันสะบัดหลังมือกลับให้อีกหนึ่งที กลัวว่าสมองที่มีแสนน้อยจะไม่จดจำ
“อะ โอ๊ย!!” มือบางของฉันบีบปากของเชอร์รี่ไว้จนยู่
“ฉันไม่ใจดีเหมือนหน้าตาหรอกนะคะ อย่าเจอกันอีกเลยเนอะ สมองที่เหลือเท่าเมล็ดถั่วน่าจะคิดได้นะคะว่าควรทำอะไร” ฉันสะบัดหน้าเชอร์รี่ทิ้งด้วยความรังเกียจ “ขอตัวนะคะ”
ฉันเดินไปหาเทียนควงแขนเขาเดินออกมาจากห้องอาหารช้าๆ สายตาเหลียวมองจิกย้ำให้เธอจดจำ
ระหว่างทางกลับฉันไม่ได้หันไปคุยอะไรกับเทียน เขาก็ไม่ได้พูดหรือต่อว่ากับการกระทำของฉัน
เขาจอดรถที่สวนสาธารณะแห่งหนึ่งไม่ไกลจากโรงแรมนัก เราสองคนเดินมาหยุดนั่งเก้าอี้ใต้ต้นไม้ใหญ่ตัวหนึ่ง
“ขอโทษค่ะ” เป็นฉันที่เริ่มพูดขึ้นก่อน
“คะ คือ เทียนต่างหากที่ต้องขอโทษ” เทียนตอบเสียงเหนื่อยๆ
“ตกใจมั้ยคะ แหะๆ”
“ครับ มากอยู่ครับ ...ทั้งๆ ที่เทียนคิดจะปกป้องตาลแท้ๆ กลายเป็นตาลออกรับแทนซะงั้น”
“เราดูแล ปกป้อง ใส่ใจกันและกันต่างหากละคะ อย่าลืมสิคะ เราเป็นชีวิตของกันและกันนะ” ฉันส่งยิ้มกว้างเป็นกำลังใจให้คนตรงหน้าที่กำลังห่อเหี่ยวเต็มที่จากเรื่องที่ผ่านมา
“ตาลครับ เทียนไม่รู้ว่าจะดีพอสำหรับตาลมั้ย แต่... แต่งงานกับเทียนนะ” กล่องสีแดงกำมะหยี่เปิดขึ้นเผยให้เห็นแหวนเพชรเม็ดเดี่ยวตัวเรือนทองคำขาว
“ฮึก ฮึก” ฉันพยักหน้าตอบรับทั้งน้ำตาของความดีใจ เทียนกุมมือซ้ายของฉันสวมแหวนวงนั้นเข้าพอดีกับนิ้วนางข้างซ้าย
“เทียนสัญญาจะรักและมีเพียงแค่ตาล อยู่กับเทียนนะที่รัก” เราสองคนโผเข้ากอดกันแน่น ฉันร้องไห้ออกมาไม่มีทีท่าว่าจะหยุด
ขอบคุณชีวิตของฉันที่ยังไม่สิ้นสุดไปก่อนที่จะได้รักษา ขอบคุณชีวิตใหม่ที่ผู้มอบให้คือคนที่รักฉัน ขอบคุณครอบครัวที่ไม่เคยทิ้งให้ฉันต้องเดียวดาย ขอบคุณโชคชะตาที่นำพาให้เทียนมารักฉัน เหมือนที่ฉัน...รักเขา
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------
Talk
จบแล้วค่า~ ขอบคุณทุกคนมากๆ ที่เข้ามาอ่าน มีบทส่งท้ายอีกมั้ยน้า~
ยังไงก็คอมเม้นติชมกันได้ เค้าไม่กัดใครนะ -/\-
= 2 สัปดาห์ต่อมา =
การมองเห็นของผมลดลงแต่ไม่มากเท่าไหร่นัก ตาขวายังคงใช้งานได้ดี ส่วนตาซ้ายเป็นของตาลซึ่งมันบอดจริงๆ ไม่มีแม้แต่แสงเล็ดลอดเข้ามาได้ อาจจะเป็นอุปสรรคในการใช้ชีวิต แต่มันคือครูที่ดีในการสอนว่าชีวิตไม่ควรประมาท
กำหนดเปิดผ้าพันแผลของลูกตาลคือวันนี้ วันที่ผมรอคอยให้ตาลมองเห็นอีกครั้ง
ร่างบางขาวซีดนั่งห้อยขาอยู่ปลายบนเตียง มือบางเรียกหาผมอย่างต้องการที่พึ่งพิง ผมกระชับมือหนาบีบคลายเบาบางให้รู้ว่าผมอยู่ตรงนี้เสมอ
“พร้อมนะตัวเล็ก หายใจเข้าลึกๆ” พี่หมอค่อยๆ ปลดผ้าพันแผลที่วนรอบศีรษะปิดดวงตาทั้งสองข้างออกอย่างเบามือ ผ้าใยตาข่ายร่วงลงพื้นช้าๆ จนหมดม้วนที่พันไว้ สำรีแผ่นหนาถูกปลดลงตามมา เผยให้เห็นใบหน้าเต็มๆ
“ค่อยๆ ลืมตานะตัวเล็ก” พี่หมอบอก พร้อมยกไฟฉายกระบอกเล็กขึ้นส่องเข้าไปตรวจเช็กความเรียบร้อยรอบดวงตา
“คือ...มันเบลอค่ะ”
“ใจเย็นนะ ตาจะค่อยๆ ปรับสภาพ ลองหลับตาสัก 10 วิ ลืมตาแล้วมองไปรอบๆ ช้าๆ นะ” เป็นน้ำเสียงที่อ่อนโยนที่สุดเท่าที่ผมเคยได้ยินจากปากพี่หมอเลย
“ค่ะ....” ตาลตอบรับเสียงสั่น
เป็น 10 วิที่ลุ้นระทึกพอสมควร ตาลลืมตาขึ้นอีกครั้งมองไปรอบๆ ห้องตาค่อยๆปรับโฟกัส ภาพค่อยๆ ชัดขึ้นจนมาหยุดอยู่ที่ผม
“ทะ เทียน...” น้ำตาเม็ดใสไหลอาบแก้มตาลอย่างไม่มีที่มา มือบางสั่นเทาลูบไล้ที่แก้มถึงรอบดวงตาด้านซ้ายของผม
“เทียนขอโทษที่ไม่ได้ เทียนรักตาลนะครับคนดี” ผมใช้มือหนาปาดน้ำตาให้ตาลเบาบาง ขอโทษกับสิ่งที่ทำลงไปโดยไม่บอก แต่ผมทำไปเพราะผมรักเธอมากจริงๆ เธอคือคนเดียวผมต้องการ ผมไม่เคยสามารถเอาใครมาเข้าในชีวิตไม่ว่าจะเป็นการแทนที่ หรือเป็นตัวจริงคนต่อไป ผมทำไม่ได้
“พักผ่อนอีกสักสองวันนะ ค่อยออกจากโรงพยาบาล ส่วนโรคหัวใจ ยังรักษาได้ตามอาการนะตัวเล็ก ไม่ต้องคิดมาก” พี่หมอเข้ามากอดตาลอย่างดีใจที่เห็นน้องสาวสามารถมองเห็นได้อีกครั้ง
“พี่หมอขอบคุณที่ดูแลตาลมาตลอด ขอบคุณที่พี่เป็นพี่ชายตาล” ตาลกอดตอบพี่หมอ เราสามคนพากันร้องไห้ระงมเหมือนเด็กๆ
“กูฝากตัวเล็กด้วย ขอบใจมึงมากทั้งหมดที่มึงทำ กูเข้าใจแล้วว่ามึงรักตัวเล็กมากแค่ไหน” มือบางปาดน้ำตาให้พี่ชายอย่างอ่อนโยน พี่หมอส่งยิ้มกว้าง ตบบ่าผมเบาๆ สองครั้งแล้วเดินออกไปจากห้องทันที
“ตาลพักผ่อนเถอะนะครับ เทียนนะอยู่ข้างๆ นี้เอง” ผมลูบสางเส้นผมสีดำสนิทของตาลอย่างปลอบประโลม
“ค่ะ....” ตาลนั่งจ้องหน้าผมอยู่พักใหญ่ ถึงค่อยๆทิ้งตัวลงนอนอีกครั้ง
..................................................
= 1 เดือนผ่านไป =
» ลูกตาล «
ฉันออกจากโรงพยาบาลมาได้พักหนึ่งแล้ว ทุกๆ อย่างเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น ฉันมองเห็นใบหน้าทุกคนเหมือนเดิม ถึงแม้จะมองเห็นด้วยตาแค่ข้างเดียว แต่ตาข้างนี้คือชีวิตใหม่ของฉัน ที่คนรักของฉันมอบให้ ฉันไม่คิดว่า ใครคนหนึ่งที่ไม่ใช่ครอบครัว ไม่ใช่ญาติพี่น้อง เขาเคยเป็นคนอื่น เคยเป็นแค่คนบ้านตรงข้าม เคยเป็นแค่คนที่ฉันแอบรัก แต่วันนี้เขาเป็นดั่งครึ่งชีวิตที่ฉันไม่เคยคิดว่าจะมีใครมอบมันให้กับคนไม่สมประกอบแบบฉัน
ชุดเดรสเปิดไหล่สีขาวยาวเหนือเข่า รองเท้าส้นสูงหัวแหลมสีขาวเข้าชุด พร้อมกระเป๋าถือใบเล็กถูกส่งมาที่บ้านพร้อมการ์ดมีข้อความบ่งบอกว่าใครเป็นผู้ส่ง
‘เย็นนี้ ไปรับนะครับ
ขนมเทียน’
“ใครส่งมาหรอลูก” แม่ถามขึ้นที่เห็นฉันนั่งยิ้มคนเดียวอยู่นานสองนาน
“เทียนค่ะ เขาบอกเย็นนี้จะมารับ สวยมั้ยคะ” ฉันส่งยิ้มกว้างให้แม่ หยิบชุดยืนทาบตัวหมุนไปมา
“ลูกแม่ใส่อะไรก็สวยอยู่แล้ว” แม่ตอบกลับยิ้มอย่างเอ็นดู
“ขอบคุณค่ะ”
﹀
เวลานัดก็มาถึง 5 โมงเย็น คือเวลาเลิกงานประจำของเทียนอยู่แล้ว เพราะร้านขนมปิด 4 โมงครึ่ง เทียนต้องอยู่เคลียร์ของในร้านก่อน ไม่นานนักเทียนมารับอย่างที่นัดหมาย เขาอยู่ในชุดเสื้อสูทสีดำ เชิ้ตด้านในสีขาวไร้เนกไท
หัวใจฉันเต้นระรัวไม่เป็นจังหวะ แม้จะเห็นเขาในลุคนี้บ่อยแค่ไหน แต่วันนี้กลับดูดีกว่าวันธรรมดา
“เชิญครับคุณคนสวย” เทียนลงจากรถเดินอ้อมมาเปิดประตูฝั่งคนนั่ง
“บ้า!” ฉันตอบกลับด้วยความเขิน จะมาชมอะไรกัน ถ้าจะสวยก็คงสวยจากชุดที่เขาให้นั่นแหละ
เทียนออกรถขับมาตามเส้นทางที่ฉันไม่รู้จัก จะรู้จักได้ยังไงชีวิต 20 กว่าปี แทบไม่ค่อยได้ไปไหนเลย นอกจากบ้านกับโรงพยาบาล
ไม่นานนักรถหรูจอดเทียบหน้าโรงแรมใหญ่ มีพนักงานรีบมาเปิดประตูรถทั้งสองฝั่ง รถถูกขับออกไปโดยพนักงานของโรงแรม
“คุณศดิธร ใช่มั้ยครับ เชิญด้านในเลยครับ บอสแจ้งไว้แล้วครับ” พนักงานที่รับเสื้อสูทของเทียนเอ่ยทักขึ้น
“เทียนคะ บอสที่ว่านี่ใครคะ” ฉันถามขึ้นระหว่างเดินตามพนักงานที่นำทางไปยังห้องอาหารของโรงแรม
“ไอแมงมุมไง เห็นเสเพลอย่างนั้นก็ทำการทำงานนะ” เทียนตอบกลับยิ้มไปด่าเพื่อนไป
“ใช่พี่น้องฝาแฝดที่เคยมาเยี่ยมที่โรงพยาบาลมั้ยคะ”
“ใช่ครับ”
“เชิญครับ ต้องการอะไรเพิ่มเติมเรียกได้เลยนะครับ” พนักงานที่เดินนำมา ผายมือบอกตำแหน่งโต๊ะที่ได้จัดไว้เฉพาะ
“ขอบคุณครับ” เทียนตอบรับอย่างสุภาพ เดินอ้อมมาดึงเก้าอี้ให้ฉันนั่งก่อนถึงจะเดินกลับไปนั่งยังเก้าอี้ฝั่งตัวเอง
“ขอบคุณค่ะ ที่นี่สวยมากเลยนะคะ” ฉันมองไปรอบๆ ห้องอาหาร เป็นหน้าต่างกระจกเกือบทั้งห้อง บรรยากาศด้านนอกเป็นสวนล้อมรอบ
“ตาลครับ ใส่คืนให้ด้วยสิครับ” แหวนวงเล็กบนฝ่ามือหนา มันคือแหวนประจำตัวของฉันเอง ฉันไม่คิดว่าเขาจะยังเก็บมันไว้
“ขอโทษค่ะ ตาลขอโทษ..”
“ไม่เป็นไรครับ เราต่างก็มีเหตุผลของตัวเอง มันผ่านมาแล้วช่างมันเถอะครับ วันนี้ พรุ่งนี้ ต่อจากนี้ เทียนรักตาล เทียนจะไม่ยอมให้ตาลทิ้งเทียนไปไหนอีก รักเทียนได้มั้ยครับ เทียนรักได้แค่ตาลจริงๆ”
“ตาลก็รักได้แค่เทียนค่ะ” น้ำตาเม็ดใสไร้เสียงสะอื้นร่วงรินถูกมือหนาปาดออกอย่างอ่อนโยน
เขาอ่อนโยนกับฉันเสมอตั้งแต่เมื่อก่อนแล้ว ฉันไม่รู้จะสรรหาคำไหน การกระทำใดมาทดแทน ชดเชย กับสิ่งที่ฉันทำลงไป มันส่งผลแย่มากทั้งฉันและเขา เราต่างก็อ่อนแอลงในวันที่ห่างกัน
“ไม่เอา ไม่ร้องครับคนดี” เทียนเอ่ยขึ้นในขณะที่ฉันสวมแหวนวงเล็กคืนไว้ที่เดิม นิ้วก้อยข้างซ้าย
อาหารคาวหลายอย่างถูกเสิร์ฟในเวลาไม่นานนัก ทุกอย่างถูกปรุงสุกพอดีน่ารับประทาน สมกับเป็นโรงแรมสี่ดาวแนวหน้า ใส่ทุกรายละเอียดตั้งแต่วัตถุดิบถึงการจัดจานที่ลงตัว
“ตามองเห็นดีมั้ยครับ” เทียนถามขึ้นทำเอาฉันใจกระตุกเล็กน้อย ด้วยความรู้สึกผิดที่ยังคงฝังอยู่ในจิตใจ
“ดีมากเลยค่ะ” ฉันรีบตอบเสียงดังฟังชัด จนโต๊ะข้างๆ หันมามอง “ตาล..ขอโทษ” เสียงฉันอ่อนลง เทียนเอื้อมมือมากุมมือฉันไว้อย่างมั่นคง
“เทียนเต็มใจครับ จำไว้นะคนดี ทุกอย่างที่ทำเพราะรักตาลเท่านั้นครับ” เทียนตอบกลับด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ขอบคุณค่ะ” ฉันส่งยิ้มกว้างให้แทนน้ำตา ฉันต้องเข้มแข็งเพื่อให้คนที่รักฉันได้สบายใจบ้าง ฉันอ่อนแอมานานเกินพอแล้ว
เราสองคนทานอาหารไปคุยเล่นกันไปเรื่อย เทียนเล่าเรื่องเพื่อนฝาแฝดของเขาให้ฉันฟัง ฉันก็เล่าเรื่องเพื่อนฝาแฝดของฉันให้เทียนฟัง เราสองคนมีความเห็นตรงกันที่อยากให้ฝาแฝดสองคู่ได้เจอกัน ถ้าโชคชะตาอำนวยคงได้เป็นคู่กันเหมือนเราสองคน
เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ ณ ตอนนี้ฉันมีความสุขมากๆ ได้อยู่กับคนที่ฉันรัก ได้เห็นใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม ได้ยินเสียงหัวเราะไร้น้ำตา ฉันสัญญากับตัวเองแล้วว่าจะรักษาคนคนนี้ รักครั้งนี้ หัวใจดวงนี้ไว้ให้ได้ เขาบอกฉันเสมอว่าฉันเป็นชีวิตของเขา และฉันก็อยากจะบอกเขาเหมือนกันว่าเขาก็เป็นชีวิตของฉันเหมือนกัน
ฉันที่กลับมาจากไปห้องน้ำต้องชะงักขาไว้เมื่อได้ยินเสียงโวยวายของใครบางคน ที่ฉันไม่ชอบเอาสะเลย เธอเคยลึกซึ้งกับเทียน ทั้งๆ ที่ฉันยังไม่เคยได้แตะต้องเลย เทียนให้เกียรติฉันเสมอ เราไม่เคยทำอะไรเกินเลยไปกว่าการกอดกัน แต่เธอ เธอได้สัมผัสนั้นไปก่อนฉัน ฉันจะไม่ยอมให้ใครมาแตะต้องเทียนของฉันอีกแล้ว
“เทียนค่ะ เชอร์รี่ขอโทษเรื่องที่ผ่านมา เชอร์รี่รักเทียนนะคะ” เสียงขอหญิงสาวนามเชอร์รี่ดังขึ้น
“ผมไม่เคยมีความรู้สึกใดๆ กับคุณ กลับไปซะ ถ้าคนของผมมาเจอเข้ามันจะไม่ดี”
“เชอร์รี่ไม่สน เชอร์รี่ต้องการเทียน”
“แต่ผมรังเกียจคุณ” เทียนตอกกลับด้วยเสียงหนักแน่น เบี่ยงตัวหลบเมื่อเชอร์รี่ทำท่าจะเข้าเกาะกุมแขนของเขา
ฉันยืนมองเหตุการณ์อยู่พักใหญ่ ดูท่าเชอร์รี่อะไรนั้นจะไม่ยอมไปง่ายๆ ฉันไม่เคยเป็นนางร้ายสะด้วยสิ นางเอกก็ไม่อยากเป็น เอาไงดีละ
“สวัสดีค่ะ มีธุระอะไรคนของฉันหรอคะ” ฉันถามอย่างใสซื่อ ทำให้เชอร์รี่ชะงักตัวไปเล็กน้อย แต่ยังไม่หยุดแสดงกิริยาต่ำทรามต่อหน้าคนมากมาย นี่มันห้องอาหารโรงแรมนะ จะไม่มียางอายหน่อยหรอ
“คนของเธอหมายความว่าไง” เชอร์รี่ถามกลับด้วยความสงสัย ชุดกระโปรงรัดรูปถลกขึ้นจนจะเห็นชั้นในอยู่แล้วจากท่าทางการยืน
“ตามนั้นค่ะ” ฉันส่งยิ้มใสซื่อตรงกลับไปอีกครั้ง เดินไปควงแขนเทียนอย่างนุ่มนวล
“อย่าไปยุ่งกับเขาเลยครับ เรากลับกันเถอะ” เหมือนเทียนจะรำคาญเชอร์รี่เอามากเลย นี้ขนาดปล่อยไปเคลียร์รอบหนึ่งแล้ว ยังไม่จบง่ายๆ สินะ
“เทียน เชอร์รี่ขอโทษ เชอร์รี่รักคุณจริงๆ นะคะ” เชอร์รี่ตรงเข้าหมายจะเกาะกุมแขนที่ว่างอีกข้างของเขา แต่ก็ไม่เป็นผล ในเมื่อเทียนเบี่ยงตัวหลบทันอีกตามเคย คนอะไรจะโง่ซ้ำๆ ได้ขนาดนี้
ฉันผละออกจากเทียนไม่อยากขยับไปตามแรงเบี่ยงหลายต่อหลายครั้ง ฉันหมดความอดทนแล้วนะ! จากยิ้มใสซื่อ ฉันเปลี่ยนให้มันเป็นยิ้มเหยียดมุมปาก สายตาข้างที่มองเห็นจิกตรงเข้าไปข้างในจิตใจของเธอ
“เก็บปาก เก็บร่างกายไว้ใช้งานอย่างอื่นดีมั้ยคะ วิ่งตามผัวคนอื่นแบบนี้หน้าไม่อายเลยนะคะ คุณจะรัก จะชอบเทียนฉันก็ไม่ว่าหรอกค่ะ แต่ช่วยกรุณา...” ฉันมองสำรวจปลายเท้าจรดปลายศีรษะช้าๆ “หยุดร่านในที่สาธารณะด้วยค่ะ” ฉันส่งยิ้มสวยตรงให้เธออย่างเต็มใจ
“กรี๊ด!! แก!!” เชอร์รี่กรี๊ดเสียงดังทั่วห้องอาหาร ทำให้คนจำนวนหนึ่งเริ่มมุงดู อีกจำนวนหนึ่งแยกย้ายออกไป
“แก!!” ฉันตอบกลับเสียงดังไม่แพ้กัน “ทำไมหรอค่ะ” ต่อด้วยเสียงสองยิ้มยกร้ายกาจอย่างไม่ปิดบัง ถึงฉันจะร่างกายอ่อนแอ แต่ไม่บอกนี้ว่าฉันปากอ่อนแรง
“ส่งเสียงดังเก่ง ตื๊อเก่ง แบบนี้สินะคะ ถึงได้มี ผัว! ไป! ทั่ว! อ๊ะ อ๊ะ! อย่าเพิ่งกรี๊ดนะคะ เดี๋ยวผีเปรต! จะตามหาเพื่อนเจอ” ฉันไม่ยอมให้ผู้หญิงแบบนี้ได้แตะต้องเทียนอีกครั้งเป็นแน่
“แก!” เชอร์รี่วาดวงมือง้างหมายจะตบฉันแต่เสียใจฉันไวกว่า
‘เพลี้ย!!’ เสียงจากแรงตบดังสนั่นพอสมควร
คนรอบข้างพากันตกใจ รวมถึงเทียนที่ดูอึ้งๆ กับการกระทำของฉัน แน่นอนสิฉันไม่เคยร้ายให้เขาเห็นสักหน่อย
“คิดว่ามีมือคนเดียวหรอค่ะ แล้วจะบอกให้นะคะ คนนี้ของฉัน อย่าได้คิดอาจเอื้อมเลยค่ะ ต่ำ!!”
‘เพลี้ย!!’ ฉันสะบัดหลังมือกลับให้อีกหนึ่งที กลัวว่าสมองที่มีแสนน้อยจะไม่จดจำ
“อะ โอ๊ย!!” มือบางของฉันบีบปากของเชอร์รี่ไว้จนยู่
“ฉันไม่ใจดีเหมือนหน้าตาหรอกนะคะ อย่าเจอกันอีกเลยเนอะ สมองที่เหลือเท่าเมล็ดถั่วน่าจะคิดได้นะคะว่าควรทำอะไร” ฉันสะบัดหน้าเชอร์รี่ทิ้งด้วยความรังเกียจ “ขอตัวนะคะ”
ฉันเดินไปหาเทียนควงแขนเขาเดินออกมาจากห้องอาหารช้าๆ สายตาเหลียวมองจิกย้ำให้เธอจดจำ
ระหว่างทางกลับฉันไม่ได้หันไปคุยอะไรกับเทียน เขาก็ไม่ได้พูดหรือต่อว่ากับการกระทำของฉัน
เขาจอดรถที่สวนสาธารณะแห่งหนึ่งไม่ไกลจากโรงแรมนัก เราสองคนเดินมาหยุดนั่งเก้าอี้ใต้ต้นไม้ใหญ่ตัวหนึ่ง
“ขอโทษค่ะ” เป็นฉันที่เริ่มพูดขึ้นก่อน
“คะ คือ เทียนต่างหากที่ต้องขอโทษ” เทียนตอบเสียงเหนื่อยๆ
“ตกใจมั้ยคะ แหะๆ”
“ครับ มากอยู่ครับ ...ทั้งๆ ที่เทียนคิดจะปกป้องตาลแท้ๆ กลายเป็นตาลออกรับแทนซะงั้น”
“เราดูแล ปกป้อง ใส่ใจกันและกันต่างหากละคะ อย่าลืมสิคะ เราเป็นชีวิตของกันและกันนะ” ฉันส่งยิ้มกว้างเป็นกำลังใจให้คนตรงหน้าที่กำลังห่อเหี่ยวเต็มที่จากเรื่องที่ผ่านมา
“ตาลครับ เทียนไม่รู้ว่าจะดีพอสำหรับตาลมั้ย แต่... แต่งงานกับเทียนนะ” กล่องสีแดงกำมะหยี่เปิดขึ้นเผยให้เห็นแหวนเพชรเม็ดเดี่ยวตัวเรือนทองคำขาว
“ฮึก ฮึก” ฉันพยักหน้าตอบรับทั้งน้ำตาของความดีใจ เทียนกุมมือซ้ายของฉันสวมแหวนวงนั้นเข้าพอดีกับนิ้วนางข้างซ้าย
“เทียนสัญญาจะรักและมีเพียงแค่ตาล อยู่กับเทียนนะที่รัก” เราสองคนโผเข้ากอดกันแน่น ฉันร้องไห้ออกมาไม่มีทีท่าว่าจะหยุด
ขอบคุณชีวิตของฉันที่ยังไม่สิ้นสุดไปก่อนที่จะได้รักษา ขอบคุณชีวิตใหม่ที่ผู้มอบให้คือคนที่รักฉัน ขอบคุณครอบครัวที่ไม่เคยทิ้งให้ฉันต้องเดียวดาย ขอบคุณโชคชะตาที่นำพาให้เทียนมารักฉัน เหมือนที่ฉัน...รักเขา
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------
Talk
จบแล้วค่า~ ขอบคุณทุกคนมากๆ ที่เข้ามาอ่าน มีบทส่งท้ายอีกมั้ยน้า~
ยังไงก็คอมเม้นติชมกันได้ เค้าไม่กัดใครนะ -/\-
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ