Your Heart's Guardian แล้วรักฉันจะดูแลเธอ

8.1

เขียนโดย Gwen_mk

วันที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2561 เวลา 11.03 น.

  9 ตอน
  6 วิจารณ์
  10.59K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2561 22.53 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) 2: ตั้งหลัก

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ตั้งหลัก

 

“ฮืออออออออ ฟืดดดดดด”

“(- -)!”

“ฮึก...ฮึก..โฮลลลลลลล”

“นี่แก ฉันขอถามอะไรอย่างสิ” ท็อป หรือทอฟฟี่ เพื่อนสาวประเภทสองกำลังนั่งเท้าคางอยู่บนโซฟาและมองมาที่ฉันที่กำลังร้องไห้ฟูมฟายเสียใจกับการเลิกกับแฟนอย่างเวทนา

“ฮึก...แกจะถามอะไร..ฮือออ”

“คือแกร้องไห้มาสามวันแล้วไง แล้วนี่แกจะร้องไห้อีกนานป่ะ ฉันจะได้โทรตามยัยกั้งให้มาผลัดเวรกับฉันเพราะตอนนี้ฉันหิวมากถึงมากที่สุด” ทอฟฟี่กรอกตาแล้วกดโทรศัพท์ คงจะเตรียมโทรออกหายัยกั้งเพื่อนสาวของเราอีกคนนั่นแหละ

“พวกแกจะผลัดเวรกันทำไม ฮึก...แกจะไปไหนก็ไปสิ ฮึก..ฟืดดดดดด..ฉันอยู่คนเดียวได้” ฉันว่าสิ่งเดียวที่เพื่อนฉันควรจะผลัดเวรกันคือการซื้อทิชชู่ให้ฉัน เพราะฉันใช้สูดน้ำมูก เช็ดน้ำตาไปกล่องกว่าๆแล้ว

“ไม่ได้...แกจะอยู่คนเดียวไม่ได้ เพราะเกิดแกร้องไห้จนเป็นลมหรือเสียใจจนคิดสั้นฆ่าตัวตายขึ้นมา พ่อแม่แล้วก็พี่ชายแกได้มาหักคอสวยๆของฉันแน่”

“ฟืดดดดดด...ฉันไม่คิดสั้นหรอกน่าแก แต่ก็ขอบใจแกมากนะทอฟฟี่ ฉันรักแกที่สุดเลย”

“ย่ะ ถ้ารักฉัน ก็ช่วยเลิกฟูมฟายสักที ชะนีสวยๆอย่างแกอ่ะ หาแฟนใหม่ไม่ใช่เรื่องยาก เพราะงั้นแกก็อย่าไปเสียน้ำตาให้คนเลวๆอย่างไอ้กายเลยแก” ว่าจบนางก็ลุกจากโซฟามานั่งข้างฉันบนเตียงและดึงหัวฉันไปซบบนไหล่ของนาง

“ฮืออออ..ฉันรู้แกว่าคนแบบนั้นมันไม่มีค่าพอให้ฉันเสียน้ำตา ฮึก..แต่ฉันเสียดายเวลา เสียดายความรู้สึกดีๆอ่ะแก ฮือออออ”

“ระบายออกมาแก ระบายให้หมด” ทอฟฟี่กอดปลอบฉัน พร้อมกับลูบหัวฉันไปด้วย นางนั่งฟังฉันร้องไห้ฟูมฟายเงียบๆ

“เราคบกันมาเกือบจะครบสามปีอยู่แล้วอ่ะแก ฮึก..ตั้งแต่ตอนที่กายตามจีบฉันตอนม.4 เริ่มคบกันม.5 นี่ก็ปี1เทอม2แล้วอ่ะ ตอนเข้ามหาลัยแรกๆเรายังดีๆกันอยู่เลย ทำไมมันถึงเกิดเรื่องแบบนี้อ่าแก ฮืออออ”

                ฉันกอดทอฟฟี่แล้วร้องไห้ระบายทุกอย่างอยู่พักใหญ่ๆ จนฉันได้ยินเสียงท้องนางร้องถึงได้นึกขึ้นได้ว่านางบ่นว่าหิวแล้วฉันเองก็ยังไม่ได้กินอะไรเหมือนกัน

“แก (T^T)”ฉันเงยหน้ามองทอฟฟี่

“ว่าไงฮึ แกจะหยุดร้องไห้แล้วรึยัง” ทอฟฟี่พูดพลางปาดน้ำตาบนหน้าฉัน ฉันส่ายหัวแล้วตอบกลับไปว่า

“แกหิวอ่ะ ฉันได้ยินท้องแกร้อง แกออกไปหาของกินเถอะ ฮึก แต่ซื้อผัดไทยหน้าหอเข้ามาให้ฉันด้วยนะ”

“เอ๊ะนังนี่! ตกลงจะดราม่าหรือจะกิน  ปกติฉันเห็นแต่คนเค้าเสียใจมากๆแล้วไม่กินข้าวกินปลา”

“ก็ฉันไม่อยากเป็นโรคกระเพาะอ่ะ แกก็รู้อ่ะ ถ้าฉันลืมกินข้าวแค่มื้อเดียวฉันก็ปวดท้องแล้ว” ฉันทำหน้าอ้อนใส่ยัยทอฟฟี่

“ย่ะ แม่ชะนีภูมิต่ำ ยังดีนะที่คิดได้ว่าต้องกินข้าวกินปลา เอางี้ดีกว่า แกลุก!” ทอฟฟี่ยืนขึ้นแล้วฉุดแขนฉันให้ลุกขึ้นตาม

“ห๊ะ! ให้ฉันลุกทำไม?”

“ก็ลุกขึ้นไปล้างหน้าล้างตา แล้วก็เติมหน้าให้มันดูเป็นผู้เป็นคนแล้วออกไปซื้อของกินกับฉันไง”

“หึ ไม่เอาอ่ะ ฉันเศร้า ฉันไม่มีอารมณ์ (T^T)” ฉันทิ้งตัวลงบนเตียงแล้วหยิบหมอนขึ้นมากอดแบบเด็กๆที่งอแงเวลาพ่อแม่ใช้ให้ทำงานบ้าน

ทอฟฟี่เอามือทั้งสองข้างของนางมาจับหน้าฉันแล้วมองตาฉัน

“แกฟังฉันนะ ต่อให้แกจะเศร้ากว่านี้ มันก็เปลี่ยนความจริงไม่ได้ว่าไอ้กายมันนอกใจแก แล้วแกสองคนก็เลิกกันแล้ว แทนที่แกจะเอาเวลามานั่งเศร้า ฟูมฟายอยู่แบบนี้ แกไปหาอะไรทำให้ชีวิตมันดีขึ้นแล้วก็ลืมๆเรื่องพวกนี้ไปไม่ดีกว่าเหรอ”

“ฉันรู้แก แต่แกก็พูดง่ายนี่ แกไม่ใช่คนที่เสียใจแบบฉัน สามปีเลยนะเว้ยแก ฮืออออออ”

“น้ำค้าง แกเคยได้ยินไหมว่ารักไม่ต้องการเวลา”

“(- -)(_ _)(- -) ฮึก!” พยักหน้าพร้อมสะอื้น ทอฟฟี่ยังคงจับหน้าฉันให้มองหน้านางเหมือนเดิม ที่เพิ่มเติมคือแววตาที่จริงจังมากขึ้น

“คนเราจะตกหลุมรัก หรือจะเลิกรัก มันก็ไม่ต้องการเวลาทั้งนั้นแหละ มันเป็นเรื่องของความรู้สึก ไอ้สามปีของแกน่ะมันเรื่องเล็ก บางคนแต่งนานกันเป็นสิบปี มีลูกสี่ เค้ายังเลิกกันได้เลย เพราะฉะนั้นไอ้คำว่าเสียดายเวลา ไม่ใช่ข้ออ้างที่ดีของการมานั่งฟูมฟายนะแก”

“แต่ความเศร้าของฉันมันก็เป็นเรื่องของความรู้สึกไหมอ่ะแก ฉันเศร้า ฉันเสียใจ ฉันเจ็บปวดอ้ะ! ฮื๊อออออ”

“ใช่ มันคือความรู้สึก แต่ความรู้สึกแกมันมาจากหัวใจ คนที่ใช้หัวใจอย่างเดียว  ก็คือพวกที่ใช้อารมณ์นำทางชีวิต บางครั้งมันจะทำให้ชีวิตย่ำแย่ เพราะฉะนั้นในบางสถานการณ์ สมองจึงจำเป็นอย่างมาก และตอนนี้แกก็ต้องใช้สมองกับเหตุผลนำทางชีวิต ก่อนที่มันจะพังไปกว่านี้ แกมองหน้าฉันแล้วตอบมาว่า แกมีสมองหรือเปล่า ฮึ?”

“มีสิ ฉันไม่ได้โง่นะ ไม่งั้นฉันจะทิ้งกายทำไมเล่า ฉันก็ไปตบแย่งกับนังแฟนน้อยนั่นแล้วสิ ฮึก!”

“ดีมาก นี่สิถึงจะเป็นน้ำค้างเพื่อนรักของทอฟฟี่คนสวย”  ทอฟฟี่ยิ้มแล้วโยกหัวฉันน้อยๆอย่างเอ็นดู

“ฮึบ! เอาล่ะแก ฉันขอเวลาสิบนาทีไปเตรียมหน้า แล้วเราจะออกไปกินข้าวกัน”

         ฉันตัดสินใจฮึดสู้อย่างที่ทอฟฟี่บอก ใช่แล้ว! มันถึงเวลาแล้วที่ฉันจะต้องกลับมาตั้งกลัก ฉันจะต้องไม่จมปลักอยู่กับเรื่องงี่เง่า และผู้ชายเลวๆแบบนั้น ฉันต้องกลับมาเป็นน้ำค้างคนเดิม ที่สวย รวย ฉลาด และมากความสามารถคนเดิม ฉันมีดีกรีเป็นถึงลีดคณะเชียวนะ คิดๆดูแล้วชีวิตฉันนี่เรียกได้ว่าเพอร์เฟ็คขั้นหนึ่งเลยแหละ ถ้าไม่นับเรื่องความรัก

“โอเคทอฟฟี่ ฉันพร้อมละ ไปหาของกินกัน”

“เอ่อ...ฉันว่าคงไม่ต้องแล้วแหละแก” ทอฟฟี่พูดพร้อมกับยื่นปากยื่นตาชี้ไปที่ผู้ชายที่ยืนอยู่หน้าประตูห้อง

“สวัสดีคร้าบ น้องน้ำค้าง วันนี้พี่มีบริการเดลิเวอรี่อาหารญี่ปุ่นพร้อมเครื่องดื่ม พิเศษสำหรับน้องโดยเฉพาะเลยนะครับวันนี้”

“พี่เตวิน!!”

             พี่เตวินเป็นพี่รหัสของฉันเอง แต่พี่แกแสดงออกแบบโจ่งแจ้งมากว่าไม่ได้อยากเป็นแค่พี่รหัส ขนาดว่าฉันบอกว่าฉันมีแฟนอยู่แล้ว พี่แกก็ยังอ้างว่ามาตามดูแลเพราะว่ามันเป็นหน้าที่ของพี่รหัส จริงๆแล้วพี่แกก็เป็นคนที่ดีนะ ทั้งหน้าตาและนิสัย แถมยังเป็นหนึ่งในสโมสรนักศึกษาประจำคณะด้วย ช่วงแข่งลีดตอนเทอมหนึ่งพี่เตวินก็คอยมาดูแลสวัสดิการของลีดเป็นพิเศษ จนตอนนี้ผู้ชายทั้งคณะไม่มีใครกล้ามายุ่งกับฉันเลย เพราะทุกคนคิดว่าฉันเป็นผู้หญิงของพี่เตวินกันซะหมด แล้วนี่ฉันเพิ่งจะเลิกกับแฟนด้วย โดนตื๊อหนักแน่ๆ เอาจริงๆยัยทอฟฟี่เคยบอกว่ามีรุ่นพี่เล่าให้นางฟังว่าตอนพี่เตวินเป็นเฟรชชี่ก็ไปไล่ตามจีบพี่ปีสาม จนถึงขนาดได้้รับตำแหน่งตื๊อตัวพ่อประจำคณะกันเลยทีเดียว

 “ขอบคุณนะคะพี่เตวินที่เอาของกินมาส่งถึงที่เลย”

“สำหรับน้ำค้าง ให้พี่มาบริการทุกวันก็ได้นะ”

“ไม่ดีกว่าค่ะ แค่นี้น้ำก็เกรงใจจะแย่แล้ว”

              ฉันแอบเหลือไปมองทอฟฟี่ นางนั่งกินขนมที่พี่เตวินเอามาให้แบบไม่แคร์โลก ไม่แคร์เพื่อนเลย ฉันกะจะขอความช่วยเหลือสักหน่อย นี่ฉันจะต้องเผชิญหน้ากับพี่เตวินด้วยตัวเองจริงๆเหรอเนี่ย

“อ่ะแฮ่ม.. เอ่อ น้องน้ำค้างดูโอเคดีนะครับ เห็นว่าเลิกกับแฟนแล้ว พี่ก็นึกว่าน้องจะร้องไห้เสียใจกว่านี้เสียอีก”

              ฉันกะไว้แล้วไม่มีผิดว่าพี่เตวินจะต้องถามถึงเรื่องที่ฉันเลิกกับกาย ให้ตายสิ ทำไมเวลาซื้อหวยถึงไม่ถูกแบบนี้บ้างนะ ฉันหันไปส่งสายตาขอความช่วยเหลือจากทอฟฟี่อีกครั้ง โชคดีที่คราวนี้นางสบตาฉันพอดี

“นางก็ร้องไห้ฟูมฟายมากมายก่ายกองแหละค่ะพี่เตวิน เพียงแต่พี่มาไม่ทันเห็นเท่านั้นเอง”

“จริงเหรอครับ”  ฉันได้แต่ยิ้มเจื่อนๆแล้วพยักหน้าตอบพี่วินไป

“น้ำค้างอย่าไปเสียใจกับผู้ชายพรรค์นั้นเลยนะครับ ยังมีผู้ชายดีๆอีกเยอะแยะ ถ้าน้องเปิดใจแล้วมองคนใกล้ๆตัวดูบ้าง” นั่นไง บทละครก็มา ถ้าจะรุกกันขนาดนี้ น้ำค้างคนนี้ก็ยอมใจเลยเจ้าค่ะ

             ฉันรู้สึกอยากจะร้องไห้อีกครั้ง ไม่ใช่เพราะเรื่องกายหรอก แต่เพราะฉันเลี่ยนกับการแสดงออกของพี่วินมาก นี่ถ้าพี่เขาพูดออกมาชัดๆว่าชอบฉัน ฉันคงจะปฏิเสธไปแล้ว แต่พี่แกไม่ยอมบอกนี่สิ ถ้าอยู่ดีๆฉันไปปฏิเสธ ก็เหมือนหลงตัวเอง แถมพี่เขายังเป็นพี่รหัสอีก ความอึดอัด มันทำให้ฉันอยากจะร้องไห้จริงๆนะ

“น้ำเลิกเสียใจแล้วค่ะ ขอบคุณนะคะที่เป็นห่วง นี่ก็ว่าจะออกไปช้อปปิ้งแก้เซ็งหน่อยน่ะค่ะ นัดกับเพื่อนไว้ ใช่ป่ะทอฟฟี่!” ฉันหันไปส่งซิกให้ยัยทอฟฟี่

“อ๋อ เออ ใช่ค่ะ ตอนแรกว่าจะไปหาของกินแล้วก็ช้อปปิ้งกัน แต่พี่วินมาซะก่อน ป่านนี้ยัยกั้งรอแย่เลยแก” ยัยทอฟฟี่รับมุกฉันเป็นอย่างดี เนียนซะจนฉันนึกว่าเรียนเอกการแสดง

“เอ่อ..น้องน้ำค้างจะไปเลยเหรอครับ”

“ไปเลยสิคะ นี่มัวแต่กินปล่อยให้เพื่อนรอนานแล้ว ทอฟฟี่กับน้ำกำลังจะออกไปเลย ขอโทษด้วยนะคะพี่วิน”

“แล้วจะไปที่ไหนกัน ให้พี่ขับรถไปส่งไหมครับ” ตื๊อไม่หยุดฉุดไม่อยู่จริงๆให้ตายสิพับผ่า

“อ๋อ ไม่รบกวนดีกว่าค่ะ น้ำมีรถ นี่ ทอฟฟี่ ยังไงเดี๋ยวฉันไปสตาร์ทรถรอก่อนนะ แกก็เก็บของกินเข้าตู้ ปิดห้องแล้วก็ตามมาด้วย ไปนะคะพี่วิน สวัสดีค่ะ”

              หลังจากนั้นฉันก็เผ่นลืมโลก ได้ยินเสียงยัยทอฟฟี่ช่วยรั้งพี่เตวินเอาไว้อยู่ เห็นทีว่าฉันคงจะต้องเลี้ยงข้าวนางมื้อใหญ่เป็นการตอบแทนซะแล้วล่ะ เพื่อนประเสริฐแบบนี้จะหาได้ที่ไหนอีก ฉันรักแกจริงๆทอฟฟี่

 

‘โครม!’ ‘เพล้ง!’

                ด้วยความที่ฉันรีบวิ่งลงบันไดเพื่อที่จะแน่ใจว่าพี่เตวินตามไม่ทันแน่ๆ ฉันเลยพลาดชนใครบางคนเข้าตรงที่บันไดขั้นล่างสุด นี่ดีนะที่ไม่ใช่ขั้นสูงๆ เพราะไม่งั้นคงมีการบาดเจ็บเสียหายรุนแรงแน่ๆ พูดถึงความเสียหาย นั่น..มัน.. เศษอะไรคล้ายแก้วแตก แล้วไหนจะกระบอกสีดำนั่นอีก คุณพระ!! หายนะได้มาเยือนฉันแล้ว

“โอยย คุณเป็นอะไรมะ...อ๊ากกกกกก กล้องคู่ชีพของฉันนนนน!!” ผู้ชายร่างโตที่ฉันพุ่งชนเข้าใส่ บัดนี้เขาได้หมอบลงกับพื้นแล้วค่อยๆประคองกล้องและเลนส์ของเขาขึ้นมือด้วยมือสั่นระดับ 9 ริกเตอร์

“เอ่อ...ฉันขอโทษจริงๆนะ ฉันรีบก็เลยไม่ทันระวะ....”

“โฮกกกกก ปืนใหญ่ลูกพ่อ T^T” ร้องไห้หนักมาก ปืนใหญ่นี่คือชื่อกล้องของเขาใช่ไหม เขาคงจะเสียใจมากจริงๆ ขนาดฉันอยู่ตรงนี้เขายังไม่สนใจเลย นี่อีกแปปนึงพี่วินกับยัยทอฟฟี่คงจะลงมาแล้ว ฉันควรจะทำยังไงดี!!!

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.4 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7.8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา