27 pairs of chromosomes ภาค บทกวีของผู้หลงทาง

7.0

เขียนโดย จอมนางค์

วันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2561 เวลา 21.23 น.

  5 ตอน
  0 วิจารณ์
  7,028 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 18 มกราคม พ.ศ. 2561 21.44 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) เปิดทวีป (100%)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

          “แพนโดร่า?” คนพูดใช้นิ้วเขี่ยกล่องใบเล็กจนพลิกคว่ำพลิกหงาย ไม่สนใจดวงตาหลังกรอบแว่นของผู้จัดการร้านที่จ้องเป๋งตรงมา

            เจ้าของปลายนิ้วเรียวยาว เรือนผมดำชี้โด่เด่นั้นคือเครออส และแน่นอน เช่นเดียวกับผู้หลงทางอื่นๆ เขาไม่มีนามสกุล

            พลังของผู้หลงทางจะแสดงออกมาในสถานการณ์ต่างๆ กัน ความกดดันทางร่างกายและจิตใจมีผลมากต่อการที่พลังจะแสดงออก ผู้หลงทางในวัยเด็กที่ยังไม่สามารถควบคุมร่างกายและจิตใจได้ดีพอมักจะระเบิดพลังออกมาโดยไม่รู้ตัว หลายครั้งทำให้เกิดความเสียหายในรายของผู้มีพลังสูง และประเภทของพลังที่ก่อความเสียหายได้มาก เด็กๆ ที่เป็นผู้หลงทางจึงมักถูกทอดทิ้ง

            ต่อมารัฐบาลจึงได้แก้ไขโดยการเปิดสถานรับเลี้ยงดูเด็กที่มีพลังเหล่านั้นเพื่อควบคุมไม่ให้มีการทอดทิ้งเด็กที่เกิดมาเป็นผู้หลงทาง เด็กๆ จากที่นั่นจะมีเพียงชื่อ ไร้นามสกุล รัฐบาลกำหนดให้มีการระบุอัตลักษณ์พันธุกรรมของเด็กที่มีโครโมโซมยี่สิบเจ็ดคู่ไว้ในฐานข้อมูลและติดตามควบคุมจากระยะไกลโดยอาศัยเทคโนโลยีที่เรียกว่า ‘คอยล์’ กระแสพลังงานที่ถูกปล่อยให้ล่องลอยอยู่ในชั้นบรรยากาศโลก เทคโนโลยีนี้เชื่อมต่อโลกให้เป็นเครือข่ายเดียวกัน การสื่อสารในระยะไกล การควบคุมสัญญาณภาพ เสียง กระทั่งการติดตามตัวบุคคล ในรายของผู้หลงทาง คอยล์จะตรวจสอบพลังงานที่เคลื่อนไหวผิดปกติและรายงานไปยังระบบของศูนย์ใหญ่ กระทรวงความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร เทคโนโลยีที่รัฐบาลเป็นเจ้าของและเป็นผู้เดียวที่มีสิทธิ์แจกจ่ายให้แก่ประชาชนที่ขึ้นทะเบียนร้องขอ

            “นั่นเป็นชื่อตามตำนานครับผม... คุณเจโฬมกรุณาเอาเท้าลงจากโต๊ะด้วย” คนที่ถูกปรามส่งเสียง ‘ชิ’ เบาๆ อย่างหัวเสีย แต่ก็ยอมชักปลายเท้าลงจากโต๊ะเตี้ยสำหรับวางเครื่องดื่มโดยดี

            ‘เจโฬม’ ชายหนุ่มในอาภรณ์สีดำขลิบทองของนักบวช ผู้มีนัยน์ตาและผมยาวสีแดงราวกับประทับครั่ง ฝ่ามือหนายกขึ้นกุมศีรษะ เจ้าตัวขยี้ผมอย่างหงุดหงิด นัยน์ตาอิดโรยบ่งบอกสภาพร่างกายย่ำแย่ของเจ้าตัว

            “คนยิ่งเมาค้างอยู่ด้วย” ริมฝีปากหนาบ่นอุบ

            “กะอีแค่เมาค้าง” เครออสไม่เห็นอาการเมาค้างของอีกฝ่ายเป็นเรื่องมีสาระ

            “หือ” คนเมาค้างเหล่มองมาด้วยสายตาเฉยเมย “แกอยากมีปัญหารึไง ไอ้ลูกหนี้... อย่างแกทำงานขัดดอกใช้หนี้ไวล์ไปทั้งชาติเถอะ”

            “อึก!” เครออสสะอึก ไอ้วิธีพูดด้วยใบหน้าหน่ายโลกแต่เล่นเอาจุกแบบนี้แหละที่มันน่าหมั่นไส้ที่สุด “แกว่าไงนะ! ไอ้นักบวชเก๊ หนอย! แกเองก็ต้องมาทำงานที่นี่เพราะไม่มีที่จะซุกหัวนอนเหมือนกันนั่นแหละฟะ อย่ามาทำอวดเก่งนะโว้ย”

            “หนวกหู...” นักบวชโบกมือหน่ายๆ เหมือนปัดแมลงวัน

            “ก็อดกำลังหลับอยู่นะครับ ถ้าขืนเสียงดังไปรบกวนเข้าละก็...” ไวล์พูดค้างไว้แค่นั้น แต่ก็ทำให้สองคนที่ทุ่มเถียงกันยอมสงบศึกลงได้

            “...” ผู้จัดการหนุ่มถอนหายใจนิดๆ เหลือบมองสมาชิกคนสุดท้ายของร้านรับจ้างคุ้มกันสินค้าที่เอาแต่นั่งเงียบ

            มิคาเอล... โดยปกติเขาเป็นชายหนุ่มที่พูดน้อยอยู่แล้ว อีกทั้งยังมีนิสัยเงียบขรึม คาดเดายาก

            เขารู้สึกไปเองหรือเปล่าว่าวันนี้อีกฝ่ายดูแปลกๆ ไป เหมือนมีอะไรในบรรยากาศรอบตัวที่ทำให้รู้สึกยะเยือกผิดปกติ เศร้าสร้อย... กว่าปกติ

            “วันนี้นายดูน่ากลัวว่าทุกวันหรือเปล่า” คนที่ทักขึ้นมาก่อนคือเครออส แต่เช่นเคย สิ่งที่ได้รับกลับมาจากมิคาเอลคือความว่างเปล่า ชายหนุ่มผู้มีเส้นผมสีทองและนัยน์ตาสีฟ้าลึกล้ำ เยือกเย็นยังคงนิ่งเฉย

            เมื่อสิบปีก่อน ก็อดพบคนผู้นี้ที่ข้างถนนและเรียกว่ามิคาเอล ชายหนุ่มยอมทำงานคุ้มกันสินค้าให้กับก็อดเพื่อตอบแทนบุญคุณแก่เธอและก็คงเหมือนคนอื่นๆ มิคาเอลไม่มีที่มาที่ไป ถึงจะอยู่ด้วยกันมาสิบปี แต่ตอนนี้ก็ยังไม่มีใครรู้จักมิคาเอลมากไปกว่าผู้ชายที่นอนจมกองเลือดอยู่ข้างถนน พกดาบเล่มใหญ่ที่ไม่มีกั่นดาบ และเกลียดความไม่ถูกต้อง มิคาเอลยังคงเป็นปริศนา

            “นี่... ” เสียงเรียกของนักบวชในอาภรณ์ดำปลุกไวล์ขึ้นจากภวังค์ความคิด “พูดต่อสิ”

            “อา...” ไวล์เว้นช่วงนิดหนึ่งเพื่อตั้งสติ “ครับ... เล่าไปแล้วใช่ไหมครับว่าภรรยาของผู้ว่าจ้างได้รับกล่องใบนี้มาจากคนรู้จักของปู่เธอ ถึงจะได้รู้ประวัติมาว่ามันคือกล่องต้องสาป แพนโดร่า  ตามตำนานของโลกเก่า แต่เธอก็ไม่เชื่อเรื่องเล่านั้นและพยายามเปิดมันออก แต่ก็ไม่ได้ผล กล่องใบนี้ยังปิดสนิท”

            ตามตำนาน กล่องแพนโดร่าถูกสร้างขึ้นโดยเทพเจ้า เพื่อมอบให้กับราชินีโฉมงามของกษัตริย์ แต่เพราะความอยากรู้อยากเห็น ราชินีได้ฝ่าฝืนคำสั่งและเปิดมันออก ทันใดนั้นความชั่วร้ายทั้งมวลที่ถูกกักขังอยู่ในกล่องก็หลั่งไหลออกมาสู่โลกมนุษย์ โรคระบาด ความโกรธ ความเกลียดชัง โลภ หลง ได้เข้าไปสู่มนุษย์ แต่เพราะไหวตัวทัน ราชินีได้ปิดกล่องใบนั้นลงก่อนที่ความชั่วร้ายประการสุดท้ายจะหลุดรอดออกมา

            ความสิ้นหวัง...

            ตำนานเล่าว่า มนุษย์ในโลกเก่าดำรงยู่ต่อมาในโลกโสมมโดยมีเพียงความหวังเท่านั้นที่หล่อเลี้ยงเอาไว้ แต่หากเมื่อใดที่กล่องถูกเปิดอีกครั้ง ความสิ้นหวังที่ถูกกักขังไว้จะถูกปลดปล่อย โลก... จะถึงกาลอวสาน

            “เป็นฉันก็คงทำเหมือนกัน กล่องใบเล็กแค่นี้จะไปทำอะไรอย่างที่ในตำนานว่าไว้ได้ยังไง” เครออสมีทีท่าไม่เชื่อถือชัดเจน

            “เพราะงั้นนายถึงเป็นพวกไม่มีศรัทธาไงล่ะ” เจโฬมแขวะด้วยน้ำเสียงเรียบเรื่อย

            “พระเก๊อย่างแกกล้าพูดด้วยรึไง!”

            “ครับ... ครับ...” ไวล์ทำเป็นไม่สนใจ “ยังไงก็ตาม เมื่อสี่วันก่อนบ้านของเขาถูกบุกรุก คนร้ายต้องการกล่องใบนี้แต่ว่า ภรรยาของเขาไม่ยอมบอกที่ซ่อนกล่อง เธอถูกเผาจนไหม้เกรียมต่อหน้าคนรับใช้สองคน” ไวล์พูดอย่างช้าๆ เขาสังเกตว่าผู้ฟังทั้งสามชะงักเล็กน้อยเมื่อทราบเหตุที่เกิดขึ้นกับภรรยาผู้ว่าจ้าง “คนรับใช้ที่อยู่กับเธอขณะนั้น ถูกไว้ชีวิตเพื่อจะได้ส่งข่าวให้กับคนในสภาว่า ‘คนของอีเดน’ จะมาขอรับกล่องต้องคำสาปนั้น ถ้าไม่ส่งมอบให้โดยดีก็จะแย่งชิงเอามา รวมถึง ‘ชีวิต’ ด้วย”

            ดวงตาของคนฟังทั้งสามแลบประกายคมปลาบ แฝงรอยอันตรายขึ้นมาทันที

            ‘อีเดน’ คือส่วนที่อยู่นอกเขตปกครองของแอตแลนติส ที่นั่นเป็นพื้นที่รกร้าง ภูมิประเทศสลับซับซ้อนไปด้วยผาชันและแง่หินแหลมคม ถูกตั้งชื่อตามสวนของพระเจ้าในตำนาน ไม่มีใครรู้ เห็น ว่าสวนนั้นอยู่ที่ไหน ‘อีเดน’ ขณะนี้ เป็นเพียงความเวิ้งว้าง ว่างเปล่า ไร้ตัวตน ที่นั่นเป็นที่สำหรับ ‘ขับไล่’ กลุ่มคนที่ไม่เป็นที่ต้องการของสังคม อาชญากร ผู้ร้ายหลบหนี กระทั่งทารกที่เกิดมาเป็นผู้หลงทาง บางส่วนก็ยังถูกทอดทิ้งให้ตายในความว่างเปล่านั้น เมื่อนานวันเข้า สถานที่รวมตัวของคนป่าเถื่อนก็ก่อเกิดเป็นองค์กรใต้ดินที่ค่อยๆ รุกล้ำเข้ามาในแอตแลนติสมากขึ้น ทรงอิทธิพลมากขึ้น กลายเป็นกลุ่มที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อล้มล้างโลกในขณะนี้และสร้างโลกใบใหม่ขึ้นมาแทน

            ฟังดูเป็นเรื่องน่าขำที่ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหน โลกใบเก่า หรือโลกใบใหม่ ผู้ร้ายก็ยังคงมุ่งหวังจะทำลายล้างโลกเพื่อสร้างโลกในอุดมคติขึ้นมาเสมอ คาดหวังในโลกที่สมบูรณ์แบบ โลกที่ทุกคนเท่าเทียมและไม่เหยียดหยาม เบียดเบียนกัน โลกในฝันที่มีอยู่แต่ในฝัน ใช่... แค่ในฝัน

            เพราะในความจริง มนุษย์ไม่ได้สมบูรณ์แบบ แล้วโลกที่ขับเคลื่อนโดยมนุษย์จะสมบูรณ์แบบได้อย่างไร?

            “คุณนายคนนั้นก็ไม่เชื่อเรื่องกล่องนั่นอยู่แล้วไม่ใช่หรือ ทำไมถึงไม่ยอมยกกล่องให้พวกมันไปล่ะ?” เครออสยังสงสัย

            “เพราะคนร้ายถามถึงที่ซ่อนกล่องน่ะสิ ในนั้นมีสมบัติอื่นๆ ของเธอรวมอยู่ด้วยถึงได้กลัวว่าคนร้ายจะเอามันไป” ไวล์ถอนหายใจนิดๆ

            “แลกชีวิตกับสมบัติ ไม่คุ้มเล้ย!” ชายหนุ่มผมกระเซิงพูดห้วนๆ

            “ที่นี่น่ะสงบสุขจนเกินไป...” นักบวชพึมพำ ดวงตาสีแดงดุจประทับครั่งเหม่อมองออกไปยังเมืองที่ผู้คนพลุกพล่าน ล้วนใช้ชีวิตราวกับเส้นกราฟที่ราบเรียบ สุข-ทุกข์ ดี-ร้าย ไม่เคยรู้สึกรู้สม ภายใต้กฎกติกา รัฐบาลสร้างความสะดวกสบายให้แก่ประชาชนทุกด้าน ระเบียบที่เข้มงวด การได้มาโดยไม่ต้องพยายามไขว่คว้า เมืองที่ไร้ความเหลื่อมล้ำ สำหรับเขา... ความเท่าเทียมน่ะน่าเบื่อ ไม่เห็นจะดีตรงไหน

            “หมายความว่ายังไง” คนที่ฟังไม่จบยังค้างคาใจ

            “แกนี่โง่จริงๆ” นักบวชค่อนขอดด้วยน้ำเสียงตายด้าน

            “แก! หมายความว่ายังไงฟะ หา!” คนถูกกล่าวหาเต้นผาง

            “...คนพวกนี้น่ะ ตลอดชีวิตอาศัยอยู่ภายใต้ปีกปกป้องของรัฐบาล สัญชาติญาณคงทื่อจนไม่เหลือคม พอเจอความรุนแรงเข้าก็คิดว่ารัฐบาลจะจัดการได้ง่ายๆ เหมือนทุกที มองไม่ออกว่าคนร้ายเป็นคนระดับไหน ไม่รู้จักจิตสังหารของการฆ่าฟัน ถ้าเปรียบเทียบกับคนที่เติบโตมาในอีเดนแล้วละก็ คนพวกนั้นอยู่กับความรุนแรง ฆ่าฟันกันเป็นเรื่องปกติ การจะลงมือเผาผู้หญิงแก่ๆ พูดไม่รู้เรื่องสักคนน่ะไม่ใช่เรื่องที่ต้องคิดมากหรอกครับ” คนที่ตอบกลับเป็นไวล์ซึ่งมีทีท่าอ่อนอกอ่อนใจราวกับเห็นเด็กเล็กๆ ทะเลาะกัน เครออสผู้มีนิสัยขี้โวยวายแต่กลับโกรธง่ายหายเร็วราวกับควันสลายก็เช่นกัน

            “เคยแต่ได้ยินแฮะ... เรื่องของคนจากอีเดนเนี่ยมัน... อีกอย่าง กล่องใบนั้นจะเป็นของจริงแน่เหรอ พวกนั้นจะเอากล่องที่เปิดไม่ออกไปทำอะไรกัน”

            “แฮ่ม...” ไวล์ขัด “ฟังต่อนะครับ สามีของผู้ตาย ผู้ว่าจ้างของเราในคราวนี้ได้ยื่นคำร้องต่อท่านประธานาธิบดีเพื่อให้ตรวจสอบกล่องว่าเป็นของจริงหรือไม่ และพบว่ากล่องนี้ถูกสร้างขึ้นจากแร่ที่ไม่อาจตรวจพบได้ในโลก แน่นอนครับ... แร่นี้ไม่มีอยู่ในโลกเก่าด้วย แต่จากร่องรอยของเศษดินและฝุ่นที่จับอยู่ตรงรอยพับของกล่องพบว่ากล่องใบนี้ไม่สามารถประเมินอายุได้อีกเช่นเดียวกัน ถ้ากล่องใบนี้คือแพนโดร่า เป้าหมายเดียวของอีเดนคือการเปิดมันเพื่อปลดปล่อยความสิ้นหวังให้กับโลกใบนี้”

            “โอ้โหเฮะ คงแพงพิลึก ก็อดคงเขกได้หลายเหรียญทอง” เครออสอุทาน คนเดียวที่ทันสังเกตเห็นว่ามิคาเอลที่เอาแต่นั่งก้มหน้าเงียบมาตลอดมองกล่องใบนั้นด้วยสายตาอย่างไรคือเจโฬม

            เขามองเห็นประกายของความมุ่งมั่นแรงกล้าในดวงตาสีฟ้าหลังเงาของใบหน้าที่ก้มต่ำนั้น

            “แล้ว...” นักบวชละสายตาจากชายหนุ่มผมทอง เพื่อถามสิ่งที่ข้องใจกับผู้จัดการร้าน “ถ้ากลัวว่ามันจะถูกเปิด ทำลายมันก็สิ้นเรื่องไม่ใช่หรือไง”

            “ผมบอกว่า เธอถูกฆ่าเมื่อสี่วันก่อนใช่ไหมครับ ภรรยาของผู้ว่าจ้างน่ะ” ไวล์ใช้ปลายนิ้วดันกรอบแว่นเล็กน้อยเพื่อให้แว่นตาเข้าที่ขณะเครออสพยักหน้าหงึกหงัก “วันต่อมารัฐบาลใช้เวลาในการตรวจสอบกล่องแต่ไม่สามารถยืนยันชนิดของแร่หรืออายุของกล่องได้ สามวันที่เหลือ... คือวันที่รัฐบาลสั่งให้ทำการหาทางทำลายกล่อง ทั้งการใช้ความร้อนในระดับสูง การทุบทำลาย และการใช้สารเคมีเพื่อย่อยสลาย แต่ไม่มีซักวิธีการเดียวที่จะทำให้กล่องมีแม้แต่รอยขีดข่วนได้”

            “...” เกิดความเงียบขึ้นชั่วอึดใจในระหว่างกลุ่มคนทั้งหมด

            “ท่านประธานาธิบดีมาที่นี่เพื่อจะถามก็อดสองข้อ ข้อแรก กล่องใบนี้คือแพนโดร่าหรือเปล่า และข้อสอง วิธีที่จะทำลายกล่อง”

            “ถ้าอย่างนั้น... ถ้าเป็นก็อดก็น่าจะทำลายกล่องใบนั้นได้... ” เครออสพึมพำ

            การที่ก็อดรับกล่องใบนี้มา นั่นก็เพียงพอแล้วที่จะยืนยันคำตอบในข้อแรก ส่วนข้อสอง... เพราะเป็นก็อด ไม่แปลกเลยถ้าเธอจะทำลายกล่องใบนี้ได้ แล้วทำไม...

            “ก็อดพูดว่า ‘สิ่งของทุกอย่างบนโลกใบนี้น่ะมีเจ้าของอยู่ เพราะฉะนั้นฉันจึงไม่มีสิทธิ์ที่จะทำลายมัน’ น่ะสิ คำสั่งของเธอก็คือ ให้นำกล่องใบนี้ไปฝากไว้ที่ร้านคนรู้จักของเธอ คนคนนั้นจะเก็บรักษากล่องเอาไว้ให้ และถ้าเจ้าของของกล่องใบนี้ต้องการที่จะทำลายมันก็จะตัดสินใจเอง เมื่อนั้นคนคนนั้นจะทำลายกล่องให้ตามความปรารถนา” ไวล์ถอนหายใจนิดๆ

            “ทำไมต้องทำอะไรยุ่งยาก กล่องนี่ ถึงยังไงก็ไม่มีใครเปิดออกอยู่แล้วไม่ใช่หรือไง ทำไมต้องทำอะไรด้วย ต่อให้ปล่อยไปก็...”

            “มีคนเปิดได้” จู่ๆ คนที่เอาแต่เงียบมาตลอดก็พูดขึ้นพร้อมๆ กับที่ลุกขึ้นยืน มิคาเอลยามเมื่อพูดถึง ‘เจ้าของ’ ของกล่องใบนั้น ทีท่าก็ราวกับไร้วิญญาณ วิธีการเคลื่อนไหวเหมือนกับหุ่นกระบอกที่ถูกชักเชิด น้ำเสียงที่ปกติมีเพียงกังวานเย็นชา บัดนี้เจือไปด้วยกระแสความเจ็บปวด ทุกข์ทน ชายหนุ่มเดินจากไปพร้อมประโยคสุดท้าย “เพราะมีอยู่แล้วน่ะสิ ‘เจ้าของ’ ที่สามารถเปิดมันได้น่ะ”

 

            ความเงียบที่เข้าปกคลุมคนที่เหลืออยู่ราวกับจะไว้อาลัยให้กับบรรยากาศอันเศร้าสร้อยที่เกิดขึ้นอย่างไร้ที่มาที่ไป เครออสขยับตัวนิดๆ อย่างอึดอัดเมื่อฟังบทสนทนาระหว่างเจโฬมและไวล์

            “ร้านคนรู้จักของก็อดอยู่ที่ไหน?”

            “lost time ครับ”

 

            ถึงจะเจ็บใจก็ตาม แต่ประธานาธิบดีเกรซ คิงส์ตัน รู้ว่าตัวเองไม่มีทางเลือกมากนัก

            โลกในใบนี้มีเรื่องวุ่นวายมากมาย และเธอก็มีหน้าที่แบกรับความวุ่นวายเหล่านั้นเอาไว้เพื่อรักษาความสงบของส่วนรวม ฉากหน้าจะสวยงามอย่างไรก็ตาม เบื้องหลังความสงบนั้นย่อมมีความวุ่นวายติดตามเป็นเงา

            ร้านรับจ้างคุ้มกันสินค้าแห่งนั้นเป็น ‘เบื้องหลัง’ ที่ในหลายๆ ครั้งช่วยให้เรื่องวุ่นวายคลี่คลายลงได้

            เธอหลับตาลง ในห้วงความคิด ดวงตาสีน้ำตาลอมแดงบนดวงหน้าแบบเด็กหญิงกำลังมองตรงมา หางตาชี้ขึ้นนิดๆ บอกเค้าเป็นคนเจ้าแผนการ...

            ถูกเรียกเก็บค่าบริการไปเยอะขนาดนั้น มีหวังประชุมสภาคราวหน้าคงต้องถูกพวกตาแก่จุ้นจ้านซักไซ้จนน่ารำคาญอีกแน่ๆ

            “เอ่อ...” เสียงอึกอักลังเลดังขึ้นอีกครั้งจากที่นั่งข้างๆ นายคอนราดมองมาด้วยความว้าวุ่นใจ “จะดีหรือครับท่าน ผู้หญิงคนนั้นอาจจะใช้ความสามารถไซเรนของเธอ...”

            “อื้อม์... ” เธอตัดบท พลางหัวเราะน้อยๆ เมื่อมองออกไปยังพระจันทร์รูปเคียวโค้ง “ถึงจะดูไม่น่าเชื่อถือก็จริง แต่ว่าเรื่องที่คนคนนั้นทำไม่ได้น่ะ... ไม่มีหรอก”

            “เอ๋?”

            “ก็นะ... เขาว่ากันว่า พระเจ้าน่ะ มีอยู่สามองค์ยังไงล่ะ”

            โลกใบนี้น่ะเต็มไปด้วยความวุ่นวาย จะสิ่งที่อธิบายได้หรือเป็นสิ่งที่ไม่สามารถอธิบายได้ ก็ไม่มีสิ่งที่คนคนนั้นทำไม่ได้หรอก...

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา