เทพจักรภพ ชุดที่ 1 รักนี้ต้องเป็นของข้า
6.3
เขียนโดย CCat21princess
วันที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2560 เวลา 18.10 น.
5 ตอน
0 วิจารณ์
6,651 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2560 18.24 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) การหมั้นหมายที่เป็นเหตุ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ ก่อนที่สรรพสิ่งในจักรภพจะถือกำเนิดนั้น มีตำราเล่มหนึ่งบันทึกเรื่องราวของเหล่าเทพปีศาจได้บันทึกไว้ว่า มีเทพหนึ่งนามว่า “จักรภพ” เป็นเทพเจ้าที่ไร้ซึ่งตัวตนและไร้รูปร่าง ในบันทึกยังเขียนไว้ในเรื่องของการเรียกแทนเทพจักรภพว่า “พระบิดา” เทพเจ้าผู้นั้นได้สร้างบุตรธิดาขึ้นมานามว่า “อาซามิ” เพียงตนเดียวให้อยู่ในดินแดนจักรภพที่ไร้ขอบเขต จนเวลาล่วงเลยไปหลายปีด้วยความเบื่อหน่ายเทพอาซามิจึงได้สร้างดวงดาวขึ้นมา 10 ดวงพร้อมกับเทพปีศาจเพื่อปกครองดวงดาวนั้นๆ ด้วยเหตุนี้ตำนานจึงได้กล่าวเรื่องราวมากมายของการกำเนิดดวงดาวทั้ง 10 และขนานนามเทพอาซามิว่า “เทพผู้สร้าง”
“ท่านพี่ ตอนนี้เราเหลือกันแค่สองคนพี่น้องแล้ว ข้ามีอะไรอยากจะขอร้องท่าน”ทาคุมิ เทพปีศาจแห่งดาวพฤหัสได้เอ่ยวาจากับฮิคาริเทพปีศาจแห่งพระจันทร์ ผู้เป็นพี่สาวของนาง
“เรื่องอันใดก็ว่ามาเถิด ข้าเป็นพี่ของเจ้า ข้ายอมที่จะทำเพื่อเจ้าทุกเรื่อง หากข้าทำให้ได้”
“จริงหรือ?”
“ว่ามาเถิด”
“คือว่า น้องเห็นว่าเราทั้งสองได้ออกเรือนจนมีทายาทแล้ว ตัวข้าเองมีบุตรธิดา ส่วนท่านพี่ก็มีบุตรชาย เหตุใดเราไม่รวมกันเป็นหนึ่งเพื่อคงไว้ซึ่งความสัมพันธ์พี่น้องของเราล่ะเพคะ”
“เจ้าหมายถึง...การหมั้นหมายบุตรของเรางั้นหรือ?”ฮิคาริถามอีกครั้งเพื่อความชัดเจน
“เพคะ! เด็กทั้งสองก็รู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก เรื่องที่จะให้พวกเค้าออกเรือนไปด้วยกัน ข้าว่าเป็นเรื่องที่คู่ควรยิ่งนัก”
เพราะคำว่า “พี่น้อง” ในฐานะพี่สาวแล้วยอมทุกอย่างได้เพื่อน้องสาว ฮิคาริรับข้อเสนอของทาคุมิในตอนนั้นเพราะคิดว่าไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร กลับน่ายินดีซะด้วยซ้ำหากเด็กทั้งสองคิดแบบเดียวกับพวกเค้า
“เจ้าจะทำแบบนั้นกับข้าไม่ได้นะ!”
ยามะพูดด้วยน้ำเสียงแข็งเพื่อย้ำชัดว่าเค้าไม่มีทางยอมรับเรื่องพรรค์นี้เด็ดขาด! ใครจะรับได้ในเมื่อเค้ากำลังจะถูกแย่งคนรักไป พวกเค้าทั้งสามคน...ยามะ คาซุมิและนางาโตะ เป็นเพื่อนที่เติบโตมาด้วยกัน เมื่อพวกเค้าเติบโตจนเป็นหนุ่มสาว คาซุมิกับยามะจึงได้รักกันแม้ว่าจะไม่มีใครในวังหลวงทราบเรื่องนี้ก็ตาม
“ข้าไม่นึกเลยว่าเรื่องแบบนี้มันจะเกิดกับข้ากับพวกเราทั้งสามคน ข้าไม่รู้ว่าท่านแม่ไปตกลงเรื่องหมั้นหมายของข้ากับนางาโตะไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่”คาซุมิกล่าว
“ข้าจะไปพูดกับแม่ของเจ้าเอง”
คาซุมิจับแขนของยามะเอาไว้ “ไม่ได้นะ! ถ้าเจ้าไป ท่านแม่ก็จะรู้เรื่องของเรา ท่านแม่ไม่มีวันยอมให้เราสองคนรักกันแน่”
ยามะ รู้ดีว่าทาคุมิไม่มีวันยอมรับตัวเค้าอย่างแน่นอน ความเกลียดชังของทาคุมินั้นเกิดจากตอนที่ยามะถือกำเนิดมาแล้วด้วยเหตุบางอย่างทำให้โมโมกะ พระมารดาของยามะและเป็นน้องสาวของทาคุมิต้องเสียชีวิตก่อนวัยอันควร ทาคุมิรักโมโมกะมากเพราะเป็นน้องสาวคนเล็ก โดยการนับถือตามลำดับพี่น้องของนาง(เรียงลำดับจากคนโตไปถึงคนเล็ก)คือ ฮิคาริ เทพปีศาจแห่งพระจันทร์ , ทาคุมิ เทพปีศาจแห่งดาวพฤหัสและโมโมกะ เทพปีศาจแห่งดาวอังคาร ในวันที่สูญเสียโมโมกะเป็นวันที่ยามะกำเนิดทำให้ทาคุมิจึงไม่ไปเหยียบโลกมนุษย์อีกเลย!..
เหตุการณ์ในอดีตและความเจ็บปวดของทาคุมิส่งผลจนถึงปัจจุบันแต่จะให้เค้ายอมปล่อยคนรักไปแต่งงานกับสหายนั้นคงทำไม่ได้ หากอะไรจะเกิดขึ้นกับเค้า เค้าก็ต้องยอมทำเพื่อให้ได้รักกับคนที่เค้ารัก ยามะตัดสินอย่างหนักแน่นที่จะเข้าเฝ้าพระชายาทาคุมิ
“ฝ่าบาท องค์รัชทายาทโชเท็นมาขอเข้าเฝ้า”มาโมรุ องครักษ์ของทาคุมิ
“เจ้าเด็กคนนั้นกล้ามากนะที่มาพบข้าถึงที่นี่ เจ้าไปบอกให้องค์รัชทายาทไปรอช้าที่สระบัว”
“พ่ะย่ะค่ะ”มาโมรุรับคำสั่งจากพระชายาแล้วจึงออกไปทูลแก่องค์รัชทายาทยามะที่รอ
ยามะ รับทราบจากมาโมรุและจึงได้ไปรอทาคุมิที่ริมสระบัวเพื่อเจรจาเรื่องการหมั้นหมายของคาซุมิกับนางาโตะ
“เจ้ามีเรื่องอันใด ถึงได้กล้าขึ้นมาหาข้าถึงที่นี่”ทาคุมิกล่าวด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว
“ฝ่าบาท ข้าเพิ่งได้รับรู้เรื่องการหมั้นหมายของคาซุมิกับนางาโตะ”
“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเจ้า”
“ฝ่าบาท ช่วยรับฟังเถิด ได้โปรดยกเลิกงานหมั้นหมายด้วย”
“ข้าถามเจ้าอยู่ ไม่ได้ยินหรือยังไง!”
“ข้ากับคาซุมิ เรารักกัน”
ในที่สุดเค้าก็พูดมันออกมาจนได้ ความรักที่ไม่เคยบอกให้ใครได้รับรู้แต่ดูเหมือนว่าทาคุมิจะไม่มีท่าทีตกใจเลยสักนิดหรือว่านางจะทราบเรื่องนี้อยู่แล้ว นางยืนทอดสายตามองดอกบัวที่บานเต็มสระน้ำจนไม่สามารถมองเห็นผิวน้ำได้
“เจ้ากลับไปได้แล้ว”
“ต..แต่ข้าพูดจากใจจริงนะขอรับ!”
“ข้าบอกให้ กลับไป!”ทาคุมิขึ้นเสียงเข็งบอกว่านางกำลังอารมณ์ไม่ดีนักหากจะพูดคุยกันในเวลานี้
หากไม่เห็นว่ายามะเป็นองค์รัชทายาทโชเท็น นางคงได้ออกคำสั่งให้ทหารลากตัวไปโยนลงกองเพลิงโลกันตร์แล้ว (เพลิงโลกันตร์ คือ คุกไฟที่ใช้ประหารเทพปีศาจ โดยที่สีของเปลวเพลิงจะเป็นสีม่วง)
นับจากวันนั้นคาซุมิถูกกักบริเวณไม่ให้ออกจากตำหนักอีกเลย ทาคุมิเกรงทั้งสองจะแอบไปเจอกันอีกทำให้ยามะร้อนใจจนอยู่ไม่เป็นสุข เพราะเค้าแท้ๆทำให้คาซุมิพลอยได้รับโทษไปด้วย ตอนนี้เค้ากับคาซุมิถูกกีดกันความรักอย่างนั้นหรือ?นี้เป็นคำถามที่ยามะคอยถามตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนทนไม่ได้อีกต่อไป ยามะขอเข้าเฝ้าทาคุมิอีกครั้งแต่กลับถูกทหารขวางเอาไว้ไม่ให้เค้าเข้าไปในข้างในพระราชวัง
“ข้าเป็นถึงองค์รัชทายาท! พวกเจ้าบังอาจทำกริยาหยาบช้ากับข้าแบบนี้ได้อย่างไร”
“องค์ชาย อย่าทรงทำให้พวกเราลำบากไปด้วยเลยขอรับ นี่เป็นคำสั่งของพระชายาทาคุมิจริงๆ”ทหารนายหนึ่งกล่าวเพื่อหวังจะให้ยามะมีอารมณ์เย็นลงบ้าง
“อยากจะลองดีกับข้าใช่หรือไม่!”
“เจ้าคิดจะทำอะไรกับคนของข้า”ทาคุมิเดินออกมาปรามยามะเอาไว้
“ฝ่าบาท! ทำไมท่านถึงได้ทำแบบนี้กับคาซุมิ! ข้าบอกท่านแล้วใช่ว่า ข้ารักนางและนางก็รักข้า!”
“แม้ว่าเจ้าจะเป็นองค์รัชทายาทโชเท็น แต่เจ้าไม่ใช่องค์รัชทายาทสุริยเทพเหมือนกับนางาโตะ คนเป็นแม่ก็ต้องการให้ลูกมีความสุขที่สุด ไม่ใช่หรือ?”
“นี่คือการแสดงออกความรักของคนเป็นแม่อย่างนั้นหรือ!”ยามะขึ้นเสียงแข็งใส่ทาคุมิ
“บังอาจ! เจ้าคิดว่าตนเองเป็นใคร?อยู่ในลำดับไหน?ถึงได้กล้าขึ้นเสียงใส่ข้า กลับไปในที่ของเจ้าซะ! ก่อนที่ข้าจะทนไม่ได้ จับเจ้าโยนเพลิงโลกันตร์ไปเสียก่อน”
“ฮึ!...ท่านเกลียดท่านพ่อ เกลียดข้าที่ทำให้ท่านแม่ต้องตาย แต่มันไม่เกี่ยวกับเรื่องระหว่างข้ากับคาซุมิ เหตุใดท่านถึงได้ใจแคบเช่นนี้เล่า”
“หากยังไม่ยอมกลับ...ข้าจะลงโทษเจ้าเดี๋ยวนี้!”
แม้ว่ายามะจะเห็นท่าทีของความโกรธเกรี้ยวพระชายาทาคุมิ แต่เค้ากลับไม่รู้สึกเกรงกลัวสิ่งใดเท่ากับจะไม่ได้เจอคาซุมิอีกแล้ว ทาคุมิเหลืออดเต็มทนจึงได้สั่งให้ทหารพาตัวของยามะไปที่ประตูทางเข้าไปในคุกเพลิงโลกันตร์
“ฝ่าบาท ได้โปรดไตร่ตรองเถิดขอรับ หากท่านฆ่าองค์รัชทายาทโชเท็น องค์ราชาอิทามะคงไม่ยอมแน่และอาจจะส่งผลเสียต่อบ้านเมืองของเรานะขอรับ”มาโมรุพยายามเกลี้ยกล่อมทาคุมิ
“อิทามะ ไม่กล้าทำเช่นนั้นกับข้าหรอก! เจ้าไม่ต้องห่วงถึงเป็นเช่นนั้น ข้าก็หาได้ใส่ใจไม่!”
ไม่ทันที่ทหารจะประตูเสียก่อน สายลมหมอกพัดเข้ามาทางเข้าจนไม่สามารถมองเห็นได้ ในช่วงจังหวะนั้นทาคุมิรู้สึกถึงความเย็นจากลมหมอกและเมื่อลมหมอกก็จางหายไปพร้อมยามะที่หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย
“สายลมหมอกแบบนี้O.O! คาซุมิ”
เมื่อรู้ได้ถึงกลิ่นกายของบุตรสาว ทาคุมิจึงได้รีบกลับที่ตำหนักของคาซุมิก็พบว่าคาซุมิทำร้ายทหารที่เฝ้าหน้าตำหนักจนสลบไปทั้งหมด หากให้ทาคุมิคาดการณ์ดูแล้ว สายหมอกที่พัดพาไปที่ประตูนั้นคงเป็นของคาซุมิที่เข้าไปช่วยยามะ นับจากวันนั้นทาคุมิก็ไม่ได้พบบุตรสาวและยามะอีกเลย
ณ วังหลวงโชเท็น ที่มีเทพปีศาจอิทามะปกครองโลกมนุษย์มาช้านานทำให้โลกมนุษย์มีแต่ความสงบสุขมานานแสนนาน เมื่อยามพระอาทิตย์หลับไหล พระจันทร์จึงตื่นขึ้นมาเพื่อให้ส่องสว่างในยามวิกาลและเกิดปรากฏการณ์ดาวตก นำพาแสงดวงใหญ่ตกลงมาที่วังหลวงโชเท็น
“ฝ่าบาท องค์รัชทายาทมาถึงแล้วขอรับ”เคียวสึกิ องครักษ์ที่เฝ้ารับใช้ราชาอิทามะได้เข้ามากราบทูลการมาเยือนของแขกคนสำคัญ
ชายหนุ่มรูปงาม นัยน์ตาคมเข้ม รูปร่างสูงโปร่ง เมื่อก้าวเข้ามาท้องพระโรงของตำหนักกลางด้วยท่าทางสง่าสงามยิ่งทำให้เหล่านางข้าหลวงทั้งหลายต่างจับจ้องมองชายรูปงามผู้นั้น เค้ามีชื่อเสียงเลืองนามมากที่สุดในจักรภพโดยเฉพาะเรื่องความฉลาดปราดเปรื่องการสู้รบนั้นไม่เป็นสองรองใคร เค้าเดินมาหยุดอยู่หน้าบัลลังภ์ของราชาอิทามะแล้วจึงถวายความเคารพ
“ไม่ต้องมากพิธี ทำตัวเหมือนกับบ้านของเจ้าเถิด นางาโตะ”อิทามะใคร่เอ็นดูหลานชายตรงหน้า
“ขอรับ ท่านอา”นางาโตะกล่าว
“เจ้าเติบโตขึ้นมากจนข้าแทบจำไม่ได้”
“หลายปีแล้วที่ข้าไม่ได้มาเยี่ยมเยือนท่านอา ต้องขออภัยจริงๆขอรับ”
“ช่างมันเถอะ เข้าเรื่องของเราเลยดีกว่า”
“ขอรับท่านอา ข้ามาในครั้งนี้เพื่อตามหายามะกับคาซุมิ”
“ข้าขอบใจเจ้ามากที่มาช่วยข้า...ตอนนี้ข้าเหลือตัวคนเดียวจึงต้องยืมมือเจ้ามาช่วยตามหาลูกชายตัวดีที่ไปก่อเรื่องเอาไว้ หากโมโมกะยังอยู่คงตำหนิข้าที่ดูแลลูกชายไม่ดีนัก ”
“ทั้งสองคนเป็นสหายที่เติบโตมาด้วยกัน กระผมจะต้องตามตัวพวกเค้ากลับมาให้ได้แน่ขอรับ”
เพิ่งลงเป็นครั้งแรก ติชมได้เพคะ เรื่องนี้เรื่องแรกด้วยแล้วยังไม่เชี่ยวชาญราชาศัพท์ต้อง ขออภัยเพคะ เรื่องนี้ผู้เขียนตั้งใจให้เป็น ญี่ปุ่น+จีน นะเพคะ
“ท่านพี่ ตอนนี้เราเหลือกันแค่สองคนพี่น้องแล้ว ข้ามีอะไรอยากจะขอร้องท่าน”ทาคุมิ เทพปีศาจแห่งดาวพฤหัสได้เอ่ยวาจากับฮิคาริเทพปีศาจแห่งพระจันทร์ ผู้เป็นพี่สาวของนาง
“เรื่องอันใดก็ว่ามาเถิด ข้าเป็นพี่ของเจ้า ข้ายอมที่จะทำเพื่อเจ้าทุกเรื่อง หากข้าทำให้ได้”
“จริงหรือ?”
“ว่ามาเถิด”
“คือว่า น้องเห็นว่าเราทั้งสองได้ออกเรือนจนมีทายาทแล้ว ตัวข้าเองมีบุตรธิดา ส่วนท่านพี่ก็มีบุตรชาย เหตุใดเราไม่รวมกันเป็นหนึ่งเพื่อคงไว้ซึ่งความสัมพันธ์พี่น้องของเราล่ะเพคะ”
“เจ้าหมายถึง...การหมั้นหมายบุตรของเรางั้นหรือ?”ฮิคาริถามอีกครั้งเพื่อความชัดเจน
“เพคะ! เด็กทั้งสองก็รู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก เรื่องที่จะให้พวกเค้าออกเรือนไปด้วยกัน ข้าว่าเป็นเรื่องที่คู่ควรยิ่งนัก”
เพราะคำว่า “พี่น้อง” ในฐานะพี่สาวแล้วยอมทุกอย่างได้เพื่อน้องสาว ฮิคาริรับข้อเสนอของทาคุมิในตอนนั้นเพราะคิดว่าไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร กลับน่ายินดีซะด้วยซ้ำหากเด็กทั้งสองคิดแบบเดียวกับพวกเค้า
“เจ้าจะทำแบบนั้นกับข้าไม่ได้นะ!”
ยามะพูดด้วยน้ำเสียงแข็งเพื่อย้ำชัดว่าเค้าไม่มีทางยอมรับเรื่องพรรค์นี้เด็ดขาด! ใครจะรับได้ในเมื่อเค้ากำลังจะถูกแย่งคนรักไป พวกเค้าทั้งสามคน...ยามะ คาซุมิและนางาโตะ เป็นเพื่อนที่เติบโตมาด้วยกัน เมื่อพวกเค้าเติบโตจนเป็นหนุ่มสาว คาซุมิกับยามะจึงได้รักกันแม้ว่าจะไม่มีใครในวังหลวงทราบเรื่องนี้ก็ตาม
“ข้าไม่นึกเลยว่าเรื่องแบบนี้มันจะเกิดกับข้ากับพวกเราทั้งสามคน ข้าไม่รู้ว่าท่านแม่ไปตกลงเรื่องหมั้นหมายของข้ากับนางาโตะไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่”คาซุมิกล่าว
“ข้าจะไปพูดกับแม่ของเจ้าเอง”
คาซุมิจับแขนของยามะเอาไว้ “ไม่ได้นะ! ถ้าเจ้าไป ท่านแม่ก็จะรู้เรื่องของเรา ท่านแม่ไม่มีวันยอมให้เราสองคนรักกันแน่”
ยามะ รู้ดีว่าทาคุมิไม่มีวันยอมรับตัวเค้าอย่างแน่นอน ความเกลียดชังของทาคุมินั้นเกิดจากตอนที่ยามะถือกำเนิดมาแล้วด้วยเหตุบางอย่างทำให้โมโมกะ พระมารดาของยามะและเป็นน้องสาวของทาคุมิต้องเสียชีวิตก่อนวัยอันควร ทาคุมิรักโมโมกะมากเพราะเป็นน้องสาวคนเล็ก โดยการนับถือตามลำดับพี่น้องของนาง(เรียงลำดับจากคนโตไปถึงคนเล็ก)คือ ฮิคาริ เทพปีศาจแห่งพระจันทร์ , ทาคุมิ เทพปีศาจแห่งดาวพฤหัสและโมโมกะ เทพปีศาจแห่งดาวอังคาร ในวันที่สูญเสียโมโมกะเป็นวันที่ยามะกำเนิดทำให้ทาคุมิจึงไม่ไปเหยียบโลกมนุษย์อีกเลย!..
เหตุการณ์ในอดีตและความเจ็บปวดของทาคุมิส่งผลจนถึงปัจจุบันแต่จะให้เค้ายอมปล่อยคนรักไปแต่งงานกับสหายนั้นคงทำไม่ได้ หากอะไรจะเกิดขึ้นกับเค้า เค้าก็ต้องยอมทำเพื่อให้ได้รักกับคนที่เค้ารัก ยามะตัดสินอย่างหนักแน่นที่จะเข้าเฝ้าพระชายาทาคุมิ
“ฝ่าบาท องค์รัชทายาทโชเท็นมาขอเข้าเฝ้า”มาโมรุ องครักษ์ของทาคุมิ
“เจ้าเด็กคนนั้นกล้ามากนะที่มาพบข้าถึงที่นี่ เจ้าไปบอกให้องค์รัชทายาทไปรอช้าที่สระบัว”
“พ่ะย่ะค่ะ”มาโมรุรับคำสั่งจากพระชายาแล้วจึงออกไปทูลแก่องค์รัชทายาทยามะที่รอ
ยามะ รับทราบจากมาโมรุและจึงได้ไปรอทาคุมิที่ริมสระบัวเพื่อเจรจาเรื่องการหมั้นหมายของคาซุมิกับนางาโตะ
“เจ้ามีเรื่องอันใด ถึงได้กล้าขึ้นมาหาข้าถึงที่นี่”ทาคุมิกล่าวด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว
“ฝ่าบาท ข้าเพิ่งได้รับรู้เรื่องการหมั้นหมายของคาซุมิกับนางาโตะ”
“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเจ้า”
“ฝ่าบาท ช่วยรับฟังเถิด ได้โปรดยกเลิกงานหมั้นหมายด้วย”
“ข้าถามเจ้าอยู่ ไม่ได้ยินหรือยังไง!”
“ข้ากับคาซุมิ เรารักกัน”
ในที่สุดเค้าก็พูดมันออกมาจนได้ ความรักที่ไม่เคยบอกให้ใครได้รับรู้แต่ดูเหมือนว่าทาคุมิจะไม่มีท่าทีตกใจเลยสักนิดหรือว่านางจะทราบเรื่องนี้อยู่แล้ว นางยืนทอดสายตามองดอกบัวที่บานเต็มสระน้ำจนไม่สามารถมองเห็นผิวน้ำได้
“เจ้ากลับไปได้แล้ว”
“ต..แต่ข้าพูดจากใจจริงนะขอรับ!”
“ข้าบอกให้ กลับไป!”ทาคุมิขึ้นเสียงเข็งบอกว่านางกำลังอารมณ์ไม่ดีนักหากจะพูดคุยกันในเวลานี้
หากไม่เห็นว่ายามะเป็นองค์รัชทายาทโชเท็น นางคงได้ออกคำสั่งให้ทหารลากตัวไปโยนลงกองเพลิงโลกันตร์แล้ว (เพลิงโลกันตร์ คือ คุกไฟที่ใช้ประหารเทพปีศาจ โดยที่สีของเปลวเพลิงจะเป็นสีม่วง)
นับจากวันนั้นคาซุมิถูกกักบริเวณไม่ให้ออกจากตำหนักอีกเลย ทาคุมิเกรงทั้งสองจะแอบไปเจอกันอีกทำให้ยามะร้อนใจจนอยู่ไม่เป็นสุข เพราะเค้าแท้ๆทำให้คาซุมิพลอยได้รับโทษไปด้วย ตอนนี้เค้ากับคาซุมิถูกกีดกันความรักอย่างนั้นหรือ?นี้เป็นคำถามที่ยามะคอยถามตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนทนไม่ได้อีกต่อไป ยามะขอเข้าเฝ้าทาคุมิอีกครั้งแต่กลับถูกทหารขวางเอาไว้ไม่ให้เค้าเข้าไปในข้างในพระราชวัง
“ข้าเป็นถึงองค์รัชทายาท! พวกเจ้าบังอาจทำกริยาหยาบช้ากับข้าแบบนี้ได้อย่างไร”
“องค์ชาย อย่าทรงทำให้พวกเราลำบากไปด้วยเลยขอรับ นี่เป็นคำสั่งของพระชายาทาคุมิจริงๆ”ทหารนายหนึ่งกล่าวเพื่อหวังจะให้ยามะมีอารมณ์เย็นลงบ้าง
“อยากจะลองดีกับข้าใช่หรือไม่!”
“เจ้าคิดจะทำอะไรกับคนของข้า”ทาคุมิเดินออกมาปรามยามะเอาไว้
“ฝ่าบาท! ทำไมท่านถึงได้ทำแบบนี้กับคาซุมิ! ข้าบอกท่านแล้วใช่ว่า ข้ารักนางและนางก็รักข้า!”
“แม้ว่าเจ้าจะเป็นองค์รัชทายาทโชเท็น แต่เจ้าไม่ใช่องค์รัชทายาทสุริยเทพเหมือนกับนางาโตะ คนเป็นแม่ก็ต้องการให้ลูกมีความสุขที่สุด ไม่ใช่หรือ?”
“นี่คือการแสดงออกความรักของคนเป็นแม่อย่างนั้นหรือ!”ยามะขึ้นเสียงแข็งใส่ทาคุมิ
“บังอาจ! เจ้าคิดว่าตนเองเป็นใคร?อยู่ในลำดับไหน?ถึงได้กล้าขึ้นเสียงใส่ข้า กลับไปในที่ของเจ้าซะ! ก่อนที่ข้าจะทนไม่ได้ จับเจ้าโยนเพลิงโลกันตร์ไปเสียก่อน”
“ฮึ!...ท่านเกลียดท่านพ่อ เกลียดข้าที่ทำให้ท่านแม่ต้องตาย แต่มันไม่เกี่ยวกับเรื่องระหว่างข้ากับคาซุมิ เหตุใดท่านถึงได้ใจแคบเช่นนี้เล่า”
“หากยังไม่ยอมกลับ...ข้าจะลงโทษเจ้าเดี๋ยวนี้!”
แม้ว่ายามะจะเห็นท่าทีของความโกรธเกรี้ยวพระชายาทาคุมิ แต่เค้ากลับไม่รู้สึกเกรงกลัวสิ่งใดเท่ากับจะไม่ได้เจอคาซุมิอีกแล้ว ทาคุมิเหลืออดเต็มทนจึงได้สั่งให้ทหารพาตัวของยามะไปที่ประตูทางเข้าไปในคุกเพลิงโลกันตร์
“ฝ่าบาท ได้โปรดไตร่ตรองเถิดขอรับ หากท่านฆ่าองค์รัชทายาทโชเท็น องค์ราชาอิทามะคงไม่ยอมแน่และอาจจะส่งผลเสียต่อบ้านเมืองของเรานะขอรับ”มาโมรุพยายามเกลี้ยกล่อมทาคุมิ
“อิทามะ ไม่กล้าทำเช่นนั้นกับข้าหรอก! เจ้าไม่ต้องห่วงถึงเป็นเช่นนั้น ข้าก็หาได้ใส่ใจไม่!”
ไม่ทันที่ทหารจะประตูเสียก่อน สายลมหมอกพัดเข้ามาทางเข้าจนไม่สามารถมองเห็นได้ ในช่วงจังหวะนั้นทาคุมิรู้สึกถึงความเย็นจากลมหมอกและเมื่อลมหมอกก็จางหายไปพร้อมยามะที่หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย
“สายลมหมอกแบบนี้O.O! คาซุมิ”
เมื่อรู้ได้ถึงกลิ่นกายของบุตรสาว ทาคุมิจึงได้รีบกลับที่ตำหนักของคาซุมิก็พบว่าคาซุมิทำร้ายทหารที่เฝ้าหน้าตำหนักจนสลบไปทั้งหมด หากให้ทาคุมิคาดการณ์ดูแล้ว สายหมอกที่พัดพาไปที่ประตูนั้นคงเป็นของคาซุมิที่เข้าไปช่วยยามะ นับจากวันนั้นทาคุมิก็ไม่ได้พบบุตรสาวและยามะอีกเลย
ณ วังหลวงโชเท็น ที่มีเทพปีศาจอิทามะปกครองโลกมนุษย์มาช้านานทำให้โลกมนุษย์มีแต่ความสงบสุขมานานแสนนาน เมื่อยามพระอาทิตย์หลับไหล พระจันทร์จึงตื่นขึ้นมาเพื่อให้ส่องสว่างในยามวิกาลและเกิดปรากฏการณ์ดาวตก นำพาแสงดวงใหญ่ตกลงมาที่วังหลวงโชเท็น
“ฝ่าบาท องค์รัชทายาทมาถึงแล้วขอรับ”เคียวสึกิ องครักษ์ที่เฝ้ารับใช้ราชาอิทามะได้เข้ามากราบทูลการมาเยือนของแขกคนสำคัญ
ชายหนุ่มรูปงาม นัยน์ตาคมเข้ม รูปร่างสูงโปร่ง เมื่อก้าวเข้ามาท้องพระโรงของตำหนักกลางด้วยท่าทางสง่าสงามยิ่งทำให้เหล่านางข้าหลวงทั้งหลายต่างจับจ้องมองชายรูปงามผู้นั้น เค้ามีชื่อเสียงเลืองนามมากที่สุดในจักรภพโดยเฉพาะเรื่องความฉลาดปราดเปรื่องการสู้รบนั้นไม่เป็นสองรองใคร เค้าเดินมาหยุดอยู่หน้าบัลลังภ์ของราชาอิทามะแล้วจึงถวายความเคารพ
“ไม่ต้องมากพิธี ทำตัวเหมือนกับบ้านของเจ้าเถิด นางาโตะ”อิทามะใคร่เอ็นดูหลานชายตรงหน้า
“ขอรับ ท่านอา”นางาโตะกล่าว
“เจ้าเติบโตขึ้นมากจนข้าแทบจำไม่ได้”
“หลายปีแล้วที่ข้าไม่ได้มาเยี่ยมเยือนท่านอา ต้องขออภัยจริงๆขอรับ”
“ช่างมันเถอะ เข้าเรื่องของเราเลยดีกว่า”
“ขอรับท่านอา ข้ามาในครั้งนี้เพื่อตามหายามะกับคาซุมิ”
“ข้าขอบใจเจ้ามากที่มาช่วยข้า...ตอนนี้ข้าเหลือตัวคนเดียวจึงต้องยืมมือเจ้ามาช่วยตามหาลูกชายตัวดีที่ไปก่อเรื่องเอาไว้ หากโมโมกะยังอยู่คงตำหนิข้าที่ดูแลลูกชายไม่ดีนัก ”
“ทั้งสองคนเป็นสหายที่เติบโตมาด้วยกัน กระผมจะต้องตามตัวพวกเค้ากลับมาให้ได้แน่ขอรับ”
เพิ่งลงเป็นครั้งแรก ติชมได้เพคะ เรื่องนี้เรื่องแรกด้วยแล้วยังไม่เชี่ยวชาญราชาศัพท์ต้อง ขออภัยเพคะ เรื่องนี้ผู้เขียนตั้งใจให้เป็น ญี่ปุ่น+จีน นะเพคะ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
6 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
6 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ