หอมดิน กลิ่นดาว

9.5

วันที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561 เวลา 17.51 น.

  15 ตอน
  0 วิจารณ์
  22.76K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561 17.58 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

4) รอยร้าว

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

      หลังจากทานอาหารเย็นแล้วดาวฤกษ์  ก็ขอตัวแม่ขึ้นมาสะสางงานข้างบนห้องนอนทันที  เขาต้องตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายประจำสัปดาห์  แถมวันนี้ยังต้องเช็คยอดยาที่จะสั่งเข้ามาในร้ายอีก  ชายหนุ่มใช้เวลาในการเคลียร์งานเกือบๆห้าทุ่ม  ถึงได้แล้วเสร็จ ตอนนี้รู้สึกว่าร่างกายจะล้าเกินไปเสียแล้ว  เขาเดินไปหยิบน้ำขึ้นมาดื่มพร้อมกับนั่งลงเตียงนอนอย่างช้าๆแต่แล้วจู่ๆความคิดของเขาก็นึกไปถึงเรื่องราวเมื่อตอนกลางวันที่มารดาของภูดิน  มาขอร้องให้ช่วยกันภูดินออกจากแฟนสาว  ทำให้เขาต้องคิดหนักมาก  เพราะการทำแบบนั้นไม่เป็นสิ่งที่ไม่ควรเลยจริงๆที่จะไปแยกคู่รักให้ออกจากกัน  ยิ่งเมื่อตอนเช้าเขาได้เห็นแล้วว่าภูดินนั้นรักหญิงสาวชาวกรุงมากมายแค่ไหน  ภาพที่ภูดินเดินประครองสาวคนรักออกไปจากบ้านช่างเป็นภาพที่เสียดแทงหัวใจของดาวฤกษ์จริงๆ

**มอง เห็นเธอควงเขาอยู่  รับรู้ก้อนความกดดันในอก  ทั้งรู้ว่าเธอมีเขา  แต่ใจเรายังปลงไม่ตก

คอยตั้งคำโกหก  กลบเกลื่อนความเหงา  อยากเป็นคนเดียวคนนั้น  ที่ไม่มีวันได้เป็น

มองไปก็ได้แต่เห็น  รักที่ไม่ใช่ของเรา  อยากเป็นคนเดียวคนนั้น  อยากเป็นแฟนเธอแทนเขา

ฟ้าดินได้ยินหรือเปล่า  เสียงใจเหงาๆ พร่ำวอน  ยาม ที่เราได้ชิดใกล้

บอกใจใกล้ไปต้องรีบถอยก่อน  พรมแดนศีลธรรมกั้นไว้  ห้ามใจไม่ให้สั่นคลอน

แม้รักที่มาแทรกซ้อน  เทียวพูดรบเร้า  อยากเป็นคนเดียวคนนั้น  ที่ไม่มีวันได้เป็น

มองไปก็ได้แต่เห็น  รักที่ไม่ใช่ของเรา  อยากเป็นคนเดียวคนนั้นอยากเป็นแฟนเธอแทนเขา

ฟ้าดินได้ยินหรือเปล่า  เสียงใจเหงาๆ พร่ำวอน  คนดีๆ ทำไมต้องมีคู่ก่อน  คำถามที่ย้อนมาย้ำ

เมื่อเจอเธอกับเขา  อยากเป็นคนเดียวคนนั้น  ที่ไม่มีวันได้เป็น  มองไปก็ได้แต่เห็น

รักที่ไม่ใช่ของเรา  อยากเป็นคนเดียวคนนั้น  อยากเป็นแฟนเธอแทนเขา

ฟ้าดินได้ยินหรือเปล่า  เสียงใจเหงาๆ พร่ำวอน  อยากเป็นคนเดียวคนนั้น

อยากเป็นแฟนเธอแทนเขา  ฟ้าดินได้ยินหรือเปล่า  เสียงใจเหงาๆ พร่ำวอน**

**เพลงอยากเป็นแฟนเธอแทนเขา  ตั๊กแตน**

ยิ่งคิดยิ่งกลุ้มใจ  ดาวฤกษ์ตัดสินใจโน้มตัวลงนอนกับเตียงนุ่มๆพร้อมกับหลับไปด้วยความเหนื่อยล้า  คงปล่อยไว้เพียงเครื่องทำความเย็นได้ทำงานตามปกติ  แต่แล้วประตูห้องของดาวฤกษ์ก็ถูกเปิดออกอย่างช้าๆพร้อมกับเงาดำๆของร่างสูงใหญ่ได้ก้าวล้ำเข้ามายังเตียงนอนของดาวฤกษ์  ร่างสูงใหญ่นั้นค่อยๆนอนลงข้างๆแล้วตะแคงตัวไปจ้องมองใบหน้าขาวนวล รูปหน้าเรียว รับกับริมฝีปากได้อย่างงดงามภายใต้แสงจันทร์ จากนั้นเงาใหญ่ก็ค่อยๆโน้มใบหน้าเข้าไปใกล้กับแก้มนวลของอีกฝ่ายแตะริมฝีปากลงไปเบาๆดาวฤกษ์ยังคงไม่รู้สึกตัว  ร่างสูงใหญ่ได้ใจตัดสินใจใช้มือสอดเข้าไปใต้ผ้าห่มผืนบาง มือนั้นค่อยๆรุกคืบเข้าไปกอดรัดเอวบางมาไว้ในอ้อมกอดของตัวเอง  เขาทำอย่างแผ่วเบาแต่ก็ไม่เป็นผล  เพราะตอนนี้ดาวฤกษ์รู้สึกตัวเสียแล้ว  เขารีบลืมตาขึ้นมาภายใต้ความมืดของห้องที่มีเพียงแสงจันทร์เท่านั้นให้ความสว่างผ่านทางหน้าต่างมา

“ใครอะ!  ช่วยด้วย......”

ดาวฤกษ์ร้องตะโกนออกมาได้เพียงแค่นั้น  เพราะถูกฝ่ามือของอีกฝ่ายมาปิดปากไว้ไม่ให้ส่งเสียงร้องออกมา  พร้อมกับเจ้าตัวก็ซุกใบหน้าเข้ามาใกล้กับใบหูของดาวฤกษ์โดยทันที

“ชู่ว์...เงียบๆสิ  เดี๋ยวน้ามลก็ตื่นกันพอดี”

น้ำเสียงที่บอกให้ดาวฤกษ์เงียบนั้น  ช่างเป็นเสียงที่เขาไม่เคยลืม  กลิ่นกายของอีกฝ่ายก็เช่นกันทำให้ดาวฤกษ์มั่นใจว่า  คนที่เข้ามานอนกอดตัวเองอยู่นั้นคงเป็นใครอื่นไม่ได้นอกจาก ภูดิน

“พี่ดิน   ! ?   ทำบ้าไรเนี้ย”

ดาวฤกษ์รีบแกะมือของภูดินออกจากการปิดปากตัวเองทันที  พร้อมกับถามออกไปด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจเป็นอย่างมาก

“โทษทีนะ ที่พี่ทำให้ตื่น   คืนนี้พี่ขอนอนด้วยนะ”

ภูดินยังคงรุกต่อไม่ยอมปล่อยมือออกจากการกอดเอวบางๆของอีกฝ่าย  เขายังคงเกาะแน่นเหมือนตุ๊กแก

“บ้านพี่ไม่มีหรือไง?”

“มี....แต่พี่ไม่อยากกลับบ้าน   ไม่อยากฟังแม่บ่น”

“พี่ดินไปทำอะไรมาล่ะ  ถึงกลัวคุณป้าบ่นขนาดนั้น”

“เปล่า  ไม่ได้ทำอะไร  แค่ไม่อยากฟังเฉยๆ  อีกอย่างก็อยากมานอนกับฤกษ์ด้วย”

“เห้ย  ไปม้อไกลๆเลยนะพี่ดิน  ฤกษ์ไม่ชอบ”

“จริงอะ  เห็นแต่ก่อน  เราชอบให้พี่นอนกอดตลอด”

“ไอ้พี่ดิน  ขืนพูดอีกโดนต่อยปากแน่ๆ”

ดาวฤกษ์พูดพร้อมกับกำหมัดอย่างแน่นขึ้นมาเตรียมชกอีกฝ่ายทันที

“กลัวแล้ว   ไม่ล้อก็ได้   แต่คืนนี้ขอนอนด้วยคนนะ   พี่..คิดถึง”

ภูดินส่งน้ำเสียงออดอ้อนมาให้อีกฝ่ายทันที  เป็นเหตุให้ดาวฤกษ์ได้ฟังแล้วถึงกับใจเต้นไม่เป็นจังหวะเอาเสียเลย

“ละ.. แล้วพี่ดิน  ขะเข้าห้องนอนฤกษ์มาได้ไง   ?   ฤกษ์ล๊อคประตูแล้วน่ะ”

“นี้ไง”

ภูดินหยิบกุญแจห้องของดาวฤกษ์ขึ้นมาให้อีกฝ่ายดู  ภายใต้แสงจันทร์ที่ส่องลอดผ่านหน้าตามาเพียงน้อยนิด

“กุญแจ   ....พี่ดินเอามาจากไหน?”

“อ้าว   ฤกษ์ให้พี่ไว้เองกับมือ   แค่นี้ก็จำไม่ได้   ฤกษ์จำไม่ได้จริงๆเหรอ    ตอนนั้นที่ฤกษ์ลืมเอาการบ้านไปส่งอาจารย์เลยวานให้พี่ขี่มอไซค์มาเอาไปให้ไง  พี่เลยถือวิสาสะไม่คืนเลย”

“คนขี้โกง  เอาคืนมา”

“โกงตรงไหน  ฤกษ์ยังมีกุญแจห้องพี่เหมือนกัน”

“นั้นฤกษ์โดนบังคับน่ะ”

“บังคับอะไรพี่แค่ขอให้ช่วยทำความสะอาดห้องนอนให้เฉยๆ แบบนี้เขาไม่เรียกว่าบังคับหรอก”

“เอ่อๆ รู้แล้ว   ตัวเหม็นขนาดนี้  พี่ดินอาบน้ำหรือยัง?”

“ไม่อาบได้ไหม?  ขี่เกียจอาบ  อีกอย่างนี้มันดึกมากแล้ว  ขอนอนเลยนะ”

“ไม่ได้  พี่ดินต้องไปอาบน้ำก่อน  ไม่งั้นไปนอนพื้น”

“อะไรกัน   ก็พี่เหนื่อย  นอนเลยแล้วกัน”

“เหม็น  ไปไกลๆเลย”

“เหม็นตรงไหน   ไม่เชื่อฤกษ์ก็ดมดูสิ”

ภูดินพูดเสร็จก็ดึงเสื้อของเขายื่นไปใกล้กับจมูกของดาวฤกษ์ทันที  เป็นเหตุให้ดาวฤกษ์ต้องรีบเอียงหน้าหนีทันที

“โอ้ยย  พี่ดิน  เล่นบ้าไรเนี้ย  คนบอกว่าเหม็นก็เหม็นสิ  ไม่ต้องทำขนาดนี้ก็ได้ กลิ่นแรงมาก”

“เหม็นตรงไหนหอมจะตาย”

พูดเสร็จชายหนุ่มก็หลับลงไปพร้อมกับใช้แขนยาวๆของตัวเองกอดรัดร่างของดาวฤกษ์มากอดทันที

“เอ้ย  ไม่ได้นะเว้ยไอ้พี่ดิน   มึงต้องไปอาบน้ำก่อน  ฤกษ์เหม็น”

ดาวฤกษ์  พยายามแกะมือใหญ่นั้นออกจากตัวของเขา  แต่ก็ไม่เป็นผลสำเร็จเพราะสู้แรงของอีกฝ่ายไม่ไหว แต่แล้วจู่ๆชายหนุ่มก็พลิกตัวอย่างเร็วแล้วใช้เท้าถีบร่างของภูดินตกเตียงไปทันที

ตุบ!  เสียงร่างของภูดินที่ตกจากเตียงนอนของดาวฤกษ์อย่างไม่ทันได้ตั้งตัวส่งผลให้เจ้าตัวร้องออกมาอย่างเจ็บปวด

“โอ้ย  เล่นบ้าอะไรเนี้ยฤกษ์  พี่เจ็บนะรู้มั้ย?”

“ดี   สมน้ำหน้า   ก็เล่นไม่อาบน้ำเอง   สมควรที่จะนอนตรงพื้นนั้นแหละ”

“โอ้ย  เจ็บหลังไปหมดแล้ว  ฤกษ์มาช่วยพยุงพี่ลุกหน่อยได้ไหม? พี่ลุกไม่ไหว”

“มุขปัญญาอ่อน  ไปเล่นไกลๆเลยนะพี่ดิน  มุขนี้ไม่ได้กินฤกษ์หรอก”

“ไม่ช่วยจริงเหรอ?”

ภูดินส่งเสียงอ้อนมายังอีกฝั่งทันที  เพื่อหวังว่าจะได้รับความเห็นใจจากเจ้าของห้อง

“ใช่”

“เอ่อ  ไปอาบก็ได้  ไหนละผ้าเช็ดตัว”

“โน้น  อยู่ในตู้”

ดาวฤกษ์ชี้ไปที่ตู้เสื้อผ้าที่ตั้งอยู่มุมห้องอีกด้านของห้องนอนนั้นเอง

“ฤกษ์  ช่วยไปหยิบให้พี่หน่อยสิ  พี่หาไม่เจอหรอก”

ภูดินยังไม่ล้มเลิกความตั้งใจที่จะอ้อนดาวฤกษ์  แต่ยิ่งอ้อนเท่าไรก็ไม่เป็นผลเอาเสียเลย

“จะนอนที่พื้นก็ตามใจน่ะ  ไม่ว่า”

“ใจร้าย”

ภูดินลุกขึ้นยืนด้วยความเจ็บใจที่ไม่สามารถหลอกล้ออีกฝ่ายได้ดั่งใจ  เขาตัดสินใจคว้าผ้าเช็ดตัวที่อยู่ในตู้เสื้อผ้าภายในห้องของดาวฤกษ์แล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำทันที  ปล่อยให้อีกฝ่ายมองตามหลังอย่างผู้มีชัย   ภูดินใช้เวลาในการอาบน้ำไม่ถึงสิบนาทีเขาเดินตรงมายังเตียงนอนซึ่งตอนนี้เจ้าของห้องได้หลับสนิทไปแล้วชายหนุ่มได้แต่มองยิ้มๆในความไร้เดียงสาจะผ่านมากี่ปี  ดาวฤกษ์ของเขาก็ไม่เคยเปลี่ยนยังคงเป็นเด็กชอบนอนไม่เคยเปลี่ยนแปลง

ดาวฤกษ์  ตื่นมาก็พบว่าเตียงนั้นว่างเปล่าเสียแล้ว  สงสัยภูดินคงจะตื่นเช้ากว่าตนเหมือนเช่นสมัยตอนเป็นเด็กเพราะเขาเป็นคนนอนขี้เซาชอบนอนตื่นสายต้องให้อีกฝ่ายปลุกประจำ แต่ตอนนี้เขาโตเป็นผู้ใหญ่แล้วต้องรีบตื่นจะมัวมาโอ้เอ้เหมือนเดิมไม่ได้  มีความรับผิดชอบมากมายรออยู่ เขาใช้เวลาในการอาบน้ำแต่งตัวไม่นานก็เสร็จพร้อมที่จะเดินทางไปยังร้านขายยาของตัวเองที่ตั้งอยู่ในตัวอำเภออยู่ใกล้กับที่ว่าการอำเภอที่ทำงานของภูดินนั้นเอง

“แม่ครับ    แม่    ...  ฤกษ์ไปก่อนนะ เดี๋ยวเปิดร้านสาย”

ชายหนุ่มร้องตะโกนบอกมารดาขณะกำลังจะเดินออกไปจากตัวบ้านแต่ปรากฏว่าต้องหยุดชะงัดทันทีเพราะตอนนี้มารดาของเขากำลังนั่งทานข้าวเช้าอยู่กับคนที่เขานอนกอดมาทั้งคืนนั้นเอง

“อ้าวตื่นแล้วเหรอลูก  มาๆ วันนี้มาทานข้าวกับพี่ดินก่อนเถอะ  แม่ขี้เกียจเอาไปส่งให้ที่ร้าน”

มารดาของดาวฤกษ์เรียกลูกชายคนเดียวให้มาทานข้าวเช้าพร้อมตนและภูดิน

“แต่มันสายแล้วนะแม่  เดี๋ยวเปิดร้านไม่ทัน สงสารลูกค้าที่มารอซื้อยา”

ชายหนุ่มก้มมองดูนาฬิกาบนข้อมือพร้อมกับกำลังจะเดินไปหยิบเอารองเท้ามาใส่

“ไม่เป็นไรหรอก  เดี๋ยวพี่ไปส่งเอง  มาทานข้าวเช้าด้วยกันก่อนเถอะฤกษ์  จะได้ออกไปพร้อมกันทีเดียวเลย”

ภูดินร้องทักอีกแรง  จึงทำให้ดาวฤกษ์ต้องเดินมายังโต๊ะอาหารภายในบ้านแทนการที่ต้องสวมรองเท้า

“แล้วนี้พี่ดิน  ทำไมมาทานข้าวที่บ้านฤกษ์ได้ละ?”

ดาวฤกษ์ถามภูดินออกไปพร้อมกับนั่งลงฝั่งตรงข้ามกับชายหนุ่ม

“พอดีพี่ตื่นมาเจอน้ามลกำลังทำกับข้าวใส่บาตร  พี่เลยขันอาสาช่วย”

“จะกินได้มั้ย?”

ดาวฤกษ์มองดูกับข้าวที่ตั้งอยู่บนโต๊ะอาหารพร้อมกับมองหน้าชายหนุ่มสลับกันไปมา

“กินได้สิ  พี่แค่เป็นลูกมือน้ามลเอง  ดูสิหน้าตาหน้าทานจะตาย”

ภูดินเชิญชวนให้อีกฝ่ายลองชิมอาหารเช้าฝีมือของตัวเองทันที

“ไหนบอกว่ารีบ  ก็รีบๆกินเถอะ เดี๋ยวพี่ดินเขาจะไปทำงานสาย”

มารดาของดาวฤกษ์ดุลูกชายตัวเองทันที  ที่เห็นว่าดาวฤกษ์ยังไม่ยอมลงมือทานอาหารเสียที

“อ้าวแม่  นึกว่าเป็นห่วงฤกษ์เสียอีก”

“จะเป็นห่วงเราได้ไง  ก็พี่ดินเขายังไม่ทันได้อาบน้ำแต่งตัวเลย  เห็นบอกว่าเสื้อผ้าของใช้อยู่ที่บ้านพักหมดเลย  อ้าวฤกษ์จะมั่วมองหน้าพี่เขาทำไม  รีบกินข้าวสิ”

มารดาของดาวฤกษ์ต้องดุลูกชายอีกครั้งเพื่อเร่งให้อีกฝ่ายรีบทานอาหารเช้าจะได้ไม่ไปทำงานสาย

“พอดีพักที่บ้านพักของทางอำเภอมันสะดวกกว่าต้องเดินทางกลับมาพักที่บ้านนะครับน้ามล”

ภูดินหันไปตอบมารดาของดาวฤกษ์ทันที  ที่เห็นว่าดาวฤกษ์กำลังโดนแม่ดุให้รับทานข้าวเช้า

“จ๊ะ  แล้วนี้พ่อกับแม่ดินเขายอมเหรอ?  น้าเห็นบ่นๆอยากให้ดินกลับมาอยู่ที่บ้าน”

“ก็ไม่ยอมครับ  แต่ดินเอาสะดวกในการทำงานเลยขอพักที่นั้นก่อน  คุณพ่อเลยให้ไปๆมาสลับกันระหว่างบ้านพักกับที่บ้านครับ”

“ดีแล้วจ๊ะป้าเกษจะได้ไม่เหงา   แล้วเป็นไงมาไงละถึงได้มาค้างกับฤกษ์ได้”

“พอดีแม่โทรให้มาค้างที่บ้าน  แต่เมื่อคืนนี้ดินกลับดึก  ไม่อยากหูชา  เลยมาขอนอนกับฤกษ์ เลยไม่ได้ขออนุญาตน้ามลก่อน  น้ามลคงไม่ว่าอะไรดินนะครับ”

ชายหนุ่มตอบกลับมารดาของดาวฤกษ์ไป  แต่สายตากับจับจ้องแต่ดาวฤกษ์ที่ตั้งหน้าตั้งตาทานข้าวโดยไม่สนใจมองเขาเลยสักนิด

“จ๊ะ  ไม่เป็นไรหรอก  แต่ก็อย่าทำให้แม่เราโกรธบ่อยนะตาดิน  น้าไม่อยากฟังป้าเกษบ่นให้ฟัง”

มารดาดาวฤกษ์หันมาตอบกับภูดินด้วยรอยยิ้มของผู้ใหญ่ที่ให้ความเอ็ดดูต่อเด็ก

“ครับ”

ภูดินตอบได้เพียงคำว่าครับ  แต่เขาก็ยิ้มที่มุมปากแทบจะไม่หุบเลยทีเดียว  ซึ่งต่างจากอีกฝ่ายที่นั่งฟังอยู่อย่างเงียบๆด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยพอใจที่มารดาของตนไม่ว่าอะไรอีกฝ่ายเลย

“แม่ ฤกษ์อิ่มแล้ว  งั้นฤกษ์กับพี่ดินขอตัวไปทำงานเลยนะแม่  จะได้ไม่สายพี่ดินอีกด้วย”

ชายหนุ่มบอกมารดาหลังจากที่ทานอาหารเช้าด้วยกันจนอิ่มแล้ว  เขาและภูดินเดินออกจากบ้านข้ามรั้วมายังฝั่งของบ้านภูดินทันทีเพราะภูดินจอดรถไว้ในบ้านมารดาตัวเอง  แต่ขณะที่ภูดินและดาวฤกษ์กำลังจะก้าวขึ้นรถยนต์คันหรูนั้น  อยู่ๆเสียงมารดาของภูดินก็ดังขึ้นมาจากด้านหลังทันที

“พ่อดิน  ทุกวันนี้ชักจะเอาใหญ่แล้วนะ  แม่บอกอะไรไม่เคยฟังกันเลยใช่ไหม?”

มารดาของภูดินรีบเดินจ้ำมายังพวกเขาทันทีพร้อมกับตั้งท่าจะฉะลูกชายตัวเองด้วยความไม่พอใจเป็นอย่างมาก

“โธ่..แม่  ดินขอโทษ  เมื่อคืนดินกลับดึกไปหน่อยเลยไม่อยากจะปลุกแม่”

“แก  ไม่อยากปลุกฉัน  หรือว่าแกไม่อยากถูกฉันบ่นกันแน่เหอะตาดิน”

“เปล่านะแม่  ดินไม่อยากปลุกแม่จริงๆ”

“แล้วทำไมแกถึงกลับดึก  ฉันโทรตามแกตั้งแต่ยังไม่ค่ำ  แกมัวไปทำอะไรอยู่....หรือว่าแกขลุกอยู่แต่กับแม่แฟนสาวชาวกรุงนั้น”

นางเกษแก้วพูดออกมาด้วยความไม่พอใจ  ที่ลูกชายตัวดีของนางไม่ทำตามใจตัวเอง

“แม่เรื่องนั้นเอาไว้คุยกันวันหลัวนะ   ตอนนี้ดินรีบไปส่งฤกษ์  เดี๋ยวฤกษ์เขาไปเปิดร้านสายนะแม่น่ะ  เอาไว้เราค่อยคุยกันวันหลัวแล้วกันครับ”

ภูดินพูดเสร็จก็รีบก้าวเท้าเข้าไปนั่งประจำที่คนขับทันที  พร้อมกับส่งซิกให้ดาวฤกษ์รีบขึ้นรถตามมา  แล้วเขาก็ขับรถออกจากบ้านหลังใหญ่ทันทีปล่อยให้มาราดาของตัวเองนั้นโกรธอยู่เพียงลำพัง

“พี่ดินนี้ก็นิสัยไม่เปลี่ยนเลยนะ  ชอบทำให้คุณป้าโกรธตลอดเลย”

ดาวฤกษ์พูดกับชายหนุ่มหลังจากที่พวกเขาทั้งสองขับรถออกมาจากตัวบ้านได้สักพักตอนนี้กำลังมุ่งหน้าสู่ตัวอำเภอ  ซึ่งหมู่บ้านที่พวกเขาอาศัยอยู่นั้นเป็นหมู่บ้านจัดสรรเพียงแห่งเดียวในอำเภอเล็กๆ  หมู่บ้านตั้งห่างจากตัวอำเภอประมาณห้ากิโลเมตรได้

“โอ้ย  นี้ฤกษ์ยังไม่ชินอีกเหรอ  แม่พี่ก็เป็นงี้แหละ”

“พี่ดินโตแล้วนะ   ทำไมยังทำตัวเหมือนตอนเป็นเด็กอยู่อีก”

ดาวฤกษ์ตำหนิภูดินด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยเห็นด้วยกับการกระทำของอีกฝ่ายที่ทำให้มารดาตัวเองโกรธจัดได้ขนาดนั้น 

“จริงเหรอ?”

“อืม  ดูท่าทางวันนี้คุณป้าจะโกรธพี่ดินจริงๆน่ะ”

“เอาน่า   พี่จะพยายามปรับตัวแล้วกันนะ  แต่ฤกษ์ต้องช่วยพี่อีกแรง”

ภูดินหันมาพูดกับอีกฝ่ายพร้อมกับจ้องมองด้วยสายตาที่ดาวฤกษ์ก็ไม่สามารถจะอ่านออกได้

“!   ช่วยอีกแรง  หมายความว่าไง?”

“ก็....คือว่า   ฤกษ์ไม่อยากเห็นพี่ทำให้แม่โกรธใช่ป่ะ?”

“อืม”

“งั้นฤกษ์  ต้องค่อยสนับสนุนพี่”

“สนับสนุนยังไง?”

“ก็พูดให้พ่อกับแม่พี่  เข้าใจในตัวพี่มากขึ้น   ยอมรับการตัดสินใจของพี่”

“ยังไง?  ฤกษ์ไม่เข้า”

“คือ...  ฤกษ์ก็รู้ใช่มั้ย   ว่าแม่พี่   ไม่ชอบพี่จีน่า  อย่างเมื่อวานหรือจะเป็นเมื่อกี้ฤกษ์ก็เห็นแล้วน่ะ”

“อืม  ก็พอจะดูออกอยู่บ้าง”

“นั้นแหละ  พี่อยากขอให้ฤกษ์ช่วยพูดกับแม่   ให้แม่พี่ ท่านได้ปรับเปลี่ยนความคิดในการมองจีน่าไปในทางที่ดีขึ้น  เพราะพี่รู้ว่าพ่อกับแม่พี่  ท่านทั้งสองไม่ฟังใคร  นอกจากฤกษ์คนเดียว”

ภูดิน พูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่จริงจังและดูหนักแน่นเอามากๆ

“ทำไม?   พี่ดินมั่นใจแบบนั้น  ว่าคุณลุงคุณป้าจะฟังฤกษ์  ฤกษ์ก็แค่เด็กเมื่อวานซืน”

“ก็...  ตอนที่พี่ไม่อยู่บ้าน   มีแต่ฤกษ์ที่มาดูแลท่านทั้งสอง  จนท่านยื่นคำขาดให้พี่กลับบ้าน  พี่ถึงยอมกลับ  แต่พี่ก็ขอพ่อกับแม่แล้วว่าจะพาจีน่ามาเที่ยวด้วย”

“แล้วคุณลุงคุณป้า  ท่านว่าไงครับ”

“พ่อกับแม่พี่ก็ไม่ว่าอะไรนะ  เพียงแต่ให้พี่ลาออกจากงานแล้วให้มาสอบเป็นปลัดอำเภอ  พี่ก็ทำตามสัญญา  แต่พอเอาเข้าจริง  แม่กับไม่ยอมรับจีน่า  ซึ่งเรื่องนี้แหละทำให้พี่ไม่สบายใจ”

“มันต้องมีสาเหตุสิพี่ดิน  จะเป็นไปได้ไงที่อยู่ๆคุณป้าจะไม่ชอบแฟนพี่ดิน”

“พี่ก็ไม่รู้  แต่เท่าที่รู้พ่อกับแม่ไม่อยากให้พี่มีแฟน  อยากให้พี่ตั้งใจทำงานก่อน  แต่พี่ก็คบกับจีน่าตั้งแต่เรียนจบแล้ว  พี่อยากให้ฤกษ์ช่วยพูดกับแม่พี่ ให้หน่อยนะ”

ดาวฤกษ์ได้ยินภูดินพูดมาแบบนั้น  ได้แต่อึ้ง  ไม่คิดว่าชายหนุ่มจะรักแฟนสาวได้มากมายขนาดนี้  แล้วเขาจะทำเช่นไร  มันรู้สึกบอกไม่ถูกจริงๆว่าตอนนี้เขารู้สึกเช่นไรกันแน่ที่ได้ยินภูดินพูดถึงหญิงคนรักต่อหน้าเขา  ใจบางๆของดาวฤกษ์ตอนนี้มันสั่นไหวไปหมดแล้ว

“แล้วถ้าฤกษ์ไม่ช่วยละ?”

“ฤกษ์ต้องล้อพี่เล่นแน่ๆเลย  ใช่ไหม?”

“เปล่า  ฤกษ์พูดจริง”

ภูดินเบรกรถกะทันหันทันที  หลังจากได้ยินคำปฏิเสธออกจากปากของอีกฝ่ายแบบไม่อยากเชื่อหูตัวเองภูดินจอดรถไว้ตรงหน้าร้านขายยาของดาวฤกษ์ทันที  แล้วหันหน้ามามองดาวฤกษ์อย่างไม่เข้าใจในคำตอบของอีกฝ่าย

“ที่ฤกษ์ไม่ยอมช่วยพี่แบบนี้  แสดงว่าฤกษ์อยากได้สมบัติจากพ่อกับแม่พี่ใช่ไหม?”

“สมบัติอะไร?”

“ก็พ่อพี่พูดเองว่า  ถ้าพี่ไม่ยอมมาเป็นปลัดอำเภอ  พ่อพี่จะยกสมบัติทั้งหมดของครัวครัวพี่ให้ฤกษ์นะสิ  นี้ก็คงจะเป็นอีกแผน ที่กันพี่ออกจากแฟนใช่ไหม?”

“บ้าไปแล้วพี่ดิน   ดึงสติหน่อย”

“ไม่ต้องมาทำเป็นพูดให้ตัวเองดูดีเลย  ฤกษ์นั้นแหละตัวการยุยงแม่พี่ ให้เกลียดจีน่า”

“พี่ดิน  มันจะดูถูกันมากเกินไปแล้วนะ”

“เถียงสิว่ามันไม่เป็นความจริง  บอกพี่สิฤกษ์  ว่าสิ่งที่พี่คิด  มันไม่ได้เป็นอย่างนั้น”

“บ้าไปแล้วพี่ดิน  ฤกษ์ไม่เคยคิดแบบนั้น  แล้วอีกอย่าง คุณลุงก็ไม่เคยพูดกับฤกษ์เลยเรื่องสมบัติบ้าบอนี้”

ดาวฤกษ์ได้ยินอีกฝ่ายพูดมาแบบนั้นทำให้เขาต้องรีบลงจากรถคันหรูทันที  เพราะทนได้ยินคำพูดที่หาความจริงไม่ได้แบบนี้

“ไม่ต้องมาตีหน้าเซ่อแล้วนะฤกษ์  พี่เข้าใจดีทุกอย่างแล้ว”

ชายหนุ่มพูดเสร็จก็เร่งเครื่องรถยนต์ออกตัวไปทันที  ปล่อยให้ดาวฤกษ์ยืนมองด้วยความไม่เข้าใจในพฤติกรรมของอีกฝ่าย  หรือว่านี้คงเป็นเรื่องจริงที่ดาวฤกษ์ต้องรับรู้ใช่ไหมว่า  ว่าภูดินนั้นรักหญิงสาวชาวกรุงคนนั้นมากมายเพียงไหน

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา