รักละมุนของนายโดดเดี่ยว
เขียนโดย Annakan
วันที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2560 เวลา 13.46 น.
แก้ไขเมื่อ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2560 13.47 น. โดย เจ้าของนิยาย
4) ฝนแรก
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
“พี่ขอโทษนะตาล มันเป็นประชุมสำคัญจริงๆ ตาลอยู่ได้ใช่ไหมหรือจะเลื่อนไปวันอื่น” พรรัมภาคุยกับน้องสาวระหว่างเดินทางไปที่ศูนย์บำบัด วันนี้คือการเริ่มคอร์สวันแรกแล้วเธอก็ดันมีประชุมด่วนแทรกเข้ามาเมื่อวาน
“ตาลอยู่ได้ค่ะพี่พีช จริงๆ ไม่ต้องเสียเวลามาเฝ้าตาลก็ได้ค่ะแค่มารับมาส่งตาลก็เกรงใจจะแย่แล้ว” ตุลยดายืนยันให้พี่สะใภ้มั่นใจ
“ประชุมเสร็จพี่จะรีบมาหานะ พี่สัญญา” หญิงสาวในชุดทำงานแบบคล่องแคล่วยังไม่วายจะวิตกกังวลเพราะครั้งนี้มันคือการบำบัดแบบตัวต่อตัวในสระน้ำเธอไม่มั่นใจนักว่ามันจะเหมาะสมรึเปล่า น้องตาลก็เพิ่งเป็นสาวสะพรั่งส่วนผู้ชายคนนั้นถ้าเขาไม่มีแววตาประหลาดๆ เธอก็จะไม่คิดมากหรอก
“ขออนุญาตนะครับ ผมจะพาไปห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า” พิรุณมารอรับคนไข้ VIP ของเขาที่ด้านหน้าส่วนต้อนรับด้วยตัวเอง คอร์สที่เด็กสาวคนนี้ลงไว้สามารถจ่ายเงินเดือนพนักงานได้ทั้งศูนย์เป็นระยะเวลาสองเดือนแบบสบายๆ นั่นจึงเป็นสาเหตุที่เขาต้องดูแลให้เธอได้รับความสะดวกสบายมากที่สุด
“เรียกหนูว่าตาลก็พอค่ะ” ตุลยดาคุยกับผู้บำบัดที่กำลังเข็นรถให้เธออยู่
“ได้ครับคุณตาล”
ตุลยดาไม่อยากให้มีคำว่าคุณนำหน้าแต่คงเป็นสิ่งที่เหมาะสมและเขาคงสบายใจแบบนั้นเธอจึงไม่พูดอะไรอีก เธอไม่ชินกับอาการพินอบพิเทาแบบนี้เลยจริงๆ มันทำให้เธออึดอัดและที่สำคัญกว่านั้นคือเธอเด็กกว่าเขามาก ผู้ชายคนนี้แก่กว่าพี่ต่ออีกแต่ทำท่าเคารพยำเกรงเธอซะจนโอเว่อร์เธอก็แค่เด็กผู้หญิงที่เดินไม่ได้คนนึงเท่านั้นเอง
“ไม่นานหรอกค่ะ ตาลใส่ชุดทับมาข้างในแค่ถอดก็เสร็จแล้วค่ะ” เธอบอกเมื่อเขาหยุดรถตรงหน้าห้องน้ำ
“ครับ” พิรุณรับคำแล้วเลี่ยงไปยืนรอให้ไกลจากตรงนั้นเพื่อเรียกสติและความเป็นมืออาชีพให้ตัวเอง
“แค่ถอดก็เสร็จ!” ให้ตายสิไอ้ฟ้า ทำไมตัดมาแค่ประโยคนั้น! ชายหนุ่มด่าตัวเองในใจ
ถึงพิรุณจะมีอาชีพที่ได้รับการนับหน้าถือตาจากสังคมและด้วยหน้าที่การงานเขาจะต้องใจเย็นมีเหตุผลแต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าสัญชาตญาณความเป็นชายจะหายไป เขายังมาดแมนเต็มร้อยมีความสัมพันธ์ทางเพศกับผู้หญิงเป็นครั้งคราวส่วนมากก็หลังจากไปดื่มกับเพื่อนๆ ตอนนี้เด็กสาวคนนึงที่แสนจะใสซื่อกลับทำให้ตัวตนด้านมืดของเขาทำงานอย่างหนัก
“คุณพิรุณคะ” ตุลยดาเรียกผู้บำบัดของเธอเมื่อเปลี่ยนเป็นชุดว่ายน้ำเรียบร้อย
“ขออนุญาตนะครับ” พิรุณค่อยๆ ช้อนร่างคนไข้มาไว้ในอ้อมแขน ชายหนุ่มขนลุกไปทั้งกายเมื่อได้แนบชิดกับเธอแบบนี้ ตัวเธอเบามากและหอมกรุ่นเหมือนวันนั้นไม่มีผิด พวงแก้มยุ้ยๆ ไร้เครื่องสำอางและที่ริมฝีปากสีแดงระเรื่อก็เช่นกัน เขาต้องไล่ความคิดฟุ้งซ่านออกไปจากหัวให้หมดเพราะมันไม่ใช่มืออาชีพเลยที่ดันมีความรู้สึกกับสรีระของคนไข้
“ไม่ต้องกลัวครับ ผมจะดูแลคุณตาลให้ดีที่สุด” เขาบอกเมื่อมือเล็กๆ ของเธอกำแน่นอยู่ที่ชุดว่ายน้ำแบบเต็มตัวของเขา
“ขะ ขอโทษค่ะ คือตาล ไม่เคยมีใครอุ้มตาลนอกจากพี่ชาย” เธอบอกเสียงแผ่วระหว่างที่คุยกันเธอก็มองที่มือของตัวเองไม่ได้สบตาเขา
อ้อมกอดของเขาไม่เหมือนของพี่ต่อเลยสักนิดมันทำให้หัวใจของเธอเต้นรัวด้วยจังหวะแปลกๆ ซึ่งมันไม่เคยเป็นมาก่อน ผู้ชายคนนี้ตัวโตมากและร่างกายเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อใบหน้าของเขาคมเข้มและสุขุมตามแบบฉบับของชายหนุ่มที่เป็นผู้ใหญ่เต็มตัว
“สระน้ำลึกแค่หนึ่งเมตรหรือร้อยเซนติเมตรคุณตาลไม่ต้องกลัวนะครับยิ่งใส่เสื้อชูชีพด้วยปลอดภัยแน่นอน” พิรุณบอกคนไข้เมื่อก้าวขาลงไปในสระ
วันนี้เป็นการเริ่มคอร์ส ผู้บำบัดวางโปรแกรมไว้แค่ให้คนไข้ได้ทำความคุ้นเคยกับสระน้ำก่อนเขาปล่อยให้คนไข้ลอยตัวอยู่ในสระแล้วจับขาตีขึ้นลงช้าๆ อยู่สักพักจากนั้นจึงพาไปที่ขอบสระ
“จับขอบสระไว้นะครับ” พิรุณบอกแล้วเคลื่อนตัวไปที่ปลายเท้าของคนไข้
“ยกลำตัวขึ้นอีกนิดครับคุณตาล” ผ่านไปไม่ถึงห้านาที คนไข้ก็ปล่อยร่างกายให้จมลงเรื่อยๆ
“ขอโทษค่ะ คือตาลไม่รู้ตัว” เธอบอกแล้วพยายามดันตัวกลับไปแต่มันไม่ง่ายเลย
“ไม่เป็นไรครับ แสดงว่าคุณตาลไม่เคยใช้ลำตัวช่วงกลางเลยถึงไม่ค่อยมีแรง” พิรุณช้อนแขนไปใต้หน้าท้องคนไข้แล้วพาไปที่กลางสระ
“ตีแขนด้วยครับ” เขาบอกและอดจะเอ็นดูไม่ได้ เธอคงไม่เคยออกกำลังกายแบบจริงจังแน่ๆ แค่ออกแรงตีแขนและเกร็งลำตัวก็หอบแฮ่กๆ เสียแล้ว แก้มที่เคยเนียนใสตอนนี้ขึ้นสีแดงจ้ำเพราะความเหนื่อย
“วันนี้พอเท่านี้ก่อน เดี๋ยวผมจะให้คุณตาลนอนหงายอีกครั้งเพื่อปรับจังหวะการเต้นของหัวใจให้กลับมาเป็นปกตินะครับ”
“หายใจเข้าครับ” พิรุณบอกแล้วจับหน้าท้องของเธอไว้
“เข้าให้เต็มปอดครับอย่าหายใจแค่ครึ่งเดียว สูดลมหายใจลึกๆ เอาใหม่ครับ”
“เก่งมากครับ แบบนั้นแหละ” พิรุณเอ่ยชมเมื่อเธอทำตามได้ถูกต้อง
“หายใจออก ผ่อนช้าๆ อย่าพ่นออกมาพรวดเดียว ดีครับเก่งมากครับคุณตาล”
“ทำซ้ำอีกห้าเซทนะครับ เข้า ออก ………” ตุลยดาหลับตาแล้วฟังเสียงนุ่มๆ ของเขา เธอกลัวมากแต่ไม่เคยบอกใครหรือแสดงอาการออกมา ในเมื่อขาพิการเดินไม่ได้แต่ต้องมาอยู่ในสระว่ายน้ำเป็นใครจะไม่กลัวบ้างถึงจะว่ายน้ำเป็นแต่ขาไม่มีแรงก็ไม่ต่างอะไรกับโยนคนแขนขาด้วนลงไปในสระแต่น่าแปลกเมื่อมีเขาอยู่ใกล้ๆ ความกลัวของเธอก็หายไปหมดสิ้นเธอรู้ว่าผู้ชายคนนี้จะดูและปกป้องเธอได้
“ขออนุญาตนะครับ” พิรุณบอกคนไข้เมื่อจะอุ้มเธอกลับไปที่รถเข็น เขามาส่งเธอที่หน้าห้องน้ำและในนั้นมีพนักงานผู้หญิงคอยอยู่แล้ว
“ขอบคุณนะคะ” ตุลยดากล่าวกับผู้หญิงคนนั้นเมื่ออุ้มเธอมาวางในห้องอาบน้ำ เธอถอดชุดว่ายน้ำออกแล้วอาบน้ำสระผมจากนั้นจึงหยิบเสื้อผ้าในถุงมาสวมแล้วกดกริ่งบอกคนด้านนอกว่าเสร็จธุระแล้ว
“ผมจะพาไปห้องทานอาหารนะครับ” พิรุณเข็นคนไข้ไปที่อีกด้านของตึกระหว่างทางผ่านโดมที่มีต้นไม้นานาพรรณด้วย ตุลยดาตื่นตาตื่นใจมาก
“ทานข้าวเสร็จก็จะได้มาชมที่นี่ครับ” พิรุณพยายามพูดด้วยเสียงนิ่งๆ เพราะต้องกลั้นหัวเราะเอาไว้ ก็สาวน้อยบนรถเข็นหันกลับมามองจนคอแทบหักทั้งที่เลยมาไกลแล้ว
“เชิญครับ เสร็จแล้วกดกริ่งนะครับ” คุณผู้บำบัดเข็นเธอมาทิ้งไว้ในห้องสีขาวสะอาดตา บนโต๊ะมีอาหารแบบไทยๆ พร้อมทานและที่ริมห้องก็มีอาหารยุโรปพร้อมทั้งขนมให้ตักเองตามชอบใจ
“แล้วคนอื่นล่ะคะ” ตุลยดาถามด้วยความแปลกใจเพราะตอนที่มาถึงมีคนไข้นั่งรอบำบัดตั้งหลายคนแต่ทำไมเธอไม่เห็นใคร ระหว่างทางจากสระน้ำมาห้องอาหารก็ไม่เจอคนสักคนเช่นกัน
“ส่วนนี้สำหรับคอร์สบำบัด VIP เท่านั้นครับและตอนนี้ก็มีแค่คุณตาลคนเดียวที่ลงคอร์สนี้”
“แปลว่าตึกนี้ทั้งตึกมีแค่คุณกับตาล”
“มีผู้ช่วยผู้หญิงอีกสามคนครับทั้งหมดห้าคนที่จะคอยดูแลคุณตาล รวมถึงกล้องวงจรปิดที่กระจายอยู่ทุกมุมของตึกรับรองได้ว่าคุณตาลจะปลอดภัยแน่นอนครับ”
“แล้วอาหารนี่ทำไว้ให้ตาลคนเดียว” เธอถามแล้วมองด้วยความตกใจ
“ใช่ครับ”
“เอ่อ ตาลกินไม่หมดหรอกค่ะแล้วที่เหลือเอาไปทำอะไรคะ”
“ทิ้งครับ”
“ห๊ะ” ตุลยดาอุทานลั่นห้อง
“ทิ้งของดีๆ แบบนี้ได้ยังไงคะตาลขอสั่งในฐานะที่เป็นผู้ใช้บริการว่าห้ามทิ้งเป็นอันขาด” เด็กสาวบอกด้วยความโมโห มันโอเว่อร์เกินไปแล้ว
“ได้ครับแล้วคุณตาลต้องการให้ผมทำยังไงครับ”
“ตาลเห็นคนสวน แม่บ้านแก่ๆ ตั้งหลายคน แบ่งให้เขาเอากลับไปกินที่บ้านดีกว่าหรือถ้าพนักงานในศูนย์ไม่รังเกียจตาลก็ยินดีค่ะ”
“ได้ครับผมจะแจ้งให้คนครัวทราบ”
“ตาลไม่เชื่อคุณก็แค่รับปากส่งๆ ไปอย่างนั้นใช่ไหม”
“ไม่ใช่ครับ ผมต้องทำตามคำสั่งของคุณตาลอย่างเคร่งครัด”
“งั้นแอดไลน์มาหาตาล คุณต้องส่งรูปให้ตาลดูทุกครั้งว่าเอาอาหารให้ใครบ้าง”
“ตกลงครับ” พิรุณยอมรับด้วยความเต็มใจ
ตุลยดารับมือถือมา เธอเห็นว่ารูปบนหน้าจอเป็นรูปประภาคารกลางทะเลสีเทาที่แสนเหงาหงอยเธออยากถามว่ามันหมายความว่าอะไรแต่ก็มีมารยาทพอที่จะยั้งปากไว้
“เรียบร้อยแล้วผมขอตัวไปรอด้านนอกนะครับ” พิรุณรับมือถือกลับมาแล้วบอกเธอ
“อยู่ด้วยกันไม่ได้เหรอคะ หรือว่าคุณพิรุณต้องไปดูแลคนไข้”
“เปล่าครับ ก่อนเที่ยงผมดูแลแค่คุณตาลคนเดียว”
“งั้นกินเป็นเพื่อนตาลได้ไหมคะ ตาลไม่ชอบกินข้าวคนเดียวเลยมันเหงา” เธอบอกแล้วทำหน้าหงอยเพราะต้องกินข้าวตามลำพังบ่อยๆ มาเจ็ดปีเต็ม
“ได้ครับถ้าคุณตาลอนุญาตและไม่รังเกียจ”
“ตาลอนุญาตและเต็มใจมากๆ ค่ะ” ทั้งคู่นั่งทานอาหารและคุยกันด้วยเรื่องทั่วๆ ไป ส่วนใหญ่ก็เรื่องการบำบัดนั่นแหละ ตุลยดาฟังด้วยความตั้งใจเพราะมันเป็นประโยชน์กับตัวเธอเอง
“ทานน้อยจังเลยครับ” พิรุณเปรยติดจะติติงเล็กน้อย
“เวลาตื่นเต้นตาลจะกินได้น้อยค่ะ”
“ตื่นเต้นเรื่องอะไรครับ”
“ตาลอยากไปสวนค่ะ ไปได้รึยังคะตาลอิ่มแล้ว”
“ได้ครับ ผมเอาขนมปังกับน้ำดื่มติดไปด้วยดีกว่าเผื่อคุณตาลจะตื่นเต้นจนหิวอีกรอบ” พิรุณกล่าวแล้วอมยิ้ม
ผู้บำบัดพาคนไข้ของเขาเข็นกลับไปทางเดิม ประตูกระจกเข้าสู่โดมใช้วิธีเปิดปิดด้วยรหัสที่แผงควบคุมถ้าไม่สังเกตให้ดีๆ ไม่เห็นว่ามีแผงสีดำเล็กๆ ติดอยู่ข้างผนังก็จะไม่รู้เลยว่าตรงนี้คือทางเข้า
“ว้าว” ตุลยดาอ้าปากหวอด้วยความตื่นตาตื่นใจ เธอคิดว่าในนี้คงอึดอัดเพราะเป็นโดมกระจกแต่เปล่าเลยอากาศมันสดชื่นเหมือนที่สวนสาธารณะไม่มีผิดแถมยังมีนก ผีเสื้อและผึ้งบินว่อนดอมดมดอกไม้เต็มไปหมด
“มหัศจรรย์สุดๆ เลยค่ะคุณพิรุณ”
“ในโดมเรามีเครื่องปรับอุณหภูมิครับเราจำลองทุกอย่างให้เหมือนจริงที่สุด”
“แต่ต้นไม้นี่คือต้นไม่จริงๆ ใช่ไหมคะ”
“ต้นไม้จริงครับเราแค่ปรับอุณหภูมิให้เหมาะสมกับต้นไม้ครับ”
“สวยที่สุดเลยค่ะ ร่มรื่น สงบมาก ไม่มีเสียงรถมากวนใจด้วย”
“ตรงนั้นมีสนามหญ้าด้วยเรานั่งได้ไหมคะ” ตุลยดาชี้นิ้วไปที่ลานกว้าง
“ได้ครับ”
“ว้าว สุดยอด” เด็กสาวยังคงตื่นเต้นไม่หาย เธอนอนอยู่บนพื้นหญ้าสีเขียวขจีมันจั๊กจี้หลังเล็กน้อยแต่ก็เป็นความรู้สึกที่แสนสดชื่น เธอสูดลมหายใจเข้าไปเต็มปอดและไม่ลืมที่จะทำตามคำแนะนำของเขาคือหายใจให้สุดไม่สูดแค่ครึ่งเดียว
“ฝนตก” ทั้งคู่พูดขึ้นมาพร้อมกัน เมื่อสายฝนโปรยปรายลงมา
พิรุณนั่งอยู่ข้างๆ เด็กสาวที่นอนทอดกายอย่างสบายอกสบายใจบนหญ้าสีเขียว ตัวเขาเหม่อมองไปตรงริมหน้าต่างที่เม็ดฝนสาดเข้ามาเกิดเป็นเสียงเบาๆ อันแสนรื่นหู
เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เขารื่นรมย์กับการนั่งดูฝนตก
เป็นครั้งแรกที่สายฝนไม่ได้มาพร้อมความโดดเดี่ยว
ติดตามให้จบในอีบุ๊คนะคะ ขายที่ mebmarket.com
ราคาพิเศษวันที่ 16 ธันวาคม วันเดียวเท่านั้น
|
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ