Heart Project : ปริศนาความทรงจำ
10.0
เขียนโดย PnPn
วันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2561 เวลา 23.40 น.
17 ตอน
0 วิจารณ์
18.04K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 11 มกราคม พ.ศ. 2562 23.07 น. โดย เจ้าของนิยาย
5)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความตอนที่ 5
เอม ชิตและคุณซิลเวอร์ในชุดสูทสีดำได้มาถึงจุดในแผนที่บอกเอาไว้ ที่ทั้งสามเข้ามาเป็นส่วนของย่านร้านค้าทั้ง เป็นที่โล่งแต่สามยังคงต้องระวังตัวไว้เนื่องจากบริเวณนี้ส่วนที่เป็นซุ้มร้านค้าอยู่มากทำให้การมองเห็นในมุมกว้างไม่ค่อยดีนัก ทั้งนี้ภารกิจหลักของพวกเขาคือหาเหลือผู้รอดชีวิตและเคลียร์พื้นที่จากสิ่งรุกรานก่อนหน่วยรักษาพยาบาลมาถึง
ภารกิจและเป้าหมายของผู้ปฏิบัติงานภาคสนามได้ถูกประเมินไว้แล้วให้เหมาะสมกับพลังและความสามารถของแต่ละคนดังนั้นในกลุ่มนี้ที่มีเอมสามารถใช้สัตว์อัญเชิญทำให้เหมาะกับการทำงานในที่โล่งรวมถึงเอมกับชิตเป็นนักศึกษาทำให้ในการผู้ปฏิบัติงานภาคสนามจริงต้องมีอาจารย์หรือเจ้าหน้าที่ของวิทยาลัยเป็นหัวหน้าทีม(แล้วไหงตอนสู้กับโครวไม่มีใครโผล่มาเลยหะ)
ชิตใช้การมองคลื่นพลังมองดูรอบๆพื้นที่เพื่อค้นหาผู้รอดชีวิตและศัตรู พบว่าบริเวณนี้ไม่มีผู้คนหรือคนบาดเจ็บอยู่คาดว่าจะอพยบกันไปก่อนพวกบ็อทจะมาถึงแต่จากคลื่นที่ชิตเห็นพบพวกบ็อท 15 ตัวกำลังตรงมาทางนี้
“เตรียมตัวนะทุกคนพวกมันกำลังจะมาแล้วมาทางด้านหน้าเลย” ชิตเอ่ยขึ้น
บ็อท 3 ตัวพุ่งเข้ามาหาทั้งสามคนจากด้านหน้า เอมเรียกสิงโตน้ำแข็งออกมาสร้างกำแพงน้ำแข็งมาป้องกันและหยุดการเคลื่อนไหวของบ็อท 3 ตัวนั้น จากนั้นคุณซิลเวอร์ใช้ปืนที่เป็นอาวุธประจำตัวยิงไปที่บ็อทที่ถูกหยุดการเคลื่อนไหวจนบ็อทล้มลง
คุณซิลเวอร์เป็นอดีตเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการจากหน่วยงานกลาง เขาไม่ได้มีพลังเฉพาะตัวเหมือนเอมกับชิต เขาสามารถใช้เวทย์มนต์ขั้นพื้นฐานได้เล็กน้อยโดยจะเป็นพวกเกี่ยวกับการเคลื่อนที่เป็นหลัก อาวุธประจำตัวของคุณซิลเวอร์เป็นปืนยาวขนาดกลางตามมาตรฐานของเจ้าหน้าที่ภาคสนาม กระสุนที่ใช้เป็นกระสุนจริงที่สามารถยิงออกมารวมกับเวทย์ได้โดยใช้หินพลังเวทย์ที่ติดตั้งภายในปืน สำหรับปืนของคุณซิลเวอร์ได้ดัดแปลงให้สามารถยิงได้ทั้งแบบใช้กระสุนกับไม่ใช้กระสุนแต่เป็นพลังเวทย์ได้
“3 ตัวแรกล้มไปแล้ว ยังมีอีก 12 ตัว” ชิตพูดขึ้น
บ็อท 4 ตัวพุ่งมามางด้านข้างของพวกเขา เอมจึงให้สิงโตน้ำแข็งสร้างกำแพงมากันด้านข้างไม่ให้เข้ามาถึงตัว ตามด้วยชิตใช้ความสามารถของอัญมณีทำให้ดาบโจมตีระยะไกลได้และเสริมด้วยพลังอัญมณีอีกชิ้นเพื่อเพิ่มความรุนแรกของการโจมตี ทำให้สามารถโจมตีทะลุกายยาเกราะของพวกบ็อทได้ การโจมตีนี้ทำให้สังหารพวกบ็อทไปได้สองตัวและอีกสองตัวได้รับบาดเจ็บ
ยังไม่ทันที่ชิตจะลงดาบสองพวกบ็อทอีก 8 ตัวก็กรูเข้ามาจากอีกฝั่ง เอมอัญเชิญนกสายฟ้ากับกระทิงไฟเพิ่มอีกสองตัวเพื่อไปช่วยกันไม่ให้พวกบ็อทเข้ามาถึงตัวตามด้วยคุณซิลเวอร์ก็ระดมยิงไปที่บ็อทให้ล้มลงไปได้สองตัว
“มาแบบนี่มันโจมตีไม่ทัน” คุณซิลเวอร์พูดขึ้นมา ทันใดนั้นบ็อทสองตัวก็เข้ามาถึงตัวคุณซิลเวอร์ได้ใช้พันท้ายปืนตีไปที่บ็อทสองตัวนั้นเพื่อให้พวกมันกระเด็นออกไป เนื่องจากใส่ชุดสูทเสริมพลังทำให้บ็อทกระเด็นออกมาระยะห่างพอสมควร เอมเห็นดังนั้นจึงให้นกสายฟ้าของเธอโจมตีด้วยปีกเหล็กกล้า(นางแอ่นหวนกลับนั่นล่ะ)ซ้ำทันที
หลังจากชิตได้ล้มบ็อท 4 ตัวทางด้านของเขาได้สำเร็จก็เลยหันมาช่วยทางฝั่งของเอมกับคุณซิลเวอร์โดยยังคงให้สิงโตน้ำแข็งคุมเชิงทางด้านเดิมไว้ก่อนเพื่อกันการบุกของพวกบ็อทเข้ามาอีก ชิตโจมตีระยะไกลด้วยดาบไปที่พวกบ็อทที่เหลือที่กำลังหลบไฟของกระทิงไฟอยู่ทำให้ล้มไปอีกตัว ทั้นใดนั้นก็มีบ็อทตัวหนึ่งที่หลบการโจมตีของชิตได้ก็พุ่งเข้ามาทันที ชิตใช้พลังของอัญมณีที่อยู่บนดาบสร้างเกราะแสงเขามากันเอาไว้ทำและฟันสวนกลับไปจนบ็อทตัวนั้นขาดครึ่ง
สำหรับบ็อทอีกสองตัวเมื่อเห็นว่าทางด้านเอมเปิดโล่งจึงพุ่งไปทางเอมทันทีชิตใช้พลังของอัญมณีเพิ่มความเร็วของตัวเองพุ่งไปหาเอมและใช้เกราะแสงจากดาบตั้งป้องกันไว้ แต่ก่อนที่พวกบ็อททั้งสองตัวจะเข้าถึงตัวชิตกับเอม สิงโตน้ำแข็งที่คุมเชิงไว้ก็เข้ามาตะปบไว้หนึ่งตัว ส่วนอีกบ็อทอีกตัวก็ได้คุณซิลเวอร์ยิงสกัดเอาไว้ก่อนจะถูกชิตฟันซ้ำจนนิ่งไป
“ชิตตรวจสอบรอบๆพวกมันจะมาเพิ่มอีกไหม” คุณซิลเวอร์หันไปถามชิตหลังจากบ็อทตัวสุดท้ายลงไปนอน
“บริเวณรอบๆนี้ไม่น่าจะมีแล้วครับ...” ชิตตอบกลับ “แต่ว่าข้างหน้ามีพวกบ็อทกว่า 200 ตัวกำลังตรงมาทางนี้ครับ” ชิตแสดงสีหน้าตกใจออกมาพร้อมกับเห็นว่าหน่วยที่ส่งเออกไปเคลียร์พื่นที่กำลังถ่อยร่นกลับมา
“อะไรนะ หมายความว่าไงถ้าดูจากจำนวนพวกมันที่ผ่านมาไม่น่าจะเหลือถึง 50 ตัวแล้ว” คุณซิลเวอร์ก็ตกใจเหมือนกันจึงรีบแจ้งไปยังกองบัญชาการที่อยู่ในสถานีรถไฟฟ้า
ทางกองบัญชาการที่ได้ตอบกลับมาว่าสถานการณ์ตอนนี้ได้ถูกยกระดับเป็นรหัสแดงหรือการต่อต้านสิ่งรุกรานระดับเอส โดยจะมีการเข้ามาของทหารและเจ้าหน้าที่ภาคสนามระดับกลางลงมา
เสียงของยานขนพร้อมเงาปรากฏขึ้นให้เห็นบนท้องฟ้ายาน 7 ลำพร้อมเจ้าหน้าที่กว่า 20 คนในยานแต่ละลำได้บินตรงมาที่ เอม ชิตและคุณซิลเวอร์ยืนอยู่ เมื่อยานจอดลงทหารและเจ้าหน้าที่ภาคสนามพร้อมอาวุธครบมือได้มาจัดการพื้นที่บริเวณนี้สำหรับรับมือกองทัพบ็อทที่ใกล้เข้ามา กองทัพบ็อทกว่า 200 ตัวได้ใช้ถนนเส้นหลักเดินทัพหมายโจมตีสถานีรถไฟที่ใช้เป็นที่อพยพและกองบัญชาการซึ่งตอนนี้ได้มีการอพยพประชาชนออกนอกเขตนี้แล้ว
“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ เบรกเกอร์” เสียงของผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่หนาสวมชุดเกราะกล่าวทักทายคุณซิลเวอร์
“อ้าวผู้กองมาร์โคร มาถึงแนวหน้าเลยนะ” คุณซิลเวอร์ตอบกลับไป
“แย่หน่อยนะที่มาเจอกันในสถานการณ์แบบนี้” ผู้กองมาร์โครพูดกลับพร้อมหัวเราะ
ขณะนั้นเองเอมและชิตก็ได้การติดต่อจากนิสาที่หายเข้าไปในตัวเมืองตั้งแต่ตอนมาถึงเขตนี้
“นิสา เป็นไงบ้างรู้สึกว่าพวกบ็อทมีจำนวนเพิ่มขึ้นจากรายงานตอนแรก” เอมถามนิสาทันทีที่ติดต่อได้
“ชั้นไม่เป็นไร ตอนนี้อยู่กับไวท์แล้ว” นิสาตอบกลับมา “ตอนนี้อยู่ในที่ปลอดภัยแล้วกับประชาชนบางส่วน ต่อให้มีเฟรย่าทิ้งลงมาที่เราอยู่ก็ไม่เป็นอะไร”(เฟรย่า ระเบิดทำลายล้างสูงเพียง 1 ลูกทำให้เขตนี้หายไปไปจากแผนที่ได้ทันที)
“แล้วพวกเธออยู่ที่ไหนพวกชั้นจะรีบไปหา” เอมถามด้วยความเป็นห่วง
“ไม่ต้องเป็นห่วงพวกเราหรอก แต่ว่ามีที่นึงที่อยากให้พวกเธอไปตรวจสอบดู” นิสาตอบกลับพร้อมส่งตำแหน่งและข้อมูลของสถานที่ให้เอมและชิต เอมและชิตจึงนำข้อมูลที่ได้ไปปรึกษากับคุณซิลเวอร์ที่กำลังคุยอยู่กับผู้กอง
“คุณซิลเวอร์ นิสาบอกว่าตอนนี้อยู่ในที่ปลอดภัยกับไวท์และประชาชนบางส่วน และนี่เป็นข้องมูลที่นิสาส่งมาให้พวกเราตรวจสอบ” เอมแสดงให้คุณซิลเวอร์เห็นเป็นตำแหน่งของโกดังร้างทางด้านเหนือของเมือง
คุณซิลเวอร์จึงได้ไปคุยกับผู้กองมาร์โคร
“ผู้กองนี่คือข้อมูลจากพันตรีไวท์” คุณซิลเวอร์พูดขึ้นขณะเอมกำลังแสดงตำแหน่งบนแผนที่
“อืมเข้าใจแล้ว” ผู้กองมาร์โครตอบทันทีก่อนจะตะโกนเรียกทหารเพื่อทำภารกิจ “ขอทหาร 30 นายไปช่วยประชาชนที่ตำแหน่ง H4”
“รู้ด้วยหรือครับว่าที่หลบภัยที่นิสากับไวท์อยู่ อยู่ที่ไหน?” ชิตถามด้วยความสงสัย
“ก็บ้านของไวท์กับนิสาไงบ้านของสองคนนั้นอยู่ชิดกันเลย อีกอย่างพวกเขาคงกางเขตป้องกันไว้แล้วคงไม่ต้องห่วงอะไร” คุณซิลเวอร์ตอบชิต
จากนั้นผู้กองหันมาถามเอมกับชิตว่า “พวกนายสามารถใช้พลังประเภทซ่อนตัวไม่ก็พวกอำพลางตัวได้ไหม”
“ได้ครับ/ค่ะ” เอมกับชิตตอบพร้อมกันด้วยน้ำเสียงที่สั่นๆ
“อธิบายมาหน่อย” ผู้กองมาร์โครถามต่อ
“ของดิฉันใช้สัตว์อัญเชิญตัวนี้ออกมาเกาะที่แขนขวาแค่นี้ก็หายตัวได้แล้วแถมยังใช้โจมตีได้อีกด้วยค่ะ” เอมเรียกให้นกสายฟ้า สิงโตน้ำแข็งและกระทิงไฟกกลับไปหลังจากนั้นเธอก็อัญเชิญสัตว์เป็นกิ้งก่าตัวขนาดเท่าฝ่ามือมาเกาะที่แขนขอเธอจากนั้นตัวเธอก็หายตัวอีกทั้งยังแสดงให้ผู้กองเห็นว่าหางของกิ้งก่าตัวนี้เป็นมีดสั้นได้อีกด้วย
“ของผมก็ใช้ความสามารถของอัญมณีสร้างเกราะแสงมาคลุมตัวเท่านี้ก็หายตัวได้ ทั้งยังมีพลังสำหรับเคลื่อนที่ได้รวดเร็วด้วยครับ” ชิตตอบผู้กองมาร์โครพร้อมแสดงความสามารถให้ดู
“นี่เบรกเกอร์คนของนายใช้ได้เลยนี่นา” ผู้กองมาร์โครหันไปพูดกับคุณซิลเวอร์ “เอาละพวกเธอจะต้องไปตามที่ผู้พันไวท์บอกด้วยภารกิจลอบเร้น มีอะไรสงสัยไหม” ผู้กองมาร์โครมอบหมายภารกิจให้เอมกับชิต
“แล้วทำไมถึงไม่ยกกองทหารไปถล่มเลยละครับ” ชิตถามด้วยความสงสัยซึ่งเอมเองก็สงสัยเหมือนกัน
“นั่นก็เพราะว่า ขืนยกโขยงบุกไปพวกบ็อทก็ยกโขยงตามกันไปนะสิ” คุณซิลเวอร์ที่ฟังอยู่พูดขึ้นมา “อีกทั้งกองทหารที่มากันนี่มีแต่ทหารกับเจ้าหน้าที่ระดับกลางลงไปซึ่งแน่นอนคนที่มีความสามารถสูงในบริเวณนี้ก็มีแค่พวกเธอเท่านั้น อีกอย่างที่ตรงนั้นคาดว่าน่าจะเป็นฐานลับอะไรบางอย่างถ้าเข้าจัดการได้ละก็อาจหยุดการทำงานของพวกบ็อทก็ได้”
“ยังไงก็ฝากด้วยละกัน” ผู้กองมาร์โครใช้มือตะเบ๊ะให้เอมกับชิตและยื่นแผนการเดินทางให้
“พวกเธอก็ผ่านการฝึกประเภทลอบเร้นมาแล้วด้วยยังไงก็ใช้ให้เป็นประโยชน์ด้วยนะ” คุณซิลเวอร์กล่าว
“ครับ/ค่ะ” เอมและชิตตอบกลับพร้อมกัน
“ยังไงก็ผมขอไอนั้นได้ไหมครับ” ชิตชี้ไปยังพาหนะขนาดเล็กสำหรับนั่งสองคนที่จอดอยู่
ชิตและเอมก็เตรียมตัวจัดอุปกรณ์ เอมเรียกให้กิ้งก่าที่เธออัญเชิญมาเกาะที่แขนเพื่อที่ใช้ความสามารถทำให้เอมกับชิตหายตัวได้ขณะเดินทางไปที่จุดหมาย ส่วนชิตใช้พลังของอัญมณีเปลี่ยนรูปร่างจากดาบเป็นถุงมือโดยอัญมณีจะประดับอยู่ทางด้านหลังของถุงมือ
“ทำแบบนี้ก็ได้ด้วย??” เอมที่เห็นถึงกับสงสัย
“นี่คือพลังของอัญมณีที่ใช้พลังสองชิ้นร่วมกันนะทำให้สามารถเปลี่ยนแปรงรูปร่างให้เป็นอาวุธรูปแบบไหนก็ได้” ชิตตอบกลับ “เปลี่ยนเป็นแบบนี้จะสะดวกดีด้วยสิ เอาละไปกันได้แล้ว”
ชิตกระโดดขึ้นไปที่ตำแหน่งคนขับ ส่วนเอมขึ้นไปที่ที่นั่งด้านหลังหลังจากนั้นชิตก็ขับยานออกไปด้วยความเร็วสูงทันที อีกด้านคุณซิลเวอร์เองก็อาสาไปกับพวกทหารไปที่ศูนย์หลบภัยที่นิสาอยู่
เอมใช้พลังของกิ้งก่าที่เธออัญเชิญมาเพื่อให้ยานที่นั่งทั้งลำล่องหนได้และชิตใช้พลังของอัญมณีสร้างเกราะแสงเอามาคลุมยานไว้ป้องกันการตรวจจับ ใช้เวลาไม่ถึง 15 นาทีก็ถึงที่หมายส่วนที่บริเวณโดยรอบของสถานีรถไฟฝ่ายทหารและเจ้าหน้าที่ภาคสนามก็เริ่มปะทะกับฝูงบ็อทที่บุกมาแล้ว
เมื่อถึงที่หมายชิตจอดยานไปที่ตรอกเล็กๆด้านหลังของโกดังร้าง
โกดังร้างทางด้านเหนือของเมืองถูกปิดตัวลงเมื่อ 2 ปีที่แล้วด้วยปัญหาด้านเศรษฐกิจตั้งอยู่บนพื้นที่ 4 ไร่มีอาคารสามหลังโดยรอบมีกำแพงสูงสองเมตรพร้อมลวดหนามมีหญ้าขึ้นแซม
ชิตใช้พลังมองดูคลื่นเพื่อหากับดักหรืออุปกรณ์จับสัญญาณที่พื้นที่ด้านในและตรวจดูภายในโกดังว่าอาคารไหนเป็นเป้าหมาย
เอมและชิตกระโดดข้ามกำแพงเข้าไปเนื่องจากทั้งสองใส่ชุดเสริมกำลังทำให้กระโดดได้สูงสุดถึง 5 เมตรทำให้กระโดดข้ามกำแพงได้สบายทั้งสองได้ทำการล่องหนและค่อยๆไปสำรวจในแต่ละอาคาร เอมกับชิตพบว่าภายในอาคารโกดังมีรถบรรทุกหลายคันจอดอยู่ภายใน สิ่งที่บรรทุกมาคือพวกบ็อทที่ยังไม่ได้เปิดใช้งาน
ทันใดนั้นเองรถบรรทุกเหล่านั้นก็เคลื่อนตัวออกจากโกดังไป ทำให้เอมที่แอบอยู่ะทำลายรถบรรทุกที่กำลังเคลื่อนที่ออกไป แต่ชิตที่อยู่ใกล้ๆก็ได้ห้ามไว้ก่อน เนื่องจากชิตจับคลื่นพลังได้ว่าอาคารอีกสองหลังก็มีคลื่นลักษณะเดียวกันถ้าทำส่งเสียงดังไปอาจทำให้พวกบ็อทหลายร้อยตัวที่อยู่ในอาคารโกดังข้างเคียงอาจตื่นขึ้นและมารุมได้รวมถึงตัวการที่ควบคุมอยู่อาจหนีไปได้ ดังนั้นเอมก็ทำได้แค่ส่งข้อมูลของรถบรรทุกและพวกบ็อทไปให้กองบัญชาการเท่านั้น
ทั้งสองจึงไปที่อาคารโกดังหลังที่สอง
“เอมระวังไว้หน่อยนะที่นี่เหมือนมีใครบางคนอยู่...ทางนั้น” ชิตกระซิบพร้อมชี้ไปทางที่มีคนอยู่
ทั้งสองค่อยย่องเข้าไปยังเป้าหมาย
เอมกับชิตเห็นคนหนึ่งคนกำลังทำอะไรบางอย่างอยู่หน้าจอของเครื่องมือขนาดใหญ่ คนนั้นสวมชุดสีขาวยาวเกือบถึงพื้นมีที่คลุมหัวสวมหน้ากากสีขาว
ทันใดนั้นคนที่อยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ก็หันมาทางเอมและชิตที่กำลังล่องหนอยู่ เขาได้ขว้างอะไรบางอย่างมาทางเอมและชิตทำให้พวกเขาต้องหลบ สิ่งที่เอมละชิตเห็นคือ ใยแมงมุม
“อย่าคิดว่าชั้นไม่รู้นะ ถึงจะล่องหนไปก็เท่านั้น” เสียงของผู้หญิงมาจากคนปริศนา พร้อมยิงใยแมงมุมออกมาทางข้อมือไปทางชิตและเอม ทำให้ชิตและเอมรู้ได้ทันทีว่าเธอคนนี้ตรวจจับการล่องหนได้จึงคลายสภาพการล่องหนพร้อมหลบใยที่ออกมา
ชิตไม่รอช้าพุ่งเข้าหมายต่อยไปที่คนปริศนา แต่คนปริศนาก็ยิงใยออกขวางไว้ ชิตเองก็สร้างโล่แสงจากอัญมณีที่ถุงมือของเขามากันก่อนใยจะถึงตัวและพุ่งทะลุโล่แสงไปต่อย แต่คนปริศนาก็สามารถรับหมัดของชิตไว้ได้และเตะชิตจนกระเด็นออกมาทางเดิม
“ใช้ได้นิ” เสียงผู้หญิงของคนปริศนากล่าวชมชิต จากนั้นคนปริศนายิงใยออกมาใส่ชิตและเอมอีกครั้งจนทั้งสองต้องหลบจากนั้น คนปริศนาก็ยิงใยออกมาอย่างต่อเนื่องจนเอมกับชิตต้องไปหลบที่หลังเสา
“งั้นช่วยไม่ได้แล้ว” เสียงผู้หญิงของคนปริศนาพูดอีกครั้ง พลางเอามมือจะไปกดปุ่มที่อยู่บนแป้นพิมพ์ของเครื่องมือขนาดใหญ่นั้น
เอมเองที่เห็นว่าถ้าปล่อยให้คนปริศนากดกดปุ่มได้คงเกิดเรื่องไม่ดีแน่จึงให้กิ้งก่าของเธอใช้ลิ้นไปดึงมือของคนปริศนาไว้ก่อนกดปุ่มได้ นั้นเองทำให้คนปริศนาเริ่มโกรธเขาปล่อยใยออกมาจากฝ่ามืออีกข้างใยก็รวมตัวกันเป็นของมีคมคล้ายมีดสั้นมาเฉือนไปที่ลิ้นของกิ้งก่าของเอมทำให้ลิ้นที่จับมือของคนปริศนาไว้คลายลง
ชิตเห็นดังนั้นจึงพุ่งเข้าไปต่อยอีกครั้งโดยใช้พลังของอัญมณีเพิ่มความเร็ว แต่คนปริศนาก็ใช้มีดสั้นที่สร้างจากใยมารับหมัดไว้ได้แล้วใช้มืออีกข้างสร้างใยมามัดตัวของชิดไว้จนขยับไม่ได้ เอมที่มองอยู่จึงพุ่งเข้าไปแล้วใช้หางของกิ้งก่าของเธอฟันไปที่คนปริศนา คนปริศนารับหางกิ้งก่าด้วยมีดสั้นแต่มืออีกข้าของเอมได้จับไปที่เสื้อของคนปริศนาแล้วเหวี่ยงไปทางด้านหลังทำให้เสื้อกาวที่ถูกเหวี่ยงด้วยความแรงก็ขาดออกมา คนปริศนาก็กระเด็นไปทางทานหลังของเอมทันที
คนปริศนาทรุดตัวลงจากแรงเหวี่ยงพร้อมทำเสียงไม่พอใจออกมา เสื้อที่สวมอยู่ก็ขาดหลุดออกมารวมถึงหน้ากากก็หลุดออกมาเช่นกันทำให้เห็นร่างกายของคนปริศนามีรูปร่างเป็นผู้หญิงผมแดงยาวถึงกลางหลังทั้งตัวของร่างกายเป็นสีดำลายแดง มีแขนงยื่นออกมาจากด้านหลังจำนวนสี่คู่ ที่บริเวณเท่าถึงน่องมีขนยาวคล้ายสวมรองเท้ารวมถึงที่ข้อมือก็มีขนเช่นกันที่บริเวณเอวเขาสวมเข็มขัดโดยด้านข้างของเข็มขัดได้ห้อยแท่งสี่แท่งคล้ายกระบองยาวประมาณหนึ่งฟุดห้อยด้านละสองแท่งและที่หัวเข็มขัดขนากเท่าฝ่ามือมีตราสัญลักษณ์บางอย่างอยู่
เมื่อเอมและชิตเห็นหัวเข็มขัดก็ถึงกับตกใจ
“ไม่จริง...องค์กรอาร์มเมอร์”
เอม ชิตและคุณซิลเวอร์ในชุดสูทสีดำได้มาถึงจุดในแผนที่บอกเอาไว้ ที่ทั้งสามเข้ามาเป็นส่วนของย่านร้านค้าทั้ง เป็นที่โล่งแต่สามยังคงต้องระวังตัวไว้เนื่องจากบริเวณนี้ส่วนที่เป็นซุ้มร้านค้าอยู่มากทำให้การมองเห็นในมุมกว้างไม่ค่อยดีนัก ทั้งนี้ภารกิจหลักของพวกเขาคือหาเหลือผู้รอดชีวิตและเคลียร์พื้นที่จากสิ่งรุกรานก่อนหน่วยรักษาพยาบาลมาถึง
ภารกิจและเป้าหมายของผู้ปฏิบัติงานภาคสนามได้ถูกประเมินไว้แล้วให้เหมาะสมกับพลังและความสามารถของแต่ละคนดังนั้นในกลุ่มนี้ที่มีเอมสามารถใช้สัตว์อัญเชิญทำให้เหมาะกับการทำงานในที่โล่งรวมถึงเอมกับชิตเป็นนักศึกษาทำให้ในการผู้ปฏิบัติงานภาคสนามจริงต้องมีอาจารย์หรือเจ้าหน้าที่ของวิทยาลัยเป็นหัวหน้าทีม(แล้วไหงตอนสู้กับโครวไม่มีใครโผล่มาเลยหะ)
ชิตใช้การมองคลื่นพลังมองดูรอบๆพื้นที่เพื่อค้นหาผู้รอดชีวิตและศัตรู พบว่าบริเวณนี้ไม่มีผู้คนหรือคนบาดเจ็บอยู่คาดว่าจะอพยบกันไปก่อนพวกบ็อทจะมาถึงแต่จากคลื่นที่ชิตเห็นพบพวกบ็อท 15 ตัวกำลังตรงมาทางนี้
“เตรียมตัวนะทุกคนพวกมันกำลังจะมาแล้วมาทางด้านหน้าเลย” ชิตเอ่ยขึ้น
บ็อท 3 ตัวพุ่งเข้ามาหาทั้งสามคนจากด้านหน้า เอมเรียกสิงโตน้ำแข็งออกมาสร้างกำแพงน้ำแข็งมาป้องกันและหยุดการเคลื่อนไหวของบ็อท 3 ตัวนั้น จากนั้นคุณซิลเวอร์ใช้ปืนที่เป็นอาวุธประจำตัวยิงไปที่บ็อทที่ถูกหยุดการเคลื่อนไหวจนบ็อทล้มลง
คุณซิลเวอร์เป็นอดีตเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการจากหน่วยงานกลาง เขาไม่ได้มีพลังเฉพาะตัวเหมือนเอมกับชิต เขาสามารถใช้เวทย์มนต์ขั้นพื้นฐานได้เล็กน้อยโดยจะเป็นพวกเกี่ยวกับการเคลื่อนที่เป็นหลัก อาวุธประจำตัวของคุณซิลเวอร์เป็นปืนยาวขนาดกลางตามมาตรฐานของเจ้าหน้าที่ภาคสนาม กระสุนที่ใช้เป็นกระสุนจริงที่สามารถยิงออกมารวมกับเวทย์ได้โดยใช้หินพลังเวทย์ที่ติดตั้งภายในปืน สำหรับปืนของคุณซิลเวอร์ได้ดัดแปลงให้สามารถยิงได้ทั้งแบบใช้กระสุนกับไม่ใช้กระสุนแต่เป็นพลังเวทย์ได้
“3 ตัวแรกล้มไปแล้ว ยังมีอีก 12 ตัว” ชิตพูดขึ้น
บ็อท 4 ตัวพุ่งมามางด้านข้างของพวกเขา เอมจึงให้สิงโตน้ำแข็งสร้างกำแพงมากันด้านข้างไม่ให้เข้ามาถึงตัว ตามด้วยชิตใช้ความสามารถของอัญมณีทำให้ดาบโจมตีระยะไกลได้และเสริมด้วยพลังอัญมณีอีกชิ้นเพื่อเพิ่มความรุนแรกของการโจมตี ทำให้สามารถโจมตีทะลุกายยาเกราะของพวกบ็อทได้ การโจมตีนี้ทำให้สังหารพวกบ็อทไปได้สองตัวและอีกสองตัวได้รับบาดเจ็บ
ยังไม่ทันที่ชิตจะลงดาบสองพวกบ็อทอีก 8 ตัวก็กรูเข้ามาจากอีกฝั่ง เอมอัญเชิญนกสายฟ้ากับกระทิงไฟเพิ่มอีกสองตัวเพื่อไปช่วยกันไม่ให้พวกบ็อทเข้ามาถึงตัวตามด้วยคุณซิลเวอร์ก็ระดมยิงไปที่บ็อทให้ล้มลงไปได้สองตัว
“มาแบบนี่มันโจมตีไม่ทัน” คุณซิลเวอร์พูดขึ้นมา ทันใดนั้นบ็อทสองตัวก็เข้ามาถึงตัวคุณซิลเวอร์ได้ใช้พันท้ายปืนตีไปที่บ็อทสองตัวนั้นเพื่อให้พวกมันกระเด็นออกไป เนื่องจากใส่ชุดสูทเสริมพลังทำให้บ็อทกระเด็นออกมาระยะห่างพอสมควร เอมเห็นดังนั้นจึงให้นกสายฟ้าของเธอโจมตีด้วยปีกเหล็กกล้า(นางแอ่นหวนกลับนั่นล่ะ)ซ้ำทันที
หลังจากชิตได้ล้มบ็อท 4 ตัวทางด้านของเขาได้สำเร็จก็เลยหันมาช่วยทางฝั่งของเอมกับคุณซิลเวอร์โดยยังคงให้สิงโตน้ำแข็งคุมเชิงทางด้านเดิมไว้ก่อนเพื่อกันการบุกของพวกบ็อทเข้ามาอีก ชิตโจมตีระยะไกลด้วยดาบไปที่พวกบ็อทที่เหลือที่กำลังหลบไฟของกระทิงไฟอยู่ทำให้ล้มไปอีกตัว ทั้นใดนั้นก็มีบ็อทตัวหนึ่งที่หลบการโจมตีของชิตได้ก็พุ่งเข้ามาทันที ชิตใช้พลังของอัญมณีที่อยู่บนดาบสร้างเกราะแสงเขามากันเอาไว้ทำและฟันสวนกลับไปจนบ็อทตัวนั้นขาดครึ่ง
สำหรับบ็อทอีกสองตัวเมื่อเห็นว่าทางด้านเอมเปิดโล่งจึงพุ่งไปทางเอมทันทีชิตใช้พลังของอัญมณีเพิ่มความเร็วของตัวเองพุ่งไปหาเอมและใช้เกราะแสงจากดาบตั้งป้องกันไว้ แต่ก่อนที่พวกบ็อททั้งสองตัวจะเข้าถึงตัวชิตกับเอม สิงโตน้ำแข็งที่คุมเชิงไว้ก็เข้ามาตะปบไว้หนึ่งตัว ส่วนอีกบ็อทอีกตัวก็ได้คุณซิลเวอร์ยิงสกัดเอาไว้ก่อนจะถูกชิตฟันซ้ำจนนิ่งไป
“ชิตตรวจสอบรอบๆพวกมันจะมาเพิ่มอีกไหม” คุณซิลเวอร์หันไปถามชิตหลังจากบ็อทตัวสุดท้ายลงไปนอน
“บริเวณรอบๆนี้ไม่น่าจะมีแล้วครับ...” ชิตตอบกลับ “แต่ว่าข้างหน้ามีพวกบ็อทกว่า 200 ตัวกำลังตรงมาทางนี้ครับ” ชิตแสดงสีหน้าตกใจออกมาพร้อมกับเห็นว่าหน่วยที่ส่งเออกไปเคลียร์พื่นที่กำลังถ่อยร่นกลับมา
“อะไรนะ หมายความว่าไงถ้าดูจากจำนวนพวกมันที่ผ่านมาไม่น่าจะเหลือถึง 50 ตัวแล้ว” คุณซิลเวอร์ก็ตกใจเหมือนกันจึงรีบแจ้งไปยังกองบัญชาการที่อยู่ในสถานีรถไฟฟ้า
ทางกองบัญชาการที่ได้ตอบกลับมาว่าสถานการณ์ตอนนี้ได้ถูกยกระดับเป็นรหัสแดงหรือการต่อต้านสิ่งรุกรานระดับเอส โดยจะมีการเข้ามาของทหารและเจ้าหน้าที่ภาคสนามระดับกลางลงมา
เสียงของยานขนพร้อมเงาปรากฏขึ้นให้เห็นบนท้องฟ้ายาน 7 ลำพร้อมเจ้าหน้าที่กว่า 20 คนในยานแต่ละลำได้บินตรงมาที่ เอม ชิตและคุณซิลเวอร์ยืนอยู่ เมื่อยานจอดลงทหารและเจ้าหน้าที่ภาคสนามพร้อมอาวุธครบมือได้มาจัดการพื้นที่บริเวณนี้สำหรับรับมือกองทัพบ็อทที่ใกล้เข้ามา กองทัพบ็อทกว่า 200 ตัวได้ใช้ถนนเส้นหลักเดินทัพหมายโจมตีสถานีรถไฟที่ใช้เป็นที่อพยพและกองบัญชาการซึ่งตอนนี้ได้มีการอพยพประชาชนออกนอกเขตนี้แล้ว
“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ เบรกเกอร์” เสียงของผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่หนาสวมชุดเกราะกล่าวทักทายคุณซิลเวอร์
“อ้าวผู้กองมาร์โคร มาถึงแนวหน้าเลยนะ” คุณซิลเวอร์ตอบกลับไป
“แย่หน่อยนะที่มาเจอกันในสถานการณ์แบบนี้” ผู้กองมาร์โครพูดกลับพร้อมหัวเราะ
ขณะนั้นเองเอมและชิตก็ได้การติดต่อจากนิสาที่หายเข้าไปในตัวเมืองตั้งแต่ตอนมาถึงเขตนี้
“นิสา เป็นไงบ้างรู้สึกว่าพวกบ็อทมีจำนวนเพิ่มขึ้นจากรายงานตอนแรก” เอมถามนิสาทันทีที่ติดต่อได้
“ชั้นไม่เป็นไร ตอนนี้อยู่กับไวท์แล้ว” นิสาตอบกลับมา “ตอนนี้อยู่ในที่ปลอดภัยแล้วกับประชาชนบางส่วน ต่อให้มีเฟรย่าทิ้งลงมาที่เราอยู่ก็ไม่เป็นอะไร”(เฟรย่า ระเบิดทำลายล้างสูงเพียง 1 ลูกทำให้เขตนี้หายไปไปจากแผนที่ได้ทันที)
“แล้วพวกเธออยู่ที่ไหนพวกชั้นจะรีบไปหา” เอมถามด้วยความเป็นห่วง
“ไม่ต้องเป็นห่วงพวกเราหรอก แต่ว่ามีที่นึงที่อยากให้พวกเธอไปตรวจสอบดู” นิสาตอบกลับพร้อมส่งตำแหน่งและข้อมูลของสถานที่ให้เอมและชิต เอมและชิตจึงนำข้อมูลที่ได้ไปปรึกษากับคุณซิลเวอร์ที่กำลังคุยอยู่กับผู้กอง
“คุณซิลเวอร์ นิสาบอกว่าตอนนี้อยู่ในที่ปลอดภัยกับไวท์และประชาชนบางส่วน และนี่เป็นข้องมูลที่นิสาส่งมาให้พวกเราตรวจสอบ” เอมแสดงให้คุณซิลเวอร์เห็นเป็นตำแหน่งของโกดังร้างทางด้านเหนือของเมือง
คุณซิลเวอร์จึงได้ไปคุยกับผู้กองมาร์โคร
“ผู้กองนี่คือข้อมูลจากพันตรีไวท์” คุณซิลเวอร์พูดขึ้นขณะเอมกำลังแสดงตำแหน่งบนแผนที่
“อืมเข้าใจแล้ว” ผู้กองมาร์โครตอบทันทีก่อนจะตะโกนเรียกทหารเพื่อทำภารกิจ “ขอทหาร 30 นายไปช่วยประชาชนที่ตำแหน่ง H4”
“รู้ด้วยหรือครับว่าที่หลบภัยที่นิสากับไวท์อยู่ อยู่ที่ไหน?” ชิตถามด้วยความสงสัย
“ก็บ้านของไวท์กับนิสาไงบ้านของสองคนนั้นอยู่ชิดกันเลย อีกอย่างพวกเขาคงกางเขตป้องกันไว้แล้วคงไม่ต้องห่วงอะไร” คุณซิลเวอร์ตอบชิต
จากนั้นผู้กองหันมาถามเอมกับชิตว่า “พวกนายสามารถใช้พลังประเภทซ่อนตัวไม่ก็พวกอำพลางตัวได้ไหม”
“ได้ครับ/ค่ะ” เอมกับชิตตอบพร้อมกันด้วยน้ำเสียงที่สั่นๆ
“อธิบายมาหน่อย” ผู้กองมาร์โครถามต่อ
“ของดิฉันใช้สัตว์อัญเชิญตัวนี้ออกมาเกาะที่แขนขวาแค่นี้ก็หายตัวได้แล้วแถมยังใช้โจมตีได้อีกด้วยค่ะ” เอมเรียกให้นกสายฟ้า สิงโตน้ำแข็งและกระทิงไฟกกลับไปหลังจากนั้นเธอก็อัญเชิญสัตว์เป็นกิ้งก่าตัวขนาดเท่าฝ่ามือมาเกาะที่แขนขอเธอจากนั้นตัวเธอก็หายตัวอีกทั้งยังแสดงให้ผู้กองเห็นว่าหางของกิ้งก่าตัวนี้เป็นมีดสั้นได้อีกด้วย
“ของผมก็ใช้ความสามารถของอัญมณีสร้างเกราะแสงมาคลุมตัวเท่านี้ก็หายตัวได้ ทั้งยังมีพลังสำหรับเคลื่อนที่ได้รวดเร็วด้วยครับ” ชิตตอบผู้กองมาร์โครพร้อมแสดงความสามารถให้ดู
“นี่เบรกเกอร์คนของนายใช้ได้เลยนี่นา” ผู้กองมาร์โครหันไปพูดกับคุณซิลเวอร์ “เอาละพวกเธอจะต้องไปตามที่ผู้พันไวท์บอกด้วยภารกิจลอบเร้น มีอะไรสงสัยไหม” ผู้กองมาร์โครมอบหมายภารกิจให้เอมกับชิต
“แล้วทำไมถึงไม่ยกกองทหารไปถล่มเลยละครับ” ชิตถามด้วยความสงสัยซึ่งเอมเองก็สงสัยเหมือนกัน
“นั่นก็เพราะว่า ขืนยกโขยงบุกไปพวกบ็อทก็ยกโขยงตามกันไปนะสิ” คุณซิลเวอร์ที่ฟังอยู่พูดขึ้นมา “อีกทั้งกองทหารที่มากันนี่มีแต่ทหารกับเจ้าหน้าที่ระดับกลางลงไปซึ่งแน่นอนคนที่มีความสามารถสูงในบริเวณนี้ก็มีแค่พวกเธอเท่านั้น อีกอย่างที่ตรงนั้นคาดว่าน่าจะเป็นฐานลับอะไรบางอย่างถ้าเข้าจัดการได้ละก็อาจหยุดการทำงานของพวกบ็อทก็ได้”
“ยังไงก็ฝากด้วยละกัน” ผู้กองมาร์โครใช้มือตะเบ๊ะให้เอมกับชิตและยื่นแผนการเดินทางให้
“พวกเธอก็ผ่านการฝึกประเภทลอบเร้นมาแล้วด้วยยังไงก็ใช้ให้เป็นประโยชน์ด้วยนะ” คุณซิลเวอร์กล่าว
“ครับ/ค่ะ” เอมและชิตตอบกลับพร้อมกัน
“ยังไงก็ผมขอไอนั้นได้ไหมครับ” ชิตชี้ไปยังพาหนะขนาดเล็กสำหรับนั่งสองคนที่จอดอยู่
ชิตและเอมก็เตรียมตัวจัดอุปกรณ์ เอมเรียกให้กิ้งก่าที่เธออัญเชิญมาเกาะที่แขนเพื่อที่ใช้ความสามารถทำให้เอมกับชิตหายตัวได้ขณะเดินทางไปที่จุดหมาย ส่วนชิตใช้พลังของอัญมณีเปลี่ยนรูปร่างจากดาบเป็นถุงมือโดยอัญมณีจะประดับอยู่ทางด้านหลังของถุงมือ
“ทำแบบนี้ก็ได้ด้วย??” เอมที่เห็นถึงกับสงสัย
“นี่คือพลังของอัญมณีที่ใช้พลังสองชิ้นร่วมกันนะทำให้สามารถเปลี่ยนแปรงรูปร่างให้เป็นอาวุธรูปแบบไหนก็ได้” ชิตตอบกลับ “เปลี่ยนเป็นแบบนี้จะสะดวกดีด้วยสิ เอาละไปกันได้แล้ว”
ชิตกระโดดขึ้นไปที่ตำแหน่งคนขับ ส่วนเอมขึ้นไปที่ที่นั่งด้านหลังหลังจากนั้นชิตก็ขับยานออกไปด้วยความเร็วสูงทันที อีกด้านคุณซิลเวอร์เองก็อาสาไปกับพวกทหารไปที่ศูนย์หลบภัยที่นิสาอยู่
เอมใช้พลังของกิ้งก่าที่เธออัญเชิญมาเพื่อให้ยานที่นั่งทั้งลำล่องหนได้และชิตใช้พลังของอัญมณีสร้างเกราะแสงเอามาคลุมยานไว้ป้องกันการตรวจจับ ใช้เวลาไม่ถึง 15 นาทีก็ถึงที่หมายส่วนที่บริเวณโดยรอบของสถานีรถไฟฝ่ายทหารและเจ้าหน้าที่ภาคสนามก็เริ่มปะทะกับฝูงบ็อทที่บุกมาแล้ว
เมื่อถึงที่หมายชิตจอดยานไปที่ตรอกเล็กๆด้านหลังของโกดังร้าง
โกดังร้างทางด้านเหนือของเมืองถูกปิดตัวลงเมื่อ 2 ปีที่แล้วด้วยปัญหาด้านเศรษฐกิจตั้งอยู่บนพื้นที่ 4 ไร่มีอาคารสามหลังโดยรอบมีกำแพงสูงสองเมตรพร้อมลวดหนามมีหญ้าขึ้นแซม
ชิตใช้พลังมองดูคลื่นเพื่อหากับดักหรืออุปกรณ์จับสัญญาณที่พื้นที่ด้านในและตรวจดูภายในโกดังว่าอาคารไหนเป็นเป้าหมาย
เอมและชิตกระโดดข้ามกำแพงเข้าไปเนื่องจากทั้งสองใส่ชุดเสริมกำลังทำให้กระโดดได้สูงสุดถึง 5 เมตรทำให้กระโดดข้ามกำแพงได้สบายทั้งสองได้ทำการล่องหนและค่อยๆไปสำรวจในแต่ละอาคาร เอมกับชิตพบว่าภายในอาคารโกดังมีรถบรรทุกหลายคันจอดอยู่ภายใน สิ่งที่บรรทุกมาคือพวกบ็อทที่ยังไม่ได้เปิดใช้งาน
ทันใดนั้นเองรถบรรทุกเหล่านั้นก็เคลื่อนตัวออกจากโกดังไป ทำให้เอมที่แอบอยู่ะทำลายรถบรรทุกที่กำลังเคลื่อนที่ออกไป แต่ชิตที่อยู่ใกล้ๆก็ได้ห้ามไว้ก่อน เนื่องจากชิตจับคลื่นพลังได้ว่าอาคารอีกสองหลังก็มีคลื่นลักษณะเดียวกันถ้าทำส่งเสียงดังไปอาจทำให้พวกบ็อทหลายร้อยตัวที่อยู่ในอาคารโกดังข้างเคียงอาจตื่นขึ้นและมารุมได้รวมถึงตัวการที่ควบคุมอยู่อาจหนีไปได้ ดังนั้นเอมก็ทำได้แค่ส่งข้อมูลของรถบรรทุกและพวกบ็อทไปให้กองบัญชาการเท่านั้น
ทั้งสองจึงไปที่อาคารโกดังหลังที่สอง
“เอมระวังไว้หน่อยนะที่นี่เหมือนมีใครบางคนอยู่...ทางนั้น” ชิตกระซิบพร้อมชี้ไปทางที่มีคนอยู่
ทั้งสองค่อยย่องเข้าไปยังเป้าหมาย
เอมกับชิตเห็นคนหนึ่งคนกำลังทำอะไรบางอย่างอยู่หน้าจอของเครื่องมือขนาดใหญ่ คนนั้นสวมชุดสีขาวยาวเกือบถึงพื้นมีที่คลุมหัวสวมหน้ากากสีขาว
ทันใดนั้นคนที่อยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ก็หันมาทางเอมและชิตที่กำลังล่องหนอยู่ เขาได้ขว้างอะไรบางอย่างมาทางเอมและชิตทำให้พวกเขาต้องหลบ สิ่งที่เอมละชิตเห็นคือ ใยแมงมุม
“อย่าคิดว่าชั้นไม่รู้นะ ถึงจะล่องหนไปก็เท่านั้น” เสียงของผู้หญิงมาจากคนปริศนา พร้อมยิงใยแมงมุมออกมาทางข้อมือไปทางชิตและเอม ทำให้ชิตและเอมรู้ได้ทันทีว่าเธอคนนี้ตรวจจับการล่องหนได้จึงคลายสภาพการล่องหนพร้อมหลบใยที่ออกมา
ชิตไม่รอช้าพุ่งเข้าหมายต่อยไปที่คนปริศนา แต่คนปริศนาก็ยิงใยออกขวางไว้ ชิตเองก็สร้างโล่แสงจากอัญมณีที่ถุงมือของเขามากันก่อนใยจะถึงตัวและพุ่งทะลุโล่แสงไปต่อย แต่คนปริศนาก็สามารถรับหมัดของชิตไว้ได้และเตะชิตจนกระเด็นออกมาทางเดิม
“ใช้ได้นิ” เสียงผู้หญิงของคนปริศนากล่าวชมชิต จากนั้นคนปริศนายิงใยออกมาใส่ชิตและเอมอีกครั้งจนทั้งสองต้องหลบจากนั้น คนปริศนาก็ยิงใยออกมาอย่างต่อเนื่องจนเอมกับชิตต้องไปหลบที่หลังเสา
“งั้นช่วยไม่ได้แล้ว” เสียงผู้หญิงของคนปริศนาพูดอีกครั้ง พลางเอามมือจะไปกดปุ่มที่อยู่บนแป้นพิมพ์ของเครื่องมือขนาดใหญ่นั้น
เอมเองที่เห็นว่าถ้าปล่อยให้คนปริศนากดกดปุ่มได้คงเกิดเรื่องไม่ดีแน่จึงให้กิ้งก่าของเธอใช้ลิ้นไปดึงมือของคนปริศนาไว้ก่อนกดปุ่มได้ นั้นเองทำให้คนปริศนาเริ่มโกรธเขาปล่อยใยออกมาจากฝ่ามืออีกข้างใยก็รวมตัวกันเป็นของมีคมคล้ายมีดสั้นมาเฉือนไปที่ลิ้นของกิ้งก่าของเอมทำให้ลิ้นที่จับมือของคนปริศนาไว้คลายลง
ชิตเห็นดังนั้นจึงพุ่งเข้าไปต่อยอีกครั้งโดยใช้พลังของอัญมณีเพิ่มความเร็ว แต่คนปริศนาก็ใช้มีดสั้นที่สร้างจากใยมารับหมัดไว้ได้แล้วใช้มืออีกข้างสร้างใยมามัดตัวของชิดไว้จนขยับไม่ได้ เอมที่มองอยู่จึงพุ่งเข้าไปแล้วใช้หางของกิ้งก่าของเธอฟันไปที่คนปริศนา คนปริศนารับหางกิ้งก่าด้วยมีดสั้นแต่มืออีกข้าของเอมได้จับไปที่เสื้อของคนปริศนาแล้วเหวี่ยงไปทางด้านหลังทำให้เสื้อกาวที่ถูกเหวี่ยงด้วยความแรงก็ขาดออกมา คนปริศนาก็กระเด็นไปทางทานหลังของเอมทันที
คนปริศนาทรุดตัวลงจากแรงเหวี่ยงพร้อมทำเสียงไม่พอใจออกมา เสื้อที่สวมอยู่ก็ขาดหลุดออกมารวมถึงหน้ากากก็หลุดออกมาเช่นกันทำให้เห็นร่างกายของคนปริศนามีรูปร่างเป็นผู้หญิงผมแดงยาวถึงกลางหลังทั้งตัวของร่างกายเป็นสีดำลายแดง มีแขนงยื่นออกมาจากด้านหลังจำนวนสี่คู่ ที่บริเวณเท่าถึงน่องมีขนยาวคล้ายสวมรองเท้ารวมถึงที่ข้อมือก็มีขนเช่นกันที่บริเวณเอวเขาสวมเข็มขัดโดยด้านข้างของเข็มขัดได้ห้อยแท่งสี่แท่งคล้ายกระบองยาวประมาณหนึ่งฟุดห้อยด้านละสองแท่งและที่หัวเข็มขัดขนากเท่าฝ่ามือมีตราสัญลักษณ์บางอย่างอยู่
เมื่อเอมและชิตเห็นหัวเข็มขัดก็ถึงกับตกใจ
“ไม่จริง...องค์กรอาร์มเมอร์”
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ