Don't stop love me หลุมรัก กับดักหัวใจ ยัยตัวร้าย

-

เขียนโดย หนูนาปากิโกะ

วันที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 เวลา 02.03 น.

  3 ตอน
  3 วิจารณ์
  5,277 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564 10.13 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

3) ความผิดที่ไม่ได้ตั้งใจ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

           “อ่ะนี่ ดื่มซะ จะได้หายบ้า-0-”ฉันยื่นขวดน้ำเย็น ๆ ให้ร่างสูงที่นั่งกุมมือที่มีเลือดไหลซิบ ๆ ออกมา

            “ขอบใจ วันหลังไม่ต้อง - -*”เขารับขวดน้ำไปอย่างไม่สบอารมณ์นัก

            “เออ อย่างกับฉันอยากยุ่งเรื่องของนายนักแหละ=^=”ฉันว่า ก่อนทรุดตัวลงนั่งข้าง ๆ

            “เธอมาทำอะไรบนนี้”นิวเยียร์หันมาถามฉัน

            “มาสูดอากาศเฉย ๆ ไม่คิดว่าจะมาเจออะไรที่ดราม่า ๆ”ฉันบอก

            “เธอได้ยินหมดเลยหรอ...”

            “ก็ใช่น่ะสิยะ ทุกคำ ทุกประโยคเลยแหละ”       

            “น่าสมเพชใช่มั้ย ที่ฉันต้องมาโดนผู้หญิงทิ้งแบบนี้”นิวเยียร์ทำเสียงหงอย ๆ ถ้าฉันบอกว่า ‘ใช่’ มันจะดูใจร้ายใจดำไปมั้ยอะ

            “เห้ย น่าสมเพชอะไรกันเล่า นายก็คิดมากน่า เอางี้ ลงไปดื่มให้ซะใจไปเลยดีม้ะ ป่ะ ๆๆ ลุก ๆ”ฉันแกล้งทำเป็นฉุดแขนเขาให้ลุกขึ้น

            “ขอโทษนะ แทนที่ฉันจะดูแลเธอ แต่กลับมาเป็นเธอมาดูแลฉันเนี่ย”

            “บ้าหรอ ดูลงดูแลอะไรของนาย ฉันแค่ไม่อยากให้นายมานั่งหงอยเป็นหมาเหงาต่างหาก”ฉันบอก

            “ฮะ ๆ ยัยตัวแสบ เป็นห่วงคนอื่นก็เป็นด้วย”เขาว่าก่อนจะเอานิ้วจิ้มหน้าผากฉันเบาๆ

            “ป่ะ ๆ ตามมานี่”ฉันรีบหันหน้านี้แล้วยิ้มที่มุมปาก พลางดึงแขนเสื้อเขาให้เดินตามมา

 

 

            “ซี!! แกรู้มั้ยว่าพวกฉันนึกว่าแกโดนฉุดไปซะอีก หาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอเนี่ย”ยังไม่ทันจะเดินไปถึงโต๊ะเสียงแหลมเสียดหูของยัยอิมก็ดังขึ้นมา

            “รู้แล้ว ๆ ฉันผิดเอง ขอโทษ ๆ”ฉันรีบพูดตัดก่อนที่ยัยอิมจะแผดเสียงโวยวายอีก

            “แล้วนี่ เธอพาใครมา แน้! มีจับมือกันด้วย โธ่เอ้ย ที่แท้ก็ไปหากิ๊กใช่มั้ยล้า ^O^”ทันทีที่ยัยอิมพูดจบฉันก็มองที่มือตัวเอง

            “เฮ้ย!!O.O ไม่ใช่นะ ไม่ใช่ที่แกคิดเลยนะ หยุดคิด ๆ”ฉันรีบสะบัดมืออีตานิวเยียร์ออกอย่างรวดเร็ว

            “อะไร คิดอะไร ภาพมันฟ้องชัด ๆ เนอะแก้วเนอะ”ยัยอิมหันไปหาความเห็นของยัยแก้วที่นั่งยิ้มกรุ่มกริ่มอยู่

            “ช่ายยยยย ^^”

            “นี่พวกแก เงียบไปเลยนะ ไม่งั้นฉันกลับล่ะ ป่ะ”ฉันแสร้งทำเป็นงอน ดันหลังนิวเยียร์ให้เดินหนี

            “โอ๋เอ๋ ๆๆ ล้อเล่นนิดเดียวเอง ทำเป็นงอน แล้วจะบอกได้ยัง ว่านี่ใคร”ยัยอิมทำตาปริบ ๆ มองมาที่ฉัน

            “จำไม่ได้รึไง หรือในนี้มันมืดไป ตาถึงพร่าน่ะ”ฉันเอ็ด ก่อนจะหย่อนตัวนั่งลง แล้วดึงให้เขานั่งตาม

            “มันมองไม่ชัดอะ เดี๋ยวนะเอาแฟลชกล้องมาเปิดแป๊ป”ยัยอิมบอกพลางควานหาโทรศัพท์ ก่อนจะส่องแสงจะแฟลชไปที่หน้าหงิก ๆ ของคนที่นั่งข้าง ๆ ฉัน

            “เฮ้ยยยยยยยย!!!OoO นี่มัน”ยัยอิมถึงกับช็อคไปชั่วขณะ

            “นิวเยียร์ ตัวจริง!!!”ยัยแก้วพูด

            “เออน่ะสิ นี่แหละลูกชายเพื่อนของพ่อฉัน”ฉันเสริม

            “คนที่ฮอตที่สุดในวิทยาลัยแถมยังเป็นแฟนกับดาว มหา’ลัยของเราด้วย!!!”

            “พอ ๆ เลย เลิกพูด นี่นายอยากกินอะไรก็สั่ง ๆ ไป วันนี้ฉันเลี้ยง”ฉันหันไปบอกร่างสูงที่ดูเหมือนร่างจะไร้วิญญาณข้าง ๆ

            “เอาอะไรก็ได้”เขาบอกเนือย ๆ

            “นายน่ะ มานี่หน่อย”ฉันกวักมือเรียกพนักงานเสิร์ฟที่เดินผ่านมาพอดี

            “ครับ...”

            “สั่งสิ”ฉันสะกิดแขนร่างสูงข้างๆ

            “เอาแอลกอฮอล์อะไรก็ได้นะ ขอแบบที่แรง ๆ ที่สุดในร้าน ดื่มแล้วเมาจนลืมโลก จัดหนักมาเลย หลาย ๆ แก้ว”

            “เอ่อ...ครับ สักครู่นะครับ”พนักงานคนนั้นพยักหน้าอย่างงง ๆ แล้วเดินจากไป

            “นาย ไหวมั้ยเนี่ย”ฉันหันไปถาม

            “เฮอะ ไม่ไหวก็คงต้องไหว เธอรู้อะไรมั้ย ฉันไม่เคยรู้สึกเสียใจจนแทบบ้าขนาดนี้มาก่อนเลย”อีตานิวเยียร์บอก ก่อนจะนั่งกุมขมับเหมือนคิดอะไรอยู่

            “ชีวิตคนเราก็แบบนี้แหละน่า จะสุขตลอดคงเป็นไปไม่ได้ ดูอย่างฉันกับ...พ่อสิ”ฉันเอื้อมมือไปที่ไหล่เขา ก่อนจะวางมันลงแล้วบีบไหล่ที่ดูแข็งแรงกำยำนั่นเบา ๆ

            “วันนี้เราสงบศึกกันสักวันแล้วกันนะ ฉันเหนื่อยมาก ๆ แล้ว เฮ้อ...”เขาถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อนจนฉันอดสงสารไม่ได้ ยังไงก็คงต้องเป็นอย่างนั้นแหละ

            “อืม...”

            ไม่นานพนักงานคนนั้นก็เอาของเหลวสีสวยมาเสิร์ฟ ฉันยื่นทิปให้เล็กน้อยเพราะเห็นว่าคงเป็นนักศึกษาที่มาหารายได้ นิวเยียร์ยกแก้วขึ้นมาดื่มรวดเดียวหมดเกลี้ยง ตามมาด้วยแก้วที่สอง แก้วที่สาม แก้วที่สี่ และกำลังจะเริ่มแก้วที่ห้า จนฉันต้องจับแขนเขาไว้

            “นี่นาย ดื่มช้า ๆ สิยะ เดี๋ยวก็ตายหรอก”ฉันว่า

            “นั่นสิ คุณดื่มแบบนี้ เดี๋ยวก็เมาเละหรอก”ยัยอิมบอก

            “คุณนิวเยียร์มีปัญหาอะไรหรือเปล่าน่ะคะ ดื่มเอา ๆ ขนาดนี้”ยัยแก้วถาม

            “ผมแค่อยากดื่ม ดื่ม ดื่ม แล้วก็ดื่ม ๆ ดื่มให้เมา ตายไปเลยยิ่งดี เผื่อเธอจะกลับมาหาผม”ร่างสูงบอก พลางยกแก้วที่ห้าขึ้นดื่ม ตามด้วยแก้วที่หก เจ็ด และแปดยัยแก้วกับยัยอิมมองหน้ากันอย่างงุนงงแล้วหันมามองหน้าฉันเป็นเชิงถามว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่

            “น้อง เอามาอีก อึก...”

            “ฉันว่านายเมาแล้วนะ”ฉันจับไหล่แกร่งเพื่อเตือนสติ แต่เขาก็ปัดออก

            “เมาราย...ใครเมา...ไม่มี๊...เห้ยน้อง เร็ว ๆ ดิ เอ้อ...”

            “ซี ฉันว่าแกพาเขากลับดีกว่ามั้ยอะ ฉันว่าอย่างเนี่ย ท่าทางจะแย่ว่ะ”ยัยอิมสะกิดแขนฉัน ฉันเห็นด้วยกับที่ยัยอิมบอก ฉันควรจะพาเขากลับบ้านดีกว่ามาดื่มจนเมาเละแบบนี้

            “พากลับเหอะ ซี ฉันกลัวเขาอาละวาดที่นี่”ยัยแก้วบอกอีกคน

            “กลับเถอะครับ เดี๋ยวผมดูแลเพื่อนคุณเอง”พี่คิมเสริม

            “งั้นฉันกลับล่ะ เดี๋ยวทั้งหมดบนโต๊ะเนี่ย ฉันจ่ายเอง ขอโทษทีนะ”

            “เห้ย ไม่เป็นไร พวกเราจ่ายเองได้ แต่แกพานิวเยียร์กลับเหอะ”ยัยอิมรีบปฏิเสธทันควัน

            “ไม่เป็นไร ถือว่าเป็นการขอโทษแล้วกัน ที่ฉันต้องกลับก่อนน่ะ”ฉันบอก

            “เอางั้นก็ได้ โชคดีนะแก แล้วเจอกัน”ยัยอิมพยักหน้ารับ

            “เดี๋ยวฉันโทร.หานะซี” ยัยแก้วบอก พลางทำมือรูปโทรศัพท์ ฉันพยักหน้าหงึกหงัก ก่อนจะฉุดแขนของคนที่เมาแอ๋อยู่ข้าง ๆ ให้ยืนขึ้น

            “ไป กลับได้แล้ว ลุกสิ”ฉันดึงแขนเขาแรง ๆ

            “ม่ายเอา...ยังไม่กลับ ขออยู่ต่ออีกแป๊ปปป...”ร่างสูงส่ายหน้าแล้วยกแก้วทำท่าจะดื่มอีก ฉันจึงรีบดึงมันออกจากมือเขา

            “พอเลย กลับเดี๋ยวนี้ ไปสิ ลุก ๆ”ฉันพยายามดึงแขนเขาให้ลุกขึ้นสุดแรง แต่มันไม่กระดิกสักนิด

            “โอ๊ย เธอนี่...น่ารำคาญชะมัด...เออ ๆ ไปก็ไป”ร่างสูงค่อย ๆ ชันตัวขึ้น ฉันเลยเอาแขนเขามาคล้องคอช่วยพยุง

            “ไปนะ”ฉันหันไปบอกยัยอิมกับยัยแก้วอีกครั้ง

            “อืม ๆ โชคดีนะ”ทั้งสองโบกมือหยอย ๆ ให้

 

 

            ฉันค่อย ๆ ประคองร่างที่แทบขาดสติออกจากสถานบันเทิงนี่อย่างทุลักทุเล หนักชะมัดเลยอีตานี่ทิ้งไว้ข้างทางซะเลยดีมั้ย ซวยจริง ๆ ชวนคนอกหักดื่มเหล้าเนี่ย คิดผิดที่สุดเลยฉัน TT^TT

            “เดี๋ยวก่อนนน...จาโบกแท็กซี่ทำมายย...”ร่างสูงถามเมื่อฉันกำลังจะโบกแท็กซี่

            “ฉันไม่ได้เอารถมา”ฉันบอก ก่อนที่ร่างสูงจะชูกุญแจรถมาตรงหน้าฉัน

            “แต่ฉาน...ขาบรถ...เธอมานะ...”

            เมื่อมาถึงรถฉันก็เอาร่างขาดสติพิงรถก่อนจะล้วงกุญแจที่เมื่อกี้เก็บเอาไว้ในกระเป๋า เมื่อเปิดประตูรถได้แล้วฉันก็ค่อย ๆ บรรจงดัน(ยัด)ร่างสูงเข้าไปในรถได้ในที่สุด เฮ้อ สำเร็จ ที่นี้เหลือแค่ไปส่งสินะ ฉันเดินอ้อมไปอีกข้างก่อนจะสตาร์ทรถแล้วขับออกไป

           

 

            “กำลังจะไป...ที่ไหนน่ะ”ร่างสูงงัวเงียถาม

            “บ้านนายไง”

            “ไม่นะ...ฉันยังไม่อยากกลับบ้าน เอิ้ก...”

            “กรี๊ด นี่นายอย่าอ้วกใส่ลูกฉันนะ มันแพงนะรู้มั้ยยะ”ฉันกรีดร้องสุดเสียง เพราะเห็นอีตานิวเยียร์เรอออกมาแล้วทำท่าจะอ้วกใส่รถ

            “ม่ายหวายแล้ว...อุก”

            “เดี๊ยวเดี๋ยว อย่าเพิ่งนะ นี่มันบนสะพาน ทนอีกแป๊ปนึง”ฉันรีบเหยียบคันเร่งจนเข็มชี้ที่เลขร้อยยี่สิบ จนในที่สุดก็โผล่ลงมาที่นรก เอ้ย ไม่ใช่ ข้างทาง ฉันจอดรถดังเอี๊ยดแล้วรีบวิ่งมาเปิดประตูให้เขา ทันทีที่ประตูรถเปิด ร่างสูงก็พ่นสิ่งที่พะอืดพะอมออกมา

            “เฮ้อ ทันพอดี รอนี่เดี๋ยว ฉันจะไปขอน้ำร้อนที่ร้านค้าตรงนั้นมาให้ดื่ม”ฉันเดินไปยังร้านค้าข้างทางที่ยังเปิดไฟอยู่ ตอนแรกยัยป้าที่ร้านทำท่าไม่อยากจะให้ ฉันจึงยื่นเงินให้แล้วขอเป็นน้ำดื่มอุ่น ๆ แทน แกเลยยอมไปต้มน้ำ แล้วฉันก็ได้น้ำอุ่นมาเต็มขวด

            “เอ้านี่ ดื่มซะ จะได้ดีขึ้น”ฉันยื่นขวดน้ำให้คนตรงหน้า

            “อืม...พาฉันไปส่งที่คอนโดฯ แล้วกันนะ...”เขาบอกเสียงเบาก่อนจะหลับไป

            ฉันส่ายหน้าให้กับร่างที่นอนแน่นิ่งอย่างเหนื่อยใจ เวรกรรมฉันล้วน ๆ ที่ชวนเขานั่งดื่ม ตัวเองเลยต้องมารับภาระอันหนักอึ้งแบบเนี่ย

 

 

            ++++คอนโดฯ KPN ห้อง 2109++++

            “โอ๊ยนี่นาย ล้วงกุญแจดี ๆ สิยะ”ฉันโวยวายเพราะอีตาบ้านี่ล้วงกระเป๋ากางเกงอยู่นานสองนาน

            “รู้แล้ว ๆ ใจเย็น ๆ อ่ะนี่...”เขาค่อย ๆ ยื่นพวงกุญแจมาให้ฉัน

            ฉันพยุงร่างหนัก ๆ นี่เข้ามาในห้องก่อนจะคลำ ๆ หาสวิทต์เพื่อเปิดไฟ และเมื่อห้องสว่างสภาพตรงหน้าคือข้าวของเละเทะ อีตานี่อยู่ไปได้ยังไงห้องรกขนาดนี้

            “ไม่มีแม่บ้านหรือไงยะ”ฉันถาม

            “มี แต่ม่ายจ้าง...เอิ้ก...มีไรมะ”เขาบอก หืออ เดี๋ยวแม่ก็ทิ้งให้นอนกองตรงนี้ซะเลย

            “ห้องนายอยู่ไหน”

            นายนิวเยียร์ชี้ไปที่ประตูบานใหญ่ไม่ไกลนัก ฉันค่อย ๆ พยุง(จนแทบจะลาก)เขาไปที่ประตู หนักโว๊ยยย!!>O<ช่วยเดินให้มันมีแรงหน่อยไม่ได้รึไงเนี่ย

            ตุ้บ

            ฉันทิ้งร่างหนัก ๆ ลงบนเตียงอย่างหมดแรง ก่อนทรุดตรงลงนั่งที่พื้น เหนื่อยจนแทบยืนไม่ไหวแล้ว

            “นี่นาย ถามจริง ๆ เถอะ กินอะไรเข้าไป ตัวหนักอย่างกับหมีควาย”ฉันบ่น พลางเอานิ้วเขี่ย ๆ แขนเขา

            “นี่...ตาบ้า ขอบใจสักคำน่ะมีมั้ย”ฉันลุกขึ้น พลางเท้าเอวมอง

            “ชา...ด้า...”เสียงงึมงำทุ้ม ๆ ดังแผ่วจากปากเขา

            “ห๊ะ อะไรนะ”ฉันก้มเงียหูฟัง

            “ชา...ด้า...ชาด้า...”โธ่เอ้ย ที่แท้ก็เพ้อถึงผู้หญิง!!”

            “งั้นฉันกลับล่ะ! ว๊าย”ขณะที่ฉันกำลังหันหลัง มือหนา ๆ ก็ดึงไว้จนฉันล้มทับอยู่บนตัวเขา

            “อย่าทิ้งผมไป...ชาด้า...”มือเขารัดเอวฉันไว้แน่น

            “ไอ้บ้านิวเยียร์ ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ ชาด้งชาด้าอะไรของนาย ฉัน ซีเนียร์เฟ้ย!!!>O<”ฉันดิ้นขลุกขลักบนตัวเขา ทันใดนั้นเขาก็พลิกตัวมาคร่อมฉันไว้แทน

            “อยู่กับผม อย่าทิ้งผมไปนะ ขอร้อง...”ใบหน้านิวเยียร์ก้มต่ำก่อนจะซุกที่ซอกคอของฉัน

            “นี่นาย! กรี๊ดดด!! ปล่อยฉันนะ ฉันไม่ใช่แฟนของนาย ปล่อยช้านนนนนนนน!!!”ฉันพยายามดิ้นสุดฤทธิ์

            “ไม่ ชาด้า...ผมไม่อยากให้คุณไป”หน้าของเขาเริ่มไล้ลงมาจนเกือบถึงเนินอกฉัน ฉันขืนตัวสุดกำลัง เอามือผลักอกเขาออก แต่มือหนากลับรวบและขึงไว้บนหัวฉัน

            “นิวเยียร์!!! นายลืมตาสิ ไอ้บ้า อย่ามาทำทุเรส ๆ แบบนี้กับฉันนะ!!!”ฉันกรีดร้องสุดเสียง จนแสบคอก็ไม่มีทีท่าว่าเขาจะหยุด

            “ผมรักคุณนะ...”ร่างสูงเงยหน้าสบตากับฉันก่อนจะโน้มตัวประกบริมฝีปากที่แห้งผากนั้นลงมา ฉันเบิกตาโพลงอย่างตกใจ แรงฉันเริ่มหดหายด้วยความเหนื่อยจากการดิ้นทุรนทุราย ชีวิตฉันต้องจบลงแบบนี้หรือเนี่ย ทำไมกันนะ ทำไมถึงเป็นแบบนี้ล่ะ ทำไม...

 

 

            ร่างสูงผงะเล็กน้อยเมื่อร่างเล็ก ๆ ใต้ร่างของเขาหยุดดิ้นแล้วนิ่งไป เขาค่อย ๆ ถอนจูบแล้วขยี้ตาที่พร่ามัวและปวดหนึบนั่นให้ชัด ๆ เขาถึงกับผงะแล้วผละออกจากร่างหญิงสาวที่นอนหลับตาอยู่  นี่ไม่ใช่คนรักของเขา เม็ดเหงื่อมากมายผุดบนใบหน้าของเธอ ปากที่ซีดเซียวนั้นทำให้ดูน่าสงสารเข้าไปอีก นี่เขาทำอะไรลงไป

            “ซี...ซีเนียร์ ได้ยินฉันมั้ย”เขาเขย่าร่างบางเบา ๆ แต่ไม่มีทีท่าว่าเธอจะฟื้นเลยสักนิด

            “ซี...ซี ฉันขอโทษ ซีเนียร์”ร่างสูงพูดกับร่างไร้สติตรงหน้าอย่างรู้สึกผิด เขาเมาจนขาดสติจริง ๆ สายตาของเขาเริ่มกวาดมองสำรวจร่างของเธอ ทั้งรอยจูบที่ต้นคอ กระดุมที่ถูกปลดจนเห็นเนินอกขาว รอยยับที่แขนเสื้อ เอ๊ะ เลือด ชายหนุ่มจับแขนเธอขึ้นมาดู ก่อนจะถกแขนเสื้อเธอขึ้น เลือดสีแดงฉานมากมายไหลเยิ้มออกมาจากผ้าพันแผลสีขาวสะอาดจนชุ่ม คงจะเพราะเธอช่วยพยุงเขา แล้วยังดิ้นขัดขืนสุดแรง เขากัดปากตัวเองก่อนจะทุบเตียงระบายอารมณ์ ช้อนร่างเล็ก ๆ ขึ้นนอนกับหมอน เขาค่อย ๆ แกะผ้าพันแผลออก ดูเหมือนแผลเธอจะปริมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ

            “ทั้งที่เธออุส่าพาฉันมาส่งถึงห้อง แต่ฉันกลับทำเธอเจ็บตัว ฉันมันเป็นคนที่ไม่ได้เรื่องจริง ๆ นั่นแหละ สมแล้วที่ชาด้า ทิ้งฉันไป”เขาพูดกับหญิงสาวที่นอนหลับตาพริ้มหายใจสม่ำเสมอ ความคิดของเขาเต็มไปด้วยความสับสน ก่อนจะเดินไปหยิบกล่องพยาบาลมาทรุดตัวนั่งลงข้าง ๆ ชายหนุ่มบรรจงทำแผลให้เธออย่างเบามือเพราะกลัวเธอเจ็บ ร่างเล็กกระตุกแขนเล็กน้อยเมื่อเขาเอาสำลีชุบแอลกอฮอล์มาล้างทำความสะอาดแผลให้ใหม่ เขาลอบมองใบหน้าเธอหลายครั้ง จะว่าไปแล้วเวลาที่เธอหลับตาก็ดูสวยจนแทบละสายตาไม่ได้เลยทีเดียว ชายหนุ่มเอื้อมมือไปปัดปอยผมที่ปรกหน้าหญิงสาวออกทัดหูเธอไว้ ใครจะรู้ว่าผู้หญิงขี้เหวี่ยงขี้วีนอย่างนี้ อยู่นิ่ง ๆ ก็ดูน่ารักไปอีกแบบ

            “อื้อ...”หญิงสาวพลิกตัวก่อนจะค่อย ๆ ลืมตาขึ้น เธอสะดุ้งแล้วขยับถอยหนีเมื่อเห็นเขากำลังทำแผลให้อยู่

            “ตื่นแล้วหรอ”ชายหนุ่มถาม

            “นาย!ไอ้คนเลว”ทันทีที่ได้สติเธอรีบลุกออกจากเตียงแล้วหันไปว่าเขา

            “อะไร ตื่นมาก็โวยวาย ฉันกำลังทำแผลให้อยู่นะ”ร่างสูงเดินอ้อมมาคว้าข้อมือเล็ก ๆ หญิงสาวบิดข้อมือตัวเองออก

            เพี๊ยะ!!

            ใบหน้าของเขาสะบัดตามแรงเหวี่ยง เขาไม่ถามเลยว่าเธอตบเขาทำไม เพราะมันคงสมควรแล้วที่จะโดนแบบนี้ ชายหนุ่มยกมือเช็ดเลือดที่มุมปากแล้วมองหน้าเธอ

            “ไอ้บ้า ฉันเกลียดนาย นิวเยียร์ ได้ยินมั้ย ฉันเกลียดนาย!!!”เธอตวาดเสียงดัง ก่อนจะทุบกำปั้นลงบนแผงอกเขาหลายครั้ง

            “ฉันขอโทษ แต่ว่าฉันยังไม่ได้ทำอะไรเธอนะ เธอหมดสติไปก่อน”ร่างสูงบอก

            “แล้วถ้าเกิดตอนนั้นนายทำล่ะ ถ้าเกิดฉันไม่หมดสติ นายก็คงไม่ยอมหยุด ใช่มั้ย!!”เธอกระชากคอเสื้อเขาถาม ก็จริงอย่างที่เธอว่า ถ้าเขาไม่มีสติแบบนั้น แถมยังคิดว่าเธอคือคนรักของเขา เธออาจจะแหลกสลายไปแล้วก็ได้

            “ฉันขอโทษ...”

            “เก็บคำขอโทษของนายไว้ใช้กับคนอื่นเถอะ นายทำกับฉันถึงขนาดนี้ ฉันควรยกโทษให้ง่าย ๆ งั้นหรอ”

            “แล้วฉันควรทำยังไง เธอถึงจะยกโทษให้”ชายหนุ่มถาม

            “ฉันไม่มีทางยกโทษให้นายแน่ เพราะสิ่งที่นายทำ ไม่ว่าจะเป็นฉันหรือคนอื่น มันก็เป็นสิ่งที่ไม่น่าให้อภัย”

            “ก็ฉันคิดว่าเธอเป็น...”

            “ยัยชาด้า แฟนนายงั้นสิ!!”ร่างบางชิงพูดขึ้นก่อน

            “ก็นั่นแหละ ใครจะไปรู้ล่ะว่าจะเป็นเธอน่ะ”

            “แต่นายก็น่าจะมีสติบ้าง ไม่ใช่เมาจนขาดสติแยกแยะไม่ออกว่าใครเป็นใครแบบนี้ ฉันผิดหวังในตัวนายมาก นิวเยียร์...”เธอเดินไปหยิบกระเป๋ามาสะพาย “ฉันกลับล่ะ”

            “เดี๋ยวก่อน...”เขาคว้าข้อมือเธอไว้

            “ปล่อย!”หญิงสาวมองมือเขาแล้วบิดข้อมือออก

            “แต่แผลเธอ”ร่างสูงมองเลือดสีแดงสดไหลหยดลงพื้น

            “ช่างมัน ฉันไม่ได้เป็นอะไรมาก”เธอบอกแล้วหยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋ามาซับเลือด ก่อนจะเดินออกมาจากห้องนอนเขา

            “งั้นฉันไปส่งนะ”ร่างสูงเดินตามออกมาแล้วเปิดประตูให้

            “ไม่ต้อง ฉันกลับเองได้ ...อ้อ แล้วก็นะ ฉันคิดว่าเราคงไม่มีความจำเป็นอะไรต้องเจอกันอีก”

            “นี่เธอจะโกรธฉันแบบนี้จริง ๆ งั้นหรอ”

            “ฉันไม่ได้โกรธ แต่ฉันเกลียดนิสัยแย่ ๆ ของนาย”

            “ไม่ว่าฉันจะพูดยังไง เธอก็คงจะไม่ยกโทษให้ใช่มั้ย”

            “...”เธอเงียบ แล้วเดินออกไปจากห้องเขา เสียงงึมงำเบา ๆ จากปากของเขาทำเอาหญิงสาวใจชื้นขึ้นมาเล็กน้อย

            “ฉันขอโทษ แต่ยังไงฉันก็จะไม่ยอมให้เธอโกรธฉันแบบนี้แน่”

            ชายหนุ่มมองร่างบางเดินเข้าไปในลิฟท์จนประตูปิด ทั้ง ๆ ที่เขากับเธอเป็นคู่กัดกันตลอด แต่สิ่งที่เธอโกรธจนเกลียดเขาไปแล้ว คือความผิดเพราะความไร้สติ กลับทำให้เขารู้สึกแปลก ๆ ในความคิดบางอย่างที่กำลังก่อตัวขึ้นมันเหมือนมีอะไรมากกว่านั้นเขาพยายามสลัดความคิดนี้ออกไป บางทีอาจเพราะเขารู้สึกผิดจริง ๆ ก็ได้และไม่มีอะไรมากไปกว่านี้แน่นอน

 

 

            หลายวันแล้วที่ฉันไม่ได้ออกไปเที่ยวกับเพื่อน ๆ ไม่ใช่เพราะขี้เกียจหรือเบื่อ แต่เพราะอีตานิวเยียร์เอาแต่มายืนด้อม ๆ มอง ๆ อยู่หน้าบ้านทุกครั้ง มายืนตั้งแต่เช้าจนดึกดื่นแล้วฉันก็ผล็อยหลับไปทุกที นี่ก็จะเข้าเป็นวันที่สี่แล้ว ไม่ใช่ว่าฉันไม่กล้าสู้หน้ากับเขา แต่เพราะฉันยังไม่พร้อมจะเผชิญหน้าในตอนนี้

            ครืด...ครืด...ครืด...

            เสียงโทรศัพท์สั่นให้รู้ว่ามีสายเรียกเข้าฉันหยิบมันขึ้นมาดูก่อนจะกดรับสาย

            “ว่าไงแก้ว”

            (ซี แกเป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมไม่ออกมาเที่ยวกับพวกฉันล่ะ)

            “ฉันรู้สึกไม่สบายนิดหน่อย เลยไม่อยากออกไปไหน”ฉันบอก พลางแหวกผ้าม่านมองร่างสูงที่เดินไปมาอยู่หน้ารั้ว

            (อ้าว!... แกไปหาหมอหรือยัง)ยัยแก้วถาม น้ำเสียงดูเป็นห่วงนั่นทำให้ฉันเผลอยิ้มออกมา

            “เปล่า ฉันแค่รู้สึกเพลีย ๆ เหนื่อย ๆ ช่วงนี้ฉันยังไม่ออกไปไหนแล้วกันนะ”ฉันบอก ก่อนจะเบิกตาโตเพราะร่างสูงที่อยู่ข้างล่างมองเห็นฉันพอดี

            (อืม เอางั้นก็ได้ แต่ถ้าแกรู้สึกไม่ดีขึ้นหรือแย่กว่าเดิม โทร.หาฉันได้ตลอดเลยนะ)

            “จ้า ๆ แค่นี้ก่อนนะฉันง่วงแล้ว”ฉันกดวางสายแล้วปิดเครื่องทันทีที่เห็นอีตานิวเยียร์เอาโทรศัพท์ขึ้นมาเหมือนจะโทร.หาฉัน ก่อนที่เสียงเคาะประตูห้องจะดังขึ้น

            “เข้ามาได้ ฉันไม่ได้ล็อคประตู”ฉันบอกก่อนจะปิดม่านแล้วเดินมานั่งบนเตียง

            “คุณหนูครับ จดหมาย”นายเด็มยื่นกระดาษสีขาวแผ่นเล็กมาให้

            “จดหมายอะไร”ฉันถาม พลางหยิบขึ้นมาดู

            “ไม่ทราบสิครับ แต่คุณนิวเยียร์ฝากให้เอามาให้คุณหนู”ฉันชะงักกึก ก่อนจะยัดกระดาษใส่มือคืน

            “งั้นหรอ นายคงอยากจะเปลี่ยนอาชีพ ไปเป็นบุรุษไปรษณีย์สินะ”ฉันว่า นายเด็มทำหน้าเหวอ

            “เอ่อ...คุณหนูครับ ผมแค่รับฝากมา แต่ไม่ได้คิดจะเปลี่ยนงานนะครับ TOT”

            “ฉันก็นึกว่านายจะเปลี่ยนอาชีพ ถ้างั้นก็เอาออกไปได้แล้ว ฝากบอกคนส่งด้วยว่าฉันไม่อยากเห็นหน้าเขา”ฉันดันร่างสูงนั้นออกไปจากห้องแล้วรีบปิดประตูทันที ทั้ง ๆ ที่ความคิดฉันมันบอกอย่างนั้น แต่ทำไมความรู้สึกมันกลับตรงกันข้าม แล้วไอ้ความรู้สึกแปลก ๆ แบบนี้ มันคงไม่ใช่เพราะฉันเกิดรู้สึกชอบอีตาบ้านั่นขึ้นมาแล้วจริง ๆ ใช่มั้ย โอ๊ย ให้ตายสิ ฉันเป็นอะไรไปกันเนี่ย

            “ไม่นะ ไม่ ๆๆๆ เลิกคิด เลิกคิดได้แล้ว”ฉันสะบัดหัวไล่ความคิดเหล่านี้ออกไป แล้วล้มตัวลงนอนบนเตียง หวังว่าพรุ่งนี้ตื่นมา ฉันคงจะเปลี่ยนความรู้สึกในใจแบบนี้ได้สักทีนะ

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา