MAYA มายา

7.3

เขียนโดย โชฒิกากราณ์

วันที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 เวลา 16.50 น.

  23 chapter
  1 วิจารณ์
  45.27K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 18.02 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

17) เกมที่ตามไม่ทันและการร้องขอ II

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
 
 
               “ไม่มีใครเหนือกว่าเรา!!!” ร่างนั้นหายไปในที่มืดในทันที
 
              “มันก็ถูก เพราะนี่มันโลกของแก แกจะเหนือกว่าทุกอย่างได้มันก็แค่โลกใบนี้เท่านั้นแหละ” เหลือเพียงความเงียบหลังจบประโยค รับรู้ถึงเสียงลมหายใจที่หนักและหัวใจที่เต้นแรงของตัวเอง
              “หึ! ปากดีไม่เลิกเลยนะรัน” เสียงที่เปล่งออกมาจากความมืด มันเป็นเสียงที่ต่างออกจากจากเสียงแหบแห้งอันน่ากลัวนั้น เสียงนี้มันใสสว่างเหมือนกับมนุษย์ทั่วไป
และมันน่ากลัวกว่า…
              “จะตายแล้วยังจะปากดีอีก”
              “ใคร… อออกมาเซ่!!” รันลณีตะโกนอย่างเหลืออด
              “ออกมาแล้ว อยู่ข้างหลังเธอไง”
              อึกก!!
 
              ผ้าสีขาวที่เปื้อนไปด้วยเลือดและน้ำหนองสีเหลืองพันธนาการเธอเอาไว้ ขณะเดียวกันที่ผ้าของอีกฝ่ายคลายออก เผยให้เห็นดวงตาและใบหน้าที่ไม่ได้สัดส่วนนั้น รันลณีดิ้นทุรนทุราย รู้สึกเจ็บปวดและร่างการเริ่มแข็งกระด้าง ความรู้สึกเหมือนกำลังถูกน้ำกรดสาดลงตามแนวผ้าที่พันร่างของเธอ
 
              “ฝันหยุดนะ!!!” เป็นโฉมฉายที่เข้าประชิดร่างผู้เป็นน้อง แต่ยังไม่ทันที่จะเข้าถึงตัว เงาดำน่ากลัวก็แยกเธอให้ห่างออกไป เสียงประตูเหล็กที่ดังพร้อมกับกลอนประตูที่ลงเสียงดัง ตามด้วยเสียงกรี๊ดร้องอย่างน่าสงสารของคนในนั้น
              “อ่อยเออไอ!!” รันลณีพยายามเปล่งเสียงด้วยน้ำตาเมื่อเสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดนั้นดังกระทบหูของเธอเป็นระยะๆ
              เสียงกรีดที่ลึกบาดจิตใจ มันทรมานและน่ากลัว…
 
              “ไม่ต้องห่วง พวกนั้นก็แค่หิว แทะเล่นสักหน่อยคงไม่เป็นไร ไหนๆ ก็ไม่ได้ใช้ประโยชน์แล้ว” ตรงหน้ายกยิ้ม เธอสูดหายใจลึกๆ ต้อนรับร่างกายที่ค่อยๆ กลายสภาพเหมือนกำลังมีชีวิต ขณะที่อีกคนตรงหน้ากำลังจะหมดลมหายใจด้วยร่างที่ถูกห่อหุ้มไปด้วยผ้าสีขาว ดวงตาเพียงข้างเดียวที่สามารถมองเห็นความเคลื่อนไหว ร่างกายเจ็บปวดจนด้านชาและไม่รู้สึกถึงตัวตนที่เคยมีเสมือนจิตวิญญาณถูกสูบหายไปทีละส่วนจนเกือบหมดสิ้น
 
              นี่เธอกำลังจะตายใช่ไหม
 
              เหมือนกับคนอื่นๆ … และต้องติดอยู่ที่นี่ งั้นสินะ…
 
              ดวงตาที่ยังคงมองเห็น ปะทะเข้ากับร่างหนา หัวใจอบอุ่นขึ้นมาเล็กน้อยเมื่ออย่างน้อยที่สุด เธอก็ได้เห็นเขาเป็นคนสุดท้าย
              หากแต่ร่างนั้นทรุดลงกับพื้นอย่างหมดแรง โอบกอดร่างบางในชุดสีขาวที่แน่นิ่ง เขาร้องไห้ออกมาจนเกือบขาดใจ
              มองเห็นบ้างไหม คนตรงนี้ ก็กำลังจะจากคุณไปเหมือนกัน…
              อย่าร้องไห้ น้ำตาแห่งความเสียใจ มันไม่ใช่สิ่งที่คุณสมควรได้รับ
             
              ใช่แล้วล่ะ… ไม่มีใครสมควรได้รับความทุกข์ทรมานนี้
              เธอถือกุญแจอยู่เสมอนั่นแหละ เพราะตัวของเธอ คือกุญแจ
              ที่จะหาทางออก หรือจุดจบให้กับตัวเอง
              แต่ดูเหมือนคนโง่อย่างเธอจะเลือกอย่างหลังมากกว่า.
                              
                              ตายไม่ได้หรอกรัน
                        ถ้าเธอตาย เราก็ตายด้วยน่ะสิ…
                        ‘ชอบให้เรามาทีหลังอยู่เรื่อย’
 
                                           ไม่เจอกันนานเลยนะ ฝัน.
             
               เงาสะท้อนจากผิวน้ำที่นองอยู่บนพื้น ปรากฏหญิงสาวนางหนึ่ง มือที่ขาวดุจไข่มุกนั้นค่อยๆ ลูบไล้ไปทั่งใบหน้าของตัวเอง รอยยิ้มผุดขึ้นบางๆ ทุกส่วนบนร่างกายไร้ที่ติ ใบหน้างดงามที่เหมือนกับแฝดผู้พี่โดยสมบูรณ์ ต่างกันที่ตอนนี้ เธอมีชีวิตชีวามากกว่า!
              “มันได้ผล หึ…หึหึหึ ฮ่าๆ ๆ ๆ” สุดฝันที่ฟื้นกลับจากความตายหัวเราะกึกก้องไปทั่งทั้งบริเวณราวกับคนเสียสติ ร่างที่ไร้อาภรณ์ยืนหยุดนิ่ง พิจารณาบุคคลที่แข็งทื่อคล้ายรูปปั้นนั้น ทั้งร่างถูกพันด้วยผ้าสีขาวที่เปราะเปื้อนไปด้วยคราบเลือดและหนองที่กำลังไหลซึมออกมา
              “น่าขยะแขยง” สุดฝันยี้ปากอย่างได้อารมณ์ สายตาที่มองมายังรันลณีนั้น มันเต็มไปชัยชนะและความเกลียดแค้น สองเท่าที่เปล่าเปลือยค่อยๆ ย่างมาหาชายหนุ่มที่ยังคงจ้องมองร่างบางในอ้อมแขนนั้น เสียงสะอื้นน้อยๆ ยังคงดังอยู่ในลำคอของลูกผู้ชาย แขนเล็กโอบกอดแทนคุณจากด้านหลัง ใบหน้าสวยซุกลงที่ลำคอหนานั้น กอดรัดเขาอย่างโหยหาโดยไม่สนว่าชายที่อยู่ข้างหน้าไม่ได้มีปฏิกิริยาตอบกลับเลย
              “คิดถึงจัง” เสียงใสกระซิบลงข้างหูคนตัวใหญ่ ยิ้มหวานถูกมอบให้กับคนตรงหน้า แต่ไร้ปฏิกิริยาโต้ตอบเช่นเคย
              “ไม่คิดถึงกันบ้างรึไง คนใจร้าย มองหน้ากันหน่อยสิคะ”
              “อัปสร… ผมขอโทษ”
              “บอกให้มองหน้า!!” มือสวยจิกหัวชายหนุ่มเต็มกำลัง ยื่นใบหน้าเข้าเกือบชิดกับอีกฝ่าย
              “ดีใจหน่อยก็ได้นะแทน มันไม่ตายหรอก!!”
              “คุณโกหก”
              “….”
              “คุณฆ่าเธอ”
              “หึ”
              “คุณผิดสัญญา”
              “มันตายเอง อัปสรมันตายไปตั้งนานแล้ว” แทนคุณหันมองร่างที่นอนแน่นิ่งนั้น ร่างที่หมดลมหายใจ ผู้ซึ่งเป็นดั่งดวงใจ จะไม่มีวันกลับมาหาเขาอีก
              “อย่าหลอกตัวเองอีกเลยนะ”
              “ฆ่าผมเถอะ”
              “ขอร้อง” แทนคุณทรุดตัวลง ทุกสิ่งที่พยายามรักษาพังลงต่อหน้า
              “ไม่ฆ่าคุณหรอกค่ะ เราจะไม่ให้คุณ หนีไปไหนได้อีกแล้วนะ” สุดฝันคุกเข่าลงตรงหน้าชายหนุ่ม มือบางลูบไล้ไปทั่วใบหน้าคมคายนั้น เรือนร่างงามที่เปลือยเปล่าสะท้อนแสงไฟที่สาดส่องมา แทนคุณมองร่างนั้นอย่างดึงดูด มือหนาสัมผัสแก้มเนียน ก่อนจะพุ่งเข้าไปช่วงชิงจูบที่เร่าร้อนที่อยู่ตรงหน้าอย่างไม่รู้ตัว สุดฝันแอ่นอกรับสัมผัสนั้นอย่างโหยหา
              ไม่นานทุกอย่างจะสมบูรณ์แบบ
              เธอจะได้รับการปลดปล่อยและแก้แค้น…
 
 
 
              “ตายแล้วไม่อยากดู” เจ้าของประโยคใช้มือปิดตาอย่างพูดไม่จริง สุดฝันผุดลุกขึ้น นัยน์ตาขึงขังอย่างน่ากลัว
              “เกมยังไม่จบ อย่าพึ่งนับศพทหาร” ผ้าส่วนสุดท้ายหลุดลงกองกับพื้น เหมือนพันธนาการที่รั้งร่างของหญิงสาวได้สิ้นสุดลง
              “ยังเหลืออยู่หนึ่งนะ”
              “เก่งขนาดนี้ ก็หาทางหนีเราให้ได้สิ”
              “ได้แน่” เนื้อตัวที่เต็มไปด้วยบาดแผลและเลือดที่ไหลไม่หยุดค่อยๆ พาตัวเองเผชิญกับคนตรงหน้าอย่างเด็ดเดี่ยว
              “เพราะเราเป็นกุญแจ ที่จะไขประตูทุกบานเพื่อออกไป”
              “ทำไม่ได้หรอก เพราะเราคือเจ้าของประตูและกฎทุกข้อในโลกใบนี้”
              “เปล่าเลย แกมันก็แค่คนที่ถูกขังแข่งกับความมืดของโลกอุปโลกน์นี้ต่างหาก แกมันคือปีศาจที่ไม่มีวันกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้”
              เพี้ยะ!!!
              เสียงฝ่ามือกระทบลงบนใบหน้าของอีกฝ่ายอย่างเสียงดัง ใบหน้าที่หันไปตามแรงค่อยๆ หันกลับมาอย่างใจสู้
              “แกก็ไม่ได้ต่างจากเรา”
              “แกไม่มีทางได้กลับไปเป็นมนุษย์หรอก”
              เพี๊ยะ!!!!
              รันลณีล้มลงกับพื้น เลือดสีแดงกระเซ็นนองเต็มพื้น กระนั้นเจ้าตัวก็ยังคงยิ้มมุมปาก พยายามทรงตัวให้ลุกขึ้นด้วยเรี่ยวแรงที่เหลืออยู่น้อยนิดนั้น
              “เราจะฆ่าแก จะฉีกวิญญาณแกให้เป็นผุยผง จะโยนมันให้กับวิญาณทั้งสิบ” สุดฝันแค่นคำพูดจับใบหน้าที่บูดบวมและเต็มไปด้วยเลือดนั้นจนบูดบี้
              “หึ หึ หึ… แกไม่มีทาง… ได้เป็นมนุษย์…”
              มือสวยง้างขึ้นก่อนจะกระทบกับอากาศ เมื่อเป้าหมายถูกดึงให้ถอยห่าง สุดฝันกำมือแน่น กัดฟันกรอกเมื่อมองเห็นผู้แปรพักตร์
              “เกมสนุกดีนะ… แต่… ฉันชนะ” รันลณียิ้มมุมปากขณะที่พิงคนข้างกาย
              “มาญา!” เสียงที่แผดขึ้นเริ่มกลับมาแหบแห้งอีกครั้ง สุดฝันย่างสามขุมเข้ามาใกล้ เพียงก้าวเดียวเท่านั้น
              ที่ร่างทั้งสองจะหายไปกับตา อีกครั้ง…
              ร่างบางยืนนิ่ง ดวงตาแดงก่ำด้วยความโกรธ ไม่มีแสงกรีดด้วยความโมโหออกมา หากแต่ภายในใจรุมร้อนดังไฟเผา เศษผ้าเก่าๆ ที่คุ้นเคยมาเสมอติดที่ข้อเท้าของเธอ มันค่อยๆ พันตัวเองเหมือนอย่างเดิม หากแต่เชื่องช้าและเจ็บแสบยิ่งกว่าเก่า
              เพราะอะไร การกลืนกินถึงมีผลกับเธอคนนั้นเพียงชั่วครู่…
              ทั้งๆ ที่มันเป็นวิธีเดียวกับทุกคน เป็นวิธีเดียวที่จะแลกวิญญาณได้
             
 
 
              “ยุติธรรมแล้วหรอ สำหรับเรา” น้ำตาสีม่วงของปีศาจไหลลงข้างแก้ม เมื่อนึกถึงความอยุติธรรมที่ตนได้รับ
              “ไม่หรอก มันยังไม่จบ นึกถึงความเจ็บปวดที่จะย้อนไปหามัน มันน่าหอมหวานสำหรับเราไม่ใช่หรอ เธอไม่ได้แพ้ ไม่ได้แพ้คนดีของเรา” แขนยาวสวมกอดเอวบางนั้นปลอบปะโลมผู้แพ้ในสนามรบ สุมไฟที่กำลังโหมแรงอยู่นั้นเพื่อเผาทุกอย่างให้มอดไหม้!
 
              ร่างที่หมดสติทรุดลงกับพื้น ลมหายใจที่โรยรินกับเลือดที่ยังคงไหลออกตามร่างกายนั้นทำเอาคนตัวใหญ่ใจหายวูบ
              “รัน!!! รันตื่นสิรัน!” แทนคุณเขย่าร่างที่แน่นิ่งบนตักของตน เขาลนลานสักพักก่อนจะเรียกสติของตัวเองให้กลับมา ภายในห้องที่มืดสนิทนี้มีเพียงแสงจากด้านนอกสาดเข้ามา แทนคุณดึงโทรศัพท์ฉุกเฉินที่อยู่บนโต๊ะสูงข้างตัวให้หล่นลงมา กดปุ่มฉุกเฉินนั้นสายตายังคงมองร่างบางอย่างเป็นห่วง
            คุณต้องไม่เป็นไร ใจผมมันกำลังจะสลายและด้านชา
 
 
               “รัน…” เสียงเรียกอันแผ่วเบา เขาอยากให้มันดังก้องภายในจิตใจของคนตัวบาง อยากให้เธอได้รับรู้แล้วตื่นขึ้นมา
              มือหนาบีบมือบางไว้แน่น ประตูบานใหญ่ถูกเปิดออก แสงไฟด้านนอกกระทบกับร่างทั้งสองที่อยู่บนพื้น เจ้าหน้าที่สามสี่คนปรี่เข้ามาเมื่อเห็นเลือดที่เปรอะเปื้อนบุคคลทั้งสองภายในห้อง โดยที่ไม่ได้สนใจว่าพวกเขาไปทำอะไรมา พวกเขารู้เพียงว่า ต้องส่งตัวให้กับฝ่ายฉุกเฉินอย่างด่วนที่สุด
              ความวุ่นวายเกิดขึ้นในช่วงเวลาเที่ยงคืนตรง ร่างหนึ่งถูกเข็นไปในห้องฉุกเฉินของโซนเอ แทนคุณยังคงกุมมือนั้นไว้แน่นก่อนจะต้องปล่อยเมื่อร่างบางหายเข้าไปในห้องสีขาว เขาหลับตาลง เรียกสติของตัวเองออกมาให้มากที่สุด เรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นมันย้อนกลับมาทุกครั้งเมื่อเขาพยายามที่จะลืมมัน
             
เขาไม่รู้ว่าอัปสรจากเขาไปแล้วจริงไหม
เขาไม่รู้ว่าทำไม ปีศาจในร่างของสุดฝันถึงต้องการเขา และแปลกที่เขาโต้ตอบไป
เขาไม่รู้ว่าโฉมฉายจะเป็นยังไง หลังจากที่ต้องถูกวิญญาณรุมทำร้าย
และเขาไม่รู้เลยว่า รันลณีจะเป็นยังไง เธอจะกลับมาหาเขาใช่ไหม…
 
              ผม… ขอร้องต่อพระผู้เป็นเจ้า… ความดีของผมทั้งหมดที่เคยทำ
              ผมขอมอบมันให้กับเธอ…
              ผม… ขอร้องต่อพระผู้เป็นเจ้า… ความเลวของผมทั้งหมด รวมถึงชีวิตของผม
              ผมขอมอบมันให้กับท่าน…
             
               พาเธอกลับมาหาผม… ได้โปรด
 
 
 
 
 
 
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา