ผู้กล้าไร้นามกับผู้ติดตามไร้สาระ
-
เขียนโดย Number8
วันที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2561 เวลา 12.12 น.
2 ตอน
0 วิจารณ์
4,055 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 23 เมษายน พ.ศ. 2561 12.20 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) ผู้กล้า A กำลังจะถูกผู้ติดตามXXXXX
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ นี่คือเรื่องราวของผู้กล้ากับเหล่าผู้ติดตามทั้งสาม ได้แก่
กูริเนะ (อายุน้อยกว่าผู้กล้าหนึ่งปี)
แซค (อายุมากกว่าผู้กล้าสองปี)
และลูเซีย (อายุน้อยกว่าผู้กล้าสองปี)
พวกเขาได้อาสาเป็นแนวหน้าสู้รบกับทัพจอมมาร
ตั้งแต่พวกเขาได้ร่วมรบ ทัพของจอมมารก็บุกมาน้อยครั้งลงจนตอนนี้ไม่บุกมาแล้ว ทำให้อาณาจักรยูฉะที่บอบช้ำกับสงครามมาแสนนานค่อยๆ ฟื้นตัว
แล้วยิ่งนับรวมทรัพย์สินที่ผู้กล้าได้บริจาคเพื่อช่วยเหลือประเทศแล้ว อาณาจักรยูฉะจึงฟื้นตัวได้เร็วยิ่งขึ้นจนตอนนี้เป็นหนึ่งในอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
การทำแบบนั้นของผู้กล้าทำให้ประชาชนสรรเสริญเขาอย่างผู้กอบกู้ เศรษฐีหลายคนรวมถึงกษัตริย์ต่างให้ข้อเสนอที่จะทำให้ชีวิตเขาสบายไปตลอดชีวิต
แต่สิ่งที่เขาทำกลับยิ่งทำให้ผู้คนยกย่องเขาขึ้นไปอีก เขาปฏิเสธทุกข้อเสนอที่เขาได้รับ
แล้วเขาไปทำอะไรงั้นเหรอ?
ทำสวนยังไงล่ะ
ฟังไม่ผิดหรอก เขาไปเป็นชาวสวนล่ะ
ส่วนนี่คือเหตุผลจากปากของเขาเอง
“แฮะๆ ผมก็ไม่ใช่คนที่น่ายกย่องอะไรขนาดนั้นหรอกครับ อีกอย่างก่อนจะมาเป็นผู้กล้าผมก็เป็นชาวสวนมาก่อนด้วย ไม่คิดว่าจะคุ้นเคยกับชีวิตหรูหราได้หรอกนะครับ ถ้าผักผลไม้โตแล้วจะเอาเข้ามาขายให้ทุกคนนะครับ” พูดแบบนั้นแหละ
หลังจากเขาไปทำสวนได้ไม่นาน เขาก็เอาผลผลิตเข้ามาขายตามที่เขาบอก หลังจากนั้นผักผลไม้ของผู้กล้าก็เป็นของที่ผู้คนต้องการมากที่สุดเป็นอันดับหนึ่ง
ด้วยความที่เป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน ไม่โลภและมีนิสัยที่ดีอีกมากมาย ทำให้ผู้คนทั่วอาณาจักรต่างรักและเคารพเขา
นี่คือเรื่องราวของผู้กล้าคร่าวๆ
และในคืนหนึ่งของฤดูหนาวอันหนาวเหน็บ
มีการประชุมลับๆ ของคนสามคนขึ้น
“Z มาแล้วสินะ แล้ว G ล่ะ?”
“ไปเตรียมของน่ะ”
“งั้นเหรอ นั่งลงก่อนสิ”
หลังจากนั้นบุคคลลึกลับนาม Z ก็นั่งลงบนเก้าอี้หนึ่งจากสามตัว ตรงกลางเป็นโต๊ะวงกลม
หรือว่านี่จะเป็นการประชุมลับของอัศวินโต๊ะกลมกัน?
ตึง!
เสียงเปิดประตูดังสนั่น ผู้ที่เปิดเข้ามาคือบุคคลลึกลับนาม G ฉากหลังที่เป็นพายุหิมะนั่นช่างดูเข้ากับบรรยากาศมืดๆ ของห้องเสียงจริง
“ขอโทษที่มาสาย”
“ไม่เป็นไรหรอก แล้วได้ของมารึเปล่าล่ะ”
“ไว้ใจได้เลย”
G กับ L ยิ้มให้กันเล็กน้อย
“พร้อมจะปฏิบัติการกันแล้วสินะ”
Z พูดขึ้นมา
“อืม ไปกันเถอะ ‘ที่นั่นน่ะ’ ”
G ใช้นิ้วโป้งชี้ไปที่สถานที่หนึ่ง แล้วพวกเขาทั้งสามก็ออกจากห้องมืดๆ นี้ไป
“…”
“…”
“…”
พวกเขาทั้งสามคนไม่พูดอะไรออกมาเลย ดูเหมือนพวกเขาจะสามารถสื่อสารกันด้วยสายตาได้ล่ะ
L ยกนิ้วโป้งขึ้นแล้วชี้ไปจุดๆ หนึ่งในห้องที่พวกเขาพึ่งเข้ามา ที่จุดนั้นมีคนๆ หนึ่งนอนอยู่
เด็กหนุ่มร่างเล็กอายุประมาณยี่สิบเอ็ดปี มีผมสั้นสีดำสนิท เนื้อตัวมอมแมมไปด้วยดิน นั่นคือคนที่ L ชี้
พวกเขาค่อยๆ สวมถุงที่เตรียมมาให้เด็กหนุ่มคนนั้นอย่างรวดเร็ว ดูเหมือนเขาจะไม่รู้ตัวล่ะ สามคนนี้คงเก่งน่าดู
หลังจากห่อเด็กหนุ่มคนนั้นไว้แล้ว พวกเขาก็แบกถุงนั่น เดินตรงดิ่งไปที่สะพานข้ามแม่น้ำ
“ลาก่อนนะ ‘คุณ-ผู้-กล้า’ ”
พวกเขาทั้งสามคนพูดพร้อมกัน
หลังจากโยนถุงนั่นลงแม่น้ำในฤดูหนาวที่เป็นน้ำแข็งไปแล้วบางส่วนอย่างนุ่มนวล แสงจันทร์ก็ส่องลงมาพลันปรากฏเป็นคนสามคนยืนเรียงกันอยู่บนสะพาน
แล้วด้วยตอนนี้มีพายุหิมะอยู่ ลมจึงพัดฮูดของทั้งสามคนออกอย่างพร้อมเพรียง ทำให้เห็นหน้าตาของทั้งสามอย่างชัดเจน
G คือ หญิงสาวร่างเล็ก ผมยาวถึงไหล่สีเขียว ตาสีทับทิม
Z คือ เด็กหนุ่มร่างเล็กเช่นเดียวกับคนที่พวกเขาโยนลงแม่น้ำไป ผมสั้นสีทองสะท้อนกับแสงจันทร์ได้อย่างสวยงาม พร้อมกับตาสีดำ
L คือ หญิงสาวร่างเล็กที่สุด ผมยาวสีเทาเข้มของเธอยาวไปจนถึงคอ ตาของสีเทาอ่อนของเธอยิ่งทำให้เธอดูเหมือนหมาป่า
และพวกเขาทั้งสามคนกำลังยิ้ม
ในเช้าวันต่อมาหลังจากพายุหิมะสงบลงแล้ว เด็กหนุ่มร่างเล็กเดินตรงมาจากทางสะพาน
เมื่อเขามองตรงขึ้นมาก็เห็นคนสามคนอยู่ที่สวนของเขา
แล้วทั้งสามคนก็พูดขึ้นมาพร้อมกัน
“ยังไม่ตายอีกงั้นเหรอเนี่ย?”
เด็กหนุ่มที่ไม่ได้ยินคำพูดนั้นจึงไม่ได้สนใจสิ่งที่พวกเขาพูด ตอนนี้เขาก็กำลังสับสนกับเหตุการณ์ที่เขาเจออยู่
“นี่กูริเนะ ลูเซีย คุณแซค วันนี้ผมไปตื่นที่ข้างแม่น้ำมาล่ะ แปลกเนอะ?”
ใช่แล้วล่ะ เด็กหนุ่มผมดำคือผู้กล้า ส่วนG Z และ L ก็คือเหล่าผู้ติดตามนั่นเอง
โค้ดที่เรียกกันก็มาจากการย่อชื่อของพวกเขานั่นแหละ
“แปลกจังนะ นายอาจจะละเมอก็ได้”
แซคพูดขึ้นมาคนแรก
“คงจะเป็นเรื่องแปลกของวันเลยล่ะค่ะ คุณผู้กล้านอนละเมอเดินไปตามแม่น้ำเนี่ย”
ลูเซียพูดตาม
“ถ้านายนอนละเมอจริงๆ ฉันจะเอาไปประกาศให้รู้กันทั่วเลย คอยดู”
กูริเนะก็พูดตาม
“อย่าเอาเรื่องน่าอายของผมไปประกาศอย่างนั้นสิครับ คุณกูริเนะ น่าอายออก แฮะๆ”
เด็กหนุ่มเขินอายเล็กน้อยก่อนจะพูดต่อ
“งั้นวันนี้เราเอาผักผลไม้ไปขายกันเถอะครับ”
หลังจากพูดแบบนั้นทั้งสามคนก็แยกย้ายไปเก็บผักในส่วนที่ตัวเองรับผิดชอบมาใส่ในตะกล้า แล้วเตรียมออกไปในเมือง
ผู้กล้าผู้ไร้เดียงสาไม่รู้เลยว่าผู้ติดตามทั้งสามคิดอะไรอยู่ และเหล่าผู้ติดตามทั้งสามก็กำลังคิดแผนการครั้งต่อไปอยู่นั่นเอง
ช่างเป็นผู้กล้าที่น่าสงสารเสียจริง
กูริเนะ (อายุน้อยกว่าผู้กล้าหนึ่งปี)
แซค (อายุมากกว่าผู้กล้าสองปี)
และลูเซีย (อายุน้อยกว่าผู้กล้าสองปี)
พวกเขาได้อาสาเป็นแนวหน้าสู้รบกับทัพจอมมาร
ตั้งแต่พวกเขาได้ร่วมรบ ทัพของจอมมารก็บุกมาน้อยครั้งลงจนตอนนี้ไม่บุกมาแล้ว ทำให้อาณาจักรยูฉะที่บอบช้ำกับสงครามมาแสนนานค่อยๆ ฟื้นตัว
แล้วยิ่งนับรวมทรัพย์สินที่ผู้กล้าได้บริจาคเพื่อช่วยเหลือประเทศแล้ว อาณาจักรยูฉะจึงฟื้นตัวได้เร็วยิ่งขึ้นจนตอนนี้เป็นหนึ่งในอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
การทำแบบนั้นของผู้กล้าทำให้ประชาชนสรรเสริญเขาอย่างผู้กอบกู้ เศรษฐีหลายคนรวมถึงกษัตริย์ต่างให้ข้อเสนอที่จะทำให้ชีวิตเขาสบายไปตลอดชีวิต
แต่สิ่งที่เขาทำกลับยิ่งทำให้ผู้คนยกย่องเขาขึ้นไปอีก เขาปฏิเสธทุกข้อเสนอที่เขาได้รับ
แล้วเขาไปทำอะไรงั้นเหรอ?
ทำสวนยังไงล่ะ
ฟังไม่ผิดหรอก เขาไปเป็นชาวสวนล่ะ
ส่วนนี่คือเหตุผลจากปากของเขาเอง
“แฮะๆ ผมก็ไม่ใช่คนที่น่ายกย่องอะไรขนาดนั้นหรอกครับ อีกอย่างก่อนจะมาเป็นผู้กล้าผมก็เป็นชาวสวนมาก่อนด้วย ไม่คิดว่าจะคุ้นเคยกับชีวิตหรูหราได้หรอกนะครับ ถ้าผักผลไม้โตแล้วจะเอาเข้ามาขายให้ทุกคนนะครับ” พูดแบบนั้นแหละ
หลังจากเขาไปทำสวนได้ไม่นาน เขาก็เอาผลผลิตเข้ามาขายตามที่เขาบอก หลังจากนั้นผักผลไม้ของผู้กล้าก็เป็นของที่ผู้คนต้องการมากที่สุดเป็นอันดับหนึ่ง
ด้วยความที่เป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน ไม่โลภและมีนิสัยที่ดีอีกมากมาย ทำให้ผู้คนทั่วอาณาจักรต่างรักและเคารพเขา
นี่คือเรื่องราวของผู้กล้าคร่าวๆ
และในคืนหนึ่งของฤดูหนาวอันหนาวเหน็บ
มีการประชุมลับๆ ของคนสามคนขึ้น
“Z มาแล้วสินะ แล้ว G ล่ะ?”
“ไปเตรียมของน่ะ”
“งั้นเหรอ นั่งลงก่อนสิ”
หลังจากนั้นบุคคลลึกลับนาม Z ก็นั่งลงบนเก้าอี้หนึ่งจากสามตัว ตรงกลางเป็นโต๊ะวงกลม
หรือว่านี่จะเป็นการประชุมลับของอัศวินโต๊ะกลมกัน?
ตึง!
เสียงเปิดประตูดังสนั่น ผู้ที่เปิดเข้ามาคือบุคคลลึกลับนาม G ฉากหลังที่เป็นพายุหิมะนั่นช่างดูเข้ากับบรรยากาศมืดๆ ของห้องเสียงจริง
“ขอโทษที่มาสาย”
“ไม่เป็นไรหรอก แล้วได้ของมารึเปล่าล่ะ”
“ไว้ใจได้เลย”
G กับ L ยิ้มให้กันเล็กน้อย
“พร้อมจะปฏิบัติการกันแล้วสินะ”
Z พูดขึ้นมา
“อืม ไปกันเถอะ ‘ที่นั่นน่ะ’ ”
G ใช้นิ้วโป้งชี้ไปที่สถานที่หนึ่ง แล้วพวกเขาทั้งสามก็ออกจากห้องมืดๆ นี้ไป
“…”
“…”
“…”
พวกเขาทั้งสามคนไม่พูดอะไรออกมาเลย ดูเหมือนพวกเขาจะสามารถสื่อสารกันด้วยสายตาได้ล่ะ
L ยกนิ้วโป้งขึ้นแล้วชี้ไปจุดๆ หนึ่งในห้องที่พวกเขาพึ่งเข้ามา ที่จุดนั้นมีคนๆ หนึ่งนอนอยู่
เด็กหนุ่มร่างเล็กอายุประมาณยี่สิบเอ็ดปี มีผมสั้นสีดำสนิท เนื้อตัวมอมแมมไปด้วยดิน นั่นคือคนที่ L ชี้
พวกเขาค่อยๆ สวมถุงที่เตรียมมาให้เด็กหนุ่มคนนั้นอย่างรวดเร็ว ดูเหมือนเขาจะไม่รู้ตัวล่ะ สามคนนี้คงเก่งน่าดู
หลังจากห่อเด็กหนุ่มคนนั้นไว้แล้ว พวกเขาก็แบกถุงนั่น เดินตรงดิ่งไปที่สะพานข้ามแม่น้ำ
“ลาก่อนนะ ‘คุณ-ผู้-กล้า’ ”
พวกเขาทั้งสามคนพูดพร้อมกัน
หลังจากโยนถุงนั่นลงแม่น้ำในฤดูหนาวที่เป็นน้ำแข็งไปแล้วบางส่วนอย่างนุ่มนวล แสงจันทร์ก็ส่องลงมาพลันปรากฏเป็นคนสามคนยืนเรียงกันอยู่บนสะพาน
แล้วด้วยตอนนี้มีพายุหิมะอยู่ ลมจึงพัดฮูดของทั้งสามคนออกอย่างพร้อมเพรียง ทำให้เห็นหน้าตาของทั้งสามอย่างชัดเจน
G คือ หญิงสาวร่างเล็ก ผมยาวถึงไหล่สีเขียว ตาสีทับทิม
Z คือ เด็กหนุ่มร่างเล็กเช่นเดียวกับคนที่พวกเขาโยนลงแม่น้ำไป ผมสั้นสีทองสะท้อนกับแสงจันทร์ได้อย่างสวยงาม พร้อมกับตาสีดำ
L คือ หญิงสาวร่างเล็กที่สุด ผมยาวสีเทาเข้มของเธอยาวไปจนถึงคอ ตาของสีเทาอ่อนของเธอยิ่งทำให้เธอดูเหมือนหมาป่า
และพวกเขาทั้งสามคนกำลังยิ้ม
ในเช้าวันต่อมาหลังจากพายุหิมะสงบลงแล้ว เด็กหนุ่มร่างเล็กเดินตรงมาจากทางสะพาน
เมื่อเขามองตรงขึ้นมาก็เห็นคนสามคนอยู่ที่สวนของเขา
แล้วทั้งสามคนก็พูดขึ้นมาพร้อมกัน
“ยังไม่ตายอีกงั้นเหรอเนี่ย?”
เด็กหนุ่มที่ไม่ได้ยินคำพูดนั้นจึงไม่ได้สนใจสิ่งที่พวกเขาพูด ตอนนี้เขาก็กำลังสับสนกับเหตุการณ์ที่เขาเจออยู่
“นี่กูริเนะ ลูเซีย คุณแซค วันนี้ผมไปตื่นที่ข้างแม่น้ำมาล่ะ แปลกเนอะ?”
ใช่แล้วล่ะ เด็กหนุ่มผมดำคือผู้กล้า ส่วนG Z และ L ก็คือเหล่าผู้ติดตามนั่นเอง
โค้ดที่เรียกกันก็มาจากการย่อชื่อของพวกเขานั่นแหละ
“แปลกจังนะ นายอาจจะละเมอก็ได้”
แซคพูดขึ้นมาคนแรก
“คงจะเป็นเรื่องแปลกของวันเลยล่ะค่ะ คุณผู้กล้านอนละเมอเดินไปตามแม่น้ำเนี่ย”
ลูเซียพูดตาม
“ถ้านายนอนละเมอจริงๆ ฉันจะเอาไปประกาศให้รู้กันทั่วเลย คอยดู”
กูริเนะก็พูดตาม
“อย่าเอาเรื่องน่าอายของผมไปประกาศอย่างนั้นสิครับ คุณกูริเนะ น่าอายออก แฮะๆ”
เด็กหนุ่มเขินอายเล็กน้อยก่อนจะพูดต่อ
“งั้นวันนี้เราเอาผักผลไม้ไปขายกันเถอะครับ”
หลังจากพูดแบบนั้นทั้งสามคนก็แยกย้ายไปเก็บผักในส่วนที่ตัวเองรับผิดชอบมาใส่ในตะกล้า แล้วเตรียมออกไปในเมือง
ผู้กล้าผู้ไร้เดียงสาไม่รู้เลยว่าผู้ติดตามทั้งสามคิดอะไรอยู่ และเหล่าผู้ติดตามทั้งสามก็กำลังคิดแผนการครั้งต่อไปอยู่นั่นเอง
ช่างเป็นผู้กล้าที่น่าสงสารเสียจริง
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ