Oh my god! ทำไมเรื่องแบบนี้ถึงเกิดกับฉันได้
-
เขียนโดย Murasamu
วันที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2561 เวลา 15.26 น.
4 ตอน
0 วิจารณ์
5,920 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 27 มีนาคม พ.ศ. 2561 16.00 น. โดย เจ้าของนิยาย
3) เรื่องไม่คาดฝัน
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ อืม…
เสียงครางเล็กดังขึ้นไม่ช้าร่างบางจึงลืมตาตื่นด้วยความอ่อนล้า ภาพแรกที่ปรากฎขึ้นในสายตาคือเพดานกว้างสีฟ้าสว่าง ก่อนร่างบางจะลุกขึ้นนั่งกวาดสายตามองไปรอบๆห้องด้วยความฉงนสงสัย
เอ๋…นี่มันไม่ใช่ห้องนอนของเธอนี่น่า
ความคิดแรกผุดขึ้นเมื่อสังเกตเห็นว่าตนไม่ได้อยู่ในห้องนอนตัวเอง มาชิโระนึกแปลกใจไม่น้อยว่าตนกำลังนั่งอยู่ในห้องนอนใคร พลันสายตาคู่สวยเหลือบหันมาหยุดอยู่หน้ากระจกเงา ภาพที่เห็นในกระจกเรือนหน้าสวยดูอ่อนหวานที่ไม่ใช้ใบหน้าเดิมของเธอ เท่านั้นแหละร่างบางแทบกรี๊ดร้องสั่นบ้านด้วยความตกใจ
กรี๊ดดดดดดดด!!!!!!!!
ตึก ตึก ตึก
ปึง!
“คุณหนู… เกิดอะไรขึ้นเจ้าคะ”
เสียงเมดสาวดังขึ้นมาจากนอกห้อง ไม่นานเสียงเปิดประตูดังขึ้นพร้อมกับร่างเจ้าหล่อนที่วิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาในห้องแล้วโผล่ถามเธอด้วยความเป็นห่วงเป็นใย
“ฉันไม่เป็นไรหรอกจ้า แหะๆๆ”
มาชิโระในร่างของวิคตอเรียตอบเสียงสั่น รู้สึกเหงื่อตกนิดๆถึงจะยังสับสนไม่หายว่าตนมาอยู่ที่นี่ในร่างนี้ได้ยังไงก็เถอะ แต่เพื่อไม่แสดงพิรุธให้อีกฝ่ายจำได้เสียก่อนเธอจึงต้องใจเย็น สงบสติอารมณ์ไว้ก่อนแล้วค่อยหาทางตั้งหลักรับมือกับเรื่องที่เกิดขึ้นทีหลัง
"แต่ว่า..."
หากเมื่อมองสบสายตากับเมดสาวตรงหน้าก็เห็นแววตาดูกังวนแลเป็นห่วงของหล่อน ทำให้เธอเริ่มรู้สึกลำบากใจไม่ได้
ให้ตายสิ…ต้องรีบหาทางทำอะไรซักอย่างแล้วสิ!
“คุณหนู…”
แน่ะ เรียกอีกแล้ว…เมดสาวยังคงยืนเฝ้าเธอเธออยู่ห่างๆ ไม่ยอมไปไหน เดาได้ว่าคงเป็นห่วงเธอมากเลยแน่ๆ แต่จะให้เธอตอบว่าอย่างไรดีล่ะ ถึงแม้เธอเองก็มีส่วนผิดที่เล่นกรี๊ดเสียลั่นบ้านแบบนั้นก็เถอะ
“ฉันไม่เป็นไรจ้า ขอบคุณที่เป็นห่วงนะเธอ…เดี๋ยวนะ…เธอชื่อว่าอะไรนะ” “คุณหนู!!!”
แล้วเมดสาวก็รีบเดินเข้ามาจับตัวเธอ ตรวจสอบความปลอดภัยเสียละเอียดว่าเธอเป็นอะไร ทำไมถึงได้ลืมแม้กระทั่งชื่อเมดของตัวเองไปได้
“คุณหนูลืมดิฉัน…คุณหนูต้องเป็นอะไรแน่ๆเลย อย่าบอกนะเจ้าคะว่าล้มหัวพาดพื้นมา ให้ดิฉันไปตามหมดมาตรวจไหมเจ้าคะ”
“เอ่อ…เธอไม่ต้องทำให้มันกลายเป็นเรื่องใหญ่หรอก พอดีว่าฉันแค่มึนๆ เอาเป็นว่ารอแปบนะ ฉันขอคิดแปบ อ่า…เบลอจัง”
จากนั้นมาชิโระก็เค้นสมองประมวลเรื่องราวทั้งหมด รีบๆนึกให้ออกว่าในตัวละครเกมส์เมดประจำตัวของยัยวิคตอเรียชื่ออะไร ถ้าจำไม่ผิดนะ…
มีใบหน้าสวยๆ ผมยาวสลายสีขาว ตาสีแดงกลมโต ใส่หมวกหูแมวแบบนี้ อ่า…เธอใกล้จะนึกออกล่ะ ชื่อหล่อนคืออะไรนะ แล้วในที่สุดเธอก็ปิ้งนึกออกมาจนได้
“มิรินด้า”
“เจ้าคะ คุณหนู”
เฮ้อ…รอดตายแบบหวุดหวิดไปเลย มาชิโระแทบล้มฟุบลงนอนไปกับพื้นห้องอย่างอ่อนแรง แต่เมดสาวกลับเอ่ยห้ามเธอเสียก่อน
“คุณหนู!ห้ามนอนตรงนี้นะเจ้าคะ ถ้าจะนอนก็ไปนอนบนเตียงดีๆสิเจ้าคะ”
แล้วเธอก็โดยหิ้วปีก เอ้ย…โดนเมดสาวพาให้ขึ้นไปนอนบนเตียงแทน จะว่าไปห้องยัยวิคตอเรียก็ไม่เลวนะ ตกแต่งโทนสีขาวฟ้าออกแนวสไตล์คล้ายๆกับของเธอด้วย
แต่นั่นใช่เรื่องที่ควรจะคิดก่อนไหม….ขืนมั่วแต่ชื่นชมห้องยัยนี้อยู่จนลืมเรื่องของตัวเองแบบนี้ไม่ดีแน่ เพื่อความอยู่รอดสิ่งแรกที่ควรจะทำคือคิดหาทางออกไปจากที่นี่ให้ได้ซะก่อน แต่จะให้ทำยังไงล่ะ?
กระจก…
ใช่…กระจกนั้นแหละคือคำตอบ!!!!
แต่ตอนนี้มันกลับนิ่งเงียบไม่ต่างป่าช้าซะงั้น แถมยังสะท้อนภาพห้องนอนของที่นี่ แทนที่จะเป็นเงาสะท้อนจากห้องนอนของเธอที่อยู่อีกโลกหนึ่ง แล้วแบบนี้เรื่องจะหาทางกลับบ้านคงเป็นไปได้ยากเสียแล้วล่ะ
นี่ฉันควรทำตัวยังไงดี หรือต้องแกล้งว่าเป็นยัยวิคตอเรียนั่นไปพลางๆก่อน รอจนกว่าจะถึงเวลาที่กระจกมันจะทำงานอีกครั้ง แล้วค่อยหาทางกลับไปโลกของเธอกันนะ ยิ่งคิดมาชิโระแทบปวดกบาลไปหมด
“คุณหนูไม่เป็นอะไรจริงๆใช่ไหมเจ้าคะ”
เมดสาวคนเดิม เพิ่มเติมคือชื่อว่า มิรินด้า น่าจะเป็นเมดสาวคนสนิทของวิคตอเรีย วอคเกอร์เอ่ยถามเธอด้วยความเป็นห่วง และก็คงจะยังยืนเฝ้าอยู่อย่างนั้นต่อไปแน่ หากว่าเธอไม่หาทางทำอะไรเพื่อให้ยัยนี้หายกังวนหรือสงสัยในตัวเธอเสียที แล้วไสตัวออกไปจากห้องได้เสียทีคงแย่แน่
“มิรินด้า วานเธอช่วยหาสมุดบันทึก ปากกามาให้ฉันทีสิ อ้อ…ขอขนมหวาน หรืออะไรก็ได้มาให้ฉันด้วยนะ ฉันหิวมากๆเลยล่ะตอนนี้”
“ได้เจ้าคะ แต่ปกติคุณหนูไม่ค่อยพวกของหวานนิคะ?”
"เอาน่า...ฉันสั่งเธอมีหน้าที่ทำตามก็ทำเถอะจ้า"
"เจ้าคะ นั้นโปรดรอซักครู่นะเจ้าคะ"
แล้วเมดสาวก็วิ่งวุ้นหายออกไปจากห้อง พอสิ้นร่างของเมดสาวที่เธอพึ่งหาทางไล่ไปจากห้องได้แล้ว มาชิโระในร่างวิคตอเรียแทบขยี้ผมตัวเองไปมาอย่างสับสนไปหมด
"จ้า...ไปนานๆก็ได้นะฉันไม่ว่าหรอก"
มาชิโระพูดไล่หลังเสียงแผ่ว ก่อนหญิงสาวจะกลับมาตีหน้าเครียดอีกครั้งเพราะยังคิดไม่ตกกับเรื่องที่เกิดขึ้นกับตัวเธอ คือมันAmazing มากๆจนตั้งตัวรับแทบไม่ถูก
“นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันนะ จำได้ว่าเมื่อคืนคุยอยู่กับเจ้าของร่างนี้อยู่แทนๆ แล้วนี่พอฉันตื่นขึ้นมาก็ดันโผล่เข้ามาอยู่โลกฝั่งนี้เองซะได้ เมื่อคืนมันเกิดเรื่องอะไรขึ้นนะ แล้วยัยนี่มันตัวร้ายที่ตายแม่งทุกรูทในเกมส์ไม่ใช่เหรอ แล้วต่อจากนี้ชีวิตของฉันจะพบเจอกับจุดจบอะไรล่ะทีนี้”
ระหว่างที่มาชิโระกำลังคลุ้มคิดหนักอยู่นั่นเอง กระจกที่ว่าเงียบสงบมานานก็ส่งเสียงร้องแสบแก้วหูออกมา ทั้งสั่นไหวก่อนภาพสะท้อนของโลกอีกฟากหนึ่งจะฉายขึ้นมา แน่นอนว่ามาชิโระเองแทบจะวิ่งกรูดไปปิดประตูห้องก่อนเป็นอย่างแรก ก่อนจะรีบวิ่งกลับไปนั่งรออยู่หน้ากระจก
ไม่ช้าภาพในกระจกปรากฏคนที่นั่งอยู่ต่อหน้าฉัน นั้นคือ...ร่างของฉันในอีกโลกหนึ่งอย่างไม่ต้องสงสัย ใช่…นั่นมันตัวของฉันจริงๆ แต่คนข้างในตอนนี้คงเป็นวิคตอเรียแน่นอน แถมดูเหมือนเจ้าหล่อนเองก็ร้อนร้นมากไม่ต่างกัน
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น…ทำไม..เราถึงสลับร่างกันได้”
นี่คือคำพูดแรกของวิคตอเรียที่ยิงคำถามใส่ทันทีที่เห็นหน้าฉันด้วยความสงสัยและสับสน แน่นอนทางฉันเองก็อยากจะถามกลับคนฝั่งนั้นไปเหมือนกัน ว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่ดูจากท่าทางของยัยนั้นแล้วเรื่องที่จะถามคงไม่น่าจะตอบได้ เฮ้อ...ฉะนั้นทำใจเถอะ
“เอาเป็นว่าช่วยใจเย็นๆแล้วฟังฉันก่อนนะ”
“อืม”
“ดูเหมือนว่าร่างวิญญาณของเราสองคนจะสลับกัน ตอบตามจริงฉันก็ไม่รู้หรอกนะว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง แต่ที่แน่ใจคือตอนนี้คงไม่มีทางกลับไปเป็นแบบเดิมได้ง่ายๆแน่”
มาชิโระในร่างของวิคตอเรียพูดขึ้น พลางลองแตะหรือเคาะกระจกดูกลับพบว่ามันไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย ร่างของเธอกับยัยนั้นก็ยังคงสลับกันอยู่เหมือนเดิม
“ฉันคิดว่าเราสองคนต้องอยู่ในร่างๆนี้ไปซะพักแล้วล่ะ”
“อะไรนะ!!”
ท่าทีของคนอีกฟากหนึ่งแทบตกใจจนหน้าเริ่มซีก เมื่อรู้ว่าต้องอยู่ในร่างนั้นไปซักพัก แล้วใครบอกว่ามีแต่เธอล่ะที่กลุ้มใจ ฉันเองในโลกฝั่งนี้ก็กลุ้มไม่ต่างกันนั้นแหละ เธอรู้ไหม…นี่มันเดิมพันด้วยชีวิตของฉันเชียวนะยะ ที่อาจจะต้องเผชิญรูทหายนะแล้วต้องตายแทนเธอนะ
“ก็ตามที่ฉันพูดไปแหละ เธอต้องสวมรอยปลอมตัวเป็นฉันไปก่อน แล้วก็นะ…อย่าทำตัวน่าสงสัยให้คนจับได้ล่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง…ฉันขอเตือนเธอตรงนี้เลยนะ ห้ามเข้าใกล้พ่อบ้านของฉันเด็ดขาดฉันหวง”
“ขะ..เข้าใจแล้ว”
“ดี ถ้างั้นก็ทำตัวให้สมกับเป็นฉันแล้วอยู่โลกฝั่งนั้นไปเงียบๆ แบบอย่าให้ใครจับได้ล่ะ”
“ตกลง...เอ่อคือ...แล้วเธอชื่ออะไรกัน ฉันว่าจะถามนานแล้ว ถ้าไม่รู้เรื่องของเธอเลยฉันคง…ลำบากมากแน่ๆ”
ยัยนั่นเป็นฝ่ายถามกลับมาบ้าง ท่าทีของเธอดูไม่ค่อยสบายใจนัก เมื่อต้องมาอยู่โลกอีกโลกที่เธอไม่รู้จักมาก่อน จะว่าไปฉันเองก็ยังไม่ได้แนะนำตัวให้ยัยนั้นได้รู้จักแบบเป็นทางการจริงๆนั้นแหละ ฉะนั้นเมื่อถึงเลิศยามงามดีในการเปิดตัวของฉันเลยจึงถือโอกาสนี้แนะนำตัวให้ยัยนั่นรู้จักเสียใหม่
"ฉันชื่อมาชิโระ ทาจิบาระ มาชิโระยินดีที่ได้รู้จักนะ"
หลังจากจบการแนะนำตัวมาชิโระก็เล่าต่อเพื่ออธิบายข้อมูลต่างๆเกี่ยวข้องกับตัวเธอให้ยัยนั้นฟังเพื่อจะได้รู้เกี่ยวกับคนรอบข้างแต่ละคนที่เธอรู้จัก เพื่อให้ยัยนั้นสามารถปรับตัวได้จะได้ไม่เครียดจนเผลอทำความลับแตก
“เข้าใจไหม”
ฉันถามอีกฝ่ายไป เผื่อว่าวิคตอเรียจะฟังไม่ทัน หรือต้องการให้พูดซ้ำ ก็ยัยนั้นออกเป็นคนสมองช้านิดหน่อย เรียนก็ไม่เก่ง พลังเวทก็งั้นๆ แถมมีนิสัยขี้วีน ขี้เขวี้ยง เอาแต่ใจ และชอบสร้างศัตรูไปทั่วอีกถ้ามองตามนิสัยในเกมส์อ่ะนะ
แต่บอกเลยวิคตอเรียเวอร์ชั่นตรงหน้าฉันกลับดูแตกต่างจากที่ได้รู้จักมาลิบลับ ยัยนั่นเพียงแค่พยักหน้าเข้าใจอย่างว่าง่าย แถบไม่ได้มีนิสัยอย่างที่ฉันเข้าใจมากเลยซักนิด เธอออกเป็นคนค่อนข้างเรียบร้อยมาก ย้ำว่ามากนะจนเหมือนกับคุณหนูผู้ใสซื่อตัวน้อยๆ ผู้ถูกเลี้ยงดูมาเป็นอย่างดีราวกับไข่ในหิน
ด้วยความสงสัยฉันเลยถามยังนั้นกลับไปบ้างถึงเรื่องราวของเธอในโลกฝั่งนี้บ้างเพื่อจะได้หาทางเอาชีวิตรอดจากรูทหายนะทั้งหลายได้
“ว่าแต่ตัวเธอในโลกฝั่งนี้ มีชีวิตความเป็นอยู่ยังไงบ้างเหรอ?”
“ฉันเหรอ…ถามให้พูดตรงๆตัวฉันในโลกนั้นคง…เป็นเหมือนนางร้ายคนหนึ่งล่ะมั้ง”
เธอตอบฉันด้วยท่าทีแสนเศร้าใจ ชีวิตเธอคงผ่านเรื่องร้ายๆมามากพอสมควร และก็จริงอย่างที่ฉันคิด ยัยนั้นเล่าเรื่องของตัวเองให้ฉันฟังจนหมดเปลือก ถึงเรื่องที่เกิดขึ้นกับตัวเอง มันช่างเป็นชีวิตแสนรัดทนมากจนฉันอดรู้สึกสงสารไม่ได้ ยัยนั้นถูกกลั่นแกล้งสารพัด แถมอยู่ตัวคนเดียวในโรงเรียนมาตลอดสามปี ชีวิตของเธอนี้มันจะดราม่าไปถึงไหนกัน
“ฉันเข้าใจเธอแล้วล่ะ…เชื่อใจในตัวฉันได้เลย ฉันจะจัดการปัญหาเหล่านั้นแล้วใช่ชีวิตแทนให้เองในส่วนของเธอ เธอไม่ต้องกังวนไปหรอก เพราะงั้นจงใช้ชีวิตอย่างมีความสุขอยู่ในโลกของฉันไปซักพักเถอะนะ ยิ้มให้เยอะๆ หัวเราะออกมาเท่าที่เธอต้องการ ในโลกนั้นเพื่อนคนหนึ่งเพื่อนฉันที่ชื่อว่ายูกิ รับรองว่ายัยนั่นต้องดูแลเธออย่างดีแน่นอน เธอจะไม่รู้สึกเหงาอีกต่อไป”
นี่คือสิ่งที่ฉันทำได้ในตอนนี้ คือพยายามพูดปลอบยัยนั้นอย่างสุดความสามารถ จากนั้นไม่นานภาพจากกระจกก็พลันเลือนหายไป ก่อนจะเปลี่ยนกลับมาเป็นเช่นเดิมพร้อมกับเสียงเรียกจากเมดสาวที่ยืนเคาะประตูอยู่ข้างนอกห้อง
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“คุณหนู…ปิดประตูทำไมเจ้าคะ เปิดประตูให้ดิฉันทีเจ้าคะ”
“อ่าๆได้ ฉันจะไปเปิดให้รอแปบนะ”
ฉันรีบลุกไปเปิดประตูให้กับหล่อน แต่เอ๊ะ…จะว่าไปก็เหมือนฉันจะลืมบอกเรื่องสำคัญอะไรกับวิคตอเรียอีกเรื่องหนึ่งด้วยสิ ว่าแต่มันเรื่องอะไรนะ…ยิ่งนึกมากเท่าไหร่ก็คิดไม่ออกเลย แต่ช่างเถอะเดี๋ยวยัยนั่นคงหาทางจัดการปัญหาได้เองแหละ ว่าแล้ววิคตอเรีย(คนใหม่)ก็เปิดประตูห้องออกไป
ทางฝั่งของวิคตอเรีย(ในร่างของมาชิโระ)
ในเวลา 09.00 น. พอดีเป๊ะๆ
ปัง!
เสียงประตูห้องเปิดออกเสียงดัง พร้อมกับปรากฏร่างของชายหนุ่มร่างบาง เจ้าของเรือนผมสีดำอมแดง ในชุดแบบสบายๆ เสื้อยืดสีขาวลายหมีคลุมทับด้วยเสื้อสูทสีขาวแบบเรียบๆคู่กับกางเกงยีสต์สีดำ เดินเข้ามาในสภาพหน้าบึ้งตึงเหมือนโกรธใครอยู่ สร้างความตกใจระคนสงสัยแก่คนในห้องเป็นอย่างมาก และวิคตอเรียในร่างมาชิโระเองแทบทำตัวไม่ถูกเลย
“อะไรกัน…ก็แต่งตัวเสร็จแล้วนี่น่า หืม…นี่อะไรกันนะ เธอคิดจะใส่ชุดนักเรียนบ้านั้นออกไปเดทกับฉันจริงๆเหรอยัยเซ่อเอ้ย”
คิริกายะ สุบารุพูดขึ้น ไม่ช้าเสียงร้องโวยวายจากด้านหลังของใครอีกคนก็ดังไล่หลังตามมา ก่อนเมดสาวผมม่วงสด หน้าตาน่ารักๆจะสาวเท้าวิ่งเข้ามาในห้อง พุ่งเข้ามากันตัวเธอออกห่างจากผู้ชายแปลกหน้าคนนั้นอย่างปกป้อง
“อย่าทำอะไรคุณหนูนะ ท่านชายสุบารุฉันก็บอกแล้วไงว่าคุณหนูยังไม่ตื่น”
“แล้วที่ยืนซ่อนอยู่ข้างหลังเธอนั้นมันตัวอะไรล่ะ ตื่นแล้วนี่น่าไม่ใช่หรอกเหรอ แถมยังแต่งตัวในชุดนักเรียนอีก นี่เธอดูแลคุณหนูของเธออย่างไร ทำไมถึงให้ยัยนี้แต่งตัวแบบนี้ได้ นี่จะไปเดทนะ ไม่ใช่ออกไปเรียน”
“หืม??”
เมดสาวมองหน้าชายหนุ่มไปซักพัก แล้วหันกลับมาจ้องหน้าเจ้านายสาวตัวเองใหม่ตั้งแต่หัวจรดเท้า ซักพักก่อนเจ้าตัวจะร้องว๊ากขึ้นแล้ว จับไหล่เธอสองข้างแน่น ทั้งเอ่ยถามเธอด้วยความแปลกใจ
“คุณหนูนี่มันชุดนักเรียนตัวเมื่อวานไม่ใช่ค่ะ นี่คุณหนูนอนไปทั้งชุดนี้เลยหรือค่ะนี่”
“อะไรนะ นี่เธอนอนไปทั้งชุดแบบนั้นเมื่อวานเหรอ นี่น้ำยังไม่ได้อาบเลยใช่ไหม เธอนี่มันสกปรกไปไหน”
ตามด้วยเสียงบ่นของนายอีกคนที่ว่าจะเป็นคนรู้จักของเจ้าของร่างนี้ วิคตอเรียหรือก็คือมาชิโระในขณะนี้เพียงมองจ้องไปด้วยความสงสัย
“คุณ…เป็นใครกันคะ?”
เธอถามอีกฝ่ายกลับไปบ้างด้วยความสงสัย แล้วนายคนนั้นก็ยกยิ้มอย่างชั่วร้าย พลางเดินเข้ามาใกล้เธอโดยผลักร่างเมดสาวออกไปอีกทางแล้วเอามือวางพาดไหล่เธอด้วยท่าทีสบายๆ
“อะไรกันๆ นี่เธอสมองกลับหรือไง ถึงได้ลืมหน้าว่าที่คู่หมั้นของเธอแบบนั้นได้ ฉันก็สุบารุยังไงล่ะ คู่หมั้นของเธอยังไงยัยเบ๊อะ”
แล้วเขาก็ดีดหน้าผากเธอไปทีด้วยความหมั่นเขี้ยว
“ฉันจะลงไปรอข้างล่าง รีบๆอาบน้ำแต่งตัวเสียใหม่ จะไปออกไปข้างนอกได้ซะทีนี่สายมากแล้วนะ”
พูดจบเขาก็เดินจากไปเลย แล้วพอเขาเดินออกจากห้องไปแล้ว เมดสาวก็เดินเข้ามาถามเธอด้วยท่าทีเป็นหัวเป็นใย
“โธ่ๆคุณหนูของเนโกะ หมอนั้นมันน่าโดนเตะนัก บังอาจมาดีดหน้าผากคุณหนูได้ คุณหนูไม่เป็นอะไรนะคะ”
“จ้า”
เธอตอบเมดสาวเสียงเบา พลางยกมือขึ้นลูบหน้าผากปอยๆ อ่า…เกิดมาเธอเองพึ่งเคยโดนคนไม่รู้จักมาดีดหน้าผากแบบนี้ครั้งแรกเลยนะ แถมดูเหมือนเขาจะเป็นคุณคู่หมั้นของมาชิโระด้วย และเธอเกือบจะความลับแตกไปซะแล้วสิ ดีนะที่เขาเหมือนไม่ค่อยใส่ใจเรื่องนี้เท่าไหร่
เฮ้อ….
“คุณหนู…”
เมดสาวคงเห็นท่าทางของเธอดูเหนื่อยๆ เลยทักขึ้นด้วยความเป็นห่วง แลดูเป็นคนดีนะ เธอคงพอไว้ใจเธอคนนี้ได้ล่ะมั้ง วิคตอเรียคิดในใจ จากนั้นจึงระบายยิ้มออกมา
“ฉันไม่เป็นอะไรมากจ้า เดี๋ยวฉันขอตัวไปอาบน้ำแต่งตัวดีกว่านะจ้า ไม่อยากให้เขาคนนั้นต้องคอยนานๆนะ จ้า”
มาชิโระ (เวอร์ชั่นจำเป็น)เอ่ยพูดบอกกับสาวใช้ จากนั้นจึงเดินมองหาห้องน้ำ แย่จัง…อยู่ไหนกันนะ? เธอคิดและเมดสาวคนเห็นว่าเธอกำลังสับสน หาทางไปห้องน้ำไม่ถูก เลยอาสาเดินนำพาไป ทั้งยังค่อยอยู่รับใช้ช่วยเธอเลือกชุด และจัดการทุกอย่างให้ตามหน้าที่แบบไม่สงสัยอะไรในตัวเธอเลยซักนิด เฮ้อ...ถือว่าเธอยังโชคดีอยู่มั้งล่ะนะ
เสียงครางเล็กดังขึ้นไม่ช้าร่างบางจึงลืมตาตื่นด้วยความอ่อนล้า ภาพแรกที่ปรากฎขึ้นในสายตาคือเพดานกว้างสีฟ้าสว่าง ก่อนร่างบางจะลุกขึ้นนั่งกวาดสายตามองไปรอบๆห้องด้วยความฉงนสงสัย
เอ๋…นี่มันไม่ใช่ห้องนอนของเธอนี่น่า
ความคิดแรกผุดขึ้นเมื่อสังเกตเห็นว่าตนไม่ได้อยู่ในห้องนอนตัวเอง มาชิโระนึกแปลกใจไม่น้อยว่าตนกำลังนั่งอยู่ในห้องนอนใคร พลันสายตาคู่สวยเหลือบหันมาหยุดอยู่หน้ากระจกเงา ภาพที่เห็นในกระจกเรือนหน้าสวยดูอ่อนหวานที่ไม่ใช้ใบหน้าเดิมของเธอ เท่านั้นแหละร่างบางแทบกรี๊ดร้องสั่นบ้านด้วยความตกใจ
กรี๊ดดดดดดดด!!!!!!!!
ตึก ตึก ตึก
ปึง!
“คุณหนู… เกิดอะไรขึ้นเจ้าคะ”
เสียงเมดสาวดังขึ้นมาจากนอกห้อง ไม่นานเสียงเปิดประตูดังขึ้นพร้อมกับร่างเจ้าหล่อนที่วิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาในห้องแล้วโผล่ถามเธอด้วยความเป็นห่วงเป็นใย
“ฉันไม่เป็นไรหรอกจ้า แหะๆๆ”
มาชิโระในร่างของวิคตอเรียตอบเสียงสั่น รู้สึกเหงื่อตกนิดๆถึงจะยังสับสนไม่หายว่าตนมาอยู่ที่นี่ในร่างนี้ได้ยังไงก็เถอะ แต่เพื่อไม่แสดงพิรุธให้อีกฝ่ายจำได้เสียก่อนเธอจึงต้องใจเย็น สงบสติอารมณ์ไว้ก่อนแล้วค่อยหาทางตั้งหลักรับมือกับเรื่องที่เกิดขึ้นทีหลัง
"แต่ว่า..."
หากเมื่อมองสบสายตากับเมดสาวตรงหน้าก็เห็นแววตาดูกังวนแลเป็นห่วงของหล่อน ทำให้เธอเริ่มรู้สึกลำบากใจไม่ได้
ให้ตายสิ…ต้องรีบหาทางทำอะไรซักอย่างแล้วสิ!
“คุณหนู…”
แน่ะ เรียกอีกแล้ว…เมดสาวยังคงยืนเฝ้าเธอเธออยู่ห่างๆ ไม่ยอมไปไหน เดาได้ว่าคงเป็นห่วงเธอมากเลยแน่ๆ แต่จะให้เธอตอบว่าอย่างไรดีล่ะ ถึงแม้เธอเองก็มีส่วนผิดที่เล่นกรี๊ดเสียลั่นบ้านแบบนั้นก็เถอะ
“ฉันไม่เป็นไรจ้า ขอบคุณที่เป็นห่วงนะเธอ…เดี๋ยวนะ…เธอชื่อว่าอะไรนะ” “คุณหนู!!!”
แล้วเมดสาวก็รีบเดินเข้ามาจับตัวเธอ ตรวจสอบความปลอดภัยเสียละเอียดว่าเธอเป็นอะไร ทำไมถึงได้ลืมแม้กระทั่งชื่อเมดของตัวเองไปได้
“คุณหนูลืมดิฉัน…คุณหนูต้องเป็นอะไรแน่ๆเลย อย่าบอกนะเจ้าคะว่าล้มหัวพาดพื้นมา ให้ดิฉันไปตามหมดมาตรวจไหมเจ้าคะ”
“เอ่อ…เธอไม่ต้องทำให้มันกลายเป็นเรื่องใหญ่หรอก พอดีว่าฉันแค่มึนๆ เอาเป็นว่ารอแปบนะ ฉันขอคิดแปบ อ่า…เบลอจัง”
จากนั้นมาชิโระก็เค้นสมองประมวลเรื่องราวทั้งหมด รีบๆนึกให้ออกว่าในตัวละครเกมส์เมดประจำตัวของยัยวิคตอเรียชื่ออะไร ถ้าจำไม่ผิดนะ…
มีใบหน้าสวยๆ ผมยาวสลายสีขาว ตาสีแดงกลมโต ใส่หมวกหูแมวแบบนี้ อ่า…เธอใกล้จะนึกออกล่ะ ชื่อหล่อนคืออะไรนะ แล้วในที่สุดเธอก็ปิ้งนึกออกมาจนได้
“มิรินด้า”
“เจ้าคะ คุณหนู”
เฮ้อ…รอดตายแบบหวุดหวิดไปเลย มาชิโระแทบล้มฟุบลงนอนไปกับพื้นห้องอย่างอ่อนแรง แต่เมดสาวกลับเอ่ยห้ามเธอเสียก่อน
“คุณหนู!ห้ามนอนตรงนี้นะเจ้าคะ ถ้าจะนอนก็ไปนอนบนเตียงดีๆสิเจ้าคะ”
แล้วเธอก็โดยหิ้วปีก เอ้ย…โดนเมดสาวพาให้ขึ้นไปนอนบนเตียงแทน จะว่าไปห้องยัยวิคตอเรียก็ไม่เลวนะ ตกแต่งโทนสีขาวฟ้าออกแนวสไตล์คล้ายๆกับของเธอด้วย
แต่นั่นใช่เรื่องที่ควรจะคิดก่อนไหม….ขืนมั่วแต่ชื่นชมห้องยัยนี้อยู่จนลืมเรื่องของตัวเองแบบนี้ไม่ดีแน่ เพื่อความอยู่รอดสิ่งแรกที่ควรจะทำคือคิดหาทางออกไปจากที่นี่ให้ได้ซะก่อน แต่จะให้ทำยังไงล่ะ?
กระจก…
ใช่…กระจกนั้นแหละคือคำตอบ!!!!
แต่ตอนนี้มันกลับนิ่งเงียบไม่ต่างป่าช้าซะงั้น แถมยังสะท้อนภาพห้องนอนของที่นี่ แทนที่จะเป็นเงาสะท้อนจากห้องนอนของเธอที่อยู่อีกโลกหนึ่ง แล้วแบบนี้เรื่องจะหาทางกลับบ้านคงเป็นไปได้ยากเสียแล้วล่ะ
นี่ฉันควรทำตัวยังไงดี หรือต้องแกล้งว่าเป็นยัยวิคตอเรียนั่นไปพลางๆก่อน รอจนกว่าจะถึงเวลาที่กระจกมันจะทำงานอีกครั้ง แล้วค่อยหาทางกลับไปโลกของเธอกันนะ ยิ่งคิดมาชิโระแทบปวดกบาลไปหมด
“คุณหนูไม่เป็นอะไรจริงๆใช่ไหมเจ้าคะ”
เมดสาวคนเดิม เพิ่มเติมคือชื่อว่า มิรินด้า น่าจะเป็นเมดสาวคนสนิทของวิคตอเรีย วอคเกอร์เอ่ยถามเธอด้วยความเป็นห่วง และก็คงจะยังยืนเฝ้าอยู่อย่างนั้นต่อไปแน่ หากว่าเธอไม่หาทางทำอะไรเพื่อให้ยัยนี้หายกังวนหรือสงสัยในตัวเธอเสียที แล้วไสตัวออกไปจากห้องได้เสียทีคงแย่แน่
“มิรินด้า วานเธอช่วยหาสมุดบันทึก ปากกามาให้ฉันทีสิ อ้อ…ขอขนมหวาน หรืออะไรก็ได้มาให้ฉันด้วยนะ ฉันหิวมากๆเลยล่ะตอนนี้”
“ได้เจ้าคะ แต่ปกติคุณหนูไม่ค่อยพวกของหวานนิคะ?”
"เอาน่า...ฉันสั่งเธอมีหน้าที่ทำตามก็ทำเถอะจ้า"
"เจ้าคะ นั้นโปรดรอซักครู่นะเจ้าคะ"
แล้วเมดสาวก็วิ่งวุ้นหายออกไปจากห้อง พอสิ้นร่างของเมดสาวที่เธอพึ่งหาทางไล่ไปจากห้องได้แล้ว มาชิโระในร่างวิคตอเรียแทบขยี้ผมตัวเองไปมาอย่างสับสนไปหมด
"จ้า...ไปนานๆก็ได้นะฉันไม่ว่าหรอก"
มาชิโระพูดไล่หลังเสียงแผ่ว ก่อนหญิงสาวจะกลับมาตีหน้าเครียดอีกครั้งเพราะยังคิดไม่ตกกับเรื่องที่เกิดขึ้นกับตัวเธอ คือมันAmazing มากๆจนตั้งตัวรับแทบไม่ถูก
“นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันนะ จำได้ว่าเมื่อคืนคุยอยู่กับเจ้าของร่างนี้อยู่แทนๆ แล้วนี่พอฉันตื่นขึ้นมาก็ดันโผล่เข้ามาอยู่โลกฝั่งนี้เองซะได้ เมื่อคืนมันเกิดเรื่องอะไรขึ้นนะ แล้วยัยนี่มันตัวร้ายที่ตายแม่งทุกรูทในเกมส์ไม่ใช่เหรอ แล้วต่อจากนี้ชีวิตของฉันจะพบเจอกับจุดจบอะไรล่ะทีนี้”
ระหว่างที่มาชิโระกำลังคลุ้มคิดหนักอยู่นั่นเอง กระจกที่ว่าเงียบสงบมานานก็ส่งเสียงร้องแสบแก้วหูออกมา ทั้งสั่นไหวก่อนภาพสะท้อนของโลกอีกฟากหนึ่งจะฉายขึ้นมา แน่นอนว่ามาชิโระเองแทบจะวิ่งกรูดไปปิดประตูห้องก่อนเป็นอย่างแรก ก่อนจะรีบวิ่งกลับไปนั่งรออยู่หน้ากระจก
ไม่ช้าภาพในกระจกปรากฏคนที่นั่งอยู่ต่อหน้าฉัน นั้นคือ...ร่างของฉันในอีกโลกหนึ่งอย่างไม่ต้องสงสัย ใช่…นั่นมันตัวของฉันจริงๆ แต่คนข้างในตอนนี้คงเป็นวิคตอเรียแน่นอน แถมดูเหมือนเจ้าหล่อนเองก็ร้อนร้นมากไม่ต่างกัน
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น…ทำไม..เราถึงสลับร่างกันได้”
นี่คือคำพูดแรกของวิคตอเรียที่ยิงคำถามใส่ทันทีที่เห็นหน้าฉันด้วยความสงสัยและสับสน แน่นอนทางฉันเองก็อยากจะถามกลับคนฝั่งนั้นไปเหมือนกัน ว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่ดูจากท่าทางของยัยนั้นแล้วเรื่องที่จะถามคงไม่น่าจะตอบได้ เฮ้อ...ฉะนั้นทำใจเถอะ
“เอาเป็นว่าช่วยใจเย็นๆแล้วฟังฉันก่อนนะ”
“อืม”
“ดูเหมือนว่าร่างวิญญาณของเราสองคนจะสลับกัน ตอบตามจริงฉันก็ไม่รู้หรอกนะว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง แต่ที่แน่ใจคือตอนนี้คงไม่มีทางกลับไปเป็นแบบเดิมได้ง่ายๆแน่”
มาชิโระในร่างของวิคตอเรียพูดขึ้น พลางลองแตะหรือเคาะกระจกดูกลับพบว่ามันไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย ร่างของเธอกับยัยนั้นก็ยังคงสลับกันอยู่เหมือนเดิม
“ฉันคิดว่าเราสองคนต้องอยู่ในร่างๆนี้ไปซะพักแล้วล่ะ”
“อะไรนะ!!”
ท่าทีของคนอีกฟากหนึ่งแทบตกใจจนหน้าเริ่มซีก เมื่อรู้ว่าต้องอยู่ในร่างนั้นไปซักพัก แล้วใครบอกว่ามีแต่เธอล่ะที่กลุ้มใจ ฉันเองในโลกฝั่งนี้ก็กลุ้มไม่ต่างกันนั้นแหละ เธอรู้ไหม…นี่มันเดิมพันด้วยชีวิตของฉันเชียวนะยะ ที่อาจจะต้องเผชิญรูทหายนะแล้วต้องตายแทนเธอนะ
“ก็ตามที่ฉันพูดไปแหละ เธอต้องสวมรอยปลอมตัวเป็นฉันไปก่อน แล้วก็นะ…อย่าทำตัวน่าสงสัยให้คนจับได้ล่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง…ฉันขอเตือนเธอตรงนี้เลยนะ ห้ามเข้าใกล้พ่อบ้านของฉันเด็ดขาดฉันหวง”
“ขะ..เข้าใจแล้ว”
“ดี ถ้างั้นก็ทำตัวให้สมกับเป็นฉันแล้วอยู่โลกฝั่งนั้นไปเงียบๆ แบบอย่าให้ใครจับได้ล่ะ”
“ตกลง...เอ่อคือ...แล้วเธอชื่ออะไรกัน ฉันว่าจะถามนานแล้ว ถ้าไม่รู้เรื่องของเธอเลยฉันคง…ลำบากมากแน่ๆ”
ยัยนั่นเป็นฝ่ายถามกลับมาบ้าง ท่าทีของเธอดูไม่ค่อยสบายใจนัก เมื่อต้องมาอยู่โลกอีกโลกที่เธอไม่รู้จักมาก่อน จะว่าไปฉันเองก็ยังไม่ได้แนะนำตัวให้ยัยนั้นได้รู้จักแบบเป็นทางการจริงๆนั้นแหละ ฉะนั้นเมื่อถึงเลิศยามงามดีในการเปิดตัวของฉันเลยจึงถือโอกาสนี้แนะนำตัวให้ยัยนั่นรู้จักเสียใหม่
"ฉันชื่อมาชิโระ ทาจิบาระ มาชิโระยินดีที่ได้รู้จักนะ"
หลังจากจบการแนะนำตัวมาชิโระก็เล่าต่อเพื่ออธิบายข้อมูลต่างๆเกี่ยวข้องกับตัวเธอให้ยัยนั้นฟังเพื่อจะได้รู้เกี่ยวกับคนรอบข้างแต่ละคนที่เธอรู้จัก เพื่อให้ยัยนั้นสามารถปรับตัวได้จะได้ไม่เครียดจนเผลอทำความลับแตก
“เข้าใจไหม”
ฉันถามอีกฝ่ายไป เผื่อว่าวิคตอเรียจะฟังไม่ทัน หรือต้องการให้พูดซ้ำ ก็ยัยนั้นออกเป็นคนสมองช้านิดหน่อย เรียนก็ไม่เก่ง พลังเวทก็งั้นๆ แถมมีนิสัยขี้วีน ขี้เขวี้ยง เอาแต่ใจ และชอบสร้างศัตรูไปทั่วอีกถ้ามองตามนิสัยในเกมส์อ่ะนะ
แต่บอกเลยวิคตอเรียเวอร์ชั่นตรงหน้าฉันกลับดูแตกต่างจากที่ได้รู้จักมาลิบลับ ยัยนั่นเพียงแค่พยักหน้าเข้าใจอย่างว่าง่าย แถบไม่ได้มีนิสัยอย่างที่ฉันเข้าใจมากเลยซักนิด เธอออกเป็นคนค่อนข้างเรียบร้อยมาก ย้ำว่ามากนะจนเหมือนกับคุณหนูผู้ใสซื่อตัวน้อยๆ ผู้ถูกเลี้ยงดูมาเป็นอย่างดีราวกับไข่ในหิน
ด้วยความสงสัยฉันเลยถามยังนั้นกลับไปบ้างถึงเรื่องราวของเธอในโลกฝั่งนี้บ้างเพื่อจะได้หาทางเอาชีวิตรอดจากรูทหายนะทั้งหลายได้
“ว่าแต่ตัวเธอในโลกฝั่งนี้ มีชีวิตความเป็นอยู่ยังไงบ้างเหรอ?”
“ฉันเหรอ…ถามให้พูดตรงๆตัวฉันในโลกนั้นคง…เป็นเหมือนนางร้ายคนหนึ่งล่ะมั้ง”
เธอตอบฉันด้วยท่าทีแสนเศร้าใจ ชีวิตเธอคงผ่านเรื่องร้ายๆมามากพอสมควร และก็จริงอย่างที่ฉันคิด ยัยนั้นเล่าเรื่องของตัวเองให้ฉันฟังจนหมดเปลือก ถึงเรื่องที่เกิดขึ้นกับตัวเอง มันช่างเป็นชีวิตแสนรัดทนมากจนฉันอดรู้สึกสงสารไม่ได้ ยัยนั้นถูกกลั่นแกล้งสารพัด แถมอยู่ตัวคนเดียวในโรงเรียนมาตลอดสามปี ชีวิตของเธอนี้มันจะดราม่าไปถึงไหนกัน
“ฉันเข้าใจเธอแล้วล่ะ…เชื่อใจในตัวฉันได้เลย ฉันจะจัดการปัญหาเหล่านั้นแล้วใช่ชีวิตแทนให้เองในส่วนของเธอ เธอไม่ต้องกังวนไปหรอก เพราะงั้นจงใช้ชีวิตอย่างมีความสุขอยู่ในโลกของฉันไปซักพักเถอะนะ ยิ้มให้เยอะๆ หัวเราะออกมาเท่าที่เธอต้องการ ในโลกนั้นเพื่อนคนหนึ่งเพื่อนฉันที่ชื่อว่ายูกิ รับรองว่ายัยนั่นต้องดูแลเธออย่างดีแน่นอน เธอจะไม่รู้สึกเหงาอีกต่อไป”
นี่คือสิ่งที่ฉันทำได้ในตอนนี้ คือพยายามพูดปลอบยัยนั้นอย่างสุดความสามารถ จากนั้นไม่นานภาพจากกระจกก็พลันเลือนหายไป ก่อนจะเปลี่ยนกลับมาเป็นเช่นเดิมพร้อมกับเสียงเรียกจากเมดสาวที่ยืนเคาะประตูอยู่ข้างนอกห้อง
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“คุณหนู…ปิดประตูทำไมเจ้าคะ เปิดประตูให้ดิฉันทีเจ้าคะ”
“อ่าๆได้ ฉันจะไปเปิดให้รอแปบนะ”
ฉันรีบลุกไปเปิดประตูให้กับหล่อน แต่เอ๊ะ…จะว่าไปก็เหมือนฉันจะลืมบอกเรื่องสำคัญอะไรกับวิคตอเรียอีกเรื่องหนึ่งด้วยสิ ว่าแต่มันเรื่องอะไรนะ…ยิ่งนึกมากเท่าไหร่ก็คิดไม่ออกเลย แต่ช่างเถอะเดี๋ยวยัยนั่นคงหาทางจัดการปัญหาได้เองแหละ ว่าแล้ววิคตอเรีย(คนใหม่)ก็เปิดประตูห้องออกไป
ทางฝั่งของวิคตอเรีย(ในร่างของมาชิโระ)
ในเวลา 09.00 น. พอดีเป๊ะๆ
ปัง!
เสียงประตูห้องเปิดออกเสียงดัง พร้อมกับปรากฏร่างของชายหนุ่มร่างบาง เจ้าของเรือนผมสีดำอมแดง ในชุดแบบสบายๆ เสื้อยืดสีขาวลายหมีคลุมทับด้วยเสื้อสูทสีขาวแบบเรียบๆคู่กับกางเกงยีสต์สีดำ เดินเข้ามาในสภาพหน้าบึ้งตึงเหมือนโกรธใครอยู่ สร้างความตกใจระคนสงสัยแก่คนในห้องเป็นอย่างมาก และวิคตอเรียในร่างมาชิโระเองแทบทำตัวไม่ถูกเลย
“อะไรกัน…ก็แต่งตัวเสร็จแล้วนี่น่า หืม…นี่อะไรกันนะ เธอคิดจะใส่ชุดนักเรียนบ้านั้นออกไปเดทกับฉันจริงๆเหรอยัยเซ่อเอ้ย”
คิริกายะ สุบารุพูดขึ้น ไม่ช้าเสียงร้องโวยวายจากด้านหลังของใครอีกคนก็ดังไล่หลังตามมา ก่อนเมดสาวผมม่วงสด หน้าตาน่ารักๆจะสาวเท้าวิ่งเข้ามาในห้อง พุ่งเข้ามากันตัวเธอออกห่างจากผู้ชายแปลกหน้าคนนั้นอย่างปกป้อง
“อย่าทำอะไรคุณหนูนะ ท่านชายสุบารุฉันก็บอกแล้วไงว่าคุณหนูยังไม่ตื่น”
“แล้วที่ยืนซ่อนอยู่ข้างหลังเธอนั้นมันตัวอะไรล่ะ ตื่นแล้วนี่น่าไม่ใช่หรอกเหรอ แถมยังแต่งตัวในชุดนักเรียนอีก นี่เธอดูแลคุณหนูของเธออย่างไร ทำไมถึงให้ยัยนี้แต่งตัวแบบนี้ได้ นี่จะไปเดทนะ ไม่ใช่ออกไปเรียน”
“หืม??”
เมดสาวมองหน้าชายหนุ่มไปซักพัก แล้วหันกลับมาจ้องหน้าเจ้านายสาวตัวเองใหม่ตั้งแต่หัวจรดเท้า ซักพักก่อนเจ้าตัวจะร้องว๊ากขึ้นแล้ว จับไหล่เธอสองข้างแน่น ทั้งเอ่ยถามเธอด้วยความแปลกใจ
“คุณหนูนี่มันชุดนักเรียนตัวเมื่อวานไม่ใช่ค่ะ นี่คุณหนูนอนไปทั้งชุดนี้เลยหรือค่ะนี่”
“อะไรนะ นี่เธอนอนไปทั้งชุดแบบนั้นเมื่อวานเหรอ นี่น้ำยังไม่ได้อาบเลยใช่ไหม เธอนี่มันสกปรกไปไหน”
ตามด้วยเสียงบ่นของนายอีกคนที่ว่าจะเป็นคนรู้จักของเจ้าของร่างนี้ วิคตอเรียหรือก็คือมาชิโระในขณะนี้เพียงมองจ้องไปด้วยความสงสัย
“คุณ…เป็นใครกันคะ?”
เธอถามอีกฝ่ายกลับไปบ้างด้วยความสงสัย แล้วนายคนนั้นก็ยกยิ้มอย่างชั่วร้าย พลางเดินเข้ามาใกล้เธอโดยผลักร่างเมดสาวออกไปอีกทางแล้วเอามือวางพาดไหล่เธอด้วยท่าทีสบายๆ
“อะไรกันๆ นี่เธอสมองกลับหรือไง ถึงได้ลืมหน้าว่าที่คู่หมั้นของเธอแบบนั้นได้ ฉันก็สุบารุยังไงล่ะ คู่หมั้นของเธอยังไงยัยเบ๊อะ”
แล้วเขาก็ดีดหน้าผากเธอไปทีด้วยความหมั่นเขี้ยว
“ฉันจะลงไปรอข้างล่าง รีบๆอาบน้ำแต่งตัวเสียใหม่ จะไปออกไปข้างนอกได้ซะทีนี่สายมากแล้วนะ”
พูดจบเขาก็เดินจากไปเลย แล้วพอเขาเดินออกจากห้องไปแล้ว เมดสาวก็เดินเข้ามาถามเธอด้วยท่าทีเป็นหัวเป็นใย
“โธ่ๆคุณหนูของเนโกะ หมอนั้นมันน่าโดนเตะนัก บังอาจมาดีดหน้าผากคุณหนูได้ คุณหนูไม่เป็นอะไรนะคะ”
“จ้า”
เธอตอบเมดสาวเสียงเบา พลางยกมือขึ้นลูบหน้าผากปอยๆ อ่า…เกิดมาเธอเองพึ่งเคยโดนคนไม่รู้จักมาดีดหน้าผากแบบนี้ครั้งแรกเลยนะ แถมดูเหมือนเขาจะเป็นคุณคู่หมั้นของมาชิโระด้วย และเธอเกือบจะความลับแตกไปซะแล้วสิ ดีนะที่เขาเหมือนไม่ค่อยใส่ใจเรื่องนี้เท่าไหร่
เฮ้อ….
“คุณหนู…”
เมดสาวคงเห็นท่าทางของเธอดูเหนื่อยๆ เลยทักขึ้นด้วยความเป็นห่วง แลดูเป็นคนดีนะ เธอคงพอไว้ใจเธอคนนี้ได้ล่ะมั้ง วิคตอเรียคิดในใจ จากนั้นจึงระบายยิ้มออกมา
“ฉันไม่เป็นอะไรมากจ้า เดี๋ยวฉันขอตัวไปอาบน้ำแต่งตัวดีกว่านะจ้า ไม่อยากให้เขาคนนั้นต้องคอยนานๆนะ จ้า”
มาชิโระ (เวอร์ชั่นจำเป็น)เอ่ยพูดบอกกับสาวใช้ จากนั้นจึงเดินมองหาห้องน้ำ แย่จัง…อยู่ไหนกันนะ? เธอคิดและเมดสาวคนเห็นว่าเธอกำลังสับสน หาทางไปห้องน้ำไม่ถูก เลยอาสาเดินนำพาไป ทั้งยังค่อยอยู่รับใช้ช่วยเธอเลือกชุด และจัดการทุกอย่างให้ตามหน้าที่แบบไม่สงสัยอะไรในตัวเธอเลยซักนิด เฮ้อ...ถือว่าเธอยังโชคดีอยู่มั้งล่ะนะ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ