สามี...ท่านมียางอายบ้างหรือไม่!

7.0

เขียนโดย สาวเพ้อฝัน

วันที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 เวลา 15.17 น.

  9 ตอน
  0 วิจารณ์
  11.54K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 15.33 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

5) ล้อเกวียนขยับนับหนึ่ง3.2

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
ลมแรงยามเมื่อมันปะทะเข้ากับหน้าต่างมันก็จะส่งเสียงดังปึ้งปั้งเหมือนดังเช่น คนที่มีอคติต่อกัน ยามใดได้เจอหน้าก็มักจะเกิดการกระทบกระทั่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่กับเขานอกจากนางเลี่ยงไม่ได้แล้ว นางยังต้องมีชีวิตที่ผูกติดกับเขาในฐานะของสามีและภรรยาเพียงในนามอีกด้วย
“ดูแล้วน้องหญิงคงจะยังสบายดี ไม่เห็นว่าจะไม่สบายที่ใดเลย”
แผ่นหลังเล็กๆ ร่างแบบบาง หญิงสาวนอนบนตั่งเตี้ยตัวเล็กข้างหน้าต่าง เหม่ยถิงยกแขนข้างนึงขึ้นมาเท้าไว้กับศีรษะตนเอง ต่างหมอนหนุนหนอนนอน เส้นผมดำขลับเป็นเงางามที่ไม่ได้ถูกเกล้ามวยไว้สยายลงมาราวกับน้ำตกที่กำลังไหลลงยังเบื้องล่าง ตัดกับผิวพรรณผุดผ่องบนใบหน้างามแฉล้มนั้นล้วนส่งผลให้นางในตอนนี้ชวนมองอย่างยิ่ง ราวกับภาพวาดที่มีชีวิต ในขณะที่หูจิ้งมองนางอย่างพินิจพิเคราะห์
เขาย่างสามขุมเข้าไปหาก่อนนั่งลงบนตั่งที่นางยังคงนอนอยู่ มือนึงเอื้อมไปกอบกุมเส้นผมยาวดำขลับงดงามที่ถูกสยายไว้กลางหลังขึ้นมาส่วนนึง ก่อนจะยกมันขึ้นมาแล้วก้มหน้าจรดกับริมฝีปากและปลายจมูกฝังลงไปบนเส้นผมของนาง กลิ่นหอมอ่อนๆโชยออกมาจากเส้นผมเส้นเล็กๆที่เรียงกันแน่นขนัดของนาง ค่อยๆเชยชมกับความงามของหญิงสาวตรงหน้า บนใบหน้าปรากฎรอยยิ้มบางๆที่ไม่ว่าหญิงใดที่ได้เห็นเขาในตอนนี้แล้วจะต้องรู้สึกหวั่นไหวไปกับเขาอย่างแน่นอน
“ตอนท่านยังไม่มาข้าก็สบายดี แต่พอท่านมาแล้วนี่สิข้ารู้สึกไม่สบายเหมือนคนใกล้จะตายให้ได้เลย”เธอพูดก่อนพลิกตัวหันหน้ามาสบตาเขาเส้นผมในมือเขาค่อยๆรูดหล่นออกไปตามแรงเคลื่อนไหวของนาง นางปัดมือเขาลง
“ท่านมีอะไร ไหนท่านบอกงานยุ่งมาก ยังต้องมีงานต้องสะสางอีกไม่ใช่หรือ?”
เขาเก็บมือกลับมาก่อนสบตานางรอยยิ้มบางๆที่มีไม่ได้เลือนหายไปแต่มันกลับถูกแทนที่ด้วยรอยยิ้มที่ให้อารมณ์แตกต่างจากเดิม รอยยิ้มในตอนนี้มันกลายเป็นรอยยิ้มที่ไม่ว่าใครเห็นก็อดจะอกสั่นขวัญแขวนใจไปไม่ได้ เยียบเย็น นิ่งเฉย ปราศจากความเป็นมิตรอย่างสิ้นเชิง
“หูเม่ยบอกกับข้าว่า เจ้าต้องการจะกลับไปยังเรือนแม่สื่อ"เธอไม่ทันสังเกตในขณะที่เขาถามคำถามนี้แววตาของเขาก็ได้เปลี่ยนไปด้วยเช่นกัน มันเย็นเยียบและแฝงไว้ด้วย ความระแวดระวังสงสัย ทั้งยังคุกรุ่นไปด้วยกลิ่นอายของโทษะอีกด้วย
“ใช่"นางตอบ
“หึ เจ้าคิดจะไปทำอะไร"
“ไปทำอะไรก็เรื่องของข้าสิ นี่ โอ้ย"เธอยังตอบคำถามของเขาไม่จบ เขาก็คว้าข้อมือขวาของเธอไปไว้ในกำมือก่อนที่จะออกแรงบีบข้อมือของเธอ
“เจ้าทำอะไร ปล่อยนะข้าเจ็บ"เธอพยายามใช้มือซ้ายที่ยังเป็นอิสระอยู่แกะมือของเขาออกแต่เขากับใช้มืออีกข้างที่ยังว่างอยู่ขว้าจับแขนอีกข้างที่เหลือของเธอเอาไว้ ก่อนจะดึงเธอเข้ามา ตอนนี้เธออยู่ในสภาพที่สุ้มเสี่ยงอย่างมาก ใบหน้าเธอแนบกับแผ่นอกของเขา ในขณะที่เขารวบตัวเธอครึ่งนึงขึ้นมานั่งบนตัก หัวใจของเธอเต้นระส่ำ เขาในตอนนี้ช่างน่ากลัวนัก โทสะที่ฉายชัดอยู่ในแววตาของเขาทำให้นางประหม่าหวั่นเกรง
นางกำลังกลัวเขาสัมผัสได้ นางกลัวนั่นคือสิ่งที่เขาต้องการให้นางเป็น ให้นางได้ลิ้มรส
“เจ้าคงไม่ใช่ลืมเรื่องหนังสือสัญญาแล้วหรอกนะ?”เขาก้มหน้าลงมาแนบใบหูของนางก่อนกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบอย่างที่สุด ลมหายใจอุ่นๆที่เป่ารดใบหูของนางทั้งๆที่อุ่นขนาดนั้นแต่น้ำเสียงของเขามันกลับหนาวเหน็บถึงเพียงนี้
เขากังวลเหรอ? เขากำลังระแวงว่าฉันจะไม่ทำตามสัญญาใช่ไหม?
“ข้าไม่ได้ไปที่นั่นด้วยเหตุผลอย่างที่ท่านคิด"
เมื่อเขาได้ยินดังนั้นมือที่จับข้อมือของนางไว้โดยแรงทั้งสองข้างก็ค่อยๆคลายลงแต่เขาก็ยังไม่ได้ดึงมือออกมาแค่จับข้อมือนางไว้เบามือกว่าเดิม
“เจ้ารู้ ว่าข้าหมายความว่าอย่างไร?”
“ข้าไม่ใช่คนโง่!”เธอเงยหน้าจ้องมองนัยน์ตาของเขา
“ก็ดีที่เจ้าไม่โง่ รู้ว่าอะไรคือสิ่งที่ควรทำ"
เขาเค้นเสียงรอดไรฟันก่อนจะเริ่มออกแรงบีบข้อมือเธออีกครั้ง ครั้งนี้นับว่าเบากว่าครั้งแรกแต่เป็นเพราะว่ายังเจ็บจากแรงบีบครั้งก่อนอยู่แล้ว ครั้งนี้จึงเจ็บไม่ต่างจากครั้งแรกสักเท่าสักเท่าไรถึงแม้เขาจะเบาแรงลงแล้วก็ตาม
“ข้าว่าท่านต่างหากละที่ควรจะบอกความจริงกับข้า”เธอตะเบงเสียงสู้
หนอย ฉันชักจะเริ่มโมโหแล้วนะ ลองนายมาเป็นฉันดูบ้างสินายจะทำยังไงฉันอยากจะรู้ จู่ๆการลืมตาตื่นขึ้นมาก็ต้องพบเจอกับความจริงที่ว่าทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวเปลี่ยนไปหมดแล้ว โลกที่เคยอยู่ไม่ใช่โลกใบเดิมของเธออีกแล้ว ไม่เคยรู้จักนายก็ต้องมาแต่งงานกับคนที่ไม่ได้รักซะแล้ว สำหรับนายคงจะนอนกับใครก็ได้แต่สำหรับฉันมันต่างกันฉันถึงยอมทำทุกอย่างเพื่อแลกกับการที่จะได้ไม่ต้องร่วงลงไปถลำลึกกับสิ่งที่ฉันไม่ได้ก่อขึ้นมาเอง ไม่ได้รับรู้ด้วยเลย ทั้งๆที่งานทางนู้นฉันก็กำลังไปได้ดีแท้ๆ ยังมีอนาคตอันสดใสรอฉันอยู่ เพื่อนฉันพ่อแม่ฉัน ฉันจากมานานขนาดนี้แล้วไม่รู้พวกท่านจะเป็นห่วงฉันแค่ไหน ฉันยังเข้มแข็งประคองสติไม่ให้เตลิดจนเป็นบ้าจนต้องเอาเวลาทั้งหมดมาคิดทบทวนเรื่องที่ว่า ฉันควรทำยังไงต่อไปอยู่ทุกลมหายใจก็ดีเท่าไหร่แล้ว เรือนแม่สื่อบ้าบอนี่นายก็ยังยัดเยียดให้ฉันอีก ถึงจะบอกว่าเป็นของฉันก็เถอะแต่ฉันก็ไม่ใช่เจ้าของมันจริงๆสักหน่อย ทีนี้ฉันตัวคนเดียว ฉันพยายามเดินทางต่อไปบนเส้นทางชีวิตใหม่ ทุกย่างก้าวอกสั่นขวัญแขวนไม่รู้ว่าอนาคตยังต้องพบเจอกับเรื่องอะไรอีก
 เธออัดอั้นตั้นใจเหลือเกินทำไมไม่เป็นคนอื่นทำไมต้องเป็นเธอ ทำไม เธอมาที่นี่เพื่ออะไร เพื่อใคร หยดน้ำตาไหลรินลงมาหยดแล้วหยดเล่า ความเจ็บปวดหว้าเหว่ เธอรู้สึกหมดหนทางทำอะไรไม่ถูก ทุกความเจ็บปวดบีบเค้นกลั่นออกมาเป็นน้ำตาที่เธอไม่ได้ตั้งใจให้มันไหล ฉันคิดถึงบ้านรู้บ้างไหม ฉันคิดถึงชีวิตก่อนหน้านี้ ที่ของฉันที่ฉันควรจะอยู่ ฮือๆ
“เจ้าร้องไห้ทำไม"
เขาไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองเลย นางกำลังร้องไห้ เขาทำนางเจ็บขนาดนั้นเลยเหรอผู้หญิงที่เถียงคำไม่ตกฟาก กล้าต่อปากต่อคำ กล้าได้กล้าเสียเมื่อคืนวานหายไปไหน นางใช่คนเดียวกันจริงหรือ น้ำตาของนางทำให้เขากระวนกระวายทำอะไรไม่ถูก เขาปล่อยมือจากแขนทั้งสองข้างของนางก่อนจะมองใบหน้าอมทุกข์ของนาง มองจ้องไปนัยน์ตาของนาง
เมื่อแขนถูกปล่อยคืนเป็นอิสระเธอก็ยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาลวกๆก่อนสบถคำหยาบ แล้วตะโกนใส่เขาอีกครั้ง
“ข้าก็บอกท่านไปแล้วว่าข้าจำอะไรไม่ได้ทั้งนั้น ข้าไม่ได้โกหกท่านทำไมท่านไม่ฟังข้าบ้างเลย”เธอไม่ได้สะอื้นแต่น้ำตามันกลับไม่ยอมหยุดไหล นางสบตาเขาด้วยสายตาที่ต็มไปด้วยความเศร้าเสียใจ อ้างว้างและหว้าเหว่
สายตาที่นางใช้มองเขาไม่ใช่สายตาของคนโกหก ความรู้สึกผิดเล็กๆผุดขึ้นกลางใจของเขา
“ข้าไม่รู้ว่าท่านต้องการอะไร ข้าแค่ต้องการไปที่นั่นเพื่อตามหาความทรงจำเท่านั้นเอง ท่านไม่ได้เป็นข้านี่ท่านไม่รู้หรอกว่าการที่ตื่นขึ้นมาแล้วต้องมาเจอว่าสิ่งรอบข้างในชีวิตได้เปลี่ยนไปแล้วเป็นเช่นไร จำเรื่องราวก่อนหน้านี้ไม่ได้ทำให้ขาต้องมีชีวิตอย่างอกสั่นขวัญแขวน และเป็นทุกข์แค่ไหน"เธอยังพูดต่อไปในขณะที่น้ำตาเองก็ยังไม่หยุดไหล ขอบตาทั้งสองข้างแดงก่ำ ตอนนี้เธอรู้สึกว่าตัวเองหายใจลำบากมากขึ้น
“ข้าจำไม่ได้จริงๆ ข้าไม่รู้ว่าเคยทำอะไรให้ท่านไม่พอใจบ้างรึเปล่า แต่ตอนนี้ข้าจำอะไรไม่ได้เลยสักอย่างเดียว ท่านไม่เห็นใจข้าก็ไม่เป็นไรแต่ทำไมต้องบีบคั้นข้าด้วย ข้าไม่รู้ว่าข้ามีสิ่งใดที่ท่านต้องการ ข้าไม่รู้อะไรทั้งนั้นไม่รู้เลยว่าท่านต้องการอะไรจากข้า เพราะฉะนั้นข้าขอเถิดนะถ้าท่านคิดจะทำกับข้าเช่นนี้ก็ขอให้ท่านบอกเหตุผลของท่านมา ข้ารับได้ทุกอย่างมาถึงจุดนี้แล้วไม่มีสิ่งใดที่ข้าจะรับไม่ได้อีกแล้ว ไม่มี…เลย" เธอก้มหน้าลงเช็ดน้ำตา
ความขมฝืดอยู่ในลำคอ ในขณะเขาที่นั่งมองนางระเบิดอารมณ์อยู่ข้างๆพูดอะไรไม่ออกสักคำเขาเงียบสักพักหนึ่งก่อนจะเอ่ยคำพูดที่ทำให้นางประหลาดใจ และแน่นอนเขาเองก็แปลกใจตัวเองเช่นเดียวกัน
“ข้าขอโทษ หากเจ้าจำมันไม่ได้แล้วก็ช่างมันเถิด ถ้าเจ้าอยากไปตามหาความทรงจำที่หายไปข้าก็จะไปด้วยกันกับเจ้า อย่าร้องอีกเลย ข้าขอโทษนะ"
เขาเอื้อมมือไปเช็ดน้ำตาให้นาง ก่อนจะดึงนางเข้ามากอดเบาๆ ถึงอย่างไรตอนนี้นางก็ได้ชื่อว่าเป็นภรรยาของเขา ไม่ว่าจะอย่างไรก็แล้วแต่เขาก็รู้สึกว่าตัวเองคงจะทำเกินไปจริงๆ
เธอก้มหน้าซบไหล่เค้าปล่อยให้น้ำตาของเธอไหลอยู่เงียบๆ จนมันค่อยๆหยุดไหลไปเอง เธอเงยหน้ามองเค้า นัยน์ดวงตายังคงมีไอหมอกบางเบาคลออยู่ ก่อนที่เธอจะออกแรงทุบไหล่เขาแรงๆทีนึง
“นี่โทษฐานที่ท่านทำข้าเจ็บตัว”เธอทุบไหล่เขาอีกครั้ง"นี่คือโทษฐานที่ท่านไม่เชื่อว่าข้าจำอะไรไม่ได้แล้วมาคาดคั้นเอาสิ่งที่ข้าไม่รู้จากข้า ข้าเป็นคนป่วยนะ" เธอกระเง้ากระงอดใส่เขาเล็กน้อยเผยอปากเล็กๆ ก่อนบนใบหน้าจะปรากฎรอยยิ้ม
หูจิ้งมองนางอย่างไม่เข้าใจ
ร้องไห้ไม่ทันไรก็ยิ้มออกมาแล้ว เขาไม่เคยเห็นใครเป็นได้อย่างนางมาก่อนเลยจริงๆ หลายครั้งหลายคราที่นางสร้างความแปลกใจให้กับเขา แต่ตอนนี้เขายังไม่ไว้ใจนาง จิตใต้สำนึกและความระมัดระวังที่ติดตัวเขามานานคอยบอกให้เขาว่าอย่าประมาท อย่าไว้ใจนาง
แต่ลึกๆแล้วส่วนหนึ่งในใจอาจจะเพียงหนึ่งในร้อยของเศษเสี้ยวนึง มันตะโกนบอกเขาว่านางไม่ได้โกหกเขา แววตาของคนที่ต้องเจอกับเรื่องสะเทือนใจนานัปการ แววตาของคนไร้ซึ่งที่พึ่งพิง ความอ้างว้าง เดียวดายที่นางถ่ายทอดออกมาผ่านสีหน้าและแววตานั้น พาให้อารมณ์ และความสับสนของเขาโหมดั่งพายุฝนซึ่งกระหน่ำซ้ำถาโถมเขามาในจิตใจ มันคอยย้ำเตือนให้เขารู้ว่านางไม่ได้โกหก นางจริงใจ นางไม่รู้เรื่องพวกนี้จริงหรือ นางจำอะไรไม่ได้แล้วจริงหรือ? เอาเถอะตอนนี้เขาจะจับตาดูนางไปก่อน เมื่อเขาแน่ใจแล้วเขาถึงจะบอกทุกเรื่องแก่นาง
เธอปิดเปลือกตาลงกะว่าจะพักสายตาสักพักค่อยผละออกจากตัวเขาไป แต่แม้ว่าเธอจะขยับตัวออกมายังไงเขาก็ยังตระกองกอดเธอไว้อยู่เหมือนเดิม
“อ่ะแฮ่ม ขอโทษที่ข้ามาขัดจังหวะ แต่ว่าพี่สะใภ้กับข้ามีนัดต้องออกไปข้างนอกด้วยกันนะเจ้าคะ พี่ชายท่านปล่อยพี่สะใภ้คืนให้ข้าก่อนเถิดนะ เดี๋ยวข้ากลับมาแล้วจะคืนนางให้ท่านเอง"
หูเม่ยเดินเข้ามาได้จังหวะพอดี เธอจึงดึงตัวเองออกมาจากอ้อมกอดเขาได้สำเร็จ เกือบไปแล้วไหมละ ไอบรรยากาศเผลอตัวเผลอใจแบบเมื่อกี้ฉันจะไม่ยอมให้มันเกิดขึ้นเป็นครั้งที่สองหรอกนะ เธอบอกกับตัวเอง ในขณะที่ไออุ่นจากกายของเขายังไม่จางหายไป
“ข้าขอไปล้างหน้าก่อน เดี๋ยวจะตามเจ้าไปทีหลัง “เธอกล่าวกับหูเม่ย แต่หางตายังคงเหล่มองหูจิ้งเป็นบางครั้ง สีหน้าของเขายังคงไม่เปลี่ยนไปเพียงแต่ในแววตาของเขานั้นอ่อนลงจากเดิม เธอหวั่นใจเหลือเกิน เธอกำลังหวั่นไหว จึงรีบเดินออกมาจากที่ตรงนั้น แล้วจึงปล่อยให้เขานั่งอยู่ที่เดิมภายในห้องกับหูเม่ยสองคน
“นางจำอะไรไม่ได้จริงหรือ?”
แววตาที่เปลี่ยนไปของเจ้าของคำถามนี้ อาจจะทำให้ใครหลายๆคนที่เคยเชื่อว่านางเป็นเพียงคุณหนูในห้องหอ ต้องเปลี่ยนความคิดเสียใหม่ นัยน์ตาฉายแววของความฉลาดรู้เท่าทันคน อ่อนหวานแต่ไม่อ่อนแอ ความลึกล้ำที่ฉายอยู่ในแววตาของนางซึ่งแตกต่างจากเด็กสาวรุ่นราวคราวเดียวกันอย่างลิบลับ
“ข้ายังไม่แน่ใจ"
หูจิ้งเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำในขณะที่เขายังคงหลับตาเพื่อรวบรวมเรื่องราวต่างๆและทุกความคิดที่ผุดขึ้นมามากมายในระยะเวลาเพียงสั้นๆให้สงบลง แต่กระนั้นเขาก็ยังรู้สึกว่าข่มมันลงไปได้อย่างยากเย็น
“งั้นท่านควรทำให้แน่ใจได้โดยไว นางคือกุญแจที่จะพาพวกเราไปสู่สิ่งที่ทุกคนในใต้หล้าล้วนต้องการ ถ้าเราไม่ได้มันมาก่อนที่คนอื่นได้ตัวนางไป แผ่นดินคงจะต้องโกลาหลวุ่นวายอย่างแน่นอน เราต้องเร่งมือแล้ว"
“ข้ารู้"เขาค่อยๆลืมตาขึ้นมาอย่างเชื่องช้า “เพียงแต่ข้าต้องการเวลาคิดทบทวนทุกสิ่งให้ดี ข้าไม่ต้องการ ที่จะผิดพลาดเรื่องใดไปแม้แต่เรื่องเดียว ข้าไม่ต้องการสร้างจุดอ่อนให้ตัวเอง” ผิดพลาดแค่เรื่องเล็กน้อยก็ไม่ได้เด็ดขาด!
สิ่งสำคัญที่ใต้หล้าต้องการ…ฉันคือกุญแจนี่มันเรื่องอะไรกัน
ทั้งสองคนไม่รู้ตัวเลยว่าระหว่างที่พวกเขาพูดคุยกันอยู่นางจะกลับมาเร็วพอที่จะได้ยินสิ่งที่พวกเขาไม่ต้องการให้นางรับรู้มากที่สุด…

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา