สยบรักเมียบำเรอ
7.2
เขียนโดย Phaky
วันที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2561 เวลา 15.23 น.
41 ตอน
3 วิจารณ์
41.84K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 10 มกราคม พ.ศ. 2561 13.12 น. โดย เจ้าของนิยาย
37) โหยหา
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความสเปรย์ตะไคร้หอมถูกฉีดจนละอองเล็กๆ ลอยฟุ้งอยู่ในอากาศเพื่อให้กลิ่นฉุนๆ ขับไล่เจ้ายุงตัวร้ายออกไปจากห้อง จากนั้นมือบางจึงปัดๆ ตบๆ ที่นอน หมอน และผ้าห่มที่พับวางไว้บนผ้านวมผืนหนาที่ปูบนพื้นห้องแทนฟูกนอน เนื่องจากหลายคืนมาแล้วที่ห้องนอนเล็กๆ ห้องนี้ไร้การใช้งานจากเจ้าของจนมีผงฝุ่นบางเบาเกาะติด
“อะระหังสัมมา สัมพุทโธภะคะวา…”
จากนั้นเสียงหวานๆ จึงท่องบทสวดมนต์พร้อมแผ่เมตตาอย่างที่ทำเป็นกิจวัตรก่อนหลับตานอนทุกค่ำคืนพร้อมแผ่ส่วนกุศลถึงมารดาที่จากไป ช่ออัญชันจึงล้มตัวบนที่นอนพร้อมผ้าห่มชุมน้ำที่คลุมบนร่างคลายความร้อนอบอ้าว หญิงสาวตะแคงตัวนอนแล้วหลับตา พยายามทำทุกอย่างเหมือนที่เคยทำ ซึ่งอีกไม่เกินสิบนาทีเธอก็จะหลับสนิทด้วยความอ่อนเพลียหลังจากหยิบจับทำงานมาตลอดทั้งวัน
‘ลองนับแกะดูไหมล่ะ อัญชัน นับไปนับมาเดี๋ยวก็ง่วงเองแหละ’
แต่มาค่ำคืนนี้กลับไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเวลาก็ล่วงเลยมาพักใหญ่ แต่ดวงตาทั้งสองกลับเปิดกว้างสว่างสไวไร้อาการง่วงงุนเหมือนอย่างเคย ช่ออัญชันจึงลองหาวิธีที่จะช่วยให้ตัวเองนอนหลับได้ง่ายขึ้น การนอนนับแกะไปเรื่อยๆ อย่างที่เคยได้ยินมาจึงถูกนำมาใช้แก้ปัญหาอาการตาสว่างในค่ำคืนนี้
“เก้าร้อยยี่สิบสอง เก้าร้อยยี่สิบสาม…”
เสียงใสนอนนับแกะสีขาวตัวอ้วนกลมขนฟู่ฟ่องไปเรื่อยๆ ไม่รู้ว่านานเท่าไร แต่ปริมาณที่เพิ่มมากขึ้นๆ นั้นเป็นคำตอบยืนยันได้ดีว่าวิธีนี้อาจใช้ไม่ได้ผล เพราะนับจนเจ้าลูกแกะมีปริมาณเข้าใกล้หลักพันขึ้นไปทุกที แต่อาการตาสว่างยังไม่มีทีท่าว่าจะลดระดับลงบ้างเลย
“เฮ้อ ป่านนี้คุณอาชาจะทำอะไรอยู่นะ คืนนี้จะกลับบ้านไหม แล้วคุณโรส…”
ช่ออัญชันกัดริมฝีปากไม่ยอมพูดต่อพลางหยุดความคิดไว้เพียงแค่นั้นเมื่อเลิกนับแกะแล้วสมองก็นึกถึงอาชาวินที่คืนนี้พาเรนุกาออกไปท่องราตรีและไม่ทราบว่าชายหนุ่มจะกลับมานอนที่บ้านหรือเปล่า เพราะตอนออกไปเขาก็ไม่ได้พูดอะไรกับเธอสักคำ จะว่าไปอาชาวินไม่ยอมพูดกับเธอตั้งแต่ช่วงบ่ายแล้วด้วยซ้ำ
หลังจากกลับมาจากโรงพยาบาลเมื่อช่วงบ่ายโดยทิ้งชิตให้นอนรักษาตัวที่นั่นเพราะมีอาการเกล็ดเลือดต่ำจนหมอต้องเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิด อาชาวินก็พาเธอกลับมาที่บ้าน ชายหนุ่มตั้งหน้าตั้งตาขับรถ ไม่แม้แต่จะเหลียวมองมาที่เธอสักหางตา เห็นอย่างนั้นเธอจึงทำได้เพียงนั่งเงียบทำตัวเหมือนคนล่องหน เพราะเกรงว่าหากเธอวุ่นวายทำตัวน่ารำคาญแล้วจะถูกชายหนุ่มเอ็ดตะโรใส่
พอมาส่งเธอถึงหน้าบ้านอาชาวินก็ขับรถออกไปทันที เจอหน้าเขาอีกครั้งก็ตอนเย็น แล้วก็เหมือนเช่นเคยคือชายหนุ่มไม่ยอมมองหน้าเธอเลย เห็นแบบนั้นเธอจึงเลือกเข้าไปนั่งกินข้าวเย็นในครัวกับพวกแม่บ้านด้วยหัวใจห่อเหี่ยวไม่กล้าเสนอหน้ามานั่งกินกับเขาในห้องอาหารเหมือนหลายวันที่ผ่านมา
จนกระทั่งช่วยแม่บ้านเก็บกวาดล้างจานในครัวเสร็จเรียบร้อยเตรียมแยกย้ายกันไปพักผ่อน เธอจึงเสี่ยงเดินเข้าไปในบ้าน สองจิตสองใจว่าควรขึ้นไปบนห้องนอนของอาชาวินดีหรือเปล่า เพราะหลายวันมานี้เขามีคำสั่งให้เธอนอนค้างที่ห้องของเขา แต่ยังไม่ทันได้ตัดสินใจ ชายหนุ่มก็เดินลงบันไดมาพอดี อีกทั้งที่แขนด้านซ้ายของเขายังมีเรนุกากอดไว้แนบแน่นอย่างเป็นเจ้าของ อาชาวินเดินควงแขนเรนุกาผ่านเธอไปเฉยๆ คล้ายมองไม่เห็น ทั้งที่เธอมั่นใจว่าอย่างไรซะเขาก็ต้องเห็น แต่อาชาวินทำแบบนั้นก็คงเพราะต้องการบอกเป็นนัยว่าเขาไม่ได้ให้ความสนใจเธออีกแล้วกระมัง เธอจึงเดินกลับมายังห้องนอนน้อยๆ ของตัวเอง และพยายามทำทุกอย่างเหมือนที่เคยทำ
‘ครีมพวกนี้ยังจำเป็นอยู่ไหม? ’
เมื่อพยายามหลายครั้งแล้วก็ยังข่มตาไม่หลับ ช่ออัญชันจึงดึงผ้าห่มเปียกน้ำออกจากตัวพลางลุกขึ้นนั่ง มือบางหยิบขวดครีมบำรุงผิวกลิ่นหอมที่อาชาวินชอบนักชอบหนาขึ้นมา ตั้งใจว่าจะทาครีมซ้ำอีกครั้งเพื่อเร่งให้ผิวเนียนนุ่ม เวลาส่งการบ้านตอนเช้าจะได้ไม่ต้องถูกทำโทษ แต่พอนึกดูอีกที สถานการณ์ในวันนี้ทำให้ชักไม่มั่นใจว่านับจากวันนี้ไปอาชาวินจะเรียกเธอไปตรวจการบ้านอีกหรือเปล่า เขาจะดึงเธอเข้าไปพรมจูบและโอบกอดร่างของเธอไว้ในอ้อมแขนอบอุ่นของเขาอีกไหม เพราะแค่เฉียดกายเข้าใกล้หรือแม้แต่เหลือบสายตามองเขายังไม่คิดทำ จากนี้ไปเธออาจไม่มีตัวตนในสายตาของเขาอีกแล้วก็ได้
‘ทำไมที่อกด้านซ้ายถึงเจ็บปวดเหมือนถูกใครบีบแบบนี้นะ นี่เราเป็นโรคหัวใจหรือเปล่า’
หัวใจดวงน้อยปวดแปลบจนต้องยกมือขึ้นวางทาบตรงอก อาการเจ็บจี๊ดๆ เหมือนถูกเสียดแทงด้วยของมีคมทำเอาเกิดความวิตกว่าเธอกำลังป่วยด้วยโรคร้ายโดยไม่รู้ตัวหรือไม่ โดยที่ช่ออัญชันไม่ทันได้สังเกตหรือฉุกคิดเลยว่าอาการยอกแสลงร้าวรานเช่นนี้จะเกิดขึ้นในยามที่เธอนึกถึงภาพของอาชาวินอิงแอบแนบชิดกับผู้หญิงคนอื่นเท่านั้น
ฮึก ฮึก
และเพียงแค่สมองคิดคาดการณ์ไปล่วงหน้าว่าอาชาวินจะไม่สนใจเธออีกต่อไป อ้อมแขนแข็งแรงของเขาจะโอบกอดผู้หญิงคนอื่นที่ไม่ใช่เธอ เรียวปากได้รูปจะจุมพิตหน้าผากและสูดกลิ่นหอมของแก้มจากสาวอื่น และอะไรอีกหลายๆ อย่างที่เขาเคยทำกับเธอแนบชิด แม้แต่เตียงนอนกว้างที่เขาบังคับให้เธอนอนหนุนแขนเขาและซุกศีรษะพิงอกกว้างนอนหลับใหลไปด้วยกันก็จะกลายเป็นผู้หญิงคนอื่นที่ได้นอนตรงนั้นแทนที่เธอ แค่เพียงความคิดที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงก็มีอานุภาพมากพอที่ทำให้น้ำใสๆ รินไหลออกมาจากดวงตาหม่นเศร้า มือบางคว้ากระปุกครีมขึ้นมาทาทั้งที่น้ำตาก็ยังรินไหลไม่หยุดเธอไม่รู้หรอกว่าความรู้สึกแบบนี้คืออะไร รู้เพียงแค่เธออยากให้อาชาวินกลับมาคลอเคลียชิดใกล้กับเธอแค่คนเดียวเท่านั้น
‘คุณอาชา กลับมาตรวจการบ้านอัญเหมือนเดิมได้ไหมคะ’
*************************************
กลับมาแว้ววววว ก่อนอื่นคงต้องขอโทษที่ภัคหายไป 3 วันนะคะ ติดภารกิจตรุษจีน จึงไม่สามารถอัพนิยายให้อ่านกันได้ เมื่อภารกิจเสร็จสิ้น เราจึงกลับมาฟินไปกับพระเอกแสนใจอย่างพี่อาชากันเหมือนเคย อย่าโกรธเค้าน๊า
ปล.ขอใช้พื้นที่ตรงนี้อัพเดรทเรื่องหนังสือนิยายทำมือ เรื่อง สยบรักเมียบำเรอ ภัคได้ทำการจัดส่งรูปเล่มไปวันที่ 16 กพ. 2561 เรียบร้อยแล้วนะคะ รอประมาณ 5-7 วัน คิดว่าหนังสือคงถึงมือนักอ่านที่สั่งจองพร้อมโอนกันไว้ก่อนหน้านี้
ส่วนใครที่อยากได้รูปเล่มพี่อาชากับหนูอัญชัน สามารถสั่งซื้อได้ที่เพจ 'พิจักขณา พิชามญชุ์' หรือ เฟซบุ๊ก 'พิจักขณา พิชามญชุ์ นักเขียน' ภัคสั่งมาเผื่อนิดหน่อยค่ะ
หรือหากใครถนัดแบบ E-book ก็สามารถดาวน์โหลดได้แล้วที่ Meb หรือ Hytexts ไปช่วยกันโหลดให้พี่อาชากับหนูอัญชันติด Bestseller นานๆ ด้วยนะคะ โหลดได้ตามลิ้งค์ด้านล่างนี้เลยจ้า
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.5 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ