Your Heart's Guardian แล้วรักฉันจะดูแลเธอ
เขียนโดย Gwen_mk
วันที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2561 เวลา 11.03 น.
แก้ไขเมื่อ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2561 22.53 น. โดย เจ้าของนิยาย
8) 8: ที่ร้านหมูกระทะ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
“คัท! โอเค เรียบร้อยค้าบ!” เสียงของก้องตะโกนสั่งให้หยุดการแสดงฉากสุดท้ายของวันนี้
เราถ่ายกันไปทั้งหมด 5 ฉากซึ่งโลเคชั่นทั้งหมดก็เป็นรอบๆตึกนิเทศ นอกจากซีนแรกที่ทำเอาฉันร้องไห้ไปแล้ว นอกจากนั้นก็เป็นซีนที่ฉันกับซันชายน์ทำนู่นทำนี่ด้วยกัน เล่นบาสบ้าง อ่านหนังสือด้วยกันบ้าง บางซีนก็เป็นซันชายน์ช่วยฉันยกของหนักๆตามบทที่เขาต้องคอยมาเป็นฮีโร่ที่สร้างรอยยิ้มให้ฉันเสมอๆ ซึ่งในเวลาที่เราถ่ายกัน ซันชายน์ก็มักจะทำให้ฉันยิ้มออกมาได้จริงๆโดยไม่ต้องแกล้งทำเลย นี่สินะ คนที่เรียนการแสดงมา แสดงเก่งจนทำให้คนที่แสดงด้วยอินตามไปด้วยเลย
“เห้ย! นี่ก็จะทุ่มแล้วอ่ะ ไปกินข้าวด้วยกันป่ะ” ซันชายน์พูดเสียงดังให้ทั้งกลุ่มได้ยินขณะที่พวกเรากำลังเก็บของ
“กูไปๆ” บาสยกมือตอบอย่างกระตือรือร้น
“เออ เอาดิ” ก้องพูด
“อืม” บอลพยักหน้าเห็นด้วยนิ่งๆ
“ไปค่า~ เออนี่ น้ำค้าง กั้ง แล้วก็ทอฟฟี่ก็ไปด้วยกันสิ” โอปอลหันมาชวนพวกฉัน
“ไปสิคะเจ้ พวกเราก็ว่างๆอยู่แล้ว เนอะชะนี” ท๊อฟฟี่ตอบตกลงแทนพวกฉันเสร็จสรรพ แต่ฉันกับกั้งเองก็ไม่ได้ขัดอะไร
“งั้นเราขอเสนอ หมูกระทะ! ฉลองเปิดกล้องวันแรก” ซันชายน์พูด
“โอเคตามนั้นครับโผมมม” บาสสรุป
ณ ร้านหมูกระทะ
“ไอ้ซันมึงย่างหมูเผื่อกูด้วยดิ กูมีอยู่มือเดียวเนี่ย” ก้องบ่น
“ก็ใครใช้ให้มึงเอารถไปคว่ำวะ ลำบากกูเล่นหนังแทนไม่พอ ยังให้กูมาปรนนิบัติมึงอีกเนอะไอ้เวร” ซันชายน์บ่น
“เออออ ไม่งั้นกูจะมีเพื่อนอย่างมึงไว้ทำไมวะ”
“งั้นมึงก็ยื่นจานมากูขี้เกียจเอื้อมข้ามเตา”
“อ่ะนี่” เสียงกั้งพูดแทรกการถกเถียงของทั้งสองขึ้น พร้องทั้งคีบหมูลงวางให้ในจานของก้องด้วย เล่นเอาพวกเราอึ้งกันไปเล็กน้อย
“ขอบคุณครับ” ก้องพูดจาสุภาพเพราะเขากับกั้งแทบไม่ได้คุยกันเลยตั้งแต่ที่เริ่มทำงานมา คงจะเกรงใจคนแปลกหน้าที่เพิ่งรู้จัก
“ไม่เป็นไร เราอยู่ใกล้กว่าซันชายน์แถมปิ้งได้สองเตาด้วย นายอยากกินอะไรก็บอกละกัน”
“คะ..ครับ ขอบคุณนะ”
“นี่! ไม่ต้องพูดจาสุภาพขนาดนั้นก็ได้ เพื่อนๆกันทั้งนั้น” กั้งพูดด้วยท่าทางชิลๆตามสไตล์สาวมั่นของนาง แล้วก็หันไปปิ้งหมูต่อ
ฉันมองสองคนแล้วก็หันไปมองซันชายน์ยิ้มๆด้วยความรู้สึกดีที่เพื่อนๆเราเข้ากันได้ โต๊ะพวกเรามีสามเตา ฉันกับกั้งนั่งตรงข้ามกันและนั่งระหว่างสองเตาด้วย ข้างซ้ายฉันคือซันชายน์ที่นั่งตรงข้ามกับก้อง ส่วนข้างขวาของฉันเป็นทอฟฟี่ที่นั่งตรงข้ามกับเจ้โอปอล ส่วนถัดต่อไปก็คือบอลกับบาสที่นั่งตรงข้ามกันปิ้งหมูอยู่เตาที่สาม เรียกได้ว่าครึกครื้นกันเลยทีเดียวเพราะกลุ่มใหญ่มาก
“แล้วสุดท้ายเจ้ก็นัดเขาไปเจอ แต่พอเจอกันจริงๆก็ได้พบว่า เป็นสาวทั้งคู่จ้า~จากที่จะได้ผู้ ก็เลยกลายเป็นได้เพื่อนสาวไปอีกคนซะงั้น เจ้ล่ะเพลีย” เสียงโอปอลที่เล่าประสบการณ์จากการเล่นแอพหาคู่เกย์ทำเอาเรียกเสียงฮาให้กับพวกฉันได้ไม่น้อย
.........................
“มีใครจะเติมเครื่องดื่มไหมคร้าบบบ นายบาสคนนี้จะบริการให้”
“ทอฟฟี่ขอเติมค่า~” แล้วนางก็ยื่นแก้วไปพร้อมเอาตัวไปซบไหล่บาส
“อะแฮ่ม! กรุณาอย่าลวนลามน้องชายผมด้วยครับ” บอลพูดนิ่งๆในขณะที่กำลังยกแก้วน้ำขึ้นมาดื่ม เล่นเอาทอฟฟี่เด้งตัวออกจากบาสทันที ก็เรียกเสียงฮาจากทั้งโต๊ะไปอีกระลอก
..........................
“เจ้ปอล ถ้าให้หนูจัดอันดับนะ หนูยกให้ดัมเบล เดือนคณะวิทย์กีฬาที่หนึ่งของมหาลัยเลย หุ่นนี่ ซี๊ดดดดดด!” ทอฟฟี่พูดอย่างออกรส
“หูย บึกไป ดูเถื่อนๆไม่ใช่สายเจ้ อย่างเจ้นี่ต้องกัปตัน คณะแพทย์ ดีต่อใจมากกกกกกก” เจ้โอปอลก็ร่วมเม้าท์กับทอฟฟี่อย่างออกรสเช่นกัน
“เอ้าเจ้ปอล! แล้วอย่างงี้เจ้เอาผมไปไว้ไหนอ่ะ” ก้องโวยวายด้วยความน้อยใจ ซึ่งดูก็รู้ว่าแกล้งแหย่โอปอลเล่นเท่านั้น
“อย่างแกน่ะ ไปรักษาหน้าก่อนไป๊!”
“โหดร้ายจังวะ” ก้องบ่นอุบ
“มึงก็ไม่น่าไปแหย่เจ้เค้า ฮ่าๆ” ซันชายว่าขำๆ
.........................
“กูจะไปตักไอติม มึงเอาด้วยป่าวไอ้ก้อง” ซันชายน์ลุกขึ้นถาม
“เอาๆ กูเอารสวนิลลาผสมมะนาว” ก้องตอบ
“เจ้ฝากเอารสสตรอเบอร์รี่ด้วยสิ นั่งข้างในออกยากอ่ะ” โอปอลพูด
“งั้นเราขอฝากเอารสกาแฟด้วยได้ป่ะ” ทอฟฟี่ที่นั่งตรงกลางเช่นดียวกับโอปอลพูดขึ้น
ซันชายน์ยิ้มแหยๆเหมือนลำบากใจ ก็นั่นน่ะสินะ เล่นสั่งกันซะคนละรสอย่างนี้ก็ต้องตักหลายถ้วย แล้วเขาก็มีแค่สองมือ จะไปถือมาหมดยังไงหมด เดี๋ยวก็หกกันพอดี
“งั้นเดี๋ยวเราไปช่วยนะ มีใครเอาอะไรอีกไหม” ฉันพูดและลุกขึ้นตามซันชายน์
“น้ำ..แกตักรสสตรอเบอร์รี่ของเจ้โอปอลมาเยอะๆหน่อยละกัน ฉันกินถ้วยเดียวกับเจ้นะ” กั้งพูดขึ้นและหันไปถามประโยคสุดท้ายกับโอปอล ซึ่งโอปอลก็พยักหน้าตอบรับโดยดี
“งั้นผมขอกินรสกาแฟถ้วยเดียวกับทอฟฟี่คนสวยละกันนะคร้าบ” บาสพูดขึ้นด้วยความขี้เล่นอย่างเคย แต่ยัยทอฟฟี่เนี่ย เขินตัวบิดไปละ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่านางยินดีมาก
“โอเค บอลไม่เอาไรนะ” ฉันถามและบอลก็พยักหน้าตอบนิ่งๆ
“กั้ง แกปิ้งหมูสามชั้นเพิ่มให้ฉันด้วยดิ เดี๋ยวกลับมากินต่อ เอาเกรียมๆนะ” ฉันสั่งยัยกั้งที่พยักหน้ารับและก็เดินไปตักไอศครีมกับซันชายน์
“น้ำค้างยังไม่อิ่มหรอ เห็นจะกินหมูอีก” ซันชายน์ถามตอนที่เรากำลังเดินไปที่ตู้ไอศครีม
“อื้ม ถ้าเป็นพวกเนื้อนะ เรากินได้ไม่อั้นเลย แล้วยิ่งเป็นหมูกระทะบุฟเฟ่ต์อย่างนี้แล้ว เราต้องกินให้คุ้ม!” ฉันตอบด้วยรอยยิ้มและเราก็เดินมาถึงที่ตู้ไอศครีมพอดี
“แล้วเธอจะกินไอติมรสอะไรครับ” เขาหันมาถามฉันในขณะที่กำลังตักไอศกรีมรสวนิลลา
“อ๋อ เราไม่กินหรอก แค่เดินมาช่วยซันถือเฉยๆ” ฉันตอบ เพราะปกติฉันก็เป็นพวกไม่ชอบกินของหวานอยู่แล้ว
“อ้าวเหรอ งั้นก็ขอบใจนะ” ซันพูดกลับมาในขณะที่กำลังง่วนอยู่กับการตักไอครีมรสช็อกโกแลต
เราสองคนถือไอศครีมในมือคนละสองถ้วยเดินกลับมาที่โต๊ะ ตอนนี้เตาสองเตาดับไปแล้ว เหลือแค่เตาแรกที่ตอนนี้มีหมูสามชั้นปิ้งอยู่ ฉันส่งไอศกรีมในมือให้เพื่อนๆและนั่งลงกินหมูต่อ
“น้ำค้างนี่กินเก่งเอาเรื่องแฮะ” ก้องทักขึ้น
“ไอ้น้ำอ่ะนะ มันกินเก่งอย่าบอกใครเลย ฉันว่ามันเป็นโรคกระเพาะคราก กินก็เย๊อะเยอะ แต่ไม่อ้วน” ทอฟฟี่พูด
“ใช่ๆ ฉันโคตรอิจฉามันเลย ยิ่งเวลากินบุฟเฟต์กับมันอย่างนี้นะ มันกินเสร็จคนสุดท้ายตลอด ไม่รู้เอาไปยัดตรงไหน” กั้งเสริม
“พวกแกก็บ่นไปเรื่อย ฉันกินเยอะก็แค่พวกของคาว ฉันไม่ค่อยกินพวกแป้งหรือของหวานซะหน่อย” ฉันตอบพลางตักหมูและผักบุ้งเข้าปาก
“มิน่าล่ะ ถึงไม่กินไอติม” ซันชายน์พึมพำขึ้น และตักไอศกรีมเข้าปาก ซึ่งก็เป็นตอนที่ฉันกินเสร็จพอดี
“นี่น้ำค้าง ลองกินนี่ดูดิ มันอร่อยมากนะ” อยู่ๆซันชายน์ก็ยื่นช้อนไอศกรีมของเขาที่มีไอศครีมช็อกโกแลตอยู่มาตรงหน้าฉันที่กำลังกินน้ำล้างปากอยู่
“ไม่เป็นไรเราไม่ชอ..”
“เอาน่า ลองดูคำนึง มันอร่อยจริงๆนะ” แล้วเขาก็ส่งสายตาคะยั้นคะยอมาให้ฉัน เฮ้อ~ ยอมกินก็ได้
‘อ้ำ’ ฉันอ้าปากงับช้อนที่ถูกยื่นมาตรงหน้าไปโดยไม่ได้คิดอะไร พอรู้สึกตัวก็เห็นว่าโดนสายตาของเพื่อนๆมองอยู่ ก็เลยกลายเป็นว่าซันชายน์กำลังป้อนไอศครีมไปให้ฉันไปโดยปริยาย
“ป้อนกันซะด้วย” ก้องพูดด้วยน้ำเสียงล้อเลียน
“แถมกินช้อนเดียวกันด้วย” กั้งเสริม
“จูบทางอ้อม อร๊ายยย” โอปอลทำท่าเขิน
“ร้ายนะยะชะนี” ทอฟฟี่หันมากัดฉัน
“วี๊ดวิ้ววว” บาสส่งเสียงแซว
“หึ!” บอลหัวเราะในลำคอและยิ้มมุมปากด้วยท่าทางเจ้าเล่ห์
ซวยแล้วไงล่ะยัยน้ำค้าง! ฉันคิดในใจ พอหันไปมองซันชายน์ เขาที่ดึงช้อนกลับไปแล้วก็ก้มหน้ากินไอศครีมต่อโดยไม่พูดอะไร แต่ๆๆ ไอ้แก้มกับหูที่แดงขึ้นมานี่มันอะไร! แบบนี้เพื่อนก็ยิ่งเข้าใจผิดกันไปใหญ่สิ
“พอๆ หยุดแซวเลย มันไม่มีอะไรสักหน่อย พวกแกก็รู้ว่าช่วงนี้ฉันไม่ยุ่งเรื่องความรัก” มันจะไปมีได้ไง เขาไม่ได้จีบฉัน และฉันเองก็ไม่ได้อยากจะมีแฟนตอนนี้ด้วย แค่เรื่องกายที่พึ่งเกิดขึ้น ฉันก็ขอหยุดพักเรื่องพรรค์นั้นไปอีกนาน
“เออๆ ไม่มีก็ไม่มีย่ะ เก็บตังแล้วกลับหอกันเถอะ” ทอฟฟี่พูดตัดบทเมื่อเห็นว่าฉันไม่เล่นด้วยแล้วยังจะดึงเข้าดราม่าอีก
พวกเราจ่ายเงินแล้วเดินออกมาหน้าร้าน เราตกลงกันว่าโอปอลกลับกับบอลและบาสเพราะทั้งสามคนอยู่แถวหน้ามหาลัยเหมือนกัน ส่วนที่เหลือก็กลับรถฉันเพราะนอกจากฉันและซันชายน์แล้ว ทั้งสามคนก็อยู่หอในที่ไม่ไกลจากหอของฉันมากนัก
“เจอกันพรุ่งนี้นะพวกแก บายนะก้อง ซันชายน์” กั้งที่ถึงหอเป็นคนแรกบอกลาพวกเรา
“ขอบใจนะน้ำ เจอกันพรุ่งนี้ ฝันดีนะคะซันชายน์สุดหล่อ” ยัยทอฟฟี่พูดและส่งจูบให้ซันชายน์ส่งท้าย ฉันว่าจะฝันร้ายมากกว่าฝันดีซะล่ะมั้ง
“ขอบคุณที่มาส่งนะน้ำค้าง บายเว้ยไอ้ซัน อย่าจู๋จี๋กันมากล่ะ ฮ่าๆ” ก้องพูดจบก็ปิดประตูรถไปเลย ดันมาพูดแปลกๆทิ้งไว้ซะได้
“เอ่อ...สงสัยบทที่เล่นหนังคู่กันจะทำให้เรากลายเป็นคู่จิ้นไปแล้วล่ะมั้ง แหะๆ” ซันชายน์ที่นั่งข้างๆฉันพูดพร้อมเอานิ้วชี้เกาที่หางคิ้ว ...นี่เขาเขินสินะ
“อืม คงงั้นแหละ อย่าไปคิดมากเลย ฮ่าๆ” ฉันหัวเราะกลบเกลื่อนและออกรถเพื่อกลับหอ
“เออ! น้ำค้างได้ฟังเพลงของหนังสั้นเรายัง” ซันชายน์เปลี่ยนเรื่อง
“ยังเลย”
“งั้นเราขอต่อบลูทูธกับเครื่องเสียงรถนะ” ฉันพยักหน้าอนุญาตเขาก็เลยต่อบลูทูธเข้ากับเครื่องเสียงรถฉันและเริ่มเล่นเพลง Your Garden ของตู่ ภพธร
เธอไม่ต้องรู้ว่าฉันเป็นใคร
ไม่ต้องใส่ใจก็แค่รับความจริงใจไปเท่านั้น
ไม่ต้องสนใจฉัน
ขอให้ฉันได้ทำเพื่อเธอ
จะเป็นร่มเงาให้พักพิง
จะเป็นกิ่งไม้ให้เธอได้ยืนหลบฝน
ให้เธอไม่หนาว
แค่บางครั้งบางคราวก็เป็นสุขใจแล้ว
แค่อยากดูแลเธอรักเธอก็เท่านั้น
อาจไม่สำคัญก็ไม่เป็นไร
แค่เพียงได้เห็นเธอยิ้มออกก็สุขใจ
ไม่ต้องการอะไรมากมาย
แค่ได้รักเธอไปฝ่ายเดียวก็พอ
ในขณะที่เพลงกำลังเล่นไป ฉันก็ได้ยินซันชายน์ร้องเพลงคลอไปเบาๆด้วย จนเรามาถึงที่จอดรถของหอพัก เพลงยังเล่นไม่ทันจบ เราก็เลยอยู่ในรถเพื่อรอฟังเพลงให้จบ
“แค่เพียงได้เห็นเธอ ยิ้มออกก็สุขใจ~” อยู่ๆซันชายน์ก็ร้องเพลงท่อนนี้ดังขึ้นมา แล้วก็หันมาสบตากับฉันพอดี เขายิ้มให้ฉันด้วย หัวใจฉัน..เต้นผิดจังหวะอีกแล้วแฮะ ฉันที่ไม่รู้จะทำหน้ายังไงตอบ ก็เลยหันหน้าออกไปทางกระจกหน้ารถแทน จนกระทั่งเพลงจบ
“เพราะดีนะ ความหมายก็หวานมากเลย ไม่น่าเชื่อว่ากลุ่มผู้ชายอย่างพวกเธอจะเลือกเพลงนี้” ฉันพูดเพื่อกลบเกลื่อนอาการแปลกๆของตัวเองที่เกิดจากรอยยิ้มของเขา
“ก็นะ เจ้โอปอลแกเป็นแฟนคลับพี่ตู่ แถมเป็นคนเขียนบทคนเดียวของกลุ่ม พวกเราเลยต้องยอม” ซันชายน์ตอบ
“อ่า เจ้แกเล่าให้ฟังอยู่ ...เรากลับห้องกันเถอะ” ฉันชวนพร้อมกับดับเครื่องรถ
พวกเราเดินมาถึงทางขึ้นหอ แต่แล้วฉันก็พบกับผู้ชายคนหนึ่ง ยืนพิงเสาหน้าบันไดเล่นโทรศัพท์อยู่ ราวกับว่ารอใครสักคน ซึ่งใครคนนั้น ก็น่าจะเป็นฉันนี่แหละ
“พี่เตวิน” ฉันเผลอเรียกชื่อเขาออกมา ทำให้เจ้าตัวเงยหน้าขึ้นมามอง
________________________________________________________
จากใจคนเขียน
สำหรับตอนนี้อาจจะไม่ค่อยได้มีอะไรเกิดขึ้น แต่อยากให้คุ้นชินกับตัวละครและเห็นการพัฒนาความสัมพันธ์ในกลุ่มเพื่อนสักเล็กน้อย นอกจากนี้เราก็ได้แนบเพลง Your Garden ของพี่ตู่ ภพธร มาให้เปิดฟังเพื่อให้เข้ากับเรื่องด้วยนะคะ สาเหตุที่เลือกเพลงนี้ส่วนตัวเลยคือชอบเนื้อหาของเพลงค่ะ ฟังกี่ทีก็รู้สึกอบอุ่น เลยเอามาใช้อ้างอิงในการสร้างซันชายน์ขึ้นมาด้วย ยังไงเราก็หวังว่าทุกคนจะยังติดตามและสนุกไปกับเรื่องราวของนิยายเรื่องนี้นะคะ
Gwen
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ