MAYA มายา

7.3

เขียนโดย โชฒิกากราณ์

วันที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 เวลา 16.50 น.

  23 chapter
  1 วิจารณ์
  45.60K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 18.02 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

11) เหตุผล

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

               ยาเม็ดเล็กสีขาวถูกกลืนลงคออย่างหลังจากที่รับประทานอาหารเย็นเสร็จ ยาบำรุงที่เธอไม่ได้ทานมาหลายปีก็ถูกผู้เป็นแม่กำชับให้ทานมันอีกครั้ง รันลณีมีเม็ดเลือดขาวค่อนข้างต่ำตั้งแต่เด็กจึงต้องทานยาบำรุงอยู่เสมอ เว้นสองสามปีที่ผ่านมาที่อาการเริ่มคงตัว หมอเจ้าของไข้จึงอนุญาตให้หยุดยาได้แต่ก็ยังต้องพบหมอทุกๆ หกเดือนเสมอ แต่เพราะเหตุการณ์ในวันนั้นทำให้ผู้เป็นแม่ต้องพาเธอไปพบกับแพทย์ประจำก่อนกำหนดพร้อมได้รับยาบำรุงที่คุ้นเคยกลับมาอีกครั้ง รันลณีมีเวลาพักประมาณหนึ่งชั่วโมงก่อนที่จะต้องเข้าเวรกับหมอของเธอในคืนนี้ หลังจากทำงานหนักกันมาทั้งวันแทนคุณจึงแยกเข้าห้องพักของตัวเองเช่นเดียวกับเธอ ช่วงเวลาพักคงมากพอที่จะทำอะไรที่ค้างอยู่ให้เสร็จ

             

              แสงไฟยังคงเปิดสว่างเช่นทุกคืน เข็มนาฬิกาข้อมือของเจ้าหน้าที่สาวดังลอดผ่านความเงียบภายในโถงชั้นพิเศษบ่งบอกเวลาสามทุ่มสี่สิบสี่นาที ถือเป็นเวลาแห่งการพักผ่อนสังสรรค์ของผู้คนด้านนอกตึกใหญ่หลังเลิกจากการทำงานอันหนักหน่วง และในเวลานี้ก็ยังคงเป็นเวลาของการทำงานสำหรับบางคนเช่นกัน เจ้าหน้าที่หลายท่านยังคงปฏิบัติหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มประสิทธิภาพ เมื่อหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบหมายถึงชีวิตของคนอื่นด้วย เมื่อเวลาชีวิตของคนเราเท่ากัน นั่นขึ้นอยู่กับว่าเราใช้มันได้อย่างคุ้มค่ามากแค่ไหน ในจังหวะของชีวิตมนุษย์

              แบบบันทึกข้อมูลหลายเล่มถูกวางเรียงรายอยู่ด้านหน้าของรันลณี เธอสรุปข้อมูลของคนไข้อย่างละเอียดเพื่อให้แทนคุณและโฉมฉายสามารถนำเข้าที่ประชุมได้ในวันพรุ่งนี้

              “ปีนี้เอ็มวายคงได้เข้าชิงรางวัลอีกแน่เลย ถ้าดูจากยอดกำไรที่ยังคงเพิ่มขึ้นจากปีก่อนกับโปรเจกต์‘คัมแบ็คโฮม’ ของทุกโซนเนี่ย ปีนี้คนไข้หายป่วยยอดสูงกว่าปีก่อนตั้งหนึ่งจุดแปดเปอร์เซ็นต์” เสียงใสจากเจ้าหน้าที่ที่นั่งถัดไปจากเธอ ทำให้เธอละจากงานตรงหน้ารับฟังคนข้างๆ ก่อนจะตอบกลับอย่างเป็นมารยาท

              “ถือว่าดีไม่ใช่หรอ”

              “ดีสิ แต่ก็ตะหงิดๆ อยู่เหมือนกันนะรัน” วนิดาพยาบาลอีกคนของโซนพิเศษรุ่นเดียวกับรันลณี เลื่อนเก้าอี้มาประชิดกับเธอ ก่อนจะค่อยๆ พูดพอให้ได้ยินกันเพียงสองคน ในคืนนี้มีพยาบาลประจำเวรสามท่านนั่นคือเธอ วนิดา วิทยา บุรุษพยาบาลคนเดียวในคืนนี้ และ แทนคุณ จิตแพทย์อีกหนึ่งท่าน ความจริงมีโฉมฉายด้วยหากแต่เธอติดงานใหญ่ของทางโรงพยาบาล แทนคุณจึงทำหน้าที่ทั้งหมดในคืนนี้ บวกกับแม่บ้านอีกสองคนที่พูดคุยกับยามตรงหน้าลิฟต์ ทำให้คืนนี้รันลณีไม่เหงามากเท่าไหร่

              “เธอมาใหม่ยังไม่รู้สินะว่าที่นี่เขาวัดเกรดทุกโซนในทุกๆ ปี โปรเจกต์ ‘คัมแบ็คโฮม’ ของทุกโซนต้องอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานของโรงพยาบาล แต่ดูกราฟนี่ จากต้นเดือนถึงเดือนนี้โซนเดียวที่ตกมาตรฐานคืนโซนเรา ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปละยังไม่ถึงเกณฑ์นะ เราได้วัดสอบใหม่แน่” ‘คัมแบ็คโฮม’ คือโปรเจกต์ของทางโรงพยาบาลความหมายคือ ผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาต้องหายและสามารถกลับไปใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างคนปรกติ

              “แต่โซนพิเศษมีคนไข้ที่ได้รับอนุญาตออกจากโรงพยาบาลไปแล้วน่ามากกว่าตัวเลขที่ระบุไว้ในนี้อีกนะ” รันลณีพิจารณากราฟในมือวนิดา เจ้าหน้าที่ผู้ดูแลจะเป็นคนสรุปผลและส่งผลให้กับแพทย์ของตนเพื่อประเมินคนไข้ในที่ประชุมกับจิตแพทย์คนอื่นๆ ในทุกสัปดาห์ หากมีผู้ป่วยที่ได้รับอนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาลข้อมูลของคนเหล่านั้นก็จะถูกเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์ที่ตั้งอยู่เคาน์เตอร์กลางโซนแห่งนี้ การประเมินจะเหมือนกับทุกโซนของโรงพยาบาล แตกต่างที่เกณฑ์การวัดผลของโรงพยาบาลและจิตแพทย์เฉพาะโซนเท่านั้น

              “เราก็ไม่เข้าใจ ถึงว่ามันแปลกๆ แต่โซนบีนำลิ่วเลยว่าไหมทั้งกำไรและการคอมเพรนของโปรเจกต์”

              “มันก็เป็นเรื่องที่ตัดสินใจง่ายอยู่แล้ว ถ้าไม่ใช่เคสที่เงินหนาและร้ายแรงคงไม่มีใครมาโซนเราหรอก ลองคิดสิ ประสิทธิภาพต่างกันแต่ก็หายได้เหมือนกัน แถมยังไม่ต้องเสียทรัพย์มากกว่าหลายเท่าอีกนะ” รันลณีพูดออกไปเป็นผลให้คู่สนทนาพยักหน้าเชิงเห็นด้วย ภาพวงจรปิดที่อยู่บนจอถัดจากเธอแสดงภาพของห้องผู้ป่วยทุกคนที่อยู่ในโซนอย่างปรกติ แผงปุ่มไฟขอความช่วยเหลือที่ติดอยู่บนผนังด้านหลังไม่แสดงตัวเลขของห้องใดๆ รันลณีถอนหายใจออกมาอย่างโล่งใจ ก่อนจะหันกลับมาสนใจงานของเธอต่อ

              มือถือถูกเปิดขึ้นหลังจากที่ปิดไว้หลายชั่วโมง รันลณีวางแฟ้มข้อมูลที่เธอทำเสร็จไว้ในโต๊ะ ก่อนจะชั่งใจ พกมันติดตัวไปไว้ที่ล็อกเกอร์ภายในห้องพัก เพราะเสี้ยวหนึ่งเธอคิดว่ามันรู้สึกไม่ปลอดภัยที่มันต้องอยู่ในลิ้นชักที่ถูกปกป้องเพียงลูกกุญแจเล็กๆ กราฟที่เธอเห็นถึงเธอจะพูดออกไปอย่างไม่ได้ใส่ใจ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเธอไม่ได้สนใจตัวเลขแปลกๆ พวกนั้น

              เสียงเมสเสจดังขึ้นรัวๆ หญิงสาวมองหน้าจอแสดงผลปรากฏข้อความของคนที่ไม่เจอหน้าตั้งแต่กลับจากวันหยุดของเธอ ในบางครั้งก็นึกสงสาร ถ้าหากว่าโฉมฉายเป็นเพียงแค่เหยื่อของโลกมายาที่สร้างขึ้นโดยน้องสาวฝาแฝดของเธอเองจริงๆ

              และไม่มีใครเชื่อ และอยู่ข้างเธอเลยในครั้งสุดท้าย

              และถ้าเป็นตัวเธอเองที่เชื่อใจคนผิด

              สุดท้ายคนที่ติดอยู่ในโลกใบนั้นเป็นเธอเสียเอง

              ถ้าสุดท้ายเธอกลายเป็นปีศาจเสียเอง…

              ข้อความที่ถูกส่งมาในกลุ่ม ‘MYC12’ หรืออีกนัยหนึ่งที่โฉมฉายชอบเรียกคือ ‘แก๊งเจ้าหญิงกับอัศวินใจร้าย’ มีทั้งตารางงานและการรายงานเรื่องที่ประชุมรวมถึงประโยคถามไถ่จากจิตแพทย์สาวซึ่งตอนนี้ไร้การตอบกลับจากคนในกลุ่มนั่นคือเธอและแทนคุณ สติ๊กเกอร์ที่แสดงท่าทางรับทราบและท่าทางเหนื่อยอย่างละหนึ่งตัวเท่านั้นที่ถูกส่งกลับไปให้อีกฝ่าย ก่อนจะกดปิดหน้าจอสมารท์โฟนและหย่อนลงไปใบกระเป๋าเสื้อที่เดิมของมัน ขณะที่รอลิฟต์เพื่อลงไปที่ห้องพักความคิดที่ไม่รอให้สมองว่างก็พลันแล่นเข้ามาในทันที ในเวลาเกือบหนึ่งเดือนที่ไม่มีเหตุการณ์ประหลาดนั่น ประจวบกับเวลาที่เรื่องเหล่านั้นเริ่มคลี่คลาย และเมื่อเหยื่อเริ่มเห็นทางออกแล้วทำไมคนเดินเกมถึงไม่รีบที่จะจบเกม หรือเธอกำลังรออะไรอยู่

              ถ้าเราคือปีศาจที่สร้างโลกมายาได้ เราจะรู้ได้ไหมว่าเหยื่อที่อยู่ภายใต้พันธะสัญญาของเรากำลังเปลี่ยนฝ่าย ถ้าเรารู้อย่างนั้น เราจะรอให้พวกเขามาทำร้ายเราหรอ… ไม่ เราต้องกำจัดพวกเขาก่อนเกมจะเริ่มด้วยซ้ำ

              แต่ที่ยังรอเพราะอะไร… เพราะไม่รู้หรือ กำลังดูเกมตามแผนที่สร้างไว้ตั้งแต่แรก

              ถ้าเป็นอย่างหลัง งั้นก็มีหนึ่งคนที่ไม่ซื่อสัตย์… แล้วใครล่ะ

คนที่รักคนอื่นมากกว่าตัวของเขาเอง หรือ

              คนที่รักตัวเธอเองมากกว่าใคร

                             หรือเป็นเธอเอง ที่กำลังไม่ซื่อสัตย์กับอีกคนที่อยู่ในหัวของเธอ…

                              เพราะเธอเลือกที่จะเชื่อใคร ตามหัวใจไม่ใช่สมอง

 

              ลิฟต์เปิดออกก็เผยให้เห็นคนที่เธอกำลังนึกถึงอยู่ตรงหน้า รันลณีปรับสีหน้าให้เป็นปรกติก่อนจะเดินออกมา

“ข้อมูลประชุมวันพรุ่งนี้น่ะค่ะ” รันลณีพูดขึ้นเมื่อสังเกตเห็นชายหนุ่มมองแฟ้มข้อมูลที่ถูกถืออยู่เหล่านั้นอย่างตั้งคำถาม

              “คุณเอาลงมาที่นี่ทำไม”

              “รันรู้สึกแปลกกับกราฟตัวเลขของโซนเรา รันเลยกะว่าเอามาไว้ในล็อกเกอร์น่าจะปลอดภัยกว่า” เธอพูดพลางเก็บมันไว้ในล็อกเกอร์ของเธอก่อนจะล็อคมัน

              “คุณพูดอย่างกับกลัวจะมีใครมาเปลี่ยนข้อมูล” รันลณีไม่ตอบคำถามนั้นเพียงแต่ยิ้มตอบกลับไปก่อนจะพาตัวเองไปที่มุมเครื่องดื่มในห้องโถงเพื่อเต็มคาเฟอีนในร่ายกาย

              “ดูหมอโฉมคงยุ่งน่าดูเลยนะคะ” เธอเปลี่ยนเรื่องเมื่อนึกถึงข้อความในกลุ่มที่ในตอนนี้ชายคนเดียวในกลุ่มยังไม่แม้แต่จะเข้าไปอ่านข้อความอันยาวนั้น

              “เธอก็ยุ่งตลอดเวลา ตั้งแต่ผมเข้ามาเป็นพาร์ทเนอร์ของเธอ ผมไม่เคยเห็นเธอว่างเลยสักวัน จะวันหยุดหรือวันพักผ่อน หรือแม้แต่จะกลับบ้าน”

              “เธอเคยบอกกับรันว่าเธอไม่มีบ้านให้กลับ” รันลณีหวนคิดถึงบทสนทนาเมื่อครั้งหนึ่งพลางจิบอเมริกาโน่ร้อนในมือ

              “หลังจากเสียแม่ไปเธอก็ไม่เหลือใคร” รันลณีมองแผ่นหลังนั้นอย่างตั้งใจฟังถึงสิ่งที่เขากำลังจะเอ่ยออกมา

              “โฉมเสียแม่ไปกับอุบัติเหตุ เธอจึงตัดสินใจขายบ้านหลังนั้นแล้วย้ายมาอยู่ที่นี่โดยถาวร”

              “เพื่ออะไร ถ้านั่นคือที่สุดท้ายที่เธอจะสามารถนึกถึงคนที่เธอรักได้”

              “คนเรานึกถึงคนที่เรารักได้ทุกที่ถ้าคนนั้นอยู่ในใจของเรา สถานที่บางทีถ้าเรานึกถึงก็จะมีแต่ความเจ็บปวดมากกว่าความสุขซะอีกนะ” รันลณีพยักหน้าเห็นด้วย

              “แล้วเหตุผลอะไรที่ทำให้เธอมาอยู่ที่นี่ถาวรล่ะคะ ทั้งๆ ที่มันเป็นที่ที่อันตรายที่สุดสำหรับเธอ”

              “เพราะสิ่งที่ยังยึดเธอไว้อยู่ก็คือน้องของเธอเอง สิ่งเดียวที่ยังเหลืออยู่ในชีวิตของเธอถึงแม้จะไม่ใช่มนุษย์แล้วก็ตาม นั่นแหละที่ทำให้ผมไม่สามารถไว้ใจเธอได้มาก” แทนคุณพูดเบาในประโยคสุดท้าย

              “ถ้าเธอรู้ว่าเราไม่ไว้ใจเธอมากขนาดนี้ และถ้าสุดท้ายเธอคือคนที่น่าสงสารที่สุด รันคงรู้สึกผิดกับเธอมาก” รันลณีพูดพลางมองออกไปด้านนอกกระจกบานใหญ่ แสงไฟจากข้างนอกสลัวเมื่อถูกกลบด้วยเม็ดฝนที่กระหน่ำลงมาอย่างหนัก มันดูสวยอย่างเศร้าสร้อย

              “ผมก็คงไม่ต่างอะไรกับคุณ และคงรู้สึกเสียใจที่ไม่เคยนึกอยากจะปกป้องเธอเลยแม้แต่น้อย” แทนคุณมองดูถนนไฮเวย์ที่กำลังเกิดภาวะที่น่าหงุดหงิดและยังคงเป็นปัญหาทางสังคมของกรุงเทพมหานครแห่งนี้

              “ผมอยากจะให้เรื่องนี้มันจบสักที” ภายใต้ดวงตาที่เย็นชาของเขาเต็มไปด้วยความเจ็บปวดที่ฉายออกมาอย่างเห็นได้ชัด ก่อนมันจะถูกกลบด้วยความเข็งแข็งอย่างลูกผู้ชายอีกครั้ง 

              “คุณอยากรู้อะไรมากกว่านี้ไหม” แทนคุณหันมาถามหญิงสาวที่อยู่ข้างกาย รันลณีเลิกคิ้วเป็นคำถามก่อนจะออกปากพูดอะไรคำถามเหล่านั้นก็ถูกกลืนลงไปในคอเสียก่อน

              “เผื่อคุณจะได้เชื่อใจผมมากขึ้น”

              “ผมพาคุณไปพบอัปสรได้ ถ้าคุณอยาก”

 

              แสงไฟสว่างขึ้นเมื่อประตูถูกเปิดออก กลิ่นหอมของชายหนุ่มที่โชยอยู่ทั่วห้องนอนที่ดูเป็นระเบียบ และสะอาด ช่างเข้ากับเจ้าของห้องที่ยืนเด่นอยู่บัดนี้

เป็นครั้งแรกที่เธอได้เข้ามาในห้องของผู้ชาย ฟังดูเหมือนเป็นเรื่องที่ไม่น่าพูดอยู่มากแต่อย่างไรก็ตามตอนนี้รันลณีก็ได้ย่างเข้ามาในห้องของจิตแพทย์หนุ่มที่มีชื่อเสียงของโรงพยาบาลที่โด่งดังแห่งนี้ เดาไม่ยากเลยว่าหัวใจของหญิงสาวมันเต้นแรงเพียงใดเมื่อความเงียบถูกปกคลุมไปทั่วทั้งห้อง ความอึดอัดหรือความรู้สึกอะไรก็ตามมันเริ่มเพิ่มมากขึ้น

              ความเงียบถูกทำลายลงเมื่อเสียงเหมือนกลไกลกำลังทำงานเมื่อแทนคุณกดรหัสบางอย่างบนหัวเตียงของเขา เมื่อการทำงานของกลไกลสิ้นสุดลงก็เผยประตูอีกบาน หนึ่งเมื่อถูกคนตัวสูงเลื่อนออกอย่างผนังกั้นของญี่ปุ่นปรากฏห้องที่มีแสงไฟสลัวเปิดอยู่ แทนคุณผายมือให้เธอเดินเข้าไปก่อน เมื่อก้าวเข้าไปในห้องความเย็นที่ปรับพอดีกับอุณหภูมิร่างกายก็ปะทะเข้ากับผิว ไฟที่เริ่มสว่างขึ้นทำให้มองเห็นอะไรชัดเจนขึ้น ห้องโล่งที่ถูกตกแต่งด้วยของเรียบง่าย ห่างออกไปคือเตียงนอนขนาดใหญ่สีขาวที่มีหญิงสาวที่ราวกับเจ้าหญิงนอนหลับอยู่ ไอน้ำทำความเย็นลอยฟุ้งรอบเตียงบวกกับน้ำหอมกลิ่นดอกกุหลาบทำให้ทุกอย่างคล้ายกับในฝัน คนที่นอนหลับต่างจากคนที่รันลณีพบอยู่มาก เธองดงามอย่างที่รันลณีไม่สามารถอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้ ถ้าหากให้เปรียบเทียบความงามนั้นเธอคงเป็นดอกกุหลาบสีชมพูกลีบในสุดที่บอบบาง งดงามและบริสุทธิ์

              “เธอสวยมากจริงๆ” คำพูดเบาๆ หลุดออกจากปากอย่างควบคุมไม่ได้ขณะที่สายตายังคงจับจ้องร่างนั้นอย่างหลงใหล

              “ถ้าคุณได้รู้จักเธอ คุณจะเข้าใจผมทุกอย่างรัน” รันลณีละสายตาจากร่างบางตรงหน้ามองชายหนุ่มด้วยสายตาไม่เข้าใจ แทนคุณลูบมือบางที่นอนนิ่งนั้นอย่างเบามือคล้ายกับกลัวว่าสัมผัสนั้นจะทำให้เธอหายไป

              “เธออ่อนโยนกับทุกคนไม่ว่าใครคนนั้นจะดีหรือร้าย เธอไม่เคยปล่อยให้ตัวเองถูกด้านมืดในตัวควบคุมเลยสักครั้ง หัวใจของเธอบริสุทธิ์มากคุณรู้ไหม แต่เธอกลับติดอยู่ในฝัน ความฝันที่ทุกข์ทรมานและไม่อาจตื่นได้ เธอเป็นเพียงคนเดียวที่ต้องอยู่ในโลกมายาที่มีแต่ความโดดเดี่ยวและน่ากลัว เธออยู่ในนั้นคนเดียวรัน และผมช่วยเธอไม่ได้ แม้แต่ปกป้องเธอจากฝันร้ายนั้น ผมยังทำไม่ได้” หัวใจของหญิงสาวกระตุกวูบเมื่อมองเห็นน้ำตาที่กำลังไหล จากดวงตาแข็งกร้าวที่เธอเคยรู้จัก

              พันธะสัญญากับปีศาจ ที่ทั้งเจ้าเล่ห์และหลอกหลอน

              มันทำให้คนที่ติดพัน เหมือนตายทั้งเป็น

              และเมื่อกับคนที่มีความรักแล้ว

 

                             มันยิ่งกว่าการใช้มีดแหลมแทงเข้าในอกซ้ำแล้วซ้ำเล่า…

 

               เธอเคยรักใครบ้างไหมรันลณี…

               ทั้งๆ ที่คิดมาตลอดว่าที่เธอทำอยู่มันคือความรัก ไม่ใช่ความหลงใหล

 

              กับคนตรงหน้า เขาส่งผ่านความรักที่แท้จริงมาให้เธอ…แค่รู้สึก

              รักแท้ที่เธอสัมผัสมันได้ แต่ในรูปแบบที่ไม่มีใครต้องการ

              รักที่เต็มไปด้วยเจ็บปวดและทุกข์ทรมาน

              รักที่เธอไม่เคยสัมผัส รักที่บริสุทธิ์ รักแท้…

 

               ความจริง เธอไม่เคยรู้จักคำว่ารักเลยรันลณี แต่

               ถ้าเธอจะรู้สึก…

 

              รันลณียื่นมือบางจับมือข้างหนึ่งของคนตัวหนาที่กำลังส่งเสียงสะอึกอยู่ในลำคอ เมื่อชายหนุ่มรับรู้ได้จากสัมผัสของเธอ มือหนาก็บีบมือบางแน่นราวกับกำลังจะบอกกับเธอว่า

              ‘อย่าปล่อยมือนี้ไปได้โปรด ช่วยพาเธอกลับมาพร้อมกับผม’

 

              น้ำตารื้อขึ้นอย่างอธิบายไม่ได้ จุกในอกราวกับถูกบีบรัดหัวใจ เธอสวมกอดเขาจากด้านหลังน้ำตาไหลลงมาด้วยความเจ็บปวด เมื่อได้ยินเสียงสะอื้นหนักๆ ของชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้า

 

               ถ้าเธอจะรู้สึก… รัก… ด้วยตัวเอง ไม่ใช่ความรู้สึกที่ถูกส่งผ่าน

 

               ยังไงก็ขอให้เป็นเขา… ผู้ซึ่งไม่มีหัวใจที่จะมอบให้ใครอีก

               ขอให้เป็นเขา ที่เธออยากจะรู้สึกรักด้วยหัวใจของตัวเอง…

 

 

 

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา