MAYA มายา
เขียนโดย โชฒิกากราณ์
วันที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 เวลา 16.50 น.
แก้ไขเมื่อ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 18.02 น. โดย เจ้าของนิยาย
18) ความลับที่ถูกไข
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
นิ้วชี้เคาะหนังสือเล่มหนาที่กางออกอยู่ระหว่างเข่านั้นเป็นจังหวะเบาๆ มือถูกพันด้วยผ้าสีขาวสะอาด รันลณีชันเข่าหลังพิงผนังเรียบ เจ้าของห้องนั่งมองร่างของคนรักที่ยังคงนอนนิ่งดั่งเจ้าหญิงผู้ถูกสาปอย่างเงียบๆ เกือบหนึ่งเดือนหลังจากที่ต้องนอนอยู่บนเตียงคนไข้ ภายในร่างกายบอบซ้ำ มีเลือดคลั่งอยู่ตามช่องท้องและสมอง เธอใช้เวลาในการผ่าตัดเกือบหกชั่วโมงก่อนจะฟื้นจากความตายมาได้อย่างปาฏิหาริย์ ตามร่างกายไม่มีบาลแผลใดๆ อย่างน่าประหลาดนอกจากรอยซ้ำที่ยังคงปรากฏให้เห็นในตอนนี้ เรื่องวุ่นวายถูกโยนให้โจรชั่วที่ไม่มีตัวตนผู้ซึ่งบุกเข้ามายามวิกาลในคืนนั้น และพวกเขาถูกทำร้าย ก่อนจะถูกขังไว้ที่ห้อง VIP998 ที่ถูกปิดไว้ได้อย่างไรก็ไม่ทราบ ผู้ถูกกระทำทั้งสองให้ข้อมูลที่ตรงกัน และไม่เห็นใบหน้าของผู้กระทำ ไม่รู้เหตุจูงใจใดใดของโจรชั่วคนนั้น ด้วยความที่เรื่องเกิดขึ้นภายในโรงพยาบาลและซึ่งเป็นโซนพิเศษที่มีการรักษาความปลอดภัยสูงมากที่สุด และเพราะเป็นบุคลากรที่สำคัญและเป็นหน้าตาของโรงพยาบาล การสืบสวนคดีจึงไม่จบง่ายๆ อย่างเรื่องทั่วไป รันลณีและแทนคุณต้องปั้นสีหน้าในการตอบคำถามจากหลายๆ คนที่เข้ามาเยี่ยมไม่รู้เท่าไหร่ แต่ก็ต้องทำ เพราะการบอกความจริงเป็นสิ่งที่พวกเขาไม่สมควรที่จะรู้
อีกเรื่องที่ต้องโกหก คือเรื่องการหายตัวไปของจิตแพทย์หญิง แทนคุณบอกในที่ประชุมว่าโฉมฉายมีธุระด่วนที่ต้องจัดการ แน่นอนว่าต้องมีหลายคนที่ส่ายหัวกับเรื่องนี้เช่นหัวหน้าใหญ่ที่บอกว่าจิตแพทย์สาวไม่น่าเป็นคนที่จะละเลยหน้าที่ของตัวเองแบบนี้ และนั่นทำให้แทนคุณออกตัวแทนและรับผิดชอบงานทุกอย่างเพียงคนเดียว
ด้วยงานที่รัดตัวและเร่งรีบ ทำให้แทนคุณต้องรีบจัดการทุกอย่างให้เสร็จ แต่ถึงแม้จะยุ่งมากแค่ไหน เขาก็ยังมาเยี่ยมรันลณีในทุกๆ วันในช่วงที่ยังไม่พื้นตัวเต็มที่ และนั่นมันทำให้ผู้เป็นแม่ยิ้มบานแฉ่ง เหมือนดอกทานตะวันที่อยู่ในทุ่ง และดูเหมือนว่าผู้เป็นแม่จะห่วงผู้มาเยี่ยมมากกว่าลูกสาวตัวเองเสียอีก
‘Happy Birthday my lovely friend,we always love you’
‘FFMMG’
ประโยคที่เขียนด้วยหมึกสีดำในหน้าสุดท้ายของหนังสือถูกอ่านทวนซ้ำไปมาหัว รันลณีเริ่มเปลี่ยนจากการเคาะนิ้วเป็นการเคาะหัวกับกำแพงเบาๆ อย่างครุ่นคิด FFNNG อักษรย่อที่เหมือนกับรูปถ่ายใบนั้น รูปถ่ายที่มีเธอเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม ซึ่งนั่นแสดงถึงความสัมพันธ์ในอดีตของเธอและสุดฝัน เจ้าของหนังสือเล่มนี้
นั่นสินะ ทำไมถึงไม่ได้เอะใจเลยสักนิดว่ามีผู้หญิงคนนั้นมีใบหน้าเหมือนกับโฉมฉายของเธอมากเพียงใด อย่างนี้ไงถึงตามเกมไม่ทันสักที
ย้อนกลับไปในช่วงของโลกที่มีปีศาจเป็นผู้สร้าง ในขณะที่รันลณีกำลังทรมานกับความเจ็บปวดที่ได้รับภายใต้เศษผ้าที่พันร่างอยู่นั้น รันลณีจำได้ว่าตัวเองร้องเรียกถึงความตายอย่างทุรนทุรายหากแต่ถูกปฏิเสธเมื่ออีกด้านหนึ่งไม่ยอม เธอคนนั้นพูดว่าตัวของเธอมันอ่อนแอ ขี้แพ้และโง่เขลา ซึ่งก็อาจเป็นความจริง เธอคนนั้นบอกว่าเพราะโลกนี้มันโหดร้าย มนุษย์โหดร้าย ถึงต้องมีเธอไว้คอยช่วยให้ตัวเธอมีชีวิตรอด มือที่หมดแรงพยายามกระชากเศษผ้าที่รัดแน่นนั้นออกจากตัว มันทรมานยิ่งกว่าที่รันลณีเคยรู้สึกเมื่อมันเริ่มบีบรัดแน่นขึ้นเข้าถึงกระดูก รัดแน่นจนวิญญาณเกือบสลายไป เธอต่อสู้กับอีกคนอยู่นาน ขอร้อง อ้วนวอนให้หยุดถึงการกระทำนั้น แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้อีกคนเห็นใจ มือดึงผ้าที่ดูดเลือดเนื้อเธอต่อไป เวลาเนิ่นนานเกินกว่าจะนึกถึงเหตุการณ์รอบตัวได้ รันลณีเริ่มรับรู้ถึงแสงสว่างชีวิต เมื่อผ้าที่เหมือนโซ่หนามถูกปลดลง ความไม่เป็นตัวเองเริ่มมอบให้กับอีกคนก่อนทุกอย่างจะดับลงและตื่นขึ้นพร้อมแสงสว่างของโลกแห่งความเป็นจริง
ขอบคุณนะ ที่ไม่ยอมแพ้…
“มาญา” เสียงเบาลอดออกมาจากปากบาง เมื่อนึกถึงสิ่งสุดท้ายที่จำได้แบบเลือนราง อักษรย่อตัวเอ็ม คงเป็นมาญา และเอฟนั้นคงเป็นชื่อของผู้ที่อยู่อีกโลกหนึ่ง ฝัน
และอีกสามตัวที่เหลือ ก็คงเป็นชื่อย่อเช่นกัน แต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้เมื่อเธอไม่สามารถนึกอะไรออก รันลณีหลับตาลงพิงหัวกับกำแพงนั้น ในหัวเริ่มปวดตุบๆ เหมือนมีคนเคาะอยู่ด้านในอย่างไงอย่างนั้น ในตอนนี้เธอคิดที่จะไปตามหาใครต่อใครไม่ออกนอกจากแม่ของตน แม่ผู้ซึ่งมีความลับบางอย่างกับเธออย่างแน่นอน
“รันกลับก่อนนะคะ” หญิงสาวพยุงตัวเองให้ลุกขึ้น วางหนังสือเล่มใหญ่ไว้บนโต๊ะใกล้ตัว
“ผมไปส่ง คุณยังไม่หายดี” แทนคุณลุกขึ้นยืนเต็มความสูงในทันที เขาคว้ากุญแจรถของตัวเองออกไปก่อนโดยไม่ได้ฟังความเห็นของคนตัวเล็กเลย หลังจากเกิดเรื่อง แทนคุณนิ่งลงอย่างเห็นได้ชัด เธอและเขาไม่พูดคุยกันถึงเรื่องนั้นอีก แม้แต่คำขอบคุณที่หญิงสาวอยากพูดออกไปแต่ก็ไม่มีโอกาส ต่างคนต่างพบกันและนั่งจมอยู่กับที่เหมือนเช่นวันนี้ มันเอื่อยเฉื่อยและหน่วงชีวิตของทั้งสอง อาจเป็นเพราะเหลือกันอยู่สองคน การกระทำของเขาเลยเด่นชัดขึ้นมากกว่าคำพูด
“แม่” ผู้ถูกทักหันมองหาต้นเสียง เมื่อเจอผู้เป็นแก้วตาดวงใจรอยยิ้มก็ผุดขึ้นบนใบหน้า มือที่เปียกเช็ดผ้ากันเปื้อนที่สวนใส่อยู่นั้นอย่างรีบๆ
“รันลูก กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ แม่ไม่เห็นได้ยินเสียงรถเลย”
“หมอแทนมาส่งน่ะค่ะ”
“หรอ แล้วคุณเขาไปไหนแล้ว ทำไมไม่พาเขาขึ้นมาอยู่ทานข้าวก่อนล่ะลูก” ผู้เป็นแม่พูดขึ้นขณะที่มือยังคงง่วนอยู่กับการทำกับข้าว รันลณีไม่ตอบคำถามนั้น แต่กลับตั้งคำถามใหม่ที่ทำเอาเรี่ยวแรงของคนตรงหน้าหายวับไปเหมือนถูกปล่อยลม
“แม่คะ…”
“แม่มีอะไรที่ยังไม่ได้บอกรันไหม”
“…”
“คนที่ชื่อฝัน แม่รู้จักใช่ไหม”
“รันลูก… วันนี้ลูกได้ทานยารึเปล่า” น้ำเสียงที่สั่นกลัวสะอึกขึ้น หญิงวันกลางคนผู้ที่มีดวงตาคล้ายกันปรี่เข้าหาเธอในทันที
“เธอเป็นเพื่อนรัน เกิดอะไรขึ้นกับเธอแม่ แม่รู้ใช่ไหม แม่บอกรันมาเถอะ”
“ละ…ลูก รอแม่อยู่ตรงนี้ แม่จะพารันไปหาหมอนะ รันไปหาหมอกับแม่นะ” เสียงที่สั่นเต็มไปด้วยความกังวล น้ำใสรื้อขึ้นเต็มดวงตา ท่าทางผู้เป็นแม่ดูไร้สติเมื่อพยายามจะเดินออกไปจากจุดเกิดเหตุ รันลณีดึงแขนนุ่มนั้นเอาไว้ น้ำตารื้อขึ้นอีกคน
“แม่… แม่จ๋า แม่ช่วยรันเถอะนะ แม่บอกว่ารักรันมากที่สุด แม่ต้องช่วยรันนะ รันไม่อยากตกอยู่ในสภาพนี้อีกแล้วแม่” หญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงที่น่าสงสาร ผู้เป็นแม่น้ำตาไหลออกมาอย่างสุดกลั้น หัวใจเหมือนถูกมีดแหลมทิ่มแทงเมื่อมองใบหน้าที่กำลังร้องไห้อยู่นั้น เธอไม่รู้หรอกว่าผู้เป็นดวงใจของตนพบเจอกับอะไรบ้าง แต่คำพูดที่พรั่งพรูออกมามันทิ่มแทงเธอผู้ปิดตายประตูบานใหญ่นั่น เธอโยนกุญแจลงลึกที่สุดในจิตใจและหวังให้มันตายไปพร้อมกับเธอ เพื่อปกป้องผู้เป็นหัวใจให้พ้นจากคำสาปในอดีต
“แม่รักรันมาก มากที่สุด” ผู้เป็นแม่เช็ดน้ำตาบนแก้มใสนั้นด้วยมือที่สั่นเทา
“และถ้ารันรักแม่ รันต้องไม่พูดถึงเรื่องนี้อีก รันต้องไม่ตามหา ไม่ใส่ใจ รันย้ายออกนะลูก เราจะไปอยู่ต่างประเทศกัน ไปอยู่ด้วยกันแม่ลูกนะ ไปเก็บของนะรัน เราไปวันนี้เลยก็ได้นะ”
“แม่”
“แม่ขอร้องรัน อย่าพูดถึงมันอีก แม่ให้รันทุกอย่าง แม่ขอแค่เรื่องนี้” ผู้เป็นแม่ตะโกนอย่างเหลืออดก่อนที่เสียงสะอื้นจะดังแข่งกันทั่วห้อง รันลณีส่ายหัวไปมาอย่างไม่เข้าใจ
“ฮึก…ไม่…” หญิงสาวหันหลังให้กับผู้เป็นที่รัก พยายามเปิดประตูบ้านเพื่อออกไปจากจุดนี้ ผู้เป็นแม่วิ่งตามอย่างใจสลาย ฉุดรั้งสุดดวงใจของเธอด้วยความเจ็บปวด เธอทรุดลงตรงลานกว้าง หมดเรี่ยวแรงทั้งหัวใจเมื่อมองหาคนที่ลับตาไปแล้ว
คนที่เป็นทั้งชีวิตของเธอได้ซ่อนฉากสำคัญไว้ด้านหลังไม่ให้เธอรู้ เป็นเรื่องจริงอย่างที่เธอสงสัยและไม่อยากให้มันเกิดขึ้น นับเป็นครั้งแรกที่เธอทะเลาะกับผู้เป็นแม่ ใช่เลย ทั้งชีวิตที่สามารถจำความได้ รันลณีไม่เคยมีปากเสียงกับบุพการีเพียงคนเดียวของเธอเลยสักครั้ง
ผู้หญิงคนนั้น เป็นทุกอย่างในชีวิตของเธอ
เพราะเป็นครั้งแรก รันลณีจึงไม่รู้ว่าเธอกำลังโกรธหรือแค่อยากจะหนีคนที่พยายามจะไม่ช่วย คนขี้ขลาดที่เอาแต่หนีความจริง และปิดบังอดีตอะไรก็ตามที่รู้เอาไว้
แต่ก็นั่นแหละ มันไม่ใช่ความผิดของผู้เป็นแม่ไปทั้งหมด เธอไม่รู้หรอกว่าดวงใจของเธอกำลังเจอกับอะไร และจะไม่มีวันรู้ ถึงแม้ว่าผู้เป็นแม่จะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้หรือไม่ รันลณีสาบานว่า จะไม่ดึงผู้ที่เป็นทั้งชีวิตของเธอมาเกี่ยวข้องกับเรื่องบ้าๆ นี่
ให้เธอได้คิดและตัดสินใจเอง ว่าจะพูดออกมาหรือไม่
ด้วยความโดดเดี่ยวที่รู้สึก สมองหรืออะไรก็ตามพาหญิงสาวมาอยู่หน้าบ้านหลังที่เคยมาเพียงครั้งเดียว มือบางกดกริ่งเรียกเจ้าของบ้านให้ออกมาหา น้ำตาที่ยังคงไหลรินไม่มีคำพูดใดๆ หลุดออกมาจากปากของคนตัวบางนอกจากเสียงสะอื้นด้วยความผิดหวัง เมื่อประตูเปิดออกชายหนุ่มรับรู้ได้ในทันทีถึงความรู้สึกนั้น มือหนาดึงเธอซุกอกอุ่นนั้นอย่างปลอบปะโลม ให้เธอร้องออกมาให้หมดถึงความเสียใจที่มีอยู่ เขาจะคอยปลอบอยู่ข้างๆเสอม
เพราะนี่คือสิ่งเดียวที่เหลืออยู่ในตอนนี้
อย่าปิดบัง อย่าหักหลังกัน ได้โปรด….
รันลณีเลือกที่จะเล่าทุกอย่างให้ชายหนุ่มฟังหลังจากที่ตั้งสติได้ มันไม่เสียหายที่จะให้เขารับรู้ด้วย อันที่จริงเขาควรรู้หากมันเกี่ยวกับเรื่องบ้าๆที่พบเจอมาตลอด แทนคุณฟังอย่างเงียบๆ และค่อนข้างตกใจในหลายๆ อย่างที่ถูกเอ่ยขึ้นจากคนตรงหน้า
“คุณจำได้ไหมว่าคุณเคยเรียนอยู่คือที่ไหน” เขาถามออกมา พยักหน้าตอบรับเมื่อเธอบอกสถานที่
“แต่รันไม่แน่ใจ รันนึกอะไรไม่ออกเลย”
“ถ้าจะหา ก็ควรรู้ถึงสถานที่ หรืออย่างน้อยก็รุ่น หรือคณะที่เรียน ผมมีเพื่อนเป็นตำรวจสืบสวนอยู่ น่าจะช่วยเราหาได้ แต่ผมไม่รับประกันว่าจะเจอ ข้อมูลมันเลือนรางและมีน้อยมาก”
“ขอบคุณมากค่ะ”
“ครับ ว่าแต่ คุณไม่เคยประสบอุบัติเหตุอะไรมาก่อนจริงๆงั้นหรอ” รันลณีชะงัก นึกถึงภาพที่ตัวเองจมน้ำในตู้แคบๆ นั้น
“รันจำไม่ได้ รันไม่รู้ แม่ไม่เคยพูดถึงมัน รัน…”
“โอเครัน พอแล้ว พอก่อน” แทนคุณพูดเหมือนเรียกสติของคนตรงหน้าให้กลับมา ก่อนที่มันจะหายไปพร้อมกับความคิดหลายๆ อย่างที่เริ่มตีกันนั้น
“ไม่เป็นไร มันไม่เป็นไร คุณพักผ่อนนะ” เขาใช้มือเขี่ยผมที่ปรกหน้าสวยนั้นออกไปอย่างเบามือ รอยยิ้มบางๆ ถูกมอบให้ แทนคุณฉุกตัวเองให้ลุกขึ้นก่อนที่มือเล็กจะรั้งแขนเขาเอาไว้ ความรู้สึกที่ไม่อยากให้เกิดขึ้นเริ่มล้นออกมา
“เหลือแค่เรา… ทุกอย่างจะจบใช่ไหม เราจะทำได้ใช่ไหม” ชายหนุ่มพยักหน้าแทนคำตอบ
“ขอบคุณนะคะ ทุกๆ เรื่อง ทุกๆ อย่าง ขอบคุณที่ไม่ทิ้งรัน” มือเล็กบีบมือเขาแน่น ความร้อนแผ่ซ่านผ่านตามร่างกายของเขา
“รันรักคุณ” เสียงเบาแผ่วออกมาจากปากบาง ก่อนที่มันจะถูกปิดด้วยความอบอุ่นจากอีกฝ่าย ความรู้สึกที่เหมือนกับผีเสื้อนับล้านตัวถูกปล่อยให้บินอยู่ทั่วห้อง มันบินรอบๆ ตัวของเธออย่างไร้ซึ่งคำบรรยายแห่งความสุข เนิ่นนานที่ริมฝีปากของชายหนุ่มจะผละออกก่อน เขาเลื่อนริมฝีปากจูบเข้ากับหน้าผากนั้นอย่างรู้สึกรัก
ใช่ เขารู้สึกรักเธอ ห่วงและหวงเธออยู่ตลอดเวลา
“ผมรักคุณ… ผมจะเป็นผู้ชายที่รักคุณมากที่สุด ห่วงและหวงคุณที่สุด” เสียงที่ถูกเปล่งออกมาอย่างจริงใจมันสั่นและแผ่วปลาย
“ถ้าหากมันเป็นรักที่ถูกที่ และถูกเวลามากกว่านี้… มากกว่านี้อีกสักหน่อย”
จูบที่บรรจงในครั้งที่สอง มันไม่หอมหวานและอบอุ่นเหมือนครั้งแรก
มันผสมด้วยรสขม ที่ชาไปทั่วทั้งปาก
“ผมขอโทษ ขอโทษที่รักคุณไม่ได้… ผมทิ้งผู้หญิงคนนั้นไม่ได้… ผมรักเธอมากเกินไป เกินกว่าที่จะเปลี่ยนใจจากเธอได้รัน” เสียงเบาถูกเปล่งออกมาพร้อมกับความรู้สึกที่แท้จริง ไม่ปฏิเสธหัวใจของตัวเองเลยว่าเขารักผู้หญิงคนนี้เข้าแล้ว และรู้สึกมาตลอด หากแต่หัวใจรู้สึกผิดอยู่เสมอกับอีกคนที่อยู่อีกโลกใบหนึ่ง คนที่เป็นทั้งชีวิตของเขา และเขาไม่สามารถทรยศเธอ ทรยศหัวใจที่แสนบริสุทธิ์ของเธอได้
ขอโทษนะคนดี เก็บหัวใจของคุณไว้ ให้กับคนที่คู่ควร…
น้ำตาไหลลงบนแก้มเนียน รับรู้ทุกคำพูดในขณะที่หลับตา เธอรับรู้ทุกการกระทำที่ทั้งสุขและเจ็บปวด
ใช่แล้วล่ะ… ทุกอย่าง มันเกิดผิดที่ ผิดเวลาไปหมด
‘แค่นี้ มันดีที่สุดแล้วสำหรับเธอ’
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ