9&9 Hers
-
เขียนโดย สกิลพิมพ์เต่าคลาน
วันที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2561 เวลา 22.49 น.
14 ตอน
2 วิจารณ์
14.39K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2561 11.03 น. โดย เจ้าของนิยาย
9) ตอนที่ 9 : ยามเย็นแสนสงบที่ได้คุยกันจริงๆ จังๆ 1
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ“เก้า เก้า ตื่นได้แล้วลูก” ฉันได้ยินเสียงผู้ชายเรียกอยู่จึงลืมตาขึ้น คุณพ่อกำลังมองฉันอยู่จากข้างเตียง ทันทีที่ท่านเห็นฉันลืมตา ท่านก็ยิ้ม ฉันไม่มั่นใจว่าวันนี้เป็นเวรของคุณพ่อที่จะมาปลุกฉัน
“หวัดดีค่ะพ่อ ไม่ทำงานเหรอคะ? แม่ไปไหนล่ะ?” คุณพ่อเดินไปที่ชุดรับแขกเล็กๆ ที่ทางโรงพยาบาลจัดไว้สำหรับผู้มาเยี่ยมไข้ พร้อมกับผายมือโชว์ให้เห็นแลปท็อปตัวใหม่ ฉันรู้สึกอิจฉา
“คุณนายเขาอยากไปคุยกับลูกค้ารายนี้เอง พ่อก็เลยมาเฝ้าลูกแทนแต่ต้องเอางานมาทำที่นี่ด้วยน่ะ คุณนายสั่ง” คุณพ่อขยิบตาและเดินหาปลั๊กต่อสายไฟไปด้วย คุณพ่อเรียกคุณแม่ว่าคุณนายมาตั้งแต่ฉันจำความได้ ฉันว่ามันเจ๋งมากๆ ที่ผู้ชายคนหนึ่งจะรักและเทิดทูนบูชาภรรยาได้มากจนยกให้เธอเป็นคุณนาย แต่คุณแม่กลับบอกว่าคุณพ่อประชด เพราะตอนที่คุณแม่ตั้งท้องฉัน คุณแม่จะชอบสั่งให้คุณพ่อหาอะไรให้กินทุกวัน
“เป็นไงบ้างลูก เมื่อคืนฝันดีไหม?” คุณพ่อถามฉันตอนที่ท่านกำลังเตรียมกาแฟ
“ค่ะ” ฉันตอบและหยุดคิด คุณพ่อจึงหันมามอง “หนูฝันว่าได้ไปเดินเล่นที่หอพักอ่อนระทวย”
“หอพักอ่อนระทวย?” คุณพ่อทำท่าครุ่นคิดพร้อมกับคนกาแฟในถ้วย “อ๋อ! หอพักที่บางขุนนนท์น่ะเหรอลูก? โห! มันนานมากแล้วนะ ทำไมถึงฝันถึงมันได้ละ?” คุณพ่อไม่ค่อยได้ไปที่นั่น นานๆ จะแวะไปครั้งหนึ่งเพื่อหาเพื่อน แต่ฉันไปกับคุณแม่บ่อยๆ
“ที่วิ่งเล่นของหนูเลยนะคะ หนูวิ่งขึ้นลงทั้งสี่ชั้นได้สบาย” ฉันอวดก่อนจะพูดต่ออย่างเศร้าๆ “เสียดายที่คุณแม่ขายไป”
“ก็เราคุยกันแล้วไงว่าเราจะมาอยู่ที่นี่” คุณพ่อแตะหัวไหล่ฉัน ฉันพยักหน้า
ด้วยเหตุผลทางธุรกิจและคำแนะนำของเพื่อนฝูง คุณพ่อและคุณแม่จึงตัดสินใจย้ายมาทำธุรกิจที่นี่ ที่ชิคาโก สหรัฐอเมริกา ตอนนั้นฉันเพิ่งจบมัธยมต้น เป็นช่วงต่อที่กำลังมองหาโรงเรียนใหม่พอดี พวกเราจึงคุยกัน ฉันรู้สึกใจหายที่จะต้องย้ายบ้าน ฉันจะไม่มีโอกาสได้ผ่านร้านสะดวกซื้อนั้นอีกแล้ว
เราย้ายมาอยู่ที่นี่ได้ประมาณสามปีกว่า ฉันก็รู้สึกมีอาการแปลกๆ ที่นานๆ จะเกิดครั้งขึ้นมาครั้งหนึ่ง มันจะเกิดตอนนอนหลับ ฉันรู้สึกเหมือนว่าฉันเดินละเมอทั้งๆ ที่รู้ตัว ฉันค่อนข้างสับสนและอธิบายไม่ได้ จึงยังไม่ได้บอกใครและเก็บไว้ในใจคนเดียว อาการมันไม่ได้น่ากลัวหรือรุนแรงฉันจึงประคองชีวิตมาเรื่อยๆ
ตอนที่ฉันกำลังวางแผนจะฉลองอายุยี่สิบปี ฉันก็ประสบอุบัติเหตุจนต้องเข้าโรงพยาบาล และตอนนั้นเองที่เราทั้งหมดก็ได้รู้ว่าคลื่นสมองของฉันมีปัญหา ผลจากการตรวจหมอสรุปได้เพียงเท่านี้ แต่สิ่งที่ฉันรู้มากกว่าหมอก็คือ
'ฉันมีร่างที่เดินทางไปไหนมาไหนได้อย่างอิสระในช่วงที่ฉันหลับ'
ตอนแรกๆ ร่างเป็นแค่เงาโปร่งใสและจับต้องอะไรไม่ได้ เดินผ่านทุกสิ่งทุกอย่างได้หมด แต่พอนานๆ เข้าฉันก็สามารถจับลูกบิดประตูและเปิดมันออกได้ ไม่มีใครู้ความลับนี้ ไม่ว่าจะเป็นคุณพ่อคุณแม่ หมอหรือนางพยาบาล ทุกคนจะเห็นว่าฉันนอนหลับ แต่ที่จริงแล้วตอนดึกๆ ฉันแอบออกมาเดินเล่นทุกคืน
แล้วฉันก็คิดถึงเขา ผู้ชายที่มีชื่อเดียวกันกับฉันที่อยู่เมืองไทย ตอนนี้ร่างของฉันไม่โปร่งใสแล้ว ฉันจึงตัดสินใจที่จะลองพาตัวเองไปที่ตึกอ่อนระทวยอีกครั้ง
ฉันมาถึง แต่มันก็ทำให้สมองของฉันทำงานหนักขึ้น หมอจึงต้องคอยตรวจเช็คตลอดเวลา และกำหนดเวลาตื่นนอนคือเจ็ดโมงครึ่งของทุกเช้า
--------------
“หวัดดีค่ะพ่อ ไม่ทำงานเหรอคะ? แม่ไปไหนล่ะ?” คุณพ่อเดินไปที่ชุดรับแขกเล็กๆ ที่ทางโรงพยาบาลจัดไว้สำหรับผู้มาเยี่ยมไข้ พร้อมกับผายมือโชว์ให้เห็นแลปท็อปตัวใหม่ ฉันรู้สึกอิจฉา
“คุณนายเขาอยากไปคุยกับลูกค้ารายนี้เอง พ่อก็เลยมาเฝ้าลูกแทนแต่ต้องเอางานมาทำที่นี่ด้วยน่ะ คุณนายสั่ง” คุณพ่อขยิบตาและเดินหาปลั๊กต่อสายไฟไปด้วย คุณพ่อเรียกคุณแม่ว่าคุณนายมาตั้งแต่ฉันจำความได้ ฉันว่ามันเจ๋งมากๆ ที่ผู้ชายคนหนึ่งจะรักและเทิดทูนบูชาภรรยาได้มากจนยกให้เธอเป็นคุณนาย แต่คุณแม่กลับบอกว่าคุณพ่อประชด เพราะตอนที่คุณแม่ตั้งท้องฉัน คุณแม่จะชอบสั่งให้คุณพ่อหาอะไรให้กินทุกวัน
“เป็นไงบ้างลูก เมื่อคืนฝันดีไหม?” คุณพ่อถามฉันตอนที่ท่านกำลังเตรียมกาแฟ
“ค่ะ” ฉันตอบและหยุดคิด คุณพ่อจึงหันมามอง “หนูฝันว่าได้ไปเดินเล่นที่หอพักอ่อนระทวย”
“หอพักอ่อนระทวย?” คุณพ่อทำท่าครุ่นคิดพร้อมกับคนกาแฟในถ้วย “อ๋อ! หอพักที่บางขุนนนท์น่ะเหรอลูก? โห! มันนานมากแล้วนะ ทำไมถึงฝันถึงมันได้ละ?” คุณพ่อไม่ค่อยได้ไปที่นั่น นานๆ จะแวะไปครั้งหนึ่งเพื่อหาเพื่อน แต่ฉันไปกับคุณแม่บ่อยๆ
“ที่วิ่งเล่นของหนูเลยนะคะ หนูวิ่งขึ้นลงทั้งสี่ชั้นได้สบาย” ฉันอวดก่อนจะพูดต่ออย่างเศร้าๆ “เสียดายที่คุณแม่ขายไป”
“ก็เราคุยกันแล้วไงว่าเราจะมาอยู่ที่นี่” คุณพ่อแตะหัวไหล่ฉัน ฉันพยักหน้า
ด้วยเหตุผลทางธุรกิจและคำแนะนำของเพื่อนฝูง คุณพ่อและคุณแม่จึงตัดสินใจย้ายมาทำธุรกิจที่นี่ ที่ชิคาโก สหรัฐอเมริกา ตอนนั้นฉันเพิ่งจบมัธยมต้น เป็นช่วงต่อที่กำลังมองหาโรงเรียนใหม่พอดี พวกเราจึงคุยกัน ฉันรู้สึกใจหายที่จะต้องย้ายบ้าน ฉันจะไม่มีโอกาสได้ผ่านร้านสะดวกซื้อนั้นอีกแล้ว
เราย้ายมาอยู่ที่นี่ได้ประมาณสามปีกว่า ฉันก็รู้สึกมีอาการแปลกๆ ที่นานๆ จะเกิดครั้งขึ้นมาครั้งหนึ่ง มันจะเกิดตอนนอนหลับ ฉันรู้สึกเหมือนว่าฉันเดินละเมอทั้งๆ ที่รู้ตัว ฉันค่อนข้างสับสนและอธิบายไม่ได้ จึงยังไม่ได้บอกใครและเก็บไว้ในใจคนเดียว อาการมันไม่ได้น่ากลัวหรือรุนแรงฉันจึงประคองชีวิตมาเรื่อยๆ
ตอนที่ฉันกำลังวางแผนจะฉลองอายุยี่สิบปี ฉันก็ประสบอุบัติเหตุจนต้องเข้าโรงพยาบาล และตอนนั้นเองที่เราทั้งหมดก็ได้รู้ว่าคลื่นสมองของฉันมีปัญหา ผลจากการตรวจหมอสรุปได้เพียงเท่านี้ แต่สิ่งที่ฉันรู้มากกว่าหมอก็คือ
'ฉันมีร่างที่เดินทางไปไหนมาไหนได้อย่างอิสระในช่วงที่ฉันหลับ'
ตอนแรกๆ ร่างเป็นแค่เงาโปร่งใสและจับต้องอะไรไม่ได้ เดินผ่านทุกสิ่งทุกอย่างได้หมด แต่พอนานๆ เข้าฉันก็สามารถจับลูกบิดประตูและเปิดมันออกได้ ไม่มีใครู้ความลับนี้ ไม่ว่าจะเป็นคุณพ่อคุณแม่ หมอหรือนางพยาบาล ทุกคนจะเห็นว่าฉันนอนหลับ แต่ที่จริงแล้วตอนดึกๆ ฉันแอบออกมาเดินเล่นทุกคืน
แล้วฉันก็คิดถึงเขา ผู้ชายที่มีชื่อเดียวกันกับฉันที่อยู่เมืองไทย ตอนนี้ร่างของฉันไม่โปร่งใสแล้ว ฉันจึงตัดสินใจที่จะลองพาตัวเองไปที่ตึกอ่อนระทวยอีกครั้ง
ฉันมาถึง แต่มันก็ทำให้สมองของฉันทำงานหนักขึ้น หมอจึงต้องคอยตรวจเช็คตลอดเวลา และกำหนดเวลาตื่นนอนคือเจ็ดโมงครึ่งของทุกเช้า
--------------
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ