โซ่เสน่หา

-

เขียนโดย จอมนางค์

วันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2561 เวลา 19.33 น.

  5 session
  0 วิจารณ์
  7,120 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 17 มกราคม พ.ศ. 2561 19.45 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

4) ตอนที่ 3 (100%)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

“ไม่...คุณทำอย่างนั้น เห็นชัดเลยว่าเป็นอย่างนั้น ตั้งแต่ที่ผมตกลงจะเจรจากับคุณเรื่องลูกแต่คุณก็หนีมาเสียก่อน เพราะอะไร เพราะคุณอคติกับผม คิดแต่ว่าผมเป็นผู้ชายก็คิดว่าผมจะเห็นแก่ตัวมาแย่งลูกไป ทั้งๆ ที่เราจะตกลงกันได้ด้วยดีเพื่อหาทางที่เหมาะสมที่สุดให้แก่ลูก แต่คุณก็ไม่ทำ ที่คุณอยากมีลูก แต่ไม่อยากแต่งงานเป็นเพราะอะไร? ก็เพราะคุณเกลียดและกลัวหากจะต้องอยู่ร่วมบ้านกับผู้ชาย ทำไม?” เขากำแขนทั้งสองข้างของหล่อนไว้แน่น

ญามาติกานิ่งอั้น เพราะเขาพูดถูกเกือบทั้งหมดเลย

ความจริงก็คือหล่อนเห็นพ่อเดินจากแม่ไป ทิ้งแม่ตรอมใจอยู่กับบ้านคนเดียวหล่อนก็สงสารแม่ แม้หล่อนจะไม่คิดว่าตัวเองเกลียดพ่อ แต่หล่อนก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า การที่พ่อรักสังคมของท่านมากกว่าครอบครัวจนทิ้งแม่และหล่อนไป ทำให้หล่อนกลัวที่จะแต่งงาน กลัวการคบกับใครซักคนฉันคนรัก แต่หล่อนก็ดื้อแพ่งเกินกว่าจะยอมรับ

“ผู้ชายเฮงซวย” หล่อนปริภาษอย่างกล้า “คุณคิดจะมาแย่งตาหนูไปเพราะเห็นฉันไม่มีทางสู้ น่าเกลียดที่สุด ฉันเกลียดหน้าคุณ! อื๊อ” ญามาติการู้สึกร้อนวาบตรงริมฝีปาก หล่อนไม่ทันตั้งตัวเลย เขาก็จูบลงมาจริงๆ จูบของเขาเร่าร้อน กระด้าง บดขยี้อย่างลงโทษไม่ปราณีเลย ญามาติกาพยายามบ่ายหน้าหลบ เขาก็คว้าต้นคอหล่อนไว้ บังคับให้รับจุมพิตหนักหน่วง หล่อนรู้สึกว่าริมฝีปากเจ็บจนช้ำไปหมดก็ประท้วงเขาด้วยการใช้กำปั้นเล็กๆ ทุบเขาไปทั่ว เขาคว้ามือหล่อนไว้ด้วยมือเดียว จากนั้นก็ขบริมฝีปากหล่อน บังคับให้เผยอปาก หล่อนเจ็บเข้าจริงๆ ก็อ้าปากจะร้องประท้วง อัสวานก็ดันปลายลิ้นเข้ามา เกี่ยวกระหวัดปลายลิ้นของหล่อนอย่างเร่าร้อนและเรียกร้อง

ญามาติกาไม่เคยถูกรุกเร้าหนักขนาดนี้มาก่อน จะเรียกว่าหล่อนอ่อนประสบการณ์ก็ว่าได้ กายของหล่อนสะท้านเยือก แข้งขาอ่อนเปลี้ย อัสวานแทรกตัวเข้ามาระหว่างขาเรียวของหล่อน เป็นการช่วยพยุงซึ่งหากไม่มีเขาหล่อนอาจล้มลงไปกองกับพื้นอย่างไม่เป็นท่าเลย หล่อนรู้สึกว่าฤทธิ์แอลกอฮอล์ยังไหลเวียนอยู่ในกายของหล่อน ถึงได้รู้สึกว่าร่างกายเบาหวิวอย่างประหลาด

ไม่! หล่อนไม่ควรเต็มใจให้เขาจูบ ปฏิเสธเขา ปฏิเสธเขาสิปั้นหยา

หล่อนสั่งตัวเอง แต่ร่างกายหล่อนกลับทรยศหล่อนอย่างเลือดเย็น มือหล่อนตกลงข้างตัวอย่างอ่อนแรง เมื่อเขาถอนจุมพิตออก มองหล่อนด้วยประกายตาแรงร้อน หล่อนก็กล่าวโทษเขา

“คุณ คนฉวยโอกาส”เสียงหล่อนแหบพร่า

“ไวโอเล็ต ผู้ชายทุกคนเป็นนักฉวยโอกาส ผมไม่เคยบอกคุณว่าผมเป็นสุภาพบุรุษ” เขาถอยออกไปยืนห่าง หล่อนก็ทรุดลงทั้งยืน

“แต่จำเอาไว้” เขาพูดอย่างเลือดเย็น “เพราะผู้หญิงไม่ได้เก่งไปเสียทั้งหมด พระเจ้าจึงสร้างผู้ชายมาไว้คู่กัน” เขาเดินจากไป ไม่สนใจหล่อนซึ่งเกาะขาเก้าอี้ยืนขึ้นทั้งแข้งขาสั่น

 

มนตร์ปลายเดือนวางกระเป๋าลงบนเค้าเตอร์เมื่อหล่อนแจ้งความจำนงว่า อยากได้ห้องเดี่ยวสำหรับพักชั่วคราวสักคืนในราคาที่อยู่ในงบประมาณจำกัดเพราะโรงแรมในเมืองนี้ส่วนใหญ่จะรองรับนักท่องเที่ยวตลอดปีและเพราะเป็นโรงแรมระดับหรูของเมืองต่อให้หล่อนแจ้งอย่างอ้อมๆ ว่าหล่อน ‘ไม่มีเงินมาก’ แต่ราคาค่าที่พักก็คงคิดเป็นเงินไทยหลายหมื่นบาทต่อคืนอยู่ดี อย่างไรก็ตาม หญิงสาวคิดว่าคุ้มค่าสำหรับความปลอดภัยที่หล่อนจะได้รับ

พนักงานต้อนรับตรวจเช็คครู่หนึ่งก็แจ้งว่ามีห้องราคาต่ำสุดที่เหลืออยู่เพียงห้องเดียวทางปีกตะวันตก จากนั้นก็กดเรียกพนักงานยกกระเป๋ามาช่วยนำทางหล่อน

นายพนักงานยกกระเป๋าคนนี้เป็นคนช่างจ้ออยู่ซักหน่อยหนึ่งก็คุยไปตลอดทางซึ่งมนตร์ปลายเดือนไม่รังเกียจจะฟังเนื่องจากหล่อนมักเป็นนักฟังมากกว่าพูดเสมอ หล่อนกระชับเสื้อโค๊ตของตัวเองให้แน่นเข้าเมื่อผ่านทางเชื่อมซึ่งเปิดโล่งอยู่ตลอด มองออกไปเห็นทิวทัศน์เมืองท่องเที่ยวยามราตรีงดงาม

“คุณโชคดีมาก รู้ตัวไหมครับมิส...ที่เมืองนี้ห้องพักส่วนใหญ่เต็มหมด เพราะอีกสองวันจะมีการประชุมผู้นำกลุ่มประเทศเศษฐกิจตะวันออกกลาง พวกเศรษฐีน้ำมัน รัฐมนตรี ชีคอาหรับ สุรต่าน เชื้อพระวงศ์จากทางนั้นมากันหมด แม้แต่ชีคอัสวสาน ที่ดังๆ อยู่ในฐานะผู้ได้รับการทาบทามให้เล่นหนังของเอลเดอรีนอยู่นี่ก็จะมา คุณว่าเขาจะตัดสินใจรับเล่นหนังหรือเปล่า” หล่อนมัวแต่ฟังอึ้งอยู่ก็พยักหน้ารับส่งๆ

นายพนักงานนี่คงไม่รู้ว่า ความช่างจ้อของแกได้จุดประกายความหวังในใจหล่อนเข้า

หญิงสาวตระเวนไปเกือบทั่วฝรั่งเศสตลอดสองสามสัปดาห์มานี้แต่ไม่พบร่องรอยของญามาติกาเลยก็ชักเซ็ง ต้องสั่งให้คนของแม่กลับไปก่อนเพราะไม่มีวี่แววเลยว่าจะเจอ หล่อนรู้เพียงว่าครั้งสุดท้ายที่คุยกับเพื่อนนั้น ญามาติกาอยู่ที่ฝรั่งเศสซึ่งก็ไม่รู้ว่าอยู่เมืองไหนแน่ มารดาหล่อนเองโทรศัพท์มารบเร้าว่า

‘เลดี้ กลับมาเสียก่อนดีไหมลูก เรื่องยัยปั้นหยาแม่จะหาคนสืบให้ เราดื้อดึงอยู่ต่อไปก็รังแต่จะอันตรายเปล่าๆ แม่เป็นห่วง’

หล่อนทัดทานมารดาว่า

‘อีกซักเดี๋ยวเถอะค่ะแม่ ถ้าแน่ใจว่าไม่ได้เรื่องแน่ เลดี้จะกลับ’

นี่หล่อนก็อยู่ต่อมาเกือบอาทิตย์แล้ว ยังไม่รู้อะไรเพิ่มเติมก็กะว่าจะเดินทางกลับตามคำสั่งมารดา

แล้วนายนี่ก็มาบอกหน้าเฉยว่าชีคอัสวานจะมา  ถึงจะไม่ใช่ข้อมูลของญามาติกาโดยตรง แต่มนตร์ปลายเดือนออกจะเชื่อๆ ว่า ‘นายชีคนั่น’ ต้องเกี่ยวข้องกับการที่เพื่อนหล่อนหายตัวไปแน่นอน!

“เขาจัดงานกันที่โรงแรมไหน?” หล่อนถามหน้าเฉย ราวไม่ใส่ใจ

“ที่ลาเดลร่า โอ...คุณครับ ที่นั่นเต็มตั้งแต่เริ่มเป็นข่าววันแรก นักธุรกิจ นักข่าวจองกันให้พรึ่บ ถ้าไม่อีกอย่างก็โรงแรมในระแวกเดียวกัน ใกล้ๆ กัน เต็มเหมือนกัน”

“ฉันจะไปมั่งดีไหม เผื่อจะได้คุยเรื่องน้ำมันกับเขาบ้าง แพงเหลือเกิน!” หล่อนพูดยิ้มๆ นายคนหิ้วกระเป๋าหันมายิ้มให้หล่อนเหมือนกันเมื่อพูดว่า

“ถ้าคุณไปตอนนี้ผมขอแนะนำว่าให้เตรียมเตียงไปเองเลยดีกว่า” หล่อนหัวเราะ แต่ในใจคิดว่า ต่อให้ต้องเตรียมเตียงไปเองก็คงต้องไปล่ะนายเอ๋ย!

หล่อนทิปให้นายคนยกกระเป๋าหนักเป็นพิเศษ จากนั้นก็ต่อสายถึงมารดา หล่อนเหลือบมองนาฬิกา คิดว่ามารดาคงกำลังวุ่น แต่ก็จะรับสายหล่อนด้วยความเต็มใจ

แต่เล็กจนโตมามารดาของหล่อน คุณรดาให้ความสำคัญกับครอบครัวซึ่งมีเพียงคนเดียวก็คือมนตร์ปลายเดือน อะไรที่หญิงสาวรัก มารดาก็รักด้วย กระทั่งมนตร์ปลายเดือนพาญามิกามารู้จัก หญิงสาวก็น่ารักเสียจนคุณรดาหลงเสน่ห์ ในความเป็นคนตรงของญามาติกา หล่อนแฝงไว้ด้วยความนบนอบอ่อนน้อมโดยไม่อ่อนแอ ในความกล้า ญามาติกาฉลาดและรู้กาลใดควรหรือไม่ ในความเป็นสาวสังคมผู้มาดมั่น ญามาติกาแฝงเสน่ห์แห่งความเรียบง่ายอันผู้พบเห็นต้องหลงใหล มนตร์ปลายเดือนต่างหากถูกมองว่าเป็นเด็กไม่รู้จักโตอยู่ร่ำไป หากหญิงสาวก็รู้ตนเองดีเสมอว่า ตนมีเสน่ห์แห่งตนอัน    ญามาติกาไม่อาจมีได้ มารดาของหล่อนเคยตำหนิว่าหล่อนใจร้อนและขี้โวยวายเกินเหตุ แต่หล่อนคิดว่า หากจู่ๆ หล่อนจะเปลี่ยนเป็นสาวทรงเสน่ห์ผู้มาดมั่นเหมือนญามาติกา มารดาหล่อนก็คงหาเรื่องบ่นจนได้ว่า หล่อนไม่ร่าเริง

ฉะนั้น ทั้งหล่อนและญามาติกาจึงเป็น ‘ลูกรัก’ ที่คุณรดาแหนหวงเสมอ

“เลดี้ ว่ายังไงบ้างลูก เจอตาราฟกับปั้นหยารึยัง”

“อาจจะได้เจอเร็วๆ นี้ค่ะ นายนั่นจะมาประชุมที่เมืองนี้ โรงแรมใกล้ๆ นี่เอง”หล่อนบอก

“นายไหน?” ผู้เป็นมารดาสงสัย

“นายชีคค่ะ” หล่อนตอบ

“แม่เห็นในข่าวเหมือนกัน ไม่คิดว่าเขาจะเข้าประชุมด้วย”

“เลดี้ว่าจะรอถามเขา แม่ส่งคนมาให้เลดี้หน่อยนะ”

“ได้จ้ะ คุยกันดีๆ นะลูก อย่าเพิ่งโวยวาย เผื่อเรื่องไม่เกี่ยวกับเขาจะได้ไม่มีปัญหากัน”

“ค่ะ เลดี้จะไม่ทำอะไรจนกว่าคนของเราจะมา”

“ค่อยๆ คุยกัน หลานเราก็ลูกเขา น่าเห็นใจว่าถ้าหายไปแล้วเขาไม่รู้เรื่องจริงๆ ก็คงตกใจ ดีเหมือนกันจะได้ช่วยกันหา” คุณรดาไม่เชื่อนักว่า ญามาติกาจะหายไปเพราะถูกลักพาตัว แต่ฟังที่ลูกสาวเล่าว่าญามาติกาตัดสายไปกระทันหันก็น่าจะเป็นได้ว่ามีเหตุอันใดอันหนึ่งเกิดขึ้น

“ถ้าไม่หายไปกับเขา ยัยปั้นหยามันก็ต้องติดต่อเราแล้วล่ะค่ะ ปั้นหยามันต้องรู้ว่าเราเป็นห่วง” หล่อนยืนยันความคิด

“อย่างนั้นก็เถอะ แม่อยากให้ลูกใจเย็นๆ ค่อยๆ พูดจากัน แม่ห่วง ถ้างานทางนี้เสร็จแม่จะตามเราไปดีไหม?”     

“ดีค่ะ แม่มาเร็วๆ นะ” สำเนียงพูดมีแววประจบ

คุณรดามีรางสังหรณ์อย่างหนึ่งที่จู่ๆ ก็ผุดวาบขึ้นในใจ รางสังหรณ์ที่เธอเองก็ตอบไม่ได้ว่า...อะไร ฉะนั้นประโยคต่อมาจึงเตือนอ่อน เบา

“ระวังตัวนะลูก”

“ค่ะ”

มนตร์ปลายเดือนคุยกับมารดาอีกสองสามประโยคจึงวางสาย หล่อนคิดในใจว่าถ้ามารดามาจริงๆ จะชวนไปถึงซาบิสเสียเลย

ให้อย่างไรหญิงสาวมั่นใจว่าเพื่อนหล่อนถูก ‘นายชีคนั่น’ พาตัวไปแน่!

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา