จ้าวยุทธภพเหนือฟ้าออนไลน์
9.8
เขียนโดย ACInterfes
วันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2561 เวลา 21.31 น.
20 ตอน
0 วิจารณ์
19.22K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2561 21.37 น. โดย เจ้าของนิยาย
9) บทที่ 9
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความผ่านไป 10 นาที หยิงฉางก็พบกลุ่มคนทั้ง 60 คน เขาไม่รอช้าสั่งให้หลินปิงตามไปอย่างเงียบๆ ทันที
"เอาอย่างไงต่อหยิงฉาง" หลินปิงถามอย่างสงสัย
"เราไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะไปที่ไหน เพราะฉะนั้นเราต้องตามไปติดๆ อย่างนี้เรื่อยๆ ไปก่อน...เมื่อถึงเวลาฉันจะบอกเอง" หยิงฉางพูดขึ้นอย่างเป็นงานเป็นการ หลินปิงพยักหน้ารับ
เวลาผ่านไปหลายต่อหลายชั่วโมง ก็เข้าสู่เวลาพลบค่ำ ผู้เล่น 60 กว่าคนที่มาถึงปากทางลานโล่งก็หยุดพัก 20 นาที และเดินตามหัวหน้ากลุ่มไปใหม่ หยิงฉางสะกิดเพื่อนรักของตัวเองให้ตามไปติดๆ
ไม่นานกลุ่มผู้เล่น 60 คนก็มาโผล่มาที่ลานโล่งแห่งหนึ่ง ซึ่งเต็มไปด้วยสัตว์อสูรจำพวกต้นไม้กินคนมากมายมหาศาล หยิงฉางที่เห็นเป้าหมายก็รีบเบรกตัวฉับพลัน
"ได้แผนยัง" หลินปิงถามขึ้น
"ที่โล่งเกินไป ทรัพยากรของเราและทักษะยุทธไม่ดีพอ ที่จะเริ่มแผนในที่โล่งแจ้งโดยไม่ได้เตรียมการมาก่อน เพราะฉะนั้นเราต้องรอดูกันต่อไป" หยิงฉางพูดขึ้นก่อนจะหันไปมองหัวกลุ่ม และผู้เล่นอีกจำนวนมหาศาลกำลังเข้าฟาดฟันสัตว์อสูรต้นไม้กินคนอยู่อย่างขะมักเขม้น,เขม้นขะมัก หยิงฉางหันกลับมาก็เห็น หลินปิงกำลังสะบัดมือไปมา
"เป็นอะไร? " หยิงฉางถามอย่างสงสัย
"ร้อน! แม่งลมไม่มีเลย" หลินปิงพูดด้วยน้ำเสียงหอบๆ ก่อนจะแลบลิ้นออกมาแสดงละครต่อ หยิงฉางที่ได้ยินก็หูผึ่งทันที 'ร้อนเหรอ' ว่าแล้วหยิงฉางก็เงยหน้ามองต้นไม้สูง 21 เมตร ซึ่งเขาคิดว่าสูงสุดในหมู่บรรดาต้นไม้ที่เขาเห็นแล้ว
"ฉันขอเวลาแป๊บหนึ่ง" หยิงฉางพูดจบ เขาก็โดดไปยังต้นไม้เป้าหมายทันที โดยทิ้งให้หลินปิงนั่งหอบลิ้นห้อยแบบงงๆ ฟูมม! เมื่อหยิงฉางขึ้นมาจุดสูงสุด เขาก็พบกับสายลมอ่อนๆ หยิงฉางไม่รอช้าหันไปมองที่โล่งแจ้งทันที
"เฮ้อ! ว่าแล้วเชียว" หยิงฉางพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงโล่งใจ เบื้องหน้าของเขาห่างออกไปจากที่โล้งแจ้งปรากฏยอดเขาขนาดใหญ่ ซึ่งมันตั้งเหมือนกับหอคอย และยังปิดทางลมอย่างที่เขาคิดไว้จริงๆ ด้วย แต่นั่นก็ปิดได้ไม่หมดสักเท่าไหร่
"รู้แล้วจะต้องทำอะไร...แต่! ฉันจะไปที่นั่นได้อย่างไง" หยิงฉางมองไปยังสัตว์อสูรต้นไม้กินคนจำนวนมหาศาล ที่โผล่ออกมาจากอีกฝั่งหนึ่ง เขาได้แต่ถอนหายใจแบบทิ้งขว้าง
"จากระยะนี้เข้าไปอีกฝั่งต้องอ้อมไปสินะ เมื่อถึงจุดนั้นน่าจะห่างจากยอดเขาไปเกือบ 300 เมตร" หยิงฉางเปิดกระเป๋ามิติดู ก็พบว่ามีระเบิดแสงเพียง 9 ลูกเท่านั้น
"ต้องไปปรึกษาหลินปิงก่อนสินะ" หยิงฉางพูดจบก็ลงจากต้นไม้ และกลับมาที่เดิมทันที ก็พบกับหลินปิงที่กำลังแทะขนมรูปร่างอ่อยอยู่อย่างเมามัน
"มันใช้เวลากินไหม ไอ้แพนด้า! " หลินปิงได้ยินก็พยักหน้ารับ ก่อนจะเก็บอ่อยใส่ในกระเป๋ามิติทันที หยิงฉางที่เห็นว่าอีกฝ่ายทำธุระเสร็จแล้วก็พูดต่อ
"ฉันมีแผนแล้ว แต่มีความเสี่ยงสูงมากเลยทีเดียว" หยิงฉางพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด แววตาทอประกายความไม่แน่นอนออกมา หลินปิงที่ได้ยินก็ถามขึ้นปัจจุบันทันด่วน
"ความเสี่ยง? มีไรต้องเสี่ยง" หยิงฉางได้ยิน ก็พาหลินปิงขึ้นไปดูจุดที่เขาเคยใช้สอดส่อง
"แผนของฉันคือ พวกเราต้องฝ่าดงสัตว์อสูรต้นไม้กินคนจำนวนมาก และปัญหา คือ! ระเบิดแสงของฉันไม่พอ มีเพียง 9 ลูกเท่านั้น" หลินปิงได้ยินก็หัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนจะโบกมือไปมา และพูดขึ้น
"ฉันมีระเบิดทุกชนิดตั้ง 200 กว่าลูกนู้น" หยิงฉางที่ได้ยินก็ขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ
"ทีกูไปซื้อระเบิดก็ไม่บอก ไม่เคยจะช่วยเหลือ" หลินปิงได้ยินก็เกาหัวไปมาก่อนจะพูดขึ้น
"ฉันลืมอะ...เอาเป็นว่าเราฝ่าเข้าไปเสร็จแล้ว ต้องทำไงต่อ" หยิงฉางสูดหายใจลึก และเคลื่อนตัวเข้าไปกระซิบบอกแผนทันที หลินปิงที่ได้ยินแผนก็ทำหน้าดีใจทันที
"เยี่ยม! แผนนี้แหละ" หยิงฉางที่ได้ยินก็กลอกตาไปมา
"นี้ก็ทำร้ายระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อมเหมือนกันนั่นแหละ ทำไมไม่ห้ามวะ" หลินปิงได้ยินก็ยักไหล่ไม่สนไม่แคร์
"แผนนี้มีโอกาสสำเร็จตั้ง 40 กว่าเปอร์เซ็นต์ แต่ไอ้แผนวิ่งนำไฟของนาย มันแทบไม่มีเปอร์เซ็นต์รอดเลย เพราะลมตอนนั้น แรงมาก! " หยิงฉางถอนหายใจออกมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
"เอาละ เตรียมตัวให้ดี...เราต้องแข่งกับเวลาแล้ว เริ่ม!!! " ว่าจบทั้งสองหนุ่มก็พุ่งตัวอ้อมป่าทันที
ณ ที่โล่งแจ้ง 30 นาทีต่อมา หลังจากที่หยิงฉางออกเดินทาง
"หัวหน้า! คนของเราตอนนี้เหลือแค่ 50 คนแล้วครับ" สมุนคนหนึ่งพูดขึ้น ก่อนจะวิ่งไปสมทบกับคนอื่น หัวหน้ากลุ่มหันไปมองรอบๆ อย่างเคร่งเครียด เมื่อพบว่าในสนามต่อสู้ของพวกเขา
ถูกแทนที่ไปด้วยสัตว์อสูรส่วนหนึ่ง ซึ่งสัตว์อสูรต้นไม้กินคนก็ลากไปกินทีละคนสองคน แน่นอนว่าทั้งหมดนี้ก็ไม่ได้เกิดจากความประมาท แต่เกิดจากที่ทุกคนเห็นแก่ตัวเป็นส่วนใหญ่
"เวรเอ๊ย! " หัวหน้ากลุ่มสบถขึ้นอย่างเหลืออด กรามขบเข้าหากันจนเป็นสันนูน แววตาทอประกายโทสะมหาศาล พื้นที่โดยรอบที่มีพลังลมปราณต่างแปรปรวนไปมาอย่างรุนแรง ทำให้ก้อนหินบนพื้นสั่นไหวไปมาราวกับมีเทพเซียนมาจุติ เมื่อผ่านไป 1 นาทีเขาก็สงบสติของตัวเองได้สำเร็จ เขาไม่รอช้าเรียกพวกของตัวเองที่มีระดับ 30 ออกมาทันที
"ถ้าเราไม่สามารถไปถึงส่วนลึกของหุบเขาได้ในระยะเวลา 10 ชั่วโมงละก็...ภารกิจลับของเราจะถูกยกเลิกทันทีเลยนะ..." ชายหนุ่มผมทองพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงตื่นตระหนก แววตาแฝงไปด้วยความกลัวและความกังวลเอาไว้
"รู้แล้วน่า! ฉันก็ไม่ได้อยากให้เป็นอย่างนี้สักหน่อย...ชิร์ ไอ้พวกสวะนี้ทำประโยชน์อะไรไม่ได้เลย เอาแต่หนีอย่างเดียว" หัวหน้ากลุ่มพูดขึ้นอย่างหัวเสีย เมื่อแผนของเขาพังไม่เป็นท่า
"เอาไงต่อดีหัวหน้า" ชายผมทองพูดขึ้น ก่อนจะตวัดดาบฟาดฟันสัตว์อสูรต้นไม้กินคนรอบข้าง
"ไม่เป็นไร ฉันคิดไว้แล้วต้องเป็นอย่างนี้" หัวหน้ากลุ่มพูดขึ้นอย่างใจเย็น ก่อนจะระเบิดพลังลมปราณออกมาจนสุด ฟูม!
"ทุกคนฟังคนให้ดี!!! ยกโล่ที่ฉันซื้อมาให้ตั้งเป็นฐานไว้ ทำเหมือนตอนที่ฉันเคยสอน...เราจะถล่มมันให้ราบ" โอ้!! วินาทีต่อมาทุกคนก็ยกโล่สีเงินระดับ 2 ออกมากันสัตว์อสูรทันที ผ่านไป 10 นาทีการเคลื่อนไหวของลูกทีม ก็ทำให้หัวหน้ากลุ่มยิ้มอย่างปลื้มปีติ
"ถ้าลุยอย่างนี้ต่อไป เราอาจจะไปถึงส่วนลึกของหุบเขาก็ได้" ตูมๆ! ก๊าซๆ!
"บอสสัตว์อสูรต้นไม้กินคน ระดับ 30 เตรียมโจมตี! "
"บอสสัตว์อสูรต้นไม้กินคน ระดับ 30 เตรียมโจมตี! "
"บัดซบ! มันมีสองต้น...พวกนายแบ่งกัน 3 คนต่อหนึ่งต้น ไป!!! " หัวหน้ากลุ่มพูดขึ้นอย่างหัวเสีย ผู้เล่นที่ตามมาก็ถอยกรูดทันท่วงที
"ทุกคนทำตามแผนเอาไว้ ไอ้สองต้นพวกนี้ พวกฉันจะจัดการเอง" ครับ! เมื่อเห็นผู้เล่นคนอื่นๆ ทำตามแผน ที่วางไว้ หัวหน้ากลุ่มก็ปลดปล่อยทักษะยุทธออกมาทันที โดยเป้าหมายของเขาคือ...การทำให้ตัวบอสออกจาเส้นทางขบวนให้ได้
"รับไปซะ! คลื่นกระแทก! " ตูมมม! ร่างของบอสต้นไม้กินคนกระเด็นออกไป 2 เมตร เพื่อนทั้งสองคนที่รอจังหวะอยู่แล้ว ก็ไม่รอช้าเปิดทักษะโจมตีทันที
"กรงเล็บหมูบิน! "
"อักษรคลื่นวิทยุ! " ตูมมๆ! ร่างของบอสต้นไม้กินคนกระเด็นห่างจากเส้นทางขบวน 10 เมตรในที่สุด
"ชื่อทักษะใครตั้งวะ....มา! ล่อแม่งเลย! " โอ้! วินาทีต่อมาร่างของหัวหน้ากลุ่มก็หยิบดาบระดับ 3 ออกมาพุ่งตัวเข้าหาอีกฝ่ายทันที
"ดาบประจักษ์เพลิงโลกา! " ฟูม! ดาบสีเงินระดับ 3 แปรเปลี่ยนเป็นดาบเพลิงสีแดงเดือด หัวหน้ากลุ่มไม่รอช้าฟาดฟันดาบเข้าที่ร่างบอสต้นไม้กินคนอย่างแรง ตูม! ก๊าซ! ร่างของอีกฝ่ายปรากฏรอยไหม้มหาศาล ซึ่งในขณะที่บอสสัตว์อสูรไม่ระวัง ก็ถูกเพื่อนของหัวหน้ากลุ่มเข้าโจมตีทันที
"ดาบเพลิงผ่าอสูร! " ดาบสีเงินทอแสงสีเพลิงออกมา เขาไม่รอช้าฟันเข้าที่ลำตัวบอสต้นไม้กินคนอย่างแรง ตูม! ด้วยทักษะระดับกลางทำให้การโจมตีมีความรุนแรงมากขึ้น ร่างของสัตว์อสูรถูกแรงระเบิดจนกระเด็นไปด้านข้าง ซึ่งเป็นที่ๆ เพื่อนอีกคนอยู่พอดี
"รับไปซะ! คลื่นกายาอัดกระแทก! " ตูม! ฝ่ามือทั้งสองกดลงเหนือหัวของสัตว์อสูร เกิดเป็นออร่าสีม่วงกระแทกกับพื้นอย่างแรง ร่างของบอสต้นไม้กินคนก็ถูกกดลงตามทันที
"ตายซะ! ไอ้ต้นไม้น่าโง่" หัวหน้ากลุ่มพูดขึ้น ก่อนจะดีดตัวพุ่งไปหา แต่แล้วก็เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น
ตูมๆ ๆ ๆ! บรึมๆ ๆ ๆ! เสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหวจากโคนหุบเขา ทำให้การต่อสู้ไม่ว่าจะเป็นสัตว์อสูรหรือคนก็ต้องหยุดชะงักลง ราวกับถูกหยุด Stop ไว้
ภาพของเปลวเพลิงสีแดงเดือด แผดเผาที่เผาโค่นยอดเขา ทำให้ยอดเขาเกิดอาการเสียศูนย์ร่วงลงมายังจุดที่เขาอยู่อย่างรวดเร็ว หัวหน้าและทุกคนไม่ว่าจะเป็นสัตว์อสูรก็ต่างตกอยู่ในภวังค์ แต่เมื่อได้สติมา ก็สายเกินไปแล้ว
"เวรแล้ว! หนี!!! "
บรึมมม! ตูมมมมม!
"เอาอย่างไงต่อหยิงฉาง" หลินปิงถามอย่างสงสัย
"เราไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะไปที่ไหน เพราะฉะนั้นเราต้องตามไปติดๆ อย่างนี้เรื่อยๆ ไปก่อน...เมื่อถึงเวลาฉันจะบอกเอง" หยิงฉางพูดขึ้นอย่างเป็นงานเป็นการ หลินปิงพยักหน้ารับ
เวลาผ่านไปหลายต่อหลายชั่วโมง ก็เข้าสู่เวลาพลบค่ำ ผู้เล่น 60 กว่าคนที่มาถึงปากทางลานโล่งก็หยุดพัก 20 นาที และเดินตามหัวหน้ากลุ่มไปใหม่ หยิงฉางสะกิดเพื่อนรักของตัวเองให้ตามไปติดๆ
ไม่นานกลุ่มผู้เล่น 60 คนก็มาโผล่มาที่ลานโล่งแห่งหนึ่ง ซึ่งเต็มไปด้วยสัตว์อสูรจำพวกต้นไม้กินคนมากมายมหาศาล หยิงฉางที่เห็นเป้าหมายก็รีบเบรกตัวฉับพลัน
"ได้แผนยัง" หลินปิงถามขึ้น
"ที่โล่งเกินไป ทรัพยากรของเราและทักษะยุทธไม่ดีพอ ที่จะเริ่มแผนในที่โล่งแจ้งโดยไม่ได้เตรียมการมาก่อน เพราะฉะนั้นเราต้องรอดูกันต่อไป" หยิงฉางพูดขึ้นก่อนจะหันไปมองหัวกลุ่ม และผู้เล่นอีกจำนวนมหาศาลกำลังเข้าฟาดฟันสัตว์อสูรต้นไม้กินคนอยู่อย่างขะมักเขม้น,เขม้นขะมัก หยิงฉางหันกลับมาก็เห็น หลินปิงกำลังสะบัดมือไปมา
"เป็นอะไร? " หยิงฉางถามอย่างสงสัย
"ร้อน! แม่งลมไม่มีเลย" หลินปิงพูดด้วยน้ำเสียงหอบๆ ก่อนจะแลบลิ้นออกมาแสดงละครต่อ หยิงฉางที่ได้ยินก็หูผึ่งทันที 'ร้อนเหรอ' ว่าแล้วหยิงฉางก็เงยหน้ามองต้นไม้สูง 21 เมตร ซึ่งเขาคิดว่าสูงสุดในหมู่บรรดาต้นไม้ที่เขาเห็นแล้ว
"ฉันขอเวลาแป๊บหนึ่ง" หยิงฉางพูดจบ เขาก็โดดไปยังต้นไม้เป้าหมายทันที โดยทิ้งให้หลินปิงนั่งหอบลิ้นห้อยแบบงงๆ ฟูมม! เมื่อหยิงฉางขึ้นมาจุดสูงสุด เขาก็พบกับสายลมอ่อนๆ หยิงฉางไม่รอช้าหันไปมองที่โล่งแจ้งทันที
"เฮ้อ! ว่าแล้วเชียว" หยิงฉางพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงโล่งใจ เบื้องหน้าของเขาห่างออกไปจากที่โล้งแจ้งปรากฏยอดเขาขนาดใหญ่ ซึ่งมันตั้งเหมือนกับหอคอย และยังปิดทางลมอย่างที่เขาคิดไว้จริงๆ ด้วย แต่นั่นก็ปิดได้ไม่หมดสักเท่าไหร่
"รู้แล้วจะต้องทำอะไร...แต่! ฉันจะไปที่นั่นได้อย่างไง" หยิงฉางมองไปยังสัตว์อสูรต้นไม้กินคนจำนวนมหาศาล ที่โผล่ออกมาจากอีกฝั่งหนึ่ง เขาได้แต่ถอนหายใจแบบทิ้งขว้าง
"จากระยะนี้เข้าไปอีกฝั่งต้องอ้อมไปสินะ เมื่อถึงจุดนั้นน่าจะห่างจากยอดเขาไปเกือบ 300 เมตร" หยิงฉางเปิดกระเป๋ามิติดู ก็พบว่ามีระเบิดแสงเพียง 9 ลูกเท่านั้น
"ต้องไปปรึกษาหลินปิงก่อนสินะ" หยิงฉางพูดจบก็ลงจากต้นไม้ และกลับมาที่เดิมทันที ก็พบกับหลินปิงที่กำลังแทะขนมรูปร่างอ่อยอยู่อย่างเมามัน
"มันใช้เวลากินไหม ไอ้แพนด้า! " หลินปิงได้ยินก็พยักหน้ารับ ก่อนจะเก็บอ่อยใส่ในกระเป๋ามิติทันที หยิงฉางที่เห็นว่าอีกฝ่ายทำธุระเสร็จแล้วก็พูดต่อ
"ฉันมีแผนแล้ว แต่มีความเสี่ยงสูงมากเลยทีเดียว" หยิงฉางพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด แววตาทอประกายความไม่แน่นอนออกมา หลินปิงที่ได้ยินก็ถามขึ้นปัจจุบันทันด่วน
"ความเสี่ยง? มีไรต้องเสี่ยง" หยิงฉางได้ยิน ก็พาหลินปิงขึ้นไปดูจุดที่เขาเคยใช้สอดส่อง
"แผนของฉันคือ พวกเราต้องฝ่าดงสัตว์อสูรต้นไม้กินคนจำนวนมาก และปัญหา คือ! ระเบิดแสงของฉันไม่พอ มีเพียง 9 ลูกเท่านั้น" หลินปิงได้ยินก็หัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนจะโบกมือไปมา และพูดขึ้น
"ฉันมีระเบิดทุกชนิดตั้ง 200 กว่าลูกนู้น" หยิงฉางที่ได้ยินก็ขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ
"ทีกูไปซื้อระเบิดก็ไม่บอก ไม่เคยจะช่วยเหลือ" หลินปิงได้ยินก็เกาหัวไปมาก่อนจะพูดขึ้น
"ฉันลืมอะ...เอาเป็นว่าเราฝ่าเข้าไปเสร็จแล้ว ต้องทำไงต่อ" หยิงฉางสูดหายใจลึก และเคลื่อนตัวเข้าไปกระซิบบอกแผนทันที หลินปิงที่ได้ยินแผนก็ทำหน้าดีใจทันที
"เยี่ยม! แผนนี้แหละ" หยิงฉางที่ได้ยินก็กลอกตาไปมา
"นี้ก็ทำร้ายระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อมเหมือนกันนั่นแหละ ทำไมไม่ห้ามวะ" หลินปิงได้ยินก็ยักไหล่ไม่สนไม่แคร์
"แผนนี้มีโอกาสสำเร็จตั้ง 40 กว่าเปอร์เซ็นต์ แต่ไอ้แผนวิ่งนำไฟของนาย มันแทบไม่มีเปอร์เซ็นต์รอดเลย เพราะลมตอนนั้น แรงมาก! " หยิงฉางถอนหายใจออกมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
"เอาละ เตรียมตัวให้ดี...เราต้องแข่งกับเวลาแล้ว เริ่ม!!! " ว่าจบทั้งสองหนุ่มก็พุ่งตัวอ้อมป่าทันที
ณ ที่โล่งแจ้ง 30 นาทีต่อมา หลังจากที่หยิงฉางออกเดินทาง
"หัวหน้า! คนของเราตอนนี้เหลือแค่ 50 คนแล้วครับ" สมุนคนหนึ่งพูดขึ้น ก่อนจะวิ่งไปสมทบกับคนอื่น หัวหน้ากลุ่มหันไปมองรอบๆ อย่างเคร่งเครียด เมื่อพบว่าในสนามต่อสู้ของพวกเขา
ถูกแทนที่ไปด้วยสัตว์อสูรส่วนหนึ่ง ซึ่งสัตว์อสูรต้นไม้กินคนก็ลากไปกินทีละคนสองคน แน่นอนว่าทั้งหมดนี้ก็ไม่ได้เกิดจากความประมาท แต่เกิดจากที่ทุกคนเห็นแก่ตัวเป็นส่วนใหญ่
"เวรเอ๊ย! " หัวหน้ากลุ่มสบถขึ้นอย่างเหลืออด กรามขบเข้าหากันจนเป็นสันนูน แววตาทอประกายโทสะมหาศาล พื้นที่โดยรอบที่มีพลังลมปราณต่างแปรปรวนไปมาอย่างรุนแรง ทำให้ก้อนหินบนพื้นสั่นไหวไปมาราวกับมีเทพเซียนมาจุติ เมื่อผ่านไป 1 นาทีเขาก็สงบสติของตัวเองได้สำเร็จ เขาไม่รอช้าเรียกพวกของตัวเองที่มีระดับ 30 ออกมาทันที
"ถ้าเราไม่สามารถไปถึงส่วนลึกของหุบเขาได้ในระยะเวลา 10 ชั่วโมงละก็...ภารกิจลับของเราจะถูกยกเลิกทันทีเลยนะ..." ชายหนุ่มผมทองพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงตื่นตระหนก แววตาแฝงไปด้วยความกลัวและความกังวลเอาไว้
"รู้แล้วน่า! ฉันก็ไม่ได้อยากให้เป็นอย่างนี้สักหน่อย...ชิร์ ไอ้พวกสวะนี้ทำประโยชน์อะไรไม่ได้เลย เอาแต่หนีอย่างเดียว" หัวหน้ากลุ่มพูดขึ้นอย่างหัวเสีย เมื่อแผนของเขาพังไม่เป็นท่า
"เอาไงต่อดีหัวหน้า" ชายผมทองพูดขึ้น ก่อนจะตวัดดาบฟาดฟันสัตว์อสูรต้นไม้กินคนรอบข้าง
"ไม่เป็นไร ฉันคิดไว้แล้วต้องเป็นอย่างนี้" หัวหน้ากลุ่มพูดขึ้นอย่างใจเย็น ก่อนจะระเบิดพลังลมปราณออกมาจนสุด ฟูม!
"ทุกคนฟังคนให้ดี!!! ยกโล่ที่ฉันซื้อมาให้ตั้งเป็นฐานไว้ ทำเหมือนตอนที่ฉันเคยสอน...เราจะถล่มมันให้ราบ" โอ้!! วินาทีต่อมาทุกคนก็ยกโล่สีเงินระดับ 2 ออกมากันสัตว์อสูรทันที ผ่านไป 10 นาทีการเคลื่อนไหวของลูกทีม ก็ทำให้หัวหน้ากลุ่มยิ้มอย่างปลื้มปีติ
"ถ้าลุยอย่างนี้ต่อไป เราอาจจะไปถึงส่วนลึกของหุบเขาก็ได้" ตูมๆ! ก๊าซๆ!
"บอสสัตว์อสูรต้นไม้กินคน ระดับ 30 เตรียมโจมตี! "
"บอสสัตว์อสูรต้นไม้กินคน ระดับ 30 เตรียมโจมตี! "
"บัดซบ! มันมีสองต้น...พวกนายแบ่งกัน 3 คนต่อหนึ่งต้น ไป!!! " หัวหน้ากลุ่มพูดขึ้นอย่างหัวเสีย ผู้เล่นที่ตามมาก็ถอยกรูดทันท่วงที
"ทุกคนทำตามแผนเอาไว้ ไอ้สองต้นพวกนี้ พวกฉันจะจัดการเอง" ครับ! เมื่อเห็นผู้เล่นคนอื่นๆ ทำตามแผน ที่วางไว้ หัวหน้ากลุ่มก็ปลดปล่อยทักษะยุทธออกมาทันที โดยเป้าหมายของเขาคือ...การทำให้ตัวบอสออกจาเส้นทางขบวนให้ได้
"รับไปซะ! คลื่นกระแทก! " ตูมมม! ร่างของบอสต้นไม้กินคนกระเด็นออกไป 2 เมตร เพื่อนทั้งสองคนที่รอจังหวะอยู่แล้ว ก็ไม่รอช้าเปิดทักษะโจมตีทันที
"กรงเล็บหมูบิน! "
"อักษรคลื่นวิทยุ! " ตูมมๆ! ร่างของบอสต้นไม้กินคนกระเด็นห่างจากเส้นทางขบวน 10 เมตรในที่สุด
"ชื่อทักษะใครตั้งวะ....มา! ล่อแม่งเลย! " โอ้! วินาทีต่อมาร่างของหัวหน้ากลุ่มก็หยิบดาบระดับ 3 ออกมาพุ่งตัวเข้าหาอีกฝ่ายทันที
"ดาบประจักษ์เพลิงโลกา! " ฟูม! ดาบสีเงินระดับ 3 แปรเปลี่ยนเป็นดาบเพลิงสีแดงเดือด หัวหน้ากลุ่มไม่รอช้าฟาดฟันดาบเข้าที่ร่างบอสต้นไม้กินคนอย่างแรง ตูม! ก๊าซ! ร่างของอีกฝ่ายปรากฏรอยไหม้มหาศาล ซึ่งในขณะที่บอสสัตว์อสูรไม่ระวัง ก็ถูกเพื่อนของหัวหน้ากลุ่มเข้าโจมตีทันที
"ดาบเพลิงผ่าอสูร! " ดาบสีเงินทอแสงสีเพลิงออกมา เขาไม่รอช้าฟันเข้าที่ลำตัวบอสต้นไม้กินคนอย่างแรง ตูม! ด้วยทักษะระดับกลางทำให้การโจมตีมีความรุนแรงมากขึ้น ร่างของสัตว์อสูรถูกแรงระเบิดจนกระเด็นไปด้านข้าง ซึ่งเป็นที่ๆ เพื่อนอีกคนอยู่พอดี
"รับไปซะ! คลื่นกายาอัดกระแทก! " ตูม! ฝ่ามือทั้งสองกดลงเหนือหัวของสัตว์อสูร เกิดเป็นออร่าสีม่วงกระแทกกับพื้นอย่างแรง ร่างของบอสต้นไม้กินคนก็ถูกกดลงตามทันที
"ตายซะ! ไอ้ต้นไม้น่าโง่" หัวหน้ากลุ่มพูดขึ้น ก่อนจะดีดตัวพุ่งไปหา แต่แล้วก็เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น
ตูมๆ ๆ ๆ! บรึมๆ ๆ ๆ! เสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหวจากโคนหุบเขา ทำให้การต่อสู้ไม่ว่าจะเป็นสัตว์อสูรหรือคนก็ต้องหยุดชะงักลง ราวกับถูกหยุด Stop ไว้
ภาพของเปลวเพลิงสีแดงเดือด แผดเผาที่เผาโค่นยอดเขา ทำให้ยอดเขาเกิดอาการเสียศูนย์ร่วงลงมายังจุดที่เขาอยู่อย่างรวดเร็ว หัวหน้าและทุกคนไม่ว่าจะเป็นสัตว์อสูรก็ต่างตกอยู่ในภวังค์ แต่เมื่อได้สติมา ก็สายเกินไปแล้ว
"เวรแล้ว! หนี!!! "
บรึมมม! ตูมมมมม!
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ