ตำนานรักข้ามเผ่าพันธุ์

-

เขียนโดย vincristine

วันที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2561 เวลา 13.53 น.

  2 ตอน
  0 วิจารณ์
  3,894 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2561 14.06 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) ปฐมบท (100%)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

                ____________________

1 หมื่นปีผ่านไป

               

                    พื้นกระเบื้องสีมรกตสะท้อนแสงแดดยามเช้าเป็นประกายวิบวับชวนมองทอดยาวเป็นระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร จนถึงประตูไม้บานใหญ่กว่าคนปกติถึง 10 เท่า ตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้า

                “เจ้าห้า!” มือใหญ่กระตุกชายเสื้อสีฟ้าอ่อนของคนข้างตัวอย่างแรง จนเจ้าตัวต้องหันมามองค้อนหนึ่งที

                “บอกเองไม่ใช่หรอว่ามาที่นี่ห้ามเรียกเหมือนอยู่ที่บ้าน แล้วทำไมพี่สะ อุ๊ป!” มือใหญ่ของคนเป็นพี่ตะครุบปากเล็กๆ ที่ช่างเจื้อยแจ้วเจรจาของคนเป็นน้องทันที ก่อนที่มันจะพูดมากกว่านี้จนความลับแตก

                “เรื่องนี้เป็นข้าผิดเองแต่แรก ดังนั้นเจ้าช่วยหุบปากแล้วเดินตามข้ามาเงียบๆ ได้หรือไม่”

                “ได้ๆ ข้าจะเดินตามท่านเงียบๆ ว่าแต่พี่สี่ ไอ้เจ้าช้างตัวนั้นมันช่างแปลกตานัก...” พี่สี่เอามือตบหน้าผากตัวเองเสียงดังสนั่น มีทางใดบ้างหนอที่จะหุบปากเล็กๆ นั้นได้ ตัวเขาเองก็ไม่น่ารับอาสาพาเจ้าห้ามาส่งเข้าโรงเรียนแต่เพียงคนเดียว หากรู้ว่าเจ้าห้าจะสร้างเรื่องตั้งแต่เดินทาง เขาน่าจะลากตัวพี่ใหญ่มาส่งด้วยกันเสียแต่แรก!

                “นายท่าน...” เสียงเล็กๆ ของจิ้งจอกพันธุ์ผสมที่ตามมาส่งนายน้อยด้วยกันดังขึ้น เมื่อเห็นว่าร่างของนายหญิงน้อยเพียงคนเดียวของบ้านเริ่มเดินแยกไปอีกทาง เพราะถูกเจ้าช้างตัวใหญ่ผิดช้างทั่วไปดึงดูดสายตาเข้า

                “เจ้าไปจับนายน้อยกลับมา แล้วเอาผ้าขาวของพี่ใหญ่ มัดมือ ปิดปาก และลากกลับมาให้ข้า!”

                “ข้านอบรับคำสั่ง”

                ว่าแล้วก็แปลงร่างกลับเป็นจิ้งจอกขนสีน้ำตาลเข้ม วิ่งตามนายน้อยไปอย่างรวดเร็ว

                “เฮ้อ...เจ้าห้านะ เจ้าห้า”

                “ท่านอาสี่!” เสียงเรียกดังขึ้น ทำให้พี่สี่ต้องเลี้ยวหาที่มาของเสียง หลังจากก้มเก็บสัมภาระที่เจ้าห้าเททิ้งไว้และวิ่งตามช้างไป

                “ท่านอาสี่ ข้า นีออน สเวน ทำความเคารพ” เด็กหนุ่มหน้าตาเกลี้ยงเกลาเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้า พร้อมกับโค้งตัวน้อยๆ

                “อาไม่เจอเจ้านาน โตขึ้นขนาดนี้แล้วหรือเนี่ย” มือใหญ่ตบที่บ่าของหนุ่มน้อยเบาๆ

                “ขออภัยด้วย หากหลานข้าล่วงเกินเจ้า”

                “สี่เคารพท่านตา” พี่สี่โค้งตัวลงเคารพบุคคลที่เดินเข้ามาใหม่ เขาสวมอาภรณ์ไหมสีไข่ไก่ทั้งร่าง แม้ใบหน้าจะปรากฏหนวดเครารกครึ้มที่ยังไม่ได้ตัดแต่ง แต่ยังดูทรงอำนาจทุกครั้งที่พบเจอ

                “ไม่ต้องมากพิธี พวกเราคนกันเองทั้งนั้น”

พี่สี่ส่งยิ้มให้ท่านตาแห่งเผ่าหงส์ที่เขาเคารพนับถือ ก่อนจะยืดตัวขึ้นตรงอีกครั้ง

                “ท่านอาสี่มาถึงดินแดนไมเนอร์ในวันนี้ด้วยธุระอะไรหรือครับ หรือว่ามาส่งใครเข้าโรงเรียน” นีออน สเวน เด็กหนุ่มจากเผ่าสัตว์เทพเจ้าอย่างเผ่าหงส์ถามขึ้น เขาเป็นหลานชายคนเล็กสุดของท่านตาที่ยืนอยู่เคียงข้าง

                “นั้นสิ จิ้งจอกเก้าหางของพวกเจ้า ยังมีใครที่อายุอานามเข้าโรงเรียนได้อีกรึ?”

                “เอ่อ...มีอยู่คน”

                “ปล่อยข้านะ...”

                 ยังไม่ทันจบคำ ร่างสูงๆ ของพี่สี่ก็ถูกชนโครมด้วยเจ้าตัวป่วนที่ถูกจับกลับมาได้ในที่สุด สภาพน้องห้าของเขาทุลักทุเลมิใช่น้อย อาภรณ์สีฟ้าที่เคยสะอาดบัดนี้มีรอยดินอยู่หลายส่วน ผ้าขาวของพี่ใหญ่พันอยู่บริเวณลำตัวทำให้เจ้าตัวนั้นอึดอัดไม่ใช่เล่น แถมด้วยยังมีผ้าขาวแถบเล็กอีกสองเส้นที่ถูกกัดจนขาดวิ่นทิ้งตัวอยู่บริเวณลำคอขาวผ่อง บ่งบอกว่าเจ้าพันธุ์ผสมนั้นไม่สามารถเอาผ้ามัดปากนายน้อยของมันได้สำเร็จ  

                มือใหญ่ของพี่สี่โอบอดีตเจ้าตัวอ้วนกลมของเขาไว้หลวมๆ เพื่อยังให้นางทรงตัวได้ถนัดถนี่ไม่ล้มลงไปจูบพื้นดินต่อหน้าอดีตหัวหน้าเผ่าหงส์ และหลานชายคนเล็กของท่าน

                “นี่คือ ไนล์ ลูเซียโน่ จิ้งจอกพันธุ์ผสมที่พ่อของข้าเลี้ยงไว้ตั้งแต่หมื่นปีก่อน ท่านพ่อว่าเขาดูมีแวว จึงให้ข้าพามาส่งเข้าโรงเรียนครับท่านตา” ไนล์ ลูเซียโน่ หรือ เจ้าห้าถลึงตาใส่พี่ชายอย่างนึกโมโห ตอนแรกคุยกันไว้ว่าจะให้นางเข้าโรงเรียนในฐานะองค์รักของพี่สี่ไม่ใช่หรือ ใยตอนนี้กลับกลายเป็นว่านางได้กลายเป็นจิ้งจอกพันธุ์ผสมไปเสียแล้ว!

                “ไนล์ เคารพท่านตา” ยังดีที่นางยังมีมารยาทอยู่บ้าง ฝืนตัวเองก้มตัวลงเล็กน้อยเพื่อทำความเคารพ ไม่หันไปเอาหัวโหม่งใส่พี่สี่เสียก่อน

                “เอ่อ...เจ้าเด็กนี่หน้าตาน่ารัก กิริยาท่าทางไม่เลว ข้าไม่แปลกใจเลยที่พ่อเจ้าจะเอ็นดูเขาจนส่งเสียมาเรียนถึงไมเนอร์”  

                “ขอบคุณท่านตาที่ชม”

                “เจ้าอยู่เงียบๆ ได้หรือไม่!” พี่สี่กระซิบเสียงเขียว แต่เจ้าตัวอ้วนกลมของเขากลับหันมาทำหน้าตาทะเล้นใส่

                “ฮ่าๆๆ ข้าเพิ่งเคยเห็นคนที่ทำให้เจ้าสี่ผู้ใจเย็นหัวเสียได้ ดูท่าแล้วคงมีแต่เจ้า”

                “ขอบคุณท่านตาที่ชม”

นางหันมายิ้มเผล่ให้ท่านตาหนวดขาวอีกครั้งอย่างถูกชะตา

                “อย่างไรก็ทำความรู้จักกันไว้ก่อนก็ไม่เสียหาย นี่หลานชายข้า นีออน สเวน”

                “ไนล์ ลูเซียโน่ ยินดีที่ได้รู้จัก”

                นางเบียดตัวเองมาอยู่ด้านหน้าพี่สี่ได้สำเร็จ และก้มหน้าเล็กน้อยเป็นเชิงทักทายให้แก่เด็กหนุ่มวัยใกล้เคียงกันที่อยู่ห่างออกไป เขามีผมสีทองสว่างยาวจรดกลางหลังซึ่งถูกถักเป็นเปียหลวมๆ และวางพาดอยู่ที่บ่าซ้าย นัยน์ตาสีเขียวฉายแววเป็นมิตรยามก้มหน้าตอบรับนาง นีออน สเวน รูปร่างสูงโปร่งผอมเพรียว ไม่ได้ดูแข็งแรงบึกบึนหรือมีกล้ามเป็นมัดๆ ดังพี่ใหญ่ของนาง หากมองผ่านๆ ไม่พินิจดูให้ดี ไนล์อาจจะคิดว่าเขาเป็นผู้หญิงแหงๆ จะมีก็แต่คิ้วดกดำที่วางพาดเหนือดวงตาสีเขียวคู่นั้นที่ทำให้ นีออน สเวน ดูเหมือนบุรุษขึ้นมาบ้าง

                “นีออน สเวน ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกัน”

                “อย่างไรแล้วสี่ขอตัวนะท่านตา”

                พี่สี่รีบออกตัว หลังพบว่าได้ทำความรู้จักกันมากพอแล้ว

                “เอาเถิด ไว้ว่างๆ ข้าจะแวะไปหาพ่อเจ้า ไว้เราค่อยคุยกันก็ไม่สาย” อดีตหัวหน้าเผ่าจากไปแล้วพร้อมกับหลานชายคนเล็ก เหลือเพียงอดีตเจ้าอ้วนกลมในอ้อมแขนของพี่สี่ซึ่งดูท่าจะยังเคืองอยู่ หลังจากถูกลดขั้นเหลือแค่จิ้งจอกพันธุ์ผสม

                “ไม่ต้องมามองค้อนข้านะ เจ้าอ้วนกลม!”

                “ข้าไม่ได้อ้วนกลมเช่นแต่ก่อนแล้ว!”

                “พี่สี่มองยังไง เจ้าก็ยังเป็นอ้วนกลมที่ขยันหาเรื่องไม่หยุดนั้นแหละ”

                “พี่สี่!”

                เจ้าตัวสะบัดผ้าที่พันตัวหลุดออกสำเร็จ ก่อนซวนเซอย่างไม่ทันตั้งตัว เมื่อพี่สี่ของนางก็ปล่อยมือจากตัวนางเสียพอดิบพอดี

                ตุ้บ!

                แผ่นหลังบอบบางกระแทกกับพื้นดินเข้าอย่างจัง จนเจ้าคนตัวยุ่งถึงกับจุกจนพูดไม่ออกไปชั่วขณะ จะขยับตัวลุกขึ้นก็ไม่ไหว ราวกับมีคนมาเหยียบร่างเอาไว้ไม่มีผิด

                “ขอโทษที ข้าไม่ทันเห็นว่ามีคนนอนอยู่นี่” เงาดำร่างใหญ่บังอยู่เหนือร่างบอบบางของไนล์

                “…”

                “เจ้าเป็นอะไรหรือไม่?” เสียงนุ่มทุ้มนั้นถามย้ำอีกครั้ง ก่อนจะย่อตัวลงมานั่งกับพื้น เมื่อเห็นว่าเหยื่อที่ถูกเขาเหยียบขาไม่มีทีท่าว่าจะตอบสนอง

                “ไม่เป็นก็บ้าเต็มทะ...โอ๊ย” อารามรีบร้อนชะโงกหน้าขึ้นมาไวเกินกว่าที่ผู้มาใหม่จะหลบทัน เลยเกิดเสียงโป๊กดังขึ้นระหว่างหน้าผากของคนทั้งคู่ ก่อนที่ฝ่ายที่บอบบางกว่าจะทิ้งตัวกลับลงไปที่พื้นใหม่อีกรอบเพราะความเจ็บปวดที่มาแบบไม่ทันตั้งตัว

                พี่สี่ผู้ยืนมองเหตุการณ์อ้าปากกว้างจนแทบจะยัดไข่ไก่เข้าไปได้ทั้งฟอง รีบพยุงเจ้าอ้วนกลมขึ้นพร้อมกับปัดฝุ่นตามตัวดัง ปุ่ๆ

                “พี่สี่ ข้า จะ...” มือใหญ่ของพี่สี่ตะครุบปากนางไว้ได้ทัน ก่อนจะดันร่างของน้องสาวไปไว้ด้านหลังอย่างว่องไว

                “ไม่เจอกันนานจนอาสี่เกือบจะจำเจ้าไม่ได้” พี่สี่ของนางรู้จักคนเยอะนัก!

                “ณอน เคารพท่านอาสี่”       

บุรุษผู้นั้นก้มตัวลงต่ำเพื่อแสดงความเคารพ

                “อาสี่แปลกใจที่พบเจ้าที่นี่ มาส่งใครหรือ?”

                “ไม่ได้มาส่งใครหรอกครับท่านอาสี่ นายท่านมาไมเนอร์เพื่อศึกษา” เสียงเล็กๆ ดังขึ้นแทรก พร้อมกับปรากฏร่างมังกรสีนิลตัวจิ๋วที่เกาะขาของบุรุษตรงหน้า

                “มัง กะ”

                “เจ้าอยู่เงียบๆ!” อนิจจาเจ้าอ้วนกลมที่ยังไม่เคยได้พูดจบประโยคเสียที พี่สี่ของนางว่องไวนัก ร่ายมนตร์เป็นบ้าใบ้ให้นางอย่างรวดเร็วเสียจนนางสกัดไม่ทัน!

                “สีนิลกล่าวไม่ผิด”

                เสียงนุ่มทุ้มดังขึ้นอีกครั้งอย่างนอบน้อม พร้อมกับคว้าสีนิลเล็กจิ๋วขึ้นมาวางไว้บนมือ

                “แต่อาจำได้ว่าพ่อเจ้าไม่นิยมส่งพวกเจ้าออกมาเล่าเรียนนอกเผ่า ไฉนถึง...”

                “เป็นบัญชาของภรรยาท่าน ใครเล่าจะขัดได้” เสียงเล็กๆ ดังขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนที่จะถูกผู้เป็นนายยัดใส่กระเป๋าเสื้อนอกเพื่อให้หุบปากเสียที

                “หลานขออภัยแทนสีนิลด้วย”

                พี่สี่ครานี้ถึงกับแทบจะลมจับ เขาไม่เคยทราบมาก่อนว่าจะมีพวกจากเผ่ามังกรดำมาเข้าเรียนด้วย ในหนึ่งหมื่นปีที่ผ่านมานี้ก็ไม่เคยมี แล้วนี้มันเรื่องอะไรกันเล่า มนตร์ที่พี่ใหญ่ร่ายไว้เพื่ออำพรางเพศสภาพที่แท้จริงของน้องห้า นอกจากพวกเขาจิ้งจอกเก้าหางด้วยกันเองไม่มีใครมองออก ไม่มีใครที่จะมีเวทมนตร์คาถาเหนือเผ่าของเขา แต่มังกรดำที่มีอิทธิฤทธิ์แทบจะเสมอกัน หรือไม่แน่อาจจะมากกว่าจะมองออกหรือไม่!

                คิดได้ดังนั้นแทบจะเอาร่างของตนบังร่างน้องสาวให้มิดอย่างไร้พิรุจที่สุด

                “งะ งั้นอาสี่ขอตัวก่อน”

                “ว่าแต่เจ้าเป็นอะไรหรือ มะ”

                เสียงทุ้มดังขึ้น เมื่อยังไม่ทราบชะตากกรมของเหยื่อที่เขาเหยียบเมื่อครู่

                “อาขอตัวก่อน ไว้เราค่อยคุยกัน”

                ท่านอาสี่หรือจะอยู่ต่อ รอพิสูจน์ว่าหลานเผ่ามังกรจะมองผ่านม่านมนตร์ออกหรือไม่ รีบคว้าแขนเจ้าอ้วนกลมแล้วพาวิ่งอย่างไม่ทิ้งฝุ่น

                “หว้า ยังไม่ทันได้แนะนำตัวกันเลย วันนี้ท่านอาสี่ท่าทางแปลกๆ นะนายท่าน”

                เจ้ามังกรจิ๋วที่เพิ่งจะโผล่หน้าออกมาจากกระเป๋าบริเวณอกเสื้อของผู้เป็นนายออกความเห็น

                “แปลก แปลกจริงๆ” นัยน์ตาสีดำสนิทมีแววครุ่นคิด แต่ที่แปลกกลับไม่ใช่ท่านอาสี่

                “สีนิลยังไม่ทันได้ปาวประกาศชื่อของนายท่านเลย มันน่าเสียดายนัก”

                “วันนี้เจ้าออกจะพูดมากเกินไปแล้ว”

                “เฮ้! เจ้าคนที่ถูกนายท่านของข้าเหยียบข้าน่ะ”

                “…”

                “นายท่านของข้า คือ ณอน บาสเตียน วูเดน จากเผ่ามัง กะ อื้อๆ”

                มือใหญ่กดศีรษะเล็กๆ ของเจ้าตัวจิ๋วกลับไปที่เดิมพร้อมกับกลัดกระดุมที่กระเป๋าอกเสื้ออย่างแน่นหนา

 

 

____________________

 

                “เจ้าเข้าใจที่พี่สี่พูดหรือไม่”

                “ข้าบอกว่าเข้าใจ ก็คือเข้าใจสิ ทำไมวันนี้ท่านพูดเยอะจัง” เสียงนุ่มทุ้มที่ติดจะหวานอยู่ในบ้างทีเอ่ยขึ้น

                “พี่สี่จำต้องพูดมาก!”

                “พี่ใหญ่ร่ายมนตร์แปลกกายให้เจ้าเป็นผู้ชายเพื่อได้เข้าเรียนที่นี้ แถมยังให้เวลาเจ้าทำความเคยชินกับร่างผู้ชายอีกเป็นปีๆ พี่สี่ไม่อยากให้ทุกอย่างต้องพังตั้งแต่วันแรกที่เจ้าก้าวเท้าเข้าโรงเรียน เจ้าเข้าใจหรือไม่”

                คำถามเดินลอยมาอีกครั้ง จนไนล์ถึงกับถอนหายใจเฮือกใหญ่

                “เข้าใจไปมากกว่านี้มิได้อีกแล้ว”

                “จำคำพี่สี่ให้ดี พยายามอยู่ห่างจาก ณอน บาสเตียน วูเดน ให้มากที่สุด เขาเป็นทายาทสายตรงของเผ่ามังกร พวกเผ่ามังกรมีอาจมีอำนาจในการใช้เวทมนตร์ไม่เท่าเผ่าเราก็จริง แต่เจ้าอย่าประมาท เขาเป็นสัตว์เทพเจ้าของพระองค์เช่นเรา อำนาจและอิทธิฤทธิ์ไม่ได้ด้อยไปกว่าเลย”

                “อย่างนี้ข้าจำเป็นต้องอยู่ห่างจาก นีออน สเวน ด้วยหรือไม่?”

                “เผ่าหงส์ไม่ได้ใส่ใจเรื่องราวของเผ่าอื่นมานานแล้ว วันๆ สนใจแต่เล่นดนตรีเป่าขลุ่ย เรื่องการใช้เวทมนตร์คาถาก็ไม่เคยอยู่ในหัว เพราะฉะนั้นคนเดียวที่เจ้าควรอยู่ให้ห่างที่สุดก็คือ ณอน บาสเตียน วูเดน!”

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา