Don't stop love me หลุมรัก กับดักหัวใจ ยัยตัวร้าย
-
เขียนโดย หนูนาปากิโกะ
วันที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 เวลา 02.03 น.
3 ตอน
3 วิจารณ์
5,281 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564 10.13 น. โดย เจ้าของนิยาย
3) ความผิดที่ไม่ได้ตั้งใจ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ “อ่ะนี่ ดื่มซะ จะได้หายบ้า-0-”ฉันยื่นขวดน้ำเย็น ๆ ให้ร่างสูงที่นั่งกุมมือที่มีเลือดไหลซิบ ๆ ออกมา
“ขอบใจ วันหลังไม่ต้อง - -*”เขารับขวดน้ำไปอย่างไม่สบอารมณ์นัก
“เออ อย่างกับฉันอยากยุ่งเรื่องของนายนักแหละ=^=”ฉันว่า ก่อนทรุดตัวลงนั่งข้าง ๆ
“เธอมาทำอะไรบนนี้”นิวเยียร์หันมาถามฉัน
“มาสูดอากาศเฉย ๆ ไม่คิดว่าจะมาเจออะไรที่ดราม่า ๆ”ฉันบอก
“เธอได้ยินหมดเลยหรอ...”
“ก็ใช่น่ะสิยะ ทุกคำ ทุกประโยคเลยแหละ”
“น่าสมเพชใช่มั้ย ที่ฉันต้องมาโดนผู้หญิงทิ้งแบบนี้”นิวเยียร์ทำเสียงหงอย ๆ ถ้าฉันบอกว่า ‘ใช่’ มันจะดูใจร้ายใจดำไปมั้ยอะ
“เห้ย น่าสมเพชอะไรกันเล่า นายก็คิดมากน่า เอางี้ ลงไปดื่มให้ซะใจไปเลยดีม้ะ ป่ะ ๆๆ ลุก ๆ”ฉันแกล้งทำเป็นฉุดแขนเขาให้ลุกขึ้น
“ขอโทษนะ แทนที่ฉันจะดูแลเธอ แต่กลับมาเป็นเธอมาดูแลฉันเนี่ย”
“บ้าหรอ ดูลงดูแลอะไรของนาย ฉันแค่ไม่อยากให้นายมานั่งหงอยเป็นหมาเหงาต่างหาก”ฉันบอก
“ฮะ ๆ ยัยตัวแสบ เป็นห่วงคนอื่นก็เป็นด้วย”เขาว่าก่อนจะเอานิ้วจิ้มหน้าผากฉันเบาๆ
“ป่ะ ๆ ตามมานี่”ฉันรีบหันหน้านี้แล้วยิ้มที่มุมปาก พลางดึงแขนเสื้อเขาให้เดินตามมา
“ซี!! แกรู้มั้ยว่าพวกฉันนึกว่าแกโดนฉุดไปซะอีก หาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอเนี่ย”ยังไม่ทันจะเดินไปถึงโต๊ะเสียงแหลมเสียดหูของยัยอิมก็ดังขึ้นมา
“รู้แล้ว ๆ ฉันผิดเอง ขอโทษ ๆ”ฉันรีบพูดตัดก่อนที่ยัยอิมจะแผดเสียงโวยวายอีก
“แล้วนี่ เธอพาใครมา แน้! มีจับมือกันด้วย โธ่เอ้ย ที่แท้ก็ไปหากิ๊กใช่มั้ยล้า ^O^”ทันทีที่ยัยอิมพูดจบฉันก็มองที่มือตัวเอง
“เฮ้ย!!O.O ไม่ใช่นะ ไม่ใช่ที่แกคิดเลยนะ หยุดคิด ๆ”ฉันรีบสะบัดมืออีตานิวเยียร์ออกอย่างรวดเร็ว
“อะไร คิดอะไร ภาพมันฟ้องชัด ๆ เนอะแก้วเนอะ”ยัยอิมหันไปหาความเห็นของยัยแก้วที่นั่งยิ้มกรุ่มกริ่มอยู่
“ช่ายยยยย ^^”
“นี่พวกแก เงียบไปเลยนะ ไม่งั้นฉันกลับล่ะ ป่ะ”ฉันแสร้งทำเป็นงอน ดันหลังนิวเยียร์ให้เดินหนี
“โอ๋เอ๋ ๆๆ ล้อเล่นนิดเดียวเอง ทำเป็นงอน แล้วจะบอกได้ยัง ว่านี่ใคร”ยัยอิมทำตาปริบ ๆ มองมาที่ฉัน
“จำไม่ได้รึไง หรือในนี้มันมืดไป ตาถึงพร่าน่ะ”ฉันเอ็ด ก่อนจะหย่อนตัวนั่งลง แล้วดึงให้เขานั่งตาม
“มันมองไม่ชัดอะ เดี๋ยวนะเอาแฟลชกล้องมาเปิดแป๊ป”ยัยอิมบอกพลางควานหาโทรศัพท์ ก่อนจะส่องแสงจะแฟลชไปที่หน้าหงิก ๆ ของคนที่นั่งข้าง ๆ ฉัน
“เฮ้ยยยยยยยย!!!OoO นี่มัน”ยัยอิมถึงกับช็อคไปชั่วขณะ
“นิวเยียร์ ตัวจริง!!!”ยัยแก้วพูด
“เออน่ะสิ นี่แหละลูกชายเพื่อนของพ่อฉัน”ฉันเสริม
“คนที่ฮอตที่สุดในวิทยาลัยแถมยังเป็นแฟนกับดาว มหา’ลัยของเราด้วย!!!”
“พอ ๆ เลย เลิกพูด นี่นายอยากกินอะไรก็สั่ง ๆ ไป วันนี้ฉันเลี้ยง”ฉันหันไปบอกร่างสูงที่ดูเหมือนร่างจะไร้วิญญาณข้าง ๆ
“เอาอะไรก็ได้”เขาบอกเนือย ๆ
“นายน่ะ มานี่หน่อย”ฉันกวักมือเรียกพนักงานเสิร์ฟที่เดินผ่านมาพอดี
“ครับ...”
“สั่งสิ”ฉันสะกิดแขนร่างสูงข้างๆ
“เอาแอลกอฮอล์อะไรก็ได้นะ ขอแบบที่แรง ๆ ที่สุดในร้าน ดื่มแล้วเมาจนลืมโลก จัดหนักมาเลย หลาย ๆ แก้ว”
“เอ่อ...ครับ สักครู่นะครับ”พนักงานคนนั้นพยักหน้าอย่างงง ๆ แล้วเดินจากไป
“นาย ไหวมั้ยเนี่ย”ฉันหันไปถาม
“เฮอะ ไม่ไหวก็คงต้องไหว เธอรู้อะไรมั้ย ฉันไม่เคยรู้สึกเสียใจจนแทบบ้าขนาดนี้มาก่อนเลย”อีตานิวเยียร์บอก ก่อนจะนั่งกุมขมับเหมือนคิดอะไรอยู่
“ชีวิตคนเราก็แบบนี้แหละน่า จะสุขตลอดคงเป็นไปไม่ได้ ดูอย่างฉันกับ...พ่อสิ”ฉันเอื้อมมือไปที่ไหล่เขา ก่อนจะวางมันลงแล้วบีบไหล่ที่ดูแข็งแรงกำยำนั่นเบา ๆ
“วันนี้เราสงบศึกกันสักวันแล้วกันนะ ฉันเหนื่อยมาก ๆ แล้ว เฮ้อ...”เขาถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อนจนฉันอดสงสารไม่ได้ ยังไงก็คงต้องเป็นอย่างนั้นแหละ
“อืม...”
ไม่นานพนักงานคนนั้นก็เอาของเหลวสีสวยมาเสิร์ฟ ฉันยื่นทิปให้เล็กน้อยเพราะเห็นว่าคงเป็นนักศึกษาที่มาหารายได้ นิวเยียร์ยกแก้วขึ้นมาดื่มรวดเดียวหมดเกลี้ยง ตามมาด้วยแก้วที่สอง แก้วที่สาม แก้วที่สี่ และกำลังจะเริ่มแก้วที่ห้า จนฉันต้องจับแขนเขาไว้
“นี่นาย ดื่มช้า ๆ สิยะ เดี๋ยวก็ตายหรอก”ฉันว่า
“นั่นสิ คุณดื่มแบบนี้ เดี๋ยวก็เมาเละหรอก”ยัยอิมบอก
“คุณนิวเยียร์มีปัญหาอะไรหรือเปล่าน่ะคะ ดื่มเอา ๆ ขนาดนี้”ยัยแก้วถาม
“ผมแค่อยากดื่ม ดื่ม ดื่ม แล้วก็ดื่ม ๆ ดื่มให้เมา ตายไปเลยยิ่งดี เผื่อเธอจะกลับมาหาผม”ร่างสูงบอก พลางยกแก้วที่ห้าขึ้นดื่ม ตามด้วยแก้วที่หก เจ็ด และแปดยัยแก้วกับยัยอิมมองหน้ากันอย่างงุนงงแล้วหันมามองหน้าฉันเป็นเชิงถามว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
“น้อง เอามาอีก อึก...”
“ฉันว่านายเมาแล้วนะ”ฉันจับไหล่แกร่งเพื่อเตือนสติ แต่เขาก็ปัดออก
“เมาราย...ใครเมา...ไม่มี๊...เห้ยน้อง เร็ว ๆ ดิ เอ้อ...”
“ซี ฉันว่าแกพาเขากลับดีกว่ามั้ยอะ ฉันว่าอย่างเนี่ย ท่าทางจะแย่ว่ะ”ยัยอิมสะกิดแขนฉัน ฉันเห็นด้วยกับที่ยัยอิมบอก ฉันควรจะพาเขากลับบ้านดีกว่ามาดื่มจนเมาเละแบบนี้
“พากลับเหอะ ซี ฉันกลัวเขาอาละวาดที่นี่”ยัยแก้วบอกอีกคน
“กลับเถอะครับ เดี๋ยวผมดูแลเพื่อนคุณเอง”พี่คิมเสริม
“งั้นฉันกลับล่ะ เดี๋ยวทั้งหมดบนโต๊ะเนี่ย ฉันจ่ายเอง ขอโทษทีนะ”
“เห้ย ไม่เป็นไร พวกเราจ่ายเองได้ แต่แกพานิวเยียร์กลับเหอะ”ยัยอิมรีบปฏิเสธทันควัน
“ไม่เป็นไร ถือว่าเป็นการขอโทษแล้วกัน ที่ฉันต้องกลับก่อนน่ะ”ฉันบอก
“เอางั้นก็ได้ โชคดีนะแก แล้วเจอกัน”ยัยอิมพยักหน้ารับ
“เดี๋ยวฉันโทร.หานะซี” ยัยแก้วบอก พลางทำมือรูปโทรศัพท์ ฉันพยักหน้าหงึกหงัก ก่อนจะฉุดแขนของคนที่เมาแอ๋อยู่ข้าง ๆ ให้ยืนขึ้น
“ไป กลับได้แล้ว ลุกสิ”ฉันดึงแขนเขาแรง ๆ
“ม่ายเอา...ยังไม่กลับ ขออยู่ต่ออีกแป๊ปปป...”ร่างสูงส่ายหน้าแล้วยกแก้วทำท่าจะดื่มอีก ฉันจึงรีบดึงมันออกจากมือเขา
“พอเลย กลับเดี๋ยวนี้ ไปสิ ลุก ๆ”ฉันพยายามดึงแขนเขาให้ลุกขึ้นสุดแรง แต่มันไม่กระดิกสักนิด
“โอ๊ย เธอนี่...น่ารำคาญชะมัด...เออ ๆ ไปก็ไป”ร่างสูงค่อย ๆ ชันตัวขึ้น ฉันเลยเอาแขนเขามาคล้องคอช่วยพยุง
“ไปนะ”ฉันหันไปบอกยัยอิมกับยัยแก้วอีกครั้ง
“อืม ๆ โชคดีนะ”ทั้งสองโบกมือหยอย ๆ ให้
ฉันค่อย ๆ ประคองร่างที่แทบขาดสติออกจากสถานบันเทิงนี่อย่างทุลักทุเล หนักชะมัดเลยอีตานี่ทิ้งไว้ข้างทางซะเลยดีมั้ย ซวยจริง ๆ ชวนคนอกหักดื่มเหล้าเนี่ย คิดผิดที่สุดเลยฉัน TT^TT
“เดี๋ยวก่อนนน...จาโบกแท็กซี่ทำมายย...”ร่างสูงถามเมื่อฉันกำลังจะโบกแท็กซี่
“ฉันไม่ได้เอารถมา”ฉันบอก ก่อนที่ร่างสูงจะชูกุญแจรถมาตรงหน้าฉัน
“แต่ฉาน...ขาบรถ...เธอมานะ...”
เมื่อมาถึงรถฉันก็เอาร่างขาดสติพิงรถก่อนจะล้วงกุญแจที่เมื่อกี้เก็บเอาไว้ในกระเป๋า เมื่อเปิดประตูรถได้แล้วฉันก็ค่อย ๆ บรรจงดัน(ยัด)ร่างสูงเข้าไปในรถได้ในที่สุด เฮ้อ สำเร็จ ที่นี้เหลือแค่ไปส่งสินะ ฉันเดินอ้อมไปอีกข้างก่อนจะสตาร์ทรถแล้วขับออกไป
“กำลังจะไป...ที่ไหนน่ะ”ร่างสูงงัวเงียถาม
“บ้านนายไง”
“ไม่นะ...ฉันยังไม่อยากกลับบ้าน เอิ้ก...”
“กรี๊ด นี่นายอย่าอ้วกใส่ลูกฉันนะ มันแพงนะรู้มั้ยยะ”ฉันกรีดร้องสุดเสียง เพราะเห็นอีตานิวเยียร์เรอออกมาแล้วทำท่าจะอ้วกใส่รถ
“ม่ายหวายแล้ว...อุก”
“เดี๊ยวเดี๋ยว อย่าเพิ่งนะ นี่มันบนสะพาน ทนอีกแป๊ปนึง”ฉันรีบเหยียบคันเร่งจนเข็มชี้ที่เลขร้อยยี่สิบ จนในที่สุดก็โผล่ลงมาที่นรก เอ้ย ไม่ใช่ ข้างทาง ฉันจอดรถดังเอี๊ยดแล้วรีบวิ่งมาเปิดประตูให้เขา ทันทีที่ประตูรถเปิด ร่างสูงก็พ่นสิ่งที่พะอืดพะอมออกมา
“เฮ้อ ทันพอดี รอนี่เดี๋ยว ฉันจะไปขอน้ำร้อนที่ร้านค้าตรงนั้นมาให้ดื่ม”ฉันเดินไปยังร้านค้าข้างทางที่ยังเปิดไฟอยู่ ตอนแรกยัยป้าที่ร้านทำท่าไม่อยากจะให้ ฉันจึงยื่นเงินให้แล้วขอเป็นน้ำดื่มอุ่น ๆ แทน แกเลยยอมไปต้มน้ำ แล้วฉันก็ได้น้ำอุ่นมาเต็มขวด
“เอ้านี่ ดื่มซะ จะได้ดีขึ้น”ฉันยื่นขวดน้ำให้คนตรงหน้า
“อืม...พาฉันไปส่งที่คอนโดฯ แล้วกันนะ...”เขาบอกเสียงเบาก่อนจะหลับไป
ฉันส่ายหน้าให้กับร่างที่นอนแน่นิ่งอย่างเหนื่อยใจ เวรกรรมฉันล้วน ๆ ที่ชวนเขานั่งดื่ม ตัวเองเลยต้องมารับภาระอันหนักอึ้งแบบเนี่ย
++++คอนโดฯ KPN ห้อง 2109++++
“โอ๊ยนี่นาย ล้วงกุญแจดี ๆ สิยะ”ฉันโวยวายเพราะอีตาบ้านี่ล้วงกระเป๋ากางเกงอยู่นานสองนาน
“รู้แล้ว ๆ ใจเย็น ๆ อ่ะนี่...”เขาค่อย ๆ ยื่นพวงกุญแจมาให้ฉัน
ฉันพยุงร่างหนัก ๆ นี่เข้ามาในห้องก่อนจะคลำ ๆ หาสวิทต์เพื่อเปิดไฟ และเมื่อห้องสว่างสภาพตรงหน้าคือข้าวของเละเทะ อีตานี่อยู่ไปได้ยังไงห้องรกขนาดนี้
“ไม่มีแม่บ้านหรือไงยะ”ฉันถาม
“มี แต่ม่ายจ้าง...เอิ้ก...มีไรมะ”เขาบอก หืออ เดี๋ยวแม่ก็ทิ้งให้นอนกองตรงนี้ซะเลย
“ห้องนายอยู่ไหน”
นายนิวเยียร์ชี้ไปที่ประตูบานใหญ่ไม่ไกลนัก ฉันค่อย ๆ พยุง(จนแทบจะลาก)เขาไปที่ประตู หนักโว๊ยยย!!>O<ช่วยเดินให้มันมีแรงหน่อยไม่ได้รึไงเนี่ย
ตุ้บ
ฉันทิ้งร่างหนัก ๆ ลงบนเตียงอย่างหมดแรง ก่อนทรุดตรงลงนั่งที่พื้น เหนื่อยจนแทบยืนไม่ไหวแล้ว
“นี่นาย ถามจริง ๆ เถอะ กินอะไรเข้าไป ตัวหนักอย่างกับหมีควาย”ฉันบ่น พลางเอานิ้วเขี่ย ๆ แขนเขา
“นี่...ตาบ้า ขอบใจสักคำน่ะมีมั้ย”ฉันลุกขึ้น พลางเท้าเอวมอง
“ชา...ด้า...”เสียงงึมงำทุ้ม ๆ ดังแผ่วจากปากเขา
“ห๊ะ อะไรนะ”ฉันก้มเงียหูฟัง
“ชา...ด้า...ชาด้า...”โธ่เอ้ย ที่แท้ก็เพ้อถึงผู้หญิง!!”
“งั้นฉันกลับล่ะ! ว๊าย”ขณะที่ฉันกำลังหันหลัง มือหนา ๆ ก็ดึงไว้จนฉันล้มทับอยู่บนตัวเขา
“อย่าทิ้งผมไป...ชาด้า...”มือเขารัดเอวฉันไว้แน่น
“ไอ้บ้านิวเยียร์ ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ ชาด้งชาด้าอะไรของนาย ฉัน ซีเนียร์เฟ้ย!!!>O<”ฉันดิ้นขลุกขลักบนตัวเขา ทันใดนั้นเขาก็พลิกตัวมาคร่อมฉันไว้แทน
“อยู่กับผม อย่าทิ้งผมไปนะ ขอร้อง...”ใบหน้านิวเยียร์ก้มต่ำก่อนจะซุกที่ซอกคอของฉัน
“นี่นาย! กรี๊ดดด!! ปล่อยฉันนะ ฉันไม่ใช่แฟนของนาย ปล่อยช้านนนนนนนน!!!”ฉันพยายามดิ้นสุดฤทธิ์
“ไม่ ชาด้า...ผมไม่อยากให้คุณไป”หน้าของเขาเริ่มไล้ลงมาจนเกือบถึงเนินอกฉัน ฉันขืนตัวสุดกำลัง เอามือผลักอกเขาออก แต่มือหนากลับรวบและขึงไว้บนหัวฉัน
“นิวเยียร์!!! นายลืมตาสิ ไอ้บ้า อย่ามาทำทุเรส ๆ แบบนี้กับฉันนะ!!!”ฉันกรีดร้องสุดเสียง จนแสบคอก็ไม่มีทีท่าว่าเขาจะหยุด
“ผมรักคุณนะ...”ร่างสูงเงยหน้าสบตากับฉันก่อนจะโน้มตัวประกบริมฝีปากที่แห้งผากนั้นลงมา ฉันเบิกตาโพลงอย่างตกใจ แรงฉันเริ่มหดหายด้วยความเหนื่อยจากการดิ้นทุรนทุราย ชีวิตฉันต้องจบลงแบบนี้หรือเนี่ย ทำไมกันนะ ทำไมถึงเป็นแบบนี้ล่ะ ทำไม...
ร่างสูงผงะเล็กน้อยเมื่อร่างเล็ก ๆ ใต้ร่างของเขาหยุดดิ้นแล้วนิ่งไป เขาค่อย ๆ ถอนจูบแล้วขยี้ตาที่พร่ามัวและปวดหนึบนั่นให้ชัด ๆ เขาถึงกับผงะแล้วผละออกจากร่างหญิงสาวที่นอนหลับตาอยู่ นี่ไม่ใช่คนรักของเขา เม็ดเหงื่อมากมายผุดบนใบหน้าของเธอ ปากที่ซีดเซียวนั้นทำให้ดูน่าสงสารเข้าไปอีก นี่เขาทำอะไรลงไป
“ซี...ซีเนียร์ ได้ยินฉันมั้ย”เขาเขย่าร่างบางเบา ๆ แต่ไม่มีทีท่าว่าเธอจะฟื้นเลยสักนิด
“ซี...ซี ฉันขอโทษ ซีเนียร์”ร่างสูงพูดกับร่างไร้สติตรงหน้าอย่างรู้สึกผิด เขาเมาจนขาดสติจริง ๆ สายตาของเขาเริ่มกวาดมองสำรวจร่างของเธอ ทั้งรอยจูบที่ต้นคอ กระดุมที่ถูกปลดจนเห็นเนินอกขาว รอยยับที่แขนเสื้อ เอ๊ะ เลือด ชายหนุ่มจับแขนเธอขึ้นมาดู ก่อนจะถกแขนเสื้อเธอขึ้น เลือดสีแดงฉานมากมายไหลเยิ้มออกมาจากผ้าพันแผลสีขาวสะอาดจนชุ่ม คงจะเพราะเธอช่วยพยุงเขา แล้วยังดิ้นขัดขืนสุดแรง เขากัดปากตัวเองก่อนจะทุบเตียงระบายอารมณ์ ช้อนร่างเล็ก ๆ ขึ้นนอนกับหมอน เขาค่อย ๆ แกะผ้าพันแผลออก ดูเหมือนแผลเธอจะปริมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ
“ทั้งที่เธออุส่าพาฉันมาส่งถึงห้อง แต่ฉันกลับทำเธอเจ็บตัว ฉันมันเป็นคนที่ไม่ได้เรื่องจริง ๆ นั่นแหละ สมแล้วที่ชาด้า ทิ้งฉันไป”เขาพูดกับหญิงสาวที่นอนหลับตาพริ้มหายใจสม่ำเสมอ ความคิดของเขาเต็มไปด้วยความสับสน ก่อนจะเดินไปหยิบกล่องพยาบาลมาทรุดตัวนั่งลงข้าง ๆ ชายหนุ่มบรรจงทำแผลให้เธออย่างเบามือเพราะกลัวเธอเจ็บ ร่างเล็กกระตุกแขนเล็กน้อยเมื่อเขาเอาสำลีชุบแอลกอฮอล์มาล้างทำความสะอาดแผลให้ใหม่ เขาลอบมองใบหน้าเธอหลายครั้ง จะว่าไปแล้วเวลาที่เธอหลับตาก็ดูสวยจนแทบละสายตาไม่ได้เลยทีเดียว ชายหนุ่มเอื้อมมือไปปัดปอยผมที่ปรกหน้าหญิงสาวออกทัดหูเธอไว้ ใครจะรู้ว่าผู้หญิงขี้เหวี่ยงขี้วีนอย่างนี้ อยู่นิ่ง ๆ ก็ดูน่ารักไปอีกแบบ
“อื้อ...”หญิงสาวพลิกตัวก่อนจะค่อย ๆ ลืมตาขึ้น เธอสะดุ้งแล้วขยับถอยหนีเมื่อเห็นเขากำลังทำแผลให้อยู่
“ตื่นแล้วหรอ”ชายหนุ่มถาม
“นาย!ไอ้คนเลว”ทันทีที่ได้สติเธอรีบลุกออกจากเตียงแล้วหันไปว่าเขา
“อะไร ตื่นมาก็โวยวาย ฉันกำลังทำแผลให้อยู่นะ”ร่างสูงเดินอ้อมมาคว้าข้อมือเล็ก ๆ หญิงสาวบิดข้อมือตัวเองออก
เพี๊ยะ!!
ใบหน้าของเขาสะบัดตามแรงเหวี่ยง เขาไม่ถามเลยว่าเธอตบเขาทำไม เพราะมันคงสมควรแล้วที่จะโดนแบบนี้ ชายหนุ่มยกมือเช็ดเลือดที่มุมปากแล้วมองหน้าเธอ
“ไอ้บ้า ฉันเกลียดนาย นิวเยียร์ ได้ยินมั้ย ฉันเกลียดนาย!!!”เธอตวาดเสียงดัง ก่อนจะทุบกำปั้นลงบนแผงอกเขาหลายครั้ง
“ฉันขอโทษ แต่ว่าฉันยังไม่ได้ทำอะไรเธอนะ เธอหมดสติไปก่อน”ร่างสูงบอก
“แล้วถ้าเกิดตอนนั้นนายทำล่ะ ถ้าเกิดฉันไม่หมดสติ นายก็คงไม่ยอมหยุด ใช่มั้ย!!”เธอกระชากคอเสื้อเขาถาม ก็จริงอย่างที่เธอว่า ถ้าเขาไม่มีสติแบบนั้น แถมยังคิดว่าเธอคือคนรักของเขา เธออาจจะแหลกสลายไปแล้วก็ได้
“ฉันขอโทษ...”
“เก็บคำขอโทษของนายไว้ใช้กับคนอื่นเถอะ นายทำกับฉันถึงขนาดนี้ ฉันควรยกโทษให้ง่าย ๆ งั้นหรอ”
“แล้วฉันควรทำยังไง เธอถึงจะยกโทษให้”ชายหนุ่มถาม
“ฉันไม่มีทางยกโทษให้นายแน่ เพราะสิ่งที่นายทำ ไม่ว่าจะเป็นฉันหรือคนอื่น มันก็เป็นสิ่งที่ไม่น่าให้อภัย”
“ก็ฉันคิดว่าเธอเป็น...”
“ยัยชาด้า แฟนนายงั้นสิ!!”ร่างบางชิงพูดขึ้นก่อน
“ก็นั่นแหละ ใครจะไปรู้ล่ะว่าจะเป็นเธอน่ะ”
“แต่นายก็น่าจะมีสติบ้าง ไม่ใช่เมาจนขาดสติแยกแยะไม่ออกว่าใครเป็นใครแบบนี้ ฉันผิดหวังในตัวนายมาก นิวเยียร์...”เธอเดินไปหยิบกระเป๋ามาสะพาย “ฉันกลับล่ะ”
“เดี๋ยวก่อน...”เขาคว้าข้อมือเธอไว้
“ปล่อย!”หญิงสาวมองมือเขาแล้วบิดข้อมือออก
“แต่แผลเธอ”ร่างสูงมองเลือดสีแดงสดไหลหยดลงพื้น
“ช่างมัน ฉันไม่ได้เป็นอะไรมาก”เธอบอกแล้วหยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋ามาซับเลือด ก่อนจะเดินออกมาจากห้องนอนเขา
“งั้นฉันไปส่งนะ”ร่างสูงเดินตามออกมาแล้วเปิดประตูให้
“ไม่ต้อง ฉันกลับเองได้ ...อ้อ แล้วก็นะ ฉันคิดว่าเราคงไม่มีความจำเป็นอะไรต้องเจอกันอีก”
“นี่เธอจะโกรธฉันแบบนี้จริง ๆ งั้นหรอ”
“ฉันไม่ได้โกรธ แต่ฉันเกลียดนิสัยแย่ ๆ ของนาย”
“ไม่ว่าฉันจะพูดยังไง เธอก็คงจะไม่ยกโทษให้ใช่มั้ย”
“...”เธอเงียบ แล้วเดินออกไปจากห้องเขา เสียงงึมงำเบา ๆ จากปากของเขาทำเอาหญิงสาวใจชื้นขึ้นมาเล็กน้อย
“ฉันขอโทษ แต่ยังไงฉันก็จะไม่ยอมให้เธอโกรธฉันแบบนี้แน่”
ชายหนุ่มมองร่างบางเดินเข้าไปในลิฟท์จนประตูปิด ทั้ง ๆ ที่เขากับเธอเป็นคู่กัดกันตลอด แต่สิ่งที่เธอโกรธจนเกลียดเขาไปแล้ว คือความผิดเพราะความไร้สติ กลับทำให้เขารู้สึกแปลก ๆ ในความคิดบางอย่างที่กำลังก่อตัวขึ้นมันเหมือนมีอะไรมากกว่านั้นเขาพยายามสลัดความคิดนี้ออกไป บางทีอาจเพราะเขารู้สึกผิดจริง ๆ ก็ได้และไม่มีอะไรมากไปกว่านี้แน่นอน
หลายวันแล้วที่ฉันไม่ได้ออกไปเที่ยวกับเพื่อน ๆ ไม่ใช่เพราะขี้เกียจหรือเบื่อ แต่เพราะอีตานิวเยียร์เอาแต่มายืนด้อม ๆ มอง ๆ อยู่หน้าบ้านทุกครั้ง มายืนตั้งแต่เช้าจนดึกดื่นแล้วฉันก็ผล็อยหลับไปทุกที นี่ก็จะเข้าเป็นวันที่สี่แล้ว ไม่ใช่ว่าฉันไม่กล้าสู้หน้ากับเขา แต่เพราะฉันยังไม่พร้อมจะเผชิญหน้าในตอนนี้
ครืด...ครืด...ครืด...
เสียงโทรศัพท์สั่นให้รู้ว่ามีสายเรียกเข้าฉันหยิบมันขึ้นมาดูก่อนจะกดรับสาย
“ว่าไงแก้ว”
(ซี แกเป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมไม่ออกมาเที่ยวกับพวกฉันล่ะ)
“ฉันรู้สึกไม่สบายนิดหน่อย เลยไม่อยากออกไปไหน”ฉันบอก พลางแหวกผ้าม่านมองร่างสูงที่เดินไปมาอยู่หน้ารั้ว
(อ้าว!... แกไปหาหมอหรือยัง)ยัยแก้วถาม น้ำเสียงดูเป็นห่วงนั่นทำให้ฉันเผลอยิ้มออกมา
“เปล่า ฉันแค่รู้สึกเพลีย ๆ เหนื่อย ๆ ช่วงนี้ฉันยังไม่ออกไปไหนแล้วกันนะ”ฉันบอก ก่อนจะเบิกตาโตเพราะร่างสูงที่อยู่ข้างล่างมองเห็นฉันพอดี
(อืม เอางั้นก็ได้ แต่ถ้าแกรู้สึกไม่ดีขึ้นหรือแย่กว่าเดิม โทร.หาฉันได้ตลอดเลยนะ)
“จ้า ๆ แค่นี้ก่อนนะฉันง่วงแล้ว”ฉันกดวางสายแล้วปิดเครื่องทันทีที่เห็นอีตานิวเยียร์เอาโทรศัพท์ขึ้นมาเหมือนจะโทร.หาฉัน ก่อนที่เสียงเคาะประตูห้องจะดังขึ้น
“เข้ามาได้ ฉันไม่ได้ล็อคประตู”ฉันบอกก่อนจะปิดม่านแล้วเดินมานั่งบนเตียง
“คุณหนูครับ จดหมาย”นายเด็มยื่นกระดาษสีขาวแผ่นเล็กมาให้
“จดหมายอะไร”ฉันถาม พลางหยิบขึ้นมาดู
“ไม่ทราบสิครับ แต่คุณนิวเยียร์ฝากให้เอามาให้คุณหนู”ฉันชะงักกึก ก่อนจะยัดกระดาษใส่มือคืน
“งั้นหรอ นายคงอยากจะเปลี่ยนอาชีพ ไปเป็นบุรุษไปรษณีย์สินะ”ฉันว่า นายเด็มทำหน้าเหวอ
“เอ่อ...คุณหนูครับ ผมแค่รับฝากมา แต่ไม่ได้คิดจะเปลี่ยนงานนะครับ TOT”
“ฉันก็นึกว่านายจะเปลี่ยนอาชีพ ถ้างั้นก็เอาออกไปได้แล้ว ฝากบอกคนส่งด้วยว่าฉันไม่อยากเห็นหน้าเขา”ฉันดันร่างสูงนั้นออกไปจากห้องแล้วรีบปิดประตูทันที ทั้ง ๆ ที่ความคิดฉันมันบอกอย่างนั้น แต่ทำไมความรู้สึกมันกลับตรงกันข้าม แล้วไอ้ความรู้สึกแปลก ๆ แบบนี้ มันคงไม่ใช่เพราะฉันเกิดรู้สึกชอบอีตาบ้านั่นขึ้นมาแล้วจริง ๆ ใช่มั้ย โอ๊ย ให้ตายสิ ฉันเป็นอะไรไปกันเนี่ย
“ไม่นะ ไม่ ๆๆๆ เลิกคิด เลิกคิดได้แล้ว”ฉันสะบัดหัวไล่ความคิดเหล่านี้ออกไป แล้วล้มตัวลงนอนบนเตียง หวังว่าพรุ่งนี้ตื่นมา ฉันคงจะเปลี่ยนความรู้สึกในใจแบบนี้ได้สักทีนะ
“ขอบใจ วันหลังไม่ต้อง - -*”เขารับขวดน้ำไปอย่างไม่สบอารมณ์นัก
“เออ อย่างกับฉันอยากยุ่งเรื่องของนายนักแหละ=^=”ฉันว่า ก่อนทรุดตัวลงนั่งข้าง ๆ
“เธอมาทำอะไรบนนี้”นิวเยียร์หันมาถามฉัน
“มาสูดอากาศเฉย ๆ ไม่คิดว่าจะมาเจออะไรที่ดราม่า ๆ”ฉันบอก
“เธอได้ยินหมดเลยหรอ...”
“ก็ใช่น่ะสิยะ ทุกคำ ทุกประโยคเลยแหละ”
“น่าสมเพชใช่มั้ย ที่ฉันต้องมาโดนผู้หญิงทิ้งแบบนี้”นิวเยียร์ทำเสียงหงอย ๆ ถ้าฉันบอกว่า ‘ใช่’ มันจะดูใจร้ายใจดำไปมั้ยอะ
“เห้ย น่าสมเพชอะไรกันเล่า นายก็คิดมากน่า เอางี้ ลงไปดื่มให้ซะใจไปเลยดีม้ะ ป่ะ ๆๆ ลุก ๆ”ฉันแกล้งทำเป็นฉุดแขนเขาให้ลุกขึ้น
“ขอโทษนะ แทนที่ฉันจะดูแลเธอ แต่กลับมาเป็นเธอมาดูแลฉันเนี่ย”
“บ้าหรอ ดูลงดูแลอะไรของนาย ฉันแค่ไม่อยากให้นายมานั่งหงอยเป็นหมาเหงาต่างหาก”ฉันบอก
“ฮะ ๆ ยัยตัวแสบ เป็นห่วงคนอื่นก็เป็นด้วย”เขาว่าก่อนจะเอานิ้วจิ้มหน้าผากฉันเบาๆ
“ป่ะ ๆ ตามมานี่”ฉันรีบหันหน้านี้แล้วยิ้มที่มุมปาก พลางดึงแขนเสื้อเขาให้เดินตามมา
“ซี!! แกรู้มั้ยว่าพวกฉันนึกว่าแกโดนฉุดไปซะอีก หาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอเนี่ย”ยังไม่ทันจะเดินไปถึงโต๊ะเสียงแหลมเสียดหูของยัยอิมก็ดังขึ้นมา
“รู้แล้ว ๆ ฉันผิดเอง ขอโทษ ๆ”ฉันรีบพูดตัดก่อนที่ยัยอิมจะแผดเสียงโวยวายอีก
“แล้วนี่ เธอพาใครมา แน้! มีจับมือกันด้วย โธ่เอ้ย ที่แท้ก็ไปหากิ๊กใช่มั้ยล้า ^O^”ทันทีที่ยัยอิมพูดจบฉันก็มองที่มือตัวเอง
“เฮ้ย!!O.O ไม่ใช่นะ ไม่ใช่ที่แกคิดเลยนะ หยุดคิด ๆ”ฉันรีบสะบัดมืออีตานิวเยียร์ออกอย่างรวดเร็ว
“อะไร คิดอะไร ภาพมันฟ้องชัด ๆ เนอะแก้วเนอะ”ยัยอิมหันไปหาความเห็นของยัยแก้วที่นั่งยิ้มกรุ่มกริ่มอยู่
“ช่ายยยยย ^^”
“นี่พวกแก เงียบไปเลยนะ ไม่งั้นฉันกลับล่ะ ป่ะ”ฉันแสร้งทำเป็นงอน ดันหลังนิวเยียร์ให้เดินหนี
“โอ๋เอ๋ ๆๆ ล้อเล่นนิดเดียวเอง ทำเป็นงอน แล้วจะบอกได้ยัง ว่านี่ใคร”ยัยอิมทำตาปริบ ๆ มองมาที่ฉัน
“จำไม่ได้รึไง หรือในนี้มันมืดไป ตาถึงพร่าน่ะ”ฉันเอ็ด ก่อนจะหย่อนตัวนั่งลง แล้วดึงให้เขานั่งตาม
“มันมองไม่ชัดอะ เดี๋ยวนะเอาแฟลชกล้องมาเปิดแป๊ป”ยัยอิมบอกพลางควานหาโทรศัพท์ ก่อนจะส่องแสงจะแฟลชไปที่หน้าหงิก ๆ ของคนที่นั่งข้าง ๆ ฉัน
“เฮ้ยยยยยยยย!!!OoO นี่มัน”ยัยอิมถึงกับช็อคไปชั่วขณะ
“นิวเยียร์ ตัวจริง!!!”ยัยแก้วพูด
“เออน่ะสิ นี่แหละลูกชายเพื่อนของพ่อฉัน”ฉันเสริม
“คนที่ฮอตที่สุดในวิทยาลัยแถมยังเป็นแฟนกับดาว มหา’ลัยของเราด้วย!!!”
“พอ ๆ เลย เลิกพูด นี่นายอยากกินอะไรก็สั่ง ๆ ไป วันนี้ฉันเลี้ยง”ฉันหันไปบอกร่างสูงที่ดูเหมือนร่างจะไร้วิญญาณข้าง ๆ
“เอาอะไรก็ได้”เขาบอกเนือย ๆ
“นายน่ะ มานี่หน่อย”ฉันกวักมือเรียกพนักงานเสิร์ฟที่เดินผ่านมาพอดี
“ครับ...”
“สั่งสิ”ฉันสะกิดแขนร่างสูงข้างๆ
“เอาแอลกอฮอล์อะไรก็ได้นะ ขอแบบที่แรง ๆ ที่สุดในร้าน ดื่มแล้วเมาจนลืมโลก จัดหนักมาเลย หลาย ๆ แก้ว”
“เอ่อ...ครับ สักครู่นะครับ”พนักงานคนนั้นพยักหน้าอย่างงง ๆ แล้วเดินจากไป
“นาย ไหวมั้ยเนี่ย”ฉันหันไปถาม
“เฮอะ ไม่ไหวก็คงต้องไหว เธอรู้อะไรมั้ย ฉันไม่เคยรู้สึกเสียใจจนแทบบ้าขนาดนี้มาก่อนเลย”อีตานิวเยียร์บอก ก่อนจะนั่งกุมขมับเหมือนคิดอะไรอยู่
“ชีวิตคนเราก็แบบนี้แหละน่า จะสุขตลอดคงเป็นไปไม่ได้ ดูอย่างฉันกับ...พ่อสิ”ฉันเอื้อมมือไปที่ไหล่เขา ก่อนจะวางมันลงแล้วบีบไหล่ที่ดูแข็งแรงกำยำนั่นเบา ๆ
“วันนี้เราสงบศึกกันสักวันแล้วกันนะ ฉันเหนื่อยมาก ๆ แล้ว เฮ้อ...”เขาถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อนจนฉันอดสงสารไม่ได้ ยังไงก็คงต้องเป็นอย่างนั้นแหละ
“อืม...”
ไม่นานพนักงานคนนั้นก็เอาของเหลวสีสวยมาเสิร์ฟ ฉันยื่นทิปให้เล็กน้อยเพราะเห็นว่าคงเป็นนักศึกษาที่มาหารายได้ นิวเยียร์ยกแก้วขึ้นมาดื่มรวดเดียวหมดเกลี้ยง ตามมาด้วยแก้วที่สอง แก้วที่สาม แก้วที่สี่ และกำลังจะเริ่มแก้วที่ห้า จนฉันต้องจับแขนเขาไว้
“นี่นาย ดื่มช้า ๆ สิยะ เดี๋ยวก็ตายหรอก”ฉันว่า
“นั่นสิ คุณดื่มแบบนี้ เดี๋ยวก็เมาเละหรอก”ยัยอิมบอก
“คุณนิวเยียร์มีปัญหาอะไรหรือเปล่าน่ะคะ ดื่มเอา ๆ ขนาดนี้”ยัยแก้วถาม
“ผมแค่อยากดื่ม ดื่ม ดื่ม แล้วก็ดื่ม ๆ ดื่มให้เมา ตายไปเลยยิ่งดี เผื่อเธอจะกลับมาหาผม”ร่างสูงบอก พลางยกแก้วที่ห้าขึ้นดื่ม ตามด้วยแก้วที่หก เจ็ด และแปดยัยแก้วกับยัยอิมมองหน้ากันอย่างงุนงงแล้วหันมามองหน้าฉันเป็นเชิงถามว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
“น้อง เอามาอีก อึก...”
“ฉันว่านายเมาแล้วนะ”ฉันจับไหล่แกร่งเพื่อเตือนสติ แต่เขาก็ปัดออก
“เมาราย...ใครเมา...ไม่มี๊...เห้ยน้อง เร็ว ๆ ดิ เอ้อ...”
“ซี ฉันว่าแกพาเขากลับดีกว่ามั้ยอะ ฉันว่าอย่างเนี่ย ท่าทางจะแย่ว่ะ”ยัยอิมสะกิดแขนฉัน ฉันเห็นด้วยกับที่ยัยอิมบอก ฉันควรจะพาเขากลับบ้านดีกว่ามาดื่มจนเมาเละแบบนี้
“พากลับเหอะ ซี ฉันกลัวเขาอาละวาดที่นี่”ยัยแก้วบอกอีกคน
“กลับเถอะครับ เดี๋ยวผมดูแลเพื่อนคุณเอง”พี่คิมเสริม
“งั้นฉันกลับล่ะ เดี๋ยวทั้งหมดบนโต๊ะเนี่ย ฉันจ่ายเอง ขอโทษทีนะ”
“เห้ย ไม่เป็นไร พวกเราจ่ายเองได้ แต่แกพานิวเยียร์กลับเหอะ”ยัยอิมรีบปฏิเสธทันควัน
“ไม่เป็นไร ถือว่าเป็นการขอโทษแล้วกัน ที่ฉันต้องกลับก่อนน่ะ”ฉันบอก
“เอางั้นก็ได้ โชคดีนะแก แล้วเจอกัน”ยัยอิมพยักหน้ารับ
“เดี๋ยวฉันโทร.หานะซี” ยัยแก้วบอก พลางทำมือรูปโทรศัพท์ ฉันพยักหน้าหงึกหงัก ก่อนจะฉุดแขนของคนที่เมาแอ๋อยู่ข้าง ๆ ให้ยืนขึ้น
“ไป กลับได้แล้ว ลุกสิ”ฉันดึงแขนเขาแรง ๆ
“ม่ายเอา...ยังไม่กลับ ขออยู่ต่ออีกแป๊ปปป...”ร่างสูงส่ายหน้าแล้วยกแก้วทำท่าจะดื่มอีก ฉันจึงรีบดึงมันออกจากมือเขา
“พอเลย กลับเดี๋ยวนี้ ไปสิ ลุก ๆ”ฉันพยายามดึงแขนเขาให้ลุกขึ้นสุดแรง แต่มันไม่กระดิกสักนิด
“โอ๊ย เธอนี่...น่ารำคาญชะมัด...เออ ๆ ไปก็ไป”ร่างสูงค่อย ๆ ชันตัวขึ้น ฉันเลยเอาแขนเขามาคล้องคอช่วยพยุง
“ไปนะ”ฉันหันไปบอกยัยอิมกับยัยแก้วอีกครั้ง
“อืม ๆ โชคดีนะ”ทั้งสองโบกมือหยอย ๆ ให้
ฉันค่อย ๆ ประคองร่างที่แทบขาดสติออกจากสถานบันเทิงนี่อย่างทุลักทุเล หนักชะมัดเลยอีตานี่ทิ้งไว้ข้างทางซะเลยดีมั้ย ซวยจริง ๆ ชวนคนอกหักดื่มเหล้าเนี่ย คิดผิดที่สุดเลยฉัน TT^TT
“เดี๋ยวก่อนนน...จาโบกแท็กซี่ทำมายย...”ร่างสูงถามเมื่อฉันกำลังจะโบกแท็กซี่
“ฉันไม่ได้เอารถมา”ฉันบอก ก่อนที่ร่างสูงจะชูกุญแจรถมาตรงหน้าฉัน
“แต่ฉาน...ขาบรถ...เธอมานะ...”
เมื่อมาถึงรถฉันก็เอาร่างขาดสติพิงรถก่อนจะล้วงกุญแจที่เมื่อกี้เก็บเอาไว้ในกระเป๋า เมื่อเปิดประตูรถได้แล้วฉันก็ค่อย ๆ บรรจงดัน(ยัด)ร่างสูงเข้าไปในรถได้ในที่สุด เฮ้อ สำเร็จ ที่นี้เหลือแค่ไปส่งสินะ ฉันเดินอ้อมไปอีกข้างก่อนจะสตาร์ทรถแล้วขับออกไป
“กำลังจะไป...ที่ไหนน่ะ”ร่างสูงงัวเงียถาม
“บ้านนายไง”
“ไม่นะ...ฉันยังไม่อยากกลับบ้าน เอิ้ก...”
“กรี๊ด นี่นายอย่าอ้วกใส่ลูกฉันนะ มันแพงนะรู้มั้ยยะ”ฉันกรีดร้องสุดเสียง เพราะเห็นอีตานิวเยียร์เรอออกมาแล้วทำท่าจะอ้วกใส่รถ
“ม่ายหวายแล้ว...อุก”
“เดี๊ยวเดี๋ยว อย่าเพิ่งนะ นี่มันบนสะพาน ทนอีกแป๊ปนึง”ฉันรีบเหยียบคันเร่งจนเข็มชี้ที่เลขร้อยยี่สิบ จนในที่สุดก็โผล่ลงมาที่นรก เอ้ย ไม่ใช่ ข้างทาง ฉันจอดรถดังเอี๊ยดแล้วรีบวิ่งมาเปิดประตูให้เขา ทันทีที่ประตูรถเปิด ร่างสูงก็พ่นสิ่งที่พะอืดพะอมออกมา
“เฮ้อ ทันพอดี รอนี่เดี๋ยว ฉันจะไปขอน้ำร้อนที่ร้านค้าตรงนั้นมาให้ดื่ม”ฉันเดินไปยังร้านค้าข้างทางที่ยังเปิดไฟอยู่ ตอนแรกยัยป้าที่ร้านทำท่าไม่อยากจะให้ ฉันจึงยื่นเงินให้แล้วขอเป็นน้ำดื่มอุ่น ๆ แทน แกเลยยอมไปต้มน้ำ แล้วฉันก็ได้น้ำอุ่นมาเต็มขวด
“เอ้านี่ ดื่มซะ จะได้ดีขึ้น”ฉันยื่นขวดน้ำให้คนตรงหน้า
“อืม...พาฉันไปส่งที่คอนโดฯ แล้วกันนะ...”เขาบอกเสียงเบาก่อนจะหลับไป
ฉันส่ายหน้าให้กับร่างที่นอนแน่นิ่งอย่างเหนื่อยใจ เวรกรรมฉันล้วน ๆ ที่ชวนเขานั่งดื่ม ตัวเองเลยต้องมารับภาระอันหนักอึ้งแบบเนี่ย
++++คอนโดฯ KPN ห้อง 2109++++
“โอ๊ยนี่นาย ล้วงกุญแจดี ๆ สิยะ”ฉันโวยวายเพราะอีตาบ้านี่ล้วงกระเป๋ากางเกงอยู่นานสองนาน
“รู้แล้ว ๆ ใจเย็น ๆ อ่ะนี่...”เขาค่อย ๆ ยื่นพวงกุญแจมาให้ฉัน
ฉันพยุงร่างหนัก ๆ นี่เข้ามาในห้องก่อนจะคลำ ๆ หาสวิทต์เพื่อเปิดไฟ และเมื่อห้องสว่างสภาพตรงหน้าคือข้าวของเละเทะ อีตานี่อยู่ไปได้ยังไงห้องรกขนาดนี้
“ไม่มีแม่บ้านหรือไงยะ”ฉันถาม
“มี แต่ม่ายจ้าง...เอิ้ก...มีไรมะ”เขาบอก หืออ เดี๋ยวแม่ก็ทิ้งให้นอนกองตรงนี้ซะเลย
“ห้องนายอยู่ไหน”
นายนิวเยียร์ชี้ไปที่ประตูบานใหญ่ไม่ไกลนัก ฉันค่อย ๆ พยุง(จนแทบจะลาก)เขาไปที่ประตู หนักโว๊ยยย!!>O<ช่วยเดินให้มันมีแรงหน่อยไม่ได้รึไงเนี่ย
ตุ้บ
ฉันทิ้งร่างหนัก ๆ ลงบนเตียงอย่างหมดแรง ก่อนทรุดตรงลงนั่งที่พื้น เหนื่อยจนแทบยืนไม่ไหวแล้ว
“นี่นาย ถามจริง ๆ เถอะ กินอะไรเข้าไป ตัวหนักอย่างกับหมีควาย”ฉันบ่น พลางเอานิ้วเขี่ย ๆ แขนเขา
“นี่...ตาบ้า ขอบใจสักคำน่ะมีมั้ย”ฉันลุกขึ้น พลางเท้าเอวมอง
“ชา...ด้า...”เสียงงึมงำทุ้ม ๆ ดังแผ่วจากปากเขา
“ห๊ะ อะไรนะ”ฉันก้มเงียหูฟัง
“ชา...ด้า...ชาด้า...”โธ่เอ้ย ที่แท้ก็เพ้อถึงผู้หญิง!!”
“งั้นฉันกลับล่ะ! ว๊าย”ขณะที่ฉันกำลังหันหลัง มือหนา ๆ ก็ดึงไว้จนฉันล้มทับอยู่บนตัวเขา
“อย่าทิ้งผมไป...ชาด้า...”มือเขารัดเอวฉันไว้แน่น
“ไอ้บ้านิวเยียร์ ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ ชาด้งชาด้าอะไรของนาย ฉัน ซีเนียร์เฟ้ย!!!>O<”ฉันดิ้นขลุกขลักบนตัวเขา ทันใดนั้นเขาก็พลิกตัวมาคร่อมฉันไว้แทน
“อยู่กับผม อย่าทิ้งผมไปนะ ขอร้อง...”ใบหน้านิวเยียร์ก้มต่ำก่อนจะซุกที่ซอกคอของฉัน
“นี่นาย! กรี๊ดดด!! ปล่อยฉันนะ ฉันไม่ใช่แฟนของนาย ปล่อยช้านนนนนนนน!!!”ฉันพยายามดิ้นสุดฤทธิ์
“ไม่ ชาด้า...ผมไม่อยากให้คุณไป”หน้าของเขาเริ่มไล้ลงมาจนเกือบถึงเนินอกฉัน ฉันขืนตัวสุดกำลัง เอามือผลักอกเขาออก แต่มือหนากลับรวบและขึงไว้บนหัวฉัน
“นิวเยียร์!!! นายลืมตาสิ ไอ้บ้า อย่ามาทำทุเรส ๆ แบบนี้กับฉันนะ!!!”ฉันกรีดร้องสุดเสียง จนแสบคอก็ไม่มีทีท่าว่าเขาจะหยุด
“ผมรักคุณนะ...”ร่างสูงเงยหน้าสบตากับฉันก่อนจะโน้มตัวประกบริมฝีปากที่แห้งผากนั้นลงมา ฉันเบิกตาโพลงอย่างตกใจ แรงฉันเริ่มหดหายด้วยความเหนื่อยจากการดิ้นทุรนทุราย ชีวิตฉันต้องจบลงแบบนี้หรือเนี่ย ทำไมกันนะ ทำไมถึงเป็นแบบนี้ล่ะ ทำไม...
ร่างสูงผงะเล็กน้อยเมื่อร่างเล็ก ๆ ใต้ร่างของเขาหยุดดิ้นแล้วนิ่งไป เขาค่อย ๆ ถอนจูบแล้วขยี้ตาที่พร่ามัวและปวดหนึบนั่นให้ชัด ๆ เขาถึงกับผงะแล้วผละออกจากร่างหญิงสาวที่นอนหลับตาอยู่ นี่ไม่ใช่คนรักของเขา เม็ดเหงื่อมากมายผุดบนใบหน้าของเธอ ปากที่ซีดเซียวนั้นทำให้ดูน่าสงสารเข้าไปอีก นี่เขาทำอะไรลงไป
“ซี...ซีเนียร์ ได้ยินฉันมั้ย”เขาเขย่าร่างบางเบา ๆ แต่ไม่มีทีท่าว่าเธอจะฟื้นเลยสักนิด
“ซี...ซี ฉันขอโทษ ซีเนียร์”ร่างสูงพูดกับร่างไร้สติตรงหน้าอย่างรู้สึกผิด เขาเมาจนขาดสติจริง ๆ สายตาของเขาเริ่มกวาดมองสำรวจร่างของเธอ ทั้งรอยจูบที่ต้นคอ กระดุมที่ถูกปลดจนเห็นเนินอกขาว รอยยับที่แขนเสื้อ เอ๊ะ เลือด ชายหนุ่มจับแขนเธอขึ้นมาดู ก่อนจะถกแขนเสื้อเธอขึ้น เลือดสีแดงฉานมากมายไหลเยิ้มออกมาจากผ้าพันแผลสีขาวสะอาดจนชุ่ม คงจะเพราะเธอช่วยพยุงเขา แล้วยังดิ้นขัดขืนสุดแรง เขากัดปากตัวเองก่อนจะทุบเตียงระบายอารมณ์ ช้อนร่างเล็ก ๆ ขึ้นนอนกับหมอน เขาค่อย ๆ แกะผ้าพันแผลออก ดูเหมือนแผลเธอจะปริมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ
“ทั้งที่เธออุส่าพาฉันมาส่งถึงห้อง แต่ฉันกลับทำเธอเจ็บตัว ฉันมันเป็นคนที่ไม่ได้เรื่องจริง ๆ นั่นแหละ สมแล้วที่ชาด้า ทิ้งฉันไป”เขาพูดกับหญิงสาวที่นอนหลับตาพริ้มหายใจสม่ำเสมอ ความคิดของเขาเต็มไปด้วยความสับสน ก่อนจะเดินไปหยิบกล่องพยาบาลมาทรุดตัวนั่งลงข้าง ๆ ชายหนุ่มบรรจงทำแผลให้เธออย่างเบามือเพราะกลัวเธอเจ็บ ร่างเล็กกระตุกแขนเล็กน้อยเมื่อเขาเอาสำลีชุบแอลกอฮอล์มาล้างทำความสะอาดแผลให้ใหม่ เขาลอบมองใบหน้าเธอหลายครั้ง จะว่าไปแล้วเวลาที่เธอหลับตาก็ดูสวยจนแทบละสายตาไม่ได้เลยทีเดียว ชายหนุ่มเอื้อมมือไปปัดปอยผมที่ปรกหน้าหญิงสาวออกทัดหูเธอไว้ ใครจะรู้ว่าผู้หญิงขี้เหวี่ยงขี้วีนอย่างนี้ อยู่นิ่ง ๆ ก็ดูน่ารักไปอีกแบบ
“อื้อ...”หญิงสาวพลิกตัวก่อนจะค่อย ๆ ลืมตาขึ้น เธอสะดุ้งแล้วขยับถอยหนีเมื่อเห็นเขากำลังทำแผลให้อยู่
“ตื่นแล้วหรอ”ชายหนุ่มถาม
“นาย!ไอ้คนเลว”ทันทีที่ได้สติเธอรีบลุกออกจากเตียงแล้วหันไปว่าเขา
“อะไร ตื่นมาก็โวยวาย ฉันกำลังทำแผลให้อยู่นะ”ร่างสูงเดินอ้อมมาคว้าข้อมือเล็ก ๆ หญิงสาวบิดข้อมือตัวเองออก
เพี๊ยะ!!
ใบหน้าของเขาสะบัดตามแรงเหวี่ยง เขาไม่ถามเลยว่าเธอตบเขาทำไม เพราะมันคงสมควรแล้วที่จะโดนแบบนี้ ชายหนุ่มยกมือเช็ดเลือดที่มุมปากแล้วมองหน้าเธอ
“ไอ้บ้า ฉันเกลียดนาย นิวเยียร์ ได้ยินมั้ย ฉันเกลียดนาย!!!”เธอตวาดเสียงดัง ก่อนจะทุบกำปั้นลงบนแผงอกเขาหลายครั้ง
“ฉันขอโทษ แต่ว่าฉันยังไม่ได้ทำอะไรเธอนะ เธอหมดสติไปก่อน”ร่างสูงบอก
“แล้วถ้าเกิดตอนนั้นนายทำล่ะ ถ้าเกิดฉันไม่หมดสติ นายก็คงไม่ยอมหยุด ใช่มั้ย!!”เธอกระชากคอเสื้อเขาถาม ก็จริงอย่างที่เธอว่า ถ้าเขาไม่มีสติแบบนั้น แถมยังคิดว่าเธอคือคนรักของเขา เธออาจจะแหลกสลายไปแล้วก็ได้
“ฉันขอโทษ...”
“เก็บคำขอโทษของนายไว้ใช้กับคนอื่นเถอะ นายทำกับฉันถึงขนาดนี้ ฉันควรยกโทษให้ง่าย ๆ งั้นหรอ”
“แล้วฉันควรทำยังไง เธอถึงจะยกโทษให้”ชายหนุ่มถาม
“ฉันไม่มีทางยกโทษให้นายแน่ เพราะสิ่งที่นายทำ ไม่ว่าจะเป็นฉันหรือคนอื่น มันก็เป็นสิ่งที่ไม่น่าให้อภัย”
“ก็ฉันคิดว่าเธอเป็น...”
“ยัยชาด้า แฟนนายงั้นสิ!!”ร่างบางชิงพูดขึ้นก่อน
“ก็นั่นแหละ ใครจะไปรู้ล่ะว่าจะเป็นเธอน่ะ”
“แต่นายก็น่าจะมีสติบ้าง ไม่ใช่เมาจนขาดสติแยกแยะไม่ออกว่าใครเป็นใครแบบนี้ ฉันผิดหวังในตัวนายมาก นิวเยียร์...”เธอเดินไปหยิบกระเป๋ามาสะพาย “ฉันกลับล่ะ”
“เดี๋ยวก่อน...”เขาคว้าข้อมือเธอไว้
“ปล่อย!”หญิงสาวมองมือเขาแล้วบิดข้อมือออก
“แต่แผลเธอ”ร่างสูงมองเลือดสีแดงสดไหลหยดลงพื้น
“ช่างมัน ฉันไม่ได้เป็นอะไรมาก”เธอบอกแล้วหยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋ามาซับเลือด ก่อนจะเดินออกมาจากห้องนอนเขา
“งั้นฉันไปส่งนะ”ร่างสูงเดินตามออกมาแล้วเปิดประตูให้
“ไม่ต้อง ฉันกลับเองได้ ...อ้อ แล้วก็นะ ฉันคิดว่าเราคงไม่มีความจำเป็นอะไรต้องเจอกันอีก”
“นี่เธอจะโกรธฉันแบบนี้จริง ๆ งั้นหรอ”
“ฉันไม่ได้โกรธ แต่ฉันเกลียดนิสัยแย่ ๆ ของนาย”
“ไม่ว่าฉันจะพูดยังไง เธอก็คงจะไม่ยกโทษให้ใช่มั้ย”
“...”เธอเงียบ แล้วเดินออกไปจากห้องเขา เสียงงึมงำเบา ๆ จากปากของเขาทำเอาหญิงสาวใจชื้นขึ้นมาเล็กน้อย
“ฉันขอโทษ แต่ยังไงฉันก็จะไม่ยอมให้เธอโกรธฉันแบบนี้แน่”
ชายหนุ่มมองร่างบางเดินเข้าไปในลิฟท์จนประตูปิด ทั้ง ๆ ที่เขากับเธอเป็นคู่กัดกันตลอด แต่สิ่งที่เธอโกรธจนเกลียดเขาไปแล้ว คือความผิดเพราะความไร้สติ กลับทำให้เขารู้สึกแปลก ๆ ในความคิดบางอย่างที่กำลังก่อตัวขึ้นมันเหมือนมีอะไรมากกว่านั้นเขาพยายามสลัดความคิดนี้ออกไป บางทีอาจเพราะเขารู้สึกผิดจริง ๆ ก็ได้และไม่มีอะไรมากไปกว่านี้แน่นอน
หลายวันแล้วที่ฉันไม่ได้ออกไปเที่ยวกับเพื่อน ๆ ไม่ใช่เพราะขี้เกียจหรือเบื่อ แต่เพราะอีตานิวเยียร์เอาแต่มายืนด้อม ๆ มอง ๆ อยู่หน้าบ้านทุกครั้ง มายืนตั้งแต่เช้าจนดึกดื่นแล้วฉันก็ผล็อยหลับไปทุกที นี่ก็จะเข้าเป็นวันที่สี่แล้ว ไม่ใช่ว่าฉันไม่กล้าสู้หน้ากับเขา แต่เพราะฉันยังไม่พร้อมจะเผชิญหน้าในตอนนี้
ครืด...ครืด...ครืด...
เสียงโทรศัพท์สั่นให้รู้ว่ามีสายเรียกเข้าฉันหยิบมันขึ้นมาดูก่อนจะกดรับสาย
“ว่าไงแก้ว”
(ซี แกเป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมไม่ออกมาเที่ยวกับพวกฉันล่ะ)
“ฉันรู้สึกไม่สบายนิดหน่อย เลยไม่อยากออกไปไหน”ฉันบอก พลางแหวกผ้าม่านมองร่างสูงที่เดินไปมาอยู่หน้ารั้ว
(อ้าว!... แกไปหาหมอหรือยัง)ยัยแก้วถาม น้ำเสียงดูเป็นห่วงนั่นทำให้ฉันเผลอยิ้มออกมา
“เปล่า ฉันแค่รู้สึกเพลีย ๆ เหนื่อย ๆ ช่วงนี้ฉันยังไม่ออกไปไหนแล้วกันนะ”ฉันบอก ก่อนจะเบิกตาโตเพราะร่างสูงที่อยู่ข้างล่างมองเห็นฉันพอดี
(อืม เอางั้นก็ได้ แต่ถ้าแกรู้สึกไม่ดีขึ้นหรือแย่กว่าเดิม โทร.หาฉันได้ตลอดเลยนะ)
“จ้า ๆ แค่นี้ก่อนนะฉันง่วงแล้ว”ฉันกดวางสายแล้วปิดเครื่องทันทีที่เห็นอีตานิวเยียร์เอาโทรศัพท์ขึ้นมาเหมือนจะโทร.หาฉัน ก่อนที่เสียงเคาะประตูห้องจะดังขึ้น
“เข้ามาได้ ฉันไม่ได้ล็อคประตู”ฉันบอกก่อนจะปิดม่านแล้วเดินมานั่งบนเตียง
“คุณหนูครับ จดหมาย”นายเด็มยื่นกระดาษสีขาวแผ่นเล็กมาให้
“จดหมายอะไร”ฉันถาม พลางหยิบขึ้นมาดู
“ไม่ทราบสิครับ แต่คุณนิวเยียร์ฝากให้เอามาให้คุณหนู”ฉันชะงักกึก ก่อนจะยัดกระดาษใส่มือคืน
“งั้นหรอ นายคงอยากจะเปลี่ยนอาชีพ ไปเป็นบุรุษไปรษณีย์สินะ”ฉันว่า นายเด็มทำหน้าเหวอ
“เอ่อ...คุณหนูครับ ผมแค่รับฝากมา แต่ไม่ได้คิดจะเปลี่ยนงานนะครับ TOT”
“ฉันก็นึกว่านายจะเปลี่ยนอาชีพ ถ้างั้นก็เอาออกไปได้แล้ว ฝากบอกคนส่งด้วยว่าฉันไม่อยากเห็นหน้าเขา”ฉันดันร่างสูงนั้นออกไปจากห้องแล้วรีบปิดประตูทันที ทั้ง ๆ ที่ความคิดฉันมันบอกอย่างนั้น แต่ทำไมความรู้สึกมันกลับตรงกันข้าม แล้วไอ้ความรู้สึกแปลก ๆ แบบนี้ มันคงไม่ใช่เพราะฉันเกิดรู้สึกชอบอีตาบ้านั่นขึ้นมาแล้วจริง ๆ ใช่มั้ย โอ๊ย ให้ตายสิ ฉันเป็นอะไรไปกันเนี่ย
“ไม่นะ ไม่ ๆๆๆ เลิกคิด เลิกคิดได้แล้ว”ฉันสะบัดหัวไล่ความคิดเหล่านี้ออกไป แล้วล้มตัวลงนอนบนเตียง หวังว่าพรุ่งนี้ตื่นมา ฉันคงจะเปลี่ยนความรู้สึกในใจแบบนี้ได้สักทีนะ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ