นายปากร้ายกับยายใจแข็ง

-

เขียนโดย นาราชา

วันที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2561 เวลา 15.59 น.

  11 ตอน
  2 วิจารณ์
  12.90K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2561 21.36 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

3) ตอนที่ 5 หน้าที่รัก

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

หลังจากก้าวเท้าลงจากเวทีการประกวดดาวเดือน  ผมก็กลับไปใช้ชีวิตปกติ  ได้เรียน  ได้เล่นกับเพื่อนๆ เข้ากิจกรรมรับน้อง  ผมว่านักศึกษาส่วนใหญ่ก็ไม่รู้จักผมอยู่ดี  มหาวิทยาลัยนี้มันกว้างใหญ่  คนที่สนใจการประกวดไม่รู้มีถึง 10 เปอร์เซ็นต์รึเปล่า  ไม่ได้ยุ่งยากเท่ากับที่ผมคาดไว้หรอกครับ  ผมก็กับมาเป็นนายเขาคนเดิม  เพิ่มเติมคือหล่อ หล่อ หล่อและหล่อครับ

            สำหรับการเรียนก็เป็นอะไรที่แปลกใหม่สำหรับผมมาก  บางที่เราต้องเรียนและตัดเกรดกับคณะอื่นๆ  ผมนี่ค่อนข้างเกร็งมีเรียนกับรุ่นพี่ด้วย  แต่ไม่ได้รู้จักกันหรอกครับ  เราก็มีหน้าที่เรียนๆๆๆ  จดเลคเชอร์  ทำงานที่อาจารย์สั่ง  อาจารย์ก็เช็คชื่อบ้างไม่เช็คชื่อบ้างบางทีคลาสใหญ่นักศึกษาเป็นร้อย  ผมนี่จองหลังตลอด  หัวก็สูงเด่กว่าชาวบ้านหนำซ้ำคนชอบกระซิบเดือนมหาฯ ลัย  ผมก็เขินเป็นนะครับ 

            วันนี้มีเรียนเช้าครับ  แมท เรียนที่คณะวิทยาศาสตร์  พวกผมมาสายและนั่งหลังเหมือนทุกที  แล้วเหตุการณ์โครตน่ายินดีก็เกิดขึ้น

            //แอ๊ด//  เสียงประตูดังขึ้นเบาๆ  ผมหันไปมองครับ  สายตาผมปะทะเข้ากับด้านหลังของคนที่คุ้นตา  คุ้นใจ พี่ฟ้าครับ  เธอหันหลับมาอาการก้มโค้งจนน่าตลก  มองซ้ายมองขวาแล้วสายตาเธอก็มาหยุดอยู่ที่ผม  เธอยิ้มครับ  แล้วรีบตรงมานั่งข้างผม

            “อาจารย์เข้านานยัง”

            ว่าพลางล้วงสมุดออกมากางตาก็เหลือบมาดูสมุดเลคเชอร์ของผม

            “สักพักแล้วครับ”

            เธอกำลังลอกเลคเชอร์ผมอย่างไว  โหแม่เจ้าพระคุณ  รีบแล้วเหรอตัวหนังสือสวยยังกับพิมพ์  พอจดทันก็เพิ่งนึกได้

            “ขอลอกตลอดคาบเลยนะ  ตาไม่ค่อยดี  มองไม่เห็น”

            ยินดีเลยครับ  ลอกตลอดเทอมเลยมั้ย  อยากเสนอจริงๆ

            “เอาดิ  ถือว่าได้ช่วยคนแก่  จะเอาไปจดลงสมุดความดี”

            ฮึ  นิสัยพอเลิกได้  นี่ผมแกล้งพี่ฟ้าจนเป็นสันดานไปแล้ว

            “เดี๋ยวหมดคาบจะทะเลาะด้วยเรียนแป๊บ”

            ว่าแล้วเธอก็หันไปจดจ่อกับการจด  จดทุกสิ่งทุกอย่าง  ทั้งที่ลอกตามผม  ที่ครูพูด  กล่องดินสอของเธอนี่อย่างกับของเด็กประถมปากกาสีๆ นี่เยอะไปหมด  แต่เธอใช้ได้คล่องมากๆ  มีเน้นข้อความมีกรอบแบบต่างๆ  โอ้โหเลคเชอร์มันทำไมสวย  เป็นระเบียบ  น่ารัก  น่าอ่านขนาดนี้  แน่ใจเหรอว่าเธอจดตามผม  นี่มันฟ้ากับนรกชัดๆ  ผมขอสารภาพว่ามันเป็นสองชั่วโมงที่ดีจริงๆ  มันผ่านไปไวมากๆ  ผมอยากเรียนแมท  ตลอดไป  พออาจารย์ปล่อยนักศึกษาส่วนใหญ่ก็ลุกพรึบขึ้นพร้อมๆ กัน  นี่เตรียมของรอมา  10  นาทีแล้วใช่ไหม  ใครก็ได้บอกที  มีแต่คนข้างๆ ผมที่ฟุบลงไปกับโต๊ะ 

            “พี่ฟ้า เป็นอะไรเนี่ย”

            ผมถือวิสาสะเขย่าตัวเธอ

            “โอ้ยยาก  เหนื่อยแล้วนะ  สมองไม่เดินเลย”

            เธอยืดแขนสองข้างที่จับประสานกันไปบนโต๊ะ  แต่ไม่ยอมโผล่หัวขึ้นมา

            “พี่สอบตกเหรอ  ทำไมได้มาเรียนพร้อมพวกผมอ่ะ”

            พี่ฟ้ากระเด้งตัวขึ้นมาทันที

            “เอ้าไอ้นี่  ปากเหรอนั่น  ปีหนึ่งเรียนวิชาคณิตของคณะโว้ย  รมณ์เสีย”

            ดูท่าอารมณ์ไม่ค่อยดีแฮะวันนี้

            “ไอ้เขา  ตลอดมึง  เอาดีๆ ดิหว่ะ”

            ขอบคุณที่เตือนสติครับเพื่อนทิว 

            “เอ้อ  พี่ฟ้าไม่รีบไปเรียนเหรอ”

            ไอ้ทิวถามต่อ  เพราะท่าจัดกระเป๋าพี่แกดูเอื่อยๆ สบายอารมณ์

            “พี่มีเรียนอีกทีบ่าย  พวกเราอ่ะ”

            พี่ฟ้าหันไปตอบไอ้ทิว  อยากพูดกับเธอดีๆ มั่งจัง  แต่ผมเขินอ่ะ  กัดเค้ามาเยอะ  ผมต้องทำยังไงเนี่ย

            “พวกผมก็ว่าง  พี่จะไปไหนต่อ”

            ใช่หน้าที่มึงไหม๊ครับคุณเพื่อนทิว  มันเหลือบมองมายิ้มให้ผมประมาณว่ากูถามให้มึง  อะไรยังงั้น

            “เอารถไปซ่อม  ยางรั่วพี่จอดทิ้งไว้ข้างทางแล้ววิ่งมา  เลยเข้าสายเนี่ย  ปกติไม่เห็นพวกเราหรอก  พี่นั่งหน้า  สายตาสั้นอ่ะ”

            ชัดเจนครับ  ด่าผมว่าเด็กหลังห้องด้วยเลย

            “อ่อ  ขอบใจนะขุนเขา  แต่ตัวหนังสือเราอ่านยากมากอ่ะ  พยายามหน่อยสิ”

            หันมาขอบใจผมนี่ยิ้มปากฉีก  แต่ประโยคท้ายนี่อะไร  เขามีแต่ตบหัวแล้วลูบหลังผมนี่โดนลูบหลังแล้วตบหัวทิ่ม

            “ตัวเองก็ทำยังกะหนังสือการ์ตูนเด็ก  เสียเวลา”

            ผมพูดเบาๆ เองนะ  ไม่กะให้อารมณ์เสีย  จริงๆ ผมออกจะชอบเลคเชอร์เธอ  แต่ผมปากหมา  ผมยอมรับ

            “พี่ไปแล้วนะทิวกอล์ฟ  ขี้เกียจทะเลาะ  คบลงไปได้ไง  ปากนะปาก”

            เธอสะพายเป้ใบใหญ่  ลุกออกจากเก้า  ขายาวๆ นั่นพาเธอไปถึงหน้าประตูอย่างรวดเร็ว  ไวเท่าความคิด  ผมวิ่งไปดึงแขนเธอไว้  เธอหันมามองอย่างงงๆ

            “ไปกับผม  เดี๋ยวพาไปซ่อมรถ”

            วันนี้พวกผมมารถเก๋งครับ ว่าแล้วก็ลากเธอขึ้นรถเลยครับ  พี่แกก็ขัดขืนด่าทอแหละ  แต่ผมจะลักพาตัวนางฟ้า  ใครจะทำไม

            “พี่ฟ้านั่งหน้า  บอกทางด้วย”

            ไอ้เพื่อนรู้หน้าที่รีบไปโดขึ้นเบาะหลังแล้ว  ทิ้งเธอยืนงงๆ เกาะประตูรถที่ผมเปิดให้  เหตุผลของผมคงฟังขึ้นเธอเลยยัดตัวเข้าไปนั่งหน้าคู่ผมอย่างว่าง่าย   ผมขับรถไปตามทางที่เธอบอก  เห็นรถจอดทิ้งข้างทางจริงๆ ครับ  นี่เธอต้องวิ่งต่ออีกไกลเลยนะเนี่ย  โห  แม่คนทรหด

            “ขอบใจมาก”

            เธอพูดพร้อมเปิดประตูรถ ผมดึงแขนเธอไว้อีกครั้ง

            “พี่ฟ้าไม่ต้องหน้าที่ผม”

            ไอ้กอล์ฟขาลุยเองครับ  มันเสนอตัว  นี่งานถนัดมันอยู่แล้ว  มันยื่นมอมาขอกุญแจพี่ฟ้า  เจ้าตัวหน้ามุ่ยขัดใจที่ผมไม่ยอมปล่อยแขน

            “ปล่อยดิจะหากุญแจ”

            ถ้าพี่ไม่ลงรถแล้วหนีหายไปจากผม  ผมปล่อยก็ได้ครับ  ปล่อยแล้ว

            ไอ้กอล์ฟได้กุญแจก็สตาร์ดรถขับออกไป  ร่างกายอันมหิมาของมึงคงไม่ทำให้ต้องเปลี่ยนยกล้อใช่ไหม๊  พวกเราขับรถไปรอหน้าร้านซ่อมที่ใกล้ที่สุด  ซึ่งมันเยอะมากครับ  หาง่ายๆ  นักศึกษาที่นี่มีจักรยานยนต์กันเกือบทุกคน  รอสักพักไอ้กอล์ฟก็มาถึงร้าน  ช่างตรวจดูบอกว่ายางนอกมันเสียถึงเปลี่ยนยางในใหม่ก็จะกัดกันรั่วได้อีกง่ายๆ  ดูสีหน้าพี่ฟ้าดูหนักใจ

            “งั้นเปลี่ยนเลยค่ะ”

            เธอบอกช่างแบบนั้น 

            “ป่ะไปน้ำกันพี่เลี้ยง  พวกเราช่วยพี่หลายครั้งแล้ว  ”

            เธอดึงกระเป๋าตังค์ออกมา นำเราออกเดินไปร้านขายน้ำปั่นใกล้ๆ  ผมแย่งกระเป๋าตังค์จากมือเธอรูดซิปเป้แล้วยัดกระเป๋าตังค์คืนกลับลงไป 

            “ผมอยากดูแลพี่”

            ผมพูดสิ่งที่ตรงกับใจที่สุดกับเธอ  ออกไปเป็นครั้งแรก  พี่ฟ้านี่หน้างง  เหวอไปเลยครับ  พี่ไม่รู้จริงๆ ใช่ไหม๊ว่าผมชอบพี่เนี่ย  (ใครจะไปรู้หล่ะ  นอกจากมึงไม่บอกเค้ามึงยังกัดเค้าตลอดนี่นะ)  เธอยืนตะลึงอยู่ตรงนั้น  ผมเลยดันไหล่ของเธอไปทางร้านขายน้ำปั่น  เราทั้ง 4 คนสั่งน้ำคนละแก้ว  วันนี้ป๋าเขาจ่าย  ปกติผมก็ไม่ได้เลี้ยงเพื่อนนะครับ  วันนี้ผมอารมณ์ดี  เรากลับมานั่งรอที่ร้านซ่อมจนเกือบๆ เที่ยง  ผมชิงตัดหน้าจ่ายค่าซ่อมให้เธออีก  นี่เธอกินน้ำไปด้วยหน้าบูดไปด้วย  ตอนนี้บูดหนักถึงขีดสุด

            “กอล์ฟ  มึงขับรถตามไปศูนย์อาหาร 1 นะ  จะเที่ยงแล้วกินข้าวกัน”

            ไอ้กอล์ฟโยนกุญแจในมือเล่น  พยักหน้ารับคำ

            “เขา  พอเถอะ”

            เธอไม่พอใจจริงๆ ครับ  ยืนประจันหน้ากับผม  ท่าทางเอาจริง

            “พี่ฟ้า  ผมขอ  ที่บอกว่าอยากดูแลผมพูดจริงๆ”

            ผมพูดอ้อนวอน  แต่สายตาผมอ้อนมากกว่า  พี่ฟ้าหลุบตาลงต่ำ

            “เพื่ออะไร”

            เธอถามเสียงอ่อย

            “เพื่อผมนี่แหละ”

            ผมลากเธอออกเดินต่อ  ถึงเธอจะสูงแต่บอบบางอย่างนั้นก็ทำได้แค่ปลิวตามผมมา  ถ้าอุ้มได้ผมอุ้มไปแล้ว  ขบวนก็เราก็มุ่งหน้าสู่ศูนย์อาหาร ในเวลาต่อมา

            “พี่ซื้อเองนะ”

            เธอบอกผมเสียงอ่อยๆ  หลังผมลากเธอมาถึงร้านอาหารชั้นสอง  นักศึกษาหลายคนมองมาทางขบวนของเรา  ทำท่ากระซิบกระซาบกัน

            “ครับผม”

            ผมยอมตามใจเธอ  แต่ยังเดินตามหลังไม่ห่าง  ส่วนไอ้ทิวไอ้กอล์ฟมันก็แยกไปร้านที่เรากินกันเป็นประจำ  ผมชูนิ้วชี้ให้ทิว  มันพยักหน้า  เป็นอันรู้กันเหมือนเดิมจานนึง

            “ตามมาทำไมเนี่ย”

            ดูพี่ฟ้าจะเกรงสายตาคนอื่นอยู่ไม่น้อย  เธอทำหลบๆ  ไม่สมกับคนที่มั่นใจอย่างเธอเลยครับ  แปลกๆ ไปนะเนี่ย

            “เดี๋ยวพี่แยกไปกินคนเดียว”

            ผมพูดสบายๆ  มือล้วงกระเป๋าคุมเธอสั่งอาหารอยู่ใกล้ๆ  เธอทำแก้มป่องให้ผม  น่ารัก  ทำอีกบ่อยๆ เลยครับ 

            แม่ค้าส่งจานข้าวราดแกงให้  ดูมีแค่ผักหน้าตาจืดๆ 

            “จืดชืดอ่ะ”

            บางทีมึงก็ไม่ควรพูดทุกอย่างที่มึงคิดป่ะ  ไอ้เขา

            “นายขุนเขา”

            เสียงเขียวตาเขียวมาเลยครับ

            “คร๊าบๆ  ไม่ปากหมาแล้วครับ”

            ผมก้มหัวขอลุแก่โทษ  แล้วพาเดินไปทางไอ้สองตัวห้าบาทเพื่อนรัก  ที่ทำหน้าที่ซื้อข้าวและน้ำเตรียมไว้เผื่อเธอด้วย

            “พี่ฟ้าผมไม่รู้พี่ชอบน้ำอะไร  พวกผมชอบกินน้ำเปล่า  เลยซื้อน้ำเปล่ามาให้”

            ไอ้ทิวนักบริการบอก  มันนั่งตรงข้ามกับไอ้กอล์ฟ  มันก็เหลือที่นั่งสบตาไว้ให้ผมกับเธอ  ผมไม่รู้จะตอบแทนพวกมันยังไงไหว  ขอบใจมากๆ นะเพื่อน  กูรักพวกมึงโครตๆ

            “ขอบใจจ๊ะ  พี่ก็กินน้ำเปล่า  ปกติพี่กดน้ำดื่มอ่ะ”

            นางฟ้าของผม  ผมไม่รู้ว่าเธอมาจากครอบครัวแบบไหน  เธอติดดิน  ชอบช่วยเหลือตัวเอง  ลุยๆ  ยิ่งรู้จักผมยิ่งรักเธอ  อยากอยู่ใกล้ๆ เธอ  ผมขอสารภาพ  โดยส่วนตัวผมรำคาญความเรื่องมากของผู้หญิง  ประมาณว่าเปิดขวดเองไม่ได้  ถือกระเป๋าเองไม่ได้  เปิดประตูรถเองไม่ได้  แต่กับเธอผมอยากทำให้  แต่คงไม่มีโอกาสหรอก  เธอทำทุกอย่างดูง่าย  คล่องแคล่ว  ไม่เปิดโอกาสให้เกิดฮีโร่ขึ้นได้เลย  เธอคุยกับพวกผมในเรื่องทั่วๆ ไป  เรียนหนักไหม๊  กิจกรรมรับน้องเป็นยังไงบ้าง  เธอทำให้โต๊ะกินข้าวของเรามีสีสันและเสียงหัวเราะอยู่ตลอด  บางทีก็สอนตามนิสัยคนจะเป็นครูด้วย  แต่ผมไม่เบื่อเหมือนเวลาครูสอนเลยครับ  ผมชักอิจฉาลูกศิษย์ในอนาคตของเธอขึ้นมาซะแล้ว 

            “อยู่เฉยๆ  พี่เก็บเอง  จะเป็นง่อยแล้ว”

            หลังจากกินอาหาร  เธออาสาเอาจานชามของเราไปเก็บให้พวกเรา  เธอกวาดเศษอาหารรวมกันไว้จานเดียวแล้ววางซ้อนกัน  รวบช้อนซ่อมเป็นระเบียบ  เทน้ำแข็งใส่แก้วเดียวซ้อนแก้วแล้วถือไปถึงที่วางจานชาม  คนทั่วๆไป  เขาจะวางเลย  แต่นี่เธอเล่นเทเศษอาหารเศษน้ำแข็งลงไปในถังที่แม่บ้านเตรียมไว้

            “โครตน่ารัก”

            ผมรำพึงกะตัวเอง

            “กูแข่งมึงจีบได้ไหมหว่ะ”

            ไอ้ทิวพูดออกมาเหมือนละเมอ มึงอย่าแม้แต่จะคิด  ไอ้กอล์ฟมันรู้ใจผมโบกกะโหลกไอ้ทิวไปหนึ่งที

            “มึงไปเคลียร์สาวๆ ในสต๊อกก่อน  ถึงไอ้เขามันจะปากหมายังไงแต่กูรู้ว่ามันมีคนเดียว  กูเชียร์มัน  มึงจะไฟต์ก็ผ่านตรีนกูก่อน”

            ความตรงและพร้อมจะลงตีนของไอ้กอล์ฟในวันนี้ดูเข้าทีดีครับ  ผมสนับสนุนเต็มที่  กูจะไม่ห้ามมึงเลย 

            “คร๊าบ  พี่กอล์ฟ  ผมไม่กล้าไฟต์พี่หรอกคร๊าบ  ฉายากอล์ฟตรีนหนักไม่ใช่ได้มาง่ายๆ นะโว้ย”

            ไอ้ทิวมือเกาหัวทำทีโค้งให้ไอ้กอล์ฟ  เธอเดินกลับมาถึงโต๊ะพอดี

            “เอ้อ  พี่แยกเลยนะ  วันนี้ขอบใจมาก  ไว้วันหลังพี่เลี้ยงส้มตำ”

            เธอกลับมาสะพายเอากระเป๋า  ล่ำลาเราเสร็จก็จ้ำจากไป  พวกเราก็ต้องไปเรียนแล้วสิครับ  จะบ่ายโมงแล้วนี่

            เย็นวันนั้น  ผมกลับมาจดบันทึก  (งานก็เยอะนะแต่ผมยังฟิน)  เรื่องราวของเธอ  ย้อนมาตั้งแต่ตอนที่ผมพบเธอโดยบังเอิญที่ภูกระดึง  การได้เจอเธอระยะประชิดตอนเธอมารับเพื่อนผู้หญิงที่เป็นลมในกิจกรรมรับน้องมหาวิทยาลัย  การได้เจอและปะทะคารมกับแม่ค้าสาวสวย  การนั่งตรงข้ามเธอครั้งแรกแม้จะแสนห่างบนชั้นสามศูนย์อาหาร  การเจอเธออีกครั้งที่กองกิจการนักศึกษาตอนซ้อมดาวเดือน  ผมจะบันทึกของผมไปเรื่อยๆ  ผมหวังว่าสักวันเธอจะได้อ่านมันและยกโทษให้ที่ผมปากเสียกับเธอ  ถ้าโชคร้ายเกิดขึ้นกับผมคือเธอไม่ได้อ่าน  ผมจะเก็บเธอไว้เป็นเรื่องราวดีๆ ที่ผมจะจดจำไปตลอดชีวิต  เพราะเธอควรค่าที่จะเก็บเอาไว้  ไม่ว่าในสถานะใดก็ตาม  การเขียนถึงเธอเป็นกิจกรรมที่ผมทำได้อย่างไม่รู้เหน็ดเหนื่อย  เพราะผมมีถ้อยคำมากมายที่พูดออกไปไม่ได้  แต่ที่นี่คือพื้นที่ของผม  บนสมุดโน้ตของเธอด้วยหัวใจของผม

            เรียนก็หนัก  กิจกรรมก็เยอะ  งานจีบหญิงก็ไม่ก้าวหน้าคือคำจำกัดความของผมตอนนี้  อาทิตย์หน้ามีแข่งกีฬาเฟรชชี่ครับ  คือเอานักศึกษาปี ของแต่ละคณะมาแข่งกีฬาแข่งกองเชียร์กัน  พี่ๆ ปีอื่นนี่ว่างเหรอครับ  (จริงๆ ผมมารู้ทีหลัง  ว่าพี่เค้าไม่ได้ว่างครับ  พยายามว่างกันมากกว่า)  แน่นอนครับ  ผมไอ้ทิว  ไอ้กอล์ฟสามตัวร้อยสมัครบาสเกตบอลกีฬาหนึ่งเดียวที่โครตจะถนัด  (ก็คือเล่นเป็นอย่างเดียวจริงๆ)  มีคนสมัครเยอะแต่พวกเราได้ตำแหน่งตัวจริงกันอยู่แล้วละครับ  พวกผมนี่นักกีฬามัธยมมืออาชีพระดับภาคพวกผมก็เคยไปสอยถ้วยมาแล้ว  พวกเราต้องไปซ้อมที่สนามทุกวัน  มหาฯลัยนี้ก็ดีจริงๆ สนามบาสจะเยอะไปไหน  ทั้งของสนามกีฬากลางและของแต่ละคณะ  รุ่นพี่มายึดได้สนามนึงของสนามกลางเพื่อซ้อม  เขาบอกว่าซ้อมกับสนามจริงได้เปรียบพี่ๆ นัดพวกเราห้าโมงเย็นครับ  แต่มีคณะนึงมาถึงก่อนนักกีฬาชายหญิงของคณะซ้อมแข่งกันเองในสนามข้างๆ กับสนามที่รุ่นพี่ของพวกเราจองไว้  ฟิตไปไหนเนี่ย  ศึกษาศาสตร์  ผมหวังจะได้เห็นพี่ฟ้ามาเชียร์น้อง  แต่จนหกโมงแล้วยังไม่มีวี่แวว  ชุดบาสที่เธอใช้เดินขึ้นภูกระดึงไม่ใช่ยืมของแฟนไปใช่ไหม๊  ผมเริ่มหัวเสียซ้อมไม่รู้เรื่องแล้วโว้ย 

            “เฮ้ย  พักก่อนโว้ย”

            รุ่นพี่ตะโกนบอก  พวกเราเดินเข้าไปที่แสตนที่พี่ๆ เพื่อนๆ มานั่งให้กำลังใจ  แฟนคลับผมก็ด้วยครับ 

            “ไอ้เขามึงเล่นแรงไปไหนนี่แค่วันแรกนะโว้ย”

            พี่ว๊ากตามมาว๊ากผมต่อถึงสนามบาสเลยครับ

            “กำลังใจมันไม่มาอ่ะพี่”

            ไอ้ทิว  หุบปากมั้ยมึง

            “ไอ้..........  กรี๊ดจนหูกูจะหนวก  มึงยังไม่มีกำลังใจ  ถ้าอย่างกูนี่กูคงไม่ต้องมีชีวิตอยู่แล้วมั้ย”

            ขอบคุณที่ไม่ปล่อยสัตว์เพ่นพ่านนะครับพี่  ไอ้กอล์ฟมันเอาศอกกระทุ้งสีข้างผม

            “มาโน่นแล้วมึง”

            ผมหันมองตามทางที่ไอ้กอล์ฟมันมองอยู่  พี่ฟ้าครับมากับพี่แอนคู่หู  ยิ่งรู้ว่าเธอเคยจีบพี่ฟ้า  ผมชักจะเคืองๆ ลูกกะตา  พี่ฟ้าอย่าใจอ่อนนะ  รอเขาปีนขึ้นไปบนฟ้าเดี๋ยวเดียวนะครับ  ผมนี่อยากวิ่งเข้าไปถามว่าทำไมมาช้า ซะจริงๆ  เธอหันมองมาทางนี้ด้วยครับ  โบกมือให้ด้วย  คนแจกจ่ายให้ไอ้เพื่อนผมด้วยสินะ  โอ้ยเคืองผมตกหลุมรักคนอัธยาศรัยดี

            พวกเราลงสนามซ้อมกันอีกครั้ง  พี่เค้าไปคุยกันตอนไหนให้เราเล่นกะคณะศึกษาฯ เออจะได้ไม่ต้องออมมือ  ผมเล่นกับผู้หญิงมันชนไม่ได้  จังหวะย้ายสนามผมมีโอกาสคุยกับเธอ

            “พี่ฟ้ามาช้าอ่ะ”

            เสียงสองผมก็มีนะครับ

            “รอเหรอ”

            พี่เขาถามยิ้มๆ  ยิ้มแบบนี้มาเป็นแฟนผมเถอะครับ

            “รอสิ  มองหาจนคอยาวไปหมดแล้วเนี่ย  รับผิดชอบด้วย”

            วันนี้ผมมุ๊งมิ๊งไปไหม๊  พี่ฟ้ายิ้มๆ พยักหน้าให้ผม  หลังจากนั้นเราก็ซ้อมจนสนามต้องเปิดสปอร์ตไลท์แล้วแยกย้ายกันกลับเกือบๆ สองทุ่ม

            “พี่ฟ้ามายังไง” 

            ผมเดินไปถามระยะประชิด  ผมว่าเพื่อนๆ คณะศึกษาศาสตร์ของพี่ฟ้าก็เริ่มมองผมแปลกๆ แล้วกระซิบกระซาบกัน  ลือได้ว่าครับผมไม่ว่าหรอก  คนนี้ชัวร์ผมจอง 

            “พี่มากับแอน  แต่แอนมีนัดทำรายงานกับเพื่อน  เค้ากลับไปแล้ว  เอ่อ..........”

            ไม่ต้องเกรงใจผมครับ  ยินดีบริการสุดฤทธิ์เลย

            “ป่ะ  กลับกับพวกผม”

            พี่ฟ้าพยักหน้า  ตามองต่ำ  ยิ้มอีกแล้ว  พี่ยิ้มบ่อยเกินไปแล้วนะ  โอ้ยตายก็ยอม  พี่ฟ้าเดินข้างผม  ตามหลังมาด้วยไอ้ทิวไอ้กอล์ฟ

            “เฮ้ยดาวเดือนคู่นั้น  มีอะไรอัพเดตเพื่อนบ้างมั้ย  พวกกูตกใจนะเนี่ย”

            เป็นพี่ๆ คณะศึกษาศาสตร์ครับ  ผู้ชายทั้งนั้นเลยนั่งกันสลอนเต็มอัฒจรรย์ที่เราเดินจากมา  นี่ผมสนใจพี่ฟ้าจนลืมมองว่าคนเยอะขนาดนี้ได้ยังไง  พวกผมกันกลับไปไหว้พี่เขา  ส่วนพี่ฟ้าก็ได้แต่โบกมือหวอยๆ  ไม่ได้อธิบายอะไร

            จนมาถึงรถพี่ฟ้านั่งหน้าคู่ผมอย่างรู้หน้าที่

            “พี่ฟ้ากินอะไร”

            ผมถาม  สาวสวยหนึ่งเดียวในรถของเรา

            “พวกเราอยากกินอะไรเดี๋ยวพี่เลี้ยงเอง”

            ผมคิดในใจไม่มีทาง  ผมไม่ยอมให้เธอเลี้ยงแน่ๆ แต่ตอนนี้ตามน้ำไปก่อน

            “เออ  ร้านนึงน่านั่ง  เดี๋ยวไปลองดูกัน”

            ไปถึงร้านเป็นเหมือนร้านนมแต่ขายอาหารตามสั่งด้วย  เราก็สั่งอาหารสองสามอย่างกับน้ำปั่น  วันนี้ผมได้รู้หลายเรื่องราวเกี่ยวกับเธอจากปากของเธอ  เธอสอนพิเศษ  รับแปลเอกสารบ้าง  ขายของแฮนด์เมด  แล้วแต่เวลาจะอำนวย 

            “เออ  ว่าแต่วันนี้เขาแปลกๆ ไปไหม๊  พี่ไม่ชินอ่ะ”

            เธอถามขึ้นหลังจากโต๊ะเงียบได้สักพัก  ไอ้สองตัวห้าบาทหัวเราะขึ้นพร้อมกันอย่างดัง  คนเขาหันมามองทั้งร้าน  ผมนี่อยากจับหัวมันโขกโต๊ะ

            “ปะ.....เปล่านี่”

            ติดอ่างไปซะงั้น

            “แต่แบบนี้ก็ดีแล้วหล่ะ  ทำทุกวันนะ”

            เธอบอกแต่ไม่มองหน้าผมเลย

            “จะมาดูทุกวันใช่มั้ย”

            ไอ้ทิวกับไอ้กอล์ฟไอเหมือนคนเป็นวัณโรค 

            “วันหลังไม่มาด้วยได้ไหม๊  ผมอิจฉา”

            ไอ้ทิวสักขีพยานการจีบสาวของผมมันเริ่มอยากลาออกจากตำแหน่ง  ผมได้แต่ยิ้ม  ส่วนเธอเงียบไปเลยก้มจนหัวจะเข้าไปอยู่ในกระดองแล้ว

            “เราเรียกเขามาคิดตังค์เถอะเน๊อะจะได้ไปอาบน้ำ  ร้อน จัง”

            พวกผมต้องบ่นนะเล่นบาสมา  นี่คนถูกแซวกลับร้อนซะกว่า

            “เดี๋ยวผมไปเรียกเอง”

            ผมเดินไปจ่ายตังค์หลังร้านก็เขามีใบสั่งอาหารเราอยู่แล้ว  จ่ายแล้วรีบลากหนีสิครับเดี๋ยวมีคนเคือง  แล้วผมก็ลากเธอออกจากร้าน  เจ้าตัวคงรู้แล้วว่าโดนหลอกมากินฟรีอีกแล้ว

            “เขา    เขา     แล้วเมื่อไหร่พี่จะได้ใช้หนี้เราหมด”

            ผมหน้าตึงทันที  ที่เธอคุยกับผม  ยอมมากับผม  กินข้าวด้วยกัน  เพื่อจะใช้หนี้ให้จบๆ กันแล้วจากกันไป  เธอคิดกับผมแค่นี้จริงๆ ใช่ไหม  ผมไม่ตอบเธอ  ผมส่งเธอกลับหอ  ไม่มีแม้คำลาจากผม  เธอเองก็ด้วย  ผมไม่รู้เธอโกรธ  งง  สับสนหรืออะไร  แต่ผมน้อยใจจริงๆ  ผมน้อยใจเธอ  มีแค่ไอ้ทิวกับไอ้กอล์ฟที่ลาเธอเสียงอ่อยๆ  แล้วไอ้ทิวขยับมานั่งหน้ากับผม  จนมาถึงหอพักพวกมันตามผมมานั่งกองกันตรงกลางห้องแคบๆ ของผม  ส่วนไอ้ก้องรูมเมทมันก็นั่งทำการบ้านเงียบๆ ของมันไป

            “กูว่ามึงคิดมากไป”  ทิว

            “แล้วเป็นมึงจะไม่คิดเหรอ”  ผม

            “มึงอย่าคิดไปเอง”  กอล์ฟ

            “กูว่ามึงต้องไปเคลียร์”  ทิว

            “กูน้อยใจหว่ะ”  ผม

            “มึงจะยอมแพ้แค่นี้เหรอ”  กอล์ฟ

            “กูถอยมาตั้งหลักโว้ย”  ผม

            “ก็ไม่ควรเงียบตลอดทางมั้ย”  ทิว

            “มึงจะให้กูคุยอะไร”  ผม

            “พวกมึงคุยอะไรกัน  กูฟังมาตั้งนาน  ไม่เห็นรู้เรื่อง”  ก้อง

            อ้าวไอ้นี่นึกว่าทำการบ้าน  ที่ไหนได้แอบฟัง  มันย้ายลงมานั่งล้อมวงกับเรา

            “ไอ้เดือน  มึงไปแอบชอบใคร  มึงจีบใคร  แบบมึงยังต้องลำบากด้วยเหรอหว่ะ”

            มันยิงคำถามมาไม่ยั้ง

            “อือ”  ผม

            “อะไรของมึง  อือ”  ไอ้ก้อง

            “กูแอบชอบเขา  กูจีบเขา  แล้วก็ก็ต้องลำบาก”  ผม

            “มี ทางเลือก  ถ้ามึงเลือกว่าคนนี้จริง  บอกเขาไปไม่ต้องมานั่งตีโพยตีพาย  ถ้ามึงป๊อดมึงก็เลือกคนใหม่ที่มาต่อแถวรอคิวมึงยาวไปถึงประตูหน้ามอ  มึงเข้าใจ๊”

            มึงก็พูดง่ายไป  ไม่ใช่มึงนี่  ไม่เจอกับตัวอ่ะ  แต่ก็จริงของมัน  ผมยังไม่ได้บอกชอบเธอเลยสักครั้ง  จากแซะๆ แล้วก็มางอล  บางทีผมควรบอกความรู้สึกของผม  แม้มันจะผิดหวังอย่างน้อยก็ดีกว่ามากลุ้มใจอยู่แบบนี้

            “โอเค  เลิกประชุมเพลิง  กูง้อสาวแป๊บ”  ผม

            “อย่างแรกพวกมึงต้องไปอาน้ำก่อน  กูเหม็น” ไอ้ก้อง

            จริงของมันพวกผมเล่นบาสมายังไม่อาบน้ำเลย  แยกย้ายกันไปอาบน้ำสิครับ

ผมอาบน้ำเสร็จรีบไลน์หาเธอสิครับ  ถ้ายังไม่ได้คุยผ่านคืนนี้ไป  ผมตายแน่ๆ

            --พี่ฟ้า  ผมขอโทษ—

            --เราเป็นอะไร—

            เธอตอบมาอย่างไว  เหมือนรอไลน์ผมอยู่

            --พี่ฟ้า  พรุ่งนี้หลังซ้อมผมขอคุยด้วยได้ไหม๊— ผม

            --เอาสิ  พี่ก็คิดว่าเราต้องคุยกัน— เธอ

            --ขอบคุณนะที่ยังยอมคุยกับผม  ผมเครียด  กลัวพี่จะโกรธ  ถ้าพี่ไม่ตอบผมนอนไม่หลับแน่ๆ—

            --พี่ยังงงๆ  เขาไม่พอใจอะไรก็บอกดีๆ สิ  วันพรุ่งนี้เคลียร์กัน  พี่ทำการบ้านก่อน  นอนให้หลับด้วย  ไม่หล่อว่าพี่ไม่ได้นะ—

            --ทำการบ้านก็สู้ๆ นะครับ—

            การสนทนาจบลงเพียงเท่านั้น  ผมสบายใจขึ้น  ดูเธอใจเย็นมีเหตุผล  ผมดูเด็กไปเลย  ผมจะพยายามปรับตัวเพื่อให้คู่ควร  ผมสัญญา

 

            เย็นนี้เธอมาหกโมงเย็นเวลาเดิม  ใส่ชุดบาสจัดเต็ม  ไม่มีพี่แอนตามมาด้วย  เธอทักทายรอบสนาม 

            “เฮ้ย  วันนี้ฟ้าขอเล่นด้วย ไม่ค่อยได้วิ่งอืดมากแล้วเนี่ย”

            พี่ฟ้าตะโกนลงไปในสนาม  ใช่ครับพี่เขามาเยอะๆ ก็ไม่ได้มาช่วยซ้อมเราทั้งหมด  มาเล่นเองกันอยู่อีกสนามนึงด้วย  แต่ผมยังหาผู้หญิงที่จะมาเล่นบาสไม่มี  ผมรีบเดินออกจากสนามไปหาเธอ  ผมไม่มีสถานะแต่ผมเป็นห่วง

            “พี่ฟ้า  สนามนี้มีแต่ผู้ชาย”  ผม

            “ไอ้น้อง  ไอ้ฟ้ามันเล่นประจำ  ไม่ต้องห่วงหรอก”  พี่ผู้ชายที่เดินออกมาเปลี่ยนตัวพี่ฟ้าพูดพร้อมแตะไหล่ผม

            “พี่ฟ้า  ผม........”  ผม

            “พี่อยากเล่น  แป๊บเดียวนะ  พี่เล่นเก่งไม่ต้องเป็นห่วง”  เธอ

            ผมไม่ได้ห่วงเรื่องเก่งไม่เก่ง  ตัวบางอย่างนั้น  ยังไงก็ผู้หญิงนะ  แต่ถ้าเธอยืนยันผมจะทำอะไรได้  ต้องกลับไปซ้อมที่ในสนามของตัวเอง  แต่ตาก็คอยมองหาแต่เธอ  ผมสารภาพในสนามนั้นเธอเหมือนผู้ชายคนหนึ่งจริงๆ  คล่องแคล่ว  ว่องไว  แม่นยำ  ความสูงก็ใกล้เคียง  สูงกว่าผู้ชายบางคนด้วยซ้ำ   ทุกคนเล่นกับเธอเหมือนเพื่อนสนิทที่เล่นด้วยกันมานาน  ผมก็เบาใจ  ผมห่วงมากเกินไปจริงๆ

            จนสองทุ่มพวกเราเลิกซ้อม  แยกย้ายไปล้างเนื้อล้างตัวในห้องน้ำ  ผมยืนเธอข้างห้องน้ำหญิง  สักพักเอก็ออกมาจากห้องน้ำ

            “พี่ฟ้า”

            ผมเรียกเธอพร้อมกับเดินไปหา

            “อือ  เหนื่อยมั้ย”  เธอ

            “จะถามผมทำไมเนี่ย  ตัวโตยังกะควาย  พี่เถอะเหนื่อยไหม๊”  ผม

            “พี่เป็นนักกีฬานะ  จบโรงเรียนกีฬาประจำจังหวัดด้วย”

            เธอไม่ได้คุยเกินจริง  อาจจะบอกน้อยไปด้วยซ้ำ

            “ป่ะ  หาร้านข้าวกินกัน”

            ผมชวนแล้วออกเดินสบายๆ  เธอก็เดินอยู่ข้างๆ ผม  บางทีผมรู้สึกว่าเธอเหมือนเพื่อน  ที่ไม่ต้องคอยเอาใจ  แต่บางครั้งผมกังวลไม่รู้ว่าภายใต้ใบหน้ายิ้มๆ หรือบุคลิกนิ่งๆ พูดน้อยๆ จริงๆ เธอกำลังคิดอะไรอยู่  ผมไปร้านเดิมที่เราไปกินเมื่อวาน  เมื่อสั่งอาหารเสร็จเรียบร้อย  เราก็นั่งกินกันเงียบๆ ที่โต๊ะ  ผมจะทำลายบรรยากาศอึดอัดนี่เอง

            “เราโกรธพี่เรื่องอะไรเหรอเมื่อวาน”

            สงสัยผมใช้เวลาคิดและตัดสินใจนานเกินไป  เธอเลยถามขึ้นก่อน

            “ผมน้อยใจ”

            นายขุนเขาผู้คงคอนเซ็ปพูดประโยคสุดท้ายก่อนขยายความ

            “พี่บอกจะรีบใช้หนี้ให้หมด  เหมือนจะรีบๆ ไปจากผม”

            ผมมีสิทธิ์น้อยใจไหมครับ

            “ไม่ได้ไปไหน  ยังอยู่ที่เดิม”  เธอ

            “พี่ฟ้าคบกับผมนะ” ผม

            เธอตะลึงตากลมโตนั้นยิ่งเบิกกว้างมองหน้าผมนิ่งนาน  ผมเองแม้จะนิ่งหัวใจผมเต้นระทึกเหมือนใครมาตีกลองอยู่ข้างใน

            “พี่ฟ้า  ผมเจอพี่ตั้งแต่พี่ลงรถสองแถวที่ภูกระดึง  พี่เป็นความประทับใจของผม  พี่คือกำลังใจให้ผมมาเรียนที่นี่  ผมรักพี่นะ  คบกับผมนะครับ”

            ผมขอร้องเธออีกครั้ง  มองหน้าเธอ  มือที่วางใต้โต๊ะประสานกันแน่น

            “เท่าที่เป็นอยู่  เขามีความสุขมั้ย”

            เธอถามขึ้นในที่สุด

            “ผมมีความสุขทุกครั้งที่ได้อยู่ใกล้ๆ ได้พูดคุย”

            ผมบอกเธอตามตรง 

            “เขารู้ใช่ไหม๊ว่าเขาเป็นคนดัง  เป็นจุดเด่น  มีคนมากมายพร้อมที่จะอยากสร้างความสุขให้ถ้าเขาเปิดใจ  คนที่เขาจะทำหน้าที่ได้ดีกว่าพี่”

            เธอก้มหน้าพูดผมไม่เห็นแววตาของคนที่พูด  ผมไม่รู้ว่าเธอพูดตรงกับใจหรือเปล่า 

            “ผมไม่รู้  ผมเป็นคนธรรมดา  คนธรรมดาที่อยากเป็นความสุขของพี่”

            ผมมองไหล่ที่กระเพื่อมน้อยๆ นั้น  เธอกำลังร้องไห้  เธอเงยหน้าที่น้ำตารื้นๆ อยู่ในดวงตากลมโตนั้น  มันมีแววหม่นหมอง

            “พี่ขอโทษ  อย่าเสียเวลากับพี่เลย  ”

            ผมกำลังถูกปฏิเสธ 

            “พี่ปฏิเสธผมทั้งๆ ที่ตัวเองร้องไห้  พี่คิดอะไรอยู่  พี่มีปัญหาอะไร  ผมต้องแก้ไขตรงไหน  พี่บอกผมสิ  ผมพร้อมจะทำทุกอย่าง”

            ผมถามเธอ  ขอร้องเธอ  น้ำตาเธอยิ่งไหลหนักกว่าเดิม

            “มันเป็นปัญหาของพี่เอง  พี่ขอโทษนะ”

            เธอเช็ดน้ำตา  เงยหน้าเพื่อให้มันหยุดไหล

            “ผมรู้ว่าพี่ไม่ได้มีใคร  ผมจะรอ  จะให้ผมเลิกรักพี่ผมทำไม่ได้หรอก”

            ผมมันดื้ออยู่แล้ว  ผมสู้ไม่ถอยหรอก

            “ไปส่งพี่เถอะ”

            เธอตัดบท  แล้วเดินไปจ่ายค่าอาหารรวมของผมด้วย  เรากินหมดไม่ถึงครึ่งจานด้วยซ้ำ  แต่ใครจะกินต่อได้ลง

            ผมส่งเธอถึงหน้าหอพัก  ผมล็อกประตูรถยังไม่ยอมให้เธอลงไป

            “พี่คิดยังไงผมไม่รู้  แต่ผมรักพี่  ผมก็จะทำหน้าที่ตามที่หัวใจผมเรียกร้อง  เตรียมรับมือกับปฏิบัติการล่านางฟ้ามาเป็นเจ้าของหัวใจของผมได้เลย”

            เธอส่ายหน้าแต่ยังยิ้มน้อยๆ

            “พี่ไม่ควรไปยุ่งกับเด็กดื้ออย่างเธอเลย”

            เธอชี้มือบอกให้เปิดรถ  ผมยอมปลดล็อกให้เธอ  เธอลงจากรถโบกมือให้ผมทีนึง  ก่อนเดินเข้าหอพักไป

            ผมคิดว่าผมยังพอมีหวัง 

            เอ๊ะ!!!!  หรือเพราะรอยยิ้มแบบนี้  คำพูดแบบนี้  ทำให้พี่แอน  พี่เมนี่  พี่แม็กยังคงวนเวียนอยู่รอบๆ ตัวเธอ  ไม่ได้ตัดให้ขาดแต่ก็ไม่มีโอกาสได้คบ  ไม่เด็ดขาด  ผมจะไม่เป็นหนึ่งในจำนวนนั้น

Part  พี่ฟ้า

            ฟ้ากลับมาจากการตั้งใจไปบอกให้น้องเขาตัดใจ  แต่เป็นตัวเองที่ร้องไห้ออกมาเมื่อคิดว่าจะไม่มีคนคนนี้วนเวียนอยู่ใกล้ๆ  ฟ้าทำไม่สำเร็จ  เพราะฟ้าเองไม่เข้มแข็งพอและอีกคนก็ดื้อด้านเกินไป

            “....เตรียมรับมือกับปฏิบัติการล่านางฟ้ามาเป็นเจ้าของหัวใจของผมได้เลย”

            ฟ้ารู้ว่าเขาไม่ได้พูดเล่นๆ

            กลัวเหลือเกินว่าประวัติศาสตร์ที่เลวร้ายมันจะย้อนกลับมา

 

 

 

 

ผู้เขียน  เปิดเทอมแล้ว  งานเขียนก็จะช้าๆ  สมองก็จะเบลอๆ

 

 

 

 

             

           

           

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา