ขอทีเถอะคุณรุ่นน้อง ช่วยอย่ามาเปลี่ยนความรู้สึกผมท

10.0

เขียนโดย Miyamura

วันที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561 เวลา 11.18 น.

  3 ตอน
  2 วิจารณ์
  4,896 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561 18.32 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

1) บทนํา

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
     เมื่อหลาย100ปีก่อนถึงยุคปัจจุบัน ในคราวที่ประวัติศาสตร์ของโลกได้เปลี่ยนแปลง อีกครั้งหนึ่งยามวิกฤตของโลกได้เข้ามาเยือนมันคืออุกบาตลูกโตโดยมีเส้นผ่านศูนย์กลางหลาย100เมตรกว่าหลายลูกได้พุ่งเข้าชนโลกอย่างรุนแรงราวกับถึงวันสิ้นโลก
     ในยามที่มนุษย์โลกสูญสิ้นเผ่าพันธุ์ทุกสิ่งทุกอย่างเหลือเพียงแค่ซากปรักหักพัง หรือบางพื้นที่แทบไม่เหลือร่องรอยประวัติศาสตร์อะไรไว้อีกเลย จนกาลเวลานับพันปีเผ่าพันธุ์ที่มีโคดแนมว่าHumanได้ถือกำเนิดขึ้นมาอีกครั้งจากช่วงเวลาเป็นพันๆปี
     เมื่อถึงคราวมนุษย์ชาติที่สูญเผ่าพันธุ์ไปแล้วครั้งหนึ่ง กาลเวลานับหลายพันปีตั้งแต่ช่วงนั้นเป็นต้นมาทุกอย่างบนโลกได้ปรับสภาพผืนดิน สภาพผืนน้ำ หรือแม้แต่ชั้นบรรยากาศของโลกเองก็ได้กลับมาตามเดิมราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาอย่างไรอย่างนั้น เริ่มต้นด้วยมนุษย์ยุคหิน ยุคโลหะ และในยุคปัจจุบันซึ่งสังคมต่างๆได้กำเนิดพัฒนาการเหล่านี้อย่างรวดเร็ว เพียงแค่ไม่กี่ปีต่อมาก็กลับเข้าสู่สภาวะสังคมปกติ
     แต่ทว่ามนุษย์ทุกคนในยุคนี้ล้วนใช้วัฒนธรรมรวมถึงภาษาเดียวกันทั่วทั้งโลกนั่นก็คือวัฒนธรรมและภาษาจากญี่ปุ่น ไม่มีแม้แต่การเปลี่ยนภาษาหรือแม้แต่การต่อต้าน สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่มีมาแต่กำเนิด แต่หารู้ไม่ว่าสิ่งที่เรียกว่าความเป็นญี่ปุ่นนั้นได้ก้าวกระโดดไปยังทั่วโลกได้อย่างไร
     ในเวลาต่อมา ค.ศ.3149 ที่ประเทศไทย
     ติ้งต่อง ติ้งต่อง— เสียงออดดังยาวขึ้นมาเป็นสองจังหวะเป็นสัญลักษณ์แสดงให้เห็นว่าได้เวลาเลิกเรียนแล้ว และวันนี้คือวันศุกร์ที่23ของเดือนกุมภาพันธ์
     นักเรียนพากันต่างเดินออกจากประตูโรงเรียนเพื่อกลับบ้านโดยมีทางเข้าและทางออกโดยรวมแล้วสี่ทางคือด้านหน้า และด้านหลังของโรงเรียน ประตูทางเข้า-ออกหน้าโรงเรียนเต็มไปด้วยกลีบดอกของซากุระที่ร่วงหล่น มันคือทัศนียภาพอันสวยงามในแง่มุมของงานศิลปะ แต่ในทางกลับกันมันเหมือนกับขยะกองเล็กๆก้อนหนึ่งเช่นเศษกระดาษเมื่อโดนลมพัดไปก็ปลิวไปเสียแล้ว ทั้งหน้าหรือหลังก็ล้วนมีดอกซากุระปลูกติดประจำทางเดินยาวขนาบข้างทั้งสอง จนโรงเรียนแห่งนี้นั้นมีชื่ออีกอย่างว่าโรงเรียนซากุระ
     นอกจากบรรยากาศให้ความรู้สึกเย็นสบายแล้วยังมีความรู้สึกต่างๆนานามากมายนับประการของคนหลายคนภายในโรงเรียนนี้ด้วยเช่นกัน ทั้งสถานที่ ทั้งนักเรียน หรือแม้แต่ต้นดอกซากุระ โดยโลกนี้นั้นได้เปลี่ยนไปจากอดีตโดยมีสัญญาลักษณ์ของซากุระเป็นตัวบ่งบอกถึงความสันติ ความสงบสุข และความก้าวหน้า
     ประวัติศาสตร์แห่งใหม่ได้จารึกทับรอยประวัติศาสตร์เก่าซึ่งมีน้อยคนนักที่รู้เกี่ยวกับเรื่องเมื่อหลายพันปีก่อนที่จะมาถึงยุคปัจจุบัน
     แต่ถึงอย่างนั้นทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกก็ยังคงเชื่อว่าการเรียนการสอนเป็นสิ่งสำคัญ สำหรับการสอบก็ถือว่าเป็นอนาคตของประชาชนในหลายแง่มุม ไม่เว้นแม้แต่การสอบกลางภาค และการสอบปลายภาคของปีการศึกษา3148นี้
     เมื่อนักเรียนแต่ละคนสอบเสร็จสิ่งที่ได้ยินประการแรกเลยคือคุยเรื่องเกี่ยวกับข้อสอบในหลายๆวิชาของการสอบวันนี้ และมีการกลัดกลุ้มใจเล็กน้อยสำหรับผลและเกรดที่จะแสดงออกมาภายในเดือนต่อไป ถึงอย่างนั้นก็เป็นเพียงแค่ความรู้สึกชั่วขณะของมนุษย์ในขณะที่ทำอะไรเสร็จสิ้นจะพากันสนทนาในเรื่องเดียวกันตลอดทาง แต่สักพักหนึ่งก็เริ่มเบื่อเปลี่ยนสีหน้าและเปลี่ยนเรื่องคุยโดยทันที
     โดยถึงผมก็เช่นกัน ในตอนนี้ก็รู้สึกเหมือนเบื่อๆอย่างไม่ทราบสาเหตุขึ้นมา
     ระหว่างการเดินกลับบ้านทางเดินหน้าประตู ผมกับเพื่อนกลุ่มหนึ่งได้ทำการสนทนากันในเรื่อง สถานที่ที่จะไปเมื่อสอบเสร็จว่าจะไปสวนซากุระ หรือจะไปห้างสรรพสินค้าอย่างเซนทรัลแลนด์ และข้อสรุปซึ่งได้ออกมาจากการปรึกษากันเป็นเวลากว่า10นาทีพบว่าสถานที่ที่พวกเราจะไปคือสวนซากุระ ซึ่งหากเมื่อเทียบจากหลักกิโลจาโรงเรียนถึงที่นั่นแล้วก็พบว่าเดินเพียงแค่15นาทีก็คงถึงที่หมายเป็นอันเสร็จ
     แต่ทว่ากลับมีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้นมาในขณะที่กำลังเดินออกหน้าประตูโรงเรียน
     เธออยู่ตรงนั้น ผู้หญิงผมบ็อบสีดำ ส่วนสูงราว159เซนติเมตรใส่เสื้อกันหนาวสีแดงนั่งอยู่ม้านั่งตัวหนึ่งกับเพื่อนของเธอใส่เสื้อกันหนาวสีแดงเช่นกัน
     ในรอบปีของการศึกษานี้ซึ่งเป็นช่วงชั้นมัธยมต้นปี3ที่พวกเราต้องอำลา และจากลากัน มันเหมือนกับเป็นวันสุดท้ายจริงๆราวกับวันสิ้นโลกอย่างไรอย่างนั้น ความรู้สึกที่ผันแปรไปจากเดิม มันกำลังเปลี่ยนเหมือนกับการเปลี่ยนอนุภาคจากของแข็งเป็นของเหลว
     ผมยืนหยุดอยู่กับที่สักพักหนึ่งล้วงกระเปิดแฟ้มงานและเอาภาพที่ผมวาดอย่างสุดความสามารถขึ้นมา แล้วเดินต่ออีกหลายก้าวจนถึงที่ที่เธอนั่งอยู่
     “อากิ เอ่อ— คือว่าช่วยรับภาพของผมซึ่งเป็นภาพต่างหน้าที่ผมวาดขึ้นมาด้วยเถอะนะ”
ใช้นิ้วชี้เกาแก้มเล็กน้อยเพื่อแก้เขิน และพูดขึ้นต่อ
     “ขอบคุณสำหรับทุกอย่างที่ผ่านมา ลาก่อนนะอากิ”
     นั่นคือคำพูดสุดท้ายของผมที่พูดให้เธอมันคือการจากลาที่ไม่มีบทใดๆหรือฉากใดๆอยู่ภายในหัวเลย หัวมันรู้สึกโล่งและขาวโพลนไปชั่วครู่
     2ชั่วโมง 30นาทีต่อมา เมื่อเวลา 17นาฬิกาผมต้องเดินกลับมาที่โรงเรียนซากุระอีกครั้ง
     เดินผ่านเข้าทางหน้าประตูโรงเรียนในยามบ่ายแทบไม่มีคนเหลือเลย สภาพท้องฟ้าเปลี่ยนสีจากก่อนหน้าเป็นสีส้มซึ่งบอกระดับความสว่างของดวงอาทิตย์ที่สดใสน้อยลง ผมเดินเข้าไปหาม้านั่งตัวที่อากิเคยนั่งมาเมื่อ2ชั่วโมงก่อน เพราะความแอบชอบ เพราะความหลงใหลจึงจำเป็นต้องทำอย่างนั้น
     แต่ทว่า— ใช่ มันต่างกับที่เราคิดไว้อย่างสิ้นเชิง สภาพของรูปภาพของผมโดนทิ้งไว้เหมือนกับไม่มีค่าอะไรสำหรับเธอเลย แกร๊ก! เสียงฟันกามกระทบกัน กำหมัดแน่นด้วยความโกรธ ไม่สิ มันคือความรู้สึกเจ็บที่น่าอกอย่างบอกไม่ถูก มันคือความรู้สึกที่ไม่เข้าใจ มันเจ็บปวด ได้เพียงแค่ยืนอยู่ที่เดิมชั่วขณะหนึ่ง และได้กล่าวถ้อยคำออกมาอย่างปวดร้าว
     “ถ้าไม่มีความรู้สึก มันก็คงดี”
     สภาพอันน่าสมเพชเหมือนโดนหักอก และสภาพของภาพวาดที่รู้สึกเจ็บปวดในทรวงอก ภาพวาด… ภาพวาดมันไม่ใช่ของเล่นนะ! ผมอยากตะโกนออกไปเสียจริง มันคือความรู้สึกต่างๆนานาที่ทำให้ชีวิตประจำวันของผมต้องเปลี่ยนไป

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา