Love in demon : รักวุ่นๆของเด็กหนุ่มกับ(เหล่า)ปีศา

8.0

เขียนโดย Blueheadphone

วันที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2561 เวลา 21.19 น.

  13 ตอน
  3 วิจารณ์
  13.15K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 11 เมษายน พ.ศ. 2561 21.25 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) กาญผจญภัยครั้งที่ 1

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
          “เร็วหน่อยได้ไหมครับ?”
          เสียงของเด็กหนุ่มวัยรุ่นตอนปลายดังออกมาพร้อมกับชะโงกหน้าออกไปทางด้านนอกหน้าต่างเพื่อบอกคนควบม้า สองข้างทางเต็มไปด้วยเหล่าพืชพรรณธรรมชาติและไร่นาของพวกชาวเกษตรที่เริ่มจะพากันเข้าไปในกำแพงหมดแล้ว
          เจ้าตัวบิดขี้เกียจเล็กน้อยด้วยความเมื่อยล้า ไม่นานเกินรอรถม้าก็จอดอยู่บริเวณหน้ากำแพงสูงใหญ่ของหมู่บ้านแห่งหนึ่งในเขตกรีนแลนด์ หลังจากเจรจาต่อรองเรื่องราคาการเดินทางเสร็จสรรพก็เดินไปต่อแถวตรวจคนเข้าเมืองของพวกทหารเวร
          ดูเหมือนจะมาช้าแฮะ
         เขาคิดพลางเงยหน้าขึ้นไปมองดวงอาทิตย์ซึ่งดูเหมือนกำลังจะลาลับขอบฟ้าไปในไม่ช้า ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมพวกคนทำเกษตรถึงรีบวิ่งหนีเข้ากำแพงกันจัง ทุกคนต่างก็กลัวปีศาจ เพราะพวกมันส่วนมากมักจะออกหากินเวลาค่ำและกลางคืน แล้วค่อยหายไปในตอนตะวันขึ้น
          ‘เบ็คกาลอส เทอร์เน็ก’ ชะเง้อมองไปยังด้านหน้าเพื่อมองพวกทหาร พลางคิดในใจว่าทำไมกันนะการจะเข้าหมู่บ้านอันห่างไกลนี้ถึงต้องมีการรักษาความปลอดภัยมากมายขนาดนี้
          “ขอตรวจกระเป๋าสัมภาระและเตรียมเงินเข้าเมืองไว้ด้วยนะครับ”ทหารคนหนึ่งบอกคนเข้าเมืองคนสุดท้าย
          “ห๊ะ!?”คนผมฟ้าสะดุ้งเมื่อได้ยินคำนั้นพลางล้วงกระเป๋าตนเอง... “คือพี่ชาย...แค่เข้าหมู่บ้านไหง่ต้องมีการเรียกเก็บเงินด้วยล่ะหมู่บ้านอื่นๆเขายังไม่ทำกันเลยนะ”
          “ก็เพราะว่าในตอนนี้หมู่บ้านของเรากำลังจะมีงานเลี้ยงใหญ่น่ะครับ จึงจำเป็นต้องขอค่างานเลี้ยง แต่ในงานคุณจะสามารถดื่นหรือทานอะไรก็ได้ตามใจจนกว่างานจะเลิก”ทหารคนเดิมบอกในขณะกำลังตรวจกระเป๋าของเบ็คกาลอส “นี่มันบ้านอะไรวะ...”
          เจ้าตัวพึมพำด้วยเบาๆก่อนจะยกตุ๊กตาหมีขนาดเท่าเด็กประถมออกมาจากกระเป๋า มันเป็นสิ่งเดียวซึ่งอยู่ด้านใน มันเป็นตุ๊กตาหมียัดนุ่นสีแดงเข้มเก่าๆตัวหนึ่งที่เบ็คกาลอสรักมันมาก เพราะสมัยเด็กชอบกินนมแล้วกอดมันไว้ในทุกคืนจนน้ำลายหยดใส่บ่อยๆ และนั่นแหละคือจุดกำเนิดกลิ่นนมเน่าบูดประจำตัวของมัน...
          “ขออนุญาตนะครับ”เด็กหนุ่มเรียกสติของเขาหลังจากจ่ายค่าเข้าหมู่บ้าน ก่อนจะสวมผ้าคลุมแล้วยัดเจ้าตัวเก่งใส่กระเป๋าก่อนจะเดินเข้าไปในเมือง
          “เหม็นชิบเป๋งเลย!!!”
          ทหารคนนั้นดมกลิ่นซึ่งติดอยู่บนมือของตนเองก็ต้องโวยวายออกมายกใหญ่ แล้วหันไปเช็ดเพื่อนที่ไม่ได้สวมชุดเกราะจนชายคนนั้นยกเท้าขึ้นมาเตะเพื่อนให้ไปไกลๆด้วยความเหม็นและรังเกียจ
          “แต่ฉันว่าหอมจะตาย...”
          ในหมู่บ้านฟอล่า เขตกรีนแลนต์ เวลา 18:36 น.
          “ว้าวววววว”
          เบ็คกาลอสลากเสียงยาวชื่นชนให้กับการตกแต่งของถนนคนเดิน แม้จะเป็นสถานที่อันห่างไกลแต่สามารถใช้เปลวไฟสีต่างๆตกแต่งและแทนไฟฟ้าได้เป็นอย่างดี ทั้งสองข้างทางเต็มไปด้วยเหล่าร้านค้าน้อยใหญ่ซึ่งพวกพ่อค้าแม่ค้าต่างพากันร้องเรียกให้ผู้คนสนใจมาซื้อของของพวกตน แต่ดูแล้วไม่ใส่สิ่งน่ารำคาญกลับกันดันคิดถึงบ้านเกิดของตนเองด้วยซ้ำ
          ด้วยกิเลสในใจก็อดไม่ได้จะต้องแวะดูสินค้ามากมายจากต่างแดน หากเมื่อไม่สามารถซื้อมันได้เลยสักชิ้นเพราะว่าเงินในกระเป๋าเหลือเพียงแค่จ่ายอาหารเพียงมื้อเดียว เพราะมันได้จ่ายกับการเข้าหมู่บ้านนี้ตั้งแต่ด้านหน้าแล้ว จึงทำได้แค่ไม่สนใจหรือปฏิเสธการเชื้อเชิญของบรรดานักขาย
          เด็กหนุ่มผมฟ้าถอนหายใจยาวเมื่อได้ตัดสินใจนั่งรับประทานอาหารในร้านอาหารข้างทางซึ่งเขาคาดว่าถูกที่สุดแต่อร่อย เนื่องจากอ่านป้ายด้านนอกบวกกับการอ่านราคาบนป้ายนั้นจึงเลือกเข้าร้านนี้
          และเป็นธรรมดาของร้านอาหารราคาถูกแต่อร่อยที่คนจะต้องแน่นขนัด ยังนับว่ามีบุญอยู่เพราะมีโต๊ะนั่งสองคนยังว่างอยู่ ไม่รอช้ารีบพุ่งไปจับจองแล้วยกมือเรียกพนักงานพร้อมกับสั่งอาหารกับพนักงานสาวสาย
          เบ็คกาลอสหมุนช้อนอาหารไปมาเพื่อฆ่าเวลารออาหารอันโอชะ เพียงไม่นานก็มีเสื้อคลุมตัวหนึ่งวางผาดไว้กับเก้าอี้ไม้ตรงหน้าตามมาด้วยการนั่งลงโดยไม่ขออนุญาตของเจ้าของเสื้อคลุมนั้น เด็กหนุ่มแอบไม่พอใจเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะคนในร้านเยอะมาก การแบ่งที่นั่งให้คนสักคนก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
นับตั้งแต่เดินเข้ามาในร้านด้วยความสูงกว่า 190 เซนติเมตร ‘วูดวูฟ โอเวล’ ก็ตกเป็นเป้าสายตาของผู้คนทั่วไป เขามองหาโต๊ะว่างและพบกับที่ว่างตรงหน้าของเด็กหนุ่มผมฟ้า เขาจึงเดินไปพาดเสื้อคลุมก่อนจะนั่งลงโดยไม่ขออนุญาตเจ้าของที่มันมีอยู่แล้ว
เสื้อแขนกุดสีดำเปิดเผยให้เห็นผิวสีแทนกับกล้ามแขนได้รูปอันน่าหลงใหลกับรอยสักรูปหมาป่าตรงบริเวณหัวไหล่ด้านซ้าย นัยน์ตาสีดำจับจ้องไปยังคนตรงหน้าที่กำลังควงช้อนบนโต๊ะอย่างสนุกสนานเมื่อสามารถสัมผัสได้ถึงรังสีประหลาดที่ถูกปล่อยออกมาจากเด็กคนนี้
มันช่างชวนให้หลงใหลแต่ก็น่าหวาดกลัวเช่นเดียวกัน...
          “นี่นาย”วูดวูฟเรียกคนตรงหน้า
          “ว่าอะไรลุง?”
          ไอ้เด็กเวร
         “ไอ้รังสีบ้าๆของนายน่ะ หัดสะกดมันเอาไว้บ้างปล่อยออกมาในตอนไม่จำเป็นมันก็ไร้ประโยชน์เปล่าๆ”
          “หมายความว่าอะไร?”เบ็คกาลอสละความสนใจจากช้อนพลางหันมาถามอีกฝั่ง “ฉันทำอะไร?”
          “ไม่เคยมีใครทักเลยสินะ”คนผมสีดำส่ายศีรษะไปมา “คนทั่วไปมันอาจจะมองไม่ออก แต่นักล่าส่วนใหญ่ก็ต้องมองเห็น ว่ากันตามตรงรังสีของนายมันแปลกประหลาดมากๆ มันสามารถดึงอันตรายมาให้นายได้ ดังนั้นเก็บมันไว้ซะไม่ใช่ปล่อยมันออกมาตลอดเวลา”
          “ขอบคุณที่เตือนนะ...ขอบคุณครับ”เบ็คกาลอสบอกซึ่งมันเป็นเวลาเดียวกับอาหารถูกนำมาวางไว้ตรงหน้า “แต่ฉันดูแลตัวเองได้ขอบคุณ”
          “แล้วจะหาว่าไม่เตือน.
          “หึ”เด็กผมฟ้าหัวเราะ “นักล่าปีศาจระดับ A+”
          คนตรงหน้าเบิกตากว้างด้วยความตกใจ ทั้งๆที่ทั้งสองเพิ่งจะพบกันและคุยกันไปเพียงแค่ไม่กี่ประโยคแล้วทำไมเขาคนนี้ถึงรู้ได้กัน?
          “สงสัยงั้นเหรอว่ารู้ได้ยังไง?”เบ็คกาลอสเดาใจของวูดวูฟถูก “จิตสังหารของลุงมันบอกมาว่าลุงอยู่ในคลาสนั้น คนธรรมดาอาจมองไม่ออกนะ แต่ผมน่ะมองออกเพราะฉะนั้นก็ช่วยเก็บจิตสังหารของลุงไว้หน่อย ปล่อยมันออกมาตอนไม่ได้ใช้ก็ไร้ประโยชน์เปล่าๆ”
          ปึง!
          นักล่าหนุ่มทุบโต๊ะเสียงดังด้วยความโกรธจนคนทั้งร้านหันมามอง วูดวูฟกัดฟันกรอดเมื่อคนอายุน้อยกว่าตรงหน้ากำลังกวนประสาทแถมมิหนำซ้ำยังสอนเขากลับด้วยใบหน้าอันแสนจะเรียกร้องให้ใช้เท้ากระแทกหน้า
          พนักงานพยายามเข้ามาถามและห้ามปราม คนผมดำสูดหายใจให้ลึกเพื่อสงบอารมณ์แล้วนั่งลงแต่โดยดีทำให้ชายคนนั้นโล่งใจแล้วกลับไปทำงานตามหน้าที่ของตน
          “ไม่เคยมีคนทักแบบนี้สินะ?”เบ็คกาลอสส่ายหัวแล้วหัวเราะ “ถ้ายังทำเองไม่ได้ก็อย่ามาสอนคนอื่นเดี๋ยวเขาจะหาว่าสอดรู้สอดเห็นหรือโง่แล้วอวดฉลาด”
          สิ้นประโยคของคนผมฟ้าวูดวูฟไม่อดทนแล้วคว้าเสื้อคลุมตัวเก่งแล้วเดินออกไปจากร้านโดยยังวางเงินไว้บนโต๊ะชำระค่าอาหารที่สั่งไป เด็กน้อยหัวเราะด้วยความสะใจแล้วรับประทานอาหรตรงหน้าต่อด้วยความสุด
          ชายร่างหนาเดินฟึดฟัดมานั่งสงบสติใต้ต้นไม้ใหญ่ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะมีคนที่สามารถจี้จุดอารมณ์เขาได้ขนาดนี้ มิหนำซ้ำมันยังเป็นเด็กน้อยดูอ่อนประสบการณ์กว่าเขาเป็นไหนๆ ยิ่งคิดแล้วมันยิ่งโมโหชะมัด!
         ตูม!
          ในขณะกำลังนั่งสมาธิอยู่นั้นเสียระเบิดขนาดใหญ่ก็ดังขึ้น ชายหนุ่มรีบหันไปทางเสียงก็เห็นกลุ่มควันลอยออกมาจากทางหน้าหมู่บ้านตามมาด้วยเสียงกรีดร้องระงมแลละการขอความช่วยเหลือของพวกชาวบ้าน
          นักล่าหนุ่มรีบวิ่งไปยังจุดเกิดเหตุ ภาพเบื้องหน้าของเขาคือกลุ่มทหารตรวจคนเข้าเมืองซึ่งนอนแน่นิ่งอยู่บนพื้นกับประตูหมู่บ้านที่ถูกทำลายจากฝีมือของบางสิ่ง ไม่นานมันก็ปรากฏด้วยการโยนร่างนายทหารที่ถูกคมดาบแทงทะลุลงมาตรงหน้าเขา
          “ว้าวๆ! ไม่คิดเลยนะว่าจะมาเจอแกที่นี่!”
          ร่างของชายหนุ่มซึ่งมีแขนเป็นใบมีดกระโดดลงมาจากด้านบนกำแพงแล้วเลียของเหลวสีแดงซึ่งติดอยู่บนมีดดาบของมัน
          “ปีศาจใบมีดระดับ B สินะ?”วูดวูฟเอ่ยชื่อชนิดของปีศาจตรงหน้า
          “เฮ้อ พวกมนุษย์เนี่ยนะทำไมถึงชอบประเมินฝีมือด้วยชนิดด้วยนะ”มันส่ายศีรษะไปมา “ถ้าโดนตัดสินแบบนั้นก็แย่น่ะสิ!”
          ฉับพลันลูกไฟสีแดงก็ถูกยิงฝ่ากลุ่มควันพุ่งตรงมายังนักล่าหนุ่ม วูดวูฟสามารถเอี้ยวหลบมันได้อย่างง่ายดายทำให้ลูกไฟนั้นพุ่งตรงไปเผาบ้านอิฐหลังหนึ่งที่มันอยู่ถัดต่อจากเขา ปีศาจจิ้งจอกสามหางเดินด้วยสองเท้าเผยร่างให้เขาได้เห็น
          “ลูกไม้ตื้นๆพรรณนั้นใช่ไม่ได้ผลหรอกนะ”
          “เก่งครับเก่งสุดๆไปเลยคุณนักล่า”ปีศาจใบมีดเปลี่ยนแขนของตนเองให้เป็นรูปแบบธรรมดาแล้วปรบมือรัว “ข่าวสารของคาเอมยังแม่นไม่มีเปลี่ยนคิดถูกจริงๆที่เชื่อมัน”
          “พูดอะไรของแก?”ถามอีกฝั่งพลางคว้ามีดสั้นแนบตัวออกมาเตรียมต่อสู้
          “ขอแบบไม่อ้อมค้อมเลยนะ”คราวนี้จิ้งจอกเป็นฝ่ายพูด “ส่งต่างหูนั่นมา”
นิ้วเรียวชี้ไปยังเครื่องประดับของวูดวูฟซึ่งมันเป็นต่างหูด้านซ้ายโดยมีอัญมณีสีดำฝังอยู่ด้านใน แต่ยังไม่ทันจะได้คำตอบร่างของนักล่าก็หายไปอย่างรวดเร็ว โผล่มาอีกครั้งก็เมื่อใช้มีดโจมตี แต่ช่างน่าเสียดายเมื่อมันทั้งสองตนรู้ทัน
ปีศาจจิ้งจอกอ้าปากแล้วรวมพลังไฟไว้บริเวณนั้นจนกลายเป็นลูกไฟสีแดงแล้วยิงออกไป ชายผมดำแสยะยิ้มก่อนจะสามารถตัดมันทิ้งไปได้อย่างง่ายดาย ด้วยความไม่ระวังคมมีดก็ถูกจ่อไว้ด้านหลังหมายจะชิงชีวิตของนักล่าปีศาจหากมันถูกหยุดไว้ด้วยหอกสีเงิน
          “ขอร่วมวงด้วยคนละกันนะ”
          พูดเสร็จจึงใช้ขาในชุดเกราะเตะอัดเข้าบริเวณหน้าท้องของปีศาจใบมีดให้มันถอยห่างออกไป ทางวูดวูฟเองก็จัดการขว้างมีดใส่จิ้งจอกแล้วคว้ามีดจากเสื้อคลุมและขว้างมันออกไปอีก ทหารรอบด้านจากทุกทิศทางก็ช่วยยิงธนูใส่ทั้งสองตน
          “ไอ้พวกหมาหมู่เอ๊ย!!!”
          ปีศาจใบมีดสยายปีกโลหะเงินออกมาคลุมร่างของตนเองและเพื่อนเอาไว้เพื่อป้องกันการโจมตีของธนู อัศวินในชุดเกราะสีขาวไม่สนใจคำกล่าวของปีศาจจึงใช้หอกแทงทะลุเข้าไปจนโดนบริเวณหัวไหล่ของหมาจิ้งจอก
          พวกทหารเห็นสัญญาณคำสั่งของหัวหน้าจึงเปลี่ยนลูกธนูเป็นกระสุนระเบิดแทน ยิงไปปักไว้รอบตัวของปีศาจทั้งสองตน วูดวูฟพยักหน้าให้เพื่อนเป็นการเข้าใจเมื่อเขาดึงหอกและวิ่งออกหาจากธนูระเบิดนั้น ทุกคนต่างหาจุดกำบังแรงระเบิดก่อนชายผมดำจะเล็งขว้างมีดไปให้เกิดประกายไฟเพื่อจุดระเบิด
          ตูม!
          เสียงระเบิดขนาดใหญ่ดังขึ้นทิ้งไว้เพียงแค่กลุ่มควันจำนวนมาก ทุกคนค่อยๆออกมาจากที่หลบภัยและพากันหรี่ตาเพื่อมองหาปีศาจทั้งสองตน ทันใดนั้นสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดก็เกิดขึ้น นั่นคือการมีแสงสีดำพุ่งออกมาจากพุ่งแล้วถูกวาดเป็นวงเวทย์ขนาดใหญ่
          กลุ่มควันและอากาศถูกดูดกลืนลงไปยังใจกลางของวงเวทย์ทมิฬปรากฏให้เห็นร่างของปีศาจสองตนเดิมหากแต่คราวนี้กลับมีรังสีสีดำล้อมรอบอยู่รอบตัวมัน มิหนำซ้ำยังมีเหล่าโครงกระดูกจำนวนมากค่อยๆโผล่ขึ้นมาจากพื้น
          พวกทหารเกิดอาการผิดปกติเมื่อพวกมันโผล่ขึ้นมา พวกเขาทรุดเข่าลง ทิ้งอาวุธในมือและลงไปนอนฟุบอยู่กับพื้น ส่วนอัศวินขาวและวูดวูฟเกิดอาการวิงเวียนศีรษะเมื่อวงเวทย์นั้นปรากฏ
          “อึก...”ชายผมดำนำมือมากุมขมับด้วยความปวดหัว
          “ขอเอาคืนหน่อยนะไอ้พวกมนุษย์!”
          กระสุนไฟถูกยิงพุ่งตรงมาทางวูดวูฟโดยไม่จำเป็นต้องมีการรวมพลังเอาไว้ เพื่อนของเขาจึงวิ่งเข้ามาก่อนปักหอกยาวไว้ที่พื้นเพื่อเปิดสนามพลังป้องกันพลังเวทย์ ปีศาจใบมีดหัวเราะหึแล้วหายไปจากสายตาอย่างรวดเร็ว
          มันกระโดดข้ามร่างของทั้งสองคนไปด้านหลังเพื่อจะใช้เท้ายันหลังของชายผมดำให้ไปชนกับอัศวินขาว นั่นเป็นเหตุให้สนามพลังหายไปแล้วกระสุนไฟจึงพุ่งเข้าใส่ทั้งสองร่างอย่างจัง
          “บ้าชัดๆ”อัศวินขาวกัดฟันกรอด “ปีศาจระดับ B มีพลังขนาดนี้ได้ยังไง!?”
          “อย่าเพิ่งตะลึงในพลังเพราะเรายังมีให้พวกแกอีก!!!”
          หมาจิ้งจอกจับร่างของทั้งสองขึ้นมาแล้วใช่เวทย์ไฟที่มือแผดเผาร่างของทั้งคู่พร้อมกัน เดเบียสใช้เท้าของตนเตะเสยคางของมันจนมือนั้นคลายออกจากคอ ยังไม่ทันจะได้ตั้งตัวใบมีดก็ถูกกระหน่ำฟันและแทงใส่ร่างของเขาอย่างไม่ยั้ง
          เสื้อเกราะขาวเวทย์มนต์พิเศษของเขาแตกกระจายเป็นเสี่ยงๆจนวูดวูฟต้องตกใจ เสื้อเกราะนั่นถูกทำมาจากโลหะชนิดพิเศษเพราะสามารถถ่ายเทแรงกระแทกทั้งหมดลงไปยังพื้นดินได้ ดังนั้นมันจะสามารถป้องกันการโจมตีทุกชนิดถ้าหากมันยังติดอยู่บนพื้น...แล้วนี่มันอะไรกัน
          เมื่อมองไปรอบๆเหล่าโครงกระดูกปีศาจเดินเข้าไปในตัวหมู่บ้านเพื่อจับคนรวมกันเพื่ออะไรบางอย่าง ในขณะเดียวกันพลังของพวกเขาก็กำลังหมดลงไปทุกวินาทีตราบใดถ้ายังมีวงเวทย์นั่นอยู่ หากแต่ในเวลานี้แรงจะเคลื่อนไหวยังแทบไม่มี
          “การเพิ่มพลังอย่างงั้นเหรอ...แต่ไม่เคยมีเวทย์ไหนเพิ่มพลังได้ขนาดนี้นี่!?”วูดวูฟพูดก่อนจะโดนเหยียบศีรษะด้วยเท้าของปีศาจใบมีด
          “มันไม่ใช่การเพิ่มพลัง”มันตอบ “แต่คือการดูดมาแล้วปล่อยคืนต่างหาก”
          ง้างมีดขึ้นมาหมายจะตัดศีรษะของมนุษย์ตรงหน้า ชายผู้เคราะห์ร้ายกัดฟันกรอดด้วยความแค้นแล้วนึกคิดว่าจุดจบของเขาควรไม่ใช่แบบนี้ และจะไม่ยอมตายด้วยน้ำมือของปีศาจระดับ B โดดเด็ดขาด
          “ลาก่อนนักล่าผู้ชำนาญศึก!”
          ปึก!
          “อะไรวะ!?”
          วูดวูฟเบิกตากว้างเมื่อใบมีดที่สามารถตัดได้แม้กระทั่งชุดเกราะพิเศษนั้นถูกหยุดไว้ด้วยกระเป๋าไม้ใบหนึ่ง เจ้าของปัดคมดาบออกไปก่อนจะใช้วัตถุในมือตบเข้าไปในบริเวณใบหน้าของปีศาจตนนั้นเต็มแรง
          ยังไม่ทันจะได้ตกใจมากเท่าไหร่จิ้งจอกสามหางก็ถูกซัดให้กระเด็นด้วยหมัดนุ่มๆ หากมันแฝงไปด้วยพลังอันมหาศาลอัดเข้าเต็มๆ ทำให้มีสภาพกระเด็นไปกองอยู่กับเพื่อนของมัน ‘เท็ดดี้’ เจ้าตุ๊กตาหมีตัวน้อยยืนทำท่าเก๊กหล่ออยู่หลายวินาทีแล้วค่อยจัดการขยับโบว์บริเวณคอไม่ให้มันรัดแน่นเกินไปแล้ววิ่งกลับไปยืนเก๊กท่าด้านหน้าเจ้านายของตน
          “เจ้านายก็ทำด้วยสิขอรับ!”
          “ขอโทษที่ปล่อยให้รอนานนะทุกคนพอดีเพิ่งกินข้าวเสร็จน่ะ!”คนผมฟ้าทุบอกของตนด้วยความภาคภูมิใจที่ยัง(อุตสาห์)มาทัน แล้วจึงค่อยชูสองนิ้วไปด้านหน้า “นักล่าไร้สังกัด ‘เบ็คกาลอส’ รายงานตัวในภารกิจคร้าบบบบ (>W<)Y”
 -----------------------------------------------------------------------------------
          ฮ่าๆ จบไปแล้วนะครับตอนที่ 2 ของผม ยังไงก็ช่วยเม้นเป็นกำลังใจและติชมด้วยนะคร้าบบบบบบบบบบ

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา