Last Judgment Day วันพิพากษาครั้งสุดท้าย

-

วันที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2561 เวลา 01.14 น.

  4 บท
  0 วิจารณ์
  5,981 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 8 เมษายน พ.ศ. 2561 01.31 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

3) บทที่2 อย่าได้ดูถูกเอล์ฟผู้นี้ 100%

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก

ณ ปราสาทยูโทเปีย เป็นปราสาทที่อยู่เหนือเมืองเอลฟ์ต่างๆ ที่อยู่เหนือเพราะมันคือปราสาทลอยฟ้าที่มีที่พักอาศัยของหัวหน้าเผ่าเอลฟ์ชายร่างบาง ผู้มีนามว่า…อีซิโอ 


 
“ท่านอีซีโอ แย่แล้วขอรับ!”เสียงองครักษ์นายหนึ่งได้วิ่งเข้าไปหาผู้นำของตน 


 
“เกิดอะไรขึ้น”อีซีโอเอ่ยถามขึ้นด้วยสีหน้าที่เป็นกังวลกับเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น 


 
“ท่านไนยาหายไปขอรับ” 


 
“หนอยแน่ ยัยเด็กแสบ”เขาพึมพำออกมาก่อนจะทันไปสั่งองครักษ์ของตนว่า “รีบไปสั่งให้ทหารทุกหน่วยตามหานางให้เจอ” 


 
“ขอรับ” 


 
“เจ้าต้องการอะไรกันแน่ ไนยา” 


 
เสียงสนทนามากมายของเหล่าทหารที่พูดคุยและแบ่งหน้าที่กันอย่างเร่งรีบโดยหารู้ไม่ว่าได้มีใครบางคนแอบฟังอยู่ตลอด 


 
“รู้ตัวแล้วงั้นหรอ”เสียงที่เลดรอดออกมาจากช่องกำแพงซึ่งเป็นเสียงของเด็กหนุ่ม 


 
“เจ้าพวกองครักษ์นี้จมูกไว ตาไวเหมือนสุนัขไม่มีผิดเลยนะ…หึ ใครมันจะยอมกันล่ะ ข้ามีสิ่งที่ต้องให้สำเร็จอยู่” 


 
เด็กหนุ่มเดินออกมาจากที่ซ่อนทำให้เห็นได้ชัดขึ้น เรือนผมสีฟ้าอ่อนที่สอยสั้นถึงบ่าเช่นเดียวกับสีของดวงตา สวมชุดจอมเวทย์และผ้าคลุมเอาไว้เพื่อปกปิดใบหน้า 


 
เขาเดินไปสถานที่แห่งนึง มันเป็นสถานที่รวมตัวเหล่าเด็กที่จะถูกตัดเลือกให้ทำภารกิจบางอย่างก็คือปราสาทยูโทเปีย 


 
“ยินดีต้อนรับเด็กๆ ทั้งหลาย ที่พวกเจ้ามาที่นี้คงรู้กันใช่ไหมว่าทำไมถึงมาที่นี้”อีซีโอประกาศต้อนรับอย่างเป็นมิตรแต่แล้วสายตาเขาก็จับจ้องกับดวงตาสีฟ้าอ่อนของเด็กหนุ่มคนนึงเข้าก่อนจะกระตุกยิ้มมุมปาก 


 
“อีกสิบนาทีจะเริ่มการทดสอบ ระหว่างนั้นขอให้เตรียมตัวกันให้พร้อม”เขาพูกประโยคสุดท้ายจบก็เดินหายไป 


 
ท่านพ่อจะรู้ไหมนะ ว่าเรามาเข้าร่วมการทดสอบด้วยนะ คะ…คงไม่หรอกมั่ง แต่สายตากับการยิ้มนั้นมันคืออะไร…ต้องมีเลศนัยอะไรแน่ๆ….เด็กหนุ่มผมฟ้าคิดในใจ 


 
“สวัสดีจ้า”เสียงใครบางคนเอ่ยทักขึ้น 


 
“สวัสดีครับ”เขาเอ่ยทักทายกลับไปเมื่อรู้ว่าคนๆ นั้นทักทายใคร 


 
“ฉันชื่อ ไอ แล้วนายล่ะชื่ออะไร”เด็กสาวผู้มีเรือนผมสั้นสีแดง ตาสีแดง 


 
“ผมชื่อทรอย”ทรอยแนะนำตัวกับเพื่อนใหม่ 


 
“เราคงเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันนะ” 


 
“รวมตัว!”เสียงของนายทหารตะโกนเสียงดังขึ้น เมื่อมากันครบทุกคนก็พูดต่อว่า”การทดสอบครั้งนี้คือ การประลองเวทย์…และนี้คือตารางการประลอง ตรวจดูให้ดีว่าต้องสู้กันใคร” 


 
นายทหารใช้เวทย์เสกบอร์ดขนาดใหญ่ขึ้นมาเพื่อให้เห็นกันได้ทั่วถึงกัน 


 
เอ๋…เราต้องสู้กับใครกันนะ อ๊ะ เจอแล้วๆ ….หึๆ แค่นี้ง่ายนิดหน่อย…ข้าไม่ยอมแพ้หรอกนะ ต่อให้ต้องสู้กับคนที่เก่งกว่า ยังไงก็ไม่ยอมเด็กขาด… 


 
“ทรอยนี้โชคร้ายจังเลยนะ เปิดมาก็เจอหมอนั้นเลย…ยังไงก็ ถ้าจบก็ไปทำบุญบ้างนะ”เด็กสาวผมแดงเดินมาตบบ่าเบาๆ เหมือนเป็นการปลอบใจสิ่งที่เขาเจอแต่เธอจะรู้ไหมนะว่าคนที่เธอกำลังปลอบนั้นไม่ได้คิดเช่นนั้นแม้แต่น้อย ถ้าพูดให้ถูกคือไม่ได้คิดเลยต่างหาก 


 
“น่าสนุก”จอมเวทย์หนุ่มพึมพำออกมาเบาๆ 


 
“นายว่าไงนะ” 


 
“ปะ…เปล่าหรอก แค่บอกว่าแย่จังเลยนะ ผมจะรอดไม่น่า~ คงจะเก่งมาแน่ๆ เลย…ใช่ม่ะ”ทรอยเสแสร้งทำเป็นกลัวทั้งๆ ที่ไม่ได้คิดแบบนั้นเลย 


 
“พอตัวเลยล่ะ หมอนั้นนะติดอันดับท็อปอะไรสักอย่างของเอลฟ์ที่เก่งที่สุดเลยนะ แต่ฉันจำไม่ได้ว่ามันคืออะไร...รู้สึกจะชื่อ บาร์ลิน” 


 
“เข้าใจแล้ว ผมจะระวังตัว” 


 
การประลองได้เริ่มต้นขึ้น จอมเวทย์จำนวนมากได้สร้างสนามประลองเอาไว้หลายจุดเพื่อความรวดเร็วซึ่งไม่ต่ำกว่าสิบจุด 


 
“แกเองงั้นหรอ”เสียงของเด็กหนุ่มที่มีร่างกายที่ตัวโตกว่าทรอยพอสมควรอยู่นั้นกำลังมองเด็กหนุ่มผมฟ้าด้วยสายตาที่ดูถูกดูแคลน 


 
“งั้นนายคงเป็น บาร์ลิน”เด็กหนุ่มไม่สนใจสาบตาคู่นั้นเพราะสำหรับเขามีเพียงชัยชนะเท่านั้น 


 
“เด็กบอบบางอย่างแกนะทำอะไรฉันไม่ได้หรอก ยอมแพ้ไปซะ! ก่อนที่ฉันจะขยี้แกให้เหมือนแมลง” 


 
“ไม่มีวัน!” 


 
“งั้นก็ตายซะ”บาร์ลินเรียกคทาออกมาก่อนจะร่ายเวทย์บางอย่างใส่อีกฝ่าย 


 
กระแสไฟฟ้าที่มีความรุนแรงพุ่งเข้ามาหาทรอย แต่เมื่อเขายื่นมือออกมาก็ปรากฏม่านพลังมาป้องกันตัวเอาไว้ 


 
“แค่นี้เองหรอ”รอยยิ้มเหยียดที่มองผู้ที่โจมตีเขา ดูเหมือนจะรุนแรงแต่เมื่ออยู่ต่อหน้าเขาก็ไม่ต่างจากกระแสไฟฟ้าธรรมดา 
 


ทรอยเสกกระสุนน้ำจำนวนมากพุ่งเข้าใส่ฝ่ายตรงข้ามแต่ทุกนัดยิงไปเหมือนจงใจทำให้พลาด พื้นที่เรียบเนียนกลับกลายเป็นพื้นที่ชุ่มไปด้วยน้ำ 


 
“ผมมีอะไรจะถามด้วยแหละ”เด็กหนุ่มผมฟ้าพูดพร้อมกลับการโจมตีไปด้วย 


 
“ถ้ามีอะไรพูดก่อนจะตายก็เชิญเพราะนี้คือโอกาสสุดท้ายของแกแล้ว” 


 
“รู้ไหมว่าน้ำโดนกับไฟฟ้าจะเกิดอะไรขึ้น”เขาถามขึ้นโดยที่ยังคงหลบไฟฟ้าพวกนั้นอย่างสบายซึ่งไม่ต่างอะไรกับเต้นรำถ้ำกลางกระแสไฟฟ้าที่พุ่งเข้ามาไม่หยุด 


 
“ถ้าแกไม่รู้ ฉันก็จะตอบให้เอาบุญ…ถ้าน้ำโดนไฟฟ้ายังไงก็ช็อคอยู่แล้ว”บาร์ลินตอบออกไปโดยไม่เอะใจถึงคำถามนั้น 


 
“แล้วรู้ไหมว่าทำไมผมถึงยิงกระสุนน้ำพลาด” 


 
“เพราะแกอ่อนยังไงล่ะ รู้ว่าอ่อนแอก็ยังไม่ยอมแพ้…หึ โง่สิ้นดี”เด็กหนุ่มสายฟ้ามองอีกฝ่ายด้วยสายตาที่ดูถูกโดยยังคงไม่เอะใจกับอะไรบางอย่าง 


 
“ถึงจะโง่ แต่ก็ไม่เหมือนใครบางคนหรอกที่ยังไม่รู้ตัว” 


 
“หมายความว่ายังไง หรือว่าที่แกยิงพลาดเพื่อจุดประสงค์นี้” 


 
“คิดตอนนี้ก็ช้าไปเสียแล้ว” 


 
บาร์ลินที่กำลังจะกระโดดหลบก็โดนมวลน้ำจากพื้นจำนวนมากห่อหุ้มตัวเองเอาไว้ กระแสน้ำเริ่มสร้างน้ำวนขึ้นเพื่อทำให้คนข้างในทรมาน คนที่เริ่มหายใจไม่ออกก็คิดจะร่ายเวทย์เพื่อระเบิดน้ำพวกนี้ 


 
“ถ้าเป็นผมจะไม่ทำเช่นนั้นนะ”คำเตือนของผู้กระทำเอ่ยเตือนขึ้นแต่ช้าไปเสียแล้ว กระแสไฟฟ้าออกมาจากตัวบาร์ลินเพื่อหวังจะระเบิดกลับย้อนเข้าหาตัว ไฟฟ้าทำปฏิกิริยากับน้ำทำให้เกิดไฟช็อคที่รุนแรงขึ้น  


 
การประลองได้จบลง ทรอยเป็นผู้ชนะ ส่วนบาร์ลินนั้นถูกส่งตัวไปรักษาอย่างเร่งด่วน 


 
สายตาของเขาหันไปสบตากับหัวหน้าเผ่าที่เฝ้ามองเขามาแต่แรก จอมเวทย์หนุ่มเดินออกไปจากลานประลองไปโดยไม่ทันได้เห็นรอยยิ้มบนมุมปากของใครบางคน 


 
“ตรวจสอบเด็กที่ชื่อ ทรอย ซะ” 


 
“ขอรับ” 


 
“สงสัยว่าการทดสอบครั้งนี้จะมีคนน่าสนใจอยู่สินะ…หึ ชักสนุกแล้วสิ” 


 
การทดสอบยังคงดำเนินต่อไป จอมเวทย์หนุ่มก็ยังคงชนะเรื่อยมาด้วยวิธีที่แสนง่ายจนคนที่แข่งด้วยหรือคนรอบข้างถึงกับกุมกับมัน เพราะมันง่ายจนไม่อยากจะเชื่อว่าสามารถทำได้ 


 
ง่ายที่ว่านั้นตั้งแต่ทรมานคู่แข่งในมวลน้ำวน หรือหยุดการโจมตีด้วยม่านพลัง หรือการโจมตีตรงๆ โดยเหมือนไม่รุนแรงเพราะใช้แต่เวทย์ง่ายๆ แต่กลับทวีความรุนแรงจนหน้าตกใจ และคู่แข่งแต่ละคนใช่ว่าจะง่ายๆ ส่วนมากจะติดอันดับท็อปๆ ทั้งนั้น ส่วนคนที่รู้ชะตากรรมอยู่แล้วก็ยอมแพ้ก่อนจะขึ้นซะอีก จนทำให้เขารู้สึกเซ็งไม่น้อย นี้ยังไม่นับหัวหน้าเผ่าที่จ้อมมองเขาทุกฝีก้าวด้วยนะ ถ้าคุยได้เขาคงขึ้นไปคุยนานแล้วแต่ทำไม่ได้นี้สิ ถ้าทำก็ไม่ต่างอะไรกับพาตัวเองไปตายเพราะฉะนั้นอย่าหาเหาใส่หัวเป็นอันขาดถ้ายังรักชีวิตอยู่แต่มันจะนานชักแค่ไหนเชียว ปัจจุบันยังเสียวสันหลังไม่ใช่น้อย 


 
การประลองได้มาถึงรอบสุดท้าย จอมเวทย์หนุ่มได้เผชิญหน้ากับเด็กสาวผมแดง ผู้มีสถานะเป็นเพื่อนที่เขาได้รู้จักก่อนมาทดสอบ 


 
“ไม่คิดว่านายจะมาได้ขนาดนี้”เด็กสาวพูดอย่างยิ้มๆ ก่อนจะเสกลูกไฟจำนวนมากล้อมรอบร่างของเธอ 


 
“สงสัยเพราะโชคแน่เลย”เด็กหนุ่มยิ้มรับโดยไม่ลืมเสกกระสุนน้ำหลายๆ นัดเอาไว้ข้างหลังเหมือนกัน 


 
“เลิกหลอกคนอื่นแล้วใช้พลังที่แท้จริงของนายสักที”รอยยิ้มที่เคยส่งให้เขากลับหายไป แทนที่ด้วยน้ำเสียงที่มีความขุ่นเคืองแทน 


 
“พูดเรื่องอะไรกันนะ นี้แหละพลังของผม” 


 
“โกหก! ฉันดูออกแต่แรกแล้วล่ะ การเสแสร้งแบบนั้นกับพลังที่แสดงออกมา…ฉันรู้หมดแล้ว เลิกเล่นได้แล้ว ทรอย ไม่สิ…ไนยา”คำพูดสุดท้ายถูกพูดออกมาเบาๆ ให้ได้ยินเพียงเขาและเธอเท่านั้น 


 
เขาตกใจ…เพราะเธอรู้อะไรบางอย่างที่ไม่ควรรู้…ตั้งแต่เมื่อไรกันแล้วเธอคนนี้เป็นใครกัน…ตอนนี้รู้เพียงแค่ว่าต้องกำจัดก่อนที่จะสายเกินไป… 


 
“ผมว่าเรามาเริ่มกันเถอะ”ทรอยพูดขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยงเรื่องที่คุยกัน 


 
“อะไรกัน~ แค่นี้ทำมาเป็นเปลี่ยนเรื่อง…ไม่ไหวๆ”แล้วนั้นเป็นคำพูดสุดท้ายก่อนที่ทั้งสองจะเริ่มต่อสู้กัน 


 
ลูกไฟจำนวนมากพุ่งเข้าไปเด็กหนุ่มซึ่งเขาก็ใช้กระสุนน้ำต้านเอาไว้ ครั้งแล้วครั้งเล่า การต่อสู้ยังคงดำเนินต่อไปไม่หยุด ทั้งสองสู้กันอย่างสูสี ไม่มีใครยอมใคร 


 
“ทำให้มันจบๆ กันสักที”เด็กสาวผมแดงเสกให้เวทย์ไฟปกคลุมร่างของเด็กหนุ่มเพื่อหวังจะทรมานคนที่อยู่ข้างในไฟจนต้องเอ่ยคำยอมแพ้ออกมา 


 
“ใครมันจะยอมกันล่ะ”เด็กหนุ่มผมฟ้าสร้างน้ำปกคลุมร่างตัวเองเพื่อป้องกันไฟ แต่ทว่าไฟนั้นร้อนเกินไป น้ำที่ปกคลุมกลับละเหยออกทั้งหมด 


 
“อึก!”ร่างของเขาทรุดลงกับพื้น เปลวไฟเริ่มบีบเข้ามาเรื่อยๆ  


 
วาบ! เสียงสว่างจ้าได้ปรากฏขึ้น เปลวไฟที่เคยปกคลุมร่างข้างในกลับสลายหายไป ภายในที่ควรจะเป็นเด็กหนุ่มแต่กลับกลายเป็นเด็กสาวผมสีฟ้ายาวสลวยและมีดวงตาสีฟ้า ใบหน้าดูอ่อนหวานซึ่งขัดแย้งกับดวงตาในตอนนี้มา ดวงตาที่มองไอด้วยความรู้สึกเย็นชา 


 
“เจ้าได้เล่นผิดคนแล้ว”ลักษณะการพูดได้เปลี่ยนไป 


 
“ออกมาสักทีนะ…ไนยา”ไอกระตุกยิ้มออกมาก่อนที่ร่ายเวทย์ไฟใส่คนตรงหน้าแต่มันก็ช้าไปเสียแล้วเมื่อคนตรงหน้าเธอได้ร่ายเวทย์บทนึงขึ้นมา 


 
“ข้าขอวินวอน…สายน้ำแห่งชีวิต…จงทำลายร่าง ณ เบื้องหน้าข้า”ทันทีที่ไนยาร่ายเวทย์นั้น มวลน้ำที่รุนแรงพุ่งเข้าใส่เด็กสาวผมแดงทันที กระแสที่ไหลเฉียวก่อเกิดเป็นน้ำวน 


 
“พอได้แล้ว!”หัวหน้าเผ่าเอลฟ์ได้ตะโกนขึ้นก่อนที่น้ำวนจะสลายหายไปด้วยฝีมือของผู้พูด 


 
“จบสักที”เด็กสาวผมฟ้าถอนหายใจออกมาหลังจากนั้นก็รีบเดินไปดูอาการของคู่ต่อสู้ของเธอ 


 
“ข้าขอโทษ~ เจ้าไม่เป็นไรนะ”ไนยาพูดด้วยความสำนึกผิดที่ใช้เวทย์ที่รุนแรงจนเกินไป 

 

 
“เธอนี้…สุดยอดไปเลยนะ”ไอพูดออกมาอย่างแผ่วเบาก่อนจะหมดสติลงไป 


 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา