My Darling Twenty l ไพน์รักเมียมาก l
10.0
เขียนโดย labellprincess
วันที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2561 เวลา 18.26 น.
6 ตอน
0 วิจารณ์
8,540 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 9 มกราคม พ.ศ. 2561 18.41 น. โดย เจ้าของนิยาย
3) {อัพครบ}My Darling EP : 3 ดวงอาทิตย์น้อยของไพน์
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความEpisode : 03 ดวงอาทิตย์น้อยของไพน์
Song : Everyday With You
By : IU
“ให้ตายเถอะเธอมายั่วฉันก่อนนะ” ไพน์ว่าแล้วเอาขยับตัวมากอดฉันแล้วเอาหน้ามาซุกซอกคอฉันไว้ “ผีเข้าหรอทำไมอยู่ๆมาจูบก่อนเนี้ย”
“ให้รางวัล จุ๊บ” ฉันบอกแล้วจุ๊บลงบนหัวไพน์ทีนึง
“รางวัลไร” ไพน์ถามเสียงอู้อี้แล้วได้ยินมันสูดหายใจเฮือกใหญ่
“ร้องเพลงดีไง” ฉันบอกยิ้มๆแต่เชื่อเถะว่าไอ้ไพน์หื่นมันไม่เห็นมันมัวแต่สนใจคอฉันอยู่ไอ้บ้านี่
“แหนะ ไอ้เราก็นึกว่าป็นเมนส์แล้วอารมณ์แปรปรวน” ไพน์ว่าแล้วลูบมือไปตามเนินอกฉันบักไพน์เดี๋ยวเถอะมึง
“อย่าบอกนะมีอารมณ์อ่ะ” ฉันถามออกไปตามตรงไพน์หายใจแรงมากด้วยความที่ไพน์มันใส่แค่ผ้าเช็ดตัวตรงส่วนนั้นมันโดนต้นขาฉันด้วยแหละ “หืนว่ะ” ฉันว่าแล้ววางมือลงบนแขนข้างที่พาดอยู่บนหน้าอกตัวเอง
“เธอเป็นคนทำ” เขาบอกแล้วบีบจมูกฉันทีนึง “จะรับผิดชอบยังไงหืม” ไพน์คลอเคลียแถวซอกคอแล้วถามเสียงงึมงำ
“โน่นเลยเสียสละห้องน้ำให้ก่อนเลย” ฉันบอกแล้วกระเด้งตัวลุกขึ้นนั่งถึงนานกว่านี้อีสามีตัวดีมันจะยาวไปได้
“ไม่เอาอ่ะ เธอไปอาบน้ำเถอะ” ไพน์มันบอกแล้วก็ลุกขึ้นนั่งตาม “แต่หายเป็นเมนส์แล้วจะจัดให้ร้องขอชีวิตเลย
“กลัวตายแหละค่ะไพน์!!” ฉันบอกแล้วก็วิ่งหนีไพน์มาอาบน้ำเลยไม่ได้หันไปสนใจมันอีก ปล่อยให้คนหื่นแบบอีไพน์จัดการตัวเองไปเชื่อเถอะว่าเดี๋ยวมันคงออกไปใช้ห้องน้ำอีกห้องนึงแหน่ๆ ได้แกล้งผัวถือเป็นความสุขอย่างหนึ่งของชีวิตซอลคนนี้เลย
***
Pine Part
“มั่นใจแค่ไหนถึงกล้าแหกปากร้องขนาดนี้” ผมหันไปมองคุณนายที่นั่งร้องเพลงอยู่ข้างๆตอนนี้ผมกำลังขับรถไปจันทบุรีโดยมีคุณเมียนั่งร้องเพลงให้ฟังด้วยเสียงอันแสนพเราะของเธอ ความจริงเสียงซอลมันก็ไม่ได้ห่วยขนาดนั้นแต่ผมแค่อยากแซวเธอแค่นั้นแหละ
“มั่นใจมากกว่าตอนที่ตอบตกลงเป็นแฟนกับแกเยอะเลยไพน์” เธอหันมาบอกแล้วเบะปากใส่ผม แขวะกูได้แขวะกูดีจริงๆนะเมีย
“เออฉันรู้ว่าฉันไม่ดีไม่ต้องย้ำ” ชอบเล่นประเด็นนี้ดีนักเดี๋ยวจะแกล้งงอนคุณเธอให้
“ประสาทว่ะแค่นี้ทำตัดพ้อถ้าเจอด่าหนักกว่านี้ไม่กระโดออกนอกรถไปเลยหรอ ชิ” นอกจากจะไม่สำนักผิดอะไรแล้วคุณเธอยังเบ้ปากส่ายหัวใส่อีก “ไพน์หาปั๊มหน่อยนะปวดฉี่” สั่งอีกล่ะสั่งได้สั่งดี
“เดี๋ยวไปอเมซอนนะ” ผมลงมาล็อครถแล้วซอลพยักหน้ารับแล้วก็เดินแยกไปห้องน้ำ ผมมาอเมซอลสั่งไอซ์อะเมริกาโน่ให้ตัวเองดื่มแก้ง่วงแล้วก็สั่งสตอเบอร์รี่ปั่นให้นางมารคนนั้นด้วยเพราะผมรู้ว่าเธอชอบไม่ต้องรอให้บอกก็สั่งไว้รอได้คนมันรู้ใจกันอ่ะ ผมนั่งรอเรียกคิวอยู่ที่โต๊ะด้านในร้านจุดประสงค์ตากแอร์รอแต่พนักงานมองผมแล้วยิ้มนะ มองตั้งแต่หน้าปั๊มก็รู้ว่าสายตานั้นคิดอะไรอยู่
“เป็นไร” ซอลเดินมานั่งที่เก้าอี้ตรงข้ามผมแล้วหน้าบูดบึ้งใส่
“............” เธอไมตอบแต่บุ้ยหน้าไปทางเคาท์เตอร์ที่พนักงานผู้หญิงยืนอยู่ พอผมหันไปมองพร้อมซอลพนักงานก็ก้มหน้าลง
“คิดมากน่าเขาแค่มองเอง” ผมบอกแล้วก็เอามือไปวางบนหัวซอล ซอลทำหน้าเหมือนคิดอะไรอยู่แต่สีหน้าดูไม่บึ้งตึงเหมือนเดิมแล้ว
“เออเนอะลืมไป ทำได้แค่มองแหละเอาไปไม่ได้หรอก” ซอลเสียงดังขึ้นกว่าเดิมนิดหน่อยประชดสิท่า แต่ผมเหลือคิวสุดท้ายในร้านเลยมีแค่ผมกับซอลแล้วก็พนักงาน
“คิวที่สี่สิบสองค่ะ” พอดีกับพนักงานเรียก ซอลมองบัตรคิดวที่วางอยู่บนโต๊ะด้านหน้าผมแล้วหยิบมันไป
“ออกไปรอข้างนอกไป๊เดี๋ยวไปเอาเอง” ซอลเดินไปที่เคาท์เตอร์แทนผม มองตั้งแต่ดาวศุกร์ก็รู้หรอกว่าเมียไม่อยากให้ผมไปใกล้พนักงาน บางทีผมชอบซอลโหมดนี้นะแบบเวลาซอลหึงหรือไม่พอใจเวลาผู้หญิงมองผมไรงี้มันทำให้รู้สึกว่านางมารคนนี้ยังรักผมอยู่เลย
ประมาณห้าโมงเย็นผมก็ขับรถเข้ามาในไร่ๆหนึ่งที่มีชื่อว่าไร่ภูตะวัน เป็นบ้านของยายผมเอง ที่นี่มีรีสอร์ทและสถานที่ท่องเที่ยวด้วย ในไร่นี้มีทั้งไร่องุ่นไร่ดอกกุหลาบและสวนพวกทุเรียนและผมไม้ของดีเมืองจัทบุรีหลายอย่างเลยแหละ แล้วก็ตาพึ่งลงดอกทานตะวันไปสามไร่เพื่อให้นักท่องเที่ยวไปถ่ายรูปกันไม่ณุ้ว่าโตหรือยัง
“ตะวันกำลังจะตกดินแหนะไพน์” ซอลบอกแล้วก็ชี้ไปฝั่งที่ดวงอาทิตย์กำลังเริ่มคล้อยต่ำลงไป สวยอ่ะ ใบหน้ายิ้มแย้มดูเต็มไปด้วยความสุข มองไปทางประตูบานก็เห็นว่าแม่เดินออกมาพอดีซอลเลยเปิดประตูรถลงไป
“มาแล้วหรอลูกแม่นึกว่าจะมาถึงดึกๆซ่ะอีก” แม่ว่าด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
“แม่สวัสดีค่ะ” ซอลเดินไปถึงแม่แล้วก็ไหว้ แม่เดินมากอดซอลด้วยคือแม่ดูปลื้มซอลมากแล้วก็สนิทกับซอลมากเหมือนกัน “คิดถึงจังเลยลูก” แม่กอดซอลแล้วก็ลูบหลังซอลสายตาแม่ที่มองซอลดูรักแล้วก็เอ็นดูมาก นี่สรุปแม่ผมหรือแม่ซอล
“แม่คิดถึงแต่ซอลไม่คิดถึงไพน์หรอ” ผมทำเสียงเศร้า
“โอ๋ๆคิดถึงลูก” แม่คลายกอดจากซอลแล้วก็เดินมากอดผม
ฟอด
“แม่หอมจัง” ผมหอมแก้มแม่แล้วก็กอดตอบมองซอลเธอเบ้ปากแล้วก็ยิ้มๆให้ผม
“ไปเข้าบ้านลูกเดี๋ยวค่อยให้คนมายกของ” แม่จูงมือผมกับซอลเข้ามาในบ้าน
“ตากับยายไปไหนครับแม่” พอเดินเข้ามาในบ้านก็ไม่เห็นก็เลยถามปกติเวลานี้ท่านจะไม่ค่อยเข้าไร่ชอบเข้าไปตอนเช้าๆมากกว่า
“ตากับยายไปงานศพเพื่อนที่ระยองน่”ะ แม่ว่าต่อผมพยักหน้ารับยายเป็นคนกว้างขวางมีเพื่อนเยอะมากเลยล่ะ “ตามสบายเลยนะลูก ถ้าอยากไปเดินเล่นให้ไพน์พาไปนะซอล”ฃ เดี๋ยวแม่จะเข้าไปดูคนทำกับข้าวในครัว” แม่หันมาบอกผมกับซอล
“มีอะไรให้หนูช่วยมั้ยคะแม่” ซอลถามแล้วยิ้มหวานให้แม่ เห็นแบบนี้เมียผมทำอาหารอร่อยนะครับถึงแม้ว่าบ้านเธอจะฟูมฟักมาแบบคุณหนูสุดตามประสาคนรวยแล้วก็ลูกสาวคนเล็กของบ้าน
“ไม่เป็นไรหรอกลูกในครัวมีคนช่วยเยอะแล้วหนูมาเหนื่อยๆพักผ่อนเถอะ” แม่บอกแล้วก็เดินไปหลังบ้านซอลนั่งลงตรงโซฟาข้างๆผม คนตัวเล็กเอนหัวลงมาซบบนไหล่ผมแล้วก็เอามือถือขึ้นมาเช็คโซเชียลตามประสา
“ไปเดินเล่นไปถ่ายรูปมั้ยแสงกำลังสวยเลยนะ” ผมถามแล้วเขี่ยผมคนตัวเล็กเล่น
“ไปๆ เอากุญแจรถมาเดี๋ยวไปเอากล้อง” ซอลเป็นคนชอบถ่ายรูปมากเวลาไปไหนต้องมีกล้องไปด้วยเสมอนเป็นอวัยวะชิ้นที่สามสิบสี่ลองลงมาจากมือถือ
“ป่ะเดี๋ยวเดินออกไปพร้อมกันเลย”
ผมพาซอลเดินเข้ามาในไร่องุ่นตรงนี้เป็นเนินก่อนจะเดินลงไปไร่ผมชอบมายืนมองไร่ตอนตะวันตกดินตรงนี้ทุกครั้งที่มาเลย
“เธอไปยืนตรงนั้นเดี๋ยวจะถ่ายรูปให้” ผมบอกแล้วบุ้ยหน้าไปตรงเนินหญ้า ซอลก็เดินไปแต่โดยดี ตรงที่ซอลอยู่มันเป็นฝั่งยั้นแสงที่ในกล้องถ้าถ่ายออกมาจะเห็นเป็นร่างสีดำผมว่ามันก็ส่วยดีไปอีกแบบนะ
“เธอตรงนี้มันจะย้อนแสงมั้ยมันก็ดำสิ” ซอลดูหน้าอิดออด
“ก็หันหน้าไปจะถ่ายข้างหลังเชื่อเถอะว่าสวย” ผมปัดมือให้คนตัวเล็กหันไปฝั่งไร่แล้วก็กดชัตเตอร์ถ่ายรัวๆพอดีกับสายลมเย็นๆพัดมาทำให้ผมซอลปลิวดูเป็นธรรมชาติ
แชะ
แชะ
“ไหนมาดูหน่อยสวยจริงไหม” ซอลเดินมาดูภาพที่จอกล้องปัดมือเลื่อนภาพที่ถ่ายไปมา “เออสวยจริงๆด้วยแฮะ”
“ใช่ไหมล่ะก็บอกแล้วคนถ่ายน่ะมือโปร” บอกตรงๆเลยผมถ่ายรูปให้ซอลบ่อยจนต้องอ่านหนังสือสอนถ่ายภาพ พอเงยหน้าขึ้นมาหน้าผมกับซอลก็อยู่ใกล้ๆกันบอกดีจนจมูกแทบแตะกัน ไม่นะไอ้ไพน์มึงจะมาอยากจูบกับเมียตรงที่กลางแจ้งไม่ได้นะ
แต่ห้ามตัวเองแทบไม่ได้ หน้าผมขยับเข้าไปหาซอลเรื่อยๆ แต่ซอลยกมือขึ้นมาปิดปากตัวเองไว้ก่อน
“พี่ไพน์!” เสียงเรียกเจื้อยแจ้วดังจากทางด้านหลังผม ผมเลยต้องผละหน้าออกจากซอลแล้วหันไปมองก็เห็นว่าเป็น มะปราง ลูกสาวคนเล็กของน้าวิไลกับน้าศักดิ์ชัย เจ้าของไร่ข้างๆไร่ยายผมเอง ตอนเด็กๆก็วิ่งเล่นด้วยกันบ่อยเวลาผมมาบ้านยายมะปรางตอนนี้น่าจะอยู่มอหกมั้ง “พี่ไพน์สวัสดีค่ะ” เด็กสาวในชุดนักเรียนยกมือไหว้ผม
“อ้าวว่าไงปราง” ผมมองดีๆก็เห็นว่าเธอถือตะกร้าที่ใส่ถ้วยอะไรสักอย่างอยู่ “โตเป็นสาวขึ้นเยอะเลยนะเนี้ยแล้วนี่มาหาแม่พี่หรอ” ผมถามแล้วก็ยิ้มให้แกมเอ็นดูมะปรางก็เหมือนน้องสาวผมคนหนึ่งแหละ
“ใช่ค่ะปรางเอาต้มยำกุ้งมาให้ป้าดาว” เธอตอบแล้วยิ้มให้ผม
“หรอ แม่อยู่ในครัวนะ” ผมบอกแล้วก็บุ้ยหน้าไปทางบ้านตัวเอง
“ค่ะ ปรางไปก่อนนะเดี๋ยวแกงจะเย็นซ่ะก่อน” เธอบอกแล้วก็เดินออกไปผมก็เลยพาซอลเดินถ่ายรูปต่อ
“เด็กเมื่อกี๊ใครอ่ะ” ซอลถามแต่หน้าไม่ยิ้มเลยแฮะ
“เจ้าของไร่โน้นอ่ะ” ผมบอกแล้วก็ชี้ไปรั้วไร่ฝั่งตรงข้าม
“อ๋อ” คนตัวล็กพยักหน้ารับแล้วก็สอดทายตาสอดส่องไปทั่วเลย
“เข้าบ้านมั้ยยุงเริ่มชุมแล้ว” ผมบอกตอนนี้เดินมาถึงพื้นดินต่างระดับที่ทำเป็นขั้นคล้ายบันได
“กรี๊ด” ซอลร้องออกมาเบาๆ เธอก้าวพลาดเกือบจะไถลลงไปแล้วดีที่ผมคว้าเอวไว้ได้ทัน
“เดินระวังหน่อยตัวหนักแบบนี้ตกลงไปพื้นยุบพอดีลำบากคนงานต้องมาทำให้พื้นมันเสมอ” ผมว่าแล้วมองซอลเบ้ปากแล้วขยับตัวให้หลุดจากอ้อมแขนผมแต่ผมไม่ปล่อย
“เออใช่สิฉันมันไม่ตัวเล็กน่ารักเหมือนเด็กนั่นหนิไพน์” เด็กนั่น?
“เด็กนั่นไหน” ผมถามด้วยความงง “มะปรางหรอ”
“เออ” ซอลกระแทกเสียงใส่ผมแล้วขยับออกจากแขนผมได้เพราะเธอสะบัดแรงมาก “เธอคงชอบสินะแบบนั้นยิ้มหวานๆพูดเพราะๆตัวเล็กๆ” ผมสาบานเลยว่าเมื่อกี๊ผมไม่ได้ทำอะไรให้อีเหม่งมันหึงนะ
“ฉันทำไรผิดว่ะแค่แซวว่าอ้วนเองทำไมต้องโมโหด้วยล่ะ”
“ไม่ได้โมโหเธอหรอกแต่โมโหเด็กนั่นต่างหาก” ซอลพูดน้ำเสียงที่ค่อนข้างใส่อารมณ์ “ไพน์เธอมองไม่ออกหรอว่าเด็กนั่นชอบอ่ะยิ้มหวานใส่ขนาดนั้นแถมฉันก็ยืนอยู่ตรงนั้นไม่เห็นจะมองฉันสักนิดเลย”
“น้องเขาแสดงออกแบบนั้นหรอไม่รู้นะเนี้ย” ผมไม่ได้กวนนะแบบไม่รู้จริงๆแบบน้องเขาก็ทำแบบนี้ใส่ทุกครั้งที่มาผมก็ชินแบบนั้นไปแล้ว
“ไพน์นี่เธอโง่หรือเธอโง่กันแน่นะ” เธอว่าแล้วขมวดคิ้วมองผม “นี่คือมองมาตั้งแต่ชลบุรีก็รู้ป่ะว่าเด็กนั่นชอบเธอ” เมียโหมดหึงอีกแล้วสิ
“โอ๋ๆน้องเขาชอบแล้วไงฉันไม่ได้ชอบเขาสะหน่อยนะ” ผมว่าแล้วก็ใช้สองมือประกบแก้มซอลแล้วหมุนไปมา “ฉันชอบแบบนี้แหล่ะตัวกลมๆหัวเหม่งๆแบบดวงอาทิตย์นี่แหละน่ารักดี”
“คำก็เหม่งสองคำก็เหม่งเดี๋ยวเตะเข้าให้” สีหน้าซอลดีกว่าตอนแรกเยอะเลยล่ะ “ดวงอาทิตย์บ้าบออะไรไม่เห็นจะขนาดนั้นป่ะ” คนตัวเล็กหน้าง้ำแล้วลูบๆที่หน้าผากตัวเอง
“ถึงจะหัวเหม่งแต่พี่ไพน์ก็ชอบนะ” ผมหยอกแล้วยีหัวอีเหม่งอย่างหมั่นเขี้ยว “น้องเหม่งด้วงอาทิตย์น้อยของพี่ไพน์” ผมว่าแล้วลูบหน้าผากซอล
คือเข้าใจความรู้สึกมั้ยเวลาเราชอบหรือหลงอะไรมากๆเราก็จะรู้สึกหมั่นเขี้ยวอยากกอดอยากแกล้งอยากบีบอยากกัดให้จมเขี้ยวไปเลยยิ่งดี ซอลมันชอบทำหน้ายุ่งๆเวลาเห็นแล้วมันหมั่นเขี้ยวจริงๆแล้วยังชอบงอแงอีก
***
Seol talk
ฉันตื่นมาในเช้ามากๆของอีกวันพอได้มาพักผ่อนเปิดหูเปิดตาแล้วก็ไม่อยากจะนอนตื่นสายอยากออกมาสูดอากาศบริสุทธิ์แล้วนี่บ้านแม่ไพน์ไงก็ไม่อยากจะนอนตื่นสายอายท่านเอาเปล่าๆเดี๋ยวท่านจะพาลไม่ชอบเอาได้นะ
ฉันขยับตัวออกจากแขนไพน์ที่พาดผ่านเอวตัวเองอยู่เข้าไปอาบน้ำแต่งตัวกะจะลงไปช่วยแม่ไพน์ทำอาหารเช้า ดูนาฬิกาก็รู้สึกว่าพึ่งหกโมงกว่าๆเองคือปกติถ้าตื่นเวลานี้จะรู้สึกงัวเงียมากแต่พอมาอยู่นี่อากาศดีทำให้สดชื่นมาเลยและ
“แม่ทำอะไรอยู่อ่ะคะ” ฉันเดินลงมาในครัวก็เห็นว่าแม่กำลังจัดของใส่ถาดอยู่ บ้านไพน์เป็นบ้านสองชั้นใต้ถุนยกสูงแต่ก็ไม่ได้สูงมากครัวจึงอยู่ด้านล่าง
“เตรียมของใส่บาตรพระอยู่น่ะลูกซอลไปใส่บาตรกับแม่มั้ย” แม่ไพน์หันหน้ามามองฉันแล้วก็ถาม ในครัวมีแม่บ้านกำลังทำอาหารอยู่สองคนรวมแม่ไพน์ด้วยเป็นสาม
“ไปค่ะหนูไม่ได้ใส่บาตรนานมากแล้ว” ฉันพยักหน้ายิ้มด้วยความดีใจคือฉันจำได้ว่าใส่บาตรครั้งล่าสุดคือตั้งแต่วันเกิดปีที่แล้วแหนะ ฉันมันคนปาบฮ่าๆ
“แล้วนี่ไพน์ยังไม่ตื่นหรอลูก”
“ยังหรอกค่ะเมื่อคืนไพน์เล่นเกมส์กว่าจะนอนก็ดึกเลยค่ะ” ฉันแอบฟ้องแม่เพราะเมื่อคืนไพน์มันเอามือถือฉันไปเล่นเกมส์จนดึกดื่นแล้วก็ไม่ชาร์จให้ถ้าไม่ลุกมาเข้าห้องน้ำก็คงไม่รู้
“ไม่ไหวเลยลูกคนนี้หนิ” แม่ส่ายหัวยิ้มๆ “เราไปใส่บาตรกันสองคนดีกว่าลูกไปพระคงใกล้จะถึงหน้าบ้านเราแล้ว”
“หนูช่วยถือค่ะ” ฉันรับถาดข้าวของจากมือแม่ไพน์มาถือเองแม่ไพน์ยิ้มๆให้ฉันแล้วเดินนำออกไป
ตอนเข้าที่นี่อากาศดูสดชื่นแล้วก็บริสุทธิ์มากฉันอยู่แต่ในเมืองมาตั้งแต่เกิดนานๆทีถึงจะได้ออกมาต่างจังหวัด คร่าวๆน่าจะปีละสองสามหนมั้งแล้วก็ไปแต่ทะเลไม่ค่อยได้มาที่แบบนี้หรอก แล้วส่วนมากไปแต่ต่างประเทศไงไปกับครอบครัวแทนครอบครัวพี่ลาเบลเป็นประจำทุกๆปีด้วย พอได้ไปต่างประเทศบ่อยพ่อกับแม่ก็ไม่ค่อยพาออกต่างจังหวัดเท่าไหร่
“ทำอะไรอยู่ครับสาวๆ” ไพน์ที่เดินลงมาจากบนบ้านถาม
“จัดโต๊ะเตรียมกินข้าวอยู่” ฉันเป็นคนตอบส่วนแม่ก็มองไพน์ยิ้มๆ
“โหน่ากินจังแม่” ไพน์นั่งลงบนเก้าอี้แล้วมองถ้วยข้าวต้มกุ้งที่แม่พึ่งตักวางลง
“ใช่ไหมล่ะแม่รู้ว่าของโปรดไพน์”
“ซอลก็ชอบ” ไพน์บอกแม่แล้วก็หันมาทางฉัน อันที่จริงตอนแรกฉันก็ไม่ค่อยชอบหรอกในตอนแรกแต่พอเห็นไพน์ทานบ่อยๆก็ทานด้วยแล้วก็ไปๆมาๆก็ชอบเฉยเลย “แล้วซอลทำอร่อยด้วยนะแม่” ด้วยความที่ไพน์มันชอบซื้อมาทานฉันก็หัดทำให้ไพน์มันทานซ่ะเลยจะได้ไม่ต้องไปซื้อกิน
“แล้วซอลทำกับแม่ทำอันไหนอร่อยกว่ากัน” แม่ไพน์ถามทิ้งระเบิดแฮะ ไพน์ไม่ตอบแต่ยิ้มแห้งๆแล้วตักข้าวต้มในถ้วยเข้าปาก “ไม่ตอบเลยที่นี้” แม่ว่าแล้วก็หัวเราะออกมาเหมือนท่านแค่ถามเล่นๆแหละ
“วันนี้แม่จะเข้าไร่นะไพน์จะไปกับแม่มั้ยหรือจะพาซอลไปเที่ยว” แม่ไพน์นั่งลงตรงหัวโต๊ะแล้วก็ถาม
“ไพน์พาคนงานมาให้แม่แล้วคุณเธออยากมาเก็บองุ่นเก็บทุเรียนกับแม่มากกว่าที่จะไปเที่ยวไหนอีกแม่ตื่นเต้นตั้งแต่เมื่อคืน” ไพน์บุ้ยหน้ามาทางฉันแล้วก็เล่าให้แม่ฟัง
“ขนาดนั้นเลย” แม่ไพน์หันมามองฉันยิ้มๆ “แต่แดดแรงนะเดี๋ยวผิวเสียหรอกหนูซอล”
“ซอลเขาเตรียมมาพร้อมแล้วแม่เมื่อวานพาไปเหมาครีมกันแดดมาแล้วสบายหายห่วง”
“ไปได้ค่ะซอลสบายมากค่ะ” ฉันตอบด้วยความมั่นใจทั้งครีมกันแดดทั้งหมวกทั้งเสื้อแขนยาวกางเกงขายาวถุงเท้ารองเท้าผ้าใบฉันเตรียมมาพร้อมหมดแล้ว
“แต่วันนี้คงแดดแรงกว่าทุกวันหน่อยนะแม่มีดวงอาทิตย์สองดวงเลย” ไพน์ว่าแล้วหัวเราะร่วนออกมาดวงอาทิตย์อีกดวงที่มันหมายถึงคือหน้าผากฉันไง บักไพน์มึงงงงง!!
พอทานข้าวเช้าเสร็จก็มาที่ไร่เพื่อเก็บองุ่นเตรียมส่งขายโดยมีอีไพน์ที่สอนวิธีเก็บให้ฉันสาบานว่าไพน์ไปเป็นครูไม่ได้หรอกเพราะมันดุมากเลยถ้าเป็นครูแล้วสอนลูกเขาไม่เข้าใจมันคงด่าเด็กหูชาไปแล้ว
ไพน์มันได้โอกาสดุฉันเลยเอาใหญ่ไงเหอะๆ
“ซอลตอนบ่ายไปทะเลกัน” ไพน์ที่ยืนอยู่ทางจากฉันประมาณหนึ่งเมตรพูดขึ้น
“เอาสิสักบ่ายสามค่อยไปเนอะ” ฉันตอบแต่ไม่ได้หันไปมองไพน์ตากำลังจดจ้องพวงองุ่นพวงใหญ่ที่อยู่ตรงหน้า ค่อยๆใช้กรรไกตัดออกจากต้นอย่างเบามือ
“ทำแบบนั้นชาตินี้คงเก็บไม่หมดไร่หรอกคุณเธอ” ไพน์หันมาแขวะฉัน ก็แหงสิไพน์มันทำจนชำนาญแล้วนี่เนอะฉันก็พึ่งลองเป็นครั้งแรกกลัวว่าองุ่นจะช้ำเลยต้องทำเบาๆ
“ทำแรงไม่ได้เดี๋ยวมันช้ำ” ฉันบอกแล้วก็ตัดองุ่นออกจากกิ่งเสร็จพอดีมองในตะกร้าไพน์ได้เกือบเต็มแล้วแต่ฉันยังได้ไม่ถึงครึ่งเลย
“ถ้าเป็นคนงานแม่คงไล่ออกตั้งแต่วันแรกล่ะ ฮ่าๆ” ไพน์มันหัวเราะ ใส่ฉัน
“..........”ฉันหันไปเบ้ปากใส่แล้วก็หันมาสนใจองุ่นพวงใหม่ต่อ แค่รำคาญผมตัวเองหนักมาเลยฉันหายางรักผมไม่เห็นไม่รู้ว่าวางไว้ไหน ใส่หมวกแล้วแต่เวลาลมพัดผมมาติดตามกรอบหน้าทำหู้สึกรำคาญใจจนเอาทัดหูหลายรอบมันก็ไม่หายรำคาญอยู่ดี
Pind talk
มานี่มามัดผมให้ ผมเดินมาหาซอลที่ปัดๆผมตัวเองออกจากกรอบหน้าอยู่หลายครั้งเห็นแล้วรำคาญแทนเลยเดินมามัดผมให้ ผมรวบผมให้ซอลแล้วดึงยางมัดผมของคนตัวเล็กผมใส่ไว้ในข้อมือมามัดให้ ผมเห็นมันวางอยู่ในห้องน้ำเมื่อเช้าก็เลยเอามาใส่ไว้ที่ข้อมือ
“ขอบคุณค่ะ” ซอลบอกหลังจากที่ผมเอาหมวกใส่ไว้บนหัวเธอ “ยางอยู่กับเธอหรอหาตั้งนาน” พูดกับผมแต่ตาไม่มองผมเลยสนใจแต่องุ่นตรงหน้าแถมยังพิถีพิถันตัดออกอีกเห็นแล้วอยากจะตัดแทนซอลตัด กว่าจะได้แต่ละลูก
“ไม่ต้องพิถีพิถันขนาดนั้นก็ได้มั้งครับ” ผมว่าแกมประชดแล้วยืนดู
“อู้หู สวยงามไม่มีลูกที่เสียเลย” ซอลถือขึ้นมาให้อยู่ในระดับเดียวกับหน้าแล้วก็ยิ้มอย่างภาคภูมิใจ “ไหนลองชิมหน่อยว่าหวานมั้ย” ว่าแล้วก็แกะองุ่นสองรูปออกจากพวงแล้วยัดเข้าปาก สาบานว่านี่ไม่ใช่องุ่นไร้เมล็ดที่ลูกเล็กๆนะแต่มันเป็น*องุ่นพันธุ์คาร์ดินัลที่ลูกใหญ่มากซอลใส่มันเข้าไปพร้อมกันแล้วแก้มของเธอก็ป่องหน้าจุ๊บมาก
จุ๊บ
อ้าวไวกว่าความคิดผมจุ๊บเข้าที่แก้มป่องๆนั้นทันที
____________________________
อัพพี่ไพน์คนหลงเมีย2017 รักไพน์มั้ย ไรท์รักไพน์มากกกกก แค่ดูไพน์ไรท์ก็รับรู้ได้ถึงรังสีหลงเมียมากกกก
เชิญหวีดพี่ไพน์ได้ใน #ไพน์รักเมียมาก เจอกันในทวิต รักส์จากสมาคมแม่บ้านฆ่าผัว
ตามทวงตามฆ่าตามตบไร์ได้ในเพจ
หนึ่งเม้น = หนึ่งล้านกำลังใจ ไรท์ชอบอ่านเม้นมาก
***พันธุ์คาร์ดินัล เป็นองุ่นที่ปลูกง่าย การเจริญเติบโตดีมาก มีลักษณะช่อใหญ่ ผลดก กลมค่อนข้างใหญ่ มีสีแดงหรือม่วงดำ รสหวาน กรอบ เปลือกบาง จึงทำให้ผลแตกง่ายเมื่อผลแก่ในช่วงฝนตกชุก ในผลหนึ่งๆ มีเมล็ด 1-2 เมล็ด ช่วงเวลาหลังจากตัดแต่งกิ่งจนเก็บผลได้ใช้เวลา 3-3 เดือนครึ่ง ในเวลา 2 ปี สามารถให้ผลผลิตทางการเกษตรได้ถึง 5 ครั้ง แนบรูป ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก คุณต้อม คลิก
Song : Everyday With You
By : IU
“ให้ตายเถอะเธอมายั่วฉันก่อนนะ” ไพน์ว่าแล้วเอาขยับตัวมากอดฉันแล้วเอาหน้ามาซุกซอกคอฉันไว้ “ผีเข้าหรอทำไมอยู่ๆมาจูบก่อนเนี้ย”
“ให้รางวัล จุ๊บ” ฉันบอกแล้วจุ๊บลงบนหัวไพน์ทีนึง
“รางวัลไร” ไพน์ถามเสียงอู้อี้แล้วได้ยินมันสูดหายใจเฮือกใหญ่
“ร้องเพลงดีไง” ฉันบอกยิ้มๆแต่เชื่อเถะว่าไอ้ไพน์หื่นมันไม่เห็นมันมัวแต่สนใจคอฉันอยู่ไอ้บ้านี่
“แหนะ ไอ้เราก็นึกว่าป็นเมนส์แล้วอารมณ์แปรปรวน” ไพน์ว่าแล้วลูบมือไปตามเนินอกฉันบักไพน์เดี๋ยวเถอะมึง
“อย่าบอกนะมีอารมณ์อ่ะ” ฉันถามออกไปตามตรงไพน์หายใจแรงมากด้วยความที่ไพน์มันใส่แค่ผ้าเช็ดตัวตรงส่วนนั้นมันโดนต้นขาฉันด้วยแหละ “หืนว่ะ” ฉันว่าแล้ววางมือลงบนแขนข้างที่พาดอยู่บนหน้าอกตัวเอง
“เธอเป็นคนทำ” เขาบอกแล้วบีบจมูกฉันทีนึง “จะรับผิดชอบยังไงหืม” ไพน์คลอเคลียแถวซอกคอแล้วถามเสียงงึมงำ
“โน่นเลยเสียสละห้องน้ำให้ก่อนเลย” ฉันบอกแล้วกระเด้งตัวลุกขึ้นนั่งถึงนานกว่านี้อีสามีตัวดีมันจะยาวไปได้
“ไม่เอาอ่ะ เธอไปอาบน้ำเถอะ” ไพน์มันบอกแล้วก็ลุกขึ้นนั่งตาม “แต่หายเป็นเมนส์แล้วจะจัดให้ร้องขอชีวิตเลย
“กลัวตายแหละค่ะไพน์!!” ฉันบอกแล้วก็วิ่งหนีไพน์มาอาบน้ำเลยไม่ได้หันไปสนใจมันอีก ปล่อยให้คนหื่นแบบอีไพน์จัดการตัวเองไปเชื่อเถอะว่าเดี๋ยวมันคงออกไปใช้ห้องน้ำอีกห้องนึงแหน่ๆ ได้แกล้งผัวถือเป็นความสุขอย่างหนึ่งของชีวิตซอลคนนี้เลย
***
Pine Part
“มั่นใจแค่ไหนถึงกล้าแหกปากร้องขนาดนี้” ผมหันไปมองคุณนายที่นั่งร้องเพลงอยู่ข้างๆตอนนี้ผมกำลังขับรถไปจันทบุรีโดยมีคุณเมียนั่งร้องเพลงให้ฟังด้วยเสียงอันแสนพเราะของเธอ ความจริงเสียงซอลมันก็ไม่ได้ห่วยขนาดนั้นแต่ผมแค่อยากแซวเธอแค่นั้นแหละ
“มั่นใจมากกว่าตอนที่ตอบตกลงเป็นแฟนกับแกเยอะเลยไพน์” เธอหันมาบอกแล้วเบะปากใส่ผม แขวะกูได้แขวะกูดีจริงๆนะเมีย
“เออฉันรู้ว่าฉันไม่ดีไม่ต้องย้ำ” ชอบเล่นประเด็นนี้ดีนักเดี๋ยวจะแกล้งงอนคุณเธอให้
“ประสาทว่ะแค่นี้ทำตัดพ้อถ้าเจอด่าหนักกว่านี้ไม่กระโดออกนอกรถไปเลยหรอ ชิ” นอกจากจะไม่สำนักผิดอะไรแล้วคุณเธอยังเบ้ปากส่ายหัวใส่อีก “ไพน์หาปั๊มหน่อยนะปวดฉี่” สั่งอีกล่ะสั่งได้สั่งดี
“เดี๋ยวไปอเมซอนนะ” ผมลงมาล็อครถแล้วซอลพยักหน้ารับแล้วก็เดินแยกไปห้องน้ำ ผมมาอเมซอลสั่งไอซ์อะเมริกาโน่ให้ตัวเองดื่มแก้ง่วงแล้วก็สั่งสตอเบอร์รี่ปั่นให้นางมารคนนั้นด้วยเพราะผมรู้ว่าเธอชอบไม่ต้องรอให้บอกก็สั่งไว้รอได้คนมันรู้ใจกันอ่ะ ผมนั่งรอเรียกคิวอยู่ที่โต๊ะด้านในร้านจุดประสงค์ตากแอร์รอแต่พนักงานมองผมแล้วยิ้มนะ มองตั้งแต่หน้าปั๊มก็รู้ว่าสายตานั้นคิดอะไรอยู่
“เป็นไร” ซอลเดินมานั่งที่เก้าอี้ตรงข้ามผมแล้วหน้าบูดบึ้งใส่
“............” เธอไมตอบแต่บุ้ยหน้าไปทางเคาท์เตอร์ที่พนักงานผู้หญิงยืนอยู่ พอผมหันไปมองพร้อมซอลพนักงานก็ก้มหน้าลง
“คิดมากน่าเขาแค่มองเอง” ผมบอกแล้วก็เอามือไปวางบนหัวซอล ซอลทำหน้าเหมือนคิดอะไรอยู่แต่สีหน้าดูไม่บึ้งตึงเหมือนเดิมแล้ว
“เออเนอะลืมไป ทำได้แค่มองแหละเอาไปไม่ได้หรอก” ซอลเสียงดังขึ้นกว่าเดิมนิดหน่อยประชดสิท่า แต่ผมเหลือคิวสุดท้ายในร้านเลยมีแค่ผมกับซอลแล้วก็พนักงาน
“คิวที่สี่สิบสองค่ะ” พอดีกับพนักงานเรียก ซอลมองบัตรคิดวที่วางอยู่บนโต๊ะด้านหน้าผมแล้วหยิบมันไป
“ออกไปรอข้างนอกไป๊เดี๋ยวไปเอาเอง” ซอลเดินไปที่เคาท์เตอร์แทนผม มองตั้งแต่ดาวศุกร์ก็รู้หรอกว่าเมียไม่อยากให้ผมไปใกล้พนักงาน บางทีผมชอบซอลโหมดนี้นะแบบเวลาซอลหึงหรือไม่พอใจเวลาผู้หญิงมองผมไรงี้มันทำให้รู้สึกว่านางมารคนนี้ยังรักผมอยู่เลย
ประมาณห้าโมงเย็นผมก็ขับรถเข้ามาในไร่ๆหนึ่งที่มีชื่อว่าไร่ภูตะวัน เป็นบ้านของยายผมเอง ที่นี่มีรีสอร์ทและสถานที่ท่องเที่ยวด้วย ในไร่นี้มีทั้งไร่องุ่นไร่ดอกกุหลาบและสวนพวกทุเรียนและผมไม้ของดีเมืองจัทบุรีหลายอย่างเลยแหละ แล้วก็ตาพึ่งลงดอกทานตะวันไปสามไร่เพื่อให้นักท่องเที่ยวไปถ่ายรูปกันไม่ณุ้ว่าโตหรือยัง
“ตะวันกำลังจะตกดินแหนะไพน์” ซอลบอกแล้วก็ชี้ไปฝั่งที่ดวงอาทิตย์กำลังเริ่มคล้อยต่ำลงไป สวยอ่ะ ใบหน้ายิ้มแย้มดูเต็มไปด้วยความสุข มองไปทางประตูบานก็เห็นว่าแม่เดินออกมาพอดีซอลเลยเปิดประตูรถลงไป
“มาแล้วหรอลูกแม่นึกว่าจะมาถึงดึกๆซ่ะอีก” แม่ว่าด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
“แม่สวัสดีค่ะ” ซอลเดินไปถึงแม่แล้วก็ไหว้ แม่เดินมากอดซอลด้วยคือแม่ดูปลื้มซอลมากแล้วก็สนิทกับซอลมากเหมือนกัน “คิดถึงจังเลยลูก” แม่กอดซอลแล้วก็ลูบหลังซอลสายตาแม่ที่มองซอลดูรักแล้วก็เอ็นดูมาก นี่สรุปแม่ผมหรือแม่ซอล
“แม่คิดถึงแต่ซอลไม่คิดถึงไพน์หรอ” ผมทำเสียงเศร้า
“โอ๋ๆคิดถึงลูก” แม่คลายกอดจากซอลแล้วก็เดินมากอดผม
ฟอด
“แม่หอมจัง” ผมหอมแก้มแม่แล้วก็กอดตอบมองซอลเธอเบ้ปากแล้วก็ยิ้มๆให้ผม
“ไปเข้าบ้านลูกเดี๋ยวค่อยให้คนมายกของ” แม่จูงมือผมกับซอลเข้ามาในบ้าน
“ตากับยายไปไหนครับแม่” พอเดินเข้ามาในบ้านก็ไม่เห็นก็เลยถามปกติเวลานี้ท่านจะไม่ค่อยเข้าไร่ชอบเข้าไปตอนเช้าๆมากกว่า
“ตากับยายไปงานศพเพื่อนที่ระยองน่”ะ แม่ว่าต่อผมพยักหน้ารับยายเป็นคนกว้างขวางมีเพื่อนเยอะมากเลยล่ะ “ตามสบายเลยนะลูก ถ้าอยากไปเดินเล่นให้ไพน์พาไปนะซอล”ฃ เดี๋ยวแม่จะเข้าไปดูคนทำกับข้าวในครัว” แม่หันมาบอกผมกับซอล
“มีอะไรให้หนูช่วยมั้ยคะแม่” ซอลถามแล้วยิ้มหวานให้แม่ เห็นแบบนี้เมียผมทำอาหารอร่อยนะครับถึงแม้ว่าบ้านเธอจะฟูมฟักมาแบบคุณหนูสุดตามประสาคนรวยแล้วก็ลูกสาวคนเล็กของบ้าน
“ไม่เป็นไรหรอกลูกในครัวมีคนช่วยเยอะแล้วหนูมาเหนื่อยๆพักผ่อนเถอะ” แม่บอกแล้วก็เดินไปหลังบ้านซอลนั่งลงตรงโซฟาข้างๆผม คนตัวเล็กเอนหัวลงมาซบบนไหล่ผมแล้วก็เอามือถือขึ้นมาเช็คโซเชียลตามประสา
“ไปเดินเล่นไปถ่ายรูปมั้ยแสงกำลังสวยเลยนะ” ผมถามแล้วเขี่ยผมคนตัวเล็กเล่น
“ไปๆ เอากุญแจรถมาเดี๋ยวไปเอากล้อง” ซอลเป็นคนชอบถ่ายรูปมากเวลาไปไหนต้องมีกล้องไปด้วยเสมอนเป็นอวัยวะชิ้นที่สามสิบสี่ลองลงมาจากมือถือ
“ป่ะเดี๋ยวเดินออกไปพร้อมกันเลย”
ผมพาซอลเดินเข้ามาในไร่องุ่นตรงนี้เป็นเนินก่อนจะเดินลงไปไร่ผมชอบมายืนมองไร่ตอนตะวันตกดินตรงนี้ทุกครั้งที่มาเลย
“เธอไปยืนตรงนั้นเดี๋ยวจะถ่ายรูปให้” ผมบอกแล้วบุ้ยหน้าไปตรงเนินหญ้า ซอลก็เดินไปแต่โดยดี ตรงที่ซอลอยู่มันเป็นฝั่งยั้นแสงที่ในกล้องถ้าถ่ายออกมาจะเห็นเป็นร่างสีดำผมว่ามันก็ส่วยดีไปอีกแบบนะ
“เธอตรงนี้มันจะย้อนแสงมั้ยมันก็ดำสิ” ซอลดูหน้าอิดออด
“ก็หันหน้าไปจะถ่ายข้างหลังเชื่อเถอะว่าสวย” ผมปัดมือให้คนตัวเล็กหันไปฝั่งไร่แล้วก็กดชัตเตอร์ถ่ายรัวๆพอดีกับสายลมเย็นๆพัดมาทำให้ผมซอลปลิวดูเป็นธรรมชาติ
แชะ
แชะ
“ไหนมาดูหน่อยสวยจริงไหม” ซอลเดินมาดูภาพที่จอกล้องปัดมือเลื่อนภาพที่ถ่ายไปมา “เออสวยจริงๆด้วยแฮะ”
“ใช่ไหมล่ะก็บอกแล้วคนถ่ายน่ะมือโปร” บอกตรงๆเลยผมถ่ายรูปให้ซอลบ่อยจนต้องอ่านหนังสือสอนถ่ายภาพ พอเงยหน้าขึ้นมาหน้าผมกับซอลก็อยู่ใกล้ๆกันบอกดีจนจมูกแทบแตะกัน ไม่นะไอ้ไพน์มึงจะมาอยากจูบกับเมียตรงที่กลางแจ้งไม่ได้นะ
แต่ห้ามตัวเองแทบไม่ได้ หน้าผมขยับเข้าไปหาซอลเรื่อยๆ แต่ซอลยกมือขึ้นมาปิดปากตัวเองไว้ก่อน
“พี่ไพน์!” เสียงเรียกเจื้อยแจ้วดังจากทางด้านหลังผม ผมเลยต้องผละหน้าออกจากซอลแล้วหันไปมองก็เห็นว่าเป็น มะปราง ลูกสาวคนเล็กของน้าวิไลกับน้าศักดิ์ชัย เจ้าของไร่ข้างๆไร่ยายผมเอง ตอนเด็กๆก็วิ่งเล่นด้วยกันบ่อยเวลาผมมาบ้านยายมะปรางตอนนี้น่าจะอยู่มอหกมั้ง “พี่ไพน์สวัสดีค่ะ” เด็กสาวในชุดนักเรียนยกมือไหว้ผม
“อ้าวว่าไงปราง” ผมมองดีๆก็เห็นว่าเธอถือตะกร้าที่ใส่ถ้วยอะไรสักอย่างอยู่ “โตเป็นสาวขึ้นเยอะเลยนะเนี้ยแล้วนี่มาหาแม่พี่หรอ” ผมถามแล้วก็ยิ้มให้แกมเอ็นดูมะปรางก็เหมือนน้องสาวผมคนหนึ่งแหละ
“ใช่ค่ะปรางเอาต้มยำกุ้งมาให้ป้าดาว” เธอตอบแล้วยิ้มให้ผม
“หรอ แม่อยู่ในครัวนะ” ผมบอกแล้วก็บุ้ยหน้าไปทางบ้านตัวเอง
“ค่ะ ปรางไปก่อนนะเดี๋ยวแกงจะเย็นซ่ะก่อน” เธอบอกแล้วก็เดินออกไปผมก็เลยพาซอลเดินถ่ายรูปต่อ
“เด็กเมื่อกี๊ใครอ่ะ” ซอลถามแต่หน้าไม่ยิ้มเลยแฮะ
“เจ้าของไร่โน้นอ่ะ” ผมบอกแล้วก็ชี้ไปรั้วไร่ฝั่งตรงข้าม
“อ๋อ” คนตัวล็กพยักหน้ารับแล้วก็สอดทายตาสอดส่องไปทั่วเลย
“เข้าบ้านมั้ยยุงเริ่มชุมแล้ว” ผมบอกตอนนี้เดินมาถึงพื้นดินต่างระดับที่ทำเป็นขั้นคล้ายบันได
“กรี๊ด” ซอลร้องออกมาเบาๆ เธอก้าวพลาดเกือบจะไถลลงไปแล้วดีที่ผมคว้าเอวไว้ได้ทัน
“เดินระวังหน่อยตัวหนักแบบนี้ตกลงไปพื้นยุบพอดีลำบากคนงานต้องมาทำให้พื้นมันเสมอ” ผมว่าแล้วมองซอลเบ้ปากแล้วขยับตัวให้หลุดจากอ้อมแขนผมแต่ผมไม่ปล่อย
“เออใช่สิฉันมันไม่ตัวเล็กน่ารักเหมือนเด็กนั่นหนิไพน์” เด็กนั่น?
“เด็กนั่นไหน” ผมถามด้วยความงง “มะปรางหรอ”
“เออ” ซอลกระแทกเสียงใส่ผมแล้วขยับออกจากแขนผมได้เพราะเธอสะบัดแรงมาก “เธอคงชอบสินะแบบนั้นยิ้มหวานๆพูดเพราะๆตัวเล็กๆ” ผมสาบานเลยว่าเมื่อกี๊ผมไม่ได้ทำอะไรให้อีเหม่งมันหึงนะ
“ฉันทำไรผิดว่ะแค่แซวว่าอ้วนเองทำไมต้องโมโหด้วยล่ะ”
“ไม่ได้โมโหเธอหรอกแต่โมโหเด็กนั่นต่างหาก” ซอลพูดน้ำเสียงที่ค่อนข้างใส่อารมณ์ “ไพน์เธอมองไม่ออกหรอว่าเด็กนั่นชอบอ่ะยิ้มหวานใส่ขนาดนั้นแถมฉันก็ยืนอยู่ตรงนั้นไม่เห็นจะมองฉันสักนิดเลย”
“น้องเขาแสดงออกแบบนั้นหรอไม่รู้นะเนี้ย” ผมไม่ได้กวนนะแบบไม่รู้จริงๆแบบน้องเขาก็ทำแบบนี้ใส่ทุกครั้งที่มาผมก็ชินแบบนั้นไปแล้ว
“ไพน์นี่เธอโง่หรือเธอโง่กันแน่นะ” เธอว่าแล้วขมวดคิ้วมองผม “นี่คือมองมาตั้งแต่ชลบุรีก็รู้ป่ะว่าเด็กนั่นชอบเธอ” เมียโหมดหึงอีกแล้วสิ
“โอ๋ๆน้องเขาชอบแล้วไงฉันไม่ได้ชอบเขาสะหน่อยนะ” ผมว่าแล้วก็ใช้สองมือประกบแก้มซอลแล้วหมุนไปมา “ฉันชอบแบบนี้แหล่ะตัวกลมๆหัวเหม่งๆแบบดวงอาทิตย์นี่แหละน่ารักดี”
“คำก็เหม่งสองคำก็เหม่งเดี๋ยวเตะเข้าให้” สีหน้าซอลดีกว่าตอนแรกเยอะเลยล่ะ “ดวงอาทิตย์บ้าบออะไรไม่เห็นจะขนาดนั้นป่ะ” คนตัวเล็กหน้าง้ำแล้วลูบๆที่หน้าผากตัวเอง
“ถึงจะหัวเหม่งแต่พี่ไพน์ก็ชอบนะ” ผมหยอกแล้วยีหัวอีเหม่งอย่างหมั่นเขี้ยว “น้องเหม่งด้วงอาทิตย์น้อยของพี่ไพน์” ผมว่าแล้วลูบหน้าผากซอล
คือเข้าใจความรู้สึกมั้ยเวลาเราชอบหรือหลงอะไรมากๆเราก็จะรู้สึกหมั่นเขี้ยวอยากกอดอยากแกล้งอยากบีบอยากกัดให้จมเขี้ยวไปเลยยิ่งดี ซอลมันชอบทำหน้ายุ่งๆเวลาเห็นแล้วมันหมั่นเขี้ยวจริงๆแล้วยังชอบงอแงอีก
***
Seol talk
ฉันตื่นมาในเช้ามากๆของอีกวันพอได้มาพักผ่อนเปิดหูเปิดตาแล้วก็ไม่อยากจะนอนตื่นสายอยากออกมาสูดอากาศบริสุทธิ์แล้วนี่บ้านแม่ไพน์ไงก็ไม่อยากจะนอนตื่นสายอายท่านเอาเปล่าๆเดี๋ยวท่านจะพาลไม่ชอบเอาได้นะ
ฉันขยับตัวออกจากแขนไพน์ที่พาดผ่านเอวตัวเองอยู่เข้าไปอาบน้ำแต่งตัวกะจะลงไปช่วยแม่ไพน์ทำอาหารเช้า ดูนาฬิกาก็รู้สึกว่าพึ่งหกโมงกว่าๆเองคือปกติถ้าตื่นเวลานี้จะรู้สึกงัวเงียมากแต่พอมาอยู่นี่อากาศดีทำให้สดชื่นมาเลยและ
“แม่ทำอะไรอยู่อ่ะคะ” ฉันเดินลงมาในครัวก็เห็นว่าแม่กำลังจัดของใส่ถาดอยู่ บ้านไพน์เป็นบ้านสองชั้นใต้ถุนยกสูงแต่ก็ไม่ได้สูงมากครัวจึงอยู่ด้านล่าง
“เตรียมของใส่บาตรพระอยู่น่ะลูกซอลไปใส่บาตรกับแม่มั้ย” แม่ไพน์หันหน้ามามองฉันแล้วก็ถาม ในครัวมีแม่บ้านกำลังทำอาหารอยู่สองคนรวมแม่ไพน์ด้วยเป็นสาม
“ไปค่ะหนูไม่ได้ใส่บาตรนานมากแล้ว” ฉันพยักหน้ายิ้มด้วยความดีใจคือฉันจำได้ว่าใส่บาตรครั้งล่าสุดคือตั้งแต่วันเกิดปีที่แล้วแหนะ ฉันมันคนปาบฮ่าๆ
“แล้วนี่ไพน์ยังไม่ตื่นหรอลูก”
“ยังหรอกค่ะเมื่อคืนไพน์เล่นเกมส์กว่าจะนอนก็ดึกเลยค่ะ” ฉันแอบฟ้องแม่เพราะเมื่อคืนไพน์มันเอามือถือฉันไปเล่นเกมส์จนดึกดื่นแล้วก็ไม่ชาร์จให้ถ้าไม่ลุกมาเข้าห้องน้ำก็คงไม่รู้
“ไม่ไหวเลยลูกคนนี้หนิ” แม่ส่ายหัวยิ้มๆ “เราไปใส่บาตรกันสองคนดีกว่าลูกไปพระคงใกล้จะถึงหน้าบ้านเราแล้ว”
“หนูช่วยถือค่ะ” ฉันรับถาดข้าวของจากมือแม่ไพน์มาถือเองแม่ไพน์ยิ้มๆให้ฉันแล้วเดินนำออกไป
ตอนเข้าที่นี่อากาศดูสดชื่นแล้วก็บริสุทธิ์มากฉันอยู่แต่ในเมืองมาตั้งแต่เกิดนานๆทีถึงจะได้ออกมาต่างจังหวัด คร่าวๆน่าจะปีละสองสามหนมั้งแล้วก็ไปแต่ทะเลไม่ค่อยได้มาที่แบบนี้หรอก แล้วส่วนมากไปแต่ต่างประเทศไงไปกับครอบครัวแทนครอบครัวพี่ลาเบลเป็นประจำทุกๆปีด้วย พอได้ไปต่างประเทศบ่อยพ่อกับแม่ก็ไม่ค่อยพาออกต่างจังหวัดเท่าไหร่
“ทำอะไรอยู่ครับสาวๆ” ไพน์ที่เดินลงมาจากบนบ้านถาม
“จัดโต๊ะเตรียมกินข้าวอยู่” ฉันเป็นคนตอบส่วนแม่ก็มองไพน์ยิ้มๆ
“โหน่ากินจังแม่” ไพน์นั่งลงบนเก้าอี้แล้วมองถ้วยข้าวต้มกุ้งที่แม่พึ่งตักวางลง
“ใช่ไหมล่ะแม่รู้ว่าของโปรดไพน์”
“ซอลก็ชอบ” ไพน์บอกแม่แล้วก็หันมาทางฉัน อันที่จริงตอนแรกฉันก็ไม่ค่อยชอบหรอกในตอนแรกแต่พอเห็นไพน์ทานบ่อยๆก็ทานด้วยแล้วก็ไปๆมาๆก็ชอบเฉยเลย “แล้วซอลทำอร่อยด้วยนะแม่” ด้วยความที่ไพน์มันชอบซื้อมาทานฉันก็หัดทำให้ไพน์มันทานซ่ะเลยจะได้ไม่ต้องไปซื้อกิน
“แล้วซอลทำกับแม่ทำอันไหนอร่อยกว่ากัน” แม่ไพน์ถามทิ้งระเบิดแฮะ ไพน์ไม่ตอบแต่ยิ้มแห้งๆแล้วตักข้าวต้มในถ้วยเข้าปาก “ไม่ตอบเลยที่นี้” แม่ว่าแล้วก็หัวเราะออกมาเหมือนท่านแค่ถามเล่นๆแหละ
“วันนี้แม่จะเข้าไร่นะไพน์จะไปกับแม่มั้ยหรือจะพาซอลไปเที่ยว” แม่ไพน์นั่งลงตรงหัวโต๊ะแล้วก็ถาม
“ไพน์พาคนงานมาให้แม่แล้วคุณเธออยากมาเก็บองุ่นเก็บทุเรียนกับแม่มากกว่าที่จะไปเที่ยวไหนอีกแม่ตื่นเต้นตั้งแต่เมื่อคืน” ไพน์บุ้ยหน้ามาทางฉันแล้วก็เล่าให้แม่ฟัง
“ขนาดนั้นเลย” แม่ไพน์หันมามองฉันยิ้มๆ “แต่แดดแรงนะเดี๋ยวผิวเสียหรอกหนูซอล”
“ซอลเขาเตรียมมาพร้อมแล้วแม่เมื่อวานพาไปเหมาครีมกันแดดมาแล้วสบายหายห่วง”
“ไปได้ค่ะซอลสบายมากค่ะ” ฉันตอบด้วยความมั่นใจทั้งครีมกันแดดทั้งหมวกทั้งเสื้อแขนยาวกางเกงขายาวถุงเท้ารองเท้าผ้าใบฉันเตรียมมาพร้อมหมดแล้ว
“แต่วันนี้คงแดดแรงกว่าทุกวันหน่อยนะแม่มีดวงอาทิตย์สองดวงเลย” ไพน์ว่าแล้วหัวเราะร่วนออกมาดวงอาทิตย์อีกดวงที่มันหมายถึงคือหน้าผากฉันไง บักไพน์มึงงงงง!!
พอทานข้าวเช้าเสร็จก็มาที่ไร่เพื่อเก็บองุ่นเตรียมส่งขายโดยมีอีไพน์ที่สอนวิธีเก็บให้ฉันสาบานว่าไพน์ไปเป็นครูไม่ได้หรอกเพราะมันดุมากเลยถ้าเป็นครูแล้วสอนลูกเขาไม่เข้าใจมันคงด่าเด็กหูชาไปแล้ว
ไพน์มันได้โอกาสดุฉันเลยเอาใหญ่ไงเหอะๆ
“ซอลตอนบ่ายไปทะเลกัน” ไพน์ที่ยืนอยู่ทางจากฉันประมาณหนึ่งเมตรพูดขึ้น
“เอาสิสักบ่ายสามค่อยไปเนอะ” ฉันตอบแต่ไม่ได้หันไปมองไพน์ตากำลังจดจ้องพวงองุ่นพวงใหญ่ที่อยู่ตรงหน้า ค่อยๆใช้กรรไกตัดออกจากต้นอย่างเบามือ
“ทำแบบนั้นชาตินี้คงเก็บไม่หมดไร่หรอกคุณเธอ” ไพน์หันมาแขวะฉัน ก็แหงสิไพน์มันทำจนชำนาญแล้วนี่เนอะฉันก็พึ่งลองเป็นครั้งแรกกลัวว่าองุ่นจะช้ำเลยต้องทำเบาๆ
“ทำแรงไม่ได้เดี๋ยวมันช้ำ” ฉันบอกแล้วก็ตัดองุ่นออกจากกิ่งเสร็จพอดีมองในตะกร้าไพน์ได้เกือบเต็มแล้วแต่ฉันยังได้ไม่ถึงครึ่งเลย
“ถ้าเป็นคนงานแม่คงไล่ออกตั้งแต่วันแรกล่ะ ฮ่าๆ” ไพน์มันหัวเราะ ใส่ฉัน
“..........”ฉันหันไปเบ้ปากใส่แล้วก็หันมาสนใจองุ่นพวงใหม่ต่อ แค่รำคาญผมตัวเองหนักมาเลยฉันหายางรักผมไม่เห็นไม่รู้ว่าวางไว้ไหน ใส่หมวกแล้วแต่เวลาลมพัดผมมาติดตามกรอบหน้าทำหู้สึกรำคาญใจจนเอาทัดหูหลายรอบมันก็ไม่หายรำคาญอยู่ดี
Pind talk
มานี่มามัดผมให้ ผมเดินมาหาซอลที่ปัดๆผมตัวเองออกจากกรอบหน้าอยู่หลายครั้งเห็นแล้วรำคาญแทนเลยเดินมามัดผมให้ ผมรวบผมให้ซอลแล้วดึงยางมัดผมของคนตัวเล็กผมใส่ไว้ในข้อมือมามัดให้ ผมเห็นมันวางอยู่ในห้องน้ำเมื่อเช้าก็เลยเอามาใส่ไว้ที่ข้อมือ
“ขอบคุณค่ะ” ซอลบอกหลังจากที่ผมเอาหมวกใส่ไว้บนหัวเธอ “ยางอยู่กับเธอหรอหาตั้งนาน” พูดกับผมแต่ตาไม่มองผมเลยสนใจแต่องุ่นตรงหน้าแถมยังพิถีพิถันตัดออกอีกเห็นแล้วอยากจะตัดแทนซอลตัด กว่าจะได้แต่ละลูก
“ไม่ต้องพิถีพิถันขนาดนั้นก็ได้มั้งครับ” ผมว่าแกมประชดแล้วยืนดู
“อู้หู สวยงามไม่มีลูกที่เสียเลย” ซอลถือขึ้นมาให้อยู่ในระดับเดียวกับหน้าแล้วก็ยิ้มอย่างภาคภูมิใจ “ไหนลองชิมหน่อยว่าหวานมั้ย” ว่าแล้วก็แกะองุ่นสองรูปออกจากพวงแล้วยัดเข้าปาก สาบานว่านี่ไม่ใช่องุ่นไร้เมล็ดที่ลูกเล็กๆนะแต่มันเป็น*องุ่นพันธุ์คาร์ดินัลที่ลูกใหญ่มากซอลใส่มันเข้าไปพร้อมกันแล้วแก้มของเธอก็ป่องหน้าจุ๊บมาก
จุ๊บ
อ้าวไวกว่าความคิดผมจุ๊บเข้าที่แก้มป่องๆนั้นทันที
____________________________
อัพพี่ไพน์คนหลงเมีย2017 รักไพน์มั้ย ไรท์รักไพน์มากกกกก แค่ดูไพน์ไรท์ก็รับรู้ได้ถึงรังสีหลงเมียมากกกก
เชิญหวีดพี่ไพน์ได้ใน #ไพน์รักเมียมาก เจอกันในทวิต รักส์จากสมาคมแม่บ้านฆ่าผัว
ตามทวงตามฆ่าตามตบไร์ได้ในเพจ
หนึ่งเม้น = หนึ่งล้านกำลังใจ ไรท์ชอบอ่านเม้นมาก
***พันธุ์คาร์ดินัล เป็นองุ่นที่ปลูกง่าย การเจริญเติบโตดีมาก มีลักษณะช่อใหญ่ ผลดก กลมค่อนข้างใหญ่ มีสีแดงหรือม่วงดำ รสหวาน กรอบ เปลือกบาง จึงทำให้ผลแตกง่ายเมื่อผลแก่ในช่วงฝนตกชุก ในผลหนึ่งๆ มีเมล็ด 1-2 เมล็ด ช่วงเวลาหลังจากตัดแต่งกิ่งจนเก็บผลได้ใช้เวลา 3-3 เดือนครึ่ง ในเวลา 2 ปี สามารถให้ผลผลิตทางการเกษตรได้ถึง 5 ครั้ง แนบรูป ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก คุณต้อม คลิก
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ