หวานใจสาวนักดริฟ
-
เขียนโดย ไอติมโคนนี่
วันที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2561 เวลา 17.00 น.
11 ตอน
0 วิจารณ์
12.36K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 11 มกราคม พ.ศ. 2561 17.09 น. โดย เจ้าของนิยาย
11) ตอนที่ 11 เป็นคนรัก
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความตอนที่ 11 เป็นคนรัก
ช่วงนี้ใกล้วันแข่งเข้ามาทุกที แต่คนหน้าคมนั้นไม่ได้ลงซ้อม เพราะระยะในการเดินทางมันไกล ในเหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้ต้องระวังตัว จึงงดซ้อมจนกว่าจะถึงวันแข่งจริง เป็นเหตุให้คนหน้าคมมานั่งอยู่ในห้องทำงานคนหน้าหวาน
“พี่เซนคะ ถึงจะไม่มีซ้อมแต่ก็ไม่เห็นจำเป็นต้องมาอยู่แต่ห้องเมลเลยนิ่” คนหน้าหวานบ่น
“ก็พี่อยากอยู่กับเรานิ่” คนหน้าคมหันมายิ้มให้
“เมลก็อยากอยู่ด้วย แต่เมลไม่มีสมาธิเลยค่ะ” คนหน้าหวานมองการแต่งตัวคนที่พูดด้วยความไม่เข้าใจ
“ทำไมล่ะคะ?” คนหน้าคมมองสายตาคนที่กำลังบ่น ก็รู้ทันที คงเพราะตนนั้นถอดเสื้อคลุมจึงเหลือแต่เสื้อกล้าม เซนย่าจึงถือโอกาสนี้แกล้งคนหน้าหวาน ค่อยๆ ชูแขนขึ้นบิดขี้เกียจไปมา ทำให้คนที่มองอยู่ต้องตาโตขึ้นไปอีก เมื่อเห็นไอ้ที่นูนออกมาไม่ใหญ่จนล้นนั้นและบิดคอไปมาให้เห็นส่วนเซ็กซี่
“พะ..พี่เซนคะ ช่วยนั่งทำงานของตัวเองนิ่งๆ เถอะค่ะ” คนหน้าหวานก้มอ่านเอกสารตรงหน้าต่อ แต่จริงๆ แล้วไม่ได้อ่านเลย แค่ไม่อยากมองสิ่งล่อตาแค่นั้น
“หืมมม พี่แค่เมื่อยเลยบิดขี้เกียจเอง” คนหน้าคมหัวเราะนิดๆ ที่แกล้งคนรักตนให้เขินได้
“แล้วทำไมต้องถอดเสื้อคลุมออกด้วยละคะ”
“ก็พี่ร้อนนิ่คะ พี่เป็นคนขี้ร้อน” คนหน้าคมพูดทั้งที่ยังคงพิมพ์งานในโน๊ตบุ๊คตนเองต่อ
“ค่ะ งั้นเมลปรับแอร์ให้นะคะ” คนหน้าหวานรีบปรับแอร์ให้อุณหภูมิต่ำลง เพื่อที่ใครเข้ามาจะได้ไม่มาเห็นอะไรแบบนี้ ก็คนมันห่วงนิ่
“โอเค พี่สวมเสื้อก็ได้ค่ะ” คนหน้าคมพูดจบ จึงลุกขึ้นไปหยิบเสื้อที่พาดอยู่บนโซฟาอีกข้างมาสวมใส่และเดินมานั่งลงที่เดิมเพื่อเคลียร์งานตนให้เสร็จ อยู่ๆ เสียงโทรศัพท์ของคนหน้าคมก็ดังขึ้น
Rrrrrr
“ว่าไง?”
[คุณเซนครับ มีคนน่าสงสัยอยู่หน้าตึก กำลังทำลับๆ ล่อๆ ครับ]
“ดูมันไว้ให้ดีๆ ถ้าเห็นท่าไม่ดีจับมันซะ เดี๋ยวฉันเข้าไป” เป็นอันรู้กันว่าต้องจับไปที่ไหน คนหน้าคมพูดจบก็ตัดสายทิ้ง
“มีอะไรหรือเปล่าคะ?” คนหน้าหวานที่แอบฟังอยู่ถามขึ้น
“อ่อ ไม่มีไรหรอก แค่คนน่าสงสัยน่ะ” คนหน้าคมตอบ “ไม่ต้องห่วงนะ พี่จะดูแลอย่างดี”
“เมลรู้ค่ะว่าพี่เก่ง” คนหน้าหวานยิ้มให้
คนโดนชมได้แต่ยิ้มห่วงอีกคน คนหน้าคมคิดในใจ ฉันคงต้องฝึกเมลซะแล้วสิ ถ้าฉันช่วยอะไรไม่ทันอย่างน้อยก็ป้องกันได้บ้าง
“เมลคะ” คนหน้าคมเรียก
“คะ?”
“ว่างๆ ไปบ้านพี่นะคะ พี่อยากให้เมลมีการป้องกันตัวที่ดีน่ะ”
“ก็ดีเหมือนกันนะคะ”
เมื่อทั้งคู่ต่างตั้งหน้าตั้งตาทำงานของตนต่ออย่างช้าๆ แต่มีอีกคนหนึ่งที่ยังคงกลุ้มใจ คุณกิตติยังไม่แน่ใจว่าตอนนี้ควรจะเปิดตัวว่าที่ประธานคนใหม่ได้หรือยัง ตนนั้นอยากให้วลีดารีบขึ้นมาทำหน้าที่แทน เพราะอยากให้ลูกเติบโตเร็วขึ้นรู้จักสังคมนักธุรกิจ
คนหน้าคมที่ได้รับข้อความจากลูกน้อง จึงเปิดอ่านดู ตัวอักษรที่แสดงนั้นทำให้ต้องตกใจอย่างมาก จึงรีบเก็บของใส่กระเป๋าตนเอง และเดินไปหาคนหน้าหวานทันที
“พี่ขอตัวกลับก่อนนะคะ เดี๋ยวให้จอนไปส่งบ้านนะ” จอนคือลูกน้องมือขวาของคนหน้าคม
“ค่ะ ถึงแล้วบอกเมลด้วยนะคะ”
“ค่ะ” เซนย่าก้มลงไปสัมผัสแก้มคนหน้าหวานด้วยปากเบาๆ ก่อนจะผละออกและยิ้มให้ก่อนจะเดินออกจากห้องไป
เมื่อขึ้นมานั่งบนรถคันหรูของตนเอง จึงรีบหยิบมือถือขึ้นมากดโทรออกไปยังเบอร์ที่ส่งข้อความมา ไม่นานสายปลายทางก็รับ
“ว่าไงจอน มันต้องการอะไรถึงมาอยู่หน้าตึก”
[มันไม่ยอมตอบครับ]
“ดี เดี๋ยวฉันไปจัดการเอง” พูดจบก็ตัดสายทิ้ง แล้วรีบออกรถตรงไปยังบ้านใหญ่ตน
เซนย่าเลี้ยวรถเข้ามาจอดที่ประจำของตนเองก่อนจะรีบดับเครื่องและเดินไปยังห้องใต้ดิน ที่แยกออกมาจากบ้านหลังใหญ่ เป็นบ้านของเซนย่าไว้ใช้เป็นพื้นที่ส่วนตัว ใต้ดินจึงมีเพียงแค่ลูกน้องคนสนิทกับคนหน้าคมเท่านั้นที่สามารถเข้าไปได้
เซนย่าที่เดินลงมาห้องใต้ดินนั้น พยักหน้าให้แม็คลูกน้องคนสนิท ก่อนจะเดินไปยืนข้างหน้า คนที่จอนจับตัวไว้ได้ นั่งนิ่งอยู่ คนหน้าคมคว้าถังน้ำสาดใส่คนที่โดนมัดตัวไว้กับเก้าอี้
ซ่า!
แค่ก แค่ก!
“ใครส่งแกมา? !!” คนหน้าคมเปิดประเด็น
“บ้าเหรอ ถามมาคิดว่าจะตอบหรือไง” ชายถูกมัดแสยะยิ้ม
“หึ สงสัยคงต้องใช้ความรุนแรง” คนหน้าคมเตะเท้าเสยปากคนถูกมัดจนหน้าหัน
“ไหนดูซิ จะหุบปากได้นานแค่ไหนกัน” พูดจบก็หันไปหาแม็ค พยักหน้าให้ และเดินไปยังโซฟาที่วางอยู่ตรงข้ามชายถูกมัด คนหน้าคมนั่งกอดอก ก่อนจะให้สัญญาณแม็ค
“จัดการมันซะ” แม็คได้ยินอย่างนั้น ก็เปลี่ยนจากการมัดนั่งเก้าอี้ จับมือที่ถูกมัดขึ้นเหนือหัวผูกไว้กับเชือกที่ห้อยลงมาจากเพดานห้อง ชายคนนั้นไม่ขัดขืนอะไรมากเพราะเรี่ยวแรงลดน้อยลงจากการโดนชกตอนจับตัว ทำให้ตอนนี้อยู่ในท่ายืน
เมื่อทำการมัดเรียบร้อย แม็คก็เริ่มออกหมัดใส่ไม่ยั้ง รัวหมัดไปที่ท้อง ทำให้คนโดนชกถึงกับไอออกมา คนหน้าคมจึงทัก
“พอก่อน เดี๋ยวมันแย่เอา” พอแม็คหยุดมือ และเดินไปยืนข้างโซฟา “ไหนตอบ ใครส่งแกมา?” ชายคนนั้นได้แต่ยิ้มมุมปาก ทำให้คนหน้าคมเบื่อหน่ายกับการรอจึงหยิบปืนออกมาจากหลังกางเกงและยิงไปที่ขาชายคนนั้น
ปัง!!
ทำให้ชายคนนั้นร้องโอดครวญออกมา คนหน้าคมจึงถามย้ำคำเหมือนเดิม
“ไหนนน ใครส่งแกมา?!?!” ชายคนนั้นยังคงยิ้มมุมปากและเริ่มหายใจหอบ ทำให้คนหน้าคมยิงไปที่แขนข้างหนึ่ง
ปัง!!
“ไม่อยากตากก็ตอบมา!!” ชายคนนั้นเริ่มทำสีหน้ากังวลกลัวตายจึงเผลอพูดออกไป
“ท่านโรเทล!!” คนหน้าคมที่ได้ยินอย่างนั้นก็ยิ้มขึ้น และลุกเดินไปตรงหน้า
“ดีมากกก แล้วใช้แกมาทำอะไรไม่ทราบ?!?!”
“เขาแคะ.....แค่ใช้ให้มาวางระเบิดก่อกวน”
“โอเค ดีมากที่ตอบมา” คนหน้าคมพูดจบก็เดินหันหลังให้ และพยักหน้าให้แม็ค เมื่อได้รับการพยักหน้า จึงยกปืนขึ้นยิงไปที่ศีรษะชายคนนั้นจนหมดสติทันทีมเมื่อกระสุนวิ่งผ่านสมองทะลุออกไป
เมื่อเซนย่าเดินขึ้นมาจากชั้นใต้ดินก็ยกโทรศัพท์ตนขึ้นโทรออกหาผู้เป็นพ่อทันที รอสายไม่นานก็ถูกรับ คนหน้าคมจึงเอ่ยออกไปในสาย
“แด๊ด มีคนของโรเทลมันจะวางระเบิดหน้าตึก กาจสกุล”
[มันคงจะเริ่มแล้วสินะ]
“อะไรคะ นี่มันเกินไปแล้วนะ ทำไมมันไม่ไปก่อกวนบริษัทเราล่ะ”
[มันคงรู้แล้วน่ะสิ คนรักของลูก]
“.....”
[โรเทลมันคงจ้องเล่นงานหนูเมลด้วย]
“เฮ้อ! เซนก็ว่างั้นแหละ มันคงไม่วางมือง่ายๆ แน่ถ้าไม่ได้ฆ่าใครสักคน”
[ใกล้แข่งแล้วก็ระวังตัวล่ะ]
“เซนเก่งอยู่แล้ว ส่วนเมลน่ะ เพื่อความปลอดภัย เซนเลยชวนเมลมาฝึกวิชาป้องกันตัวที่บ้านนะคะ”
[ดีๆ]
จบการสนทนาจึงกดวาง และเดินขึ้นไปยังห้องตัวเองเพื่ออาบน้ำ บ้านหลังนี้เป็นของเซนย่า มีสองชั้นและชั้นใต้ดิน ด้านบนชั้นสองจะเป็นห้องส่วนตัว อีกครึ่งหนึ่งเปิดออกไปจะเป็นพื้นที่เปิดโล่ง ชั้นล่างจะมีเครื่องออกกำลังกาย และสำหรับฝึกซ้อม เวทีมวย ชั้นใต้ดินจะเป็นห้องลับ
ขณะที่เซนย่ากำลังอาบน้ำอยู่ อยู่ๆ เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นให้ได้ยิน เพราะเป็นห้องตนเอง และไม่มีใครเข้ามาถ้าไม่ได้รับอนุญาต จึงเปิดประตูห้องน้ำไว้ จึงได้ยินเสียงโทรศัพท์ที่วางอยู่บนเตียง เซนย่าค่อยๆ ปิดน้ำลง และก้าวขาออกมาจากห้องน้ำ หยิบโทรศัพท์ที่โชว์ชื่อคนรักขึ้นมารับ
“ว่าไงคะ?” คนหน้าคมเอ่ยเสียงหวาน
[ลืมอะไรหรือเปล่าคะ?] คนหน้าหวานกรอกเสียงมาเป็นเสียงแข็ง
คนหน้าคมนึกย้อนความ ก็ต้องสะดุ้ง เมื่อนึกขึ้นได้ “พี่ขอโทษค่ะ พี่รีบทำธุระจริงๆ”
[ไม่เป็นไรค่ะ เมลเลิกงานขอไปหาพี่เซนเลยได้มั๊ยคะ?] คนหน้าหวานเริ่มทำเสียงอ้อน
“ได้สิคะ” คนหน้าคมจึงถามต่ออีก “ว่าแต่มาทำไมคะ?” พูดเชิงกวนไป
[ชิ! ก็อยากไปหาแค่นั้นแหละ แค่นี้! จะรีบทำงานค่ะ]
“คิดถึงก็พูดออกมาค่ะ ทำเป็นปากแข็งไปได้”
[ชิ! ค่ะ] จากนั้นวลีดาก็วางสายไป เซนย่าที่เพิ่งรู้สึกถึงความเย็น ลืมไปว่าตนไม่ได้นุ่งผ้าออกมาด้วย จึงเข้าห้องน้ำไปชำระร่างกายต่อ
วลีดาที่มาถึงบ้านของเซนย่าก็ต้องงง เมื่อเห็นบ้านหลังเล็กนี้ที่ต่างจากอีกหลังหนึ่งที่เคยไปมา เพราะเพิ่งเคยเห็นบ้านหลังนี้จึงหันไปถามจอนที่กำลังจะนำรถไปจอดที่โรงรถ
“คุณจอนคะ นี่บ้านของพี่เซนเหรอ?” คนหน้าหวานชี้นิ้วไปที่บ้านตรงหน้า
“ใช้ครับ บ้านหลังนี้เป็นของคุณเซนครับ” เมื่อจบการสนทนา คนหน้าหวานกำลังจะเปิดประตูเข้าไปก็ต้องเปิดประตูลมแทน เพราะมีคนเปิดประตูออกมา ทำให้เซไปด้านหน้า
“เอ้า! เป็นไรมั๊ยเนี่ย” คนหน้าคมที่รับได้ทันพอดีถามขึ้น
“งือออ พี่เซนอ่ะ เกือบล้มเลย” คนหน้าหวานกลับมายืนตรงเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือความงอน
“ฮ่าๆ ๆ พี่ไม่ได้ตั้งใจซะหน่อย” เซนย่าจุงมือวลีดาเข้ามาในตัวบ้าน จากหน้างอนๆ เปลี่ยนเป็นความเหวอ เมื่อเห็นข้างในตัวบ้านที่แปลกตา
“นี่บ้านหรืออะไรเนี่ย” วลีดาที่ได้สติหันมาถาม
“บ้านสิคะ” เซนย่ายิ้มให้ “จะซ้อมเลยมั๊ย หรือจะพักก่อน?”
“พักก่อนสิคะ เมลไม่ได้ถึกนะ”
“งั้นคืนนี้นอนค้างนี่เนาะ” เซนย่าค่อยๆ โน้มตัวไปกอดวลีดาและกระซิบบอกบางอย่าง “คืนนี้คงไม่ได้นอนแน่” คำกำกวมทำให้วลีดาต้องผลักตัวออกมา แล้วรีบวิ่งหนี แต่ก็ไม่ทันเซนย่ามือไวคว้าทัน ทำให้เกิดการฉุดกระชากขึ้น เพราะวลีดาไม่ยอม พยายามดิ้นให้หลุดแต่ก็ไม่หลุด เซนย่าที่มีแรงเยอะกว่าได้แต่ยืนหัวเราะ ก็ตนเองแทบจะไม่ได้ออกแรงมากมายเลย
“พี่เซน ปล่อยเมลนะ” ปากพูด มือก็แกะมืออีกคนออก
“ฮ่าๆ ๆ แรงน้อยมากนะ พี่ว่าขึ้นไปอาบน้ำให้สดชื่นก่อนแล้วลงมาซ้อมกันเลยดีกว่าค่ะ” วลีดาที่ได้ยินอย่างนั้นก็ต้องนิ่งและเงยหน้าถาม
“นี่พี่แกล้งเมลเหรอ”
“เปล่านะ ไปๆ รีบไปอาบ” เซนย่ารีบเปลี่ยนเรื่อง เพื่อจะได้ซ้อมกันสักที เห็นแบบนี้ปล่อยไว้ไม่ได้หรอก แรงน้อยขนาดนี้มีหวังเป็นอันตรายได้แน่
ขึ้นมาด้านบนได้ เซนย่ากำลังจะปลดกระดุมให้วลีดา แต่ก็ต้องเอามือออกทันที เมื่อโดนคนหน้าหวานตีเข้าให้ที่มือ จึงต้องไปนั่งรอบนเตียงอย่างเงียบๆ เป็นที่พอใจของวลีดาอย่างมาก วลีดาจึงเดินเข้าไปอาบน้ำ
เซนย่าที่กำลังนั่งรออยู่บนเตียงก็ต้องลุกขึ้นลงข้างล่าง เมื่อแม็คส่งข้อความบางอย่างมาทำให้ต้องรีบลงไปทันที
พอเปิดประตูหน้าบ้านเท่านั้นแหละ ก็ต้องตัวแข็งทื่อไปเลย ก็อยู่ๆ ผู้หญิงคนหนึ่งกระโจนเข้ามากอด เซนย่าจึงตบที่หลังเบาๆ ให้ปล่อยได้แล้ว ผู้หญิงร่างสูงจึงปล่อยออกมา
“คิดถึงเซนจังเลยค่ะ”
“โตขนาดนี้แล้วนะ ยังจะมาอ้อนอีก”
“ก็ซันคิดถึงเซนจริงๆ นิ่”
“รู้แล้วๆ ตอนนี้กลับไปก่อนเถอะ เซนไม่ว่าง”
“อะไรกัน เซนเปลี่ยนไปนะ แต่ก่อนเซนไม่ว่างก็จะทำตัวว่างทันทีเมื่อซันมา” สาวร่างสูงทำหน้างอใส่
“โตๆ กันแล้ว ไปรอบ้านใหญ่นะ”
“ไม่เอาอ่ะ เซนเปลี่ยนไปจริงๆ ด้วย”
“เซนก็ยังเป็นเซนนั่นแหละ”
“ไม่จริง”
“จริงๆ ขอล่ะ ไปรอบ้านใหญ่นะ” เซนย่าเริ่มเบื่อหน่าย เมื่อพูดแล้วไม่ยอมฟัง
ในระหว่างที่ยืนคุยกันอยู่ คนหน้าหวานที่อาบน้ำเสร็จก็เดินลงมา เมื่อได้ยินเสียงดังจากข้างล่าง พอมองออกไปที่ประตูก็ต้องกดคิ้วลงต่ำ ก็คนหน้าคมกำลังกอดกับใครอยู่ไม่รู้ ดียิ้มใหญ่เลย
วลีดากำลังเดินลงไปหาคนหน้าคมหน้าประตูก็ต้องตาโต เมื่อผู้หญิงคนนั้นก้มลงมาหอมแก้มคนหน้าคม วลีดารู้สึกเจ็บที่หน้าอกจนต้องเอามือมากลุ้มไว้ที่อก ก่อนจะหันหลังกลับเดินไปยังห้องเดิม
“นี่เราเป็นอะไรกัน” วลีดาที่นั่งกลุ้มที่อกอยู่ก็ต้องหันไปมองทางประตูที่ตะกี้ตนเพิ่งเข้ามา
“อาบเสร็จแล้วเหรอคะ ไปซ้อมกันค่ะ” เซนย่าที่ไม่รู้เรื่องอะไร เดินเข้ามาจับมือคนหน้าหวานแต่ถูกสะบัดออก
“เดินเองได้ค่ะ” เซนย่ารับรู้ถึงเสียงเปลี่ยนไปจึงถามออกมา
“เป็นอะไรหรือเปล่า?” วลีดาที่หันไปสบสายตาคนหน้าคมพอดี ก็ต้องเผลอใจอ่อนพูดความจริงออกมา
“เมื่อกี้ใครกันคะ หน้าประตู?” เซนย่าที่ได้ยินอย่างนั้นก็ต้องเม้มปากเป็นเส้นตรง
“ไม่อยากตอบเหรอคะ?”
“ไม่ใช่อย่างนั้น คือเขาเป็....” พูดไม่ทันจบก็มีคนเปิดประตูเข้ามาขัดจังหวะ และพูดออกมา
“เป็นคนรักค่ะ!!”
รอติดตามตอนต่อไป
เอ่ะๆ ! ใครกันเนี่ย คงต้องรอฟังจากปากเซนซะแล้ว
คอมเม้นต์ติชมกันได้น๊า
ช่วงนี้ใกล้วันแข่งเข้ามาทุกที แต่คนหน้าคมนั้นไม่ได้ลงซ้อม เพราะระยะในการเดินทางมันไกล ในเหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้ต้องระวังตัว จึงงดซ้อมจนกว่าจะถึงวันแข่งจริง เป็นเหตุให้คนหน้าคมมานั่งอยู่ในห้องทำงานคนหน้าหวาน
“พี่เซนคะ ถึงจะไม่มีซ้อมแต่ก็ไม่เห็นจำเป็นต้องมาอยู่แต่ห้องเมลเลยนิ่” คนหน้าหวานบ่น
“ก็พี่อยากอยู่กับเรานิ่” คนหน้าคมหันมายิ้มให้
“เมลก็อยากอยู่ด้วย แต่เมลไม่มีสมาธิเลยค่ะ” คนหน้าหวานมองการแต่งตัวคนที่พูดด้วยความไม่เข้าใจ
“ทำไมล่ะคะ?” คนหน้าคมมองสายตาคนที่กำลังบ่น ก็รู้ทันที คงเพราะตนนั้นถอดเสื้อคลุมจึงเหลือแต่เสื้อกล้าม เซนย่าจึงถือโอกาสนี้แกล้งคนหน้าหวาน ค่อยๆ ชูแขนขึ้นบิดขี้เกียจไปมา ทำให้คนที่มองอยู่ต้องตาโตขึ้นไปอีก เมื่อเห็นไอ้ที่นูนออกมาไม่ใหญ่จนล้นนั้นและบิดคอไปมาให้เห็นส่วนเซ็กซี่
“พะ..พี่เซนคะ ช่วยนั่งทำงานของตัวเองนิ่งๆ เถอะค่ะ” คนหน้าหวานก้มอ่านเอกสารตรงหน้าต่อ แต่จริงๆ แล้วไม่ได้อ่านเลย แค่ไม่อยากมองสิ่งล่อตาแค่นั้น
“หืมมม พี่แค่เมื่อยเลยบิดขี้เกียจเอง” คนหน้าคมหัวเราะนิดๆ ที่แกล้งคนรักตนให้เขินได้
“แล้วทำไมต้องถอดเสื้อคลุมออกด้วยละคะ”
“ก็พี่ร้อนนิ่คะ พี่เป็นคนขี้ร้อน” คนหน้าคมพูดทั้งที่ยังคงพิมพ์งานในโน๊ตบุ๊คตนเองต่อ
“ค่ะ งั้นเมลปรับแอร์ให้นะคะ” คนหน้าหวานรีบปรับแอร์ให้อุณหภูมิต่ำลง เพื่อที่ใครเข้ามาจะได้ไม่มาเห็นอะไรแบบนี้ ก็คนมันห่วงนิ่
“โอเค พี่สวมเสื้อก็ได้ค่ะ” คนหน้าคมพูดจบ จึงลุกขึ้นไปหยิบเสื้อที่พาดอยู่บนโซฟาอีกข้างมาสวมใส่และเดินมานั่งลงที่เดิมเพื่อเคลียร์งานตนให้เสร็จ อยู่ๆ เสียงโทรศัพท์ของคนหน้าคมก็ดังขึ้น
Rrrrrr
“ว่าไง?”
[คุณเซนครับ มีคนน่าสงสัยอยู่หน้าตึก กำลังทำลับๆ ล่อๆ ครับ]
“ดูมันไว้ให้ดีๆ ถ้าเห็นท่าไม่ดีจับมันซะ เดี๋ยวฉันเข้าไป” เป็นอันรู้กันว่าต้องจับไปที่ไหน คนหน้าคมพูดจบก็ตัดสายทิ้ง
“มีอะไรหรือเปล่าคะ?” คนหน้าหวานที่แอบฟังอยู่ถามขึ้น
“อ่อ ไม่มีไรหรอก แค่คนน่าสงสัยน่ะ” คนหน้าคมตอบ “ไม่ต้องห่วงนะ พี่จะดูแลอย่างดี”
“เมลรู้ค่ะว่าพี่เก่ง” คนหน้าหวานยิ้มให้
คนโดนชมได้แต่ยิ้มห่วงอีกคน คนหน้าคมคิดในใจ ฉันคงต้องฝึกเมลซะแล้วสิ ถ้าฉันช่วยอะไรไม่ทันอย่างน้อยก็ป้องกันได้บ้าง
“เมลคะ” คนหน้าคมเรียก
“คะ?”
“ว่างๆ ไปบ้านพี่นะคะ พี่อยากให้เมลมีการป้องกันตัวที่ดีน่ะ”
“ก็ดีเหมือนกันนะคะ”
เมื่อทั้งคู่ต่างตั้งหน้าตั้งตาทำงานของตนต่ออย่างช้าๆ แต่มีอีกคนหนึ่งที่ยังคงกลุ้มใจ คุณกิตติยังไม่แน่ใจว่าตอนนี้ควรจะเปิดตัวว่าที่ประธานคนใหม่ได้หรือยัง ตนนั้นอยากให้วลีดารีบขึ้นมาทำหน้าที่แทน เพราะอยากให้ลูกเติบโตเร็วขึ้นรู้จักสังคมนักธุรกิจ
คนหน้าคมที่ได้รับข้อความจากลูกน้อง จึงเปิดอ่านดู ตัวอักษรที่แสดงนั้นทำให้ต้องตกใจอย่างมาก จึงรีบเก็บของใส่กระเป๋าตนเอง และเดินไปหาคนหน้าหวานทันที
“พี่ขอตัวกลับก่อนนะคะ เดี๋ยวให้จอนไปส่งบ้านนะ” จอนคือลูกน้องมือขวาของคนหน้าคม
“ค่ะ ถึงแล้วบอกเมลด้วยนะคะ”
“ค่ะ” เซนย่าก้มลงไปสัมผัสแก้มคนหน้าหวานด้วยปากเบาๆ ก่อนจะผละออกและยิ้มให้ก่อนจะเดินออกจากห้องไป
เมื่อขึ้นมานั่งบนรถคันหรูของตนเอง จึงรีบหยิบมือถือขึ้นมากดโทรออกไปยังเบอร์ที่ส่งข้อความมา ไม่นานสายปลายทางก็รับ
“ว่าไงจอน มันต้องการอะไรถึงมาอยู่หน้าตึก”
[มันไม่ยอมตอบครับ]
“ดี เดี๋ยวฉันไปจัดการเอง” พูดจบก็ตัดสายทิ้ง แล้วรีบออกรถตรงไปยังบ้านใหญ่ตน
เซนย่าเลี้ยวรถเข้ามาจอดที่ประจำของตนเองก่อนจะรีบดับเครื่องและเดินไปยังห้องใต้ดิน ที่แยกออกมาจากบ้านหลังใหญ่ เป็นบ้านของเซนย่าไว้ใช้เป็นพื้นที่ส่วนตัว ใต้ดินจึงมีเพียงแค่ลูกน้องคนสนิทกับคนหน้าคมเท่านั้นที่สามารถเข้าไปได้
เซนย่าที่เดินลงมาห้องใต้ดินนั้น พยักหน้าให้แม็คลูกน้องคนสนิท ก่อนจะเดินไปยืนข้างหน้า คนที่จอนจับตัวไว้ได้ นั่งนิ่งอยู่ คนหน้าคมคว้าถังน้ำสาดใส่คนที่โดนมัดตัวไว้กับเก้าอี้
ซ่า!
แค่ก แค่ก!
“ใครส่งแกมา? !!” คนหน้าคมเปิดประเด็น
“บ้าเหรอ ถามมาคิดว่าจะตอบหรือไง” ชายถูกมัดแสยะยิ้ม
“หึ สงสัยคงต้องใช้ความรุนแรง” คนหน้าคมเตะเท้าเสยปากคนถูกมัดจนหน้าหัน
“ไหนดูซิ จะหุบปากได้นานแค่ไหนกัน” พูดจบก็หันไปหาแม็ค พยักหน้าให้ และเดินไปยังโซฟาที่วางอยู่ตรงข้ามชายถูกมัด คนหน้าคมนั่งกอดอก ก่อนจะให้สัญญาณแม็ค
“จัดการมันซะ” แม็คได้ยินอย่างนั้น ก็เปลี่ยนจากการมัดนั่งเก้าอี้ จับมือที่ถูกมัดขึ้นเหนือหัวผูกไว้กับเชือกที่ห้อยลงมาจากเพดานห้อง ชายคนนั้นไม่ขัดขืนอะไรมากเพราะเรี่ยวแรงลดน้อยลงจากการโดนชกตอนจับตัว ทำให้ตอนนี้อยู่ในท่ายืน
เมื่อทำการมัดเรียบร้อย แม็คก็เริ่มออกหมัดใส่ไม่ยั้ง รัวหมัดไปที่ท้อง ทำให้คนโดนชกถึงกับไอออกมา คนหน้าคมจึงทัก
“พอก่อน เดี๋ยวมันแย่เอา” พอแม็คหยุดมือ และเดินไปยืนข้างโซฟา “ไหนตอบ ใครส่งแกมา?” ชายคนนั้นได้แต่ยิ้มมุมปาก ทำให้คนหน้าคมเบื่อหน่ายกับการรอจึงหยิบปืนออกมาจากหลังกางเกงและยิงไปที่ขาชายคนนั้น
ปัง!!
ทำให้ชายคนนั้นร้องโอดครวญออกมา คนหน้าคมจึงถามย้ำคำเหมือนเดิม
“ไหนนน ใครส่งแกมา?!?!” ชายคนนั้นยังคงยิ้มมุมปากและเริ่มหายใจหอบ ทำให้คนหน้าคมยิงไปที่แขนข้างหนึ่ง
ปัง!!
“ไม่อยากตากก็ตอบมา!!” ชายคนนั้นเริ่มทำสีหน้ากังวลกลัวตายจึงเผลอพูดออกไป
“ท่านโรเทล!!” คนหน้าคมที่ได้ยินอย่างนั้นก็ยิ้มขึ้น และลุกเดินไปตรงหน้า
“ดีมากกก แล้วใช้แกมาทำอะไรไม่ทราบ?!?!”
“เขาแคะ.....แค่ใช้ให้มาวางระเบิดก่อกวน”
“โอเค ดีมากที่ตอบมา” คนหน้าคมพูดจบก็เดินหันหลังให้ และพยักหน้าให้แม็ค เมื่อได้รับการพยักหน้า จึงยกปืนขึ้นยิงไปที่ศีรษะชายคนนั้นจนหมดสติทันทีมเมื่อกระสุนวิ่งผ่านสมองทะลุออกไป
เมื่อเซนย่าเดินขึ้นมาจากชั้นใต้ดินก็ยกโทรศัพท์ตนขึ้นโทรออกหาผู้เป็นพ่อทันที รอสายไม่นานก็ถูกรับ คนหน้าคมจึงเอ่ยออกไปในสาย
“แด๊ด มีคนของโรเทลมันจะวางระเบิดหน้าตึก กาจสกุล”
[มันคงจะเริ่มแล้วสินะ]
“อะไรคะ นี่มันเกินไปแล้วนะ ทำไมมันไม่ไปก่อกวนบริษัทเราล่ะ”
[มันคงรู้แล้วน่ะสิ คนรักของลูก]
“.....”
[โรเทลมันคงจ้องเล่นงานหนูเมลด้วย]
“เฮ้อ! เซนก็ว่างั้นแหละ มันคงไม่วางมือง่ายๆ แน่ถ้าไม่ได้ฆ่าใครสักคน”
[ใกล้แข่งแล้วก็ระวังตัวล่ะ]
“เซนเก่งอยู่แล้ว ส่วนเมลน่ะ เพื่อความปลอดภัย เซนเลยชวนเมลมาฝึกวิชาป้องกันตัวที่บ้านนะคะ”
[ดีๆ]
จบการสนทนาจึงกดวาง และเดินขึ้นไปยังห้องตัวเองเพื่ออาบน้ำ บ้านหลังนี้เป็นของเซนย่า มีสองชั้นและชั้นใต้ดิน ด้านบนชั้นสองจะเป็นห้องส่วนตัว อีกครึ่งหนึ่งเปิดออกไปจะเป็นพื้นที่เปิดโล่ง ชั้นล่างจะมีเครื่องออกกำลังกาย และสำหรับฝึกซ้อม เวทีมวย ชั้นใต้ดินจะเป็นห้องลับ
ขณะที่เซนย่ากำลังอาบน้ำอยู่ อยู่ๆ เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นให้ได้ยิน เพราะเป็นห้องตนเอง และไม่มีใครเข้ามาถ้าไม่ได้รับอนุญาต จึงเปิดประตูห้องน้ำไว้ จึงได้ยินเสียงโทรศัพท์ที่วางอยู่บนเตียง เซนย่าค่อยๆ ปิดน้ำลง และก้าวขาออกมาจากห้องน้ำ หยิบโทรศัพท์ที่โชว์ชื่อคนรักขึ้นมารับ
“ว่าไงคะ?” คนหน้าคมเอ่ยเสียงหวาน
[ลืมอะไรหรือเปล่าคะ?] คนหน้าหวานกรอกเสียงมาเป็นเสียงแข็ง
คนหน้าคมนึกย้อนความ ก็ต้องสะดุ้ง เมื่อนึกขึ้นได้ “พี่ขอโทษค่ะ พี่รีบทำธุระจริงๆ”
[ไม่เป็นไรค่ะ เมลเลิกงานขอไปหาพี่เซนเลยได้มั๊ยคะ?] คนหน้าหวานเริ่มทำเสียงอ้อน
“ได้สิคะ” คนหน้าคมจึงถามต่ออีก “ว่าแต่มาทำไมคะ?” พูดเชิงกวนไป
[ชิ! ก็อยากไปหาแค่นั้นแหละ แค่นี้! จะรีบทำงานค่ะ]
“คิดถึงก็พูดออกมาค่ะ ทำเป็นปากแข็งไปได้”
[ชิ! ค่ะ] จากนั้นวลีดาก็วางสายไป เซนย่าที่เพิ่งรู้สึกถึงความเย็น ลืมไปว่าตนไม่ได้นุ่งผ้าออกมาด้วย จึงเข้าห้องน้ำไปชำระร่างกายต่อ
วลีดาที่มาถึงบ้านของเซนย่าก็ต้องงง เมื่อเห็นบ้านหลังเล็กนี้ที่ต่างจากอีกหลังหนึ่งที่เคยไปมา เพราะเพิ่งเคยเห็นบ้านหลังนี้จึงหันไปถามจอนที่กำลังจะนำรถไปจอดที่โรงรถ
“คุณจอนคะ นี่บ้านของพี่เซนเหรอ?” คนหน้าหวานชี้นิ้วไปที่บ้านตรงหน้า
“ใช้ครับ บ้านหลังนี้เป็นของคุณเซนครับ” เมื่อจบการสนทนา คนหน้าหวานกำลังจะเปิดประตูเข้าไปก็ต้องเปิดประตูลมแทน เพราะมีคนเปิดประตูออกมา ทำให้เซไปด้านหน้า
“เอ้า! เป็นไรมั๊ยเนี่ย” คนหน้าคมที่รับได้ทันพอดีถามขึ้น
“งือออ พี่เซนอ่ะ เกือบล้มเลย” คนหน้าหวานกลับมายืนตรงเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือความงอน
“ฮ่าๆ ๆ พี่ไม่ได้ตั้งใจซะหน่อย” เซนย่าจุงมือวลีดาเข้ามาในตัวบ้าน จากหน้างอนๆ เปลี่ยนเป็นความเหวอ เมื่อเห็นข้างในตัวบ้านที่แปลกตา
“นี่บ้านหรืออะไรเนี่ย” วลีดาที่ได้สติหันมาถาม
“บ้านสิคะ” เซนย่ายิ้มให้ “จะซ้อมเลยมั๊ย หรือจะพักก่อน?”
“พักก่อนสิคะ เมลไม่ได้ถึกนะ”
“งั้นคืนนี้นอนค้างนี่เนาะ” เซนย่าค่อยๆ โน้มตัวไปกอดวลีดาและกระซิบบอกบางอย่าง “คืนนี้คงไม่ได้นอนแน่” คำกำกวมทำให้วลีดาต้องผลักตัวออกมา แล้วรีบวิ่งหนี แต่ก็ไม่ทันเซนย่ามือไวคว้าทัน ทำให้เกิดการฉุดกระชากขึ้น เพราะวลีดาไม่ยอม พยายามดิ้นให้หลุดแต่ก็ไม่หลุด เซนย่าที่มีแรงเยอะกว่าได้แต่ยืนหัวเราะ ก็ตนเองแทบจะไม่ได้ออกแรงมากมายเลย
“พี่เซน ปล่อยเมลนะ” ปากพูด มือก็แกะมืออีกคนออก
“ฮ่าๆ ๆ แรงน้อยมากนะ พี่ว่าขึ้นไปอาบน้ำให้สดชื่นก่อนแล้วลงมาซ้อมกันเลยดีกว่าค่ะ” วลีดาที่ได้ยินอย่างนั้นก็ต้องนิ่งและเงยหน้าถาม
“นี่พี่แกล้งเมลเหรอ”
“เปล่านะ ไปๆ รีบไปอาบ” เซนย่ารีบเปลี่ยนเรื่อง เพื่อจะได้ซ้อมกันสักที เห็นแบบนี้ปล่อยไว้ไม่ได้หรอก แรงน้อยขนาดนี้มีหวังเป็นอันตรายได้แน่
ขึ้นมาด้านบนได้ เซนย่ากำลังจะปลดกระดุมให้วลีดา แต่ก็ต้องเอามือออกทันที เมื่อโดนคนหน้าหวานตีเข้าให้ที่มือ จึงต้องไปนั่งรอบนเตียงอย่างเงียบๆ เป็นที่พอใจของวลีดาอย่างมาก วลีดาจึงเดินเข้าไปอาบน้ำ
เซนย่าที่กำลังนั่งรออยู่บนเตียงก็ต้องลุกขึ้นลงข้างล่าง เมื่อแม็คส่งข้อความบางอย่างมาทำให้ต้องรีบลงไปทันที
พอเปิดประตูหน้าบ้านเท่านั้นแหละ ก็ต้องตัวแข็งทื่อไปเลย ก็อยู่ๆ ผู้หญิงคนหนึ่งกระโจนเข้ามากอด เซนย่าจึงตบที่หลังเบาๆ ให้ปล่อยได้แล้ว ผู้หญิงร่างสูงจึงปล่อยออกมา
“คิดถึงเซนจังเลยค่ะ”
“โตขนาดนี้แล้วนะ ยังจะมาอ้อนอีก”
“ก็ซันคิดถึงเซนจริงๆ นิ่”
“รู้แล้วๆ ตอนนี้กลับไปก่อนเถอะ เซนไม่ว่าง”
“อะไรกัน เซนเปลี่ยนไปนะ แต่ก่อนเซนไม่ว่างก็จะทำตัวว่างทันทีเมื่อซันมา” สาวร่างสูงทำหน้างอใส่
“โตๆ กันแล้ว ไปรอบ้านใหญ่นะ”
“ไม่เอาอ่ะ เซนเปลี่ยนไปจริงๆ ด้วย”
“เซนก็ยังเป็นเซนนั่นแหละ”
“ไม่จริง”
“จริงๆ ขอล่ะ ไปรอบ้านใหญ่นะ” เซนย่าเริ่มเบื่อหน่าย เมื่อพูดแล้วไม่ยอมฟัง
ในระหว่างที่ยืนคุยกันอยู่ คนหน้าหวานที่อาบน้ำเสร็จก็เดินลงมา เมื่อได้ยินเสียงดังจากข้างล่าง พอมองออกไปที่ประตูก็ต้องกดคิ้วลงต่ำ ก็คนหน้าคมกำลังกอดกับใครอยู่ไม่รู้ ดียิ้มใหญ่เลย
วลีดากำลังเดินลงไปหาคนหน้าคมหน้าประตูก็ต้องตาโต เมื่อผู้หญิงคนนั้นก้มลงมาหอมแก้มคนหน้าคม วลีดารู้สึกเจ็บที่หน้าอกจนต้องเอามือมากลุ้มไว้ที่อก ก่อนจะหันหลังกลับเดินไปยังห้องเดิม
“นี่เราเป็นอะไรกัน” วลีดาที่นั่งกลุ้มที่อกอยู่ก็ต้องหันไปมองทางประตูที่ตะกี้ตนเพิ่งเข้ามา
“อาบเสร็จแล้วเหรอคะ ไปซ้อมกันค่ะ” เซนย่าที่ไม่รู้เรื่องอะไร เดินเข้ามาจับมือคนหน้าหวานแต่ถูกสะบัดออก
“เดินเองได้ค่ะ” เซนย่ารับรู้ถึงเสียงเปลี่ยนไปจึงถามออกมา
“เป็นอะไรหรือเปล่า?” วลีดาที่หันไปสบสายตาคนหน้าคมพอดี ก็ต้องเผลอใจอ่อนพูดความจริงออกมา
“เมื่อกี้ใครกันคะ หน้าประตู?” เซนย่าที่ได้ยินอย่างนั้นก็ต้องเม้มปากเป็นเส้นตรง
“ไม่อยากตอบเหรอคะ?”
“ไม่ใช่อย่างนั้น คือเขาเป็....” พูดไม่ทันจบก็มีคนเปิดประตูเข้ามาขัดจังหวะ และพูดออกมา
“เป็นคนรักค่ะ!!”
รอติดตามตอนต่อไป
เอ่ะๆ ! ใครกันเนี่ย คงต้องรอฟังจากปากเซนซะแล้ว
คอมเม้นต์ติชมกันได้น๊า
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ