koku-soja
8.0
เขียนโดย TsuKiTsuKi
วันที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2561 เวลา 12.23 น.
14 ตอน
0 วิจารณ์
14.96K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 12 มีนาคม พ.ศ. 2561 12.26 น. โดย เจ้าของนิยาย
10) ตอนที่10 ครบ1เดือน (วันซวยๆชองผม)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความตอนที่10 ครบ1เดือน(วันซวยๆชองผม)
หนึ่งเดือนแล้ว ผมรู้จักโคคุมาหนึ่งเดือนแล้ว ผมกับเขาเรายังเหมือนเดิม โคคุดีบ้างร้ายบ้างแต่ไม่ค่อยทำร้ายผมแล้ว เขารักษาสัญญาที่พูดเสมอ เขาไม่ชอบพี่โทชิเคยได้ยินผ่านหูว่าเพราะเพื่อนของเขา แต่ผมไม่รู้สาเหตุ ผมค้างที่นี่บ่อยโดยพ่ออ้างกับแม่ให้ผมว่าผมมาขอพ่อลองทำงานพิเศษใกล้ๆกับซีบิล ถ้าวันไหนเลิกดึกก็ให้ผมค้างในซีบิลเลย ผมเขียนบันทึกเรืองต่างๆไว้ในไดอาลี่ของผม ผมเก็บมันไว้ที่บ้านของโคคุเพราะผมกลัวแม่ผมมาเจอมัน
ผมเดินเข้ามาในบ้านของโคคุ ก็เจอคุณจิโตะคุณโคคุบอกว่าเป็นภูติและคนสนิท สีหน้าของคุณจิโตะดูไม่ดีนัก
“กำลังรออยู่เลย” เสียงพูดของคุณจีโตะร้อนรน ผมเลิกคิ้วขึ้นอย่างแปลกใจ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป ผมถอดโค้ทออกพับอย่างง่ายๆก่อนจะพาดกับแขนตัวเอง เดินเลยคุณจิโตะ หมายจะเดินไปที่ห้องนอนของผมจะเอาของไปเก็บ ผมไม่ได้ใจดำอะไร แต่คุณจิโตะไม่ชอบผม และผมก็กลัวโคคุ เพราะงั้นห่างดีกว่า ถ้ามีอะไรโคคุก็บอกผมเองละ หนึ่งเดือนที่ผมใกล้ชิดโคคุทำให้ผมเรียนรู้เรื่องต่างๆ แถมพ่อยังบอกให้ผมดูเวลาแม่อ้อนพ่อเพื่อจะได้ไอเดียอะไรเอาตัวรอดจากการโดนโคคุเล่นงานพ่อชอบพูดว่าคนแบบโคคุชอบถูกเอาใจ ชอบให้อ้อน มากว่าจะเอาเอาใจอีกฝ่าย
“นายไม่ได้มาที่นี่สามวัน”เสียงของจิโตะดังมาจากด้านหลังของผม
“อืม...เข้าค่ายมา กลับจากเข้าค่ายก็กลับบ้านเอาของไปเก็บแล้วมาที่นี่” ผมตอบตามตรง แล้วเรื่องนี้ก็ไม่ใช่ความลับ โคคุโอะก็รู้
“ตั้งแต่นายไป จนนายกลับ นายท่านไม่ได้ออกจากห้องทำงานเลย นอกจากเข้าห้องน้ำก็ไม่ได้ขยับไปไหนเลย ข้าวปลาก็ไม่ทาน เอาแต่ทำงาน นายท่านเป็นพ่อมดก็ใช้แต่ถ้าโหมงานหนักมากกว่านี้อาจเป็นอันตราย ช่วยห้ามนายท่านหน่อย” จิโตะวิ่งมาดักหน้าแล้วทรุดตัวลงคุกเข่า
“ได้โปรด” จิโตะยอมก้มหัวขอร้อง
“เอาเสื้อกับกระเป่าเสื้อผ้าของผมไปเก็บที่ห้องนอนผม ” ผมเดินแยกไปที่ห้องครัวทำอาหารอ่อนให้เขาทาน ก็เป็นอะไรง่ายอย่างโจ๊กไก่ฉีกใส่ไข่ ผมเอาโจ๊กใส่ถาดเดินถือมาที่ห้องทำงานของโคคุ
“ก๊อก ก๊อก ก๊อก” ผมเคาะประตูจนมีเสียงข้างในอนุญาต ผมเดินเข้าไปก็เห็นว่าคนที่นั่งทำงานอยู่นั้นไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามองเลย ผมวางถาดโจ๊กวางที่โต๊ะรับแขกที่อยู่เยื้องจากโต๊ะทำงาน ก่อนเดินไปหาโคคุที่ยังนั่งทำงานอยู่
“ทานข้าวหน่อยนะ ผมลงครัวไปทำให้” ผมสะกิดคนที่นั่งทำงานอยู่ก่อนจะเอ่ยปาก ร่างสูงที่นั่งทำงานอยู่เงยหน้ามองผม ก่อนรวบตัวผมขึ้นไปนั่งตัก มือโอบเอวผมไว้
“กลับมาแล้วครับ” ผมทำอะไรไม่ถูกเมื่อถูกสายตาคมจ้องมอง จริงเลยเอ่ยคำนี้ออกมา
“อืม”โคคุไม่ตอบอะไรมาก แล้วก้มหน้าทำงานในขณะที่ยังโอบเอวเขาเอาไว้
“งานเร่งมากหรือครับ” ผมเอ่ยถาม
“เปล่า แค่ติดพัน ทำตรงนี้เสร็จก็เสร็จไม่ได้เร่งอะไร” ผมมองคนทำงานก็เห็นว่าท่าทางอิดรอย
ไม่รู้ว่าคิดถูกหรือคิดผิดทีทำลงไป ผมลงจากตักโคคุ ก่อนปิดแฟ้มงานที่เขากำลังอ่านอยุ่ โคคุมองหน้าผมอย่างไม่พอใจ แต่ผมก็ทำไปแล้วและผมเห็นมาแล้ว เห็นแม่ทำกับพ่อมาแล้ว แต่ลืมคิดไปว่าพ่อรักแม่แต่โคคุมันเห็นผมเป็นแค่ทาสในเรือนเบี้ย แต่ลองทำก่อนแล้วกัน
“ผมคิดถึงคุณ ตอนนี้เราอยู่กันสองคน ผมก็อยากให้มีแค่เรื่องเรา งานนะถ้าไม่เร่งอะไรก็เอาไว้ก่อนได้ไหม” ลอกมาเลยละ ผมลอกคำพูดแม่มาเลย “งานก็ทำที่ทำงาน ที่บ้านที่อยู่ด้วยกันก็อยากให้คุณโคคุสนใจผมมากกว่ากระดาษงานก็เข้าใจว่างานคือสิ่งสำคัญ แต่ก็เพลาๆลงบ้างเถอะ” อันนี้ก็ของแม่ครับ..ดัดแปลงนิดๆ แต่ผมว่าได้ผลนะ โคคุดูไม่โกธรผม หรือไม่พอใจเท่ากับที่ตอนแรกที่ปิดแฟ้ม โคคุเอนหลังกับเก้าอี้หนังสีดำที่เขานั่งก่อนหลับเพียงครู่เดียว ก่อนลืมตามมองผมอีกครั้ง
มือหนาจับมือผมแล้วยืนขึ้น “ทำอาหารให้ฉันหรือไง” โคคุเอ่ยถาม
“ครับ ผมกลับมาจิโตะบอกว่าคุณยังไม่ได้ทานอะไรเลย ผมเลยเข้าครัวเอง” ทำให้คนหลงย่อมมีประโยชน์กว่าทำให้คนเกลียด
ขณะที่กำลังป้อนโจ๊กให้โคคุอยู่มือถือของจาจาก็ดังขึ้น โคคุถึงกับตาขวางที่เห็นจาจาวางช้อนโจ๊กเพื่อหยิบมือถือมาดูก็พบว่าคนที่โทรมาหาคือไซโซพี่ชายที่จาจาเอาชื่อมาใช้ โดยชื่อของไซโซจาจาแก้เป็นโซ เพื่อไม่ให้ใครรู้
“ถ้ามึงจะรับเปิดลำโพงด้วย” จาจาพยักหน้าแล้วรับสาย เปิดลำโพง จาจาไม่ได้ถือ มือถือเอาไว้แต่หยิบช้อนโจ๊กมาป้อนโคคุต่อก็ทำให้โคคุอารมณ์ดีเหมือนก่อนรับมือถือ
“(ไซ..พี่โทชินะ)” ทันทีที่ได้ยินเสียงของพี่โทชิ โคคุโอะก็หน้าหงิกทันที
“ครับ” ผมตอบรับ พร้อมคิดว่ามีเรื่องอะไรตอนกลับบ้านก็เจออยู่ พี่มันก็รู้ว่าผมจะมาหาโคคุ แล้วจะโทรมาทำไม หรือว่ามีอะไรด่วน ผมตักโจ๊กป้อนอีกคำ โคคุมองผมก่อนจะกิน แววตาเต็มไปด้วยความโมโห
“(มีเรื่องจะคุย ถ้ากลับมาแล้วเรียกด้วย)”
“(จาจารีบกลับมา ที่รักของไซโซ รอไซโซอยู่นะ” เสียงใสของพี่ชายผมตะโกนแทรกมาก่อนสายจะตัดไป และมันก็คงเป็นฟางเส้นสุดท้าย เพราะถ้วยโจ๊กที่ผมทำแตกออกเป็นเสี่ยงๆจากการถูกขว้างทิ้ง
“กูเกือบเชื่อว่ามึงคิดถึงกู เพราะมึงกลับมามึงก็รีบมาหากูถึงที่นี่ แต่ที่ไหนมึงให้ไอ้เหี้-โทชิไปนอนรอมึงที่บ้าน” ผมรีบส่ายหัวรัวๆ ผมไม่ได้ให้พี่โทชิไปนอนรอที่บ้าน แต่พี่โทชิมันย้ายตัวเองไปอยู่บ้านผมแล้ว พี่โทชิไปบ้านบ่อยจนแม่ให้ห้องรับแขกห้องหนึ่งเป็นห้องพี่โทชิไปแล้ว
“ผมเปล่า..เปล่านะ พี่โทชิอยู่บ้านเพราะเล่นเกมส์กับพวกน้องๆ กลับไปเขาก็อยู่อยู่แล้ว “ผมเดินไปหาโคคุ ต้องคุยกันให้รู้เรื่องไม่งั้นผมอ่วมแน่นอน ยังไม่ทันจะได้คุยเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นยังไม่ทันที่โคคุจะอนุญาติผู้หญิงคนนั้นก็เดินเข้า ผู้หญิงคนนั้นคนว่าจ้างผม เธอเดินเข้ามาคล้องแขนโคคุแล้วใช้มืออีกข้างลูบแขนโคคุ
“ใจเย็นๆค่ะ คุณเป็นอะไรหรือเปล่าคะ?” ริมฝีปากอวบอิ่มแต่งแต้มด้วยสีแดงกำมะหยี่ เหยียดยิ้มบาง แต่ตาเฉี่ยวที่แต่งแต้มด้วยอายไลน์เนอร์กับตวัดมองผมอย่างอารมณ์ดี
“อย่างอารมณ์เสียสิค่ะ เราต้องไปธุระกันคุณจำได้ไหมค่ะ อารมณ์เสียไปงานเราจะเสียได้นะคะโคคุ” คุณโคคุเดินเข้ามาหาผมทั้งที่ยังมือผู้หญิงคนนั้นควงแขนอยู่ก่อนที่จะทำร้ายผมโดนการตบหน้าผม การตบครั้งนี้รุนแรงกว่าครั้งไหนๆ แรงจนผมได้รสเลือดในปากของผมและก็รับรู้ได้ว่าฟันของผมมันโยก ด้วยแรงตบทำให้ตัวผมเองก็กองอยู่กับพื้น การเจ็บที่กายก็เรื่องหนึ่งแต่สายตาของผู้หญิงที่อยู่ข้างตัวของโคคุมองด้วยความสะใจก็ยิ่งทำให้ผมเข้าใจได้เรื่องหนึ่ง ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่คนที่ไว้ใจได้ และไม่ใช่คนดีจริงๆ เหมือนที่เขารู้มา
“คนร่านอย่างมึงก็รอไปแล้วกัน เดี๋ยวกูจะหาผัวเพิ่มให้” พูดเสร็จโคคุก็เดินออกไปกับผู้หญิงคนนั้นทิ้งผมเอาไว้ตรงนั้น หลังจากวันนั้นวันที่เขาตบผมเพราะผู้หญิงคนนั้นผมก็ไม่โดนเขาทำร้ายอีกเลย ไม่มีเลยถึงเขาจะร้ายก็จะมีแค่กระชากตัวผมหรือผลัก แต่ตบไม่มีเลย เขาไม่รุนแรงกับผม เขาไม่ทำให้ผมเลือดตกยางออก หรือแม้แต่ทำให้ตัวผมมีรอยช้ำเพียงนิดก็ไม่มีเลย
ผมตั้งสติได้ก็ลุกไปเก็บกวาดจานโจ๊กที่แตกใส่ถาด วันนี้คงเป็นวันซวยของผมมั้ง ทั้งโดนตบ อาหารก็ถูกขว้างถึง แล้วจะโดนอะไรอีกละ ผมเดินออกจากห้องยังไม่ทันจะเอาจานไปทิ้งเสียงกริ่งหน้าบ้านก็ดังขึ้น ผมเลยต้องรีบไปดูเกิดเป็นเขากลับมาผมไปเปิดช้าผมจะซวย ผมเลยเอาถาดที่ใส่จานแตกสอดไว้ใต้โซฟา ผมยังไม่ทันจะเดินไปถึงประตู ประตูก็เปิดออก ตรงหน้าผมคือผู้ชายใส่เสื้อกันเปื้อนสีหวาน กับหมวกแก็ปสีเข้มที่ดูยังไงยังไงก็ไม่เขากัน ในมือของเขามีกล่องกระดาษที่เต็มไปด้วยผักผลไม้ถือเข้ามา
“ผมมาส่งผักผลไม้ครับ” ชายส่งผักผลไม้ยิ้มไปพูดไป แต่เป็นยิ้มที่ผมไม่ชอบ มันเป็นยิ้มกรุ่มกริ่ม ผมรู้สึกไม่ดีเลย
“ของใครครับ ใครเป็นคนสั่ง” ผมลองถามออกไป หนึ่งเดือนที่ไปมาที่นี่ผมไม่ได้ไปมาเปล่าๆนะ ผมก็พอรู้อะไรบาง
“โคคุโอะครับ คุณโคคุโอะเป็นคนสั่งครับ” ชายส่งผักผลไม้ตอบ
“ครับ” ผมเดินมานั่งที่โซฟาตัวที่ผมเอาถาดจานวางไว้ เหตุที่ผมต้องระวังตัวก็เพราะ เป็นไปไม่ได้ที่ของทีมาส่งจะเป็นของโคคุ ผักผลไม้ของโคคุมีคนจัดการให้ ผมไม่รู้ว่าเป็นใคร แต่คนที่จัดการให้จะสั่งผักผลไม้เป็นออร์กานิกจากสวนให้โคคุแล้วเขาก็มีเจ้าประจำ ที่สำคัญเวลาสั่งของปกติจะเป็นคุณจิโตะสั่ง ชื่อคนรับจะเป็นชื่อบ้านหลังนี้ ที่สำคัญไม่มีใครพูดเรื่องนี้กับผมไว้ด้วย ต่อให้ยังไงคุณโคคุจะโมโหผม คุณจิโตะก็น่าจะพูดบ้างนี่น่า แปลก..มันต้องมีอะไรแน่ๆ
“แต่ว่าคุณโคคุโอะไม่อยู่ครับ แล้วก็ไม่ได้ให้เงินเอาไว้ด้วยครับ ค่อยมาใหม่วันหลังนะครับ”
“แต่ว่าเขาจ่ายเงินแล้วนะครับ ยังไงผมก็ต้องให้คุณรับไว้”
“งั้นเอาไว้ในห้องครัวครับ” ผมชี้ไปที่ห้องครัว ที่อยู่ติดกันแต่มีประตูกระจกกั้นไว้ ผมได้ยินเสียงประตูกระจกเลือนเปิดและปิดก็ไม่ได้คิดอะไร แต่หลังจากประตูปิดเพียงไม่ถึงเสี้ยววินาที ผมก็รู้สึกได้ถึงเหล็กเย็นๆที่คอ ผมกลืนน้ำลายลงคอจากสถานการณ์ที่ไม่ได้คาดคิด ผมพลาดที่เห็นว่าเข้าห้องครัวไปแล้วไม่น่าจะมีอะไร
หนึ่งเดือนแล้ว ผมรู้จักโคคุมาหนึ่งเดือนแล้ว ผมกับเขาเรายังเหมือนเดิม โคคุดีบ้างร้ายบ้างแต่ไม่ค่อยทำร้ายผมแล้ว เขารักษาสัญญาที่พูดเสมอ เขาไม่ชอบพี่โทชิเคยได้ยินผ่านหูว่าเพราะเพื่อนของเขา แต่ผมไม่รู้สาเหตุ ผมค้างที่นี่บ่อยโดยพ่ออ้างกับแม่ให้ผมว่าผมมาขอพ่อลองทำงานพิเศษใกล้ๆกับซีบิล ถ้าวันไหนเลิกดึกก็ให้ผมค้างในซีบิลเลย ผมเขียนบันทึกเรืองต่างๆไว้ในไดอาลี่ของผม ผมเก็บมันไว้ที่บ้านของโคคุเพราะผมกลัวแม่ผมมาเจอมัน
ผมเดินเข้ามาในบ้านของโคคุ ก็เจอคุณจิโตะคุณโคคุบอกว่าเป็นภูติและคนสนิท สีหน้าของคุณจิโตะดูไม่ดีนัก
“กำลังรออยู่เลย” เสียงพูดของคุณจีโตะร้อนรน ผมเลิกคิ้วขึ้นอย่างแปลกใจ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป ผมถอดโค้ทออกพับอย่างง่ายๆก่อนจะพาดกับแขนตัวเอง เดินเลยคุณจิโตะ หมายจะเดินไปที่ห้องนอนของผมจะเอาของไปเก็บ ผมไม่ได้ใจดำอะไร แต่คุณจิโตะไม่ชอบผม และผมก็กลัวโคคุ เพราะงั้นห่างดีกว่า ถ้ามีอะไรโคคุก็บอกผมเองละ หนึ่งเดือนที่ผมใกล้ชิดโคคุทำให้ผมเรียนรู้เรื่องต่างๆ แถมพ่อยังบอกให้ผมดูเวลาแม่อ้อนพ่อเพื่อจะได้ไอเดียอะไรเอาตัวรอดจากการโดนโคคุเล่นงานพ่อชอบพูดว่าคนแบบโคคุชอบถูกเอาใจ ชอบให้อ้อน มากว่าจะเอาเอาใจอีกฝ่าย
“นายไม่ได้มาที่นี่สามวัน”เสียงของจิโตะดังมาจากด้านหลังของผม
“อืม...เข้าค่ายมา กลับจากเข้าค่ายก็กลับบ้านเอาของไปเก็บแล้วมาที่นี่” ผมตอบตามตรง แล้วเรื่องนี้ก็ไม่ใช่ความลับ โคคุโอะก็รู้
“ตั้งแต่นายไป จนนายกลับ นายท่านไม่ได้ออกจากห้องทำงานเลย นอกจากเข้าห้องน้ำก็ไม่ได้ขยับไปไหนเลย ข้าวปลาก็ไม่ทาน เอาแต่ทำงาน นายท่านเป็นพ่อมดก็ใช้แต่ถ้าโหมงานหนักมากกว่านี้อาจเป็นอันตราย ช่วยห้ามนายท่านหน่อย” จิโตะวิ่งมาดักหน้าแล้วทรุดตัวลงคุกเข่า
“ได้โปรด” จิโตะยอมก้มหัวขอร้อง
“เอาเสื้อกับกระเป่าเสื้อผ้าของผมไปเก็บที่ห้องนอนผม ” ผมเดินแยกไปที่ห้องครัวทำอาหารอ่อนให้เขาทาน ก็เป็นอะไรง่ายอย่างโจ๊กไก่ฉีกใส่ไข่ ผมเอาโจ๊กใส่ถาดเดินถือมาที่ห้องทำงานของโคคุ
“ก๊อก ก๊อก ก๊อก” ผมเคาะประตูจนมีเสียงข้างในอนุญาต ผมเดินเข้าไปก็เห็นว่าคนที่นั่งทำงานอยู่นั้นไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามองเลย ผมวางถาดโจ๊กวางที่โต๊ะรับแขกที่อยู่เยื้องจากโต๊ะทำงาน ก่อนเดินไปหาโคคุที่ยังนั่งทำงานอยู่
“ทานข้าวหน่อยนะ ผมลงครัวไปทำให้” ผมสะกิดคนที่นั่งทำงานอยู่ก่อนจะเอ่ยปาก ร่างสูงที่นั่งทำงานอยู่เงยหน้ามองผม ก่อนรวบตัวผมขึ้นไปนั่งตัก มือโอบเอวผมไว้
“กลับมาแล้วครับ” ผมทำอะไรไม่ถูกเมื่อถูกสายตาคมจ้องมอง จริงเลยเอ่ยคำนี้ออกมา
“อืม”โคคุไม่ตอบอะไรมาก แล้วก้มหน้าทำงานในขณะที่ยังโอบเอวเขาเอาไว้
“งานเร่งมากหรือครับ” ผมเอ่ยถาม
“เปล่า แค่ติดพัน ทำตรงนี้เสร็จก็เสร็จไม่ได้เร่งอะไร” ผมมองคนทำงานก็เห็นว่าท่าทางอิดรอย
ไม่รู้ว่าคิดถูกหรือคิดผิดทีทำลงไป ผมลงจากตักโคคุ ก่อนปิดแฟ้มงานที่เขากำลังอ่านอยุ่ โคคุมองหน้าผมอย่างไม่พอใจ แต่ผมก็ทำไปแล้วและผมเห็นมาแล้ว เห็นแม่ทำกับพ่อมาแล้ว แต่ลืมคิดไปว่าพ่อรักแม่แต่โคคุมันเห็นผมเป็นแค่ทาสในเรือนเบี้ย แต่ลองทำก่อนแล้วกัน
“ผมคิดถึงคุณ ตอนนี้เราอยู่กันสองคน ผมก็อยากให้มีแค่เรื่องเรา งานนะถ้าไม่เร่งอะไรก็เอาไว้ก่อนได้ไหม” ลอกมาเลยละ ผมลอกคำพูดแม่มาเลย “งานก็ทำที่ทำงาน ที่บ้านที่อยู่ด้วยกันก็อยากให้คุณโคคุสนใจผมมากกว่ากระดาษงานก็เข้าใจว่างานคือสิ่งสำคัญ แต่ก็เพลาๆลงบ้างเถอะ” อันนี้ก็ของแม่ครับ..ดัดแปลงนิดๆ แต่ผมว่าได้ผลนะ โคคุดูไม่โกธรผม หรือไม่พอใจเท่ากับที่ตอนแรกที่ปิดแฟ้ม โคคุเอนหลังกับเก้าอี้หนังสีดำที่เขานั่งก่อนหลับเพียงครู่เดียว ก่อนลืมตามมองผมอีกครั้ง
มือหนาจับมือผมแล้วยืนขึ้น “ทำอาหารให้ฉันหรือไง” โคคุเอ่ยถาม
“ครับ ผมกลับมาจิโตะบอกว่าคุณยังไม่ได้ทานอะไรเลย ผมเลยเข้าครัวเอง” ทำให้คนหลงย่อมมีประโยชน์กว่าทำให้คนเกลียด
ขณะที่กำลังป้อนโจ๊กให้โคคุอยู่มือถือของจาจาก็ดังขึ้น โคคุถึงกับตาขวางที่เห็นจาจาวางช้อนโจ๊กเพื่อหยิบมือถือมาดูก็พบว่าคนที่โทรมาหาคือไซโซพี่ชายที่จาจาเอาชื่อมาใช้ โดยชื่อของไซโซจาจาแก้เป็นโซ เพื่อไม่ให้ใครรู้
“ถ้ามึงจะรับเปิดลำโพงด้วย” จาจาพยักหน้าแล้วรับสาย เปิดลำโพง จาจาไม่ได้ถือ มือถือเอาไว้แต่หยิบช้อนโจ๊กมาป้อนโคคุต่อก็ทำให้โคคุอารมณ์ดีเหมือนก่อนรับมือถือ
“(ไซ..พี่โทชินะ)” ทันทีที่ได้ยินเสียงของพี่โทชิ โคคุโอะก็หน้าหงิกทันที
“ครับ” ผมตอบรับ พร้อมคิดว่ามีเรื่องอะไรตอนกลับบ้านก็เจออยู่ พี่มันก็รู้ว่าผมจะมาหาโคคุ แล้วจะโทรมาทำไม หรือว่ามีอะไรด่วน ผมตักโจ๊กป้อนอีกคำ โคคุมองผมก่อนจะกิน แววตาเต็มไปด้วยความโมโห
“(มีเรื่องจะคุย ถ้ากลับมาแล้วเรียกด้วย)”
“(จาจารีบกลับมา ที่รักของไซโซ รอไซโซอยู่นะ” เสียงใสของพี่ชายผมตะโกนแทรกมาก่อนสายจะตัดไป และมันก็คงเป็นฟางเส้นสุดท้าย เพราะถ้วยโจ๊กที่ผมทำแตกออกเป็นเสี่ยงๆจากการถูกขว้างทิ้ง
“กูเกือบเชื่อว่ามึงคิดถึงกู เพราะมึงกลับมามึงก็รีบมาหากูถึงที่นี่ แต่ที่ไหนมึงให้ไอ้เหี้-โทชิไปนอนรอมึงที่บ้าน” ผมรีบส่ายหัวรัวๆ ผมไม่ได้ให้พี่โทชิไปนอนรอที่บ้าน แต่พี่โทชิมันย้ายตัวเองไปอยู่บ้านผมแล้ว พี่โทชิไปบ้านบ่อยจนแม่ให้ห้องรับแขกห้องหนึ่งเป็นห้องพี่โทชิไปแล้ว
“ผมเปล่า..เปล่านะ พี่โทชิอยู่บ้านเพราะเล่นเกมส์กับพวกน้องๆ กลับไปเขาก็อยู่อยู่แล้ว “ผมเดินไปหาโคคุ ต้องคุยกันให้รู้เรื่องไม่งั้นผมอ่วมแน่นอน ยังไม่ทันจะได้คุยเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นยังไม่ทันที่โคคุจะอนุญาติผู้หญิงคนนั้นก็เดินเข้า ผู้หญิงคนนั้นคนว่าจ้างผม เธอเดินเข้ามาคล้องแขนโคคุแล้วใช้มืออีกข้างลูบแขนโคคุ
“ใจเย็นๆค่ะ คุณเป็นอะไรหรือเปล่าคะ?” ริมฝีปากอวบอิ่มแต่งแต้มด้วยสีแดงกำมะหยี่ เหยียดยิ้มบาง แต่ตาเฉี่ยวที่แต่งแต้มด้วยอายไลน์เนอร์กับตวัดมองผมอย่างอารมณ์ดี
“อย่างอารมณ์เสียสิค่ะ เราต้องไปธุระกันคุณจำได้ไหมค่ะ อารมณ์เสียไปงานเราจะเสียได้นะคะโคคุ” คุณโคคุเดินเข้ามาหาผมทั้งที่ยังมือผู้หญิงคนนั้นควงแขนอยู่ก่อนที่จะทำร้ายผมโดนการตบหน้าผม การตบครั้งนี้รุนแรงกว่าครั้งไหนๆ แรงจนผมได้รสเลือดในปากของผมและก็รับรู้ได้ว่าฟันของผมมันโยก ด้วยแรงตบทำให้ตัวผมเองก็กองอยู่กับพื้น การเจ็บที่กายก็เรื่องหนึ่งแต่สายตาของผู้หญิงที่อยู่ข้างตัวของโคคุมองด้วยความสะใจก็ยิ่งทำให้ผมเข้าใจได้เรื่องหนึ่ง ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่คนที่ไว้ใจได้ และไม่ใช่คนดีจริงๆ เหมือนที่เขารู้มา
“คนร่านอย่างมึงก็รอไปแล้วกัน เดี๋ยวกูจะหาผัวเพิ่มให้” พูดเสร็จโคคุก็เดินออกไปกับผู้หญิงคนนั้นทิ้งผมเอาไว้ตรงนั้น หลังจากวันนั้นวันที่เขาตบผมเพราะผู้หญิงคนนั้นผมก็ไม่โดนเขาทำร้ายอีกเลย ไม่มีเลยถึงเขาจะร้ายก็จะมีแค่กระชากตัวผมหรือผลัก แต่ตบไม่มีเลย เขาไม่รุนแรงกับผม เขาไม่ทำให้ผมเลือดตกยางออก หรือแม้แต่ทำให้ตัวผมมีรอยช้ำเพียงนิดก็ไม่มีเลย
ผมตั้งสติได้ก็ลุกไปเก็บกวาดจานโจ๊กที่แตกใส่ถาด วันนี้คงเป็นวันซวยของผมมั้ง ทั้งโดนตบ อาหารก็ถูกขว้างถึง แล้วจะโดนอะไรอีกละ ผมเดินออกจากห้องยังไม่ทันจะเอาจานไปทิ้งเสียงกริ่งหน้าบ้านก็ดังขึ้น ผมเลยต้องรีบไปดูเกิดเป็นเขากลับมาผมไปเปิดช้าผมจะซวย ผมเลยเอาถาดที่ใส่จานแตกสอดไว้ใต้โซฟา ผมยังไม่ทันจะเดินไปถึงประตู ประตูก็เปิดออก ตรงหน้าผมคือผู้ชายใส่เสื้อกันเปื้อนสีหวาน กับหมวกแก็ปสีเข้มที่ดูยังไงยังไงก็ไม่เขากัน ในมือของเขามีกล่องกระดาษที่เต็มไปด้วยผักผลไม้ถือเข้ามา
“ผมมาส่งผักผลไม้ครับ” ชายส่งผักผลไม้ยิ้มไปพูดไป แต่เป็นยิ้มที่ผมไม่ชอบ มันเป็นยิ้มกรุ่มกริ่ม ผมรู้สึกไม่ดีเลย
“ของใครครับ ใครเป็นคนสั่ง” ผมลองถามออกไป หนึ่งเดือนที่ไปมาที่นี่ผมไม่ได้ไปมาเปล่าๆนะ ผมก็พอรู้อะไรบาง
“โคคุโอะครับ คุณโคคุโอะเป็นคนสั่งครับ” ชายส่งผักผลไม้ตอบ
“ครับ” ผมเดินมานั่งที่โซฟาตัวที่ผมเอาถาดจานวางไว้ เหตุที่ผมต้องระวังตัวก็เพราะ เป็นไปไม่ได้ที่ของทีมาส่งจะเป็นของโคคุ ผักผลไม้ของโคคุมีคนจัดการให้ ผมไม่รู้ว่าเป็นใคร แต่คนที่จัดการให้จะสั่งผักผลไม้เป็นออร์กานิกจากสวนให้โคคุแล้วเขาก็มีเจ้าประจำ ที่สำคัญเวลาสั่งของปกติจะเป็นคุณจิโตะสั่ง ชื่อคนรับจะเป็นชื่อบ้านหลังนี้ ที่สำคัญไม่มีใครพูดเรื่องนี้กับผมไว้ด้วย ต่อให้ยังไงคุณโคคุจะโมโหผม คุณจิโตะก็น่าจะพูดบ้างนี่น่า แปลก..มันต้องมีอะไรแน่ๆ
“แต่ว่าคุณโคคุโอะไม่อยู่ครับ แล้วก็ไม่ได้ให้เงินเอาไว้ด้วยครับ ค่อยมาใหม่วันหลังนะครับ”
“แต่ว่าเขาจ่ายเงินแล้วนะครับ ยังไงผมก็ต้องให้คุณรับไว้”
“งั้นเอาไว้ในห้องครัวครับ” ผมชี้ไปที่ห้องครัว ที่อยู่ติดกันแต่มีประตูกระจกกั้นไว้ ผมได้ยินเสียงประตูกระจกเลือนเปิดและปิดก็ไม่ได้คิดอะไร แต่หลังจากประตูปิดเพียงไม่ถึงเสี้ยววินาที ผมก็รู้สึกได้ถึงเหล็กเย็นๆที่คอ ผมกลืนน้ำลายลงคอจากสถานการณ์ที่ไม่ได้คาดคิด ผมพลาดที่เห็นว่าเข้าห้องครัวไปแล้วไม่น่าจะมีอะไร
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ