เทพจักรภพ ชุดที่ 1 รักนี้ต้องเป็นของข้า

6.3

เขียนโดย CCat21princess

วันที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2560 เวลา 18.10 น.

  5 ตอน
  0 วิจารณ์
  6,763 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2560 18.24 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) อาซามิ แม่นางที่ข้าเฝ้ารอ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

         ในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ณ ป่าลึกทางทิศตะวันออกของเมืองอุมิ (เมืองแห่งทะเล) ที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยพืชพรรณนานาชนิดด้วยเหตุนี้ หญิงสาวรูปร่างบาง ดวงตากลมโต เข้าป่ามาเพียงลำพังเพื่อหาของป่าที่ได้นำกลับไปทำอาหารกินที่บ้าน

 

 

“เหตุใดเห็ดในป่านี้ถึงได้หายากเย็นนัก หรือเรามาช้ากว่าคนอื่น”หญิงพึมพำกับตัวเองหลังจากที่ยังไม่ได้ของที่อยากได้เลยสักอย่าง

 

 

             สายลมที่พัดแรงทำให้ตะกร้าที่หญิงสาวนำมาใส่ของ ร่วงหลุดมือบางและกลิ้งลงไปในเนินเขาข้างล่าง หญิงสาวไม่ทันระวังตัวเมื่อตระกร้าหลุดมือ นางจึงใช้มือคว้าตามตะกร้าแต่เท้ากลับลื่นกิ่งไม้ทำให้นางลื่นไถลมาที่เนินเขาพร้อมกับตะกร้าของนาง

 

 

“ทำไมถึงรู้สึกปวดเนื้อปวดตัวแบบนี้นะ”ยูกิฟื้นขึ้นมาจึงโอดครวญ

 

 

“เจ้าพลัดตกมาจากเนินเขาขนาดนั้น ไม่เป็นอะไร มาก็ถือโชคดีของเจ้าแล้ว”

 

 

“ท...ท่านเป็นใคร”

 

 

“ข้า ยามะ แล้วเจ้าล่ะ”

 

 

“ยูกิเจ้าค่ะ”หญิงสาวใช้สายตาจ้องมองบุรุษตรงหน้าอย่างรู้สึกคุ้นตา แต่นึกยังไงก็นึกไม่ออก

 

 

        ยามะ ที่เห็นท่าทีของหญิงสาวจึงกลัวว่าน่าจะรู้สถานะของตนเองจึงลุกขึ้นยืนเพื่อให้ให้ยูกิเห็นหน้าได้ชัดเจน

 

 

“เจ้าไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว ข้าคงต้องขอตัว”

 

 

“ยูกิขอบคุณท่านที่ช่วยไว้ แต่ยูกิไม่มีอะไรจะตอบแทนท่าน เห็ดก็ยังหาไม่ได้สักดอกเลย”

 

 

“หากเจ้าอยากตอบแทนข้าจริง ข้าก็มีเรื่องที่อยากจะให้เจ้าช่วย”

 

 

“ได้เจ้าค่ะ! หากยูกิช่วยท่านได้”

 

 

        ยามะขอให้ยูกิช่วยหากระท่อมร้างในป่าแห่งนี้เพื่อที่เค้าจะได้ใช้ชีวิตเป็นคนธรรมดาไม่ต้องมียศศักดิ์อะไรมาพันธนาการตัวเค้าและคาซุมิอีก ยูกิพายามะไปดูกระท่อมร้างที่อยู่ในป่าลึกติดกับทะเลเพราะเป็นเขตแดนของเมืองอุมิ

 

“พอจะอยู่ได้ไหมเจ้าค่ะ”

 

“แค่นี้ก็เกินพอแล้ว”ยามะเดินเข้าไปในกระท่อมร้างสำรวจในทุกซอกทุกมุม

 

“ถ้าท่านพอใจแล้ว ยูกิขอตัวเจ้าค่ะ”

 

“อืม.”

 

 

          ยูกิเดินออกมาจากกระท่อมร้างหลังนั้นโดยไม่ได้หันกลับมามองว่ายังมีหญิงสาวอีกคนมากับยามะ (ยามะใช้คาถาอำพรางคาซุมิไม่ให้ใครเห็นนาง) นางเดินกลับไปที่บ้านของตนในเมืองอุมิ เมื่อนางก้าวเข้ามาในเมืองอุมิก็พบกับความโกลาหล ผู้คนวิ่งหนีบางสิ่งบางอย่างด้วยความวุ่นวาย บ้านเรือนถูกไฟเผาจนเสียหายไปหลายหลังคาเรือน สิ่งแรกที่นางนึกถึงคือ ยาย เมื่อคิดได้แบบนั้นแล้วนางจึงรีบวิ่งไปที่บ้านของตนและพบว่าบ้านเล็กๆที่นางใช้ชีวิตอยู่กับยายกันสองคนนั้นได้กลายเป็นกองเพลิง ยูกิหันมองหายายอย่างมีหวัง

 

 

“หนูๆ! รีบหนีกันเร็ว”

 

 

“คุณลุง เห็นยายหนูไหม คุณยายอยู่ในบ้าน แต่ตอนนี้ บ..บ้านมันเป็นแบบนี้ แล้วคุณยายหนูอยู่ไหน ฮือ”

 

 

“ทำใจเถอะหนูเอ้ย”

 

 

“ไม่​ ฮึก หนูต้องหาคุณยายให้เจอ”

 

 

“ไม่มีเวลาแล้ว ตอนนี้เราถูกปีศาจเท็งงุบุก มันทำลายบ้านเมืองและเค่นฆ่าคนเป็นของเล่น หนูต้องรีบหนี”ลุงพยายามที่จะเกลี้ยกล่อมยูกิ

 

 

        เท็งงุ ที่คุณลุงกล่าวถึง เป็นปีศาจที่อาศัยอยู่บนเทือกเขาและแบ่งอาณาเขตปกครอง 8 เขตด้วยกันโดยมีไดเทนงุเป็นผู้ปกครองของเท็งงุ การก่อความวุ่นวายและเค่นฆ่ามนุษย์นั้นถือเป็นงานของพวกปีศาจนี้และสิ่งที่พวกมันโปรดปรานที่สุดคือ “หัวใจ” มนุษย์

 

        ในขณะเดียวกัน นางาโตะ องค์รัชทายาทได้เดินทางมาถึงเมืองอุมิเพื่อออกตามหายามะและคาซุมิ แต่เมื่อเข้ามาถึงในเมือง เค้าก็พบว่าเมืองนี้ได้ตกเป็นเหยื่อของปีศาจ นางาโตะเงยขึ้นมองบนหลังคาจึงเห็นปีศาจที่มีปีกและกำลังใช้ปีกนั้นพัดพาบ้านเรือนให้เสียหายและเผาบ้านเมืองจนกลายเป็นกองเพลิง ในฐานะองค์รัชทายาทสุริยเทพ หน้าที่หลักๆคือปกป้องความสงบสุขของจักรภพ นางาโตะใช้คาถาไฟเป็นพาหนะในการปรากฏตรงหน้าเท็งงุ

 

 

“O.o! เจ้าเป็นพวกโชเท็นงั้นหรือ”เท็งงุตกใจเมื่อเห็นนางาโตะใช้คาถาไฟมาปรากฏตัวตรงหน้า

 

 

“นางาโตะ องค์รัชทายาทสุริยเทพ”

 

 

“สุริยเทพ!”

 

          เพียงแค่ได้ยินชื่อเท็งงุตัวนี้ก็รู้ได้ทันทีว่าไม่อาจต่อสู้กับเหล่าเทพนี้ได้ จึงคิดที่จะใช้ปีกบินหนี แต่ยังช้ากว่านางาโตะที่จับปีกของเท็งงุเอาไว้และหักปีกทันที!

 

 

“อ๊ากกก ปีกของข้า!” เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดเท็งงุหันมองปีกของตน

 

 

“หากฆ่าเจ้าในตอนนี้คงไม่สาสมกับสิ่งที่เจ้าทำกับเมืองนี้”นางาโตะใช้เชือกไฟพันธนาการเท็งงุตัวนี้เอาไว้ แต่เท็งงุกลับยิ่งดิ้นรน

 

 

“ยิ่งเจ้าดิ้นรนเท่าไหร่ เชือกนี้ก็จะยิ่งเแผดเผาร่างกายของเจ้า”นางาโตะเอ่ยเตือนเท็งงุตัวนี้ก่อนที่เจ้าจะต้องไปจัดการกับเท็งงุตัวอื่นๆ เท็งงุตัวนี้ไม่เชื่อคำเตือนนั้นทั้งยังดิ้นจนไฟแผดเผาทั้งร่าง เหลือไว้เพียงเถ้าถ่าน

 

 

        และในขณะเดียว ยูกิที่กำลังคุยกับลุงโดยไม่รู้ตัวเลยว่าถูกเท็งงุตัวหนึ่งกำลังเพ่งเล็งมาที่พวกเค้า มันบินโฉบเข้ามาและใช้เท้าที่คล้ายเป็นนกยักษ์จับไหล่ของลุงแล้วบินขึ้น ลุงตกใจพยายามที่จะคว้ามือของยูกิให้ช่วยดึงเค้าลง ยูกิจับขาของลุงคนนั้นเอาไว้ไม่ให้เท็งงุพาตัวเค้าไป

 

 

“ปล่อยข้านะ! เจ้าปีศาจ”ลุงต่อว่าปีศาจ

 

 

“คุณลุง!”

 

 

“เจ้าอยากตายหรืออย่างไร ปล่อยตาแก่นี้ซะ”เท็งงุก้มลงมองยูกิเพราะปีกไม่สามารถรับน้ำหนักของคนสองคนได้

 

 

“ไม่! ยาย ยายของข้าไปไหน! คืนยายมาให้ข้านะ!”ยูกิพูดทั้งๆที่ยังจับขาของลุงเอาไว้

 

             ด้วยความรำคาญ เท็งงุจึงใช้พละกำลังทั้งหมดบินขึ้นฟ้าแม้ว่าจะหนักแต่ถ้าหากได้เหยื่อมาถึงสองคน ผู้ปกครองไดเทนงุคงมอบรางวัลให้กับเค้าอย่างงาม

 

“O.o! ข้าถามว่ายายข้าอยู่ไหน! เจ้าปีศาจ”

 

“ยายแก่ที่อยู่ในบ้านหลังนั้นหรือ เหอะ! ข้าเผามันไปพร้อมกับบ้านแล้วละ”

 

          คำพูดของเท็งงุตนนั้นที่บอกมาราวกับว่าเป็นเรื่องปกติที่ทำอยู่ทุกวันต่างกับยูกิ ที่ฟังแล้วเหมือนกับว่าถูกของหนักหล่นทับหัว มือไม้อ่อนแรงจนเผลอปล่อยจากขาของลุงและทิ้งร่างของตนเองให้ร่วงลงมากลางอากาศ พึ่บ! ความคิดของยูกิที่หยุดนิ่งไปแต่ก็ต้องดึงสติกลับมาเมื่อมีมือหนาของใครบางคนเข้ามาอุ้มนางเอาไว้ในอ้อมกอด ดวงตาของนางเงยมองคนตรงหน้า บุรุษผู้กล้าที่เข้ามาช่วยนางเอาไว้

 

        นางาโตะเข้ามารับร่างของหญิงสาวเอาไว้ก่อนที่นางจะตกไปในยังพื้นดินเสียก่อนและช่วยคุณลุงคนนั้นเอาไว้พร้อมใช้คาถาไฟเผาเท็งงุตนนั้นจนมอดไหม้ เมื่อเท้าสัมผัสกับพื้นดิน นางาโตะจึงก้มลงมองหญิงสาวที่อยู่ในอ้อมกอด O.o! ใบหน้ากลมมน ดวงตากลมโตเงยขึ้นมองนางาโตะนั้น ครั้งแรกที่เค้าได้จ้องมองใบหน้าของเธออย่างเต็มตาก็ต้องตกใจ

 

“อาซามิ”นางาโตะพึมพำ

 

“เอ่อ คือว่า ขอบคุณนะคะที่ช่วยยูกิ แต่ว่า..ช่วยปล่อยยูกิก่อนได้ไหมคะ”คำพูดของยูกิทำให้นางาโตะดึงสติกลับคืนมาและค่อยๆปล่อยนางจากอ้อมแขนของเค้า

 

          เมื่อทั้งสองยืนและหันหน้าเข้าหากัน ยูกิกลับยิ่งรู้สึกว่าตัวเล็กลงไปอีกอาจเป็นเพราะบุรุษตรงหน้าตัวสูงจนเธอต้องเงยหน้าขึ้นมอง

 

“เจ้าไม่เป็นอะไรนะ”นางาโตะถาม

 

“ไม่คะ ยูกิขอบคุณท่านอีกครั้งนะคะที่ช่วยยูกิ เอ่อ...คุณลุงคะ คุณลุงเป็นยังไงบ้าง”

 

          ยูกิทำตัวไม่ถูก มือไม้สั่นไปหมดเพราะบุรุษตรงหน้าเอาแต่จ้องมองใบหน้าของนางจนนางไม่กล้าจะสบสายตากับบุรุษนั้น ยูกิจึงกลบเกลื่อนความอายโดยการวิ่งไปหาคุณลุงและช่วยประคอง คุณลุงเดินเข้ามาหานางาโตะ

 

“ขอบใจเจ้ามากที่ช่วยข้า ข้าอยากจะรู้นามของเจ้าหากวันใดที่ข้าได้มีโอกาสตอบแทนบุญคุณของเจ้า”คุณลุงกล่าว

 

“นางาโตะ”

 

“ข้าขอบใจเจ้าอีกครั้ง ข้าต้องขอตัวไปหาครอบครัวก่อน แล้วข้าจะหาโอกาสตอบแทนเจ้า”

 

 

“คุณลุง! คือ...ว่าให้ยูกิไปด้วยได้ไหม ตอนนี้ยูกิไม่มีบ้าน ไม่มียายแล้ว”ยูกิหันไปพูดกับคุณลุงเพราะตอนนี้เธอซึ่งที่อยู่และไร้ญาติพี่น้อง

 

“ไม่ได้หรอก หนูเอ้ย...ลูกของลุงมีกันตั้ง 5 คนแล้ว หากให้หนูไปอยู่ด้วย ลุงก็ไม่รู้จะเลี้ยงดูไหวไหม”

 

“แต่ตอนนี้ยูกิไม่เหลือใครแล้ว คุณลุง! ได้โปรดให้ยูกิช่วยทำงานอะไรก็ได้นะคะ”ยูกิอ้อนวอนคุณลุงอีกครั้ง

 

“ข้าจะหาบ้านให้แม่นางเอง”

 

          เมื่อฟังสิ่งที่หญิงสาวพูดกับลุงคนนั้นแล้ว นางาโตะจึงได้เสนอความคิดให้กับนางเพราะเค้าเองก็อยากจะพิสูจน์เช่นกันว่า หญิงสาวตรงหน้าคือ “อาซามิ” หรือไม่? หากใช่จริงๆ เค้าก็จะไม่ยอมปล่อยนางไปให้ใครเหมือนในอดีตชาติที่แสนเจ็บปวด

 

           คุณลุงวางใจทันทีเมื่อได้ยินนางาโตะพูดแบบนั้นจึงเดินจากไปปล่อยให้ยูกิยืนอยู่ตามลำพังกับนางาโตะ ยูกิหันไปมองนางาโตะ

 

“บ้านที่ท่านพูดถึง...ยูกิจะอยู่ได้จริงๆหรอคะ”

 

“ได้ หากเจ้าช่วยข้าบางอย่างเพื่อเป็นการตอบแทนที่ข้าช่วยเจ้าไว้”นางาโตะวางอุบายให้หญิงสาวยอมไปกับเค้าเพราะเห็นท่าทีลังเลของนาง

 

           เมืองอุมิต้องใช้เวลาในการฟื้นฟูเมืองอีกนาน หญิงสาวตัวคนเดียวที่ไร้ญาติพี่น้อง บ้านที่มีก็ถูกไฟเผาจนไม่เหลือซากทำให้หญิงสาวจำต้องทำตามที่นางาโตะได้ยกข้อเสนอมา

 

 

เขาเจอกันแล้ว ฝากติดตามด้วยนะเพคะ

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
6 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
6 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา