koku-soja

8.0

เขียนโดย TsuKiTsuKi

วันที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2561 เวลา 12.23 น.

  14 ตอน
  0 วิจารณ์
  14.96K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 12 มีนาคม พ.ศ. 2561 12.26 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) ตอนที่2โคคุ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

LOBBYโรงแรม

โซจาเดินเข้าในในล็อบบี้โรงแรม ก็มองไปรอบๆ..เป็นล็อบบี้โรงแรมที่แตกต่างจากที่เขาเคยไปมา ปกติโรงแรมพวกนี้ก็มักจะต้องเปิดไฟสว่าง มีพนักงานคอยต้อนรับ  แต่นี้กลับเปิดไฟสีส้มสลัวๆที่ไม่มีคนอยู่คอยต้อนรับเลย บรรยากาศก็ชวนเงียบ แต่จากที่ดูการตกแต่งโรงแรมก็เป็นแบบที่ตัวเขาชอบ เขาชอบอะไรทีมันดูคลาสสิก

จาจาที่มัวแต่สังเกตที่ล็อบบี้โรงแรมอยู่ก็ต้องสะดุ้งด้วยเสียงมือถือ ของผมที่ดังขึ้นมา ผมจำเบอร์โทรศัพท์นี้ได้ เบอร์นี้เป็นเบอร์ที่โทรเข้าให้ไซโซโซหา

“(ขึ้นมาที่ชั้น 7 ห้อง 752 ) พูดจบปลายสายก็วางหูไป ไม่ทันให้ผมได้ตั้งตัวพูดอะไรต่อทั้งสิ้น 

ผมรีบไปที่ห้องที่เขาบอกเอาไว้..แต่ทันที่ที่ผมเดินจะเข้าไปใกล้ลิฟท์ก็เห็นคนยืนอยู่ข้างประตูลิฟท์ขนาบซ้ายและขวา 

“มาจะไหนวะ ตะกี้ยังไม่เห็นหรือว่าเพราะไฟที่นี้ไม่สว่างพอ” ผมได้แต่บ่นพึมพำ

พอจะเอื้อมมือจะกดลิฟท์คนที่ยืนอยู่ข้างประตูลิฟท์ก็เอาตัวเขามาขวางไม่ให้ผมกดลิฟท์

“เฮ้อ...”ผมถอนหายใจออกมาเบา แล้วมองหน้าทั้งสองนิ่งๆ

“ผมมาเพราะมีคนบอกให้ผมไปที่ชั้น 7 ห้อง 752” พูดจบผมก็หยิบมือถือให้คนที่เฝ้าลิฟท์ทั้งสองดู ทั้งที่ที่ทั้งสองเห็นหมายเลขที่โชว์เบอร์อยู่ที่มือถือของผม ทั้งสองก็พยักหน้าให้แล้วโค้งให้ผมก่อนกดเรียกลิฟท์ให้

รอไม่นานลิฟท์ก็เปิดออก เมื่อประตูลิฟท์ปิดลงร่างบางของเด็กวัย14ก็พรูดลมหายใจออกมาด้วยเพราะโดนบรรยากาศกดดัน

“ตึ้ง” ประตูลิฟท์เปิดออก จาจาเดินออกจากลิฟท์..ก็มีคนยืนอยู่หน้าลิฟท์สองคนแต่ทั้งสองคนต่างก็ก้มหน้าก้มตา จาจาไม่ได้สนใจอะไร เขาเพียงต้องการแค่จะไปยังจุดนัดพบให้เร็วที่สุด...แต่หนึ่งในสองที่ก้มหน้าก้มตาอยู่ก็พูดขึ้นมาโดยไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมามอง

“นายท่านรออยู่ทางนี้ครับ..” หนึ่งในคนที่ก้มหน้าอยู่เดินนำผมขึ้นมาก่อนแล้วพาผมมาที่ห้องที่เป็นจุดมุ่งหมาย ผมที่ใจจดใจจ่ออยู่กับการจะได้พบกับคนที่เรียกผมมาทำให้ผมไม่ได้สังเกตอะไรมากนัก

ยังไม่ทันทีคนที่นำทางผมมาจะเคาะประตู เพียงแค่เราหยุดกันอยู่หน้าห้องห้องหนึ่งประตูสีดำนั่นก็เหวี่ยงเปิดออกมา เพียงแค่นั่นคนนำทางตรงหน้าผมก็หันมาโค้งให้ผมอีกรอบก่อนเดินกลับไปทางเดิม

ผมมองเข้าไปในห้องที่เปิดประตูไว้...แต่ยังไม่กล้าที่จะก้าวเข้าไปความรู้สึกบางอย่างทำให้ผมตัวแข็งขึ้นมาดื้อๆ มันเหมือนผมเป็นเหยื่อที่ถูกนักล่ากำลังจ้องแต่ผมมองไปในห้องก็ไม่เห็นใครเลย..เห็นเพียงแต่ห้องนั่งเล่นที่ตกแต่งไว้เป็นแบบบาร์ไว้ท่ามกลางประตูห้องทั้งสี่ ประตูห้องที่1ตรงข้ามกับห้องที่3ห้องที่2ตรงข้ามกับห้องที่4

ผมสูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้วฝืนตัวเองเดินเข้าไปในห้อง ประตูก็เหวี่ยงตัวเองปิด พร้อมกับประตูห้องที่หนึ่งที่เปิดออกมา ผมเดินไปที่ประตูที่หนึ่งที่อยู่ทางซ้ายมือของผม ก็พบว่ามันน่าจะเป็นห้องทำงาน แต่สไตล์การตกแต่งกับต่างไปจากห้องบาร์โดยสิ้นเชิง ห้องทั้งห้องใช้สีแดงเป็นเมนหลักในการตกแต่งรอบกำแพงเต็มไปด้วยชั้นหนังสือ ตรงกลางห้องมีโต๊ะทำงานทำจากไม้ตัวใหญ่ตั้งอยู่พร้อมเก้าอี้บุนวมตัวใหญ่ ถัดจากโต๊ะทำงานออกมาด้านหน้าอีกหน่อยก็มีโซฟาสองตัวกับเก้าอี้บุนวมสองตัวตั้งเป็นชุดตั้งล้อมโต๊ะตัวเตี้ยแต่สิ่งที่ดึงดูดให้ผมสนใจก็คือบันไดเวียนที่ทำจากไม้...ที่อยู่มุมห้องทำงานด้านขวามือแต่เมือมองขึ้นไปกับเห็นบันไดเวียนที่ติดอยู่กับเพดาลไม่มีทางไปต่อ

“ปัง”เสียงประตูปิดเบาๆทำให้จาจาหันไปมองก็พบชายวัยกลางคนในชุดสูทสีดำผละจากประตูเดินมาหาเขามือก็ถอดสูทโยนลงบนเก้าอี้บุนวมตัวที่อยู่ใกล้ที่สุด ตามด้วยเนคไท สายตาคมกริบมองมาที่ผมอย่างสำรวจจากปลายเท้ายังใบหน้าของผมแล้วเหยียดริมฝีปากยิ้มออกมา เขาเป็นคนที่มีเสน่ห์อย่างร้ายกาจ และเป็นคนที่ไม่ควรเข้าใกล้ด้วยประการทั้งปวง ถึงจะหน้าตาดี ถึงจะดูมีเสน่ห์ แต่คงเป็นคนที่จะนำพาความยุ่งยากมาสู่ตัวเขาและครอบครัวเขาแน่นอน.

คนที่เข้ามาใหม่เดินตรงเข้ามาหาผม มือใหญ่นั่นเชยคางผมแล้วมองหน้าอย่างพิจารณา...

“ผมมาแล้ว..คุณต้องทำตามสัญญา..ไม่ยุ่งเกี่ยวกับครอบครัวของผมนะ” ผมรีบพูดสิ่งที่อยู่ในใจออกไป...

ผู้ชายคนนั้นไม่ตอบเพียงแค่เดินมานั่งที่โซฟาตัวใหญ่ แล้วตบมือลงกับที่ว่างข้างตัว

“เรามานั่งคุยกันก่อนสิ..จะยืนคุยไปทำไม..” ผมยืนนิ่งไม่พูดอะไร ไม่ขยับตัว แต่จ้องไปที่หน้าเขา

“อย่าทำให้ฉันอารมณ์เสียไซโซ” น้ำเสียงเย็นๆกับบรรยากาศที่เริ่มกดดันแผ่ออกมาจากตัวของเขา

ผมมั่นใจอีกเรื่องหนึ่งคือเจ้าของสายตาที่ตรึงผมไว้ สายตาของนักล่ามันมาจากเขา ผมค่อยๆเดินอ้อมไปนั่งโซฟาเดียวกับเขาแต่นั่งชิดอีกมุมไม่ได้ขยับเข้าไปใกล้กับเขา

ผมรู้สึกแปลก...อยู่ๆก็มีกลิ่นหอมเย็นๆโชยออกมาจากที่ไหนไม่รู้ มันเป็นกลิ่นอ่อนๆบางๆเมื่อมองไปคนที่นั่งอยู่อีกมุมของโซฟาก็เห็นอีกคนกำลังดื่มเหล้าอะไรสักอย่างอยู่...เหล้าที่ไม่มีได้มีอยู่ตั้งแต่แรก ชายข้างผมวางแก้วลงแล้วขยับตัวมานั่งชิดกับผมมือแกร่งโอบเอวผมให้แนบชิดกับตัวของเขา ผมเงยหน้ามองมือก็พยามที่จะดันคนข้างกายให้ห่าง

“หอมดี...กลิ่นตัวเธอ..ผิวก็นุ่มลื่นราวกับผ้าไหมชั้นดี..แบบนี้ล่ะสิเจ้าโทชิถึงได้หลงนักหนา” ชายหนุ่มพูดไปมืออีกข้างที่ว่างก็สอดสัมผัสกับผิวใต้ลมผ้า

“อย่า..ได้..ทำแบบนี้..” เด็กน้อยทีไม่ประสีประสาในเรื่องแบบนี้เริ่มสั่นเบาๆ..ทั้งยังรู้สึกแปลกๆ หัวใจก็เต้นเร็ว ยิ่งจาจาแสดงอาการออกมายิ่งทำให้คนที่มีประสบการณ์มามากมายถึงกับยิ้มออกมา

“เธอดูไม่คุ้นกับการถูกสัมผัสสินะ หรือว่า...โทชิกับเธอไม่ได้มีอะไรกัน” เด็กน้อยเมื่อได้ยินคำถามยังไม่ทันได้ตอบอะไร..ชายคนที่ถามก็พยามจะถอดชุดเขาออก

ผมใช้โอกาสที่เขาอารมณ์เสียกับการถอดเข็ดขัดผมออก ผลักเขาออกไปอย่างสุดแรง แต่คงด้วยเพราะผมยังเด็กเลยยังคงไม่แรงเท่าไร เพราะสุดแรงของผมก็แค่ทำให้เขาเพียงแค่เซไปเพียงนิดเท่านั้น ผมใช้โอกาสนั้นหนีออกจากโซฟา แต่ก็ไม่รอด..คนตรงหน้าผมจับแขนไว้ได้แล้วออกแรงดึงเพียงนิดผมก็เซไปอยู่ในอ้อมกอดของเขา

ผมพยามจะดันตัวเองออกมาจากอ้อมกอด ในหัวรีบคิดหาทางออกให้ตัวเอง แต่ยังไม่ทันจะได้ทำอะไร ผมก็รู้สึกเจ็บที่แขนผมโดนกระชากออกมาจากอ้อมกอดนั้น และเมือผมเงยหน้าขึ้นมองก็พบกับ หญิงสาวแสนสวยคนหนึ่งในชุดเดรสรัดรูปเดินเข้าไปนั่งตักของอีกคน ผมไม่รอให้คนคนนั้นทำอะไรกับผมอีก ผมรีบลุกขึ้น

“แฟนคุณมาแล้ว ผมขอตัวครับ  อย่าลืมสัญญาที่บอกว่าจะไม่ยุ่งกับครอบครัวของผมนะครับ”ผมรีบวิ่งออกมาจากห้องตรงไปที่ลิฟท์น่าแปลกที่ตอนแรกมีคนอยู่หน้าลิฟท์แต่ตอนนี้ไม่มีแล้ว ซึ่งมันก็ดีต่อผมนี่ละ

ผมรีบวิ่งเข้าลิฟท์ทันทีที่ลิฟท์เปิดออก ผมค่อยๆทรุดตัวลงกับพื้นลิฟท์ ตอนที่มาผมไม่ได้คิด ไม่ได้คิดว่าจะมาเจออะไรแบบนี้เลย แต่อย่างน้อยผมก็คิดว่ามันก็ดีที่ว่าคนที่เจอคือผมไม่ใช่พี่ชายของผม เพราะหากเป็นพี่ชายเจอผมคิดว่ามันคงแย่กว่านี้ เรื่องมันคงแย่กว่านี้ ผมมองไปที่แขนตัวเองเมื่อรู้สึกเจ็บขึ้นมา

“เลือดออกเลย เพราะผู้หญิงคนนั้นแน่ๆ” แขนที่ถูกผู้หญิงคนนั้นจับมันมีเลือดออกมาตามรอยจิกที่ผู้หญิงคนนั้นทิ้งรอยเล็บเอาไว้

“ตึ้ง” เสียงลิฟท์ดังขึ้น ผมรีบลุกขึ้นจะรีบออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด แต่ผมยังไม่ทันจะได้ออกจากลิฟท์ก็มีเสียงของชายคนที่ผมเพิ่งหนีออกมาดังขึ้นมาจากหน้าลิฟท์

“เธอคงไม่คิดว่าฉันจะปล่อยเธอไปง่ายๆหรอกนะ”..เสียงของคนตรงหน้าทำให้เด็กน้อยเงยขึ้นมามองด้วยสายตาสั่นเกร็งในหัวเริ่มคิดหาทางออก แต่ยังไม่ทันจะทำอะไรลงไปชายคนนั้นก็เดินเข้ามาในลิฟท์เพียงคนเดียวปล่อยให้ชายอีกสี่คนยืนอยู่นอกลิฟท์แบบนั้น

“ไปทำตามที่ฉันสั่งได้แล้ว” เสียงของผู้ชายข้างกายสั่งลูกน้องทั้งสี่ ก่อนที่ลูกน้องทั้งสี่จะก้มหน้ารับคำสั่งแล้วหายตัวไป

ประตูลิฟท์ปิดลงอีกครั้งและมันกำลังพาผมขึ้นไปที่ชั้นที่ผมหนีมา คนข้างกายผมไม่ได้พูดอะไรอีก.. ทันที่ที่ลิฟท์เปิดออกคนข้างกายผมก็ลากผมออกมาจากลิฟท์แล้วพาไปอีกทางที่ตรงข้ามกับห้องที่ผมมาตอนแรก

“ปล่อย...ได้โปรด” ผมร้องขอออกมา...ผมคิดอะไรไม่ออกผมไม่รู้ว่าควรทำยังไงดี ผมกำลังตื่นตระหนกกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดว่าจะเกิดกับตัวเอง

เด็กชายถูกลากเข้ามาในห้องที่ปูด้วยขนแกะ ด้านขวาขอประตูห้องเป็นห้องน้ำ ตรงข้ามกันเป็นห้องอาบน้ำ กลางห้องก็มีห้องนอนขนาดใหญ่ ปลายเตียงก็มีโซฟาขนาดใหญ่กับโต๊ะขนาดพอดีกลับโซฟาวางอยู่ ส่วนตู้เสื้อผ้าก็อยู่ติดผนังฝั่งซ้ายของเตียง ห้องนี้มีหน้าต่างบานใหญ่บางเดี่ยวที่มีผ้าผ่านสีดำทึบปิดเอาไว้

ร่างบางถูกจับกดลงบนเตียง โดยมีร่างหนาของอีกคนนั่งคร่องอยู่ที่หลังร่างหนากำลังใช้เข็ดขัดตัวเองรัดไปที่ข้อมือขาว

ความรู้สึกเจ็บที่ข้อมือจากการถูกรัดข้อมือทำให้สมองของจาจาเริ่มกลับมาทำงานเพื่อเอาตัวรอดจากตรงนี้อีกครั้ง แต่ความตื่นกลัวตื่นตระหนกก็ทำให้จาจายิ่งคิดอะไรไม่ออกสมองสั่งให้ยื้อเวลาด้วยการชวนคุยไปก่อน

“คะ..คุณ...เป็นใคร รู้จักไซโซได้ไง” ผมไม่ได้อยากรับรู้อะไรเกี่ยวกับคนตรงหน้านักหรอกครับ แต่สิ่งที่ทำให้ผมต้องถามเพราะผมไม่รู้จะพูดอะไร

“จะว่าไปก็ยังไม่ได้แนะนำตัวกับเธอ...นี่นะ” คนพูดจับร่างบางที่นอนคว่ำหน้าพลิกตัวขึ้นมา

“ฉันชื่อโคคุ...จำชื่อผัวคนนี้ให้ดีละ..ไซ..โซคุง”ร่างหนาตอบแค่ชื่อตัวเองแต่ไม่ได้พูดเรื่องอื่นๆที่เด็กชายถาม เด็กชายตาเบิกกว้างอย่างตกใจ..ที่ถูกโมเมว่าตัวเองเป็น...

“เนียนดีจริงๆผิวมึง”..โคคุเอ่ยปากชม ในขณะที่ถอดชั้นกางเกงของเด็กชาย

“ได้โปรด..อย่า..ทำอะไรผมเลย...ผมกลัว..พรุ่งนี้..พรุ่งนี้..ผม..ผมมีสอบ” เด็กชายพยามยื้อเวลา

อยู่ๆเด็กชายก็คิดทางออกได้ เขาจำได้ว่าแม่ของเขาเวลามีปัญหามักจะใช้ไม้อ่อนกับพ่อ ไม้อ่อนทีทำให้พ่อของเขายอมได้ทุกเรื่องมันก็น่าจะได้ผล

แต่ผมยังไม่ได้ทำอะไร ไม่แม้แต่ได้เอ่ยอะไรแม้เพียงจะเอ่ย ใบหน้าของอีกฝ่ายก็ขยับเข้ามาใกล้เรื่อยๆริมฝีปากได้รูปบดจูบริมฝีปากสีหวานอย่างรุนแรงไร้ซึ่งความอ่อนโยน เด็กชายที่ไร้ประสบการณ์เผลอถูกลุกไล้จนเผลอเปิดปากให้อีกฝ่ายตักตวงความหวานอย่างไม่รู้จักพอ

เด็กชายหอบหายใจเบาๆเมืออีกฝ่ายถอนริมฝีปาก แล้วมองเขาด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก

ไม่น่าเชื่อ แต่จากประสบการณ์ที่ผ่านมาทั้งผู้ชายและผู้หญิงทำให้ตัวเขารับรู้ได้ว่าเด็กที่นอนอยู่ตรงหน้าเขาไม่เคยในเรื่องพวกนี้เลย ไอ้โทชิมันทำห่าอะไรของมันทำไมปล่อยเด็กนี่ให้รอด จะบอกว่าไอ้โทชิมันไร้น้ำยาก็..หึหึ..ชั่ง..มันเถอะจะยังไงกูก็ไม่ปล่อยเด็กคนนี้แน่นนอน

ร่างหนาเหยียดยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจในตัวเด็กน้อยที่นอนมองเขาตัวสั่นเทา

“กูจะทำให้ร่างกายมึงจำว่ากูโคคุคือผัวมึง”

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา